คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง 74 ความจริงเป็นเรื่องโหดร้าย

Now you are reading คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง Chapter 74 ความจริงเป็นเรื่องโหดร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 74 ความจริงเป็นเรื่องโหดร้าย

ฮ่องเต้ไม่เอ่ยสิ่งใด

เถาฮองเฮาเลิกคิ้วพลันยิ้ม “หากฝ่าบาททรงเสียดายที่จะแตะต้องเซียวอี้ หม่อมฉันก็ไร้คำพูดเพคะ”

รอยยิ้มของนางงดงาม แต่สายตาของนางเย็นชาอย่างมาก

นางไม่เคยลืมว่าเซียวอี้ฆ่าพี่สองของนาง

หากเซียวอี้ไม่ตาย ยากที่จะคลายความแค้นในใจของนาง

อันที่จริงนางไม่คิดคิดว่าการตายของพี่สองจะมีมือที่มองไม่เห็นบงการสถานการณ์อยู่

มือที่มองไม่เห็นคู่นี้ก็คือฮ่องเต้

พี่ชายของนางต้องตายอย่างอยุติธรรม!

เขาต้องถูกสังหารเพื่อแสดงความจงรักภักดีของเซียวอี้!

ส่วนฮ่องเต้ทรงอนุญาตการกระทำนี้อย่างไร้เสียง

เซียวอี้บังอาจยิ่งนัก!

สังหารผู้ใดไม่ได้ สังหารคนของตระกูลเถา คิดว่าตระกูลเถารังแกง่ายอย่างนั้นหรือ

เถาฮองเฮาแอบส่งเสียงไม่พอใจ หากไม่ใช่ฮ่องเต้ปกป้องเซียวอี้เอาไว้ เขาคงตายไปแล้วร้อยครั้ง

ฮ่องเต้มองเถาฮองเฮา “ฮองเฮาไม่พอใจข้าหรือ”

“หม่อมฉันไม่บังอาจเพคะ”

คำพูดนี้แสดงถึงความไม่พอใจ

ฮ่องเต้หัวเราะขึ้นมา เขาลูบไล้ใบหน้าของเถาฮองเฮา “ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจเชื่อว่าฮองเฮาเป็นมารดาของเด็กสามคนแล้ว ใบหน้าที่ช่างอ่อนเยาว์ ฮองเฮาบำรุงอย่างไรกันเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าข้าช่างดูแก่ชรายิ่งนัก”

เถาฮองเฮาเม้มปากยิ้ม “ฮ่องเต้ยังคงรุ่งเรือง…”

“เจ้ารู้ว่าข้าไม่อยากได้ยินคำพูดเหล่านี้” ฮ่องเต้พูดขัดเถาฮองเฮา

เถาฮองเฮาหลุบตาลงพลันกัดริมฝีปาก

“เหตุใดฝ่าบาททรงอยากให้ตระกูลเถาปล่อยเซียวอี้ไปเพคะ ฆ่าคนย่อมต้อบงชดใช้ด้วยชีวิตมันก็สมเหตุสมผลแล้ว!”

ฮ่องเต้หัวเราะเยาะออกมา ราวกับกำลังเย้ยหยัน “เพราะว่าข้าเป็นผู้พูด หากตระกูลเถารู้จักสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควรก็ไม่ควรยุ่งกับเซียวอี้อีก”

เถาฮองเฮาหัวเราะออกมา แต่ภายในใจคับแค้น “เซียวอี้ปล่อยท่านอ๋องตงผิงไป ฝ่าบาทก็ไม่ทรงลงโทษหรือเพคะ”

ฮ่องเต้ใช้นิ้วโป้งลูบไล้ใบหน้าของเถาฮองเฮาเบาๆ “ใบหน้าที่งดงานไม่ควรเผยสีหน้าโหดเหี้ยมแบบนี้ออกมา ปล่อยไปก็ปล่อยไปเถิด ท่านอ๋องตงผิงคนเดียวไม่มีผลกระทบต่อสถานการณ์”

