อิ๋งจื่อจินเงยหน้า มองไปตามทางที่ตี้อู่เย่ว์ชี้

สองวันมานี้ก็ได้ตี้อู่เย่ว์นำทางให้เธอ

แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้ฟรีๆ

วันละหนึ่งพัน แถมยังต้องรวมค่ากินค่าที่พัก

สมาพันธ์ลับเป็นแค่สถานที่เพื่อให้สมาชิกได้ทำการค้าต่อกัน ไม่ใช่ประเทศ จึงไม่มีสกุลเงินกลางที่ใช้แลกเปลี่ยน ดังนั้นเวลาที่สมาชิกทำการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ โดยทั่วไปจะยึดตามความเคยชินและสัญชาติของตัวเอง

เพื่อให้สมาชิกซื้อขายกันได้สะดวก โซนล่ารางวัลจึงมีสาขาของธนาคารใหญ่ๆ ทั่วโลก

“นั่นก็คือที่ที่พวกนักล่าแข่งขันกัน” ตี้อู่เย่ว์พูด “ถ้านักล่าบนชาร์ตแพ้ก็จะตกอันดับ สลับอันดับกับคนที่ชนะ”

นั่นเป็นอาคารที่สูงเสียดฟ้า มีทั้งหมดแปดสิบแปดชั้น

ชั้นบนสุดของอาคารมีคำว่า ‘เฮอร์มิท’ (นักบวช)

ไพ่ทาโรต์สำรับใหญ่ใบที่สิบ ลำดับที่เก้า

ชื่อภาษาอังกฤษของสมาพันธ์ลับเมื่อแปลออกมาก็คือ เฮอร์มิท

ตลาดใต้ดินของฮู่เฉิงที่เธอไปตอนแรกสุดเธอก็เคยเห็นคำว่า เฮอร์มิท เป็นของสมาพันธ์ลับ

การเปลี่ยนแปลงของชาร์ตที่เกิดจากการแข่งขันของเหล่านักล่าในโซนนักล่าไม่เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงอันดับของครั้งก่อนที่นักแม่นปืนอันดับเจ็ดตาย

ถ้าตาย นักล่าคนนี้ก็จะไม่มีความสามารถในการแข่งขันอีกแล้ว อันดับตรงนั้นก็จะว่างลง จึงมีการเลื่อนอันดับถัดไปขึ้นมา

แต่ก็ไม่ใช่ว่านักล่าทุกคนจะสามารถแข่งขันกันเองได้ ยกตัวอย่างเช่น นักสะกดจิต นักแปลงโฉม นักล่าเหล่านี้ทำได้แค่มอง

แต่การแข่งขันของชาร์ตนักแม่นปืนง่ายกว่ามาก เล็งหัวให้แม่นเป็นพอ

“ฉันสืบข่าวมาแล้ว วันนี้จะมีนักล่าติดชาร์ตมา แถมยังมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นนักล่ายี่สิบอันดับแรก” ตี้อู่เย่ว์พูดด้วยความตื่นเต้น “พี่สาว นี่เป็นโอกาสดีที่หาได้ยาก พี่สาวอยากไปดูสถานที่จริงไหม”

นักล่าติดชาร์ตส่วนใหญ่ไม่มีทางมาโซนนักล่า อุตส่าห์ได้ติดชาร์ตทั้งทีไม่ใช่ง่ายๆ เกิดพลั้งมือพลาดท่าแพ้เข้าจะทำอย่างไร

นักล่าที่มาโซนนักล่าโดยทั่วไปไม่อยู่ในร้อยอันดับแรกของชาร์ต

อยากลองสู้ดูสักตั้ง ต่อให้ก็ยังคงไม่ติดชาร์ตก็ยังสามารถดึงดูดความสนใจของบุคคลที่ทรงอิทธิพลได้

ได้ยินว่าผู้บัญชาการของไอบีไอบางครั้งก็มาที่นี่เพื่อคัดเลือกคนมีฝีมือ

พอเข้าไอบีไอได้ก็ไม่เหมือนกันแล้ว นักล่าที่ไม่สะดุดตาเหล่านี้ก็จะสามารถกลายเป็นเจ้าหน้าที่มืออาชีพ ทั้งยังได้รับเงินเดือน

แต่ไอบีไอมีมาตรฐานที่เข้มงวดมาก ตอนสอบวัดคุณสมบัติยังมีการทดสอบด้วยว่าผู้เข้าสอบมีแนวโน้มจะกระทำความผิดหรือไม่

หลายปีที่ผ่านมานี้ก็ไม่ใช่ว่าฆ่าคนแล้วจะถูกเรียกว่านักล่า ยกตัวอย่างเช่น อวี้เสวี่ยเซิง นักสะกดจิตที่อยู่อันดับสองของชาร์ตคนนี้ มือของเขายังไม่เคยเปื้อนเลือดด้วยซ้ำ

ชาร์ตนักล่าตอนนี้คือสิ่งที่แสดงความสามารถที่แท้จริง

“ไม่รีบ” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย “ฉันมีธุระ จะไปอีกที่หนึ่งก่อน พวกเธอไปเดินเล่นตามสบาย จะไม่ตามฉันไปก็ได้”

“ตามสิ ต้องตาม!” ตี้อู่เย่ว์แน่วแน่ “พี่สาวใจกว้างขนาดนี้ ฉันต้องกอดขาพี่ไว้ให้แน่นถึงฉันจะทำนายไม่เก่ง แต่ถ้าพี่ไม่รังเกียจ ฉันช่วยทำนายให้พี่สาวได้หมดเลยนะ”

พอได้ยินแบบนี้เท้าของอิ๋งจื่อจินก็ชะงัก เธอหันหน้าไป

แววตาของเธอขรึมลง เป็นครั้งแรกที่พูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวด “อย่าเห็นอะไรก็ทำนายไปหมด ทำนายให้น้อยลง ไม่อย่างนั้นจะอายุสั้น”

ตี้อู่เย่ว์อึ้ง อิ๋งจื่อจินเดินไปไกลแล้ว

เธอเกาหัว

แตกต่างจากตระกูลมู่กับตระกูลเนี่ย อันที่จริงตระกูลตี้อู่กำลังเสื่อมถอย

เพราะคนเก่งมีพรสวรรค์โดดเด่นภายในตระกูลต่างอายุสั้น ไม่มีสักคนเดียวที่มีชีวิตอยู่เกินอายุสี่สิบ

พ่อของตี้อู่เย่ว์ก็จากไปเร็วเหมือนกัน ตี้อู่เย่ว์เข้าใจดีตั้งแต่เด็กว่า ยิ่งมีพรสวรรค์ในด้านการทำนายมากเท่าไร ชีวิตก็จะยิ่งสั้นลง บางครั้งเธอยังรู้สึกโชคดีที่ตัวเองค่อนข้างไม่เอาไหน จะได้อายุยืนขึ้นอีกหน่อย

แต่ก็เพราะความไม่เอาไหน เธอจึงช่วยเหลืออะไรไม่ได้

ตี้อู่เฟิงที่เป็นคนความรู้สึกช้ามาตลอดค่อยๆ หันไปมองเด็กสาวที่เดินออกไปพลางครุ่นคิด

“โอ้โหพี่!” ทันใดนั้นตี้อู่เย่ว์ที่อยู่ข้างๆ ก็กระทุ้งเขา “ทหารรับจ้างดาร์กโกลด์ถูกลบชื่อทิ้งแล้ว ใครกันที่ประทานพรขนาดนี้ จัดการเก็บพวกเขาไปหมด”

“จัดการไปก็ดี! คราวก่อนคนพวกนั้นยังจงใจเหยียบภาพยันต์แปดทิศของฉันเสียหายหมด”

ตี้อู่เย่ว์กระทุ้งอยู่นานก็ไม่เห็นตี้อู่เฟิงตอบสนอง

เธอเริ่มไม่พอใจ “พี่ พูดสิ”

สามสิบวินาทีต่อมาตี้อู่เฟิงถึงค่อยๆ อ้าปากพูด

“เธอเหยียบเท้าพี่อยู่”

“…”

…

อีกด้านหนึ่ง

อิ๋งจื่อจินกลับมาใส่หน้ากากอีกครั้งแล้วไปเจอฟู่อวิ๋นเซิน

ดวงตาของเธอหลุบลง กำลังคิดเรื่องในอดีต สาเหตุที่ตี้อู่เซ่าเสียนอายุสั้นขนาดนั้นเป็นเพราะเขาทำนายดวงชะตาให้เธอครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายไม่เพียงแต่จะทำนายออกมาไม่ได้ ยังเป็นการบั่นทอนอายุขัยของตัวเอง ดังนั้นถ้าเธอช่วยปกป้องลูกหลานของตี้อู่เซ่าเสียนได้ก็ช่วย อย่างไรเสียเธอก็เคยติดค้างเขา

นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเธอถึงบอกให้ตี้อู่เย่ว์ทำนายให้น้อยลง ถ้าอยากทำนาย ทางที่ดีให้ใช้อุปกรณ์อย่างไพ่ทาโรต์เข้ามาช่วย เพื่อลดความเสียหายได้บ้าง หลังจากที่อิ๋งจื่อจินมายังพิกัดที่ฟู่อวิ๋นเซินส่งให้ ดวงตาก็ไปหยุดอยู่ที่ตู้กระจก

ภายในตู้กระจกมีอาวุธตั้งโชว์อยู่จำนวนมาก มีปืนเหยี่ยวทะเลทรายแบบที่เธอเคยได้มาจากมือปืนอันดับเจ็ด มีอาร์โฟร์ทิไฟฟ์ หรือแม้กระทั่ง เอ็มพีไฟฟเค ก็มี อีกด้านหนึ่งเป็นดาบ กระบี่ คันธนู หอกยาว…มีทั้งของต่างประเทศและของประเทศจีน

อิ๋งจื่อจินละสายตากลับมาแล้วเปิดประตูเข้าไป

ร้านนี้ใหญ่มาก พอเธอเข้าไปก็เห็นรถถังที่อยู่ด้านในสุด

“…”

ยังจะกล้าเอามาขายจริง

ฟู่อวิ๋นเซินอยู่ตรงชั้นวางของด้านขวา หลังจากที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าก็หันมาดวงตาดอกท้อโค้งมน

“เยาเยา มานี่สิ”

อวิ๋นซานที่อยู่ข้างๆ มีท่าทางนอบน้อม ครั้งนี้เขาเรียกจากใจ “คุณอิ๋ง”

“พี่ชายจะเลือกอาวุธไว้ให้เธอป้องกันตัว” ฟู่อวิ๋นเซินลูบศีรษะของเธอ “รอก่อนนะ ยังเลือกไม่เสร็จ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าไม่ปฏิเสธ

เธอนั่งบนโซฟาด้านข้าง ดูวีแชท

มีอยู่ข้อความหนึ่งที่เลขาสาวส่งมา

[บอสคะ รายการวัยรุ่นสร้างฝัน สองศูนย์สอง เริ่มคัดคนมาสัมภาษณ์แล้ว ทางฝ่ายผู้จัดมาหาพวกเราอีกแล้ว ครั้งนี้บอสจะส่งดาราของบริษัทเราไปเข้าร่วมไหมคะ]

รายการวัยรุ่นสร้างฝัน สองศูนย์สอง เป็นซีซั่นสองของรายการวัยรุ่นสร้างฝัน หนึ่งศูนย์หนึ่ง เปลี่ยนตัวเลขเพื่อให้เกิดความแตกต่าง

ตอนที่รายการเฟ้นหาคนมีความสามารถอย่างรายการวัยรุ่นสร้างฝัน หนึ่งศูนย์หนึ่ง เพิ่งออกมา คนในวงการบันเทิงไม่มีใครเห็นแววมีอนาคต ต่างมีท่าทีสงสัย รายการเฟ้นหาคนหลักร้อย ในต่างประเทศไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว แต่ในประเทศกลับใช่ แต่สุดท้ายรายการนี้กลับดังเป็นพลุแตก

นอกจากลั่วจื่อเย่ว์ที่ถูกแบน ดาราที่เหลือได้เดบิวต์ด้วยความสามารถของตัวเอง ตอนนี้ค่าตัวกำลังพุ่งขึ้น ครั้งก่อนชูกวงมีเดียก็ได้รับคำเชิญจากฝ่ายผู้จัดรายการ

อย่างไรเสียก็เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของวงการบันเทิง มีราชาราชินีภาพยนตร์ในสังกัดมากมายขนาดนั้น ถ้าส่งดารามาร่วมรายการได้ก็จะช่วยเรียกกระแสได้มาก

อิ๋งจื่อจินเงียบไปสักพักถึงตอบ

[เข้าร่วม ส่งรายชื่อเด็กฝึกในบริษัทมาให้หน่อย เดี๋ยวฉันเลือกเอง]

เลขาสาวตอบกลับอย่างรวดเร็ว

[ได้ค่ะ เดี๋ยวรวบรวมเสร็จแล้วฉันจะส่งให้นะคะ]

จากนั้นก็มีอีกข้อความส่งมา

[พวกเขายังอยากเชิญราชาภาพยนตร์ซังไปเป็นโค้ชด้วย เพียงแต่ครั้งนี้อยากเชิญเขาไปเป็นโค้ชเต้นค่ะ]

ซังเย่าจือเป็นดาราชั้นแนวหน้า ในฐานะที่เป็นราชาภาพยนตร์ เรื่องร้องเต้นก็ทำได้หมดเช่นกัน ครั้งนี้อิ๋งจื่อจินไม่ต้องพิจารณา ตอบกลับทันที

[ไม่ตอบรับคำเชิญนี้ ไม่มีความจำเป็น]

ด้วยสถานะของซังเย่าจือ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปเป็นโค้ช

ถ้าไปก็แค่เพื่อเรียกกระแสให้รายการ หลังจากตอบข้อความเสร็จอิ๋งจื่อจินก็เงยหน้ากวาดตามองสินค้าที่อยู่บนชั้น น่าสนใจพอสมควรก่อนที่เธอจากโลกนี้ไปเมื่อครั้งก่อนของพวกนี้ได้ถูกคิดค้นขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ยังเป็นแบบง่ายๆ ไม่ได้มีหลายชนิดแบบนี้เหยี่ยวทะเลทรายที่เธอเอามาจากนักแม่นปืนอันดับเจ็ดยังคงอยู่บนตู้เสื้อผ้าเคยใช้แค่ไม่กี่ครั้ง

เธอยังคิดอยู่ว่าจะหาโอกาสเอาไปประมูลขายในเว็บสากลอย่างสตาร์

“นี่เป็น พีไนท์ทิทู ตัวใหม่ครับ” อวิ๋นซานวางลงบนโต๊ะ “คุณอิ๋ง จุดเด่นของมันอยู่ที่ใส่กระสุนได้จำนวนมาก อานุภาพพอใช้ได้ ใช้ป้องกันตัวก็เพียงพอแล้วครับ”

“นี่เป็น อาร์โฟทีน จุดเด่นของมันอยู่ที่บรรจุกระสุนได้เร็ว อานุภาพของมันรุนแรงกว่า พีไนท์ทิทู แต่แรงดีดของมันก็แรงมากเช่นกัน แต่นี่ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับคุณอิ๋งครับ”

อวิ๋นซานหยุดเล็กน้อยแล้วพูดเสียงเบา “ยังมีเตรียมแบบอื่นไว้ให้คุณอิ๋งอีก แต่ด้วยความที่ล้ำค่ามากเลยไม่ได้วางโชว์ไว้ข้างนอก คุณชายกำลังไปเอามาให้คุณครับ”

“อืม ฉันเคยได้ยิน” อิ๋งจื่อจินรับมาพลางครุ่นคิด “ชื่ออาวุธของเกมหนีตายในมือถือ”

พอคำพูดนี้จบลง ทั้งร้านก็เกิดความเงียบ

ลูกค้าทั้งหมดภายในร้านต่างมองมาทางนี้

หลังจากที่สายตามองมายังเด็กสาวก็เจือไปด้วยความตกใจและดูถูก

“ถูกต้องครับ เป็นชื่ออาวุธในเกมครับ” อวิ๋นซานไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่เหมาะ “ดังนั้นคุณอิ๋งลองดูนะครับว่าชอบแบบไหน”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ฉันต้องการอะไหล่บางอย่าง”

อวิ๋นซานอึ้ง ชั่วขณะนั้นไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร

“อะไหล่เหรอครับ” เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ฟังถึงตรงนี้ก็ยิ้ม “คุณคงไม่ได้อยากประกอบเองใช่ไหมครับ คุณรู้หรือเปล่าว่ามันคืออะไร หลักการของมันเป็นอย่างไร”

แม้แต่ความรู้พวกนี้ยังไม่มี แถมยังได้ยินมาจากเกม พูดโม้แบบนี้ก็ได้เหรอ