คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง 51 ตกหลุมพราง

Now you are reading คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง Chapter 51 ตกหลุมพราง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 51 ตกหลุมพราง

“องค์ชายจะทรงร่วมมือกับคุณหนูสี่ตระกูลเยียนจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ขันทีรู้สึกกังวลใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่วางใจเยียนอวิ๋นเกอ

อย่างไรเยียนอวิ๋นเกออายุยังน้อย ยากที่จะทำให้คนเชื่อมั่นจนร่วมมือได้

อีกทั้งยังเป็นการร่วมมือที่ใหญ่เพียงนี้

องค์ชายสองเซียวเฉิงเหวินวางถ้วยชาลง “เจ้าว่าเยียนอวิ๋นเกอนั้นเป็นอย่างไร”

“มุทะลุ เลือดร้อน วู่วามพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีพูดตามความเป็นจริง

เซียวเฉิงเหวินส่ายหน้าระรัว “เจ้าเห็นเพียงภายนอกของนาง เจ้าคิดว่าเรื่องบุกเบิกที่ดินเป็นฝีมือของท่านหญิงจู้หยาง เยียนอวิ๋นเกอเป็นเพียงคนส่งสารใช่หรือไม่ แต่จากที่ข้าดู เรื่องการบุกเบิกที่ดินนี้มีความเป็นได้อย่างมากที่นางเป็นคนต้นคิด ท่านหญิงจู้หยางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด”

“เป็นไปได้อย่างไร” ขันทีตกตะลึง เขาเป็นคนชราที่ผ่านประสบการณ์มามาก เขาจะมองคนผิดจริงหรือ

เซียวเฉิงเหวินยิ้ม “เหตุใดจึงเป็นไปไม่ได้ เราไม่อาจดูถูกนางได้เพียงเพราะนางเป็นสตรีอายุน้อย นับแต่นางเข้าเมืองหลวงมา เจ้าเห็นการกระทำที่ดูเหมือนวู่วามไร้สมองของนาง แต่นางเคยถูกลงโทษหรือไม่ เสด็จพ่อและเสด็จแม่เคยแตะต้องนางหรือไม่”

ขันทีครุ่นคิด จริงด้วย

เยียนอวิ๋นเกอสร้างปัญหามากมายเพียงนี้ แต่ทุกครั้งล้วนรอดตัวไปได้

เซียวเฉิงเหวินจิบชา เอ่ยต่อ “นางใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของตนเองได้ดีมาก เนื่องจากอายุน้อย ดังนั้นการกระทำใดล้วนไม่มีความเกรงกลัว ไม่กลัวถูกตำหนิ ผู้ใดจะคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กเมื่อวานซืนกัน มีเพียงติ้งเถาที่โง่เขลา คิดเล็กคิดน้อยกับเด็กหญิง ทำให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะ

เนื่องจากการกระทำที่แปลกประหลาดของนาง ทุกคนจึงคิดว่านางเป็นเพียงผู้ใช้กำลังที่ไร้สมอง แต่นางทำให้ผู้อื่นไม่คาดคิดด้วยการเปิดกิจการขนาดเล็กอย่างน้ำแกงเครื่องในหนานเป่ย นางเป็นถึงบุตรสาวของจวนโหว แต่กลับทำการค้าขาย อีกทั้งยังเป็นการค้าขายขนาดเล็กที่มีราคาเพียงชามละสองเหวิน ทุกคนต่างหัวเราะเยาะนาง แต่หารู้ไม่ว่า การค้าขายขนาดเล็กก็สามารถหาเงินก้อนโตได้

แต่นั่นคือความฉลาดของนาง ตั้งใจทำการค้าขายขนาดเล็กแทนที่จะเป็นการค้าขนาดใหญ่ที่ทุกคนต่างรู้ ถึงแม้จะถูกคนหัวเราะเยาะ แต่เจ้าเคยเห็นมีผู้ใดสร้างปัญหาให้นางหรือไม่ ไม่เพียงไม่สร้างปัญหา แต่ยังทำให้นางค้าขายราบรื่นขึ้นอีก ทุกคนต่างคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่ ไม่ถือสาและสร้างปัญหาให้กับเด็กหญิงตัวน้อย เพียงแต่พวกเราต่างไม่คิดว่านางจะบุกเบิกที่ดิน”

ใช่ ผู้ใดจะคิดว่าเด็กเมื่อวานซืนที่สร้างปัญหาในแต่ละวันคิดจะบุกเบิกที่ดิน อีกทั้งยังเรียกร้องมากมาย

ไม่อาจดูถูกเยียนอวิ๋นเกอผู้นี้ได้

“ฟังที่องค์ชายตรัส ราวกับองค์ชายจะทรงให้ความสำคัญกับนางมาก” ขันทีถาม

เซียวเฉิงเหวินส่ายหัว “ไม่! ข้าให้ความสำคัญกับพื้นที่สองแสนไร่ที่นางกำลังจะบุกเบิก”

เซียวเฉิงเหวินยากจน

ท่ามกลางบรรดาองค์ชาย เขาคงจะยากจนที่สุด

องค์ชายใหญ่เซียวเฉิงเย่ยังมีเงินมากกว่าเขา

เหตุใดเขาจึงยอมร่วมมือกับเยียนอวิ๋นเกอ ไม่เพียงแต่เพื่อเสบียงหนึ่งพันห้าร้อยหาบในแต่ละปี แต่สิ่งสำคัญคือพื้นที่บุกเบิกสองแสนไร่ รวมทั้งกำลังคน

เขาต้องการพื้นที่อย่างมาก

แต่เขาไม่อาจออกหน้าบุกเบิกที่ดินได้

เขาเป็นองค์ชายที่ยังไม่ได้สถาปนาเป็นท่านอ๋อง ไม่มีพื้นที่ศักดินา ไม่มีตำแหน่งขุนนาง ไม่มีอำนาจ หากรวบรวมกำลังคนนับแสนทำการบุกเบิก ขุนนางในราชสำนักคงซักถามเจตนาของเขา

เขาคิดจะก่อกบฏหรือ

องค์ชายรวบรวมกำลังคนนับแสนอยู่ในมือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก

ถึงแม้คนเหล่านี้จะเป็นเกษตรกรสำหรับบุกเบิกที่ดิน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ภายในพระราชวัง ขุนนางราชสำนักสงสัยและระวังตัว

เมื่อถูกสงสัย ตามประเพณีของคนตระกูลเซียว หากไม่ตายก็คงต้องถูกกักขังเอาไว้

หากเยียนอวิ๋นเกอเป็นผู้บุกเบิก เขาย่อมไร้ความกังวลเรื่องนี้

ช่วยนางยืมควาย ลาและม้าจากสำนักเซ่าฝู่เป็นเรื่องง่ายดาย

แต่เขาสามารถยืมมือของเยียนอวิ๋นเกอแทรกแซงเข้าไปในพื้นที่ที่เขาไม่เคยเข้าไปถึงมาก่อน การค้าขายนี้ไม่ขาดทุน

ขันทีถาม “องค์ชายทรงให้ความสำคัญกับเรื่องบุกเบิกที่ดินนี้ กระหม่อมควรทำอย่างไร องค์ชายโปรดทรงรับสั่ง”

เซียวเฉิงเหวินเคาะโต๊ะเบาๆ “ช่วยให้นางทำสำเร็จให้ทันเพาะปลูกในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ส่งบ่าวรับใช้ในจวนมุ่งหน้าไปยังพื้นที่บุกเบิก เรียนรู้ประสบการณ์ สังเกตให้มาก หากสามารถค้นพบผู้ที่มีความสามารถได้ ย่อมเป็นกำไรของเรา”

“กระหม่อมรับทราบ! กระหม่อมจะสั่งการลงไป เพียงแต่งานอภิเษกสมรสของพระองค์…”

“มอบให้ศิษย์ของเจ้าดูแล”

“กระหม่อมน้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อมีการช่วยเหลือขององค์ชายสองเซียวเฉิงเหวิน แผนการบุกเบิกที่ดินของเยียนอวิ๋นเกอจึงดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว

สำนักเซ่าฝู่ซื้อพื้นที่รกร้างของแคว้นชีและแคว้นหยวนอย่างรวดเร็ว เพียงแค่รอเยียนอวิ๋นเกอมาซื้อต่อ

แต่เยียนอวิ๋นเกอไม่อยากเสียเงินซื้อ นางต้องการจับเสือมือเปล่า

เงินมีน้อยต้องใช้ให้คุ้มค่า

หากเสียเงินในมือกว่าครึ่งเพื่อซื้อที่ดิน เมื่อถึงเวลาประสบกับเรื่องที่ต้องใช้เงินจำนวนมากจะทำอย่างไร

ต้องยืมเงินอย่างนั้นหรือ

มีเยียนอวิ๋นฉวนคนที่สอง คนที่สามให้นางหลอกอย่างนั้นหรือ

เพียงแต่คำพูดของนางไม่มีน้ำหนักนัก สำนักเซ่าฝู่อาจไม่สนใจเด็กหญิงอย่างนาง

ทำอย่างไรดี

เรื่องเดียวไม่ให้เดือดร้อนถึงสองคน

นางรู้ว่าองค์ชายสองไม่อยากพบนาง นางจึงเขียนจดหมายไปให้องค์ชายสอง เชิญองค์ชายสองเจรจาแทนนาง