เถาฮองเฮาเลิกคิ้ว พูดด้วยน้ำเสียงเสียดสี “ฝ่าบาทปฏิบัติต่อเซียวอี้ไม่ธรรมดาเสียจริง หากเจ้าสามปล่อยคนที่ฝ่าบาทจะประหารไป เกรงว่าฝ่าบาทคงจะโกรธจนลงโทษเจ้าสามเสียแล้ว”

ฮ่องเต้หัวเราะขึ้นมา “เจ้าสามเป็นลูกของข้า ข้าคาดหวังกับเขามากย่อมต้องเข้มงวดกับเขา เซียวอี้เป็นเพียงขุนนาง ข้าจะใช้เขา เจ้ากับตระกูลเถาปล่อยเขาไปก่อน หากวันใดข้าไม่ใช้เขาอีก เจ้าจะจัดการอย่างไรก็ตามใจเจ้า”

“จริงหรือเพคะ” เถาฮองเฮากึ่งเชื่อกึ่งสงสัย นางกลัวตนเองจะถูกฮ่องเต้หลอกอีกครั้ง

ฮ่องเต้พูดอย่างหนักแน่น “ข้ามีสัจจะ ฮองเฮาไม่เชื่อข้าหรือ”

“ข้าย่อมเชื่อฝ่าบาท เพียงแค่นึกถึงพี่สองผู้น่าสงสารต้องมาตายอย่างอยุติธรรมในมือของเซียวอี้ เหตุใดตอนนั้นฝ่าบาทจึงไม่ทรงห้ามเซียวอี้ ภายในราชสำนักมีขุนนางมากมาย ฆ่าผู้อื่นไม่ได้หรือเพคะ”

เถาฮองเฮาปาดน้ำตาด้วยความเสียใจอย่างมาก

ฮ่องเต้กลับพูด “ฆ่าพี่รองไม่ใช่ความคิดของข้า หากแต่เป็นความคิดของเซียวอี้เอง”

เถาฮองเฮาฟังแต่ไม่เชื่อ

แต่ว่านางยังคงพูดด้วยเสียงกัดฟัน “คนอย่างเซียวอี้ ต้องให้เขาชดใช้ด้วยชีวิตในสักวัน”

ฮ่องเต้สัญญา “ย่อมต้องมีวันนั้น ฮองเฮาอย่ารีบร้อนไปเลย”

เขาโอบกอดเถาฮองเฮา อ่อนโยนจนทำให้คนลุ่มหลง

ฮ่องเต้จากไปหลังจากพักผ่อนอยู่ในตำหนักเว่ยยางหนึ่งชั่วยาม เขากลับไปทรงงานต่อที่ตำหนักซิงชิ่งต่อ

เมื่อส่งฮ่องเต้จากไป สีหน้าของเถาฮองเฮาดำทะมึนราวกับผีร้าย

นางหยิบแก้วชาที่ฮ่องเต้ใช้ขึ้นมาเขวี้ยงลงบนพื้นอย่างแรง…

เพร้ง!

แก้วชาแหลกละเอียด ชิ้นส่วนแตกกระจาย

เหมยเส้าเจี้ยนรีบเกลี้ยกล่อม “ฮองเฮาทรงระงับความโกรธพ่ะย่ะค่ะ ระวังไปถึงหูของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

“ผู้ใดบังอาจพูดออกมา ข้าจะประหารมันเก้าชั่วโคตร”

เถาฮองเฮากวาดสายตา ทำให้ทุกคนในตำหนักต่างหวาดกลัว

เหมยเส้าเจี้ยนโบกมือ ทุกคนต่างถอยออกจากตำหนักใหญ่ด้วยความโล่งอก

เถาฮองเฮายากที่จะระงับความโกรธ

นางพูดอย่างโกรธเคือง “เจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่ ฝ่าบาทรู้ทุกเรื่องก่อนที่เซียวอี้จะฆ่าพี่สอง แต่เขากลับมองเซียวอี้เคลื่อนไหว อีกทั้งเขายังปกป้องเซียวอี้เอาไว้อีก”

