คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 152 ไลฟ์สดตบหน้า ฮือฮาทั้งโลกออนไลน์

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 152 ไลฟ์สดตบหน้า ฮือฮาทั้งโลกออนไลน์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คิดจริงเหรอว่าตัวเองเป็นชั้นแนวหน้าของวงการบันเทิงก็มีสถานะสูงส่งแล้ว

ถูกนายทุนอุ้มชูทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ

ถ้าไม่มีนายทุน ซังเย่าจือก็ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น

คิดจะงัดข้อกับซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์รวมถึงตระกูลเศรษฐีของตี้ตูที่อยู่เบื้องหลังงั้นเหรอ

พวกแฟนคลับต่างอึ้งตามกัน

มีหลายคนที่อายุน้อยเริ่มน้ำตาร่วงเผาะ

ด้านข้างมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่รูปร่างสูงใหญ่หลายคนต่างกำลังจ้องเขม็ง จึงไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนเข้าไป

คนจัดทำแผนรายการแสยะยิ้ม กำลังจะให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปิดประตูใหญ่

แต่พอเขาหันตัวกำลังจะกลับเข้าห้องทำงานก็มีแรงมหาศาลมากระชากคอเสื้อของเขาแล้วโยนกลิ้งตกบันได

ฟึ่บ!

เสียงเป็นที่น่าตกใจ คนจัดทำแผนกลิ้งลงไปบนพื้น ตัวเขาเองก็ยังงง

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านข้างต่างอึ้ง พากันมองไป

เสียงฝนโปรยปราย ไอหมอกปกคลุม

เด็กสาวถือร่ม สองขาเรียวยาวยืนตรง

เธอใส่ผ้าปิดปากสวมหมวกเบสบอล กระดุมเสื้อเชิ้ตก็ถูกติดเป็นระเบียบเรียบร้อยไปจนถึงเม็ดบนสุด เผยให้เห็นเพียงลำคอที่ขาวนวล

ความสวยดุจใบมีดอันแหลมคม แฝงไว้ซึ่งความดุดัน

บรรดาแฟนคลับตกใจเล็กน้อย ต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“แฟนคลับอย่างพวกคุณคิดจะใช้กำลังเหรอ กล้าลงไม้ลงมือกับคนของบริษัทเลยเหรอ” คนจัดทำแผนเจ็บไปทั้งตัว เขายังคงล้มอยู่บนพื้น ตะโกนเสียงดัง “สมน้ำหน้าที่ไอดอลของพวกคุณตาย!”

คำพูดนี้ต่อให้ไม่ได้เป็นแฟนคลับก็ทนไม่ไหว

วันนี้คนที่มาที่นี่ไม่ใช่แค่แฟนคลับผู้หญิง ยังมีแฟนคลับผู้ชายอีกส่วนหนึ่งด้วย

พอได้ยินแบบนี้แฟนคลับผู้ชายคนหนึ่งก็เดินขึ้นหน้า ยกเท้าถีบคนจัดทำแผนไปหนึ่งที “พูดแบบนี้ยังใช่คนอยู่หรือเปล่า!”

“พวกคุณ พวกคุณ…” คนจัดทำแผนเจ็บจนลุกไม่ขึ้น “รปภ.! รปภ.! ไล่พวกเขาออกไปให้หมด!”

ทางสำนักงานใหญ่ของซิงเฉินส่งข่าวมาแล้วว่าจะปกป้องทีมงานรายการ

ซังเย่าจือตายไปแล้ว พวกเขายังจะทำอะไรได้

คนตายยังจะฟื้นได้อีกหรือไง

แต่บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับไม่กล้าเข้าไป

เพราะมีคนใส่เครื่องแบบกลุ่มหนึ่งขวางอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขากับแฟนคลับพวกนั้น สายตาเย็นชามาก

ถึงแม้พวกเขาจะมองไม่ออกว่าเครื่องแบบนี้เป็นของที่ไหน แต่ต่างก็รู้สึกแบบเดียวกันโดยที่ไม่ต้องนัดหมายว่าไม่ควรมีเรื่องกับคนพวกนี้

พวกเขาแค่มารับจ๊อบ ห่วงตัวเองไว้ก่อนดีกว่า

“กลับไปกันก่อนเถอะ” อิ๋งจื่อจินไม่มองคนจัดทำแผน หันไปพูดกับพวกแฟนคลับ “ข้างนอกหนาว พวกเธออายุยังน้อย ความยุติธรรมย่อมมีแน่”

พวกแฟนคลับตาแดงก่ำกันหมด พากันโค้งตัวไม่หยุด “ขอบคุณค่ะพี่ ขอบคุณค่ะพี่”