องค์ชายสองเซียวเฉิงเหวินได้รับจดหมาย เมื่อเขาอ่านเนื้อหาจนจบ ภายในใจมีความรู้สึกปั่นป่วนขึ้นมา

โธ่เอ้ย เยียนอวิ๋นเกอติดใจกับการสั่งเขาแล้วหรือ

เขาเป็นถึงองค์ชายที่กำเนิดจากฮองเฮา แต่กลับถูกเยียนอวิ๋นเกอสั่งราวกับผู้ใต้บังคับบัญชา ไร้เหตุผลสิ้นดี

ยังไม่ทันได้สมรสกับเยียนอวิ๋นฉี ยังไม่ทันได้เป็นพี่เขยของเยียนอวิ๋นเกอ นางก็กล้าสั่งเขาอย่างไร้ยางอายเพียงนี้แล้วหรือ

เมื่อรอเขาสมรสกับเยียนอวิ๋นฉี เมื่อเขาเป็นพี่เขยของนางแล้ว เยียนอวิ๋นเกอคงจะเหยียบจมูกเขาแล้ว

เยียนอวิ๋นเกอผู้นี้ช่างเหลวไหลเสียจริง!

การกระทำของนางเหมือนนักเลง รังแกกันมากเกินไปแล้ว!

ขันทีทูลถาม “องค์ชายจะทรงปฏิเสธคุณหนูสี่ตระกูลเยียนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

ภายในใจของเซียวเฉิงเหวินลังเล

เยียนอวิ๋นเกอรู้ว่าหากเสียดายลูกไม่อาจจับหมาป่าได้ ดังนั้นจึงเรียนรู้วิธีการหลอกคนด้วยคำพูด

นางให้คำมั่นสัญญาในจดหมาย เพียงแค่องค์ชายสองช่วยนางเรื่องนี้ ต่อจากนี้จะให้เสบียงมากขึ้นห้าร้อยหาบทุกปี รวมทั้งสิ้นคือสองพันหาบต่อปี

เยียนอวิ๋นเกอยังไม่ทันได้บุกเบิกที่ดิน เสบียงยังไม่ได้กอบเกี่ยวแม้แต่ต้นเดียว ใช้เพียงคำมั่นสัญญาที่ไม่มีหลักประกันก็ทำให้องค์ชายสองที่ฉลาดเฉลียวก็ตกหลุมพรางทำงานให้นาง

สองพันหาบ!

เสบียงสองพันหาบ เซียวเฉิงเหวินจะแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นได้อย่างไร เขาจะปฏิเสธได้อย่างไร

เยียนอวิ๋นเกอกล้าที่จะลงทุนเสียจริง เพิ่มขึ้นตั้งห้าร้อยหาบ

เขากัดฟัน ขมวดคิ้ว นกน้อยทำรังแต่พอตัว ทำอย่างไรได้

ใบหน้าของเขาซีดเผือดและผอมตอบ อีกทั้งยังทำหน้าบึ้งตึง ภายในดวงตามีไฟโกรธลุกโชน “เหตุใดต้องปฏิเสธ ช่วย ข้าจะต้องช่วยนาง”

เขาอยากจะเห็นว่าเยียนอวิ๋นเกอไร้ยางอายได้ถึงเพียงใด นางจะสามารถก่อเรื่องได้ถึงไหน

แผนการจับเสือมือเปล่าของเยียนอวิ๋นเกอ เอาพื้นที่สองแสนไร่จากในมือของสำนักเซ่าฝู่นั้นง่ายมาก

ยังคงใช้แค่ลมปาก!

ใช้เสบียงแลกที่ดิน

อีกทั้งยังเป็นการแบ่งจ่าย

แบ่งออกเป็นห้าปี ส่งเสบียงให้สำนักเซ่าฝู่เพื่อหักล้างกับเงินสำหรับซื้อที่ดิน

อีกทั้งนางยังสัญญาว่าจะให้ดอกเบี้ย

ดอกเบี้ยยังคงจ่ายด้วยเสบียง

ขันทีเห็นแผนการของเยียนอวิ๋นเกอ ตะโกนเสียงดัง “คุณหนูสี่ตระกูลเยียนคิดเอาพื้นที่สองแสนไร่จากมือของสำนักเซ่าฝู่โดยไม่เสียเงินแม้แต่แดงเดียว นางกล้าดีอย่างไร นางคิดว่าสำนักเซ่าฝู่เปิดโรงทานอย่างนั้นหรือ แผนการที่เหลวไหลเพียงนี้องค์ชายจะทรงช่วยนางจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ขันทีกังวลว่าองค์ชายของตนเองจะถูกเยียนอวิ๋นเกอลากลงไปในคลองจนเสื่อมเสียชื่อเสียง กลายเป็นผู้ที่ถูกสำนักเซ่าฝู่ปฏิเสธการไปมาหาสู่