“พี่สองผู้น่าสงสารตายไปแล้วครึ่งปี ตายด้วยความไม่เป็นธรรม ผู้ร้ายไม่เพียงอยู่นอกกฎหมาย เวลานี้ยังกลายเป็นเหยี่ยวของเขา มียันต์ป้องกันตัวชั้นนี้ แม้แต่ข้ายังไม่อาจแตะต้องเซียวอี้ได้”

เถาฮองเฮาเสียใจกับการตายของพี่ชาย ดวงตาของนางแดงก่ำ

“ก่อนหน้านี้ข้าไม่กล้าสงสัยเขา เพียงแค่คิดว่าเซียวอี้บ้าคลั่ง เมื่อคืนพี่ใหญ่ส่งสารให้ข้า บอกว่าเห็นเซียวอี้นำกองทัพใต้ดูแลความปลอดภัยของเมืองหลวง ข้ายังกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย คิดว่าพี่ใหญ่ตาฝาด เซียวอี้ถูกขังอยู่ในคุกหลวงจะออกมานำทัพได้อย่างไร”

“แต่ข้าหลอกตัวเอง มันเป็นแผนการของเขาทั้งหมด พี่สองต้องตายอย่างอยุติธรรมเพียงเพื่อการแสดงความจงรักภักดีของเซียวอี้ เขาโหดเหี้ยมอำมหิตเสียเหลือเกิน อีกทั้งยังกล้าบอกว่าไม่รู้เรื่องมาก่อน ทุกเรื่องเป็นความคิดของเซียวอี้เพียงผู้เดียว ฮึ ไม่มีเขาพยักหน้ายินยอม เซียวอี้จะกล้าฆ่าคนของตระกูลเถาได้อย่างไร ไม่แน่ว่าเขาเป็นคนรับสั่งให้เซียวอี้ฆ่าคนเสียด้วยซ้ำ”

“เขาทำเช่นนี้ได้อย่างไร! ผู้คนต่างบอกว่าร่วมหอหนึ่งราตรีผูกพันรักร้อยวัน ข้าเป็นสามีภรรยากับเขามายี่สิบปี เขาทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร ตระกูลเถาอยู่อย่างสงบและนับถือเขาเป็นใหญ่เสมอมา ไม่เคยคิดแม้แต่จะก่อกบฏ เหตุใดเขาต้องให้เซียวอี้ฆ่าคน เขาไม่กลัวว่าจะเป็นการบีบเค้นให้ตระกูลเถาก่อกบฏอย่างนั้นหรือ”

เมื่อได้ยินคำว่า “ก่อกบฏ” เหมยเส้าเจี้ยนก็หน้าซีดเผือดด้วยความกลัว

เขารบเกลี้ยกล่อม “ฮองเฮาทรงระวังคำพูด อย่าทรงพูดเหลวไหลพ่ะย่ะค่ะ!”

เถาฮองเฮากัดฟัน “ในมือพี่ใหญ่มีทหารสามค่ายจากกองทัพเหนือ หาก…”

“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮา!”

เหมยเส้าเจียนคุกเข่าต่อเถาฮองเฮา “ฮองเฮาทรงคำนึงให้ดี! กองทัพเหนือจงรักภักดีต่อฝ่าบาท เมื่อคืนทหารกองทัพเหนือเพียงแค่สังหารบรรดาท่านอ๋องตามตามรับสั่งของฝ่าบาท หากพระองค์ทรงให้กองทัพเหนือบุกเข้าพระราชวัง กระหม่อมกล้าพูดได้ว่ากองทัพเหนือทั้งหมดจะหันกลับมาจู่โจมตระกูลเถาแทน ความจงรักภักดีของทหารกองทัพเหนือไม่เคยมีข้อครหา พระองค์ทรงไม่เข้าใจหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“เสี้ยวเว่ยเหล่านั้นล้วนเป็นคนของตระกูลเถา เมื่อถึงเวลาสำคัญ หากข้าสั่งพวกเขา…”

