คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 178 เพื่อนเก่า ญาณเทพพยากรณ์ฟื้นคืน

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 178 เพื่อนเก่า ญาณเทพพยากรณ์ฟื้นคืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เห็นได้ชัดว่าบัญชีนี้เป็นของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

แต่จะใช่อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ตันหรือไม่นั้นก็ไม่มีใครรู้ได้

เหมือนกับผู้กุมอำนาจของตระกูลลอเรนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ตันก็ลึกลับมาก แทบจะไม่เคยปรากฏตัว มีแค่คนใต้บังคับบัญชาคอยช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ให้

เมื่อเทียบกับผู้กุมอำนาจของตระกูลลอเรนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ตันทำให้คนในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคสนใจได้มากกว่า

ได้ยินว่าอธิการบดีคนนี้เป็นคนที่มีฝีมือในการเล่นแร่แปรธาตุที่สูงมาก ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในวงการเล่นแร่แปรธาตุของยุโรป แต่คนในวงการที่สู้เขาได้ก็แทบจะไม่มี

ถึงขนาดที่มีข่าวลือว่า นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งที่ไม่เคยปรากฏตัวก็คืออธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

พอคอมเมนต์นี้ออกมากระทู้ก็ถูกล๊อกอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่มีคอมเมนต์ใหม่ต่อท้ายอีก

หลังจากได้รับข้อมูลที่แน่นอน อิ๋งจื่อจินก็กดลบกระทู้นี้ทิ้ง

เธอหลุบตาลง นึกถึงเรื่องเมื่อนานมาแล้ว

หลังจากเธอกลับสู่โลกมนุษย์เธอก็ได้อ่านประวัติศาสตร์ในช่วงสองร้อยกว่าปีที่เธอไม่อยู่ทั้งหมด

ก็เหมือนที่ในประวัติศาสตร์บันทึกไว้ ซีซาร์ ลอเรนท์ ผู้กุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลลอเรนท์ตายในการถูกลอบสังหาร ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุเพียงสามสิบสามปี

ต่อมาตระกูลลอเรนท์ถึงล่มสลายในทันที ไม่ใช่ผู้ปกครองฟลอเรนซ์อีกต่อไป

อันที่จริงก็ไม่ถึงกับล่มสลาย แต่เสื่อมโทรม

เธอช่วยซีซาร์แก้จุดจบของตัวเอง แต่เนื่องจากเขาไม่ใช่คนธรรมดาแบบซังเย่าจือ จึงมีข้อจำกัดที่มากกว่า

หนึ่งในนั้นก็คือ ต้องผ่านไปนานมาก กว่าซีซาร์ ลอเรนท์จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

ดังนั้นเธอได้แช่แข็งเขาก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป

มิฉะนั้นต่อให้ร่างกายของซีซาร์ ลอเรนท์ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุก็ไม่มีทางมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ได้

เหมือนกับจอมยุทธ์โบราณที่ยืดอายุขัยของมนุษย์ไปจนถึงขีดสุด หลังจากที่ผ่านการดัดแปลงในวงการเล่นแร่แปรธาตุ อายุขัยก็จะเพิ่มขึ้น

ดูความแข็งแรงของร่างกาย มีชีวิตอยู่ได้สองสามร้อยปี แต่ไม่มีทางเกินสามร้อยห้าสิบปี

สำหรับโลกมนุษย์ทั่วไป สามร้อยห้าสิบปีถือเป็นตัวเลขที่เกินจริงไปมาก

แต่เดิมทีก็มีคนทั่วไปเคยอายุยืนถึงหนึ่งร้อยสามสิบปี ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร

ความสามารถที่แฝงอยู่ในตัวมนุษย์ไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะสมอง

แน่นอนว่าบนโลกนี้ยังมีสิ่งเหนือธรรมชาติอื่นๆ อีก เพียงแต่ประกาศออกไปไม่ได้

ยกตัวอย่างเช่นคนกลุ่มนั้น เนื่องด้วยสาเหตุบางอย่างพวกเขาจึงสามารถมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาว

บังเอิญมากที่เธอรู้จักอยู่หลายคนในนั้น เธอถึงได้ไม่อยากปรากฏตัว

ปลดล๊อกการแช่แข็ง ซีซาร์ ลอเรนท์คืนชีพ กลับมากุมอำนาจในฟลอเรนซ์อีกครั้ง

ด้วยเหตุนี้ตระกูลลอเรนท์ถึงได้ปรากฏแก่สายตาของทุกคนอีกครั้งในช่วงเกือบหนึ่งร้อยปีนี้

เรื่องเดียวที่เธอคาดไม่ถึงคือ คนขี้งกอย่างเขา หลับไปตื่นมา ความสามารถในการทำธุรกิจกลับพัฒนาขึ้นอยู่ไม่น้อย

เมื่อก่อนเป็นแค่เศรษฐีในยุโรป ตอนนี้กลายเป็นระดับโลกแล้ว

ส่วนคนบ้าที่ชอบเล่นแร่แปรธาตุคนนั้น…

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด

เธออยากจะไปพบหน้าแล้ว

เธอหยิบปฏิทินที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาดูวันที่

เวินทิงหลานสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จเธอค่อยไปยุโรป

สภาพจิตใจของน้องชายเธอสำคัญกว่า จะปล่อยให้สภาพจิตใจของเขาได้รับการกระทบกระเทือนมากเกินไปไม่ได้อีก

ทันใดนั้นก็มีข้อความเด้งขึ้นมาอัตโนมัติจากศูนย์กลางผู้ใช้งาน

อิ๋งจื่อจินเหลือบมอง อยากปิดทิ้ง

ไอดีของอีกฝ่ายมีแค่เลขสิบ ภาพโปรไฟล์ก็ไม่ใส่

10 : [กลับมาแล้วเหรอ]

เทพพยากรณ์ : [คิดเสียว่าฉันตายไปแล้ว]

10 : […]

10 : [ดีมาก ตอบแบบนี้แหละใช่เธอ]

เทพพยากรณ์ : [ไม่มีธุระก็อย่ามาทัก มีก็ไม่ได้เหมือนกัน]

10 : [ดูท่าฉันแขวนเธอไว้บนอันดับหนึ่งของชาร์ตเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว สักวันหนึ่งต้องบีบเธอจนออกมาได้]

พวกนักล่าไม่รู้ว่าคนที่แขวนอันดับหนึ่งของชาร์ตก็คือคนในของเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

สมาพันธ์ลับก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 1496 วันที่อิ๋งจื่อจินลงทะเบียนใช้งานก็คือวันก่อตั้ง

แรกเริ่มสุดสมาพันธ์ลับมีแค่สี่คน

แต่บังเอิญมากที่อีกสามคนก็คือคนที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานจริงๆ

ตอนที่ล๊อกอินเข้าไอดีนี้ อิ๋งจื่อจินก็รู้อยู่แล้วว่าจะถูกเจอตัว

ชื่อไอดีนี้แท้จริงแล้วก็คือฉายาตอนที่ลงทะเบียนสมาพันธ์ลับ รหัสลับก็คือเลขประจำตัว

มีแค่ไอดีของเธอที่เป็นแบบนี้ เพราะอีกสามคนรู้ว่าเธอคำนวณออกมาได้เพื่อสะดวกให้เธอล๊อกอิน

เทพพยากรณ์ : [อ่อ หาฉันเจอแล้ว ถือว่าฉันแพ้]

10 : […ฉันผิดไปแล้ว]

10 : [ช่างเถอะ ได้รู้ว่าเธอยังอยู่ก็พอแล้ว แต่จะว่าไป สองร้อยปีมานี้เธอไปอยู่ไหนมา]

เทพพยากรณ์ : [อีกฝ่ายไม่ใช่เพื่อนของคุณ กรุณาเพิ่มเพื่อนก่อนเริ่มการสนทนา]

10 : […]

ณ คฤหาสน์ตระกูลฟู่

หลังจากผู้เฒ่าฟู่กินอาหารเช้าเสร็จก็ทิ้งคนอื่นออกไปเดินเล่นแล้ว

เมื่อก่อนฟู่หมิงเฉิงกับลูกคนอื่นๆ ของผู้เฒ่าฟู่ยังสามารถอ้างเรื่องที่เขาสุขภาพไม่ดี ส่งคนติดตามไปด้วยได้

แต่ตอนนี้สุขภาพของผู้เฒ่าฟู่ดูแข็งแรงกว่าฟู่หมิงเฉิงเสียด้วยซ้ำ พวกเขาใช้ข้ออ้างนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว

บอกว่าติดตามไปคุ้มกัน กลัวเกิดเรื่องขึ้นกับผู้เฒ่าฟู่ ในความเป็นจริงคือจับตาดู

อำนาจผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ในฟู่ซื่อกรุ๊ปยังคงอยู่ในมือของผู้เฒ่าฟู่

และเขายังดีกับฟู่อวิ๋นเซินขนาดนั้น ฟู่หมิงเฉิงจึงกลัวว่าเกิดวันไหนผู้เฒ่าฟู่เลอะเลือนขึ้นมาจะยกหุ้นทั้งหมดให้คนไม่เอาไหนที่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

ฟู่หมิงเฉิงก็รู้ว่าเขาไม่มีเหตุผลห้ามผู้เฒ่าฟู่ออกไป ก็แค่ในใจรู้สึกไม่ยอม

เขาหันหน้าไปพูดกับคุณนายฟู่ “คุณว่าคนพวกนั้นเป็นใครกันแน่ ถ้ามีความสามารถจริง ทำไมถึงไม่รักษาผู้เฒ่าให้หายตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน ยังจะยื้อมาอีกสามปีทำไม”

ปล่อยให้พวกเขารอโดยสูญเปล่ามาสามปี ผู้เฒ่าฟู่ก็ยังไม่จากไป

คุณนายฟู่รู้ว่าฟู่หมิงเฉิงไม่ได้อยากให้เธอตอบ แค่ระบายความอัดอั้นตันใจเท่านั้น

ครั้นแล้วจึงปลอบเขา “ไม่ว่ายังไงท่านผู้เฒ่าก็เป็นคุณพ่อของพวกเรา ท่านสุขภาพแข็งแรงพวกเราควรดีใจถึงจะถูก เกิดท่านผู้เฒ่าจากไปจริงๆ ใครจะรู้ว่าเขายกมรดกทั้งหมดให้อวิ๋นเซินหรือเปล่า”

“แบบนี้กลับเป็นเรื่องดี อี้หันจะได้แสดงความเก่งให้คุณพ่อเห็นได้มากหน่อย”

พอพูดถึงลูกชายคนโตสีหน้าของฟู่หมิงเฉิงถึงดีขึ้นมาก “อี้หันก็ใกล้กลับมาจากตี้ตูแล้ว ลูกชายของพวกเราย่อมเก่งที่สุด”

ไม่เหมือนฟู่อวิ๋นเซิน ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด

คุณนายฟู่ก็ใจชื้นขึ้น พูดต่อ “เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันไปบ้านตระกูลเจียงมา หารือกับคุณนายผู้เฒ่าเจียงหลายเรื่อง เธออยากหาคู่หมั้นให้มั่วหย่วนอีกครั้ง คุณก็ช่วยฉันดูหน่อยว่าตระกูลเจียงคนไหนค่อนข้างเหมาะสม”

วันที่ 7 มิถุนายน มีคนมารอที่หน้าสนามสอบตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่งแล้ว

สนามสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะแยกไปตามเขตพื้นที่ที่นักเรียนสมัครสอบ แต่คลาสเด็กอัจฉริยะค่อนข้างพิเศษ สมัครพร้อมกันหมด จึงถูกจัดอยู่ในสนามสอบเดียวกัน

เวินทิงหลานไม่ได้รบกวนอิ๋งจื่อจินกับเวินเฟิงเหมียนที่กำลังพักผ่อนอยู่ เขาไปสนามสอบคนเดียว

พอแปดโมงเวินเฟิงเหมียนก็มา “อวี้อวี้ เกิดอะไรขึ้น ทำไมออกมาคนเดียวล่ะ”

“พ่อ ผมโตขนาดนี้แล้วนะ” มุมปากของเวินทิงหลานเบะลง “ไม่ใช่เด็กเล็กเสียหน่อย”

“ไม่ใช่ก็ไม่ได้เหมือนกัน” เวินเฟิงเหมียนทั้งโมโหทั้งยิ้ม “นี่เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัย สำคัญมาก”

เวินทิงหลานกำมือแน่น

ใช่ สำคัญมาก

เขาไม่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ของมหาวิทยาลัยนอร์ตันแล้ว การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงเป็นเพียงทางออกเดียว

แต่เขามีสภาพจิตใจที่พร้อมสำหรับการสอบมาก

เขารู้สึกว่าคนออกข้อสอบในการสอบของสามโรงเรียนค่อนข้างโง่ทีเดียว

เวินทิงหลานมองไปทางด้านหลังของเวินเฟิงเหมียน ไม่เห็นอิ๋งจื่อจิน เห็นฟู่อวิ๋นเซินที่มาส่งเวินเฟิงเหมียน

แอบรู้สึกเศร้า

“มองหาพี่สาวเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินย่อตัวเล็กน้อย “เรียกพี่ก่อนสิแล้วจะบอก”

เวินทิงหลาน “…”

“ไม่แกล้งแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินยืดตัวขึ้น เอาคางชี้ไปข้างหน้าด้านขวา “พี่สาวนายไปช่วยเอาบัตรประจำตัวสอบให้นาย เดี๋ยวก็มา”

ศาลาพักผ่อน

อาจารย์ที่ปรึกษากำลังแจกบัตรประจำตัวสอบให้นักเรียน

เพื่อป้องกันนักเรียนทำบัตรประจำตัวสอบหาย ชิงจื้อจึงให้อาจารย์เก็บบัตรประจำตัวสอบของนักเรียนในห้องมาตลอด แล้วค่อยแจกก่อนเริ่มการสอบ

อาจารย์ที่ปรึกษาก็เพิ่งมา

อิ๋งจื่อจินเดินไปต่อแถวด้านหลังนักเรียนคนอื่น

เธอสวมเสื้อแขนสั้นกางเกงขายาว สวมหมวกเบสบอล

เป็นการแต่งกายที่ธรรมดาแต่กลับสะดุดตา

ต่อให้เป็นการสอบครั้งใหญ่ที่เครียดขนาดนี้ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการหันมามองถี่ๆ ของคนโดยรอบ

“เอ๊ะ เธอคือ…” อาจารย์ที่ปรึกษาคุ้นหน้าอิ๋งจื่อจิน นึกอยู่ไม่กี่วินาทีถึงพูดด้วยความดีใจ “เธอคือพี่สาวของทิงหลาน ที่หนึ่งของชั้นมอห้า!”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “หนูมาเอาบัตรประจำตัวสอบให้เขาค่ะ”

“ครูเคยได้ยินอาจารย์สวีกับอาจารย์เติ้งพูดถึงเธอ เธอเก่งจริงๆ เลยนะ” อาจารย์ที่ปรึกษาหาบัตรประจำตัวสอบในซองเอกสารพลางพูด “ยีนครอบครัวเธอดีจริงๆ ทิงหลานก็อัจฉริยะ แบบนี้…”

ทันใดนั้นเธอก็หยุดพูด สีหน้าเปลี่ยนไป

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นคะอาจารย์”

“รอเดี๋ยวนะ” อาจารย์ที่ปรึกษาเริ่มร้อนใจ “ขอครูหาอีกรอบ ครูว่าครูเรียงตามเลขประจำตัวไว้นะ”

แต่หาอยู่นานมากอาจารย์ที่ปรึกษาก็หาบัตรประจำตัวสอบไม่เจอ

เธอเทบัตรประจำตัวสอบที่เหลือออกมาวางเรียงบนโต๊ะ แต่ก็ไม่มีของเวินทิงหลาน

“มันเรื่องอะไรกัน” อาจารย์ที่ปรึกษาร้อนใจจนเหงื่อแตก “ครูเอาบัตรประจำตัวสอบของทุกคนมาแล้วนะ แถมยังเช็กดูตั้งหลายรอบ ไม่มีทางที่ของเวินทิงหลานจะหายไป”

การสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่เหมือนกับการสอบปกติ หากไม่มีบัตรประจำตัวสอบ ไม่ว่าอย่างไรก็เข้าไปไม่ได้

“ทำไงดีล่ะ” อาจารย์ที่ปรึกษาจะร้องไห้ “ครูทำบัตรประจำตัวสอบของเวินทิงหลานหาย”

สอนหนังสือมาตั้งหลายปีขนาดนี้ เธอยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน

เสียงดังพอสมควร ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ

“บัตรประจำตัวสอบหาย ไม่น่ามั้ง แบบนั้นจะสอบยังไง”

“คงต้องรออีกปีแล้ว แต่นี่เป็นการสร้างความสะเทือนใจให้นักเรียนมากเลยนะ รออีกปีก็ใช่ว่าจะสอบได้ดี”

“ใครกันซวยขนาดนี้ บัตรประจำตัวสอบหาย”

หาอย่างไรก็หาไม่เจอ น้ำตาของอาจารย์ที่ปรึกษาไหลไม่หยุด พูดเสียงสะอื้น “ครูทำผิดต่อทิงหลาน ถ้าเขาเข้าสอบครั้งนี้ไม่ได้ งั้นก็…”

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลง

เธอหันหน้าแล้วเดินไปทางหนึ่ง

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ มือขวาของเธอก็จับบ่าของนักเรียนหญิงคนหนึ่ง พูดเสียงเย็นชา

“เอาออกมา”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 178 เพื่อนเก่า ญาณเทพพยากรณ์ฟื้นคืน

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 178 เพื่อนเก่า ญาณเทพพยากรณ์ฟื้นคืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เห็นได้ชัดว่าบัญชีนี้เป็นของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

แต่จะใช่อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ตันหรือไม่นั้นก็ไม่มีใครรู้ได้

เหมือนกับผู้กุมอำนาจของตระกูลลอเรนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ตันก็ลึกลับมาก แทบจะไม่เคยปรากฏตัว มีแค่คนใต้บังคับบัญชาคอยช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ให้

เมื่อเทียบกับผู้กุมอำนาจของตระกูลลอเรนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ตันทำให้คนในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคสนใจได้มากกว่า

ได้ยินว่าอธิการบดีคนนี้เป็นคนที่มีฝีมือในการเล่นแร่แปรธาตุที่สูงมาก ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในวงการเล่นแร่แปรธาตุของยุโรป แต่คนในวงการที่สู้เขาได้ก็แทบจะไม่มี

ถึงขนาดที่มีข่าวลือว่า นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งที่ไม่เคยปรากฏตัวก็คืออธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

พอคอมเมนต์นี้ออกมากระทู้ก็ถูกล๊อกอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่มีคอมเมนต์ใหม่ต่อท้ายอีก

หลังจากได้รับข้อมูลที่แน่นอน อิ๋งจื่อจินก็กดลบกระทู้นี้ทิ้ง

เธอหลุบตาลง นึกถึงเรื่องเมื่อนานมาแล้ว

หลังจากเธอกลับสู่โลกมนุษย์เธอก็ได้อ่านประวัติศาสตร์ในช่วงสองร้อยกว่าปีที่เธอไม่อยู่ทั้งหมด

ก็เหมือนที่ในประวัติศาสตร์บันทึกไว้ ซีซาร์ ลอเรนท์ ผู้กุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลลอเรนท์ตายในการถูกลอบสังหาร ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุเพียงสามสิบสามปี

ต่อมาตระกูลลอเรนท์ถึงล่มสลายในทันที ไม่ใช่ผู้ปกครองฟลอเรนซ์อีกต่อไป

อันที่จริงก็ไม่ถึงกับล่มสลาย แต่เสื่อมโทรม

เธอช่วยซีซาร์แก้จุดจบของตัวเอง แต่เนื่องจากเขาไม่ใช่คนธรรมดาแบบซังเย่าจือ จึงมีข้อจำกัดที่มากกว่า

หนึ่งในนั้นก็คือ ต้องผ่านไปนานมาก กว่าซีซาร์ ลอเรนท์จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

ดังนั้นเธอได้แช่แข็งเขาก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป

มิฉะนั้นต่อให้ร่างกายของซีซาร์ ลอเรนท์ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุก็ไม่มีทางมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ได้

เหมือนกับจอมยุทธ์โบราณที่ยืดอายุขัยของมนุษย์ไปจนถึงขีดสุด หลังจากที่ผ่านการดัดแปลงในวงการเล่นแร่แปรธาตุ อายุขัยก็จะเพิ่มขึ้น

ดูความแข็งแรงของร่างกาย มีชีวิตอยู่ได้สองสามร้อยปี แต่ไม่มีทางเกินสามร้อยห้าสิบปี

สำหรับโลกมนุษย์ทั่วไป สามร้อยห้าสิบปีถือเป็นตัวเลขที่เกินจริงไปมาก

แต่เดิมทีก็มีคนทั่วไปเคยอายุยืนถึงหนึ่งร้อยสามสิบปี ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร

ความสามารถที่แฝงอยู่ในตัวมนุษย์ไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะสมอง

แน่นอนว่าบนโลกนี้ยังมีสิ่งเหนือธรรมชาติอื่นๆ อีก เพียงแต่ประกาศออกไปไม่ได้

ยกตัวอย่างเช่นคนกลุ่มนั้น เนื่องด้วยสาเหตุบางอย่างพวกเขาจึงสามารถมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาว

บังเอิญมากที่เธอรู้จักอยู่หลายคนในนั้น เธอถึงได้ไม่อยากปรากฏตัว

ปลดล๊อกการแช่แข็ง ซีซาร์ ลอเรนท์คืนชีพ กลับมากุมอำนาจในฟลอเรนซ์อีกครั้ง

ด้วยเหตุนี้ตระกูลลอเรนท์ถึงได้ปรากฏแก่สายตาของทุกคนอีกครั้งในช่วงเกือบหนึ่งร้อยปีนี้

เรื่องเดียวที่เธอคาดไม่ถึงคือ คนขี้งกอย่างเขา หลับไปตื่นมา ความสามารถในการทำธุรกิจกลับพัฒนาขึ้นอยู่ไม่น้อย

เมื่อก่อนเป็นแค่เศรษฐีในยุโรป ตอนนี้กลายเป็นระดับโลกแล้ว

ส่วนคนบ้าที่ชอบเล่นแร่แปรธาตุคนนั้น…

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด

เธออยากจะไปพบหน้าแล้ว

เธอหยิบปฏิทินที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาดูวันที่

เวินทิงหลานสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จเธอค่อยไปยุโรป

สภาพจิตใจของน้องชายเธอสำคัญกว่า จะปล่อยให้สภาพจิตใจของเขาได้รับการกระทบกระเทือนมากเกินไปไม่ได้อีก

ทันใดนั้นก็มีข้อความเด้งขึ้นมาอัตโนมัติจากศูนย์กลางผู้ใช้งาน

อิ๋งจื่อจินเหลือบมอง อยากปิดทิ้ง

ไอดีของอีกฝ่ายมีแค่เลขสิบ ภาพโปรไฟล์ก็ไม่ใส่

10 : [กลับมาแล้วเหรอ]

เทพพยากรณ์ : [คิดเสียว่าฉันตายไปแล้ว]

10 : […]

10 : [ดีมาก ตอบแบบนี้แหละใช่เธอ]

เทพพยากรณ์ : [ไม่มีธุระก็อย่ามาทัก มีก็ไม่ได้เหมือนกัน]

10 : [ดูท่าฉันแขวนเธอไว้บนอันดับหนึ่งของชาร์ตเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว สักวันหนึ่งต้องบีบเธอจนออกมาได้]

พวกนักล่าไม่รู้ว่าคนที่แขวนอันดับหนึ่งของชาร์ตก็คือคนในของเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

สมาพันธ์ลับก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 1496 วันที่อิ๋งจื่อจินลงทะเบียนใช้งานก็คือวันก่อตั้ง

แรกเริ่มสุดสมาพันธ์ลับมีแค่สี่คน

แต่บังเอิญมากที่อีกสามคนก็คือคนที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานจริงๆ

ตอนที่ล๊อกอินเข้าไอดีนี้ อิ๋งจื่อจินก็รู้อยู่แล้วว่าจะถูกเจอตัว

ชื่อไอดีนี้แท้จริงแล้วก็คือฉายาตอนที่ลงทะเบียนสมาพันธ์ลับ รหัสลับก็คือเลขประจำตัว

มีแค่ไอดีของเธอที่เป็นแบบนี้ เพราะอีกสามคนรู้ว่าเธอคำนวณออกมาได้เพื่อสะดวกให้เธอล๊อกอิน

เทพพยากรณ์ : [อ่อ หาฉันเจอแล้ว ถือว่าฉันแพ้]

10 : […ฉันผิดไปแล้ว]

10 : [ช่างเถอะ ได้รู้ว่าเธอยังอยู่ก็พอแล้ว แต่จะว่าไป สองร้อยปีมานี้เธอไปอยู่ไหนมา]

เทพพยากรณ์ : [อีกฝ่ายไม่ใช่เพื่อนของคุณ กรุณาเพิ่มเพื่อนก่อนเริ่มการสนทนา]

10 : […]

ณ คฤหาสน์ตระกูลฟู่

หลังจากผู้เฒ่าฟู่กินอาหารเช้าเสร็จก็ทิ้งคนอื่นออกไปเดินเล่นแล้ว

เมื่อก่อนฟู่หมิงเฉิงกับลูกคนอื่นๆ ของผู้เฒ่าฟู่ยังสามารถอ้างเรื่องที่เขาสุขภาพไม่ดี ส่งคนติดตามไปด้วยได้

แต่ตอนนี้สุขภาพของผู้เฒ่าฟู่ดูแข็งแรงกว่าฟู่หมิงเฉิงเสียด้วยซ้ำ พวกเขาใช้ข้ออ้างนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว

บอกว่าติดตามไปคุ้มกัน กลัวเกิดเรื่องขึ้นกับผู้เฒ่าฟู่ ในความเป็นจริงคือจับตาดู

อำนาจผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ในฟู่ซื่อกรุ๊ปยังคงอยู่ในมือของผู้เฒ่าฟู่

และเขายังดีกับฟู่อวิ๋นเซินขนาดนั้น ฟู่หมิงเฉิงจึงกลัวว่าเกิดวันไหนผู้เฒ่าฟู่เลอะเลือนขึ้นมาจะยกหุ้นทั้งหมดให้คนไม่เอาไหนที่ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

ฟู่หมิงเฉิงก็รู้ว่าเขาไม่มีเหตุผลห้ามผู้เฒ่าฟู่ออกไป ก็แค่ในใจรู้สึกไม่ยอม

เขาหันหน้าไปพูดกับคุณนายฟู่ “คุณว่าคนพวกนั้นเป็นใครกันแน่ ถ้ามีความสามารถจริง ทำไมถึงไม่รักษาผู้เฒ่าให้หายตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน ยังจะยื้อมาอีกสามปีทำไม”

ปล่อยให้พวกเขารอโดยสูญเปล่ามาสามปี ผู้เฒ่าฟู่ก็ยังไม่จากไป

คุณนายฟู่รู้ว่าฟู่หมิงเฉิงไม่ได้อยากให้เธอตอบ แค่ระบายความอัดอั้นตันใจเท่านั้น

ครั้นแล้วจึงปลอบเขา “ไม่ว่ายังไงท่านผู้เฒ่าก็เป็นคุณพ่อของพวกเรา ท่านสุขภาพแข็งแรงพวกเราควรดีใจถึงจะถูก เกิดท่านผู้เฒ่าจากไปจริงๆ ใครจะรู้ว่าเขายกมรดกทั้งหมดให้อวิ๋นเซินหรือเปล่า”

“แบบนี้กลับเป็นเรื่องดี อี้หันจะได้แสดงความเก่งให้คุณพ่อเห็นได้มากหน่อย”

พอพูดถึงลูกชายคนโตสีหน้าของฟู่หมิงเฉิงถึงดีขึ้นมาก “อี้หันก็ใกล้กลับมาจากตี้ตูแล้ว ลูกชายของพวกเราย่อมเก่งที่สุด”

ไม่เหมือนฟู่อวิ๋นเซิน ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด

คุณนายฟู่ก็ใจชื้นขึ้น พูดต่อ “เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันไปบ้านตระกูลเจียงมา หารือกับคุณนายผู้เฒ่าเจียงหลายเรื่อง เธออยากหาคู่หมั้นให้มั่วหย่วนอีกครั้ง คุณก็ช่วยฉันดูหน่อยว่าตระกูลเจียงคนไหนค่อนข้างเหมาะสม”

วันที่ 7 มิถุนายน มีคนมารอที่หน้าสนามสอบตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่งแล้ว

สนามสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะแยกไปตามเขตพื้นที่ที่นักเรียนสมัครสอบ แต่คลาสเด็กอัจฉริยะค่อนข้างพิเศษ สมัครพร้อมกันหมด จึงถูกจัดอยู่ในสนามสอบเดียวกัน

เวินทิงหลานไม่ได้รบกวนอิ๋งจื่อจินกับเวินเฟิงเหมียนที่กำลังพักผ่อนอยู่ เขาไปสนามสอบคนเดียว

พอแปดโมงเวินเฟิงเหมียนก็มา “อวี้อวี้ เกิดอะไรขึ้น ทำไมออกมาคนเดียวล่ะ”

“พ่อ ผมโตขนาดนี้แล้วนะ” มุมปากของเวินทิงหลานเบะลง “ไม่ใช่เด็กเล็กเสียหน่อย”

“ไม่ใช่ก็ไม่ได้เหมือนกัน” เวินเฟิงเหมียนทั้งโมโหทั้งยิ้ม “นี่เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัย สำคัญมาก”

เวินทิงหลานกำมือแน่น

ใช่ สำคัญมาก

เขาไม่มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ของมหาวิทยาลัยนอร์ตันแล้ว การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงเป็นเพียงทางออกเดียว

แต่เขามีสภาพจิตใจที่พร้อมสำหรับการสอบมาก

เขารู้สึกว่าคนออกข้อสอบในการสอบของสามโรงเรียนค่อนข้างโง่ทีเดียว

เวินทิงหลานมองไปทางด้านหลังของเวินเฟิงเหมียน ไม่เห็นอิ๋งจื่อจิน เห็นฟู่อวิ๋นเซินที่มาส่งเวินเฟิงเหมียน

แอบรู้สึกเศร้า

“มองหาพี่สาวเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินย่อตัวเล็กน้อย “เรียกพี่ก่อนสิแล้วจะบอก”