พวกเธอมาถึงที่นี่ก็แค่ต้องการความจริง ต้องการความยุติธรรม

ซังเย่าจือไม่ใช่ญาติของพวกเธอ แต่ก็ได้มอบความหวังและกำลังใจให้ชีวิตพวกเธออยู่ไม่น้อย

ราชาภาพยนตร์ที่เป็นพลังบวก แถมอายุยังน้อย ทำไมถึงต้องมาซวยจากไปทั้งแบบนี้

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า เดินถือร่มออกไป

ผ่านไปสักพักใหญ่แฟนคลับเหล่านั้นถึงได้สติกลับมา

เดี๋ยวนะ…

อายุของพี่สาวคนนี้ก็ไม่ได้เยอะไปกว่าพวกเธอเท่าไร ดูเหมือนจะเด็กกว่าด้วยมั้ง

ในเวลาเดียวกันตรงจุดที่ห่างออกไปไม่ไกล

บรรดาปาปารัซซี่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ต่างก็ตื่นเต้น เริ่มยกอุปกรณ์บันทึกภาพในมือขึ้นมาเก็บภาพไว้

ขอเพียงแต่มีประเด็น พวกเขาก็จะถ่ายหมด ไม่สนหรอกว่าจะส่งผลกระทบอะไร

แต่ขณะที่พวกเขาเพิ่งถ่ายเสร็จไปหนึ่งรอบกำลังจะโพสต์ลงบนเวยปั๋วกลับถูกขวางไว้

คนที่ขวางเขาเป็นชายหนุ่มสวมแว่นตา ท่าทางสุภาพดูดี

“รบกวนทุกท่านลบภาพถ่ายกับวิดีโอด้วยครับ” ชายหนุ่มหยิบนามบัตรใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเอกสาร ฉีกยิ้มเล็กน้อย แต่ทว่าคำพูดกลับน่าหวาดเกรง “มิฉะนั้นพวกเรามีสิทธิ์ฟ้องนะครับ”

เหล่าปาปารัซซี่ไม่ได้เก็บคำพูดของเขามาใส่ใจ แต่เมื่อเห็นชื่อที่อยู่บนนามบัตรต่างก็หุบปากสนิท

สำนักงานทนายความซีเฟิงขึ้นชื่อว่าเป็นสำนักงานทนายความที่ไม่เคยว่าความแพ้แม้แต่ครั้งเดียว

ผู้ชนะแห่งตี้ตู

ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย

หลังจากที่เหล่าปาปารัซซี่ลบภาพกับวิดีโอเสร็จถึงได้เดินออกไปอย่างไม่พอใจนัก

ตอนที่ซังเย่าจือฟื้นขึ้นมาเหตุการณ์ก็ได้ผ่านไปสามวันแล้ว

หลังจากฟื้นเขายังคงมีความรู้สึกที่เหมือนฝันไป

เขาสัมผัสได้อย่างแท้จริงแล้วว่าความตายเป็นความรู้สึกแบบไหน

ตอนที่หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน สมองยังคงมีความตระหนักรู้อยู่

ตอนนั้นเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก นึกถึงพ่อแม่ของตัวเอง นึกถึงหลานสาวคนเล็กที่น่ารัก และยังนึกถึงบรรดาแฟนคลับที่สนับสนุนเขามาตลอดอีก

สิ่งที่น่าเสียดายคือเขายังไม่ทันได้ทำให้แฟนคลับเห็นเขายืนอยู่บนจุดสูงสุดก็มาตายเสียแล้ว

แต่เขาฟื้นได้อย่างไร

ในขณะที่สะลึมสะลือ ทันใดนั้นซังเย่าจือก็นึกถึงถุงผ้าใบนั้นที่อิ๋งจื่อจินให้เขา

เขาลืมตาขึ้นมาทันที สบตากับดวงตาคู่หนึ่ง

“ลูก? ลูกเป็นอะไรไหม” เจ้าของดวงตามองเขาด้วยความเป็นห่วง แต่ก็กลัวจะกระทบกระเทือนร่างกายของเขาจึงไม่กล้าเข้าใกล้ “พวกเขาบอกว่าวันนี้ลูกจะฟื้น ยังรู้สึกเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

ซังเย่าจือยังไม่ค่อยได้สติดีนัก ผ่านไปสักพักก็เปล่งเสียงออกมาจากลำคอ “…ลูกเหรอ”

ซิวอวี่ลูบคาง พอแน่ใจแล้วว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ จึงพยักหน้า “แม่ยกอย่างพวกเราเรียกแบบนี้”

