คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 272 ภาพจากกล้องวงจรปิด ความรู้สึกที่ถูกบอสเอาคืน
ตอนนั้นที่ศาสตราจารย์มอบหมายงานให้ก็บอกแล้วว่า กิจกรรมทำเครื่องมือฟิสิกส์ชิ้นนี้ต้องทำเป็นงานกลุ่ม
กลุ่มละสามคน ช่วยกันทำให้สำเร็จ และสุดท้ายจะให้คะแนนจากผลทดสอบ
คะแนนนี้จะมีผลต่อคะแนนรวมของค่ายติวครั้งนี้
แต่ละประเทศจะมีค่ายติว บรรดาศาสตราจารย์ก็ล้วนมาจากโรงเรียนชื่อดังระดับโลกสิบแห่ง
ดังนั้นหลังจากที่การติวครั้งนี้จบลง คะแนนของแต่ละกลุ่มจะถูกส่งไปที่ทางคณะกรรมการ
คณะกรรมการจะใช้คะแนนนี้ทำการประเมินบรรดาผู้สมัครในขั้นต้น หรือแม้กระทั่งอาจมีผลไปถึงการแข่งขันตัดสินรอบนานาชาติ
เครื่องมือฟิสิกส์ที่ว่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะทำขึ้นมาค่อนข้างซับซ้อน
โดยเฉพาะใจกลางของเครื่องมือ
นักเรียนกลุ่มละสามคนจำเป็นต้องทำให้เสร็จในสามวัน
ซิวเหยียนเห็นชัดเจนว่ากลุ่มของอิ๋งจื่อจินมีแค่เถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ที่ทำมาตลอด ส่วนอิ๋งจื่อจินไม่ทำอะไรเลย
แล้วแบบนี้ยังจะถูกเรียกว่าเทพอิ๋งอีกเหรอ
พวกชาวเน็ตก็อวยกันเข้าไป แต่ก็แค่เพราะหน้าตาดี
แต่ซิวเหยียนก็จำต้องยอมรับว่า อิ๋งจื่อจินหน้าตาดีจริงๆ
เธอเข้าวงการบันเทิงมาหนึ่งปี เจอดาราผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าสวยขั้นเทพมามากมายหลายคน
ต่อให้เป็นดาวค้างฟ้าที่วงการบันเทิงยอมรับในขณะนี้ก็ยังข่มความสวยของอิ๋งจื่อจินไม่ได้แม้แต่ครึ่งเดียว
โชคดีที่อิ๋งจื่อจินไม่เข้าวงการบันเทิง
ซิวเหยียนถอนหายใจเบาๆ
น่าเสียดาย
คนแบบนี้ดันไปเป็นเพื่อนกับซิวอวี่เสียได้
นี่ก็แสดงว่าพวกเธอเป็นได้แค่ศัตรูกันเท่านั้น
ไม่ว่าอิ๋งจื่อจินจะเรียนเก่งจริงหรือเปล่า แต่เธอจะปล่อยให้ซิวอวี่มีกองหนุนเพิ่มไม่ได้
“เธอหรือเปล่า” เถิงอวิ้นเมิ่งทนฟังคำพูดเสแสร้งแบบนี้ของซิวเหยียนไม่ได้ เธอตบโต๊ะแสยะยิ้ม “เธอก็อยู่ชั้นสาม ถ้าเธออยากเข้าห้องฉันก็ใช่ว่าจะไม่มีทาง”
ตอนเช้าเธอออกไปซื้ออะไหล่ เครื่องมือก็ยังดีๆ อยู่
พอกลับมาตรงใจกลางกลับไหม้ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
ซิวเหยียนหุบยิ้ม สีหน้าเย็นชาลง “เถิงอวิ้นเมิ่ง สร้างข่าวลือผิดกฎหมายนะ ใครจะไปรู้ว่าพวกเธอไปแตะต้องตรงไหนหรือเปล่า”
“พวกเราก็ทำเครื่องมือชิ้นนี้เหมือนกัน รู้ว่าใจกลางของมันพังง่ายแค่ไหน เธอไม่เก็บให้ดีเองอย่ามาโทษคนอื่นนะ”
เฟิงเย่ว์รีบดึงเถิงอวิ้นเมิ่งไว้แล้วส่ายหน้าให้
ตระกูลซิวมีอิทธิพลมาก อีกทั้งซิวเหยียนยังเป็นคุณหนูใหญ่ อย่าไปมีเรื่องด้วยจะดีกว่า
ซิวเหยียนหยุดเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มอีกครั้ง “แล้วก็ เถิงอวิ้นเมิ่ง ถ้าเอาตามตรรกะของเธอ อิ๋งจื่อจินก็อยู่ชั้นสามเหมือนกัน ถ้าอยากเข้าห้องเธอไม่ง่ายกว่าฉันอีกเหรอ”
เถิงอวิ้นเมิ่งโมโหจนหัวเราะให้กับความหน้าไม่อายของซิวเหยียน “อย่าให้ฉันหาหลักฐานได้ก็แล้วกัน”
ซิวเหยียนยักไหล่เหมือนไม่แคร์ ยังคงยิ้ม “เอาสิ เชิญไปหาเลย”
อิ๋งจื่อจินไม่สนใจ เธอมองเครื่องมือสี่เหลี่ยมตรงหน้าต่อ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
อีกสองกลุ่มที่ถามด้วยความเป็นห่วง ก็นั่งรออยู่ข้างๆ เหมือนกัน
ผ่านไปสักพักพวกศาสตราจารย์ก็มากัน
ด้านหลังยังมีเจ้าหน้าที่ตามมาอีกสองสามคน พวกเขายกเครื่องจักรที่สูงเท่าคนเข้ามา
“วันนี้เป็นวันทดสอบเครื่องมือฟิสิกส์” จั่วหลีตบมือ “อีกเดี๋ยวเรียงตามลำดับเข้ามา อาจารย์จะจดคะแนนให้ ไม่มีปัญหากันใช่ไหม”
“มีค่ะ” ไม่รอให้เฟิงเย่ว์กับเถิงอวิ้นเมิ่งเอ่ยปาก นักเรียนหญิงที่อยู่ข้างซิวเหยียนก็ยกมือขึ้นทันที “ศาสตราจารย์จั่วคะ เครื่องมือของกลุ่มเถิงอวิ้นเมิ่งเสียแล้วค่ะ เข้าร่วมการทดสอบวันนี้ไม่ได้ค่ะ”
พอได้ยินแบบนี้จั่วหลีก็อึ้ง “เสียเหรอ เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่รู้ใครทำครับ ใจกลางไหม้ไปแล้ว” เฟิงเย่ว์จนปัญญา “ศาสตราจารย์จั่วครับ ให้เวลาพวกเราอีกหน่อยได้ไหมครับ”
“ทำไมล่ะ” นักเรียนหญิงคนนั้นกอดอก “ใจกลางไหม้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเธอเชื่อมวงจรไม่ดีเอง เราควรทำให้เสร็จในเวลาที่กำหนด”
ซิวเหยียนยิ้ม ไม่พูดอะไร
จั่วหลีไม่สนใจเธอ เขาขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สักพัก “งั้นจะให้เวลาพวกเธออีกครึ่งวัน”
จากนั้นเขาก็พูดด้วยความจนใจ “นักเรียนอิ๋ง เธอช่วยได้นะ”
มือของอิ๋งจื่อจินที่จับเครื่องมืออยู่หยุดชะงัก เธอเงยหน้าแล้วเลิกคิ้วอย่างใจเย็น “เอาจริงเหรอคะศาสตราจารย์จั่ว”
ก่อนหน้านี้จั่วหลียังแอบจับตาดูเธออยู่ระยะหนึ่งเพื่อป้องกันเธอเข้าไปช่วย
“จริงๆ” จั่วหลีเท้าศีรษะ “ขอแบบเบาๆ ก็พอ เบาๆ พอนะ”
เขาไม่อยากทนดูอิ๋งจื่อจินรังแกนักเรียนคนอื่น
แต่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมันก็ช่วยไม่ได้แล้ว
จะปล่อยให้คะแนนกลุ่มตกต่ำไม่ได้ อย่างไรเสียคะแนนทดสอบนี้ก็ต้องส่งไปให้ทางคณะกรรมการ
ถ้าคะแนนขาดหายไปมากก็จะส่งผลไม่ดีต่อเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์
อิ๋งจื่อจิน “จะพยายามค่ะ”
“…”
“งั้นเอาแบบนี้” จั่วหลีตบมืออีกครั้ง “ทุกคนกลับไปก่อน พวกอาจารย์เตรียมโจทย์ใหม่ไว้แล้ว เดี๋ยวห้าโมงเย็นค่อยมาทดสอบกัน”
อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น พยักหน้าให้เถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ “พวกเธอไปทำโจทย์เถอะ เครื่องนี่ยกให้ฉัน เดี๋ยวบ่ายก็เสร็จ วางใจได้”
พูดจบอิ๋งจื่อจินก็หยิบเครื่องมือสี่เหลี่ยมเดินออกไป
“เหยียนเหยียน คำพูดเมื่อกี้ของศาสตราจารย์จั่วหมายความว่าไงเหรอ” นักเรียนหญิงอึ้ง “ทำไมเขาต้องบอกให้อิ๋งจื่อจินเบาๆ ด้วย”
ซิวเหยียนไม่แคร์แม้แต่น้อย “คงคิดว่าเพื่อนอิ๋งเทพมากมั้ง แค่โชว์ฝีมือก็อาจทำพวกเราช็อกตายได้”
พอได้ยินแบบนี้นักเรียนหญิงก็หัวเราะ “ยัยนั่นน่ะนะทำพวกเราช็อก คิดว่าจะซ่อมเครื่องมือได้ในเวลาแค่ครึ่งวันเหรอ ใจกลางของเครื่องมือนี้ไหม้ มันต้องเริ่มทำใหม่ทั้งหมดเลยนะ”
จั่วหลีให้เวลาเพิ่มอีกครึ่งวัน อันที่จริงไม่ต่างอะไรกับไม่ให้
เวลาครึ่งวันแค่เชื่อมวงจรก็ยังไม่พอเลย
เรื่องที่ขนาดเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ทำด้วยกันยังทำไม่ได้ อิ๋งจื่อจินคนเดียวจะไปทำได้เหรอ
“ไม่ต้องไปสนพวกเขาหรอก” ซิวเหยียนเหลือบตามอง “ไปเถอะ กลับไปทำโจทย์”
เถิงอวิ้นเมิ่งไม่ไป เธอกำลังตอบวีแชทของอิ๋งจื่อจิน
เฟิงเย่ว์ชะโงกหน้าเข้ามา “เทพอิ๋งส่งอะไรให้เหรอ”
เถิงอวิ้นเมิ่งเกาหัว “ถามว่าซื้ออะไหล่ที่ไหน”
เนื่องจากมีข้อกำหนดว่านักเรียนจะต้องทำเครื่องมือด้วยตัวเอง ค่ายติวจึงไม่มีให้แม้แต่อะไหล่
อย่างไรเสียก็ออกแบบมาไม่เหมือนกัน อะไหล่ที่ใช้ก็ย่อมต่างกัน
เฟิงเย่ว์พยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรอีก
…
เวลาครึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ตอนสี่โมงห้าสิบนาทีพวกนักเรียนก็มารวมตัวที่ห้องเรียนใหญ่อีกครั้ง
อิ๋งจื่อจินยังไม่มา
จั่วหลีดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ “พวกเธอทดสอบก่อน กลุ่มเถิงอวิ้นเมิ่งไว้หลังสุด”
ถึงแม้กลุ่มของซิวเหยียนจะไม่ใช่กลุ่มที่ผลงานดีที่สุด แต่เธอเป็นหัวหน้ากลุ่ม
เธอถือเครื่องมือที่ทำเสร็จแล้วเดินขึ้นหน้า จากนั้นก็ใส่ในเครื่องจักรตรงหน้า
ทว่าเวลาผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆ เครื่องจักรก็ยังไม่ขยับ ถึงขั้นที่ไม่มีแม้แต่เสียง
นี่ก็พิสูจน์ได้ว่าเครื่องมือฟิสิกส์ที่พวกเขาทำออกมาไม่ผ่านการทดสอบ
รอยยิ้มของซิวเหยียนชะงัก กำมือแน่น
“อย่าน้อยก็ไม่ระเบิด” จั่วหลีเขียนคะแนนลงสมุด น้ำเสียงราบเรียบ “เอาล่ะ กลุ่มต่อไป”
ซิวเหยียนหยิบผลงานกลุ่มตัวเองออกมา ก้มหน้า หลบไปยืนด้านข้างอย่างรวดเร็ว แก้มเริ่มแดง
ไม่ว่าจะในวงการบันเทิงหรือในตระกูลซิว เธอก็ถูกเอาอกเอาใจจนชินแล้ว ไม่เคยถูกทำขายหน้าแบบนี้มาก่อน
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากเพิ่มคะแนนนิยมกับช่วยตระกูลซิวผูกมิตรกับคนเก่ง เธอไม่มีทางมาเข้าร่วมค่ายติวอะไรนี่หรอก
สองกลุ่มถัดมาหลังจากที่เอาเครื่องมือใส่ลงไปในเครื่องจักรก็ทำให้เครื่องจักรขยับได้ แต่ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
“ใช้ได้ๆ” จั่วหลีรู้สึกเซอร์ไพรส์ “ใช้ได้ เก่งมากแล้ว ดีมาก”
เขาเองก็ได้ข่าวมาจากทางค่ายติวที่อื่นแล้ว
นักเรียนของประเทศอื่นๆ ก็ใช่ว่าทุกกลุ่มจะทำให้เครื่องจักรทำงานได้
ส่วนกลุ่มที่ทำให้เครื่องจักรทำงานอย่างสมบูรณ์ได้ก็มีแค่กลุ่มสองกลุ่ม
อิ๋งจื่อจินมาถึงในเวลานี้พอดี เวลาห้าโมงห้านาที
เธอขยับเครื่องมือในมือ เดินไปด้านหน้าแล้วเอาใส่เครื่องจักร
เถิงอวิ้นเมิ่งแอบกังวล “เฟิงเย่ว์ ของพวกเราจะไม่ระเบิดใช่ไหม”
“จะเป็นไปได้ยังไง” เฟิงเย่ว์มั่นใจมาก “มีเทพอิ๋งจะกลัวอะไร”
“ประเด็นคือเวลามันน้อยไง” เถิงอวิ้นเมิ่งเครียด “ไม่รู้ว่าจื่อจินเชื่อมต่อวงจรทั้งหมดได้หรือเปล่า”
ซิวเหยียนกอดอก มองไปด้วยสายตาเย็นชา
เธอก็อยากจะรอดูว่า แค่เวลาไม่นานอิ๋งจื่อจินจะโชว์ฝีมืออะไรออกมาได้
ขนาดพวกเขาทำมาสี่วันยังล้มเหลว เธอไม่เชื่อหรอกว่าอิ๋งจื่อจินจะทำได้จริงๆ
ไม่ใช่แค่ซิวเหยียน สายตาของนักเรียนคนอื่นๆ ก็จับจ้องไปที่เครื่องจักร
อิ๋งจื่อจินกดสวิตช์ท่ามกลางสายตาของทุกคน
ครืน ครืน…
พอกดปุ๊บก็มีเสียงดังออกมาจากเครื่องจักร
จากนั้นไม่ถึงสามวินาทีไฟทุกดวงของเครื่องจักรก็สว่างขึ้น
ส่วนอื่นๆ ก็เริ่มทำงานตามกันมา ต่อเนื่องกันทั้งเครื่อง
นี่คือการทำงานอย่างสมบูรณ์!
เถิงอวิ้นเมิ่งเอามือปิดปาก ร้องกรี๊ด
สายตาของซิวเหยียนเปลี่ยนไป ในที่สุดก็มีสีหน้าเคร่งขรึม
จั่วหลีมุมปากกระตุก “…”
กะแล้ว
เครื่องมืออันนี้ไม่ใช่ของยาก ถ้าให้เวลาพอ ทุกกลุ่มก็สามารถทำให้เครื่องจักรทำงานสมบูรณ์ได้เหมือนกัน
ประเด็นคือเวลาไม่พอ
แค่ทำให้เครื่องจักรทำงานได้ก็เพียงพอแล้ว
เขาอุตส่าห์บอกให้เบาๆ อิ๋งจื่อจินก็ยังจะจัดเต็ม
“ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว ทุกคนก็เห็นแล้ว” จั่วหลีถอนหายใจ “คะแนนเต็ม”
ไม่มีใครคัดค้าน
ซิวเหยียนกำมือแน่นกว่าเดิม
“นักเรียนอิ๋ง เธอเป็นคนมาตรงเวลาตลอด” จั่วหลีก็แค่ลองถามดู “ทำไมครั้งนี้มาสายล่ะ”
อิ๋งจื่อจินเป็นคนตรงเวลาแม้กระทั่งหลักวินาที
เขาไม่รู้ว่าเธอทำได้อย่างไร
ตรงเวลาเสียยิ่งกว่านาฬิกา
อิ๋งจื่อจินปิดเครื่อง เอาเครื่องมือออกมา “ไปเอาภาพกล้องวงจรปิดของถนนตงจยามาค่ะ เสียเวลาไปนิดหน่อย”
“ศาสตราจารย์จั่วลองดูค่ะ”
เธอเอาแฟลชไดร์วางบนโต๊ะ
ถนนตงจยาก็คือถนนเส้นที่เถิงอวิ้นเมิ่งไปซื้ออะไหล่
Comments
คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 272 ภาพจากกล้องวงจรปิด ความรู้สึกที่ถูกบอสเอาคืน
ตอนนั้นที่ศาสตราจารย์มอบหมายงานให้ก็บอกแล้วว่า กิจกรรมทำเครื่องมือฟิสิกส์ชิ้นนี้ต้องทำเป็นงานกลุ่ม
กลุ่มละสามคน ช่วยกันทำให้สำเร็จ และสุดท้ายจะให้คะแนนจากผลทดสอบ
คะแนนนี้จะมีผลต่อคะแนนรวมของค่ายติวครั้งนี้
แต่ละประเทศจะมีค่ายติว บรรดาศาสตราจารย์ก็ล้วนมาจากโรงเรียนชื่อดังระดับโลกสิบแห่ง
ดังนั้นหลังจากที่การติวครั้งนี้จบลง คะแนนของแต่ละกลุ่มจะถูกส่งไปที่ทางคณะกรรมการ
คณะกรรมการจะใช้คะแนนนี้ทำการประเมินบรรดาผู้สมัครในขั้นต้น หรือแม้กระทั่งอาจมีผลไปถึงการแข่งขันตัดสินรอบนานาชาติ
เครื่องมือฟิสิกส์ที่ว่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะทำขึ้นมาค่อนข้างซับซ้อน
โดยเฉพาะใจกลางของเครื่องมือ
นักเรียนกลุ่มละสามคนจำเป็นต้องทำให้เสร็จในสามวัน
ซิวเหยียนเห็นชัดเจนว่ากลุ่มของอิ๋งจื่อจินมีแค่เถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ที่ทำมาตลอด ส่วนอิ๋งจื่อจินไม่ทำอะไรเลย
แล้วแบบนี้ยังจะถูกเรียกว่าเทพอิ๋งอีกเหรอ
พวกชาวเน็ตก็อวยกันเข้าไป แต่ก็แค่เพราะหน้าตาดี
แต่ซิวเหยียนก็จำต้องยอมรับว่า อิ๋งจื่อจินหน้าตาดีจริงๆ
เธอเข้าวงการบันเทิงมาหนึ่งปี เจอดาราผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าสวยขั้นเทพมามากมายหลายคน
ต่อให้เป็นดาวค้างฟ้าที่วงการบันเทิงยอมรับในขณะนี้ก็ยังข่มความสวยของอิ๋งจื่อจินไม่ได้แม้แต่ครึ่งเดียว
โชคดีที่อิ๋งจื่อจินไม่เข้าวงการบันเทิง
ซิวเหยียนถอนหายใจเบาๆ
น่าเสียดาย
คนแบบนี้ดันไปเป็นเพื่อนกับซิวอวี่เสียได้
นี่ก็แสดงว่าพวกเธอเป็นได้แค่ศัตรูกันเท่านั้น
ไม่ว่าอิ๋งจื่อจินจะเรียนเก่งจริงหรือเปล่า แต่เธอจะปล่อยให้ซิวอวี่มีกองหนุนเพิ่มไม่ได้
“เธอหรือเปล่า” เถิงอวิ้นเมิ่งทนฟังคำพูดเสแสร้งแบบนี้ของซิวเหยียนไม่ได้ เธอตบโต๊ะแสยะยิ้ม “เธอก็อยู่ชั้นสาม ถ้าเธออยากเข้าห้องฉันก็ใช่ว่าจะไม่มีทาง”
ตอนเช้าเธอออกไปซื้ออะไหล่ เครื่องมือก็ยังดีๆ อยู่
พอกลับมาตรงใจกลางกลับไหม้ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
ซิวเหยียนหุบยิ้ม สีหน้าเย็นชาลง “เถิงอวิ้นเมิ่ง สร้างข่าวลือผิดกฎหมายนะ ใครจะไปรู้ว่าพวกเธอไปแตะต้องตรงไหนหรือเปล่า”
“พวกเราก็ทำเครื่องมือชิ้นนี้เหมือนกัน รู้ว่าใจกลางของมันพังง่ายแค่ไหน เธอไม่เก็บให้ดีเองอย่ามาโทษคนอื่นนะ”
เฟิงเย่ว์รีบดึงเถิงอวิ้นเมิ่งไว้แล้วส่ายหน้าให้
ตระกูลซิวมีอิทธิพลมาก อีกทั้งซิวเหยียนยังเป็นคุณหนูใหญ่ อย่าไปมีเรื่องด้วยจะดีกว่า
ซิวเหยียนหยุดเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มอีกครั้ง “แล้วก็ เถิงอวิ้นเมิ่ง ถ้าเอาตามตรรกะของเธอ อิ๋งจื่อจินก็อยู่ชั้นสามเหมือนกัน ถ้าอยากเข้าห้องเธอไม่ง่ายกว่าฉันอีกเหรอ”
เถิงอวิ้นเมิ่งโมโหจนหัวเราะให้กับความหน้าไม่อายของซิวเหยียน “อย่าให้ฉันหาหลักฐานได้ก็แล้วกัน”
ซิวเหยียนยักไหล่เหมือนไม่แคร์ ยังคงยิ้ม “เอาสิ เชิญไปหาเลย”
อิ๋งจื่อจินไม่สนใจ เธอมองเครื่องมือสี่เหลี่ยมตรงหน้าต่อ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
อีกสองกลุ่มที่ถามด้วยความเป็นห่วง ก็นั่งรออยู่ข้างๆ เหมือนกัน
ผ่านไปสักพักพวกศาสตราจารย์ก็มากัน
ด้านหลังยังมีเจ้าหน้าที่ตามมาอีกสองสามคน พวกเขายกเครื่องจักรที่สูงเท่าคนเข้ามา
“วันนี้เป็นวันทดสอบเครื่องมือฟิสิกส์” จั่วหลีตบมือ “อีกเดี๋ยวเรียงตามลำดับเข้ามา อาจารย์จะจดคะแนนให้ ไม่มีปัญหากันใช่ไหม”
“มีค่ะ” ไม่รอให้เฟิงเย่ว์กับเถิงอวิ้นเมิ่งเอ่ยปาก นักเรียนหญิงที่อยู่ข้างซิวเหยียนก็ยกมือขึ้นทันที “ศาสตราจารย์จั่วคะ เครื่องมือของกลุ่มเถิงอวิ้นเมิ่งเสียแล้วค่ะ เข้าร่วมการทดสอบวันนี้ไม่ได้ค่ะ”
พอได้ยินแบบนี้จั่วหลีก็อึ้ง “เสียเหรอ เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่รู้ใครทำครับ ใจกลางไหม้ไปแล้ว” เฟิงเย่ว์จนปัญญา “ศาสตราจารย์จั่วครับ ให้เวลาพวกเราอีกหน่อยได้ไหมครับ”
“ทำไมล่ะ” นักเรียนหญิงคนนั้นกอดอก “ใจกลางไหม้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเธอเชื่อมวงจรไม่ดีเอง เราควรทำให้เสร็จในเวลาที่กำหนด”
ซิวเหยียนยิ้ม ไม่พูดอะไร
จั่วหลีไม่สนใจเธอ เขาขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สักพัก “งั้นจะให้เวลาพวกเธออีกครึ่งวัน”
จากนั้นเขาก็พูดด้วยความจนใจ “นักเรียนอิ๋ง เธอช่วยได้นะ”
มือของอิ๋งจื่อจินที่จับเครื่องมืออยู่หยุดชะงัก เธอเงยหน้าแล้วเลิกคิ้วอย่างใจเย็น “เอาจริงเหรอคะศาสตราจารย์จั่ว”
ก่อนหน้านี้จั่วหลียังแอบจับตาดูเธออยู่ระยะหนึ่งเพื่อป้องกันเธอเข้าไปช่วย
“จริงๆ” จั่วหลีเท้าศีรษะ “ขอแบบเบาๆ ก็พอ เบาๆ พอนะ”
เขาไม่อยากทนดูอิ๋งจื่อจินรังแกนักเรียนคนอื่น
แต่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมันก็ช่วยไม่ได้แล้ว
จะปล่อยให้คะแนนกลุ่มตกต่ำไม่ได้ อย่างไรเสียคะแนนทดสอบนี้ก็ต้องส่งไปให้ทางคณะกรรมการ
ถ้าคะแนนขาดหายไปมากก็จะส่งผลไม่ดีต่อเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์
อิ๋งจื่อจิน “จะพยายามค่ะ”
“…”
“งั้นเอาแบบนี้” จั่วหลีตบมืออีกครั้ง “ทุกคนกลับไปก่อน พวกอาจารย์เตรียมโจทย์ใหม่ไว้แล้ว เดี๋ยวห้าโมงเย็นค่อยมาทดสอบกัน”
อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น พยักหน้าให้เถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ “พวกเธอไปทำโจทย์เถอะ เครื่องนี่ยกให้ฉัน เดี๋ยวบ่ายก็เสร็จ วางใจได้”
พูดจบอิ๋งจื่อจินก็หยิบเครื่องมือสี่เหลี่ยมเดินออกไป
“เหยียนเหยียน คำพูดเมื่อกี้ของศาสตราจารย์จั่วหมายความว่าไงเหรอ” นักเรียนหญิงอึ้ง “ทำไมเขาต้องบอกให้อิ๋งจื่อจินเบาๆ ด้วย”
ซิวเหยียนไม่แคร์แม้แต่น้อย “คงคิดว่าเพื่อนอิ๋งเทพมากมั้ง แค่โชว์ฝีมือก็อาจทำพวกเราช็อกตายได้”
พอได้ยินแบบนี้นักเรียนหญิงก็หัวเราะ “ยัยนั่นน่ะนะทำพวกเราช็อก คิดว่าจะซ่อมเครื่องมือได้ในเวลาแค่ครึ่งวันเหรอ ใจกลางของเครื่องมือนี้ไหม้ มันต้องเริ่มทำใหม่ทั้งหมดเลยนะ”
จั่วหลีให้เวลาเพิ่มอีกครึ่งวัน อันที่จริงไม่ต่างอะไรกับไม่ให้
เวลาครึ่งวันแค่เชื่อมวงจรก็ยังไม่พอเลย
เรื่องที่ขนาดเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ทำด้วยกันยังทำไม่ได้ อิ๋งจื่อจินคนเดียวจะไปทำได้เหรอ
“ไม่ต้องไปสนพวกเขาหรอก” ซิวเหยียนเหลือบตามอง “ไปเถอะ กลับไปทำโจทย์”
เถิงอวิ้นเมิ่งไม่ไป เธอกำลังตอบวีแชทของอิ๋งจื่อจิน
เฟิงเย่ว์ชะโงกหน้าเข้ามา “เทพอิ๋งส่งอะไรให้เหรอ”
เถิงอวิ้นเมิ่งเกาหัว “ถามว่าซื้ออะไหล่ที่ไหน”
เนื่องจากมีข้อกำหนดว่านักเรียนจะต้องทำเครื่องมือด้วยตัวเอง ค่ายติวจึงไม่มีให้แม้แต่อะไหล่
อย่างไรเสียก็ออกแบบมาไม่เหมือนกัน อะไหล่ที่ใช้ก็ย่อมต่างกัน
