คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 270 มหาวิทยาลัยนอร์ตัน คณะกรรมการออกแถลงการณ์ตบหน้า

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 270 มหาวิทยาลัยนอร์ตัน คณะกรรมการออกแถลงการณ์ตบหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ข้างใต้ข้อความนี้ยังได้แนบรูปประกอบหนึ่งรูป

เป็นอีเมลตอบกลับจากคณะกรรมการไอเอสซี ใช้ภาษาอังกฤษล้วน

ความหมายประมาณว่ารับทราบข้อสงสัยแล้ว ทางคณะกรรมการจะตรวจสอบให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด

งานแข่งขันที่สิบโรงเรียนชื่อดังระดับโลกกับศูนย์แข่งขันวิทยาศาสตร์นานาชาติร่วมกันจัดขึ้น เกี่ยวพันถึงนักเรียนมอปลายทั้งโลก ย่อมต้องใช้ความรอบคอบเป็นอย่างสูง

แต่แน่นอนว่าทางคณะกรรมการไอเอสซีไม่มีทางตัดสินโดยตรงว่าผู้สมัครคนนี้ทำการทุจริตเพียงเพราะคำกล่าวหาของคนคนเดียว จะต้องดำเนินการสืบอย่างแน่นอน

ในเวลาเดียวกันก็มีประกาศทางหน้าเว็บไซต์ทางการของไอเอสซี โดยบอกว่าจะรักษาความยุติธรรมของการแข่งขัน

คราวนี้บนแอปโซเชียลต่างๆ ทั่วโลกก็เริ่มสงครามระลอกใหม่

คนที่ก่อนหน้านี้เยาะเย้ยมาตลอดได้โผล่ออกมาอีกรอบ

[ก็บอกแล้ว เป็นไปได้ยังไงที่จะมีคนทำคะแนนได้มากกว่าอแมนด้าถึงร้อยกว่าคะแนนในช่วงเวลาสั้นๆ นั่นใช่คนเหรอ อ่อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ อาศัยช่องโหว่ของระบบ]

[ได้ยินว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของประเทศจีนไม่ได้อยู่ในชั้นแนวหน้าของโลก ปกติไม่เห็นใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในทางที่ถูกที่ควร รู้แต่การใช้เล่นตุกติก คราวนี้ถูกจับได้แล้วสินะ]

[สู้ไม่ได้ก็มาหาว่าคนอื่นใช้ช่องโหว่ของระบบ รู้จักอายหน่อย ประเทศจีนมีคนเก่งเยอะแยะ ทำไม ห้ามคนอื่นตอบถูกติดๆ กันหลายข้อเหรอ]

[เอาสิ งั้นก็รอผลออกมา ดูว่ามีปัญหาจริงหรือเปล่า ถ้าไม่มีปัญหาพวกเธอได้ขายหน้าแน่]

หลังจากที่เถิงอวิ้นเมิ่งอ่านคอมเมนต์นี้จบก็ชี้คอมเมนต์ที่มีหลากหลายภาษาเหล่านี้ โมโหจนใบหน้าตุ๊กตายับยู่ยี่

“จื่อจิน ดูสิ คนพวกนี้ตรรกะผิดเพี้ยนไปหมด ยังจะหาว่าใช้ช่องโหว่ของระบบ ใครไม่รู้บ้างว่าไอเอสซีเป็นงานแข่งขันระดับโลกที่หลายฝ่ายจับตาดูอยู่”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมอง ไม่สนใจ เธอพยักหน้าเล็กน้อย “วางใจได้ ไม่ใช่การทุจริตหรอก”

แอปทำโจทย์ของไอเอสซีแอปนี้ใช้เทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบมาก ทางคณะกรรมการจะต้องเชิญโปรแกรมเมอร์ระดับสูงมาแน่นอน

แต่ถ้าอยากเจาะระบบก็ใช่ว่าจะไม่ได้

แต่มันเหนื่อยกว่าทำโจทย์เสียอีก

“เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว” เฟิงเย่ว์ที่อยู่ข้างๆ ยักไหล่ “มีใครบ้างทุจริตแล้วได้อันดับหนึ่ง นี่ไม่เท่ากับว่าโจรตะโกนเรียกให้มาจับโจรเหรอ ฉันว่าพวกชาวเน็ตเมืองนอกน่ะโง่สิ้นดี”

อิ๋งจื่อจินเปิดโทรศัพท์มือถือ ดูชาร์ตอันดับปัจจุบัน พอจะเข้าใจแล้ว

เธอกะไว้ว่าจะทำโจทย์อาทิตย์ละครั้ง ยิ่งตอบถูกต่อเนื่องมากเท่าไร คะแนนที่เพิ่มเป็นเท่าตัวก็จะยิ่งมากขึ้น

