คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 241 สาดความหวาน ยื่นหน้ามาให้ตบเฉย

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 241 สาดความหวาน ยื่นหน้ามาให้ตบเฉย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ผู้บัญชาการ?”

ดูเหมือนเธอจะติดเรียกคำนี้แล้ว จึงเรียกอีกครั้ง ยังคงใช้โทนเสียงธรรมดา เจือไปด้วยความเย็นชานิดหน่อยตามความเคยชิน

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าขึ้น ดวงตาขยับ

เห็นเด็กสาวหันหน้ามามองเขา EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq วูบไหวแพรวพราว

สะท้อนรับแสงแดดนอกหน้าต่าง คล้ายภูเขาเขียวชอุ่มหลังฝนตก ดอกไม้ที่เบ่งบานหลังฝนกระหน่ำ กลิ่นหอมอบอวลไปถ้วนทั่ว

ความงดงามกับความเย็นชา สองบุคลิกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงได้ผสมผสานอย่างลงตัวอยู่ในตัวเธอ

ไร้ซึ่งความขัดแย้งใดๆ กลับงดงามจนน่าตะลึงเสียด้วยซ้ำ

พอเห็นเขามองมาเธอก็เลิกคิ้ว

“หืม? คนคนนั้นยื่นข้อเสนออะไรล่ะ” นิ้วของฟู่อวิ๋นเซินที่หนีบหน้าหนังสืออยู่ชะงักลง เหลือบมองด้วยหางตา “พี่ชายให้สองเท่า โอเคไหม”

ระบบป้องกันของไอบีไอถูกเพิ่มความแข็งแกร่งเมื่อตอนที่เขาเพิ่งคลุกคลีกับเทคนิคแฮกคอมพิวเตอร์

ถ้าปล่อยให้บอสใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามแฮกเข้าไปได้จริง ก็เท่ากับเขาทำมันสูญเปล่า ถึงแม้เขาจะไม่เคยประลองฝีมือในเน็ตกับอิ๋งจื่อจิน EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq ถ้าลงมือจริงก็มีความเป็นไปได้สูงว่าไฟร์วอลจะเอาไม่อยู่ และตอนนี้เขาก็ไม่ยุ่งเรื่องที่เกี่ยวกับการแฮกแล้วด้วย

ถ้าไฟร์วอลของไอบีไอเกิดข้อผิดพลาด แบบนั้นคนที่หลบซ่อนอยู่ในมุมมืดทั่วโลก รวมถึงอิทธิพลที่คิดจะมาแทนที่ไอบีไอก็คงจะโผล่พ้นน้ำออกมาอย่างต่อเนื่อง

“งั้นอาจจะไม่ได้” อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เขาบอกว่าเขาจะให้ยาพิษที่เพิ่งคิดค้น”

หยุดเล็กน้อยแล้วพูดต่อ ยังคงจริงจัง “คงไม่มีนักปรุงยาพิษคนไหนเก่งไปกว่าเขาอีกแล้ว”

ฟู่อวิ๋นเซินหุบยิ้ม หรี่ตาลง “คนที่ขายครีมกันแดดเหรอ”

เขารู้ว่าอันดับสามของชาร์ตนักปรุงยาพิษคือใคร

เขาคิดมาตลอดว่าโรงพยาบาลบ้าที่ไหนสักแห่งคงปิดประตูไม่สนิท คนป่วยก็เลยหนีออกมาได้ ปกตินักปรุงยาพิษจะทำตัวลับลมคมใน ปรากฏว่าหมอนี่กลับเปิดเผยขายครีมกันแดดอยู่ที่ชายหาด ถ้าไม่ติดว่าหมอนี่ไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎละก็ คงโดนจับไปนานแล้ว

แต่ก็ไม่มีนักปรุงยาพิษคนไหนที่เก่งไปกว่าคนนี้แล้วจริงๆ

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งไม่เคยปรากฏตัว ไม่มีแม้แต่ร่องรอย

ส่วนนักปรุงยาพิษอันดับสองเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยมไอบีไอล่าตัวมานาน แต่ก็จับนักปรุงยาพิษอันดับสองเข้าคุกไม่ได้สักที

เพราะคนทั่วไปไม่มีทางรับพิษไหว

ต่อให้สภาพร่างกายของพวกนักสืบกับตำรวจสากลจะเกินคนปกติยังไงก็ไม่มีทางเป็นอมตะถูกพิษแล้วไม่เป็นไรได้

“เขานั่นแหละ” อิ๋งจื่อจินหาวออกมา ถามด้วยความสนใจ “อยากช่วยเขาไหม”

“เด็กน้อย ใจร้ายอีกแล้วนะ” ฟู่อวิ๋นเซินปิดหนังสือ นั่งที่เก้าอี้กินข้าว “พวกเรารู้จักกันมานานขนาดนี้ เธอกับเขาเพิ่งจะรู้จักกันนานเท่าไร นี่ก็จะช่วยคนนอกรังแกพี่ชายแล้วเหรอ”

แต่เขากลับรู้จุดประสงค์ที่เธอขอซื้อยาพิษจากคนบ้าคนนี้

เพื่อหยั่งเชิงนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง

ตระกูลเบวินบอกว่าติดต่อนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งที่ลึกลับคนนี้ได้แล้ว แต่เขาขี้เกียจสืบ ก็ไม่รู้ว่าตัวจริงหรือตัวปลอม

แต่มีความเป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าตัวปลอม ตอนนี้เขาไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรกับพวกนักปรุงยาพิษ จึงไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร

“ก็แค่ถามดู” อิ๋งจื่อจินไม่รีบร้อน เธอเคาะแป้นพิมพ์ “ผู้บัญชาการอย่าถือสาเลยนะ”

ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว สีหน้าเอื่อยเฉื่อย “เยาเยา จงใจแกล้งพี่ชายใช่ไหม”

“เปล่านะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “แค่ลองถามดูจริงๆ ถ้าคุณยอมฉันก็จะทำ”

ฟู่อวิ๋นเซิน “…”

ได้…เด็กน้อยของเขาเห็นแก่เงินไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ แต่ก็ดีอย่างน้อยความเป็นไปได้ที่จะถูกหลอกก็ไม่มากเท่าไร บนหน้าจอคอมพิวเตอร์

แอทเชิญมากินยา : [ว่าไง ท่านเทพ เพื่อนผมคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลยจริงๆ พวกผมเป็นพลเมืองดี ไม่ทำผิดกฎหมาย เขาก็แค่ปลอมเป็นนักโทษหนีคดีคนหนึ่งเพื่อเข้าไปในสำนักงานใหญ่ไอบีไอ]

แอทเชิญมากินยา : [ใครจะไปรู้ว่าฝีมือการแปลงโฉมของเขาดีเกินไปจนถูกคิดว่าเป็นนักโทษหนีคดีคนนั้นจริงๆ ท่านเทพช่วยหน่อยนะ ช่วยเด็กมันหน่อยปล่อยเขาออกมาเถอะ]

แอทโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์ : [เรื่องนี้ไม่ได้]

แอทเชิญมากินยา : [ทำไมไม่ได้ท่านเทพ ท่านเทพฝีมือดีถึงขั้นแฮกเข้าระบบของเว็บบอร์ดเอ็นโอเคได้เลยนะ! เก่งกว่าบอสใหญ่สมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามที่อ่อนหัดนั่นไม่รู้ตั้งเท่าไร]

แอทโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์ : [เพราะว่าฉันเองก็อ่อนหัด]

แอทเชิญมากินยา : […]

แอทเชิญมากินยา : [ท่านเทพ อย่าใช้น้ำเสียงแบบข้าก็คือพ่อผู้กากเดนของพวกเจ้าแบบนี้ได้ไหม พูดอะไรน่าท้อแท้แบบนั้น]

แอทเชิญมากินยา : [เฮ้อ ช่างเถอะ ผมพอเข้าใจได้ ยังไงซะผู้บัญชาการสูงสุดคนนั้นของไอบีไอก็เก่งจริงๆ เกิดผมส่งท่านเทพเข้าไปติดแทน ผมได้กลายเป็นคนเลวเลยนะ]

แอทโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์ : บอกราคายาพิษของคุณมา]

แอทเชิญมากินยา : [ให้ฟรีแหละ ท่านเทพ ผมส่งข้อมูลให้ในโซนซื้อขายแล้ว ท่านเทพไปดูที่นั่น ไว้ถึงเวลาช่วยอุดหนุนครีมกันแดดของผมหลายๆ หลอดหน่อยนะ (อีโมชันเขินอาย)]

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบเขาอีกไปที่โซนซื้อขายแล้วกดสั่งของ ข้อมูลการจัดส่งสินค้าขึ้นว่าพรุ่งนี้เช้าของน่าจะมาถึง ความเร็วเท่านี้ถือว่าช้ามากแล้ว เพราะของอย่างยาพิษต้องใช้ความระมัดระวังมากในการขนส่ง โดยเฉพาะยาพิษที่นักปรุงยาพิษสติเพี้ยนคนนี้ทำขึ้น มีหลากหลาย แถมแปลกประหลาด

อิ๋งจื่อจินปิดคอมพิวเตอร์แล้วหันไปมองหนังสือที่อยู่ในมือฟู่อวิ๋นเซิน

ตำนานเทพเจ้าเคลติก

เธอก็เคยอ่านหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องที่รู้จักกันในวงกว้าง ซึ่งก็คือกษัตริย์อาร์เธอร์กับอัศวินโต๊ะกลมของเขา อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด เทน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว

“มิน่าคุณถึงซื้อหนังสือเด็กให้ฉัน”

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง คล้ายกับไม่เข้าใจในทันที “หืม?”

ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาถึงนึกเรื่องตอนแรกสุดออก เขาจงใจแกล้งเธอเลยซื้อหนังสือนิทานส่งไปให้เยอะแยะ อิ๋งจื่อจินดื่มน้ำผลไม้จนหมด ได้ข้อสรุป “คุณนั่นแหละที่ชอบ”

จากนั้นเธอก็เรียกออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ “เด็กน้อย”

“…”

ชิงจื้อไม่ได้หารือเรื่องตัวแทนลงแข่งไอเอสซีอยู่นานนัก

อย่างไรเสียทั้งโรงเรียนก็มีอยู่คนเดียว ต้องส่งนักเรียนที่เก่งที่สุดในโรงเรียนไปอยู่แล้ว ยังจะเลือกใครได้อีกนอกจากอิ๋งจื่อจิน หาได้ยากที่ความเห็นของพวกอาจารย์ชิงจื้อจะเป็นไปในทางเดียวกัน แม้หลายคนปกติจะเป็นพวกชอบค้านหัวชนฝาก็ตาม

“อาจารย์ อิ๋งเย่ว์เซวียนนักเรียนห้องผมได้ยินพวกเราคุยกันเรื่องตัวแทนลงแข่ง” อาจารย์สวีดันแว่นตา

“เธอสงสัยว่าทำไมพวกเราไม่เลือกเธอ บอกว่าอยากแข่งกับอิ๋งจื่อจินด้วยความยุติธรรมครับ”

“แข่งอย่างยุติธรรมเหรอ” อาจารย์ฝ่ายวิชาการพูด “แข่งยังไง”

ถ้ามีตัวเลือกมากกว่านี้พวกเขาย่อมจัดการแข่งขันคัดเลือกภายในโรงเรียน แต่นี่ไม่มีใครเทียบอิ๋งจื่อจินได้เลยในเรื่องความรู้วิชาการ ยังต้องแข่งอีกเหรอ

อาจารย์สวีก็จนปัญญา “งั้นอาจารย์ว่าไงดีครับ”

“ไม่ต้องเสียเวลาหรอก” อาจารย์ฝ่ายวิชาการส่ายหน้า “อีกอย่างงานแข่งนานาชาติของไอเอสซีก็จัดก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย ให้เธอตั้งใจเตรียมสอบกับเตรียมตัวไปดีกว่า”

“ให้เธอแบ่งสมาธิมาเตรียมตัวเรื่องนี้มันไม่คุ้มกัน”

อาจารย์สวีพยักหน้า “ผมก็คิดแบบนั้นครับ งั้นผมจะไปบอกเธอ”

“ไปเถอะ” อาจารย์ฝ่ายวิชาการส่ายมือ “ผมจะไปหา ผอ.”

เขาฮัมเพลงมาตลอดทางจนถึงห้องทำงานผู้อำนวยการโรงเรียน เคาะประตูเสร็จก็เดินเข้าไป

“ผอ.ครับ เรื่องตัวแทนลงแข่งไอเอสซีพวกเราตัดสินใจแล้วครับว่าจะให้นักเรียนอิ๋งจื่อจินลงแข่ง” เขาพูด

“ส่งรายชื่อเลยนะครับ”

พอได้ยินแบบนี้ผู้อำนวยการก็เงียบไปชั่วขณะ

“อาจารย์รอเดี๋ยวนะ เรื่องนี้ผมต้องโทรถามเธอก่อนว่ายอมไปหรือเปล่า”

“หา!” อาจารย์ฝ่ายวิชาการถึงงุนงง

“ยังต้องถามความยินยอมด้วยเหรอครับ โอกาสดีขนาดนี้! แบบนี้เข้าวงการวิชาการได้เลยนะครับ”

ผู้อำนวยการกลับไม่คิดแบบนั้น กังวลใจ “ผมยังต้องขอร้องเลยนะ ไม่อย่างนั้นเธอไม่อยากแม้แต่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย”

อาจารย์ฝ่ายวิชาการช็อก “…”

ผู้อำนวยการยกหูโทรศัพท์โต๊ะทำงานแล้วกดหาเบอร์

ดังอยู่สามครั้งก็มีคนรับ

“ค่ะผู้อำนวยการ”

“ผอ.เองนะ นักเรียนอิ๋งจื่อจิน” ผู้อำนวยการอึกอัก

“ทางโรงเรียนมีเรื่องอยากให้เธอช่วยหน่อย อยากให้ช่วยลงแข่งงานวิชาการระดับนานาชาติ งานแข่งนี้ยากมาก นอกจากเธอแล้วทางโรงเรียนก็ไม่เห็นว่าจะมีใครเหมาะสมอีก”

อิ๋งจื่อจิน “ได้ค่ะ”

“ถ้าเธอไม่มีเวลา งั้นก็…” ผู้อำนวยการเบิกตาโพลง กลืนคำพูดที่กำลังจะพูดต่อ “เธอรับปากแล้วเหรอ”

“ค่ะ” ดูเหมือนอิ๋งจื่อจินจะยังง่วงมาก เธอหาวออกมา

“ก็ช่วยทางโรงเรียนไม่ใช่เหรอคะ”

“โอเคๆ!” ผู้อำนวยการตื่นเต้น “งั้นอีกเดี๋ยวจะให้คนส่งข้อมูลการแข่งขันให้เธอนะ”

เขาวางสายอยากจะลุกขึ้นมาเต้น

อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็โล่งอก “งั้นส่งรายชื่อเลยไหมครับ”

“ส่งเลย” ผู้อำนวยการพยักหน้า “ดูท่างานแข่งระดับนานาชาติครั้งนี้ ชิงจื้อจะต้องได้สักรางวัลแน่นอน”

อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็ออกไปด้วยความดีใจ พอเขากลับถึงห้องทำงานก็เห็นมีคนรอเขาอยู่หน้าโต๊ะทำงาน อิ๋งเย่ว์เซวียนโด่งดังมาก อาจารย์ฝ่ายวิชาการจำได้ในทันทียังไม่ทันที่เขาจะได้ถามอะไรเธอก็พูดขึ้น

“อาจารย์คะ ได้ตัวแทนแล้วเหรอคะ”

“ใช่ ได้แล้ว” อาจารย์ฝ่ายวิชาการไม่ปิดบัง “ตอนนี้อาจารย์จะส่งชื่อนักเรียนอิ๋งจื่อจินไป”

อิ๋งเย่ว์เซวียนสูดลมหายใจเข้าลึก

“สรุปว่าแม้แต่สิทธิ์ให้หนูได้แข่งกับเธอพวกอาจารย์ก็จะไม่ให้เหรอคะ แบบนี้ยุติธรรมเหรอคะ”

เธอไม่แย่งไม่ชิงดีชิงเด่นกับใคร แต่โควตานี้สำคัญกับเธอมาก

ถ้าเธอไปแข่งแล้วได้มาสักรางวัล แบบนั้นก็จะเข้าวงการวิชาการได้อย่างมั่นคง

“นักเรียนอิ๋งเย่ว์เซวียน ทางโรงเรียนเลือกตัวแทนก็ย่อมต้องคำนึงถึงหลายด้าน” อาจารย์ฝ่ายวิชาการหุบยิ้ม “ทำไมถึงไม่เลือกเธอ เธอก็น่าจะรู้นะ”

“หนูไม่รู้ค่ะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก “หนูรู้แค่ว่า ยังไม่ทันที่หนูจะได้แข่งกับเธอ พวกอาจารย์ก็ตัดสินว่าหนูแพ้แล้ว”

พอได้ยินแบบนี้อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็อึ้ง “เดี๋ยวนะ…เธอไม่รู้จริงๆ เหรอ”

อิ๋งเย่ว์เซวียนมือเกร็ง เธอรู้สึกงง “อาจารย์หมายถึงอะไรเหรอคะ”

“ได้” อาจารย์ฝ่ายวิชาการพูด “งั้นเธอมาดูเอาเองแล้วกัน”

เขาเปิดคอมพิวเตอร์แล้วค้นผลคะแนนรวมถึงการจัดอันดับของการสอบกลางภาคเทอมที่แล้วออกมาให้อิ๋งเย่ว์เซวียนดู

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 241 สาดความหวาน ยื่นหน้ามาให้ตบเฉย

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 241 สาดความหวาน ยื่นหน้ามาให้ตบเฉย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ผู้บัญชาการ?”

ดูเหมือนเธอจะติดเรียกคำนี้แล้ว จึงเรียกอีกครั้ง ยังคงใช้โทนเสียงธรรมดา เจือไปด้วยความเย็นชานิดหน่อยตามความเคยชิน

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าขึ้น ดวงตาขยับ

เห็นเด็กสาวหันหน้ามามองเขา EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq วูบไหวแพรวพราว

สะท้อนรับแสงแดดนอกหน้าต่าง คล้ายภูเขาเขียวชอุ่มหลังฝนตก ดอกไม้ที่เบ่งบานหลังฝนกระหน่ำ กลิ่นหอมอบอวลไปถ้วนทั่ว

ความงดงามกับความเย็นชา สองบุคลิกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงได้ผสมผสานอย่างลงตัวอยู่ในตัวเธอ

ไร้ซึ่งความขัดแย้งใดๆ กลับงดงามจนน่าตะลึงเสียด้วยซ้ำ

พอเห็นเขามองมาเธอก็เลิกคิ้ว

“หืม? คนคนนั้นยื่นข้อเสนออะไรล่ะ” นิ้วของฟู่อวิ๋นเซินที่หนีบหน้าหนังสืออยู่ชะงักลง เหลือบมองด้วยหางตา “พี่ชายให้สองเท่า โอเคไหม”

ระบบป้องกันของไอบีไอถูกเพิ่มความแข็งแกร่งเมื่อตอนที่เขาเพิ่งคลุกคลีกับเทคนิคแฮกคอมพิวเตอร์

ถ้าปล่อยให้บอสใหญ่ของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามแฮกเข้าไปได้จริง ก็เท่ากับเขาทำมันสูญเปล่า ถึงแม้เขาจะไม่เคยประลองฝีมือในเน็ตกับอิ๋งจื่อจิน EG4YAup2hySgcimq8MkLuB6e34rNB2SF9h94LL1ryzzq ถ้าลงมือจริงก็มีความเป็นไปได้สูงว่าไฟร์วอลจะเอาไม่อยู่ และตอนนี้เขาก็ไม่ยุ่งเรื่องที่เกี่ยวกับการแฮกแล้วด้วย

ถ้าไฟร์วอลของไอบีไอเกิดข้อผิดพลาด แบบนั้นคนที่หลบซ่อนอยู่ในมุมมืดทั่วโลก รวมถึงอิทธิพลที่คิดจะมาแทนที่ไอบีไอก็คงจะโผล่พ้นน้ำออกมาอย่างต่อเนื่อง

“งั้นอาจจะไม่ได้” อิ๋งจื่อจินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เขาบอกว่าเขาจะให้ยาพิษที่เพิ่งคิดค้น”

หยุดเล็กน้อยแล้วพูดต่อ ยังคงจริงจัง “คงไม่มีนักปรุงยาพิษคนไหนเก่งไปกว่าเขาอีกแล้ว”

ฟู่อวิ๋นเซินหุบยิ้ม หรี่ตาลง “คนที่ขายครีมกันแดดเหรอ”

เขารู้ว่าอันดับสามของชาร์ตนักปรุงยาพิษคือใคร

เขาคิดมาตลอดว่าโรงพยาบาลบ้าที่ไหนสักแห่งคงปิดประตูไม่สนิท คนป่วยก็เลยหนีออกมาได้ ปกตินักปรุงยาพิษจะทำตัวลับลมคมใน ปรากฏว่าหมอนี่กลับเปิดเผยขายครีมกันแดดอยู่ที่ชายหาด ถ้าไม่ติดว่าหมอนี่ไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎละก็ คงโดนจับไปนานแล้ว

แต่ก็ไม่มีนักปรุงยาพิษคนไหนที่เก่งไปกว่าคนนี้แล้วจริงๆ

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งไม่เคยปรากฏตัว ไม่มีแม้แต่ร่องรอย

ส่วนนักปรุงยาพิษอันดับสองเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยมไอบีไอล่าตัวมานาน แต่ก็จับนักปรุงยาพิษอันดับสองเข้าคุกไม่ได้สักที

เพราะคนทั่วไปไม่มีทางรับพิษไหว

ต่อให้สภาพร่างกายของพวกนักสืบกับตำรวจสากลจะเกินคนปกติยังไงก็ไม่มีทางเป็นอมตะถูกพิษแล้วไม่เป็นไรได้

“เขานั่นแหละ” อิ๋งจื่อจินหาวออกมา ถามด้วยความสนใจ “อยากช่วยเขาไหม”

“เด็กน้อย ใจร้ายอีกแล้วนะ” ฟู่อวิ๋นเซินปิดหนังสือ นั่งที่เก้าอี้กินข้าว “พวกเรารู้จักกันมานานขนาดนี้ เธอกับเขาเพิ่งจะรู้จักกันนานเท่าไร นี่ก็จะช่วยคนนอกรังแกพี่ชายแล้วเหรอ”

แต่เขากลับรู้จุดประสงค์ที่เธอขอซื้อยาพิษจากคนบ้าคนนี้

เพื่อหยั่งเชิงนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง

ตระกูลเบวินบอกว่าติดต่อนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งที่ลึกลับคนนี้ได้แล้ว แต่เขาขี้เกียจสืบ ก็ไม่รู้ว่าตัวจริงหรือตัวปลอม

แต่มีความเป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าตัวปลอม ตอนนี้เขาไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรกับพวกนักปรุงยาพิษ จึงไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร

“ก็แค่ถามดู” อิ๋งจื่อจินไม่รีบร้อน เธอเคาะแป้นพิมพ์ “ผู้บัญชาการอย่าถือสาเลยนะ”

ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว สีหน้าเอื่อยเฉื่อย “เยาเยา จงใจแกล้งพี่ชายใช่ไหม”

“เปล่านะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “แค่ลองถามดูจริงๆ ถ้าคุณยอมฉันก็จะทำ”

ฟู่อวิ๋นเซิน “…”

ได้…เด็กน้อยของเขาเห็นแก่เงินไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ แต่ก็ดีอย่างน้อยความเป็นไปได้ที่จะถูกหลอกก็ไม่มากเท่าไร บนหน้าจอคอมพิวเตอร์

แอทเชิญมากินยา : [ว่าไง ท่านเทพ เพื่อนผมคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดเลยจริงๆ พวกผมเป็นพลเมืองดี ไม่ทำผิดกฎหมาย เขาก็แค่ปลอมเป็นนักโทษหนีคดีคนหนึ่งเพื่อเข้าไปในสำนักงานใหญ่ไอบีไอ]

แอทเชิญมากินยา : [ใครจะไปรู้ว่าฝีมือการแปลงโฉมของเขาดีเกินไปจนถูกคิดว่าเป็นนักโทษหนีคดีคนนั้นจริงๆ ท่านเทพช่วยหน่อยนะ ช่วยเด็กมันหน่อยปล่อยเขาออกมาเถอะ]

แอทโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์ : [เรื่องนี้ไม่ได้]

แอทเชิญมากินยา : [ทำไมไม่ได้ท่านเทพ ท่านเทพฝีมือดีถึงขั้นแฮกเข้าระบบของเว็บบอร์ดเอ็นโอเคได้เลยนะ! เก่งกว่าบอสใหญ่สมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามที่อ่อนหัดนั่นไม่รู้ตั้งเท่าไร]

แอทโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์ : [เพราะว่าฉันเองก็อ่อนหัด]

แอทเชิญมากินยา : […]

แอทเชิญมากินยา : [ท่านเทพ อย่าใช้น้ำเสียงแบบข้าก็คือพ่อผู้กากเดนของพวกเจ้าแบบนี้ได้ไหม พูดอะไรน่าท้อแท้แบบนั้น]

แอทเชิญมากินยา : [เฮ้อ ช่างเถอะ ผมพอเข้าใจได้ ยังไงซะผู้บัญชาการสูงสุดคนนั้นของไอบีไอก็เก่งจริงๆ เกิดผมส่งท่านเทพเข้าไปติดแทน ผมได้กลายเป็นคนเลวเลยนะ]

แอทโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์ : บอกราคายาพิษของคุณมา]

แอทเชิญมากินยา : [ให้ฟรีแหละ ท่านเทพ ผมส่งข้อมูลให้ในโซนซื้อขายแล้ว ท่านเทพไปดูที่นั่น ไว้ถึงเวลาช่วยอุดหนุนครีมกันแดดของผมหลายๆ หลอดหน่อยนะ (อีโมชันเขินอาย)]

อิ๋งจื่อจินไม่ตอบเขาอีกไปที่โซนซื้อขายแล้วกดสั่งของ ข้อมูลการจัดส่งสินค้าขึ้นว่าพรุ่งนี้เช้าของน่าจะมาถึง ความเร็วเท่านี้ถือว่าช้ามากแล้ว เพราะของอย่างยาพิษต้องใช้ความระมัดระวังมากในการขนส่ง โดยเฉพาะยาพิษที่นักปรุงยาพิษสติเพี้ยนคนนี้ทำขึ้น มีหลากหลาย แถมแปลกประหลาด

อิ๋งจื่อจินปิดคอมพิวเตอร์แล้วหันไปมองหนังสือที่อยู่ในมือฟู่อวิ๋นเซิน

ตำนานเทพเจ้าเคลติก

เธอก็เคยอ่านหนึ่งในนั้นเป็นเรื่องที่รู้จักกันในวงกว้าง ซึ่งก็คือกษัตริย์อาร์เธอร์กับอัศวินโต๊ะกลมของเขา อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด เทน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว

“มิน่าคุณถึงซื้อหนังสือเด็กให้ฉัน”

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง คล้ายกับไม่เข้าใจในทันที “หืม?”

ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาถึงนึกเรื่องตอนแรกสุดออก เขาจงใจแกล้งเธอเลยซื้อหนังสือนิทานส่งไปให้เยอะแยะ อิ๋งจื่อจินดื่มน้ำผลไม้จนหมด ได้ข้อสรุป “คุณนั่นแหละที่ชอบ”

จากนั้นเธอก็เรียกออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ “เด็กน้อย”

“…”

ชิงจื้อไม่ได้หารือเรื่องตัวแทนลงแข่งไอเอสซีอยู่นานนัก

อย่างไรเสียทั้งโรงเรียนก็มีอยู่คนเดียว ต้องส่งนักเรียนที่เก่งที่สุดในโรงเรียนไปอยู่แล้ว ยังจะเลือกใครได้อีกนอกจากอิ๋งจื่อจิน หาได้ยากที่ความเห็นของพวกอาจารย์ชิงจื้อจะเป็นไปในทางเดียวกัน แม้หลายคนปกติจะเป็นพวกชอบค้านหัวชนฝาก็ตาม

“อาจารย์ อิ๋งเย่ว์เซวียนนักเรียนห้องผมได้ยินพวกเราคุยกันเรื่องตัวแทนลงแข่ง” อาจารย์สวีดันแว่นตา

“เธอสงสัยว่าทำไมพวกเราไม่เลือกเธอ บอกว่าอยากแข่งกับอิ๋งจื่อจินด้วยความยุติธรรมครับ”

“แข่งอย่างยุติธรรมเหรอ” อาจารย์ฝ่ายวิชาการพูด “แข่งยังไง”

ถ้ามีตัวเลือกมากกว่านี้พวกเขาย่อมจัดการแข่งขันคัดเลือกภายในโรงเรียน แต่นี่ไม่มีใครเทียบอิ๋งจื่อจินได้เลยในเรื่องความรู้วิชาการ ยังต้องแข่งอีกเหรอ

อาจารย์สวีก็จนปัญญา “งั้นอาจารย์ว่าไงดีครับ”

“ไม่ต้องเสียเวลาหรอก” อาจารย์ฝ่ายวิชาการส่ายหน้า “อีกอย่างงานแข่งนานาชาติของไอเอสซีก็จัดก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย ให้เธอตั้งใจเตรียมสอบกับเตรียมตัวไปดีกว่า”

“ให้เธอแบ่งสมาธิมาเตรียมตัวเรื่องนี้มันไม่คุ้มกัน”

อาจารย์สวีพยักหน้า “ผมก็คิดแบบนั้นครับ งั้นผมจะไปบอกเธอ”

“ไปเถอะ” อาจารย์ฝ่ายวิชาการส่ายมือ “ผมจะไปหา ผอ.”

เขาฮัมเพลงมาตลอดทางจนถึงห้องทำงานผู้อำนวยการโรงเรียน เคาะประตูเสร็จก็เดินเข้าไป

“ผอ.ครับ เรื่องตัวแทนลงแข่งไอเอสซีพวกเราตัดสินใจแล้วครับว่าจะให้นักเรียนอิ๋งจื่อจินลงแข่ง” เขาพูด

“ส่งรายชื่อเลยนะครับ”

พอได้ยินแบบนี้ผู้อำนวยการก็เงียบไปชั่วขณะ

“อาจารย์รอเดี๋ยวนะ เรื่องนี้ผมต้องโทรถามเธอก่อนว่ายอมไปหรือเปล่า”

“หา!” อาจารย์ฝ่ายวิชาการถึงงุนงง

“ยังต้องถามความยินยอมด้วยเหรอครับ โอกาสดีขนาดนี้! แบบนี้เข้าวงการวิชาการได้เลยนะครับ”

ผู้อำนวยการกลับไม่คิดแบบนั้น กังวลใจ “ผมยังต้องขอร้องเลยนะ ไม่อย่างนั้นเธอไม่อยากแม้แต่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย”

อาจารย์ฝ่ายวิชาการช็อก “…”

ผู้อำนวยการยกหูโทรศัพท์โต๊ะทำงานแล้วกดหาเบอร์

ดังอยู่สามครั้งก็มีคนรับ

“ค่ะผู้อำนวยการ”

“ผอ.เองนะ นักเรียนอิ๋งจื่อจิน” ผู้อำนวยการอึกอัก

“ทางโรงเรียนมีเรื่องอยากให้เธอช่วยหน่อย อยากให้ช่วยลงแข่งงานวิชาการระดับนานาชาติ งานแข่งนี้ยากมาก นอกจากเธอแล้วทางโรงเรียนก็ไม่เห็นว่าจะมีใครเหมาะสมอีก”

อิ๋งจื่อจิน “ได้ค่ะ”

“ถ้าเธอไม่มีเวลา งั้นก็…” ผู้อำนวยการเบิกตาโพลง กลืนคำพูดที่กำลังจะพูดต่อ “เธอรับปากแล้วเหรอ”

“ค่ะ” ดูเหมือนอิ๋งจื่อจินจะยังง่วงมาก เธอหาวออกมา

“ก็ช่วยทางโรงเรียนไม่ใช่เหรอคะ”

“โอเคๆ!” ผู้อำนวยการตื่นเต้น “งั้นอีกเดี๋ยวจะให้คนส่งข้อมูลการแข่งขันให้เธอนะ”

เขาวางสายอยากจะลุกขึ้นมาเต้น

อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็โล่งอก “งั้นส่งรายชื่อเลยไหมครับ”

“ส่งเลย” ผู้อำนวยการพยักหน้า “ดูท่างานแข่งระดับนานาชาติครั้งนี้ ชิงจื้อจะต้องได้สักรางวัลแน่นอน”

อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็ออกไปด้วยความดีใจ พอเขากลับถึงห้องทำงานก็เห็นมีคนรอเขาอยู่หน้าโต๊ะทำงาน อิ๋งเย่ว์เซวียนโด่งดังมาก อาจารย์ฝ่ายวิชาการจำได้ในทันทียังไม่ทันที่เขาจะได้ถามอะไรเธอก็พูดขึ้น

“อาจารย์คะ ได้ตัวแทนแล้วเหรอคะ”

“ใช่ ได้แล้ว” อาจารย์ฝ่ายวิชาการไม่ปิดบัง “ตอนนี้อาจารย์จะส่งชื่อนักเรียนอิ๋งจื่อจินไป”

อิ๋งเย่ว์เซวียนสูดลมหายใจเข้าลึก

“สรุปว่าแม้แต่สิทธิ์ให้หนูได้แข่งกับเธอพวกอาจารย์ก็จะไม่ให้เหรอคะ แบบนี้ยุติธรรมเหรอคะ”

เธอไม่แย่งไม่ชิงดีชิงเด่นกับใคร แต่โควตานี้สำคัญกับเธอมาก

ถ้าเธอไปแข่งแล้วได้มาสักรางวัล แบบนั้นก็จะเข้าวงการวิชาการได้อย่างมั่นคง

“นักเรียนอิ๋งเย่ว์เซวียน ทางโรงเรียนเลือกตัวแทนก็ย่อมต้องคำนึงถึงหลายด้าน” อาจารย์ฝ่ายวิชาการหุบยิ้ม “ทำไมถึงไม่เลือกเธอ เธอก็น่าจะรู้นะ”

“หนูไม่รู้ค่ะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก “หนูรู้แค่ว่า ยังไม่ทันที่หนูจะได้แข่งกับเธอ พวกอาจารย์ก็ตัดสินว่าหนูแพ้แล้ว”

พอได้ยินแบบนี้อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็อึ้ง “เดี๋ยวนะ…เธอไม่รู้จริงๆ เหรอ”

อิ๋งเย่ว์เซวียนมือเกร็ง เธอรู้สึกงง “อาจารย์หมายถึงอะไรเหรอคะ”

“ได้” อาจารย์ฝ่ายวิชาการพูด “งั้นเธอมาดูเอาเองแล้วกัน”

เขาเปิดคอมพิวเตอร์แล้วค้นผลคะแนนรวมถึงการจัดอันดับของการสอบกลางภาคเทอมที่แล้วออกมาให้อิ๋งเย่ว์เซวียนดู

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+