คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 165 ความจริงถูกเปิดเผย!

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 165 ความจริงถูกเปิดเผย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดวงตาของจงมั่นหวาเบิกโพลง ไม่ได้อ่านต่อ

อารมณ์ทุกอย่างทะลักเข้ามา เบื้องหน้ามืดสนิท ล้มไปบนโซฟา

พ่อบ้านตกใจ รีบเดินเข้าไป “คุณนาย!”

“อย่าเข้ามานะ!” จงมั่นหวาเอามือยันโซฟา ฝืนให้ตัวเองกลับขึ้นมานั่งอีกครั้ง ดวงตาของเธอแดงก่ำ ตวาดเสียง “อย่าเข้ามาใกล้ฉัน ยืนอยู่ตรงนั้น”

พ่อบ้านไม่เข้าใจ

แต่นี่เป็นคำสั่งของเจ้านาย เขาจำต้องถอยหลังออกไป ถอยไปจนถึงตำแหน่งที่จงมั่นหวาสั่ง จากนั้นพ่อบ้านถึงลองถามขึ้น “คุณนาย คุณหนูรองก่อเรื่องอะไรอีกแล้วใช่ไหมครับ”

“เธอก็แบบนี้ คุณนายอย่าโมโหไปเลยครับ เดี๋ยวจะเป็นการทำร้ายสุขภาพตัวเองเสียเปล่าๆ”

จงมั่นหวาไม่สนใจพ่อบ้าน สมองของเธอตื้อไปหมด หูก็เหมือนมีเสียงหึ่งๆ ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ตรงหน้าเหลือเพียงคำพูดเดียว หากเป็นเมื่อก่อนเธอจะต้องคิดแน่ว่ามีคนเล่นพิเรนทร์ อย่างไรเสียในหนึ่งปีนี้ที่อิ๋งจื่อจินถูกรับกลับมาที่บ้านตระกูลอิ๋ง เธอกับอิ๋งเจิ้นถิงต่างไม่สนใจมีแค่อิ๋งลู่เวยที่มีความอดทนมากเป็นพิเศษ

ให้อิ๋งจื่อจินเข้าคลาสเด็กอัจฉริยะ สอนอิ๋งจื่อจินเล่นเปียโน ซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับให้มากมาย ทั้งยังช่วยปกป้องอิ๋งจื่อจินเวลาอยู่ต่อหน้าพวกเขา

แต่คอนเสิร์ตเมื่อวานทำให้จงมั่นหวาตระหนักได้ว่า ท่าทีที่อิ๋งลู่เวยมีต่ออิ๋งจื่อจินดูแปลกจริงๆ เธอพยายามสงบสติอารมณ์ จากนั้นถึงกล้าอ่านต่อ

พออ่านจบเธอก็ตัวแข็งทื่อ

เนื้อความในจดหมายไม่ยาว ส่วนใหญ่เป็นหลักฐานต่างๆ

หลักฐานพวกนี้เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า ตอนวันที่ยี่สิบแปด มกราคม ปีสองพันสาม อิ๋งลู่เวยแอบเอาเด็กทารกออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลอิ๋ง จากนั้นก็เอาไปโยนทิ้งในซอยตันข้างถนนที่ไกลออกไป

ถึงแม้จะผ่านไปสิบหกปีแล้ว จงมั่นหวาก็ไม่มีทางลืมวันนั้นเป็นอันขาด เพราะตอนนั้นเพิ่งผ่านตรุษจีน ตระกูลอิ๋งได้ออเดอร์ใหญ่จากตี้ตู ขอเพียงแต่ได้ออเดอร์ใหญ่นี้มาอิ๋งซื่อกรุ๊ปก็จะก้าวขึ้นอีกชั้นได้

ดังนั้นเธอกับอิ๋งเจิ้นถิงถึงได้ออกไปพร้อมกัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้การลงนามในออเดอร์นี้เป็นไปอย่างราบรื่น ปรากฏว่าพอกลับมาตอนเที่ยงคืน เธอก็ไปดูลูกสาวคนเล็กเหมือนตอนปกติ

บนเตียงเด็กอ่อนกลับเหลือเพียงผ้าห่มผืนเดียว เด็กทารกตัวแค่นั้นคลานได้อย่างเดียว วิ่งไปไหนไม่ได้ แต่พวกคนรับใช้หากันจนทั่วคฤหาสน์ก็ไม่พบร่องรอยของเด็กทารก

ราวกับหายไปในอากาศ

ต่อมาตระกูลอิ๋งไปตามหาก็หาไม่พบ

จงมั่นหวาจับจดหมายแน่น คล้ายกับนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงตวาดเสียงอีกครั้ง “พ่อบ้าน!”

พ่อบ้านตัวสั่น รีบขานรับ “คุณนาย”

“เมื่อสิบหกปีก่อน วันที่คุณหนูรองหายไปพ่อบ้านเห็น…เห็น…” จงมั่นหวาหลับตาลง กัดฟัน พูดอย่างยากลำบาก “เห็นลู่เวยออกไปบ้างไหม”

พ่อบ้านอึ้ง ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าจงมั่นหวาอยู่ๆ ก็พูดถึงเรื่องนี้ “คุณนาย?”

“พูด!” จงมั่นหวาตบโต๊ะด้วยความโมโห “ถ้าไม่พูดก็ไสหัวออกไปจากบ้านนี้วันนี้เลย”

พ่อบ้านพยายามนึก ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็ตีศีรษะแล้วตอบ “คุณนาย ผมเห็นครับ คุณลู่เวยออกไปตอนสองทุ่มแล้วกลับเข้ามาตอนสองทุ่มครึ่งครับ”

“บอกว่าข้างนอกหิมะตก เธอออกไปเล่นปาหิมะกับเพื่อนๆ มา ผมเห็นตัวเธอเต็มไปด้วยหิมะจึงให้เธอไปอาบน้ำครับ”

ตอนนั้นคุณนายผู้เฒ่าอิ๋งพักผ่อนแล้ว อีกทั้งอิ๋งลู่เวยก็เป็นลูกสาวที่เธอมีตอนอายุเยอะแล้ว

ถ้าเขาปรนนิบัติไม่ดีจะต้องถูกไล่ออกแน่นอน

เล็บของจงมั่นหวาจิกเข้ามือ สูดลมหายใจเข้าลึก “แล้วพ่อบ้านรู้ตอนไหนว่าคุณหนูรองหายไป”

“เรื่องนี้ผมไม่มีทางลืม” ถึงแม้พ่อบ้านจะสงสัย แต่ก็ยังคงตอบ “สองทุ่มห้าสิบครับ ผมจะไปเปลี่ยนขวดนมให้คุณหนูรอง”

เวลาทั้งหมดลงตัวพอดี!

จงมั่นหวาขบฟันแน่นจนรู้สึกได้ถึงรสชาติของเลือด เธอกับอิ๋งเจิ้นถิงเคยสงสัยทุกคนในคฤหาสน์ แต่กลับไม่เคยสงสัยอิ๋งลู่เวย เรียกได้ว่าพวกเขาเห็นอิ๋งลู่เวยมาจนโตถึงแม้จะช่วงรุ่นเดียวกัน แต่พวกเขาก็เอ็นดูอิ๋งลู่เวยเหมือนเป็นรุ่นลูกหลาน อิ๋งลู่เวยก็เป็นเด็กดีตั้งแต่เด็ก ตอนที่เธอยังไม่มีลูกก็รักและเอาใจใส่อิ๋งลู่เวยเป็นอย่างดี จงมั่นหวาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมอิ๋งลู่เวยต้องทำแบบนี้

อีกทั้งตอนปีสองพันสาม อิ๋งลู่เวยเพิ่งจะอายุเท่าไร

แค่แปดขวบเท่านั้น

เด็กแปดขวบจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ออกมาได้ยังไง

จงมั่นหวารับไม่ได้ เธอหยิบโทรศัพท์บ้านด้วยมืออันสั่นเทาแล้วกดโทรข้ามประเทศ พอมีคนรับสายเธอก็พูดด้วยเสียงสะอื้น “เจิ้นถิง รีบกลับมานะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว…”

เพียงชั่วข้ามคืนชื่อเสียงของอิ๋งลู่เวยย่อยยับทันตา

ในเวยปั๋วมีแต่คนด่าเธอ

แฟนคลับของเธอถอนตัวไปหมด ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยเธอตอบโต้ กลับจะช่วยรุมด่าแรงกว่าเดิม ตอนนั้นชอบมากแค่ไหน ตอนนี้ก็ยิ่งเกลียดมากเท่านั้น

อิ๋งลู่เวยหลบอยู่ในคอนโดที่เธอซื้อ ไม่กล้าออกไปไหน

เธอใช้แอคเคาท์รองล็อกอินเข้าเวยปั๋ว ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งยังอัดอั้นตันใจจนแทบระเบิด