ทันใดนั้นเถิงอวิ้นเมิ่งก็พูดขึ้นด้วยความหวาดระแวง “เธอคิดจะมาทำอะไร คราวก่อนเล่นงานพวกเราขนาดนั้นยังไม่พอใจอีกเหรอ”

อิ๋งจื่อจินปิดโทรศัพท์ พอหันไปก็เห็นซิวเหยียนเดินเหยียบรองเท้าส้นสูงมาทางนี้

ในฐานะที่เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซิว ซิวเหยียนจะรักษาภาพลักษณ์มาตลอด

ต่อให้ถูกเถิงอวิ้นเมิ่งกล่าวหาต่อหน้าแบบนี้ สีหน้าของเธอก็ยังคงมีรอยยิ้มสุภาพและงามสง่า แค่รู้สึกตกใจนิดหน่อย “เธอหมายถึงเรื่องที่เคทีวีคราวก่อนเหรอ ฉันเองก็นึกไม่ถึงว่าตระกูลเฝิงจะใจกล้าเข้ามาหาเรื่องในห้องที่ฉันจองได้”

“แต่ตอนนี้พวกเฝิงฮว่าถูกจัดการไปแล้ว ถือว่าล้างแค้นให้พวกเธอแล้วนะ”

เถิงอวิ้นเมิ่งไม่เชื่อคำพูดของซิวเหยียนแม้แต่น้อย เธอทำเสียงหึ

เธอรู้ว่าเรื่องที่คลับเคทีวีเกี่ยวข้องกับซิวเหยียนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เธอไม่มีหลักฐาน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า ตระกูลซิวมีอำนาจมากมาย สามารถเอาเรื่องถึงตายได้ในบางแง่มุม

ซิวเหยียนหุบยิ้ม สายตามองไปที่อิ๋งจื่อจิน “เพื่อนอิ๋ง เดือนหน้าจะมีนิทรรศการภาพเขียนอักษรพู่กันนานาชาติมาจัดแสดงที่ตี้ตู เป็นผลงานจากหลายประเทศส่งมา”

“เธอเขียนอักษรพู่กันเก่งขนาดนั้น ถึงแม้เธอจะไม่ใช่คนของสมาคมศิลปะอักษรพู่กันแห่งประเทศจีน แต่ก็ควรไปดูนิทรรศการแบบนี้บ้าง ฉันให้บัตรเข้าชมใบนึงแล้วกัน พอถึงเวลาเธอก็ยื่นตั๋วใบนี้แล้วเข้าไปได้เลย”

“ไม่ต้อง” อิ๋งจื่อจินไม่แม้แต่จะมอง “ฉันมี”

ซิวเยียนอึ้งไปเล็กน้อย เธอยิ้มอีกครั้ง “เพื่อนอิ๋ง บัตรที่ฉันให้เธอเป็นบัตรภายในสมาคม ไม่ใช่แบบที่เธอหาซื้อมาหรอกนะ”

ซิวเหยียนวางบัตรลง “ไม่ว่ายังไงฉันก็ให้บัตรเธอแล้วนะ พอถึงตอนนั้นเธอมาให้ได้ล่ะ”

ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ ซิวเหยียนพูดเหมือนไม่ตั้งใจ “ได้ยินว่าทางสมาคมก็ส่งผลงานของนักเขียนอักษรพู่กันไปหลายชิ้น ไว้ถึงตอนนั้นเพื่อนอิ๋งก็ไปศึกษาดูได้ ไว้ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักกับพวกกรรมการสมาคม ไม่แน่เธออาจได้เข้าสมาคมด้วย”

พูดจบซิวเหยียนก็เดินออกไป

อิ๋งจื่อจินก็ยังคงไม่มองบัตรใบนั้น เห็นเฟิงเย่ว์สนใจเธอก็เลยยัดให้เขา

เธอมีบัตรจริงๆ เซิ่งชิงถังให้มาหลายใบ

บอกว่าในงานนิทรรศการมีผลงานของเธอที่เขาส่งเข้าไปด้วย อยากให้เธอไปดูเอง

แต่เซิ่งชิงถังรู้ว่าเธอไม่สนใจเรื่องพวกนี้ จึงไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะไป

เฟิงเย่ว์เป็นผู้ชายตรงไปตรงมา เขาเองก็สังเกตเห็นว่าบรรยากาศดูผิดแปลก “ซิวเหยียนกำลังวางแผนเล่นงานเธอหรือเปล่า”

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลง “คงงั้นมั้ง”

เฟิงเย่ว์เกาหัว “ทำไมล่ะ ถึงแม้เธอจะหน้าตาดีกว่าซิวเหยียน แถมยังฉลาดกว่ารวยกว่า แต่ซิวเหยียนเป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลซิวเลยนะ ต้องการอะไรมีเหรอจะไม่ได้”

อิ๋งจื่อจินหยุดคิดเล็กน้อย “คนที่เธอจ้องเล่นงานจริงๆ ไม่ใช่ฉัน”

เฟิงเย่ว์งงยิ่งกว่าเดิม แต่เขาก็ไม่ได้ถามต่อ

เกาหัวเสร็จเขาก็ทำเครื่องมือฟิสิกส์ขนาดเล็กตามแบบกับเถิงอวิ้นเมิ่งต่อ

ในขณะที่แต่ละโรงเรียนกำลังถกเถียงเรื่องการทุจริตบนแอปของไอเอสซีว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ทางมหาวิทยาลัยนอร์ตันกลับไม่ยุ่ง ไม่เข้าร่วมอะไรทั้งนั้น

นับตั้งแต่อิ๋งจื่อจินช่วยรักษาให้ด้วยวิชาแพทย์แผนโบราณ รองอธิการบดีก็รู้สึกเดินคล่องขึ้นมาก

เขามาที่ห้องทำงานของฝ่ายรับนักศึกษา เปิดประตูเข้าไปก็เห็นหัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษากำลังจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์

ฝ่ายรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตันแท้จริงแล้วมีหน้าที่แค่รับนักเรียนเข้าคณะระดับเอส (S) ระดับดับเบิลเอส (SS) และระดับเอ (A) ส่วนคณะระดับอื่นพวกเขาไม่ยุ่ง

หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงจำนวนน้อยที่รู้จักรองอธิการบดี

เขารีบลุกขึ้น “ท่านรองอธิการ”

รองอธิการบดีเดินเข้าไป เห็นบนหน้าจอเป็นรายการของประเทศจีน

เขาไม่เข้าใจภาษาของประเทศจีน จึงถามขึ้น “นี่เขาทำอะไรกันเหรอ”

“นี่เป็นรายการประเภทวิชาการที่ทางประเทศจีนทำขึ้นมาเองครับ มีแต่นักเรียนมอปลายทั้งนั้น” หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาตอบ “ผมคิดว่าในนี้มีเพชรน้ำงามอยู่หลายคนที่สามารถรับเข้ามหาวิทยาลัยของเราได้ครับ”

รองอธิการบดีตอบอืม พยักหน้าแล้วดูต่อ

จนกระทั่งเขาเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย “…”

ตุบ รองอธิการบดีทรุดนั่งลงไปบนพื้น

หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาตกใจ รีบช่วยประคองเขาขึ้นมา “ท่านรองอธิการ ไม่เป็นไรนะครับ”

“มะ ไม่เป็นไร” รองอธิการบดีหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาซับเหงื่อบนหน้าผาก “ก็แค่ ก็แค่ขามันอ่อนแรง ควบคุมไม่ได้”

เขาตะลึงมาก

คนที่เทพขนาดนี้ อยู่ในประวัติศาสตร์ของยุโรปมาสามร้อยปี แถมยังเคยทิ้งชื่อเสียงเอาไว้

แล้วนี่หนีไปลงแข่งขันงานวิชาการระดับนานาชาติของเด็กมัธยมปลายเหรอ

ถึงแม้พวกเขากะว่าจะมองหาเด็กมาเข้ามหาวิทยาลัยนอร์ตันจากในบรรดาผู้เข้าแข่งขันรอบนานาชาติของไอเอสซีก็ตาม

รองอธิการบดีหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยมือที่สั่นอย่างรุนแรง กดเปิดโปรแกรมแชทที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันทำขึ้นมาเองแล้วหาคนที่เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษ

[ผมเห็นคุณในทีวีด้วย ทำไมถึงต้องไปเข้าร่วมไอเอสซี มีอะไรให้น่าเข้าร่วม แค่คุณมาที่นี่ตำแหน่งอธิการบดีก็เป็นของคุณแล้ว]

สิบนาทีต่อมาถึงมีข้อความตอบกลับ

[คราวก่อนฉันเห็นคุณเริ่มหัวล้านแล้ว อยากซื้อยาสระผมที่ช่วยปลูกผมไหม ฉันมีอยู่พอดี คนกันเองเดี๋ยวฉันลดให้ แต่ค่าส่งข้ามประเทศคุณต้องออกเองนะ]

รองอธิการบดี “…”

ขอโทษที่รบกวน

เขาไม่ควรติดต่อไปเลยจริงๆ

รองอธิการบดีปาดเหงื่อ “นักเรียนพวกนี้ใช้ได้ ไว้ถึงเวลาก็ส่งบัตรเชิญไป แต่จะเข้าคณะระดับเอส (S) ขึ้นไปได้หรือเปล่ายังต้องทดสอบอีก”

อันที่จริงคณะเครื่องกลยังถือเป็นคณะที่ปกติ แต่สิ่งที่เรียนไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่น

คณะเครื่องกลของมหาวิทยาลัยนอร์ตันจะวิจัยอาวุธชนิดใหม่

ซึ่งอาวุธชนิดใหม่นี้ไม่มีข้างนอก หรือแม้กระทั่งอาวุธบางอย่างยังเหมือนกับที่ปรากฏในภาพยนตร์ไซไฟ

และก็เพราะมีคณะเครื่องกล เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนอร์ตันถึงได้ล้ำหน้ากว่าเทคโนโลยีของทั้งโลก

คณะที่รองอธิการบดีกลุ้มใจคือคณะเล่นแร่แปรธาตุกับคณะดาราศาสตร์

คณะเล่นแร่แปรธาตุยังพอไหว แต่คณะดาราศาสตร์จนถึงตอนนี้ก็ยังหาคนไม่ครบหนึ่งคลาส

นี่ก็ช่วยไม่ได้ อย่างไรเสียคนที่มีพรสวรรค์ด้านนี้ก็น้อยเหลือเกิน

ไม่เหมือนสมัยยุโรปโบราณที่มีพ่อมดแม่มดมากมาย เดิมทีพวกเขาก็ทำนายโชคชะตาเป็นกันอยู่แล้ว

“ผมก็คิดงั้นครับ” หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาเห็นด้วย จากนั้นก็ชี้ไปที่เด็กสาวคนหนึ่ง “ท่านรองอธิการครับ เด็กคนนี้หน้าตาดี สติปัญญาก็ดี ผมจะต้องรับเธอเข้ามาให้ได้เลยครับ”

รองอธิการบดีไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้า เขาก็แค่คิดในใจว่าหึหึ

ขนาดชวนมาเป็นอธิการบดียังไม่มา ใครจะกล้ารับมาเป็นนักศึกษา

หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาไม่รู้ความคิดในใจรองอธิการบดี เขายังคงอารมณ์ดี “เดี๋ยวผมขอหาข้อมูลของพวกเขาแล้วจดออกมาก่อน พอถึงเวลาจะได้ส่งบัตรเชิญไป”

เวลาหนึ่งทุ่ม ณ โรงพยาบาลตี้ตู

หลังจากมู่อวี่ซีเลิกเรียนก็มาเยี่ยมมู่เหวยเฟิงพร้อมพ่อบ้าน

ในเวลาหนึ่งสัปดาห์ ร่างกายของมู่เหวยเฟิงฟื้นฟูดีขึ้นมาก อีกไม่กี่วันเขาก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

ครั้งนี้เซิ่งชิงถังก็อยู่ด้วย

มู่เหวยเฟิงเห็นมู่อวี่ซีทำหน้าตื่นเต้นมีความสุข เขาก็พลอยยิ้มไปด้วย “เสี่ยวซี มีอะไรเหรอ”

“ในที่สุดทางคณะกรรมการของไอเอสซีก็ออกแถลงการณ์แล้ว” มู่อวี่ซีถอดกระเป๋าหนังสือออก ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เขาดู “ฉันว่าแล้ว ประเทศเราแข็งแกร่งที่สุด”

ในหน้าเว็บของไอเอสซีมีประกาศที่เพิ่งออกมาใหม่เมื่อตอนหกโมงห้าสิบนาที

[ถึงผู้สมัครที่เข้าแข่งขันและผู้ติดตามดูอย่างใกล้ชิด : จากการตรวจสอบของฝ่ายเทคนิคพบว่า ผู้สมัครคนดังกล่าวไม่มีพฤติกรรมทุจริตใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ได้หาประโยชน์จากช่องโหว่ของระบบ เป็นคะแนนแท้จริงที่ได้มาจากความสามารถของตัวเองครับ

แอปพลิเคชันทำโจทย์ครั้งนี้ทางเราได้เชิญคุณเด็นตัล ดอล มาโดยเฉพาะ ผู้สมัครทุกท่านวางใจทำโจทย์ได้ครับ]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 270 มหาวิทยาลัยนอร์ตัน คณะกรรมการออกแถลงการณ์ตบหน้า

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 270 มหาวิทยาลัยนอร์ตัน คณะกรรมการออกแถลงการณ์ตบหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ข้างใต้ข้อความนี้ยังได้แนบรูปประกอบหนึ่งรูป

เป็นอีเมลตอบกลับจากคณะกรรมการไอเอสซี ใช้ภาษาอังกฤษล้วน

ความหมายประมาณว่ารับทราบข้อสงสัยแล้ว ทางคณะกรรมการจะตรวจสอบให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด

งานแข่งขันที่สิบโรงเรียนชื่อดังระดับโลกกับศูนย์แข่งขันวิทยาศาสตร์นานาชาติร่วมกันจัดขึ้น เกี่ยวพันถึงนักเรียนมอปลายทั้งโลก ย่อมต้องใช้ความรอบคอบเป็นอย่างสูง

แต่แน่นอนว่าทางคณะกรรมการไอเอสซีไม่มีทางตัดสินโดยตรงว่าผู้สมัครคนนี้ทำการทุจริตเพียงเพราะคำกล่าวหาของคนคนเดียว จะต้องดำเนินการสืบอย่างแน่นอน

ในเวลาเดียวกันก็มีประกาศทางหน้าเว็บไซต์ทางการของไอเอสซี โดยบอกว่าจะรักษาความยุติธรรมของการแข่งขัน

คราวนี้บนแอปโซเชียลต่างๆ ทั่วโลกก็เริ่มสงครามระลอกใหม่

คนที่ก่อนหน้านี้เยาะเย้ยมาตลอดได้โผล่ออกมาอีกรอบ

[ก็บอกแล้ว เป็นไปได้ยังไงที่จะมีคนทำคะแนนได้มากกว่าอแมนด้าถึงร้อยกว่าคะแนนในช่วงเวลาสั้นๆ นั่นใช่คนเหรอ อ่อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ อาศัยช่องโหว่ของระบบ]

[ได้ยินว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของประเทศจีนไม่ได้อยู่ในชั้นแนวหน้าของโลก ปกติไม่เห็นใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในทางที่ถูกที่ควร รู้แต่การใช้เล่นตุกติก คราวนี้ถูกจับได้แล้วสินะ]

[สู้ไม่ได้ก็มาหาว่าคนอื่นใช้ช่องโหว่ของระบบ รู้จักอายหน่อย ประเทศจีนมีคนเก่งเยอะแยะ ทำไม ห้ามคนอื่นตอบถูกติดๆ กันหลายข้อเหรอ]

[เอาสิ งั้นก็รอผลออกมา ดูว่ามีปัญหาจริงหรือเปล่า ถ้าไม่มีปัญหาพวกเธอได้ขายหน้าแน่]

หลังจากที่เถิงอวิ้นเมิ่งอ่านคอมเมนต์นี้จบก็ชี้คอมเมนต์ที่มีหลากหลายภาษาเหล่านี้ โมโหจนใบหน้าตุ๊กตายับยู่ยี่

“จื่อจิน ดูสิ คนพวกนี้ตรรกะผิดเพี้ยนไปหมด ยังจะหาว่าใช้ช่องโหว่ของระบบ ใครไม่รู้บ้างว่าไอเอสซีเป็นงานแข่งขันระดับโลกที่หลายฝ่ายจับตาดูอยู่”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมอง ไม่สนใจ เธอพยักหน้าเล็กน้อย “วางใจได้ ไม่ใช่การทุจริตหรอก”

แอปทำโจทย์ของไอเอสซีแอปนี้ใช้เทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบมาก ทางคณะกรรมการจะต้องเชิญโปรแกรมเมอร์ระดับสูงมาแน่นอน

แต่ถ้าอยากเจาะระบบก็ใช่ว่าจะไม่ได้

แต่มันเหนื่อยกว่าทำโจทย์เสียอีก

“เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว” เฟิงเย่ว์ที่อยู่ข้างๆ ยักไหล่ “มีใครบ้างทุจริตแล้วได้อันดับหนึ่ง นี่ไม่เท่ากับว่าโจรตะโกนเรียกให้มาจับโจรเหรอ ฉันว่าพวกชาวเน็ตเมืองนอกน่ะโง่สิ้นดี”

อิ๋งจื่อจินเปิดโทรศัพท์มือถือ ดูชาร์ตอันดับปัจจุบัน พอจะเข้าใจแล้ว

เธอกะไว้ว่าจะทำโจทย์อาทิตย์ละครั้ง ยิ่งตอบถูกต่อเนื่องมากเท่าไร คะแนนที่เพิ่มเป็นเท่าตัวก็จะยิ่งมากขึ้น

ทันใดนั้นเถิงอวิ้นเมิ่งก็พูดขึ้นด้วยความหวาดระแวง “เธอคิดจะมาทำอะไร คราวก่อนเล่นงานพวกเราขนาดนั้นยังไม่พอใจอีกเหรอ”

อิ๋งจื่อจินปิดโทรศัพท์ พอหันไปก็เห็นซิวเหยียนเดินเหยียบรองเท้าส้นสูงมาทางนี้

ในฐานะที่เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซิว ซิวเหยียนจะรักษาภาพลักษณ์มาตลอด

ต่อให้ถูกเถิงอวิ้นเมิ่งกล่าวหาต่อหน้าแบบนี้ สีหน้าของเธอก็ยังคงมีรอยยิ้มสุภาพและงามสง่า แค่รู้สึกตกใจนิดหน่อย “เธอหมายถึงเรื่องที่เคทีวีคราวก่อนเหรอ ฉันเองก็นึกไม่ถึงว่าตระกูลเฝิงจะใจกล้าเข้ามาหาเรื่องในห้องที่ฉันจองได้”

“แต่ตอนนี้พวกเฝิงฮว่าถูกจัดการไปแล้ว ถือว่าล้างแค้นให้พวกเธอแล้วนะ”

เถิงอวิ้นเมิ่งไม่เชื่อคำพูดของซิวเหยียนแม้แต่น้อย เธอทำเสียงหึ

เธอรู้ว่าเรื่องที่คลับเคทีวีเกี่ยวข้องกับซิวเหยียนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เธอไม่มีหลักฐาน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า ตระกูลซิวมีอำนาจมากมาย สามารถเอาเรื่องถึงตายได้ในบางแง่มุม

ซิวเหยียนหุบยิ้ม สายตามองไปที่อิ๋งจื่อจิน “เพื่อนอิ๋ง เดือนหน้าจะมีนิทรรศการภาพเขียนอักษรพู่กันนานาชาติมาจัดแสดงที่ตี้ตู เป็นผลงานจากหลายประเทศส่งมา”

“เธอเขียนอักษรพู่กันเก่งขนาดนั้น ถึงแม้เธอจะไม่ใช่คนของสมาคมศิลปะอักษรพู่กันแห่งประเทศจีน แต่ก็ควรไปดูนิทรรศการแบบนี้บ้าง ฉันให้บัตรเข้าชมใบนึงแล้วกัน พอถึงเวลาเธอก็ยื่นตั๋วใบนี้แล้วเข้าไปได้เลย”

“ไม่ต้อง” อิ๋งจื่อจินไม่แม้แต่จะมอง “ฉันมี”

ซิวเยียนอึ้งไปเล็กน้อย เธอยิ้มอีกครั้ง “เพื่อนอิ๋ง บัตรที่ฉันให้เธอเป็นบัตรภายในสมาคม ไม่ใช่แบบที่เธอหาซื้อมาหรอกนะ”

ซิวเหยียนวางบัตรลง “ไม่ว่ายังไงฉันก็ให้บัตรเธอแล้วนะ พอถึงตอนนั้นเธอมาให้ได้ล่ะ”

ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ ซิวเหยียนพูดเหมือนไม่ตั้งใจ “ได้ยินว่าทางสมาคมก็ส่งผลงานของนักเขียนอักษรพู่กันไปหลายชิ้น ไว้ถึงตอนนั้นเพื่อนอิ๋งก็ไปศึกษาดูได้ ไว้ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักกับพวกกรรมการสมาคม ไม่แน่เธออาจได้เข้าสมาคมด้วย”

พูดจบซิวเหยียนก็เดินออกไป

อิ๋งจื่อจินก็ยังคงไม่มองบัตรใบนั้น เห็นเฟิงเย่ว์สนใจเธอก็เลยยัดให้เขา

เธอมีบัตรจริงๆ เซิ่งชิงถังให้มาหลายใบ

บอกว่าในงานนิทรรศการมีผลงานของเธอที่เขาส่งเข้าไปด้วย อยากให้เธอไปดูเอง

แต่เซิ่งชิงถังรู้ว่าเธอไม่สนใจเรื่องพวกนี้ จึงไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะไป

เฟิงเย่ว์เป็นผู้ชายตรงไปตรงมา เขาเองก็สังเกตเห็นว่าบรรยากาศดูผิดแปลก “ซิวเหยียนกำลังวางแผนเล่นงานเธอหรือเปล่า”

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลง “คงงั้นมั้ง”

เฟิงเย่ว์เกาหัว “ทำไมล่ะ ถึงแม้เธอจะหน้าตาดีกว่าซิวเหยียน แถมยังฉลาดกว่ารวยกว่า แต่ซิวเหยียนเป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลซิวเลยนะ ต้องการอะไรมีเหรอจะไม่ได้”

อิ๋งจื่อจินหยุดคิดเล็กน้อย “คนที่เธอจ้องเล่นงานจริงๆ ไม่ใช่ฉัน”

เฟิงเย่ว์งงยิ่งกว่าเดิม แต่เขาก็ไม่ได้ถามต่อ

เกาหัวเสร็จเขาก็ทำเครื่องมือฟิสิกส์ขนาดเล็กตามแบบกับเถิงอวิ้นเมิ่งต่อ

ในขณะที่แต่ละโรงเรียนกำลังถกเถียงเรื่องการทุจริตบนแอปของไอเอสซีว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ทางมหาวิทยาลัยนอร์ตันกลับไม่ยุ่ง ไม่เข้าร่วมอะไรทั้งนั้น

นับตั้งแต่อิ๋งจื่อจินช่วยรักษาให้ด้วยวิชาแพทย์แผนโบราณ รองอธิการบดีก็รู้สึกเดินคล่องขึ้นมาก

เขามาที่ห้องทำงานของฝ่ายรับนักศึกษา เปิดประตูเข้าไปก็เห็นหัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษากำลังจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์

ฝ่ายรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตันแท้จริงแล้วมีหน้าที่แค่รับนักเรียนเข้าคณะระดับเอส (S) ระดับดับเบิลเอส (SS) และระดับเอ (A) ส่วนคณะระดับอื่นพวกเขาไม่ยุ่ง

หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาเป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงจำนวนน้อยที่รู้จักรองอธิการบดี

เขารีบลุกขึ้น “ท่านรองอธิการ”

รองอธิการบดีเดินเข้าไป เห็นบนหน้าจอเป็นรายการของประเทศจีน

เขาไม่เข้าใจภาษาของประเทศจีน จึงถามขึ้น “นี่เขาทำอะไรกันเหรอ”

“นี่เป็นรายการประเภทวิชาการที่ทางประเทศจีนทำขึ้นมาเองครับ มีแต่นักเรียนมอปลายทั้งนั้น” หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาตอบ “ผมคิดว่าในนี้มีเพชรน้ำงามอยู่หลายคนที่สามารถรับเข้ามหาวิทยาลัยของเราได้ครับ”

รองอธิการบดีตอบอืม พยักหน้าแล้วดูต่อ

จนกระทั่งเขาเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย “…”

ตุบ รองอธิการบดีทรุดนั่งลงไปบนพื้น

หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาตกใจ รีบช่วยประคองเขาขึ้นมา “ท่านรองอธิการ ไม่เป็นไรนะครับ”

“มะ ไม่เป็นไร” รองอธิการบดีหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาซับเหงื่อบนหน้าผาก “ก็แค่ ก็แค่ขามันอ่อนแรง ควบคุมไม่ได้”

เขาตะลึงมาก

คนที่เทพขนาดนี้ อยู่ในประวัติศาสตร์ของยุโรปมาสามร้อยปี แถมยังเคยทิ้งชื่อเสียงเอาไว้

แล้วนี่หนีไปลงแข่งขันงานวิชาการระดับนานาชาติของเด็กมัธยมปลายเหรอ

ถึงแม้พวกเขากะว่าจะมองหาเด็กมาเข้ามหาวิทยาลัยนอร์ตันจากในบรรดาผู้เข้าแข่งขันรอบนานาชาติของไอเอสซีก็ตาม

รองอธิการบดีหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยมือที่สั่นอย่างรุนแรง กดเปิดโปรแกรมแชทที่มหาวิทยาลัยนอร์ตันทำขึ้นมาเองแล้วหาคนที่เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษ

[ผมเห็นคุณในทีวีด้วย ทำไมถึงต้องไปเข้าร่วมไอเอสซี มีอะไรให้น่าเข้าร่วม แค่คุณมาที่นี่ตำแหน่งอธิการบดีก็เป็นของคุณแล้ว]

สิบนาทีต่อมาถึงมีข้อความตอบกลับ

[คราวก่อนฉันเห็นคุณเริ่มหัวล้านแล้ว อยากซื้อยาสระผมที่ช่วยปลูกผมไหม ฉันมีอยู่พอดี คนกันเองเดี๋ยวฉันลดให้ แต่ค่าส่งข้ามประเทศคุณต้องออกเองนะ]

