คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 212 สติแตกแล้ว ตัวตนของบอสชั้นแล้วชั้นเล่า

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 212 สติแตกแล้ว ตัวตนของบอสชั้นแล้วชั้นเล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ใช่ มีเกมยิงปืนแบบนั้นอยู่จริง โดยจำลองอาวุธอย่างปืนหรือหน้าไม้เพื่อเป็นอาวุธในเกม

สมาชิกของสมาพันธ์ลับก็เป็นคน มีอารมณ์ความรู้สึกแบบปุถุชน ย่อมเคยเล่นเกมหนีตายที่นิยมไปทั่วโลกเกมนี้

ถึงขนาดที่มีสมาชิกหลายคนที่อยู่อันดับสูงในเกม แต่พวกเขาก็เล่นเอาสนุกๆ ยามว่าง ไม่เคยจริงจัง

เกมยิงปืนแบบนี้เป็นการจำลองของจริงมาไว้ในเกม ไม่ว่าจะเป็นฉาก แผนที่ ระบบเสียง หรือความรู้สึกตอนยิง ล้วนสมจริงมาก เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นสามารถเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างแท้จริง

แต่ต่อให้เกมจะสมจริงแค่ไหนก็เป็นของปลอมอยู่ดี

นี่เป็นปืนของจริงกระสุนจริง เทียบกับในเกมได้เหรอ

ในเกมแค่กดไม่กี่ปุ่มก็ยิงถูกศัตรูแล้ว

ชีวิตจริงแค่สภาพร่างกายไม่พร้อม แม้แต่กระสุนนัดเดียวก็ยิงไม่ไป กระดูกก็อาจแตกได้ด้วยซ้ำ

ร้านนี้เป็นร้านขายอาวุธร้านใหญ่บนเกาะ ชื่อเสียงโด่งดังมาก

ต่อให้เป็นนักล่าติดชาร์ตก็ยังมาซื้ออาวุธที่นี่

แต่ยังไม่มีใครที่คิดว่าตัวเองสามารถใช้อาวุธในชีวิตจริงได้เพียงเพราะเคยได้ยินพวกชื่ออาวุธมาจากในเกม

อวิ๋นซานขมวดคิ้ว หันไปมองเด็กหนุ่มคนนั้น

อ่อ ไม่รู้จัก

งั้นก็ไม่ใช่บุคคลที่ทรงอิทธิพลอะไร

“คุณผู้หญิงของเราจะประกอบเป็นหรือไม่เกี่ยวอะไรกับนายด้วย” อวิ๋นซานกลอกตามองบน “ต่อให้ไม่เป็น ของพวกนี้ก็เป็นของเธอ ไม่ใช่ของนาย บ้านนายอยู่ริมทะเลเหรอ ถึงได้ใจกว้างชอบยุ่งเรื่องคนอื่น”

เด็กหนุ่มจุกกับคำพูดนี้ เริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาทันที “แล้วยังไงล่ะ เธอใช้ก็มีแต่เสียของเปล่าๆ”

อาร์สี่สิบห้า (R45) รุ่นใหม่นำเข้ามาแค่สามกระบอก

อย่าว่าแต่ซื้อเลย แม้แต่สั่งจองเขาก็ยังจองไม่ได้

คนที่สามารถรับสินค้าจากในร้านไปได้เลยมีแต่พวกคนระดับบอสใหญ่

“ยังไม่ต้องพูดเรื่องเสียของหรือเปล่า ต่อให้เสียของ คุณชายของเราก็เอาไปโยนทิ้งน้ำ นายงมหาไม่เจอหรอก” อวิ๋นซานทำเสียงฮึดฮัด “คุณอิ๋งรอสักครู่นะครับ ผมจะไปหาคุณชาย คุณดูไปก่อน เดี๋ยวผมเอาอะไหล่มาให้ครับ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย “รบกวนด้วย”

“ไม่รบกวนครับไม่รบกวน” อวิ๋นซานพูด “การได้บริการคุณถือเป็นเกียรติของผมครับ”

พูดจบเขาก็ออกไปทางประตูด้านหลังเพื่อไปหาฟู่อวิ๋นเซิน

ลูกค้าคนอื่นๆ ก็ละสายตากลับมา

มีแค่เด็กหนุ่มที่ถูกอวิ๋นซานตอกกลับที่มีสายตาไม่พอใจ

“นั่นใครเหรอ” เพื่อนของเขาเดินเข้ามาถามด้วยความสงสัย “เธอไม่รู้จักของพวกนี้ด้วยซ้ำ เข้ามาได้ยังไง”

“ใช้เส้นไงล่ะ ยังจะยังไงได้” เด็กหนุ่มยักไหล่ “หน้าตาก็งั้นๆ ไม่รู้ว่าใครที่ตาถั่ว”

“ช่วงนี้มีคนขึ้นเกาะมาเยอะ” เพื่อนของเขาพูด “สมาชิกใหม่ตอนนี้ความสามารถแย่ลงเรื่อยๆ”

เด็กหนุ่มทำสีหน้าดูถูก “ฉันถึงได้บอกไงว่า ของดีถูกคนใช้เส้นสายเอาไปหมดแล้ว คนที่มีความสามารถจริงๆ กลับไม่ได้ใช้”

อวิ๋นซานกลับมาในเวลาแค่ห้านาที

ครั้งนี้คนที่กลับมาด้วยยังมีฟู่อวิ๋นเซินอีกคน

เนื่องจากแปลงโฉมแล้ว ลูกค้าคนอื่นๆ ในร้านก็ไม่รู้จักเขาเหมือนกัน

แต่ก็รู้ว่าคนที่สามารถเอาสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดจากเจ้าของร้านได้โดยที่ไม่ต้องสั่งจองก็มีอยู่แค่ไม่กี่คน

“อะไหล่” ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าบอกให้อวิ๋นซานเอากล่องที่ถืออยู่วางลง “พี่ชายเลือกมาให้นิดหน่อย”

เขาหยิบกระดาษออกมาอีกปึกหนึ่ง “ภาพแบบ”

อิ๋งจื่อจินรับภาพแบบมาดูไม่กี่วินาทีสมองก็สามารถระบุตำแหน่งของชิ้นส่วนทั้งหมดได้

เธอหยิบปืนอาร์สี่สิบห้า (R45) ขึ้นมาหมุนดูในมือ จากนั้นก็แกะชิ้นส่วนด้านนอกออกอย่างไม่รีบร้อน

ท่าทางของเธอทำให้คนจำนวนไม่น้อยในร้านแทบหยุดหายใจ

อาวุธที่พวกเขาไม่แม้แต่จะได้ครอบครองถูกแยกส่วนไปทั้งแบบนี้

คิดว่ากำลังเล่นเกมอยู่จริงๆ เหรอ

เด็กหนุ่มคนก่อนหน้านี้ทนดูต่อไปไม่ไหว เดินเข้ามาแสยะยิ้ม “ทำปืนดีๆ เสียหมด ฉันก็อยากรอดูว่าเธอจะประกอบอะไรออกมาได้”

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น

อวิ๋นซานหยิบปืนพีเก้าสิบสอง (P92) รุ่นล่าสุดออกมาทันที เล็งไปที่เด็กหนุ่ม “เงียบหน่อย หุบปากไปซะ”

ไม่ว่าจะมาจากความสงสัยหรือปวดใจ หรือด้วยสาเหตุอื่นๆ ลูกค้าที่เหลือต่างก็รุมล้อมเข้ามา

ความเร็วที่เด็กสาวแยกชิ้นส่วนปืนอาร์สี่สิบห้า (R45) จากช้าไปเร็ว คล้ายกับว่าขณะทำก็ได้คำนวณอะไรไปด้วย

เธอใช้เวลาในการแยกชิ้นส่วนปืนอาร์สี่สิบห้า (R45) ไปทั้งสิ้นสามสิบวินาที

จากนั้นเธอก็เริ่มเลือกอะไหล่ภายในกล่องเอามาสับเปลี่ยนอยู่หลายชิ้น ประกอบขึ้นมาใหม่

คนที่มาซื้ออาวุธย่อมเข้าใจเรื่องปืนดี

สีหน้าของลูกค้าหลายคนเปลี่ยนจากไม่ค่อยใส่ใจเป็นเริ่มจับจ้อง

อวิ๋นซานก็ตะลึง ดวงตาเบิกโพลง

สามนาทีต่อมาปืนอาร์สี่สิบห้า (R45) ก็ได้ถูกประกอบขึ้นมาใหม่เสร็จเรียบร้อย

เบากว่าตอนแรกหน่อย ขนาดเล็กลง มองความเปลี่ยนแปลงโดยรวมไม่ค่อยออก

“สถานที่ลองปืนอยู่ด้านหลัง” ฟู่อวิ๋นเซินลุกขึ้น “ไป เด็กน้อย พี่ชายจะพาไป”

ทั้งสองคนเดินตามกันออกไป

เด็กหนุ่มย่อมไม่มีทางพลาดโอกาสดีแบบนี้ ก็รีบตามไปด้วยเช่นกัน

ด้านหลังเป็นสนามยิงปืนขนาดใหญ่ มีเป้ายิงจำนวนมาก สะดวกต่อการลองปืน

อิ๋งจื่อจินจับปืนอาร์สี่สิบห้า (R45) ที่ประกอบขึ้นใหม่ให้เหมาะมือ เล็งไปบนฟ้า

เธอไม่ได้เงยหน้ามอง ออกแรงเหนี่ยวไก

ปัง!

เสียงดังสนั่น

คนที่ตามมาต่างเงยหน้ามองท้องฟ้าทันที

ทว่าผ่านไปหนึ่งวินาที สองวินาที…สิบห้าวินาที ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เด็กหนุ่มทนไม่ไหว พูดเสียดสีอีกครั้ง “ยิงปืนเปล่าหรือไง”

พอเขาพูดจบไม่นาน ทันใดนั้นก็มีวัตถุสีดำตกลงมาจากฟ้า

เป็นนกตัวหนึ่ง

ตกลงบนพื้นดัง ตุบ หัวกับเท้าปักพื้น

เห็นได้ชัดว่าถูกยิง

“…”

ชั่วขณะนั้นบรรยากาศรอบตัวเงียบสนิท

เด็กหนุ่มมองนกตัวนั้นที่อยู่บนพื้นด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ แทบเสียสติในทันที

ใบหน้าร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม

สมองของอวิ๋นซานก็หยุดทำงานไปชั่วขณะ

เพราะเขาติดตามฟู่อวิ๋นเซินไปหลายที่ รวมถึงป่าฝนเขตร้อน ทะเลทราย เขตไร้ผู้คน

ดังนั้นความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสภาพภูมิศาสตร์แบบนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม

เขาย่อมรู้จักนกชนิดนี้

นกนางแอ่นหางแหลม

นกที่บินได้เร็วที่สุด

ปกติความเร็วในการบินของมันจะอยู่ที่ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตอนบินเร็วที่สุดความเร็วสามารถสูงได้ถึง 352.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!

ความเร็วของเฮลิคอปเตอร์ยังแค่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หากมองนกนางแอ่นหางแหลมด้วยตาเปล่าจะเห็นเพียงเหมือนมีเงาสีดำแฉลบผ่านไป

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องจับมัน

อีกทั้งพวกมันแทบจะไม่ลงสู่พื้น เวลาทั้งหมดจะอยู่บนท้องฟ้า

แถมยังบินสูงมาก วิถีกระสุนของอาร์สี่สิบห้า (R45) อย่างไรก็ไม่พอ

ไม่เคยมีนักล่าสัตว์คนไหนสามารถใช้อาร์สี่สิบห้า (R45) ยิงนกนางแอ่นหางแหลมตกลงมาได้จริง

“แก้วิถีกระสุนไปหน่อย พอไหว” อิ๋งจื่อจินเป่าปากกระบอกปืน เก็บอาร์สี่สิบห้า (R45) เข้าปลอก “เก็บขึ้นมาเอาไปย่างกินตอนเย็นแล้วกัน”

ครุ่นคิดเล็กน้อยเธอก็พูดต่อ “ดูเหมือนจะเล็กไปหน่อย เดี๋ยวค่อยจับปลามาเพิ่มอีก”

“อืม จะมีคนไปจับปลา” ทันใดนั้นฟู่อวิ๋นเซินก็ยิ้ม “อาหารทะเลของที่นี่ใช้ได้เลยทีเดียว ยังอยากกินอะไรอีกไหม”

“ปูทะเล” อิ๋งจื่อจินดูแนะนำอาหารที่ศูนย์กลางมาแล้ว “ผัดเผ็ดอร่อย”

“ปูทะเลมีฤทธิ์เย็น เยาเยาเธอ…” ฟู่อวิ๋นเซินชะงักเล็กน้อย เขาหันหน้าไปพูดเสียงเบา “ถึงจะยังไม่ถึงวันนั้นของเดือน แต่กินของพวกนี้ให้น้อยหน่อย”

“…”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่ “จำวันนั้นของฉันได้ด้วยเหรอ”

ขนาดเธอยังไม่จำเลยนะ

“เรื่องสำคัญ จะไม่จำได้ยังไง” ฟู่อวิ๋นเซินไม่พูดอะไรมาก เขาหันหน้าไปเขกอวิ๋นซานที่ยืนนิ่งไปแล้ว “ตอนเย็นย่างเนื้อด้วย”

ทั้งสองคนเดินออกไปทั้งแบบนี้

คนอื่นๆ ในสนามยิงปืนยังยืนอึ้งอยู่

อวิ๋นอู้เดินออกมาจากห้องเก็บอาวุธด้านหลังพร้อมกล่องหลายใบ

นี่เป็นของที่ฟู่อวิ๋นเซินเตรียมไว้ให้อิ๋งจื่อจินใช้ป้องกันตัวโดยเฉพาะ

เขาได้ยินเสียงจากด้านนอก เดินมาด้วยความสงสัย “พี่รอง คิดอะไรอยู่”

“ฉันกำลังคิดว่า…” อวิ๋นซานเริ่มได้สติกลับมา จากนั้นก็มองนกนางแอ่นหางแหลมที่ตัวเองถืออยู่ “โชคดีที่ไม่ใช่สัตว์คุ้มครอง กินแล้วไม่ผิดกฎหมาย”

“…”

โซนนักล่า

ตี้อู่เย่ว์นั่งรออยู่ที่หน้าร้านเนื้อย่างเสียบไม้อยู่นานสองนาน ในที่สุดก็เห็นอิ๋งจื่อจิน

เธอกระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ กวักมือเรียก “พี่สาว ทางนี้ๆ”

อิ๋งจื่อจินเดินเข้าไปหา ยื่นโค้กให้เธอหนึ่งแก้วอย่างใจกว้าง

“ว้าว หน้าร้อนมีน้ำเย็นให้ดื่มคือเรื่องที่สุขที่สุด” ตี้อู่เย่ว์กระดกดื่มอึกใหญ่แล้วเรอออกมา “พี่สาว ฉันซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพวกเราก็เข้าไปดูพวกเขาประลองได้เลย”

“เงินของฉัน”

“…”

“แค่กๆ!” ตี้อู่เย่ว์พูดจริงจัง “พี่สาววางใจได้ วันหน้าฉันจะคืนให้พี่พร้อมดอกเบี้ยเลย”

“เล็กน้อย ไม่ต้องหรอก” อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “จำไว้นะว่าทำนายให้น้อยลง ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำนาย”

“ฉันรู้แล้ว” ตี้อู่เย่ว์ถอนหายใจ “ก็ต้องเป็นเรื่องที่ฉันทำนายได้ด้วยเหมือนกัน อย่างมากก็แค่ทำนายเรื่องความรัก เรื่องใหญ่ๆ ทำนายไม่ได้หรอก”

ตี้อู่เฟิงเดินตามหลังทั้งสองคนอย่างเงียบๆ ยังคงสวมชุดที่เหมือนขอทาน

รูปลักษณ์ของเขาโดดเด่นมาก ดึงดูดสายตาได้ไม่น้อย

“มีนักล่าติดชาร์ตจริงด้วย” ตี้อู่เย่ว์ชี้หน้าจอขนาดใหญ่ที่อยู่บนตึกสูง “นักล่าของชาร์ตนักแม่นปืน”

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลงเล็กน้อย เธอมองไป

บนหน้าจอเป็นรูปผู้หญิงคนหนึ่ง

ผมลอนใหญ่สีทอง ดวงตาสีกรมท่า ใบหน้าแบบคนยุโรป

ด้านข้างมีข้อมูลของเธอโดยสังเขป

ริต้า เบวิน อายุสิบแปดปี

“จึ๊ๆ มิน่าถึงได้กล้าโชว์รูปหรา ที่แท้ก็ตระกูลเบวิน” ตี้อู่เย่ว์ลูบคาง “ฉันพอจะรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่”

บรรดานักล่าส่วนใหญ่จะปกปิดตัวตน แต่ไม่รวมถึงพวกตระกูลใหญ่ที่มีอิทธิพล

เพราะต่อให้ตัวตนถูกเปิดเผยก็มีแค่ไม่กี่คนที่กล้าแตะต้องพวกเขา เว้นเสียแต่จะทนการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งของตระกูลเหล่านี้ได้

อิ๋งจื่อจินมองแล้วละสายตากลับมา “ทำไมเหรอ”

“อ๋อ อันที่จริงฉันก็ไม่แน่ใจหรอก แค่เคยได้ยินคนในบ้านพูดมา” ตี้อู่เย่ว์ดื่มโค้กอึกสุดท้าย “พวกเขากำลังตามหานักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งของชาร์ต”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 212 สติแตกแล้ว ตัวตนของบอสชั้นแล้วชั้นเล่า

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 212 สติแตกแล้ว ตัวตนของบอสชั้นแล้วชั้นเล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ใช่ มีเกมยิงปืนแบบนั้นอยู่จริง โดยจำลองอาวุธอย่างปืนหรือหน้าไม้เพื่อเป็นอาวุธในเกม

สมาชิกของสมาพันธ์ลับก็เป็นคน มีอารมณ์ความรู้สึกแบบปุถุชน ย่อมเคยเล่นเกมหนีตายที่นิยมไปทั่วโลกเกมนี้

ถึงขนาดที่มีสมาชิกหลายคนที่อยู่อันดับสูงในเกม แต่พวกเขาก็เล่นเอาสนุกๆ ยามว่าง ไม่เคยจริงจัง

เกมยิงปืนแบบนี้เป็นการจำลองของจริงมาไว้ในเกม ไม่ว่าจะเป็นฉาก แผนที่ ระบบเสียง หรือความรู้สึกตอนยิง ล้วนสมจริงมาก เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นสามารถเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างแท้จริง

แต่ต่อให้เกมจะสมจริงแค่ไหนก็เป็นของปลอมอยู่ดี

นี่เป็นปืนของจริงกระสุนจริง เทียบกับในเกมได้เหรอ

ในเกมแค่กดไม่กี่ปุ่มก็ยิงถูกศัตรูแล้ว

ชีวิตจริงแค่สภาพร่างกายไม่พร้อม แม้แต่กระสุนนัดเดียวก็ยิงไม่ไป กระดูกก็อาจแตกได้ด้วยซ้ำ

ร้านนี้เป็นร้านขายอาวุธร้านใหญ่บนเกาะ ชื่อเสียงโด่งดังมาก

ต่อให้เป็นนักล่าติดชาร์ตก็ยังมาซื้ออาวุธที่นี่

แต่ยังไม่มีใครที่คิดว่าตัวเองสามารถใช้อาวุธในชีวิตจริงได้เพียงเพราะเคยได้ยินพวกชื่ออาวุธมาจากในเกม

อวิ๋นซานขมวดคิ้ว หันไปมองเด็กหนุ่มคนนั้น

อ่อ ไม่รู้จัก

งั้นก็ไม่ใช่บุคคลที่ทรงอิทธิพลอะไร

“คุณผู้หญิงของเราจะประกอบเป็นหรือไม่เกี่ยวอะไรกับนายด้วย” อวิ๋นซานกลอกตามองบน “ต่อให้ไม่เป็น ของพวกนี้ก็เป็นของเธอ ไม่ใช่ของนาย บ้านนายอยู่ริมทะเลเหรอ ถึงได้ใจกว้างชอบยุ่งเรื่องคนอื่น”

เด็กหนุ่มจุกกับคำพูดนี้ เริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาทันที “แล้วยังไงล่ะ เธอใช้ก็มีแต่เสียของเปล่าๆ”

อาร์สี่สิบห้า (R45) รุ่นใหม่นำเข้ามาแค่สามกระบอก

อย่าว่าแต่ซื้อเลย แม้แต่สั่งจองเขาก็ยังจองไม่ได้

คนที่สามารถรับสินค้าจากในร้านไปได้เลยมีแต่พวกคนระดับบอสใหญ่

“ยังไม่ต้องพูดเรื่องเสียของหรือเปล่า ต่อให้เสียของ คุณชายของเราก็เอาไปโยนทิ้งน้ำ นายงมหาไม่เจอหรอก” อวิ๋นซานทำเสียงฮึดฮัด “คุณอิ๋งรอสักครู่นะครับ ผมจะไปหาคุณชาย คุณดูไปก่อน เดี๋ยวผมเอาอะไหล่มาให้ครับ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย “รบกวนด้วย”

“ไม่รบกวนครับไม่รบกวน” อวิ๋นซานพูด “การได้บริการคุณถือเป็นเกียรติของผมครับ”

พูดจบเขาก็ออกไปทางประตูด้านหลังเพื่อไปหาฟู่อวิ๋นเซิน

ลูกค้าคนอื่นๆ ก็ละสายตากลับมา

มีแค่เด็กหนุ่มที่ถูกอวิ๋นซานตอกกลับที่มีสายตาไม่พอใจ

“นั่นใครเหรอ” เพื่อนของเขาเดินเข้ามาถามด้วยความสงสัย “เธอไม่รู้จักของพวกนี้ด้วยซ้ำ เข้ามาได้ยังไง”

“ใช้เส้นไงล่ะ ยังจะยังไงได้” เด็กหนุ่มยักไหล่ “หน้าตาก็งั้นๆ ไม่รู้ว่าใครที่ตาถั่ว”

“ช่วงนี้มีคนขึ้นเกาะมาเยอะ” เพื่อนของเขาพูด “สมาชิกใหม่ตอนนี้ความสามารถแย่ลงเรื่อยๆ”

เด็กหนุ่มทำสีหน้าดูถูก “ฉันถึงได้บอกไงว่า ของดีถูกคนใช้เส้นสายเอาไปหมดแล้ว คนที่มีความสามารถจริงๆ กลับไม่ได้ใช้”

อวิ๋นซานกลับมาในเวลาแค่ห้านาที

ครั้งนี้คนที่กลับมาด้วยยังมีฟู่อวิ๋นเซินอีกคน

เนื่องจากแปลงโฉมแล้ว ลูกค้าคนอื่นๆ ในร้านก็ไม่รู้จักเขาเหมือนกัน

แต่ก็รู้ว่าคนที่สามารถเอาสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดจากเจ้าของร้านได้โดยที่ไม่ต้องสั่งจองก็มีอยู่แค่ไม่กี่คน

“อะไหล่” ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าบอกให้อวิ๋นซานเอากล่องที่ถืออยู่วางลง “พี่ชายเลือกมาให้นิดหน่อย”

เขาหยิบกระดาษออกมาอีกปึกหนึ่ง “ภาพแบบ”

อิ๋งจื่อจินรับภาพแบบมาดูไม่กี่วินาทีสมองก็สามารถระบุตำแหน่งของชิ้นส่วนทั้งหมดได้

เธอหยิบปืนอาร์สี่สิบห้า (R45) ขึ้นมาหมุนดูในมือ จากนั้นก็แกะชิ้นส่วนด้านนอกออกอย่างไม่รีบร้อน

ท่าทางของเธอทำให้คนจำนวนไม่น้อยในร้านแทบหยุดหายใจ

อาวุธที่พวกเขาไม่แม้แต่จะได้ครอบครองถูกแยกส่วนไปทั้งแบบนี้

คิดว่ากำลังเล่นเกมอยู่จริงๆ เหรอ

เด็กหนุ่มคนก่อนหน้านี้ทนดูต่อไปไม่ไหว เดินเข้ามาแสยะยิ้ม “ทำปืนดีๆ เสียหมด ฉันก็อยากรอดูว่าเธอจะประกอบอะไรออกมาได้”

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น

อวิ๋นซานหยิบปืนพีเก้าสิบสอง (P92) รุ่นล่าสุดออกมาทันที เล็งไปที่เด็กหนุ่ม “เงียบหน่อย หุบปากไปซะ”

ไม่ว่าจะมาจากความสงสัยหรือปวดใจ หรือด้วยสาเหตุอื่นๆ ลูกค้าที่เหลือต่างก็รุมล้อมเข้ามา

ความเร็วที่เด็กสาวแยกชิ้นส่วนปืนอาร์สี่สิบห้า (R45) จากช้าไปเร็ว คล้ายกับว่าขณะทำก็ได้คำนวณอะไรไปด้วย

เธอใช้เวลาในการแยกชิ้นส่วนปืนอาร์สี่สิบห้า (R45) ไปทั้งสิ้นสามสิบวินาที

จากนั้นเธอก็เริ่มเลือกอะไหล่ภายในกล่องเอามาสับเปลี่ยนอยู่หลายชิ้น ประกอบขึ้นมาใหม่

คนที่มาซื้ออาวุธย่อมเข้าใจเรื่องปืนดี

สีหน้าของลูกค้าหลายคนเปลี่ยนจากไม่ค่อยใส่ใจเป็นเริ่มจับจ้อง

อวิ๋นซานก็ตะลึง ดวงตาเบิกโพลง

สามนาทีต่อมาปืนอาร์สี่สิบห้า (R45) ก็ได้ถูกประกอบขึ้นมาใหม่เสร็จเรียบร้อย

เบากว่าตอนแรกหน่อย ขนาดเล็กลง มองความเปลี่ยนแปลงโดยรวมไม่ค่อยออก

“สถานที่ลองปืนอยู่ด้านหลัง” ฟู่อวิ๋นเซินลุกขึ้น “ไป เด็กน้อย พี่ชายจะพาไป”

ทั้งสองคนเดินตามกันออกไป

เด็กหนุ่มย่อมไม่มีทางพลาดโอกาสดีแบบนี้ ก็รีบตามไปด้วยเช่นกัน

ด้านหลังเป็นสนามยิงปืนขนาดใหญ่ มีเป้ายิงจำนวนมาก สะดวกต่อการลองปืน

อิ๋งจื่อจินจับปืนอาร์สี่สิบห้า (R45) ที่ประกอบขึ้นใหม่ให้เหมาะมือ เล็งไปบนฟ้า

เธอไม่ได้เงยหน้ามอง ออกแรงเหนี่ยวไก

ปัง!

เสียงดังสนั่น

คนที่ตามมาต่างเงยหน้ามองท้องฟ้าทันที

ทว่าผ่านไปหนึ่งวินาที สองวินาที…สิบห้าวินาที ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เด็กหนุ่มทนไม่ไหว พูดเสียดสีอีกครั้ง “ยิงปืนเปล่าหรือไง”

พอเขาพูดจบไม่นาน ทันใดนั้นก็มีวัตถุสีดำตกลงมาจากฟ้า

เป็นนกตัวหนึ่ง

ตกลงบนพื้นดัง ตุบ หัวกับเท้าปักพื้น

เห็นได้ชัดว่าถูกยิง

“…”

ชั่วขณะนั้นบรรยากาศรอบตัวเงียบสนิท

เด็กหนุ่มมองนกตัวนั้นที่อยู่บนพื้นด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ แทบเสียสติในทันที

ใบหน้าร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม

สมองของอวิ๋นซานก็หยุดทำงานไปชั่วขณะ

เพราะเขาติดตามฟู่อวิ๋นเซินไปหลายที่ รวมถึงป่าฝนเขตร้อน ทะเลทราย เขตไร้ผู้คน

ดังนั้นความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสภาพภูมิศาสตร์แบบนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม

เขาย่อมรู้จักนกชนิดนี้

นกนางแอ่นหางแหลม

นกที่บินได้เร็วที่สุด

ปกติความเร็วในการบินของมันจะอยู่ที่ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตอนบินเร็วที่สุดความเร็วสามารถสูงได้ถึง 352.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!

ความเร็วของเฮลิคอปเตอร์ยังแค่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หากมองนกนางแอ่นหางแหลมด้วยตาเปล่าจะเห็นเพียงเหมือนมีเงาสีดำแฉลบผ่านไป

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องจับมัน

อีกทั้งพวกมันแทบจะไม่ลงสู่พื้น เวลาทั้งหมดจะอยู่บนท้องฟ้า

แถมยังบินสูงมาก วิถีกระสุนของอาร์สี่สิบห้า (R45) อย่างไรก็ไม่พอ

ไม่เคยมีนักล่าสัตว์คนไหนสามารถใช้อาร์สี่สิบห้า (R45) ยิงนกนางแอ่นหางแหลมตกลงมาได้จริง

“แก้วิถีกระสุนไปหน่อย พอไหว” อิ๋งจื่อจินเป่าปากกระบอกปืน เก็บอาร์สี่สิบห้า (R45) เข้าปลอก “เก็บขึ้นมาเอาไปย่างกินตอนเย็นแล้วกัน”

ครุ่นคิดเล็กน้อยเธอก็พูดต่อ “ดูเหมือนจะเล็กไปหน่อย เดี๋ยวค่อยจับปลามาเพิ่มอีก”

“อืม จะมีคนไปจับปลา” ทันใดนั้นฟู่อวิ๋นเซินก็ยิ้ม “อาหารทะเลของที่นี่ใช้ได้เลยทีเดียว ยังอยากกินอะไรอีกไหม”

“ปูทะเล” อิ๋งจื่อจินดูแนะนำอาหารที่ศูนย์กลางมาแล้ว “ผัดเผ็ดอร่อย”

“ปูทะเลมีฤทธิ์เย็น เยาเยาเธอ…” ฟู่อวิ๋นเซินชะงักเล็กน้อย เขาหันหน้าไปพูดเสียงเบา “ถึงจะยังไม่ถึงวันนั้นของเดือน แต่กินของพวกนี้ให้น้อยหน่อย”

“…”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่ “จำวันนั้นของฉันได้ด้วยเหรอ”

ขนาดเธอยังไม่จำเลยนะ

“เรื่องสำคัญ จะไม่จำได้ยังไง” ฟู่อวิ๋นเซินไม่พูดอะไรมาก เขาหันหน้าไปเขกอวิ๋นซานที่ยืนนิ่งไปแล้ว “ตอนเย็นย่างเนื้อด้วย”

ทั้งสองคนเดินออกไปทั้งแบบนี้

คนอื่นๆ ในสนามยิงปืนยังยืนอึ้งอยู่

อวิ๋นอู้เดินออกมาจากห้องเก็บอาวุธด้านหลังพร้อมกล่องหลายใบ

นี่เป็นของที่ฟู่อวิ๋นเซินเตรียมไว้ให้อิ๋งจื่อจินใช้ป้องกันตัวโดยเฉพาะ

เขาได้ยินเสียงจากด้านนอก เดินมาด้วยความสงสัย “พี่รอง คิดอะไรอยู่”

“ฉันกำลังคิดว่า…” อวิ๋นซานเริ่มได้สติกลับมา จากนั้นก็มองนกนางแอ่นหางแหลมที่ตัวเองถืออยู่ “โชคดีที่ไม่ใช่สัตว์คุ้มครอง กินแล้วไม่ผิดกฎหมาย”

“…”

โซนนักล่า

ตี้อู่เย่ว์นั่งรออยู่ที่หน้าร้านเนื้อย่างเสียบไม้อยู่นานสองนาน ในที่สุดก็เห็นอิ๋งจื่อจิน

เธอกระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ กวักมือเรียก “พี่สาว ทางนี้ๆ”

อิ๋งจื่อจินเดินเข้าไปหา ยื่นโค้กให้เธอหนึ่งแก้วอย่างใจกว้าง

“ว้าว หน้าร้อนมีน้ำเย็นให้ดื่มคือเรื่องที่สุขที่สุด” ตี้อู่เย่ว์กระดกดื่มอึกใหญ่แล้วเรอออกมา “พี่สาว ฉันซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพวกเราก็เข้าไปดูพวกเขาประลองได้เลย”

“เงินของฉัน”

“…”

“แค่กๆ!” ตี้อู่เย่ว์พูดจริงจัง “พี่สาววางใจได้ วันหน้าฉันจะคืนให้พี่พร้อมดอกเบี้ยเลย”

“เล็กน้อย ไม่ต้องหรอก” อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “จำไว้นะว่าทำนายให้น้อยลง ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำนาย”

“ฉันรู้แล้ว” ตี้อู่เย่ว์ถอนหายใจ “ก็ต้องเป็นเรื่องที่ฉันทำนายได้ด้วยเหมือนกัน อย่างมากก็แค่ทำนายเรื่องความรัก เรื่องใหญ่ๆ ทำนายไม่ได้หรอก”

ตี้อู่เฟิงเดินตามหลังทั้งสองคนอย่างเงียบๆ ยังคงสวมชุดที่เหมือนขอทาน

รูปลักษณ์ของเขาโดดเด่นมาก ดึงดูดสายตาได้ไม่น้อย

“มีนักล่าติดชาร์ตจริงด้วย” ตี้อู่เย่ว์ชี้หน้าจอขนาดใหญ่ที่อยู่บนตึกสูง “นักล่าของชาร์ตนักแม่นปืน”

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลงเล็กน้อย เธอมองไป

บนหน้าจอเป็นรูปผู้หญิงคนหนึ่ง

ผมลอนใหญ่สีทอง ดวงตาสีกรมท่า ใบหน้าแบบคนยุโรป

ด้านข้างมีข้อมูลของเธอโดยสังเขป

ริต้า เบวิน อายุสิบแปดปี

“จึ๊ๆ มิน่าถึงได้กล้าโชว์รูปหรา ที่แท้ก็ตระกูลเบวิน” ตี้อู่เย่ว์ลูบคาง “ฉันพอจะรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่”

บรรดานักล่าส่วนใหญ่จะปกปิดตัวตน แต่ไม่รวมถึงพวกตระกูลใหญ่ที่มีอิทธิพล

เพราะต่อให้ตัวตนถูกเปิดเผยก็มีแค่ไม่กี่คนที่กล้าแตะต้องพวกเขา เว้นเสียแต่จะทนการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งของตระกูลเหล่านี้ได้

อิ๋งจื่อจินมองแล้วละสายตากลับมา “ทำไมเหรอ”

“อ๋อ อันที่จริงฉันก็ไม่แน่ใจหรอก แค่เคยได้ยินคนในบ้านพูดมา” ตี้อู่เย่ว์ดื่มโค้กอึกสุดท้าย “พวกเขากำลังตามหานักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งของชาร์ต”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+