โดยเฉพาะคอมเมนต์ที่อยู่ในเวยปั๋วของเธอ ล้วนเป็นไอดีที่มีสัญลักษณ์ของแฟนคลับตัวยง

[นังแพศยา ในที่สุดโฉมหน้าที่แท้จริงของเธอก็ปรากฏ หลายปีมานี้ปั่นหัวพวกเราสนุกนักเหรอ]

[โคตรน่าขยะแขยงเลย ดูคำพูดเมื่อก่อนของหล่อนนะ เห็นได้ชัดเลยว่าจงใจให้พวกเราไปบวก เสี้ยมแฟนคลับ ไม่เคยห้ามแฟนคลับ ทำให้แฟนคลับติดคุก ส่วนตัวเองลอยตัวสบายๆ ทั้งยังทำตัวเรียกคะแนนสงสาร]

[ขยะ ฉันฟ้องเธอแล้ว รอรับหมายศาลได้เลย!]

ฉีเฉียนมีเดียที่เซ็นสัญญากับอิ๋งลู่เวยเห็นท่าไม่ดี จึงฉวยโอกาสตอนกลางคืนที่เรื่องเพิ่งถูกเปิดโปงได้ไม่นาน ออกแถลงการณ์ยกเลิกสัญญาฝ่ายเดียว

ผู้จัดการส่วนตัวก็ขอยุติการร่วมงานกับเธอ หนีไปแล้วเมื่อคืน

คนรอบตัวที่เคยสนับสนุนเธอก็กลับมาเหยียบย่ำเธอทั้งหมด

อิ๋งลู่เวยรู้สึกหนาว น้ำตาไหลไม่หยุด

เธอแน่ใจได้ว่า เบื้องหลังจะต้องมีใครเล่นงานเธออยู่แน่นอน ไม่อย่างนั้นพวกแอคเคาท์จอมแฉเหล่านั้นคงไม่มีทางโพสต์คาไว้แบบนั้น มองข้ามการเตือนของเธอ

เธอหลอกใช้เจียงมั่วหย่วนให้รับอิ๋งจื่อจินกลับมาจากอำเภอชิงสุ่ยเป็นความผิดพลาด

ถ้าเธอไม่รับอิ๋งจื่อจินกลับมา ชาตินี้ตระกูลอิ๋งก็ไม่มีทางเจอตัว

ตอนนี้เธอควรทำยังไง

อิ๋งลู่เวยหวาดกลัว พยายามคิดหาทาง ในที่สุดก็คิดโอกาสสุดท้ายที่จะรอดขึ้นมาได้

ใช่ เธอต้องรีบแต่งเข้าตระกูลเจียงให้เร็วที่สุด ขอเพียงแต่เธอกลายเป็นนายหญิงของตระกูลเจียง ต่อให้ชื่อเสียงของเธอย่อยยับหมดแล้วก็ไม่เป็นไร อิ๋งลู่เวยตั้งสติ เช็ดน้ำตา หลังจากที่จัดการตัวเองเรียบร้อยเธอก็ขับรถไปที่บริษัทของเจียงมั่วหย่วน

วันนี้ไม่ใช่สุดสัปดาห์ ชิงจื้อยังมีสอน

มือข้างหนึ่งของอิ๋งจื่อจินยันศีรษะ มืออีกข้างกำลังไถโทรศัพท์

หลังจากที่เข้าพื้นที่ปิดได้ สมุนไพรหายากก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

ขอเพียงแต่มีรางวัลที่ล่อใจพวกบอสได้ เงินรางวัลที่สูงมากพอก็จะมีคนมารับงานไป

ถึงแม้ช่วงนี้เธอจะไม่เจออาการอะไรที่ยากๆ แต่ตุนสมุนไพรไว้มากหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย

แต่ถ้าตุนก็ต้องใช้เงินอยู่ไม่น้อย

โชคดีที่มีเงินแปดสิบล้านจากอิ๋งลู่เวย

ทุกวันในพื้นที่ปิดของเว็บบอร์ดเอ็นโอเคจะมีคนมาโพสต์งานมากมาย ผู้ดูแลจะแยกโพสต์พวกนี้ตามหมวดหมู่เพื่อสะดวกต่อการประกาศและการค้นหา

ยุโรปมีวงการเล่นแร่แปรธาตุ ประเทศจีนมีวงการแพทย์แผนโบราณ สองวงการนี้มีความต้องการสมุนไพรในปริมาณที่สูงมาก

ดังนั้นโซนสมุนไพรจึงเป็นโซนที่มีการโพสต์งานมากที่สุดของเว็บบอร์ดมาตลอด ราคาก็ย่อมสูงกว่า

อิ๋งจื่อจินกวาดตามองกระทู้ใหม่ หลังจากที่โพสต์ของตัวเองเสร็จเธอก็กดออก

มาที่หน้าหลักอ่านข่าวกอสซิบรายวันเสร็จเธอก็กดรีเฟรชหน้านั้นอีกครั้ง เห็นกระทู้ใหม่ที่เพิ่งโพสต์สดๆ ร้อนๆ

[หัวข้อ : บอสทุกท่าน รู้เรื่องคอนเสิร์ตเมื่อวานที่ฮู่เฉิงประเทศจีนแล้วใช่ไหม]

[เนื้อหา : ผมไม่อยู่ฮู่เฉิง แต่ผมเป็นแฟนคลับของเทพธิดา วีร่า โฮลท์ซ ก็เลยซื้อตั๋วออนไลน์มาหนึ่งใบ

ตะลึงมาก สามเพลงของเทพธิดาผมปรากฏพร้อมกันเป็นครั้งแรก ผมกล้ารับรองเลยว่า นักเปียโนท่านนี้ก็คือ วีร่า โฮลท์ซ!

เพราะเพลงตะวันกับจันทราและเพลงสงครามศักดิ์สิทธิ์ที่เธอเล่นไม่เหมือนกับที่ผมเคยฟังมาก่อนหน้านี้ อีกทั้งโน้ตเพลงบทเพลงแห่งฟลอเรนซ์ที่ขาดหายจนยากที่จะเติม เธอกลับเล่นออกมาได้หมด

อ๊ากกก ผมจะเป็นบ้าแล้ว เทพธิดาของผมยังไม่ตาย เธอคืนชีพแล้ว!]

เครื่องหมายตกใจสามครั้ง แสดงให้เห็นว่าคนโพสต์กระทู้ตื่นเต้นขนาดไหน

อิ๋งจื่อจินอ่านกระทู้นี้ ดวงตาหงส์หรี่ลง นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ

วีร่า โฮลท์ซ เป็นบุคคลโด่งดังในประวัติศาสตร์ดนตรี แต่อันที่จริงไม่ได้มีความนิยมอะไรในพื้นที่ปิดของเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

อย่างไรเสียที่นี่ก็เกี่ยวพันถึงความลับที่ลึกลับที่สุดของทั้งโลก หากเล็ดลอดออกไปเพียงหนึ่งโลกก็จะแตกได้ ตัวตนของเธอเป็นเพียงคนธรรมดาในสายตาของพวกบอสที่คลุกคลีกันอยู่ในนี้

แต่พอมีคำว่าคืนชีพติดมาด้วยก็ดึงดูดให้คนมาสนใจอยู่ไม่น้อย

แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

เธอรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้จึงมีเตรียมการไว้

[คอมเมนต์ที่หนึ่ง : ฉันจำได้ว่าเจ้าของกระทู้เป็นแฟนคลับตัวยงของ วีร่า โฮลท์ซ]

[คอมเมนต์ที่สอง : อ๋อ ได้ยินมาเหมือนกัน เรื่องที่ตายแล้วคืนชีพน่ะมี แต่เว้นสามร้อยปีแล้วมาคืนชีพออกจะเพ้อเจ้อไปหน่อยนะ ขนาดพวกนักเล่นแร่แปรธาตุในวงการรวมถึงพวกนักปรุงยาพิษที่ติดชาร์ตของพวกเรา ยาเปลี่ยนเซลล์มนุษย์ที่ปรุงออกมายังช่วยให้มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเลย]

[คอมเมนต์ที่สิบสอง : ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ ดูตระกูลลอเรนท์…ช่างเถอะๆ ไม่กล้าพูด พูดแล้วเดี๋ยวถูกจับถลกหนัง]

[คอมเมนต์ที่แปดสิบเก้า : ปลูกถ่ายความทรงจำเหรอ พวกนักวิทยาศาสต์เก่งๆ ทำสำเร็จแล้วเหรอ]

ความนิยมของกระทู้นี้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว มีคนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น

ฟู่อวิ๋นเซินย่อมเห็น

ต่อให้เขาไม่เห็น ปกติก็จะมีคนมารายงานความเคลื่อนไหวในพื้นที่ปิดให้เขาฟัง

อีกทั้งเขาเองก็มีความคิดแล้ว

ขนตาของฟู่อวิ๋นเซินขยับ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากลิ้นชักแล้วกดโทร

ผ่านไปสักพักเขาก็แสยะยิ้ม “นายว่า มีความเป็นไปได้ไหมที่ผ่านไปหลายร้อยปี มนุษย์จะพกความทรงจำเดิมกลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 165 ความจริงถูกเปิดเผย!

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 165 ความจริงถูกเปิดเผย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดวงตาของจงมั่นหวาเบิกโพลง ไม่ได้อ่านต่อ

อารมณ์ทุกอย่างทะลักเข้ามา เบื้องหน้ามืดสนิท ล้มไปบนโซฟา

พ่อบ้านตกใจ รีบเดินเข้าไป “คุณนาย!”

“อย่าเข้ามานะ!” จงมั่นหวาเอามือยันโซฟา ฝืนให้ตัวเองกลับขึ้นมานั่งอีกครั้ง ดวงตาของเธอแดงก่ำ ตวาดเสียง “อย่าเข้ามาใกล้ฉัน ยืนอยู่ตรงนั้น”

พ่อบ้านไม่เข้าใจ

แต่นี่เป็นคำสั่งของเจ้านาย เขาจำต้องถอยหลังออกไป ถอยไปจนถึงตำแหน่งที่จงมั่นหวาสั่ง จากนั้นพ่อบ้านถึงลองถามขึ้น “คุณนาย คุณหนูรองก่อเรื่องอะไรอีกแล้วใช่ไหมครับ”

“เธอก็แบบนี้ คุณนายอย่าโมโหไปเลยครับ เดี๋ยวจะเป็นการทำร้ายสุขภาพตัวเองเสียเปล่าๆ”

จงมั่นหวาไม่สนใจพ่อบ้าน สมองของเธอตื้อไปหมด หูก็เหมือนมีเสียงหึ่งๆ ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ตรงหน้าเหลือเพียงคำพูดเดียว หากเป็นเมื่อก่อนเธอจะต้องคิดแน่ว่ามีคนเล่นพิเรนทร์ อย่างไรเสียในหนึ่งปีนี้ที่อิ๋งจื่อจินถูกรับกลับมาที่บ้านตระกูลอิ๋ง เธอกับอิ๋งเจิ้นถิงต่างไม่สนใจมีแค่อิ๋งลู่เวยที่มีความอดทนมากเป็นพิเศษ

ให้อิ๋งจื่อจินเข้าคลาสเด็กอัจฉริยะ สอนอิ๋งจื่อจินเล่นเปียโน ซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับให้มากมาย ทั้งยังช่วยปกป้องอิ๋งจื่อจินเวลาอยู่ต่อหน้าพวกเขา

แต่คอนเสิร์ตเมื่อวานทำให้จงมั่นหวาตระหนักได้ว่า ท่าทีที่อิ๋งลู่เวยมีต่ออิ๋งจื่อจินดูแปลกจริงๆ เธอพยายามสงบสติอารมณ์ จากนั้นถึงกล้าอ่านต่อ

พออ่านจบเธอก็ตัวแข็งทื่อ

เนื้อความในจดหมายไม่ยาว ส่วนใหญ่เป็นหลักฐานต่างๆ

หลักฐานพวกนี้เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า ตอนวันที่ยี่สิบแปด มกราคม ปีสองพันสาม อิ๋งลู่เวยแอบเอาเด็กทารกออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลอิ๋ง จากนั้นก็เอาไปโยนทิ้งในซอยตันข้างถนนที่ไกลออกไป

ถึงแม้จะผ่านไปสิบหกปีแล้ว จงมั่นหวาก็ไม่มีทางลืมวันนั้นเป็นอันขาด เพราะตอนนั้นเพิ่งผ่านตรุษจีน ตระกูลอิ๋งได้ออเดอร์ใหญ่จากตี้ตู ขอเพียงแต่ได้ออเดอร์ใหญ่นี้มาอิ๋งซื่อกรุ๊ปก็จะก้าวขึ้นอีกชั้นได้

ดังนั้นเธอกับอิ๋งเจิ้นถิงถึงได้ออกไปพร้อมกัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้การลงนามในออเดอร์นี้เป็นไปอย่างราบรื่น ปรากฏว่าพอกลับมาตอนเที่ยงคืน เธอก็ไปดูลูกสาวคนเล็กเหมือนตอนปกติ

บนเตียงเด็กอ่อนกลับเหลือเพียงผ้าห่มผืนเดียว เด็กทารกตัวแค่นั้นคลานได้อย่างเดียว วิ่งไปไหนไม่ได้ แต่พวกคนรับใช้หากันจนทั่วคฤหาสน์ก็ไม่พบร่องรอยของเด็กทารก

ราวกับหายไปในอากาศ

ต่อมาตระกูลอิ๋งไปตามหาก็หาไม่พบ

จงมั่นหวาจับจดหมายแน่น คล้ายกับนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงตวาดเสียงอีกครั้ง “พ่อบ้าน!”