ซังเย่าจือ “…”

เดี๋ยวนะ เด็กสาวคนนี้ดูอายุเด็กกว่าเขาตั้งหกเจ็ดปี ทำไมเป็นแม่ยกของเขาได้ล่ะ

ซังเย่าจือรู้สึกช็อก

นี่เขาไม่เข้าใจจิตใจของพวกแฟนคลับแล้วเหรอ

ซังเย่าจือตั้งสติแล้วถึงพูดขึ้น “ผมสบายดี คุณ…”

“เยี่ยมไปเลย” ซิวอวี่ยืนขึ้น “เดี๋ยวจะไปตามหมอ ลูก อย่าขยับนะ ห้ามขยับเด็ดขาดเลยนะ”

มองซิวอวี่ที่วิ่งออกไป ชั่วขณะนั้นซังเย่าจือไม่รู้จะสุขหรือเศร้าดี

ต่อให้สั่งให้เขาขยับเขาก็ขยับไม่ได้อยู่ดี

เขาฟื้นแล้วก็จริง แต่ร่างกายแข็งทื่อไปหมด แรงจะยกมือยังไม่มี

หมอเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน

ผู้จัดการส่วนตัวอยู่ด้านหลัง หลังจากที่เห็นซังเย่าจือฟื้นขึ้นมาเขาก็ดีใจจนน้ำตาไหล “เย่าจือ!”

หมอรีบดำเนินการตรวจร่างกายทุกส่วนของซังเย่าจือ หลังจากตรวจเสร็จ “ร่างกายของคนไข้ปกติดีทุกส่วนครับ เพียงแต่เลือดลมยังไหลเวียนไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา พักผ่อนให้ดีเดี๋ยวก็ฟื้นตัวครับ”

“งั้นทำไมตอนนั้นพวกคุณถึงบอกว่าลูกของเราตายแล้วล่ะคะ” ซิวอวี่ไม่เข้าใจ “ตอนฉันมาถึงหัวใจของเขาก็เต้นอยู่”

“น่าจะตรวจผิดพลาดน่ะครับ” หมอลังเลเล็กน้อย พูดอธิบาย “ในทางการแพทย์ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้แบบนี้ บางทีตอนที่ผู้ป่วยมีอาการอย่างกะทันหัน ร่างกายก็จะเปิดโหมดป้องกันตัวเองโดยอัตโนมัติ หลบเครื่องตรวจ แบบนี้จะคล้ายกับ ‘ตายหลอก’ แต่ว่า…”

ใครต่างก็ไม่คาดคิดว่าจะมีความเป็นไปได้แบบนี้ อัตราการเกิดต่ำมากจริงๆ

“ไม่เป็นไรครับ ฟื้นมาก็ดีแล้ว ฟื้นมาก็ดีแล้ว” ผู้จัดการส่วนตัวเช็ดน้ำตา “เย่าจือ นายรีบโพสต์เวยปั๋วบอกว่าตัวเองปลอดภัยดี พอร่างกายนายหายดีแล้วก็กลับบ้านก่อน”

ยังคงปิดบังครอบครัวของซังเย่าจืออยู่

ทางซิงเฉินก็รู้ว่าพ่อแม่ของซังเย่าจือสุขภาพไม่ค่อยดี กลัวว่าจะเป็นอะไรไปอีกคน จึงไม่ได้บอก

ซังเย่าจือพยักหน้าไม่ได้จึงกะพริบตา

ราชาภาพยนตร์ตายโดยไม่คาดคิดขณะถ่ายทำรายการวาไรตี้ที่ต้นสังกัดของตัวเองจัดขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียว

หลายวันแล้วความร้อนแรงของประเด็นนี้ยังไม่ลดลง ติดชาร์ตอันดับคำค้นอย่างเหนียวแน่น

สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนเดิมก็คือชูกวงมีเดียก็เป็นประเด็นเหมือนกัน

บรรดาแฟนคลับต่างกำลังจมอยู่กับความเจ็บปวด จะมีอารมณ์รบด้วยที่ไหนกัน

กลับเป็นคนที่ไม่ใช่แฟนคลับที่แสดงความคิดเห็นกันอยู่ไม่น้อย

[เดี๋ยวนะ ซิงเฉินจะปัดความรับผิดชอบก็ไม่ควรทำแบบนี้หรือเปล่า เกี่ยวอะไรกับชูกวงมีเดียด้วย]