เวินทิงหลาน “…”

“ไม่แกล้งแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินยืดตัวขึ้น เอาคางชี้ไปข้างหน้าด้านขวา “พี่สาวนายไปช่วยเอาบัตรประจำตัวสอบให้นาย เดี๋ยวก็มา”

ศาลาพักผ่อน

อาจารย์ที่ปรึกษากำลังแจกบัตรประจำตัวสอบให้นักเรียน

เพื่อป้องกันนักเรียนทำบัตรประจำตัวสอบหาย ชิงจื้อจึงให้อาจารย์เก็บบัตรประจำตัวสอบของนักเรียนในห้องมาตลอด แล้วค่อยแจกก่อนเริ่มการสอบ

อาจารย์ที่ปรึกษาก็เพิ่งมา

อิ๋งจื่อจินเดินไปต่อแถวด้านหลังนักเรียนคนอื่น

เธอสวมเสื้อแขนสั้นกางเกงขายาว สวมหมวกเบสบอล

เป็นการแต่งกายที่ธรรมดาแต่กลับสะดุดตา

ต่อให้เป็นการสอบครั้งใหญ่ที่เครียดขนาดนี้ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการหันมามองถี่ๆ ของคนโดยรอบ

“เอ๊ะ เธอคือ…” อาจารย์ที่ปรึกษาคุ้นหน้าอิ๋งจื่อจิน นึกอยู่ไม่กี่วินาทีถึงพูดด้วยความดีใจ “เธอคือพี่สาวของทิงหลาน ที่หนึ่งของชั้นมอห้า!”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “หนูมาเอาบัตรประจำตัวสอบให้เขาค่ะ”

“ครูเคยได้ยินอาจารย์สวีกับอาจารย์เติ้งพูดถึงเธอ เธอเก่งจริงๆ เลยนะ” อาจารย์ที่ปรึกษาหาบัตรประจำตัวสอบในซองเอกสารพลางพูด “ยีนครอบครัวเธอดีจริงๆ ทิงหลานก็อัจฉริยะ แบบนี้…”

ทันใดนั้นเธอก็หยุดพูด สีหน้าเปลี่ยนไป

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นคะอาจารย์”

“รอเดี๋ยวนะ” อาจารย์ที่ปรึกษาเริ่มร้อนใจ “ขอครูหาอีกรอบ ครูว่าครูเรียงตามเลขประจำตัวไว้นะ”

แต่หาอยู่นานมากอาจารย์ที่ปรึกษาก็หาบัตรประจำตัวสอบไม่เจอ

เธอเทบัตรประจำตัวสอบที่เหลือออกมาวางเรียงบนโต๊ะ แต่ก็ไม่มีของเวินทิงหลาน

“มันเรื่องอะไรกัน” อาจารย์ที่ปรึกษาร้อนใจจนเหงื่อแตก “ครูเอาบัตรประจำตัวสอบของทุกคนมาแล้วนะ แถมยังเช็กดูตั้งหลายรอบ ไม่มีทางที่ของเวินทิงหลานจะหายไป”

การสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่เหมือนกับการสอบปกติ หากไม่มีบัตรประจำตัวสอบ ไม่ว่าอย่างไรก็เข้าไปไม่ได้

“ทำไงดีล่ะ” อาจารย์ที่ปรึกษาจะร้องไห้ “ครูทำบัตรประจำตัวสอบของเวินทิงหลานหาย”

สอนหนังสือมาตั้งหลายปีขนาดนี้ เธอยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน

เสียงดังพอสมควร ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ

“บัตรประจำตัวสอบหาย ไม่น่ามั้ง แบบนั้นจะสอบยังไง”

“คงต้องรออีกปีแล้ว แต่นี่เป็นการสร้างความสะเทือนใจให้นักเรียนมากเลยนะ รออีกปีก็ใช่ว่าจะสอบได้ดี”

“ใครกันซวยขนาดนี้ บัตรประจำตัวสอบหาย”

หาอย่างไรก็หาไม่เจอ น้ำตาของอาจารย์ที่ปรึกษาไหลไม่หยุด พูดเสียงสะอื้น “ครูทำผิดต่อทิงหลาน ถ้าเขาเข้าสอบครั้งนี้ไม่ได้ งั้นก็…”

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลง

เธอหันหน้าแล้วเดินไปทางหนึ่ง

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ มือขวาของเธอก็จับบ่าของนักเรียนหญิงคนหนึ่ง พูดเสียงเย็นชา

“เอาออกมา”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+