พ่อบ้านตัวสั่น รีบขานรับ “คุณนาย”

“เมื่อสิบหกปีก่อน วันที่คุณหนูรองหายไปพ่อบ้านเห็น…เห็น…” จงมั่นหวาหลับตาลง กัดฟัน พูดอย่างยากลำบาก “เห็นลู่เวยออกไปบ้างไหม”

พ่อบ้านอึ้ง ไม่ว่าอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าจงมั่นหวาอยู่ๆ ก็พูดถึงเรื่องนี้ “คุณนาย?”

“พูด!” จงมั่นหวาตบโต๊ะด้วยความโมโห “ถ้าไม่พูดก็ไสหัวออกไปจากบ้านนี้วันนี้เลย”

พ่อบ้านพยายามนึก ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็ตีศีรษะแล้วตอบ “คุณนาย ผมเห็นครับ คุณลู่เวยออกไปตอนสองทุ่มแล้วกลับเข้ามาตอนสองทุ่มครึ่งครับ”

“บอกว่าข้างนอกหิมะตก เธอออกไปเล่นปาหิมะกับเพื่อนๆ มา ผมเห็นตัวเธอเต็มไปด้วยหิมะจึงให้เธอไปอาบน้ำครับ”

ตอนนั้นคุณนายผู้เฒ่าอิ๋งพักผ่อนแล้ว อีกทั้งอิ๋งลู่เวยก็เป็นลูกสาวที่เธอมีตอนอายุเยอะแล้ว

ถ้าเขาปรนนิบัติไม่ดีจะต้องถูกไล่ออกแน่นอน

เล็บของจงมั่นหวาจิกเข้ามือ สูดลมหายใจเข้าลึก “แล้วพ่อบ้านรู้ตอนไหนว่าคุณหนูรองหายไป”

“เรื่องนี้ผมไม่มีทางลืม” ถึงแม้พ่อบ้านจะสงสัย แต่ก็ยังคงตอบ “สองทุ่มห้าสิบครับ ผมจะไปเปลี่ยนขวดนมให้คุณหนูรอง”

เวลาทั้งหมดลงตัวพอดี!

จงมั่นหวาขบฟันแน่นจนรู้สึกได้ถึงรสชาติของเลือด เธอกับอิ๋งเจิ้นถิงเคยสงสัยทุกคนในคฤหาสน์ แต่กลับไม่เคยสงสัยอิ๋งลู่เวย เรียกได้ว่าพวกเขาเห็นอิ๋งลู่เวยมาจนโตถึงแม้จะช่วงรุ่นเดียวกัน แต่พวกเขาก็เอ็นดูอิ๋งลู่เวยเหมือนเป็นรุ่นลูกหลาน อิ๋งลู่เวยก็เป็นเด็กดีตั้งแต่เด็ก ตอนที่เธอยังไม่มีลูกก็รักและเอาใจใส่อิ๋งลู่เวยเป็นอย่างดี จงมั่นหวาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมอิ๋งลู่เวยต้องทำแบบนี้

อีกทั้งตอนปีสองพันสาม อิ๋งลู่เวยเพิ่งจะอายุเท่าไร

แค่แปดขวบเท่านั้น

เด็กแปดขวบจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ออกมาได้ยังไง

จงมั่นหวารับไม่ได้ เธอหยิบโทรศัพท์บ้านด้วยมืออันสั่นเทาแล้วกดโทรข้ามประเทศ พอมีคนรับสายเธอก็พูดด้วยเสียงสะอื้น “เจิ้นถิง รีบกลับมานะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว…”

เพียงชั่วข้ามคืนชื่อเสียงของอิ๋งลู่เวยย่อยยับทันตา

ในเวยปั๋วมีแต่คนด่าเธอ

แฟนคลับของเธอถอนตัวไปหมด ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยเธอตอบโต้ กลับจะช่วยรุมด่าแรงกว่าเดิม ตอนนั้นชอบมากแค่ไหน ตอนนี้ก็ยิ่งเกลียดมากเท่านั้น

อิ๋งลู่เวยหลบอยู่ในคอนโดที่เธอซื้อ ไม่กล้าออกไปไหน

เธอใช้แอคเคาท์รองล็อกอินเข้าเวยปั๋ว ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งยังอัดอั้นตันใจจนแทบระเบิด

โดยเฉพาะคอมเมนต์ที่อยู่ในเวยปั๋วของเธอ ล้วนเป็นไอดีที่มีสัญลักษณ์ของแฟนคลับตัวยง

[นังแพศยา ในที่สุดโฉมหน้าที่แท้จริงของเธอก็ปรากฏ หลายปีมานี้ปั่นหัวพวกเราสนุกนักเหรอ]

[โคตรน่าขยะแขยงเลย ดูคำพูดเมื่อก่อนของหล่อนนะ เห็นได้ชัดเลยว่าจงใจให้พวกเราไปบวก เสี้ยมแฟนคลับ ไม่เคยห้ามแฟนคลับ ทำให้แฟนคลับติดคุก ส่วนตัวเองลอยตัวสบายๆ ทั้งยังทำตัวเรียกคะแนนสงสาร]

[ขยะ ฉันฟ้องเธอแล้ว รอรับหมายศาลได้เลย!]

ฉีเฉียนมีเดียที่เซ็นสัญญากับอิ๋งลู่เวยเห็นท่าไม่ดี จึงฉวยโอกาสตอนกลางคืนที่เรื่องเพิ่งถูกเปิดโปงได้ไม่นาน ออกแถลงการณ์ยกเลิกสัญญาฝ่ายเดียว

ผู้จัดการส่วนตัวก็ขอยุติการร่วมงานกับเธอ หนีไปแล้วเมื่อคืน

คนรอบตัวที่เคยสนับสนุนเธอก็กลับมาเหยียบย่ำเธอทั้งหมด

อิ๋งลู่เวยรู้สึกหนาว น้ำตาไหลไม่หยุด

เธอแน่ใจได้ว่า เบื้องหลังจะต้องมีใครเล่นงานเธออยู่แน่นอน ไม่อย่างนั้นพวกแอคเคาท์จอมแฉเหล่านั้นคงไม่มีทางโพสต์คาไว้แบบนั้น มองข้ามการเตือนของเธอ

เธอหลอกใช้เจียงมั่วหย่วนให้รับอิ๋งจื่อจินกลับมาจากอำเภอชิงสุ่ยเป็นความผิดพลาด

ถ้าเธอไม่รับอิ๋งจื่อจินกลับมา ชาตินี้ตระกูลอิ๋งก็ไม่มีทางเจอตัว

ตอนนี้เธอควรทำยังไง

อิ๋งลู่เวยหวาดกลัว พยายามคิดหาทาง ในที่สุดก็คิดโอกาสสุดท้ายที่จะรอดขึ้นมาได้

ใช่ เธอต้องรีบแต่งเข้าตระกูลเจียงให้เร็วที่สุด ขอเพียงแต่เธอกลายเป็นนายหญิงของตระกูลเจียง ต่อให้ชื่อเสียงของเธอย่อยยับหมดแล้วก็ไม่เป็นไร อิ๋งลู่เวยตั้งสติ เช็ดน้ำตา หลังจากที่จัดการตัวเองเรียบร้อยเธอก็ขับรถไปที่บริษัทของเจียงมั่วหย่วน

วันนี้ไม่ใช่สุดสัปดาห์ ชิงจื้อยังมีสอน

มือข้างหนึ่งของอิ๋งจื่อจินยันศีรษะ มืออีกข้างกำลังไถโทรศัพท์

หลังจากที่เข้าพื้นที่ปิดได้ สมุนไพรหายากก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

ขอเพียงแต่มีรางวัลที่ล่อใจพวกบอสได้ เงินรางวัลที่สูงมากพอก็จะมีคนมารับงานไป

ถึงแม้ช่วงนี้เธอจะไม่เจออาการอะไรที่ยากๆ แต่ตุนสมุนไพรไว้มากหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย

แต่ถ้าตุนก็ต้องใช้เงินอยู่ไม่น้อย

โชคดีที่มีเงินแปดสิบล้านจากอิ๋งลู่เวย

ทุกวันในพื้นที่ปิดของเว็บบอร์ดเอ็นโอเคจะมีคนมาโพสต์งานมากมาย ผู้ดูแลจะแยกโพสต์พวกนี้ตามหมวดหมู่เพื่อสะดวกต่อการประกาศและการค้นหา

ยุโรปมีวงการเล่นแร่แปรธาตุ ประเทศจีนมีวงการแพทย์แผนโบราณ สองวงการนี้มีความต้องการสมุนไพรในปริมาณที่สูงมาก

ดังนั้นโซนสมุนไพรจึงเป็นโซนที่มีการโพสต์งานมากที่สุดของเว็บบอร์ดมาตลอด ราคาก็ย่อมสูงกว่า

อิ๋งจื่อจินกวาดตามองกระทู้ใหม่ หลังจากที่โพสต์ของตัวเองเสร็จเธอก็กดออก

มาที่หน้าหลักอ่านข่าวกอสซิบรายวันเสร็จเธอก็กดรีเฟรชหน้านั้นอีกครั้ง เห็นกระทู้ใหม่ที่เพิ่งโพสต์สดๆ ร้อนๆ

[หัวข้อ : บอสทุกท่าน รู้เรื่องคอนเสิร์ตเมื่อวานที่ฮู่เฉิงประเทศจีนแล้วใช่ไหม]

[เนื้อหา : ผมไม่อยู่ฮู่เฉิง แต่ผมเป็นแฟนคลับของเทพธิดา วีร่า โฮลท์ซ ก็เลยซื้อตั๋วออนไลน์มาหนึ่งใบ

ตะลึงมาก สามเพลงของเทพธิดาผมปรากฏพร้อมกันเป็นครั้งแรก ผมกล้ารับรองเลยว่า นักเปียโนท่านนี้ก็คือ วีร่า โฮลท์ซ!

เพราะเพลงตะวันกับจันทราและเพลงสงครามศักดิ์สิทธิ์ที่เธอเล่นไม่เหมือนกับที่ผมเคยฟังมาก่อนหน้านี้ อีกทั้งโน้ตเพลงบทเพลงแห่งฟลอเรนซ์ที่ขาดหายจนยากที่จะเติม เธอกลับเล่นออกมาได้หมด

อ๊ากกก ผมจะเป็นบ้าแล้ว เทพธิดาของผมยังไม่ตาย เธอคืนชีพแล้ว!]

เครื่องหมายตกใจสามครั้ง แสดงให้เห็นว่าคนโพสต์กระทู้ตื่นเต้นขนาดไหน

อิ๋งจื่อจินอ่านกระทู้นี้ ดวงตาหงส์หรี่ลง นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ

วีร่า โฮลท์ซ เป็นบุคคลโด่งดังในประวัติศาสตร์ดนตรี แต่อันที่จริงไม่ได้มีความนิยมอะไรในพื้นที่ปิดของเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

อย่างไรเสียที่นี่ก็เกี่ยวพันถึงความลับที่ลึกลับที่สุดของทั้งโลก หากเล็ดลอดออกไปเพียงหนึ่งโลกก็จะแตกได้ ตัวตนของเธอเป็นเพียงคนธรรมดาในสายตาของพวกบอสที่คลุกคลีกันอยู่ในนี้

แต่พอมีคำว่าคืนชีพติดมาด้วยก็ดึงดูดให้คนมาสนใจอยู่ไม่น้อย

แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

เธอรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้จึงมีเตรียมการไว้

[คอมเมนต์ที่หนึ่ง : ฉันจำได้ว่าเจ้าของกระทู้เป็นแฟนคลับตัวยงของ วีร่า โฮลท์ซ]

[คอมเมนต์ที่สอง : อ๋อ ได้ยินมาเหมือนกัน เรื่องที่ตายแล้วคืนชีพน่ะมี แต่เว้นสามร้อยปีแล้วมาคืนชีพออกจะเพ้อเจ้อไปหน่อยนะ ขนาดพวกนักเล่นแร่แปรธาตุในวงการรวมถึงพวกนักปรุงยาพิษที่ติดชาร์ตของพวกเรา ยาเปลี่ยนเซลล์มนุษย์ที่ปรุงออกมายังช่วยให้มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเลย]

[คอมเมนต์ที่สิบสอง : ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ ดูตระกูลลอเรนท์…ช่างเถอะๆ ไม่กล้าพูด พูดแล้วเดี๋ยวถูกจับถลกหนัง]

[คอมเมนต์ที่แปดสิบเก้า : ปลูกถ่ายความทรงจำเหรอ พวกนักวิทยาศาสต์เก่งๆ ทำสำเร็จแล้วเหรอ]

ความนิยมของกระทู้นี้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว มีคนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น

ฟู่อวิ๋นเซินย่อมเห็น

ต่อให้เขาไม่เห็น ปกติก็จะมีคนมารายงานความเคลื่อนไหวในพื้นที่ปิดให้เขาฟัง

อีกทั้งเขาเองก็มีความคิดแล้ว

ขนตาของฟู่อวิ๋นเซินขยับ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากลิ้นชักแล้วกดโทร

ผ่านไปสักพักเขาก็แสยะยิ้ม “นายว่า มีความเป็นไปได้ไหมที่ผ่านไปหลายร้อยปี มนุษย์จะพกความทรงจำเดิมกลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+