เซียวเฉิงเหวินหัวเราะร่า “เยียนอวิ๋นเกอกล้าคิด เหตุใดข้าจึงไม่กล้าทำ หากสำเร็จข้าย่อมสามารถเลียนแบบวิธีการนี้ในการเคลื่อนย้ายทรัพยากรบางส่วนจากสำนักเซ่าฝู่ออกมา”

สำนักเซ่าฝู่เป็นพระคลังที่ใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน เซียวเฉิงเหวินตาร้อนมานานแล้ว หากแต่ไม่มีวิธี

เวลานี้ เยียนอวิ๋นเกอเปิดแนวทางความคิดให้เขา บางทีเขาอาจลองดูได้

ขันทีปวดใจอย่างมาก องค์ชายของตนเองถูกเยียนอวิ๋นเกอลากลงคลองไปแล้วจริงๆ

โจรเจ้าเล่ห์อย่างเยียนอวิ๋นเกอ ข้าไม่มีวันปรองดองกับเจ้า

องค์ชายสองเริ่มเดินเรื่องบุกเบิกที่ดินอย่างลับๆ

เยียนอวิ๋นเกอเสนอว่าการใช้เสบียงแทนการจ่ายเงินซื้อที่ดิน นางมีความมั่นใจเพียงครึ่งต่อครึ่งเท่านั้น

นางคิดไว้แล้ว หากเจรจาไม่สำเร็จ นางก็จะใช้เงินซื้อที่ดิน

หากเงินใช้หมดแล้ว ต่อจากนี้ต้องใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์

แต่ไม่คิดว่าองค์ชายสองจะทำสำเร็จ

ใช้เสบียงจ่ายหนี้ แบ่งจ่ายเป็นห้าปี ดอกเบี้ยร้อยละยี่สิบ

มีความสามารถยิ่งนัก!

เมื่อเยียนอวิ๋นเกอรู้ว่าเรื่องนี้สำเร็จแล้ว นางจึงดีใจเป็นพิเศษ กอดเยียนอวิ๋นฉีหมุนเป็นวงกลมไม่ปล่อยมือ

พี่สองสมกับเป็นผู้นำโชคเสียจริง

เยียนอวิ๋นฉีถูกนางหมุนจนเวียนหัว

“น้องสี่รีบปล่อยมือ ข้าทนไม่ไหวแล้ว ข้าอยากอาเจียน”

เยียนอวิ๋นเกอจึงปล่อยมือ แต่บนใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้ม

นางดีใจอย่างมาก ก่อนจะหอมแก้มของเยียนอวิ๋นฉี

เยียนอวิ๋นฉี หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ นางเช็ดหน้า “ดีใจเพียงนี้ มีเรื่องดีอันใดหรือ”

เยียนอวิ๋นเกอใช้สองมือทำท่า ‘พี่สองสมกับเป็นผู้นำโชคเสียจริง โชคดีเต็มเปี่ยม เรื่องนี้สำเร็จได้เพราะบารมีของพี่สอง คราหน้าข้าจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่ตอบแทนพี่สอง’

“เจ้าพึ่งบารมีของข้าเมื่อใดกัน เหตุใดข้าจึงไม่เข้าใจ” เยียนอวิ๋นฉีฉงน

เยียนอวิ๋นเกอหัวเราะอย่างไร้เสียง แต่ไม่อธิบาย

อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นเรื่องดี

หากพี่สองไม่ได้ถูกหมั้นหมายให้องค์ชายสอง นางจะขอให้องค์ชายสองจัดการปัญหาใหญ่นี้ได้อย่างไร

หากพี่สองไม่ได้ถูกหมั้นหมายให้องค์ชายสอง แม้แต่ประตูใหญ่ของจวนองค์ชายสองนางก็ยังก้าวเข้าไปไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการขอความร่วมมือ

ดังนั้น พี่สองสมกับเป็นผู้นำโชคเสียจริง

นางต้องหาของขวัญชิ้นใหญ่มาตอบแทนพี่สอง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *