คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 257 ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยตี้ตูออกโรง คุณคู่ควรเหรอ

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 257 ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยตี้ตูออกโรง คุณคู่ควรเหรอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เถิงอวิ้นเมิ่งกลับกังวลยิ่งกว่าเดิม

โจทย์ข้อนี้ยากมาก เธอเองก็เพิ่งอ่านโจทย์เสร็จสมองเพิ่งพอจับทางได้แต่ยังไม่เรียบเรียงออกมา

อิ๋งจื่อจินถูกเรียกขึ้นไปแบบนี้จะแก้โจทย์ได้เหรอ

อาจารย์เมิ่งยื่นปากกาเคมีให้ “อย่าเขียนแต่คำตอบ เขียนวิธีคิดพร้อมอธิบายไปด้วย”

พอเริ่มไลฟ์ก็มีข้อความเลื่อนปรากฏขึ้นมากมาย

[นี่ก็คือนักเรียนศิลปินคนนั้นใช่ไหม]

[หน้าตาสวยมาก เข้าวงการบันเทิงได้เลยนะเป็นดาวค้างฟ้าชัวร์]

[ในที่สุดก็ได้เห็นหน้านักเรียนศิลปินคนนี้แล้ว ฉันจะรอดูว่าเธอเก่งจริงหรือเปล่า มีสิทธิ์อะไรได้โควตาทะลุเข้ารอบสุดท้ายของไอเอสซี]

ซิวเหยียนเอามือเสยผมมองไปที่กระดานดำ

ในสายตาของเธออย่างมากอิ๋งจื่อจินมีความรู้แค่ระดับเดียวกับเธอ ถึงขนาดที่อาจสู้เธอไม่ได้ด้วยซ้ำ

เธอก็อยากรอดูเหมือนกันว่าอิ๋งจื่อจินจะแก้โจทย์ได้หรือเปล่า

นักเรียนหญิงที่อยู่ข้างซิวเหยียนแสยะยิ้ม “ไม่มีเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ช่วย เธอจะแก้โจทย์ข้อนี้ยังไง”

ถ้าแก้โจทย์ข้อนี้ไม่ได้ก็ไม่คู่ควรเข้ารอบตัดสิน

“โจทย์ข้อนี้ง่ายมาก” อิ๋งจื่อจินหยิบปากกาเคมีพูดอย่างใจเย็น “ก่อนอื่นให้เราลากเส้นจากจุดนี้ขึ้นมาก่อน จากนั้นก็ใช้สูตรนี้…”

เธอเขียนไปด้วยอธิบายไปด้วย

ไม่เร็วเกินไป แนวทางก็ชัดเจน

สีหน้าของนักเรียนคนอื่นๆ ก็เริ่มจริงจังขึ้นมา

เถิงอวิ้นเมิ่งอ้าปากค้างวิธีแก้โจทย์ของอิ๋งจื่อจินไม่เหมือนเธอเลยสักนิด สั้นลงไปอย่างน้อยๆ ก็หกขั้นตอนเรื่องเวลาสำคัญมากในการแข่งขัน ลดไปหนึ่งขั้นก็สามารถทำโจทย์ได้มากขึ้น

อาจารย์เมิ่งมองวิธีทำแต่ละบรรทัด รู้สึกเหมือนถูกตบที่หน้าแสบร้อนไปหมด

โจทย์ข้อนี้เธอเอามาจากมหาวิทยาลัยตี้ตู เธอก็ย่อมทำแล้ว แต่กลับนึกไม่ถึงว่าโจทย์ข้อนี้ยังแก้แบบนี้ได้ด้วย นักเรียนมัธยมปลายมีความรู้มากกว่าเธออีกเหรอ และแล้วอิ๋งจื่อจินก็เขียนตัวเลขสุดท้ายเสร็จในเวลานี้ “อธิบายจบแล้วค่ะ”

อาจารย์เมิ่งตัวแข็ง รู้สึกจนตรอกอย่างบอกไม่ถูก ไม่กล้าสบตาอิ๋งจื่อจินโดยตรง “ใช่ ถูกต้อง”

อิ๋งจื่อจินเช็ดมือ เดินกลับที่นั่ง

ช่างกล้องรู้จังหวะจับภาพ จึงซูมเข้าไปใกล้แล้วขึ้นข้อความให้เธอ

ภาพบนหน้าจอเป็นเด็กสาวที่ขนตางอนยาว ผิวเนียนขาวละเอียดจนมองไม่เห็นรูขุมขน

ความงามทะลุจออย่างแท้จริง

ข้อความเลื่อนเด้งขึ้นมารัวๆ

[โอ้โห โคตรสวย หายใจไม่ออกแล้ว ฉันจะตายแล้ว]

[สืบมาแล้ว โจทย์ข้อนี้ดัดแปลงมาจากโจทย์ของการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับโลกเมื่อปีที่แล้ว แต่ยากกว่าโจทย์ข้อนั้นมาก]

[อื้อหือ นักเรียนศิลปินเก่งขนาดนี้เลยเหรอ วาดรูปเก่ง คิดเลขก็เก่ง อัจฉริย้า!]

[เอาล่ะๆ ไม่เห็นเหรอว่าก่อนหน้านี้เถิงอวิ้นเมิ่งกระซิบบอกเธอ ฉันว่าคงบอกวิธีทำโจทย์ข้อนี้น่ะแหละ หรือไม่ก็จงใจเตี๊ยมกันไว้เพื่อออกรายการ พวกเธอคาดหวังเหรอว่านักเรียนศิลปินจะแก้โจทย์แข่งขันคณิตศาสตร์ระดับโลกได้]

[อิจฉาสินะ เธอก็แค่อิจฉาที่น้องเขาสวยกว่าเธอ แถมยังฉลาดกว่าด้วย]

รอยยิ้มของซิวเหยียนค่อยๆ หายไป ในที่สุดสีหน้าก็จริงจังขึ้น

เธอก้มมองโทรศัพท์มือถือ

บนหน้าจอเป็นหน้าต่างสนทนาของวีแชท

[คุณหนูใหญ่ครับ อิ๋งจื่อจินที่คุณหนูใหญ่ให้สืบ เธอมาจากโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ ตอนนี้อยู่มอหกห้องสิบเก้า เป็นเพื่อนสนิทกับคุณหนูซิวอวี่ทั้งสองคนสนิทกันมากครับ]

[และก็เป็นเพราะเธอ คุณหนูซิวอวี่ถึงไม่ค่อยเที่ยวกลางคืนแล้วครับ ไปโรงเรียนทุกวัน]

[เธอวาดภาพเก่ง เขียนอักษรพู่กันเป็นจริงๆ ครับ แต่ก็เทียบกับคุณหนูใหญ่ไม่ได้]

พอเห็นชื่อ ‘ซิวอวี่’ แววตาของซิวเหยียนก็วูบไหว ค่อยๆ เย็นชาลง

เธอหันไปมองอิ๋งจื่อจิน ในใจเริ่มมีความขุ่นเคือง

หลังจากที่ซิวเหยียนลบประวัติสนทนานี้ทิ้งก็ส่งข้อความหาผู้จัดการส่วนตัว

[พี่เฉิน ช่วยบอกพวกแฟนคลับของฉันหน่อยว่าคืนนี้ฉันจะไลฟ์]

การถ่ายทอดสดดำเนินไปเพียงสองชั่วโมงหลักๆ คือเริ่มประชาสัมพันธ์ก่อน

อีกหนึ่งเดือนต่อจากนี้ช่างกล้องก็จะตามถ่ายไปเรื่อยๆ แล้วส่งไปให้ทางสถานีโทรทัศน์กลางตัดต่อ

พอจบการติวเถิงอวิ้นเมิ่งก็กรีดร้อง โผเข้ากอดอิ๋งจื่อจิน “จื่อจิน สุดยอดไปเลย เธอคิดได้ยังไง”

“ไม่ได้คิด” อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด “ก็แค่มองผ่านๆ”

เถิงอวิ้นเมิ่ง “…”

เฟิงเย่ว์ “…”

อยู่ๆ พวกเขาก็ตระหนักได้ถึงปัญหาใหญ่

พวกเขาตั้งใจว่าจะช่วยติวให้นักเรียนอิ๋งจื่อจิน แท้จริงแล้วอิ๋งจื่อจินต่างหากที่เป็นเทพไม่เปิดเผยตัว!