[ได้ ต่อให้เกี่ยวข้องกับชูกวงมีเดีย ซิงเฉินไม่รู้หรือไงว่าราชาภาพยนตร์ซังถ่ายทำถึงกลางดึก ถ้ารู้ทำไมยังจัดตารางงานให้เขาแน่นขนาดนั้น เวลาเช้าตรู่ เดิมทีสภาพร่างกายก็พร้อมน้อยที่สุดอยู่แล้ว ยังจะให้เขาเล่นกีฬาผาดโผน แบบนี้ไม่เท่ากับจงใจแกล้งกันเหรอ]

[เอาเถอะ ไม่ว่าจะพูดยังไงราชาภาพยนตร์ซังก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ กลายเป็นคนที่ต้องสละชีวิตให้สองบริษัทนี้]

แต่เรื่องคุมคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ ซิงเฉินยืนหนึ่ง

พวกเขาเห็นชูกวงมีเดียไม่เคลื่อนไหวมาตลอดก็ยิ่งได้ใจ จึงจัดงานแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่

ตงอวิ๋นประธานใหญ่ของซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์และผู้กำกับใหญ่ของรายการต่างเข้าร่วมงานแถลงข่าวในครั้งนี้

“ประธานตงครับ ไม่ทราบว่าคุณมองอย่างไรเรื่องที่ชูกวงมีเดียแอบทำร้ายราชาภาพยนตร์ซังแบบนี้ครับ”

“เรื่องนี้ทางซิงเฉินของเราไม่มีทางปล่อยชูกวงมีเดียไปแบบนี้แน่นอนค่ะ” สีหน้าของตงอวิ๋นเย็นชา เชิดคางขึ้น “เย่าจือเป็นคนของซิงเฉิน ฉันเองก็มองเขาเป็นคนในครอบครัวมาตลอด”

“ทุกท่านต่างทราบว่าชูกวงมีเดียพยายามข่มซิงเฉินมาตลอด ทั้งยังแย่งบทละครหลายเรื่องไปจากซิงเฉิน แต่ฉันนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าครั้งนี้พวกเขาจะรู้ตารางงานของเย่าจือล่วงหน้าแล้วจัดคิวถ่ายไว้กลางดึก ทำให้สุดท้ายเย่าจือ…”

ตงอวิ๋นเช็ดน้ำตา ฝืนพูด “เอาเป็นว่า ซิงเฉินจะเอาเรื่องชูกวงมีเดียให้ถึงที่สุดเพื่อเย่าจือค่ะ!”

มีนักข่าวอีกคนยื่นไมโครโฟนมาให้ “งั้นก็หมายความว่า ทางซิงเฉินจะทวงความยุติธรรมให้ราชาภาพยนตร์ซังเหรอครับ”

“แน่นอนค่ะ ยังไงซะ…” ตงอวิ๋นยังไม่ทันพูดจบ เพราะนักข่าวที่อยู่ตรงหน้าเธอเกิดโวยวายขึ้นมา ส่งเสียงตะโกนด้วยความตกใจไม่หยุด

สีหน้าของนักข่าวแต่ละคนต่างก็ตะลึงราวกับเห็นผี

“ประธานตง เวยปั๋ว!” ผู้กำกับใหญ่ที่อยู่ข้างๆ เสียงสั่น สีหน้าเหลือเชื่อจนแทบช็อก “ซังเย่าจือ! ซังเย่าจือเขา…”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือก็ถูกตงอวิ๋นแย่งไป

นี่เป็นคลิปไลฟ์สด

และคนที่ไลฟ์สดก็คือคนที่ทั้งโลกออนไลน์ต่างคิดว่าเขาตายไปแล้ว

บนหน้าจอ สีหน้าของชายหนุ่มยังคงซีดเซียว ดวงตาฉายแววอ่อนล้า

เขานอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เห็นได้ชัดว่าเพิ่งฟื้นจากความตาย

แต่ยังดีที่ดวงตาของเขายังคงมีชีวิตชีวา ไม่ใช่เหม่อลอยแน่นิ่ง เขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ

ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มอ่อนโยนที่ทุกคนคุ้นเคย สดใสดุจดวงอาทิตย์

“สวัสดีตอนบ่ายครับทุกคน ผมซังเย่าจือครับ ช่วงหลายวันมานี้ทำให้ทุกคนเป็นห่วงแย่เลยนะครับ”

“เพิ่งฟื้นครับ พอฟื้นขึ้นมาก็เลยมารายงานตัวกับทุกคนครับ มีคุณหมอเทวดาช่วยผมไว้ ผมไม่เป็นไรแล้วครับ จากนี้ผมจะให้ทนายช่วยยกเลิกสัญญากับทางซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ และทางทีมงานรายการก็รอรับจดหมายจากทนายด้วยนะครับ…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 152 ไลฟ์สดตบหน้า ฮือฮาทั้งโลกออนไลน์

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 152 ไลฟ์สดตบหน้า ฮือฮาทั้งโลกออนไลน์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คิดจริงเหรอว่าตัวเองเป็นชั้นแนวหน้าของวงการบันเทิงก็มีสถานะสูงส่งแล้ว

ถูกนายทุนอุ้มชูทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ

ถ้าไม่มีนายทุน ซังเย่าจือก็ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น

คิดจะงัดข้อกับซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์รวมถึงตระกูลเศรษฐีของตี้ตูที่อยู่เบื้องหลังงั้นเหรอ

พวกแฟนคลับต่างอึ้งตามกัน

มีหลายคนที่อายุน้อยเริ่มน้ำตาร่วงเผาะ

ด้านข้างมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่รูปร่างสูงใหญ่หลายคนต่างกำลังจ้องเขม็ง จึงไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนเข้าไป

คนจัดทำแผนรายการแสยะยิ้ม กำลังจะให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปิดประตูใหญ่

แต่พอเขาหันตัวกำลังจะกลับเข้าห้องทำงานก็มีแรงมหาศาลมากระชากคอเสื้อของเขาแล้วโยนกลิ้งตกบันได

ฟึ่บ!

เสียงเป็นที่น่าตกใจ คนจัดทำแผนกลิ้งลงไปบนพื้น ตัวเขาเองก็ยังงง

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านข้างต่างอึ้ง พากันมองไป

เสียงฝนโปรยปราย ไอหมอกปกคลุม

เด็กสาวถือร่ม สองขาเรียวยาวยืนตรง

เธอใส่ผ้าปิดปากสวมหมวกเบสบอล กระดุมเสื้อเชิ้ตก็ถูกติดเป็นระเบียบเรียบร้อยไปจนถึงเม็ดบนสุด เผยให้เห็นเพียงลำคอที่ขาวนวล

ความสวยดุจใบมีดอันแหลมคม แฝงไว้ซึ่งความดุดัน

บรรดาแฟนคลับตกใจเล็กน้อย ต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“แฟนคลับอย่างพวกคุณคิดจะใช้กำลังเหรอ กล้าลงไม้ลงมือกับคนของบริษัทเลยเหรอ” คนจัดทำแผนเจ็บไปทั้งตัว เขายังคงล้มอยู่บนพื้น ตะโกนเสียงดัง “สมน้ำหน้าที่ไอดอลของพวกคุณตาย!”

คำพูดนี้ต่อให้ไม่ได้เป็นแฟนคลับก็ทนไม่ไหว

วันนี้คนที่มาที่นี่ไม่ใช่แค่แฟนคลับผู้หญิง ยังมีแฟนคลับผู้ชายอีกส่วนหนึ่งด้วย

พอได้ยินแบบนี้แฟนคลับผู้ชายคนหนึ่งก็เดินขึ้นหน้า ยกเท้าถีบคนจัดทำแผนไปหนึ่งที “พูดแบบนี้ยังใช่คนอยู่หรือเปล่า!”

“พวกคุณ พวกคุณ…” คนจัดทำแผนเจ็บจนลุกไม่ขึ้น “รปภ.! รปภ.! ไล่พวกเขาออกไปให้หมด!”

ทางสำนักงานใหญ่ของซิงเฉินส่งข่าวมาแล้วว่าจะปกป้องทีมงานรายการ

ซังเย่าจือตายไปแล้ว พวกเขายังจะทำอะไรได้

คนตายยังจะฟื้นได้อีกหรือไง

แต่บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับไม่กล้าเข้าไป

เพราะมีคนใส่เครื่องแบบกลุ่มหนึ่งขวางอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขากับแฟนคลับพวกนั้น สายตาเย็นชามาก

ถึงแม้พวกเขาจะมองไม่ออกว่าเครื่องแบบนี้เป็นของที่ไหน แต่ต่างก็รู้สึกแบบเดียวกันโดยที่ไม่ต้องนัดหมายว่าไม่ควรมีเรื่องกับคนพวกนี้

พวกเขาแค่มารับจ๊อบ ห่วงตัวเองไว้ก่อนดีกว่า

“กลับไปกันก่อนเถอะ” อิ๋งจื่อจินไม่มองคนจัดทำแผน หันไปพูดกับพวกแฟนคลับ “ข้างนอกหนาว พวกเธออายุยังน้อย ความยุติธรรมย่อมมีแน่”

พวกแฟนคลับตาแดงก่ำกันหมด พากันโค้งตัวไม่หยุด “ขอบคุณค่ะพี่ ขอบคุณค่ะพี่”

พวกเธอมาถึงที่นี่ก็แค่ต้องการความจริง ต้องการความยุติธรรม

ซังเย่าจือไม่ใช่ญาติของพวกเธอ แต่ก็ได้มอบความหวังและกำลังใจให้ชีวิตพวกเธออยู่ไม่น้อย

ราชาภาพยนตร์ที่เป็นพลังบวก แถมอายุยังน้อย ทำไมถึงต้องมาซวยจากไปทั้งแบบนี้

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า เดินถือร่มออกไป

ผ่านไปสักพักใหญ่แฟนคลับเหล่านั้นถึงได้สติกลับมา

เดี๋ยวนะ…

อายุของพี่สาวคนนี้ก็ไม่ได้เยอะไปกว่าพวกเธอเท่าไร ดูเหมือนจะเด็กกว่าด้วยมั้ง

ในเวลาเดียวกันตรงจุดที่ห่างออกไปไม่ไกล

บรรดาปาปารัซซี่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ต่างก็ตื่นเต้น เริ่มยกอุปกรณ์บันทึกภาพในมือขึ้นมาเก็บภาพไว้

ขอเพียงแต่มีประเด็น พวกเขาก็จะถ่ายหมด ไม่สนหรอกว่าจะส่งผลกระทบอะไร

แต่ขณะที่พวกเขาเพิ่งถ่ายเสร็จไปหนึ่งรอบกำลังจะโพสต์ลงบนเวยปั๋วกลับถูกขวางไว้

คนที่ขวางเขาเป็นชายหนุ่มสวมแว่นตา ท่าทางสุภาพดูดี

“รบกวนทุกท่านลบภาพถ่ายกับวิดีโอด้วยครับ” ชายหนุ่มหยิบนามบัตรใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเอกสาร ฉีกยิ้มเล็กน้อย แต่ทว่าคำพูดกลับน่าหวาดเกรง “มิฉะนั้นพวกเรามีสิทธิ์ฟ้องนะครับ”

เหล่าปาปารัซซี่ไม่ได้เก็บคำพูดของเขามาใส่ใจ แต่เมื่อเห็นชื่อที่อยู่บนนามบัตรต่างก็หุบปากสนิท

สำนักงานทนายความซีเฟิงขึ้นชื่อว่าเป็นสำนักงานทนายความที่ไม่เคยว่าความแพ้แม้แต่ครั้งเดียว

ผู้ชนะแห่งตี้ตู

ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย

หลังจากที่เหล่าปาปารัซซี่ลบภาพกับวิดีโอเสร็จถึงได้เดินออกไปอย่างไม่พอใจนัก

ตอนที่ซังเย่าจือฟื้นขึ้นมาเหตุการณ์ก็ได้ผ่านไปสามวันแล้ว

หลังจากฟื้นเขายังคงมีความรู้สึกที่เหมือนฝันไป

เขาสัมผัสได้อย่างแท้จริงแล้วว่าความตายเป็นความรู้สึกแบบไหน

ตอนที่หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน สมองยังคงมีความตระหนักรู้อยู่

ตอนนั้นเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก นึกถึงพ่อแม่ของตัวเอง นึกถึงหลานสาวคนเล็กที่น่ารัก และยังนึกถึงบรรดาแฟนคลับที่สนับสนุนเขามาตลอดอีก

สิ่งที่น่าเสียดายคือเขายังไม่ทันได้ทำให้แฟนคลับเห็นเขายืนอยู่บนจุดสูงสุดก็มาตายเสียแล้ว

แต่เขาฟื้นได้อย่างไร

ในขณะที่สะลึมสะลือ ทันใดนั้นซังเย่าจือก็นึกถึงถุงผ้าใบนั้นที่อิ๋งจื่อจินให้เขา

เขาลืมตาขึ้นมาทันที สบตากับดวงตาคู่หนึ่ง

“ลูก? ลูกเป็นอะไรไหม” เจ้าของดวงตามองเขาด้วยความเป็นห่วง แต่ก็กลัวจะกระทบกระเทือนร่างกายของเขาจึงไม่กล้าเข้าใกล้ “พวกเขาบอกว่าวันนี้ลูกจะฟื้น ยังรู้สึกเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

ซังเย่าจือยังไม่ค่อยได้สติดีนัก ผ่านไปสักพักก็เปล่งเสียงออกมาจากลำคอ “…ลูกเหรอ”

ซิวอวี่ลูบคาง พอแน่ใจแล้วว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ จึงพยักหน้า “แม่ยกอย่างพวกเราเรียกแบบนี้”

ซังเย่าจือ “…”

เดี๋ยวนะ เด็กสาวคนนี้ดูอายุเด็กกว่าเขาตั้งหกเจ็ดปี ทำไมเป็นแม่ยกของเขาได้ล่ะ

ซังเย่าจือรู้สึกช็อก

นี่เขาไม่เข้าใจจิตใจของพวกแฟนคลับแล้วเหรอ

ซังเย่าจือตั้งสติแล้วถึงพูดขึ้น “ผมสบายดี คุณ…”

“เยี่ยมไปเลย” ซิวอวี่ยืนขึ้น “เดี๋ยวจะไปตามหมอ ลูก อย่าขยับนะ ห้ามขยับเด็ดขาดเลยนะ”

มองซิวอวี่ที่วิ่งออกไป ชั่วขณะนั้นซังเย่าจือไม่รู้จะสุขหรือเศร้าดี

ต่อให้สั่งให้เขาขยับเขาก็ขยับไม่ได้อยู่ดี

เขาฟื้นแล้วก็จริง แต่ร่างกายแข็งทื่อไปหมด แรงจะยกมือยังไม่มี

หมอเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน

ผู้จัดการส่วนตัวอยู่ด้านหลัง หลังจากที่เห็นซังเย่าจือฟื้นขึ้นมาเขาก็ดีใจจนน้ำตาไหล “เย่าจือ!”

หมอรีบดำเนินการตรวจร่างกายทุกส่วนของซังเย่าจือ หลังจากตรวจเสร็จ “ร่างกายของคนไข้ปกติดีทุกส่วนครับ เพียงแต่เลือดลมยังไหลเวียนไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา พักผ่อนให้ดีเดี๋ยวก็ฟื้นตัวครับ”

“งั้นทำไมตอนนั้นพวกคุณถึงบอกว่าลูกของเราตายแล้วล่ะคะ” ซิวอวี่ไม่เข้าใจ “ตอนฉันมาถึงหัวใจของเขาก็เต้นอยู่”

“น่าจะตรวจผิดพลาดน่ะครับ” หมอลังเลเล็กน้อย พูดอธิบาย “ในทางการแพทย์ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้แบบนี้ บางทีตอนที่ผู้ป่วยมีอาการอย่างกะทันหัน ร่างกายก็จะเปิดโหมดป้องกันตัวเองโดยอัตโนมัติ หลบเครื่องตรวจ แบบนี้จะคล้ายกับ ‘ตายหลอก’ แต่ว่า…”

ใครต่างก็ไม่คาดคิดว่าจะมีความเป็นไปได้แบบนี้ อัตราการเกิดต่ำมากจริงๆ

“ไม่เป็นไรครับ ฟื้นมาก็ดีแล้ว ฟื้นมาก็ดีแล้ว” ผู้จัดการส่วนตัวเช็ดน้ำตา “เย่าจือ นายรีบโพสต์เวยปั๋วบอกว่าตัวเองปลอดภัยดี พอร่างกายนายหายดีแล้วก็กลับบ้านก่อน”

ยังคงปิดบังครอบครัวของซังเย่าจืออยู่

ทางซิงเฉินก็รู้ว่าพ่อแม่ของซังเย่าจือสุขภาพไม่ค่อยดี กลัวว่าจะเป็นอะไรไปอีกคน จึงไม่ได้บอก

ซังเย่าจือพยักหน้าไม่ได้จึงกะพริบตา

ราชาภาพยนตร์ตายโดยไม่คาดคิดขณะถ่ายทำรายการวาไรตี้ที่ต้นสังกัดของตัวเองจัดขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากทีเดียว

หลายวันแล้วความร้อนแรงของประเด็นนี้ยังไม่ลดลง ติดชาร์ตอันดับคำค้นอย่างเหนียวแน่น

สิ่งเดียวที่ไม่เหมือนเดิมก็คือชูกวงมีเดียก็เป็นประเด็นเหมือนกัน

บรรดาแฟนคลับต่างกำลังจมอยู่กับความเจ็บปวด จะมีอารมณ์รบด้วยที่ไหนกัน

กลับเป็นคนที่ไม่ใช่แฟนคลับที่แสดงความคิดเห็นกันอยู่ไม่น้อย

[เดี๋ยวนะ ซิงเฉินจะปัดความรับผิดชอบก็ไม่ควรทำแบบนี้หรือเปล่า เกี่ยวอะไรกับชูกวงมีเดียด้วย]

[ได้ ต่อให้เกี่ยวข้องกับชูกวงมีเดีย ซิงเฉินไม่รู้หรือไงว่าราชาภาพยนตร์ซังถ่ายทำถึงกลางดึก ถ้ารู้ทำไมยังจัดตารางงานให้เขาแน่นขนาดนั้น เวลาเช้าตรู่ เดิมทีสภาพร่างกายก็พร้อมน้อยที่สุดอยู่แล้ว ยังจะให้เขาเล่นกีฬาผาดโผน แบบนี้ไม่เท่ากับจงใจแกล้งกันเหรอ]

[เอาเถอะ ไม่ว่าจะพูดยังไงราชาภาพยนตร์ซังก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ กลายเป็นคนที่ต้องสละชีวิตให้สองบริษัทนี้]

แต่เรื่องคุมคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ ซิงเฉินยืนหนึ่ง

พวกเขาเห็นชูกวงมีเดียไม่เคลื่อนไหวมาตลอดก็ยิ่งได้ใจ จึงจัดงานแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่

ตงอวิ๋นประธานใหญ่ของซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์และผู้กำกับใหญ่ของรายการต่างเข้าร่วมงานแถลงข่าวในครั้งนี้

“ประธานตงครับ ไม่ทราบว่าคุณมองอย่างไรเรื่องที่ชูกวงมีเดียแอบทำร้ายราชาภาพยนตร์ซังแบบนี้ครับ”

“เรื่องนี้ทางซิงเฉินของเราไม่มีทางปล่อยชูกวงมีเดียไปแบบนี้แน่นอนค่ะ” สีหน้าของตงอวิ๋นเย็นชา เชิดคางขึ้น “เย่าจือเป็นคนของซิงเฉิน ฉันเองก็มองเขาเป็นคนในครอบครัวมาตลอด”

“ทุกท่านต่างทราบว่าชูกวงมีเดียพยายามข่มซิงเฉินมาตลอด ทั้งยังแย่งบทละครหลายเรื่องไปจากซิงเฉิน แต่ฉันนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าครั้งนี้พวกเขาจะรู้ตารางงานของเย่าจือล่วงหน้าแล้วจัดคิวถ่ายไว้กลางดึก ทำให้สุดท้ายเย่าจือ…”

ตงอวิ๋นเช็ดน้ำตา ฝืนพูด “เอาเป็นว่า ซิงเฉินจะเอาเรื่องชูกวงมีเดียให้ถึงที่สุดเพื่อเย่าจือค่ะ!”

มีนักข่าวอีกคนยื่นไมโครโฟนมาให้ “งั้นก็หมายความว่า ทางซิงเฉินจะทวงความยุติธรรมให้ราชาภาพยนตร์ซังเหรอครับ”

“แน่นอนค่ะ ยังไงซะ…” ตงอวิ๋นยังไม่ทันพูดจบ เพราะนักข่าวที่อยู่ตรงหน้าเธอเกิดโวยวายขึ้นมา ส่งเสียงตะโกนด้วยความตกใจไม่หยุด

สีหน้าของนักข่าวแต่ละคนต่างก็ตะลึงราวกับเห็นผี

“ประธานตง เวยปั๋ว!” ผู้กำกับใหญ่ที่อยู่ข้างๆ เสียงสั่น สีหน้าเหลือเชื่อจนแทบช็อก “ซังเย่าจือ! ซังเย่าจือเขา…”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือก็ถูกตงอวิ๋นแย่งไป

นี่เป็นคลิปไลฟ์สด

และคนที่ไลฟ์สดก็คือคนที่ทั้งโลกออนไลน์ต่างคิดว่าเขาตายไปแล้ว

บนหน้าจอ สีหน้าของชายหนุ่มยังคงซีดเซียว ดวงตาฉายแววอ่อนล้า

เขานอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เห็นได้ชัดว่าเพิ่งฟื้นจากความตาย

แต่ยังดีที่ดวงตาของเขายังคงมีชีวิตชีวา ไม่ใช่เหม่อลอยแน่นิ่ง เขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ

ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มอ่อนโยนที่ทุกคนคุ้นเคย สดใสดุจดวงอาทิตย์

“สวัสดีตอนบ่ายครับทุกคน ผมซังเย่าจือครับ ช่วงหลายวันมานี้ทำให้ทุกคนเป็นห่วงแย่เลยนะครับ”

“เพิ่งฟื้นครับ พอฟื้นขึ้นมาก็เลยมารายงานตัวกับทุกคนครับ มีคุณหมอเทวดาช่วยผมไว้ ผมไม่เป็นไรแล้วครับ จากนี้ผมจะให้ทนายช่วยยกเลิกสัญญากับทางซิงเฉินเอนเตอร์เทนเมนต์ และทางทีมงานรายการก็รอรับจดหมายจากทนายด้วยนะครับ…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+