“ฮองเฮา ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!” เหมยเส้าเจียนพูดขัดเถาฮองเฮา เกรงว่านางจะพูดในสิ่งที่ไม่สมควรออกมา “เสี้ยวเว่ยคือเสี้ยวเว่ย ทหารคือทหาร ทันทีที่เสี้ยวเว่ยทั้งหลายแสดงออกถึงกิริยาหรือท่าทางที่อันตรายต่อฝ่าบาท บรรดาทหารกองทัพเหนือนั้นย่อมกล้ายกมีดสังหารเสี้ยวเว่ย จากนั้นบุกเข้าตระกูลเถา ฮองเฮาอย่าได้ทรงเสี่ยงเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ”

“ทำแบบนี้ไม่ได้ ทำแบบนั้นก็ไม่ได้ เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร เจ้าจะให้ข้ากลืนความโกรธนี้ลงไปอย่างนั้นหรือ ข้าทำไม่ได้”

ความโกรธของเถาฮองเฮาปะทุขึ้นอีกครั้ง

เหมยเส้าเจียนเกลี้ยกล่อม “กองทัพเหนือจงรักภักดีต่อฮ่องเต้ ผู้ใดเป็นฮ่องเต้ พวกเขาย่อมจงรักภักดีต่อผู้นั้น พระองค์ทรงใช้โอกาสนี้ขอโปรดให้ฝ่าบาททรงแต่งตั้งองค์ชายสามเป็นองค์รัชทายาท กองทัพเหนือจำเป็นต้องปฏิบัติตามเมื่อองค์ชายสามออกคำสั่งในฐานองค์รัชทายาท”

เถาฮองเฮาขมวดคิ้ว

เหมยเส้าเจียนเกลี้ยกล่อมต่อ

“ฮองเฮาอย่าได้ทรงเป็นปรปักษ์กับฝ่าบาท พระองค์ควรคว้าโอกาสที่หายากนี้เอาไว้ ทำให้องค์ชายสามกลายเป็นองค์รัชทายาทอย่างแท้จริง การเคลื่อนไหวสังหารเหล่าท่านอ๋องในคราวนี้ล้วนเป็นฝีมือของตระกูลเถา ท่านอ๋องตายไปเป็นจำนวนมาก แผ่นดินย่อมต้องโกลาหลระยะหนึ่ง คนที่ฝ่าบาททรงพึ่งพาได้มีเพียงตระกูลเถา พระองค์จะทรงพลาดโอกาสที่หายากครั้งนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ”

เถาฮองเฮาขมวดคิ้วครุ่นคิด “ฝ่าบาทไม่มีทางทรงแต่งตั้งองค์รัชทายาทอย่างง่ายดาย!”

“แต่เนื่องจากเรื่องเมื่อวาน พระบรมวงศานุวงศ์ไม่พึงพอใจอย่างมาก ทางขุนนางฝ่ายทหารต่างหวาดระแวง ส่วนขุนนางฝ่ายราชการเหล่านั้นยิ่งชื่นชอบความวุ่นวาย ในเวลานี้ฝ่าบาทจะทรงพึ่งพาผู้ใดได้นอกจากตระกูลเถาล่ะพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าอย่าลืมว่ายังมีกองทัพใต้”

“ความสามารถในการต่อสู้ของกองทัพใต้ไม่อาจเทียบกองทัพเหนือได้ ฮองเฮาทรงวางพระทัยได้พ่ะย่ะค่ะ”

เถาฮองเฮาส่ายหน้า “ข้าไม่อาจวางใจได้ ข้ารู้จักเขาดี ในเมื่อเขากล้าเปิดเผยความจริงที่เซียวอี้ฆ่าพี่สองกับข้า แสดงว่าเขาไม่กลัวตระกูลเถาก่อกบฏ เขามีแผนการอยู่ก่อนแล้ว”

“ดังนั้นเรื่องที่พึ่งพาได้เพียงตระกูลเถาเป็นเพียงแค่สิ่งที่เจ้าพูดเอง ข้าไม่กล้าเชื่อ เจ้าอย่าดูถูกขุนนางฝ่ายราชการในราชสำนัก พวกเขาแต่ละคนมีชาติกำเนิดจาตระกูลชั้นสูง เพียงแค่พวกเขายินดีย่อมสามารถสร้างกองกำลังขึ้นมาสังหารตระกูลเถาได้ทันที”

“ฮองเฮาทรงหมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”

เถาฮองเฮายิ้มเย้ยหยัน “ฝ่าบาททรงไม่ใช่คนโง่เขลา อีกทั้งพระองค์ยังฉลาดปราดเปรื่องอย่างมาก พระองค์ทรงกล้าเปิดเผยความจริงต่อหน้าข้าย่อมต้องคาดถึงปฏิกิริยาของข้าไว้ก่อนแล้ว เจ้าพูดถูก ข้าไม่อาจตื่นตระหนกได้ แต่ข้าก็ไม่อาจอดทนเอาไว้ได้ ฝ่าบาทตรัสเพียงไม่ให้ฆ่าเซียวอี้ แต่ไม่ได้ตรัสว่าทำสิ่งอื่นไม่ได้ นอกจากนี้เจ้าส่งสารให้พี่ใหญ่แทนข้า ให้เขาส่งคืนอำนาจทางการทหารทันที”

“เหตุใดจึงต้องให้นายท่านใหญ่ละทิ้งอำนาจทหารพ่ะย่ะค่ะ”

“เพื่อป้องกันฝ่าบาทตลบหลัง! ส่งคืนอำนาจทางการทหารแสดงออกถึงความจงรักภักดีของตระกูลเถาที่มีต่อฝ่าบาท แสดงว่าตระกูลเถาไม่คิดจะก่อกบฏ ถึงแม้ฝ่าบาททรงโหดเหี้ยม แต่พระองค์ก็ยังคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ยาวนาน ตระกูลเถารับใช้เขามานาน เวลานี้ไม่เพียงจัดการเหล่าท่านอ๋องแทนเขา อีกทั้งยัง…เมื่อส่งมอบอำนาจทหารคืนไป ฝ่าบาทจะทรงมีเหตุผลใดใส่ร้ายอีก ไปเถิด ทำตามที่ข้าบอก”

เหมยเส้าเจียนรับคำสั่ง

เขาไม่มั่นใจเล็กน้อย! ส่งมอบอำนาจทหารคืนจะเหมาะสมจริงหรือ

กว่าจะได้กองกำลังครึ่งหนึ่งของกองทัพเหนือมาไม่ใช่เรื่องง่าย หากละทิ้งไปเกรงว่านายท่านใหญ่จะไม่ยินยอม

หากฮ่องเต้หลอกใช้ฮองเฮาด้วยกลอุบายตรงข้าม แท้จริงแล้วสิ่งที่ต้องการคือให้ตระกูลเถาละทิ้งอำนาจทหารจะทำอย่างไร

เหมยเส้าเจียนจิตใจไม่เที่ยง เขามองไปยังทิศทางของตำหนักซิงชิ่ง ภายในใจเกิดความหวาดกลัวอย่างประหลาด

ตำหนักซิงชิ่งเปรียบเสมือสัตว์ประหลาดที่เลือกคนกิน มันพร้อมจะอ้าปากได้ทุกเวลา

“เหมากงกง!”

เสียงเรียกหนึ่งดึงเหมยเส้าเจียนกลับมา

เขาหันกลับไปมอง ที่แท้เป็นองค์ชายสาม เซียวเฉิงอี้

“ถวายบังคมองค์ชายสาม!”

“เหมยกงกงเกรงใจ! เสด็จแม่ทรงเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อคืนเกินเรื่องใหญ่เช่นนี้ เสด็จแม่ทรงตกใจหรือไม่”

เหมยเส้าเจียนจ้องมององค์ชายสาม เซียวเฉิงอี้ “องค์ชายสามไม่ได้ไปตระกูลเถา ไม่ได้คุยกับใต้เท้าเถาหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้ายังหาเวลาไปตระกูลเถาไม่ได้”

เหมาเส้าเจี้ยนพูดทันที “หากองค์ชายสามไม่รังเกียจ ตามกระหม่อมไปตระกูลเถาด้วยกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

องค์ชายสามผงะ ก่อนจะตอบทันที

“ได้…เหมยกงกงเชิญ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด