คุณพ่อบ้านสารพัดประโยชน์ผู้รับใช้องค์หญิงเอาแต่ใจขั้นสุด จะกลายเป็นนักรบไร้เทียมทานในจักรวรรดิ์เพื่อนบ้าน 4: อาเวน
“เรามาถึงแล้ว!”
แกลลิสเทรียร์ เมืองหลวงของจักรวรรดิ
เป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงใหญ่ เว้นแต่ในพื้นที่ของขุนนาง แทบจะไม่มีการต่อแถวเพื่อเข้าเมืองเลย ก็ผู้คนสามารถที่จะเข้าออกโดยไม่ต้องระบุตัวตนได้นี่นะ
ผมมุ่งหน้าไปหายามเฝ้าประตู
“หยุดเลย! แกเป็นใคร?”
“ผมคือนักเดินทางครับ ผมเดินทางไปทั่วทวีปเพื่อทำการฝึกฝนอยู่”
“ฝึกฝนวิชาการต่อสู้งั้นเหรอ……? ด้วยตัวเองเนี่ยนะ?”
ยามสองคนเริ่มจ้องมาที่ผมอย่างเย้ยหยัน
ผมไม่ได้มีของมากพอที่จะอ้างว่าเป็นพ่อค้า ผมเลยคิดหาเหตุผลที่สามัญที่สุด
ผมพึ่งนึกขึ้นได้ว่าร่างกายของผมมันไม่เหมาะกับเรื่องแบบนั้นแน่ๆ
“แหม เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ว่านายควรจะรีบไปซะก่อนที่…… นายจะเจ็บตัวนะ เข้าใจไหม?”
“ขอบคุณครับ”
เอาล่ะ หวังว่าเราจะเข้าไปได้โดยสวัสดิภาพนะ
“อ้อ ใช่ พวกคุณมีการอำนวยความสะดวกในการฝึกด้วยใช่ไหมครับ? ผมได้ยินมาว่าทหารยามจะเป็นคนเขียนจดหมายแนะนำให้น่ะ”
“หืมม? อ้อ งี้นี่เอง แต่ว่าถ้านายจะฝึกฝนเพื่อเป็นนักรบล่ะก็ นายก็ต้องเป็นนักผจญภัยไม่ก็ทหาร……”
เห็นได้ชัดว่าทหารยามกำลังรู้สึกลำบากที่จะต้องแนะนำเรา
เราไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ……เรามั่นใจว่าเราสามารถที่จะจัดการทหารยามสองคนได้ในทันที แต่มันคงจะเป็นปัญหาหลังจากนั้นแน่
ในขณะที่ผมกำลังคิดอยู่นั้น ก็ได้มีตัวเป้งเดินมาด้านหลังผมและผลักผมออกไป
“ฮ่าฮ่า นายมาเอาหนังสือแนะนำงั้นเหรอ? นายคงไม่พูดอย่างนั้นเว้นแต่ว่าจะมีความแข็งแกร่งแบบนี้หรอกนะ!”
ชายผู้อยู่ในชุดคล้ายโจรและเป็นชายผู้คุ้นชินกับการต่อสู้พูดเช่นนั้น
“คุณก็คิดเหมือนกันใช่ไหมล่ะ คุณทหารยาม? เห็นมะ?”
“โอ๊ะ ใช่…… ถูกแล้วล่ะ”
“เพราะงั้น ช่วยเขียนจดหมายแนะนำให้ทีแล้วกัน ฉันอยากให้นายเขียนจดหมายแนะนำให้ฉันจะได้ได้รับการดูแลที่ดีที่สุดไงล่ะ
“เกรงว่าจะทำเช่นนั้นให้ไม่ได้……”
หืมมม……
“ถ้าหากว่าผมแข็งแกร่งกว่าเขา พวกคุณจะมอบจดหมายให้ผมด้วยไหมครับ?”
“อะไรนะ?”
ผู้ชายคนนั้นตอบสนองก่อนที่ทหารยามจะทำ
เขาเริ่มข่มขู่เราสุดๆ
“นี่แกคิดว่าฉันจะจัดการปลาเล็กปลาน้อยอย่างแกไม่ได้งั้นเหรอ?”
“ใจเย็นก่อน พ่อหนุ่ม ฉันก็ไม่ได้จะบอกว่ามันแย่หรอกนะ แค่……ก่อนที่นายจะเจ็บตัวน่ะ”
ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ เราไม่ยอมหรอก
ผู้ชายคนนั้นชักดาบขึ้นมา
“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนสิ”
“ไม่เป็นไร”
เขาพูดอย่างงั้นกับทหารยามที่จะมาหยุดเขา และเดินเข้าไปหาผู้ชายคนที่ชักดาบออกมา
“ฉันยังให้อภัยนายอยู่นา”
“ไม่ แทนที่จะขอโทษผมชินกับอย่างนี้มากกว่า”
“หา?”
ทันทีทันใด ชายคนนั้นก็โดนน็อคให้ล้มลงและควงดาบของเขารอบๆตัว
“อะไรเนี่ย? โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย”
ผมจัดการเขาอย่างว่องไวไปที่มือของเขาและหยุดการเคลื่อนไหวของเขา
การแข่งศิลปะการต่อสู้ที่จัดขึ้นจากความคิดชั่ววูบขององค์หญิง พระองค์จะทรงไม่พอพระทัยเป็นอย่างมากหากพรองค์ไม่ชนะ เพราะงั้นผมจึงพยายามถึงที่สุดเพื่อที่จะเรียนรู้มัน แต่ผมก็ยินดีที่ได้ช่วยเหลือนะ
“อย่างนี้ล่ะเป็นยังไง?”
“ยอดเยี่ยมเลย……”
ทหารยามอ้าปากค้างในความนับถือ
“โอ๊ย! อ๊าว! ฉันขอโทษเรื่องที่ทำไป ทีนี้ปล่อยฉันไปได้แล้ว!”
“โอ๊ะ โทษทีครับ”
“ไอ้เวรเอ้ย…… ฉันน่ะเป็นนักล่าค่าหัวที่เป็นที่รู้จักพอตัวเลยนารู้มะ? พวกแกนี่ไปซ่อนอยู่ไหนกันมาวะเนี่ย อยากจะเป็นคนส่งสาส์นหรือไง ฮะ?……”
“ฮ่าฮ่า……”
ผมตัดสินใจที่จะขำออกไป
ก็เราจะบอกว่าหนีมากจากพระราชวังของอาณาจักรข้างเคียงไม่ได้นี่นะ
“แหม พวกเธอทั้งคู่เลย ฉันจะให้จดหมายแนะนำกับพวกเธอ ฉันมั่นใจว่าจะต้องไม่เป็นไรแน่ แต่ทางอาคาเดมีไม่ได้ปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาหรอกนะ แต่มีเพียงผู้ที่จะสามารถจบออกไปได้ พวกเธอเองก็ยืดอกเข้าไว้ล่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“เฮ้ย นายน่ะ ชื่อว่าอะไร”
“ลิลต์”
ผมเปลี่ยนชื่อนิดหน่อย ผมเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะตามมาไหม แต่เผื่อเอาไว้ก่อน
“โอเค ลิลต์ ฉันขอไปเปลี่ยนอุปกรณ์ก่อนที่จะไปสถานฝึกนั่นละกันนะ”
“อะไรนะ?”
“ความคิดมันก็เหมือนๆกันที่สถานฝึกนั่นแหละน่า ก่อนอื่นก็ดู หน้าตา และคุณภาพไงล่ะ ถ้าหากว่าคนเขาอยากจะเห็นสกิลของนาย นายก็ต้องให้เขาดูไง”
งี้นี่เอง……
“ถ้าหากนายไม่มีเงิน ฉันให้นายยืมก็ได้นะ ไม่คิดดอกเบี้ยด้วยเอ้า”
“ทำไมนายถึงได้……”
“นายไม่รู้ข้อมูลของสถานฝึกนั่นเลยใช่ไหมเนี่ย?”
“นั่นก็จริง แต่ว่า…”
“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันยื่นให้นายได้ นี่มันก็แค่โบนัสเฉยๆ เพื่อเป็นการตอบแทน ไว้นายค่อยมาใช้คืนทีหลังก็ได้น่า แล้วนายว่ายังไงล่ะ”
มันก็เป็นข้อเสนอที่ดีต่อเรา เพราะเรานั้นไม่มีข้อมูลของจักรวรรดิเลยสักนิด พูดให้ชัดคือข้อมูลที่เรามีเกี่ยวกับจักรวรรดิ มีแค่ระดับความรู้ที่ควรจะมีอยู่ในประชาชนทุกคนในแต่ละท้องที่ที่ขาดหายไป ……แต่ว่าก็โอเค ยังไงข้อเสนอนี้ก็คุ้มที่จะรับมาไว้
“นายชื่ออะไร?”
ทีนี้ได้เวลาเราถามกลับแล้ว
“ฉันชื่อ อาเวน”
“อาเวน ฉันไม่มีอะไรจะตอบแทนนายได้หรอกนะ โอเคไหม?”
ถ้าหากว่าเป็นงั้น ฉันก็จะขอยอมแพ้และทำเป็นไม่เคยสนใจซะ!
ด้วยรอยยิ้มกว้างๆบนใบหน้าของเขา ก่อนอื่นพวกเรามุ่งหน้าไปยังร้านขายอาวุธกันก่อน
Comments
คุณพ่อบ้านสารพัดประโยชน์ผู้รับใช้องค์หญิงเอาแต่ใจขั้นสุด จะกลายเป็นนักรบไร้เทียมทานในจักรวรรดิ์เพื่อนบ้าน 4: อาเวน
“เรามาถึงแล้ว!”
แกลลิสเทรียร์ เมืองหลวงของจักรวรรดิ
เป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงใหญ่ เว้นแต่ในพื้นที่ของขุนนาง แทบจะไม่มีการต่อแถวเพื่อเข้าเมืองเลย ก็ผู้คนสามารถที่จะเข้าออกโดยไม่ต้องระบุตัวตนได้นี่นะ
ผมมุ่งหน้าไปหายามเฝ้าประตู
“หยุดเลย! แกเป็นใคร?”
“ผมคือนักเดินทางครับ ผมเดินทางไปทั่วทวีปเพื่อทำการฝึกฝนอยู่”
“ฝึกฝนวิชาการต่อสู้งั้นเหรอ……? ด้วยตัวเองเนี่ยนะ?”
ยามสองคนเริ่มจ้องมาที่ผมอย่างเย้ยหยัน
ผมไม่ได้มีของมากพอที่จะอ้างว่าเป็นพ่อค้า ผมเลยคิดหาเหตุผลที่สามัญที่สุด
ผมพึ่งนึกขึ้นได้ว่าร่างกายของผมมันไม่เหมาะกับเรื่องแบบนั้นแน่ๆ
“แหม เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ว่านายควรจะรีบไปซะก่อนที่…… นายจะเจ็บตัวนะ เข้าใจไหม?”
“ขอบคุณครับ”
เอาล่ะ หวังว่าเราจะเข้าไปได้โดยสวัสดิภาพนะ
“อ้อ ใช่ พวกคุณมีการอำนวยความสะดวกในการฝึกด้วยใช่ไหมครับ? ผมได้ยินมาว่าทหารยามจะเป็นคนเขียนจดหมายแนะนำให้น่ะ”
“หืมม? อ้อ งี้นี่เอง แต่ว่าถ้านายจะฝึกฝนเพื่อเป็นนักรบล่ะก็ นายก็ต้องเป็นนักผจญภัยไม่ก็ทหาร……”
เห็นได้ชัดว่าทหารยามกำลังรู้สึกลำบากที่จะต้องแนะนำเรา
เราไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ……เรามั่นใจว่าเราสามารถที่จะจัดการทหารยามสองคนได้ในทันที แต่มันคงจะเป็นปัญหาหลังจากนั้นแน่
ในขณะที่ผมกำลังคิดอยู่นั้น ก็ได้มีตัวเป้งเดินมาด้านหลังผมและผลักผมออกไป
“ฮ่าฮ่า นายมาเอาหนังสือแนะนำงั้นเหรอ? นายคงไม่พูดอย่างนั้นเว้นแต่ว่าจะมีความแข็งแกร่งแบบนี้หรอกนะ!”
ชายผู้อยู่ในชุดคล้ายโจรและเป็นชายผู้คุ้นชินกับการต่อสู้พูดเช่นนั้น
“คุณก็คิดเหมือนกันใช่ไหมล่ะ คุณทหารยาม? เห็นมะ?”
“โอ๊ะ ใช่…… ถูกแล้วล่ะ”
“เพราะงั้น ช่วยเขียนจดหมายแนะนำให้ทีแล้วกัน ฉันอยากให้นายเขียนจดหมายแนะนำให้ฉันจะได้ได้รับการดูแลที่ดีที่สุดไงล่ะ
“เกรงว่าจะทำเช่นนั้นให้ไม่ได้……”
หืมมม……
“ถ้าหากว่าผมแข็งแกร่งกว่าเขา พวกคุณจะมอบจดหมายให้ผมด้วยไหมครับ?”
“อะไรนะ?”
ผู้ชายคนนั้นตอบสนองก่อนที่ทหารยามจะทำ
เขาเริ่มข่มขู่เราสุดๆ
“นี่แกคิดว่าฉันจะจัดการปลาเล็กปลาน้อยอย่างแกไม่ได้งั้นเหรอ?”
“ใจเย็นก่อน พ่อหนุ่ม ฉันก็ไม่ได้จะบอกว่ามันแย่หรอกนะ แค่……ก่อนที่นายจะเจ็บตัวน่ะ”
ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ เราไม่ยอมหรอก
ผู้ชายคนนั้นชักดาบขึ้นมา
“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนสิ”
“ไม่เป็นไร”
เขาพูดอย่างงั้นกับทหารยามที่จะมาหยุดเขา และเดินเข้าไปหาผู้ชายคนที่ชักดาบออกมา
“ฉันยังให้อภัยนายอยู่นา”
“ไม่ แทนที่จะขอโทษผมชินกับอย่างนี้มากกว่า”
“หา?”
ทันทีทันใด ชายคนนั้นก็โดนน็อคให้ล้มลงและควงดาบของเขารอบๆตัว
“อะไรเนี่ย? โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย”
ผมจัดการเขาอย่างว่องไวไปที่มือของเขาและหยุดการเคลื่อนไหวของเขา
การแข่งศิลปะการต่อสู้ที่จัดขึ้นจากความคิดชั่ววูบขององค์หญิง พระองค์จะทรงไม่พอพระทัยเป็นอย่างมากหากพรองค์ไม่ชนะ เพราะงั้นผมจึงพยายามถึงที่สุดเพื่อที่จะเรียนรู้มัน แต่ผมก็ยินดีที่ได้ช่วยเหลือนะ
“อย่างนี้ล่ะเป็นยังไง?”
“ยอดเยี่ยมเลย……”
ทหารยามอ้าปากค้างในความนับถือ
“โอ๊ย! อ๊าว! ฉันขอโทษเรื่องที่ทำไป ทีนี้ปล่อยฉันไปได้แล้ว!”
“โอ๊ะ โทษทีครับ”
“ไอ้เวรเอ้ย…… ฉันน่ะเป็นนักล่าค่าหัวที่เป็นที่รู้จักพอตัวเลยนารู้มะ? พวกแกนี่ไปซ่อนอยู่ไหนกันมาวะเนี่ย อยากจะเป็นคนส่งสาส์นหรือไง ฮะ?……”
“ฮ่าฮ่า……”
ผมตัดสินใจที่จะขำออกไป
ก็เราจะบอกว่าหนีมากจากพระราชวังของอาณาจักรข้างเคียงไม่ได้นี่นะ
“แหม พวกเธอทั้งคู่เลย ฉันจะให้จดหมายแนะนำกับพวกเธอ ฉันมั่นใจว่าจะต้องไม่เป็นไรแน่ แต่ทางอาคาเดมีไม่ได้ปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาหรอกนะ แต่มีเพียงผู้ที่จะสามารถจบออกไปได้ พวกเธอเองก็ยืดอกเข้าไว้ล่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“เฮ้ย นายน่ะ ชื่อว่าอะไร”
“ลิลต์”
ผมเปลี่ยนชื่อนิดหน่อย ผมเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะตามมาไหม แต่เผื่อเอาไว้ก่อน
“โอเค ลิลต์ ฉันขอไปเปลี่ยนอุปกรณ์ก่อนที่จะไปสถานฝึกนั่นละกันนะ”
“อะไรนะ?”
“ความคิดมันก็เหมือนๆกันที่สถานฝึกนั่นแหละน่า ก่อนอื่นก็ดู หน้าตา และคุณภาพไงล่ะ ถ้าหากว่าคนเขาอยากจะเห็นสกิลของนาย นายก็ต้องให้เขาดูไง”
งี้นี่เอง……
“ถ้าหากนายไม่มีเงิน ฉันให้นายยืมก็ได้นะ ไม่คิดดอกเบี้ยด้วยเอ้า”
“ทำไมนายถึงได้……”
“นายไม่รู้ข้อมูลของสถานฝึกนั่นเลยใช่ไหมเนี่ย?”
“นั่นก็จริง แต่ว่า…”
“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันยื่นให้นายได้ นี่มันก็แค่โบนัสเฉยๆ เพื่อเป็นการตอบแทน ไว้นายค่อยมาใช้คืนทีหลังก็ได้น่า แล้วนายว่ายังไงล่ะ”
มันก็เป็นข้อเสนอที่ดีต่อเรา เพราะเรานั้นไม่มีข้อมูลของจักรวรรดิเลยสักนิด พูดให้ชัดคือข้อมูลที่เรามีเกี่ยวกับจักรวรรดิ มีแค่ระดับความรู้ที่ควรจะมีอยู่ในประชาชนทุกคนในแต่ละท้องที่ที่ขาดหายไป ……แต่ว่าก็โอเค ยังไงข้อเสนอนี้ก็คุ้มที่จะรับมาไว้
“นายชื่ออะไร?”
ทีนี้ได้เวลาเราถามกลับแล้ว
“ฉันชื่อ อาเวน”
“อาเวน ฉันไม่มีอะไรจะตอบแทนนายได้หรอกนะ โอเคไหม?”
ถ้าหากว่าเป็นงั้น ฉันก็จะขอยอมแพ้และทำเป็นไม่เคยสนใจซะ!
ด้วยรอยยิ้มกว้างๆบนใบหน้าของเขา ก่อนอื่นพวกเรามุ่งหน้าไปยังร้านขายอาวุธกันก่อน
Comments