รองอธิการบดี “…”

ขอโทษที่รบกวน

เขาไม่ควรติดต่อไปเลยจริงๆ

รองอธิการบดีปาดเหงื่อ “นักเรียนพวกนี้ใช้ได้ ไว้ถึงเวลาก็ส่งบัตรเชิญไป แต่จะเข้าคณะระดับเอส (S) ขึ้นไปได้หรือเปล่ายังต้องทดสอบอีก”

อันที่จริงคณะเครื่องกลยังถือเป็นคณะที่ปกติ แต่สิ่งที่เรียนไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่น

คณะเครื่องกลของมหาวิทยาลัยนอร์ตันจะวิจัยอาวุธชนิดใหม่

ซึ่งอาวุธชนิดใหม่นี้ไม่มีข้างนอก หรือแม้กระทั่งอาวุธบางอย่างยังเหมือนกับที่ปรากฏในภาพยนตร์ไซไฟ

และก็เพราะมีคณะเครื่องกล เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนอร์ตันถึงได้ล้ำหน้ากว่าเทคโนโลยีของทั้งโลก

คณะที่รองอธิการบดีกลุ้มใจคือคณะเล่นแร่แปรธาตุกับคณะดาราศาสตร์

คณะเล่นแร่แปรธาตุยังพอไหว แต่คณะดาราศาสตร์จนถึงตอนนี้ก็ยังหาคนไม่ครบหนึ่งคลาส

นี่ก็ช่วยไม่ได้ อย่างไรเสียคนที่มีพรสวรรค์ด้านนี้ก็น้อยเหลือเกิน

ไม่เหมือนสมัยยุโรปโบราณที่มีพ่อมดแม่มดมากมาย เดิมทีพวกเขาก็ทำนายโชคชะตาเป็นกันอยู่แล้ว

“ผมก็คิดงั้นครับ” หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาเห็นด้วย จากนั้นก็ชี้ไปที่เด็กสาวคนหนึ่ง “ท่านรองอธิการครับ เด็กคนนี้หน้าตาดี สติปัญญาก็ดี ผมจะต้องรับเธอเข้ามาให้ได้เลยครับ”

รองอธิการบดีไม่แสดงอารมณ์ทางสีหน้า เขาก็แค่คิดในใจว่าหึหึ

ขนาดชวนมาเป็นอธิการบดียังไม่มา ใครจะกล้ารับมาเป็นนักศึกษา

หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาไม่รู้ความคิดในใจรองอธิการบดี เขายังคงอารมณ์ดี “เดี๋ยวผมขอหาข้อมูลของพวกเขาแล้วจดออกมาก่อน พอถึงเวลาจะได้ส่งบัตรเชิญไป”

เวลาหนึ่งทุ่ม ณ โรงพยาบาลตี้ตู

หลังจากมู่อวี่ซีเลิกเรียนก็มาเยี่ยมมู่เหวยเฟิงพร้อมพ่อบ้าน

ในเวลาหนึ่งสัปดาห์ ร่างกายของมู่เหวยเฟิงฟื้นฟูดีขึ้นมาก อีกไม่กี่วันเขาก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

ครั้งนี้เซิ่งชิงถังก็อยู่ด้วย

มู่เหวยเฟิงเห็นมู่อวี่ซีทำหน้าตื่นเต้นมีความสุข เขาก็พลอยยิ้มไปด้วย “เสี่ยวซี มีอะไรเหรอ”

“ในที่สุดทางคณะกรรมการของไอเอสซีก็ออกแถลงการณ์แล้ว” มู่อวี่ซีถอดกระเป๋าหนังสือออก ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เขาดู “ฉันว่าแล้ว ประเทศเราแข็งแกร่งที่สุด”

ในหน้าเว็บของไอเอสซีมีประกาศที่เพิ่งออกมาใหม่เมื่อตอนหกโมงห้าสิบนาที

[ถึงผู้สมัครที่เข้าแข่งขันและผู้ติดตามดูอย่างใกล้ชิด : จากการตรวจสอบของฝ่ายเทคนิคพบว่า ผู้สมัครคนดังกล่าวไม่มีพฤติกรรมทุจริตใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ได้หาประโยชน์จากช่องโหว่ของระบบ เป็นคะแนนแท้จริงที่ได้มาจากความสามารถของตัวเองครับ

แอปพลิเคชันทำโจทย์ครั้งนี้ทางเราได้เชิญคุณเด็นตัล ดอล มาโดยเฉพาะ ผู้สมัครทุกท่านวางใจทำโจทย์ได้ครับ]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+