เถิงอวิ้นเมิ่งมองตามหลังอิ๋งจื่อจินพลางพูดพึมพำ “เฟิงเย่ว์ พวกเราต้องกอดขาไว้แน่นๆ เลยนะ”

เฟิงเย่ว์พยายามหยิกตัวเอง ผ่อนลมหายใจออกมา “โชคดีที่ไม่ใช่ความฝัน”

นอกห้องเรียนใหญ่

อาจารย์เมิ่งยังไม่ไปไหน

พอเห็นอิ๋งจื่อจินออกมาก็เรียกด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อิ๋งจื่อจิน”

เท้าของอิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย แต่ไม่ได้หยุดเดิน

“อย่าคิดว่าทำโจทย์ได้ข้อเดียวก็หลงระเริงได้แล้วนะ” อาจารย์เมิ่งทำสีหน้ารังเกียจ พูดประชด “ไอเอสซีแข่งขันความรู้หลายด้าน ผลการเรียนเธอไม่มั่นคงขนาดนั้น ต่อไปต้องตั้งใจติวหน่อย อย่าเป็นตัวถ่วงของเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ล่ะ”

อิ๋งจื่อจินถึงหันมา

เธอยังไม่ทันพูดก็ได้ยินเสียงสดใสดังมาจากด้านข้าง

“ผมได้ยินอะไรเข้าครับเนี่ย” เจ้าของเสียงก็คือจั่วหลี เขามองอาจารย์เมิ่ง

“อาจารย์เมิ่ง ดูเหมือนอาจารย์จะไม่พอใจในตัวนักเรียนอิ๋งจื่อจินมากเลยนะครับ”

อาจารย์เมิ่งสีหน้าเปลี่ยน กระอักกระอ่วน “ศาสตราจารย์จั่วหลี”

เธอนึกไม่ถึงว่าจั่วหลีจะมาได้ยินเข้า

“ผมบอกอาจารย์เมิ่งแบบนี้แล้วกัน” จั่วหลียิ้ม พูดแดกดัน “อาจารย์เมิ่งไม่ได้รับหนังสือเชิญจากมหาวิทยาลัยตี้ตูให้ไปเป็นอาจารย์ แต่นักเรียนอิ๋งได้ แต่ว่าเธอก็ไม่สนใจ”

“คุณมีสิทธิ์อะไรไม่พอใจในตัวเธอเหรอครับ คู่ควรเหรอ”

จั่วหลีเป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ไม่เคยมีปัญหากับใคร

แต่ถ้าจะเอาเรื่องใครก็ด่าจนถึงขั้นร้องไห้ได้เลยทีเดียว อาจารย์เมิ่งอายุเกือบสี่สิบแล้ว ได้ยินแบบนี้ก็รับไม่ได้ สีหน้าของเธอซีดลงเล็กน้อย “ศาสตราจารย์จั่วคะ ล้อเล่นอะไรกัน”

นักเรียนมัธยมปลายจะได้หนังสือเชิญไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยตี้ตูได้ยังไง

พูดออกไปก็ไม่มีใครเชื่อ

“ผมไม่ได้ล้อเล่น” จั่วหลีขี้เกียจสนใจเธอ “ถ้าคุณไม่เชื่อ งั้นก็ไปที่ห้องทำงานของผมตอนนี้เลย หนังสือเชิญยังอยู่ในลิ้นชักโต๊ะผม ไปไหมครับ”

“ไม่…ไม่ล่ะค่ะ” อาจารย์เมิ่งถอยหลังไปหลายก้าว รีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว

“ทำเป็นอวดดี” จั่วหลีทำเสียง เฮอะ หันไปพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“นักเรียนอิ๋ง ยาสระผมปลูกผมของเธอน่ะ พวกศาสตราจารย์ในคณะอยากสั่งรวมกันทีเดียว ช่วยลดให้อีกหน่อยได้ไหม”

“…”

ตอนเย็นไม่มีกิจกรรมติว พวกนักเรียนบางคนก็อ่านหนังสือ บางคนก็พักผ่อน

ซิวเหยียนนั่งอยู่ในห้องรับแขกของหอพัก เปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คแล้วไลฟ์

เธอมาร่วมติวไม่ใช่เพื่อลงแข่งรอบสุดท้ายของไอเอสซีแค่อย่างเดียว แต่ยังเพื่อเพิ่มความนิยมในตัวเองอีกด้วย

ดาราคนอื่นไม่กล้าสร้างภาพลักษณ์เด็กเรียน แต่เธอกล้า เธอมีความสามารถนี้

“จริงสิ แนะนำให้ทุกคนรู้จักเพื่อนร่วมหอพักของฉันดีกว่าค่ะ” ซิวอวี่ถือคอมพิวเตอร์แล้วยืนขึ้น ไปเคาะประตูห้องของเถิงอวิ้นเมิ่ง

ประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว

ตรงโซฟาที่อยู่ด้านใน นอกจากเถิงอวิ้นเมิ่งแล้วยังมีอิ๋งจื่อจินอีกคน

เถิงอวิ้นเมิ่งไม่อยากต้อนรับซิวเหยียนแม้แต่น้อย แต่เธอตาไว เห็นซิวเหยียนกำลังไลฟ์สดอยู่ เลยต้องข่มอารมณ์ไว้ “เพื่อนซิวมีธุระอะไรเหรอคะ”

“อยากให้โบนัสพวกแฟนคลับหน่อย” ซิวเหยียนเดินเข้าไปในห้องอย่างไม่เกรงใจ “อิ๋งจื่อจินก็อยู่ด้วย งั้นเดี๋ยวฉันไม่ต้องไปทางนั้นแล้ว”

เธอพูดกับกล้อง “นี่ก็คือเพื่อนสาวหน้าตาดีที่ฉันบอกทุกคนค่ะ ดูสิคะ สวยกว่าฉันอีกใช่ไหม”

ข้อความเลื่อนบนหน้าจอมีแต่คำชม

[ไม่นะๆ เบบี๋เหยียนสวยที่สุด!]

[ไม่มีใครสวยไปกว่าเบบี๋เหยียนของฉันอีกแล้ว]

อิ๋งจื่อจินไม่หันไป กำลังดูโทรทัศน์ ซิวเหยียนหันกล้องมาทางเธอ แต่ท่าทางไม่สนใจของเธอทำให้แฟนคลับของซิวเหยียนไม่พอใจ

[หยิ่งขนาดนี้เลยเหรอ ไม่สนใจแม้แต่เบบี๋เหยียน อวดดีจังเนอะ]

“จริงสิ ได้ยินว่าจื่อจินเป็นศิลปิน เขียนภาพเขียนอักษรก็เก่ง” ซิวเหยียนยิ้ม “พอดีเลย ฉันก็พอมีผลงานด้านนี้อยู่บ้าง พวกเรามาแลกเปลี่ยนความรู้กันดีไหม”

ต่อให้เถิงอวิ้นเมิ่งจะอดทนก็แทบทนไม่ไหวแล้ว

แต่แฟนคลับของซิวเหยียนประสาทแดกกันทั้งนั้น ถ้าเธอโวยวายออกไป มีหวังเดินๆ อยู่ข้างนอกได้โดนสาดน้ำร้อนใส่

อิ๋งจื่อจินยังคงกำลังดูละครน้ำเน่าตอนสองทุ่ม พอได้ยินแบบนั้นก็ตอบส่งเดช “งั้นๆ แหละ”

“จะงั้นๆ ได้ยังไง” ซิวเหยียนส่ายหน้า “เธอเป็นศิลปินภาพเขียนอักษรจะต้องเจ๋งมากแน่ ฉันเอาพู่กันกับกระดาษมาด้วย เอาให้เธอใช้ได้นะ”

อิ๋งจื่อจินหันมา พูดต่ออย่างช้าๆ “งั้นๆ แต่ถ้าเทียบกับเธอก็ดีกว่า”

รอยยิ้มของซิวเหยียนชะงัก

พวกแฟนคลับในไลฟ์สดโมโหยิ่งกว่าเดิม

[เบบี๋เหยียนเป็นถึงลูกศิษย์ของรองประธานสมาคมศิลปะอักษรพู่กันแห่งประเทศจีน เธอเขียนได้ดีกว่าเบบี๋เหยียนอีกเหรอ]

[เบบี๋เหยียนบอกให้นางเขียน พวกเราจะรอดูว่านางจะเขียนออกมาเป็นแบบไหน]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 257 ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยตี้ตูออกโรง คุณคู่ควรเหรอ

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 257 ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยตี้ตูออกโรง คุณคู่ควรเหรอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เถิงอวิ้นเมิ่งกลับกังวลยิ่งกว่าเดิม

โจทย์ข้อนี้ยากมาก เธอเองก็เพิ่งอ่านโจทย์เสร็จสมองเพิ่งพอจับทางได้แต่ยังไม่เรียบเรียงออกมา

อิ๋งจื่อจินถูกเรียกขึ้นไปแบบนี้จะแก้โจทย์ได้เหรอ

อาจารย์เมิ่งยื่นปากกาเคมีให้ “อย่าเขียนแต่คำตอบ เขียนวิธีคิดพร้อมอธิบายไปด้วย”

พอเริ่มไลฟ์ก็มีข้อความเลื่อนปรากฏขึ้นมากมาย

[นี่ก็คือนักเรียนศิลปินคนนั้นใช่ไหม]

[หน้าตาสวยมาก เข้าวงการบันเทิงได้เลยนะเป็นดาวค้างฟ้าชัวร์]

[ในที่สุดก็ได้เห็นหน้านักเรียนศิลปินคนนี้แล้ว ฉันจะรอดูว่าเธอเก่งจริงหรือเปล่า มีสิทธิ์อะไรได้โควตาทะลุเข้ารอบสุดท้ายของไอเอสซี]

ซิวเหยียนเอามือเสยผมมองไปที่กระดานดำ

ในสายตาของเธออย่างมากอิ๋งจื่อจินมีความรู้แค่ระดับเดียวกับเธอ ถึงขนาดที่อาจสู้เธอไม่ได้ด้วยซ้ำ

เธอก็อยากรอดูเหมือนกันว่าอิ๋งจื่อจินจะแก้โจทย์ได้หรือเปล่า

นักเรียนหญิงที่อยู่ข้างซิวเหยียนแสยะยิ้ม “ไม่มีเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ช่วย เธอจะแก้โจทย์ข้อนี้ยังไง”

ถ้าแก้โจทย์ข้อนี้ไม่ได้ก็ไม่คู่ควรเข้ารอบตัดสิน

“โจทย์ข้อนี้ง่ายมาก” อิ๋งจื่อจินหยิบปากกาเคมีพูดอย่างใจเย็น “ก่อนอื่นให้เราลากเส้นจากจุดนี้ขึ้นมาก่อน จากนั้นก็ใช้สูตรนี้…”

เธอเขียนไปด้วยอธิบายไปด้วย

ไม่เร็วเกินไป แนวทางก็ชัดเจน

สีหน้าของนักเรียนคนอื่นๆ ก็เริ่มจริงจังขึ้นมา

เถิงอวิ้นเมิ่งอ้าปากค้างวิธีแก้โจทย์ของอิ๋งจื่อจินไม่เหมือนเธอเลยสักนิด สั้นลงไปอย่างน้อยๆ ก็หกขั้นตอนเรื่องเวลาสำคัญมากในการแข่งขัน ลดไปหนึ่งขั้นก็สามารถทำโจทย์ได้มากขึ้น

อาจารย์เมิ่งมองวิธีทำแต่ละบรรทัด รู้สึกเหมือนถูกตบที่หน้าแสบร้อนไปหมด

โจทย์ข้อนี้เธอเอามาจากมหาวิทยาลัยตี้ตู เธอก็ย่อมทำแล้ว แต่กลับนึกไม่ถึงว่าโจทย์ข้อนี้ยังแก้แบบนี้ได้ด้วย นักเรียนมัธยมปลายมีความรู้มากกว่าเธออีกเหรอ และแล้วอิ๋งจื่อจินก็เขียนตัวเลขสุดท้ายเสร็จในเวลานี้ “อธิบายจบแล้วค่ะ”

อาจารย์เมิ่งตัวแข็ง รู้สึกจนตรอกอย่างบอกไม่ถูก ไม่กล้าสบตาอิ๋งจื่อจินโดยตรง “ใช่ ถูกต้อง”

อิ๋งจื่อจินเช็ดมือ เดินกลับที่นั่ง

ช่างกล้องรู้จังหวะจับภาพ จึงซูมเข้าไปใกล้แล้วขึ้นข้อความให้เธอ

ภาพบนหน้าจอเป็นเด็กสาวที่ขนตางอนยาว ผิวเนียนขาวละเอียดจนมองไม่เห็นรูขุมขน

ความงามทะลุจออย่างแท้จริง

ข้อความเลื่อนเด้งขึ้นมารัวๆ

[โอ้โห โคตรสวย หายใจไม่ออกแล้ว ฉันจะตายแล้ว]

[สืบมาแล้ว โจทย์ข้อนี้ดัดแปลงมาจากโจทย์ของการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับโลกเมื่อปีที่แล้ว แต่ยากกว่าโจทย์ข้อนั้นมาก]

[อื้อหือ นักเรียนศิลปินเก่งขนาดนี้เลยเหรอ วาดรูปเก่ง คิดเลขก็เก่ง อัจฉริย้า!]

[เอาล่ะๆ ไม่เห็นเหรอว่าก่อนหน้านี้เถิงอวิ้นเมิ่งกระซิบบอกเธอ ฉันว่าคงบอกวิธีทำโจทย์ข้อนี้น่ะแหละ หรือไม่ก็จงใจเตี๊ยมกันไว้เพื่อออกรายการ พวกเธอคาดหวังเหรอว่านักเรียนศิลปินจะแก้โจทย์แข่งขันคณิตศาสตร์ระดับโลกได้]

[อิจฉาสินะ เธอก็แค่อิจฉาที่น้องเขาสวยกว่าเธอ แถมยังฉลาดกว่าด้วย]

รอยยิ้มของซิวเหยียนค่อยๆ หายไป ในที่สุดสีหน้าก็จริงจังขึ้น

เธอก้มมองโทรศัพท์มือถือ

บนหน้าจอเป็นหน้าต่างสนทนาของวีแชท

[คุณหนูใหญ่ครับ อิ๋งจื่อจินที่คุณหนูใหญ่ให้สืบ เธอมาจากโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ ตอนนี้อยู่มอหกห้องสิบเก้า เป็นเพื่อนสนิทกับคุณหนูซิวอวี่ทั้งสองคนสนิทกันมากครับ]

[และก็เป็นเพราะเธอ คุณหนูซิวอวี่ถึงไม่ค่อยเที่ยวกลางคืนแล้วครับ ไปโรงเรียนทุกวัน]

[เธอวาดภาพเก่ง เขียนอักษรพู่กันเป็นจริงๆ ครับ แต่ก็เทียบกับคุณหนูใหญ่ไม่ได้]

พอเห็นชื่อ ‘ซิวอวี่’ แววตาของซิวเหยียนก็วูบไหว ค่อยๆ เย็นชาลง

เธอหันไปมองอิ๋งจื่อจิน ในใจเริ่มมีความขุ่นเคือง

หลังจากที่ซิวเหยียนลบประวัติสนทนานี้ทิ้งก็ส่งข้อความหาผู้จัดการส่วนตัว

[พี่เฉิน ช่วยบอกพวกแฟนคลับของฉันหน่อยว่าคืนนี้ฉันจะไลฟ์]

การถ่ายทอดสดดำเนินไปเพียงสองชั่วโมงหลักๆ คือเริ่มประชาสัมพันธ์ก่อน

อีกหนึ่งเดือนต่อจากนี้ช่างกล้องก็จะตามถ่ายไปเรื่อยๆ แล้วส่งไปให้ทางสถานีโทรทัศน์กลางตัดต่อ

พอจบการติวเถิงอวิ้นเมิ่งก็กรีดร้อง โผเข้ากอดอิ๋งจื่อจิน “จื่อจิน สุดยอดไปเลย เธอคิดได้ยังไง”

“ไม่ได้คิด” อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด “ก็แค่มองผ่านๆ”

เถิงอวิ้นเมิ่ง “…”

เฟิงเย่ว์ “…”

อยู่ๆ พวกเขาก็ตระหนักได้ถึงปัญหาใหญ่

พวกเขาตั้งใจว่าจะช่วยติวให้นักเรียนอิ๋งจื่อจิน แท้จริงแล้วอิ๋งจื่อจินต่างหากที่เป็นเทพไม่เปิดเผยตัว!

เถิงอวิ้นเมิ่งมองตามหลังอิ๋งจื่อจินพลางพูดพึมพำ “เฟิงเย่ว์ พวกเราต้องกอดขาไว้แน่นๆ เลยนะ”

เฟิงเย่ว์พยายามหยิกตัวเอง ผ่อนลมหายใจออกมา “โชคดีที่ไม่ใช่ความฝัน”

นอกห้องเรียนใหญ่

อาจารย์เมิ่งยังไม่ไปไหน

พอเห็นอิ๋งจื่อจินออกมาก็เรียกด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อิ๋งจื่อจิน”

เท้าของอิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย แต่ไม่ได้หยุดเดิน

“อย่าคิดว่าทำโจทย์ได้ข้อเดียวก็หลงระเริงได้แล้วนะ” อาจารย์เมิ่งทำสีหน้ารังเกียจ พูดประชด “ไอเอสซีแข่งขันความรู้หลายด้าน ผลการเรียนเธอไม่มั่นคงขนาดนั้น ต่อไปต้องตั้งใจติวหน่อย อย่าเป็นตัวถ่วงของเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ล่ะ”

อิ๋งจื่อจินถึงหันมา

เธอยังไม่ทันพูดก็ได้ยินเสียงสดใสดังมาจากด้านข้าง

“ผมได้ยินอะไรเข้าครับเนี่ย” เจ้าของเสียงก็คือจั่วหลี เขามองอาจารย์เมิ่ง

“อาจารย์เมิ่ง ดูเหมือนอาจารย์จะไม่พอใจในตัวนักเรียนอิ๋งจื่อจินมากเลยนะครับ”

อาจารย์เมิ่งสีหน้าเปลี่ยน กระอักกระอ่วน “ศาสตราจารย์จั่วหลี”

เธอนึกไม่ถึงว่าจั่วหลีจะมาได้ยินเข้า

“ผมบอกอาจารย์เมิ่งแบบนี้แล้วกัน” จั่วหลียิ้ม พูดแดกดัน “อาจารย์เมิ่งไม่ได้รับหนังสือเชิญจากมหาวิทยาลัยตี้ตูให้ไปเป็นอาจารย์ แต่นักเรียนอิ๋งได้ แต่ว่าเธอก็ไม่สนใจ”

“คุณมีสิทธิ์อะไรไม่พอใจในตัวเธอเหรอครับ คู่ควรเหรอ”

จั่วหลีเป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ไม่เคยมีปัญหากับใคร

แต่ถ้าจะเอาเรื่องใครก็ด่าจนถึงขั้นร้องไห้ได้เลยทีเดียว อาจารย์เมิ่งอายุเกือบสี่สิบแล้ว ได้ยินแบบนี้ก็รับไม่ได้ สีหน้าของเธอซีดลงเล็กน้อย “ศาสตราจารย์จั่วคะ ล้อเล่นอะไรกัน”

นักเรียนมัธยมปลายจะได้หนังสือเชิญไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยตี้ตูได้ยังไง

พูดออกไปก็ไม่มีใครเชื่อ

“ผมไม่ได้ล้อเล่น” จั่วหลีขี้เกียจสนใจเธอ “ถ้าคุณไม่เชื่อ งั้นก็ไปที่ห้องทำงานของผมตอนนี้เลย หนังสือเชิญยังอยู่ในลิ้นชักโต๊ะผม ไปไหมครับ”

“ไม่…ไม่ล่ะค่ะ” อาจารย์เมิ่งถอยหลังไปหลายก้าว รีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว

“ทำเป็นอวดดี” จั่วหลีทำเสียง เฮอะ หันไปพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“นักเรียนอิ๋ง ยาสระผมปลูกผมของเธอน่ะ พวกศาสตราจารย์ในคณะอยากสั่งรวมกันทีเดียว ช่วยลดให้อีกหน่อยได้ไหม”

“…”

ตอนเย็นไม่มีกิจกรรมติว พวกนักเรียนบางคนก็อ่านหนังสือ บางคนก็พักผ่อน

ซิวเหยียนนั่งอยู่ในห้องรับแขกของหอพัก เปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คแล้วไลฟ์

เธอมาร่วมติวไม่ใช่เพื่อลงแข่งรอบสุดท้ายของไอเอสซีแค่อย่างเดียว แต่ยังเพื่อเพิ่มความนิยมในตัวเองอีกด้วย

ดาราคนอื่นไม่กล้าสร้างภาพลักษณ์เด็กเรียน แต่เธอกล้า เธอมีความสามารถนี้

“จริงสิ แนะนำให้ทุกคนรู้จักเพื่อนร่วมหอพักของฉันดีกว่าค่ะ” ซิวอวี่ถือคอมพิวเตอร์แล้วยืนขึ้น ไปเคาะประตูห้องของเถิงอวิ้นเมิ่ง

ประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว

ตรงโซฟาที่อยู่ด้านใน นอกจากเถิงอวิ้นเมิ่งแล้วยังมีอิ๋งจื่อจินอีกคน

เถิงอวิ้นเมิ่งไม่อยากต้อนรับซิวเหยียนแม้แต่น้อย แต่เธอตาไว เห็นซิวเหยียนกำลังไลฟ์สดอยู่ เลยต้องข่มอารมณ์ไว้ “เพื่อนซิวมีธุระอะไรเหรอคะ”

“อยากให้โบนัสพวกแฟนคลับหน่อย” ซิวเหยียนเดินเข้าไปในห้องอย่างไม่เกรงใจ “อิ๋งจื่อจินก็อยู่ด้วย งั้นเดี๋ยวฉันไม่ต้องไปทางนั้นแล้ว”

เธอพูดกับกล้อง “นี่ก็คือเพื่อนสาวหน้าตาดีที่ฉันบอกทุกคนค่ะ ดูสิคะ สวยกว่าฉันอีกใช่ไหม”

ข้อความเลื่อนบนหน้าจอมีแต่คำชม

[ไม่นะๆ เบบี๋เหยียนสวยที่สุด!]

[ไม่มีใครสวยไปกว่าเบบี๋เหยียนของฉันอีกแล้ว]

อิ๋งจื่อจินไม่หันไป กำลังดูโทรทัศน์ ซิวเหยียนหันกล้องมาทางเธอ แต่ท่าทางไม่สนใจของเธอทำให้แฟนคลับของซิวเหยียนไม่พอใจ

[หยิ่งขนาดนี้เลยเหรอ ไม่สนใจแม้แต่เบบี๋เหยียน อวดดีจังเนอะ]

“จริงสิ ได้ยินว่าจื่อจินเป็นศิลปิน เขียนภาพเขียนอักษรก็เก่ง” ซิวเหยียนยิ้ม “พอดีเลย ฉันก็พอมีผลงานด้านนี้อยู่บ้าง พวกเรามาแลกเปลี่ยนความรู้กันดีไหม”

ต่อให้เถิงอวิ้นเมิ่งจะอดทนก็แทบทนไม่ไหวแล้ว

แต่แฟนคลับของซิวเหยียนประสาทแดกกันทั้งนั้น ถ้าเธอโวยวายออกไป มีหวังเดินๆ อยู่ข้างนอกได้โดนสาดน้ำร้อนใส่

อิ๋งจื่อจินยังคงกำลังดูละครน้ำเน่าตอนสองทุ่ม พอได้ยินแบบนั้นก็ตอบส่งเดช “งั้นๆ แหละ”

“จะงั้นๆ ได้ยังไง” ซิวเหยียนส่ายหน้า “เธอเป็นศิลปินภาพเขียนอักษรจะต้องเจ๋งมากแน่ ฉันเอาพู่กันกับกระดาษมาด้วย เอาให้เธอใช้ได้นะ”

อิ๋งจื่อจินหันมา พูดต่ออย่างช้าๆ “งั้นๆ แต่ถ้าเทียบกับเธอก็ดีกว่า”

รอยยิ้มของซิวเหยียนชะงัก

พวกแฟนคลับในไลฟ์สดโมโหยิ่งกว่าเดิม

[เบบี๋เหยียนเป็นถึงลูกศิษย์ของรองประธานสมาคมศิลปะอักษรพู่กันแห่งประเทศจีน เธอเขียนได้ดีกว่าเบบี๋เหยียนอีกเหรอ]

[เบบี๋เหยียนบอกให้นางเขียน พวกเราจะรอดูว่านางจะเขียนออกมาเป็นแบบไหน]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+