เฟิงเย่ว์พยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรอีก
…
เวลาครึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ตอนสี่โมงห้าสิบนาทีพวกนักเรียนก็มารวมตัวที่ห้องเรียนใหญ่อีกครั้ง
อิ๋งจื่อจินยังไม่มา
จั่วหลีดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ “พวกเธอทดสอบก่อน กลุ่มเถิงอวิ้นเมิ่งไว้หลังสุด”
ถึงแม้กลุ่มของซิวเหยียนจะไม่ใช่กลุ่มที่ผลงานดีที่สุด แต่เธอเป็นหัวหน้ากลุ่ม
เธอถือเครื่องมือที่ทำเสร็จแล้วเดินขึ้นหน้า จากนั้นก็ใส่ในเครื่องจักรตรงหน้า
ทว่าเวลาผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆ เครื่องจักรก็ยังไม่ขยับ ถึงขั้นที่ไม่มีแม้แต่เสียง
นี่ก็พิสูจน์ได้ว่าเครื่องมือฟิสิกส์ที่พวกเขาทำออกมาไม่ผ่านการทดสอบ
รอยยิ้มของซิวเหยียนชะงัก กำมือแน่น
“อย่าน้อยก็ไม่ระเบิด” จั่วหลีเขียนคะแนนลงสมุด น้ำเสียงราบเรียบ “เอาล่ะ กลุ่มต่อไป”
ซิวเหยียนหยิบผลงานกลุ่มตัวเองออกมา ก้มหน้า หลบไปยืนด้านข้างอย่างรวดเร็ว แก้มเริ่มแดง
ไม่ว่าจะในวงการบันเทิงหรือในตระกูลซิว เธอก็ถูกเอาอกเอาใจจนชินแล้ว ไม่เคยถูกทำขายหน้าแบบนี้มาก่อน
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากเพิ่มคะแนนนิยมกับช่วยตระกูลซิวผูกมิตรกับคนเก่ง เธอไม่มีทางมาเข้าร่วมค่ายติวอะไรนี่หรอก
สองกลุ่มถัดมาหลังจากที่เอาเครื่องมือใส่ลงไปในเครื่องจักรก็ทำให้เครื่องจักรขยับได้ แต่ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
“ใช้ได้ๆ” จั่วหลีรู้สึกเซอร์ไพรส์ “ใช้ได้ เก่งมากแล้ว ดีมาก”
เขาเองก็ได้ข่าวมาจากทางค่ายติวที่อื่นแล้ว
นักเรียนของประเทศอื่นๆ ก็ใช่ว่าทุกกลุ่มจะทำให้เครื่องจักรทำงานได้
ส่วนกลุ่มที่ทำให้เครื่องจักรทำงานอย่างสมบูรณ์ได้ก็มีแค่กลุ่มสองกลุ่ม
อิ๋งจื่อจินมาถึงในเวลานี้พอดี เวลาห้าโมงห้านาที
เธอขยับเครื่องมือในมือ เดินไปด้านหน้าแล้วเอาใส่เครื่องจักร
เถิงอวิ้นเมิ่งแอบกังวล “เฟิงเย่ว์ ของพวกเราจะไม่ระเบิดใช่ไหม”
“จะเป็นไปได้ยังไง” เฟิงเย่ว์มั่นใจมาก “มีเทพอิ๋งจะกลัวอะไร”
“ประเด็นคือเวลามันน้อยไง” เถิงอวิ้นเมิ่งเครียด “ไม่รู้ว่าจื่อจินเชื่อมต่อวงจรทั้งหมดได้หรือเปล่า”
ซิวเหยียนกอดอก มองไปด้วยสายตาเย็นชา
เธอก็อยากจะรอดูว่า แค่เวลาไม่นานอิ๋งจื่อจินจะโชว์ฝีมืออะไรออกมาได้
ขนาดพวกเขาทำมาสี่วันยังล้มเหลว เธอไม่เชื่อหรอกว่าอิ๋งจื่อจินจะทำได้จริงๆ
ไม่ใช่แค่ซิวเหยียน สายตาของนักเรียนคนอื่นๆ ก็จับจ้องไปที่เครื่องจักร
อิ๋งจื่อจินกดสวิตช์ท่ามกลางสายตาของทุกคน
ครืน ครืน…
พอกดปุ๊บก็มีเสียงดังออกมาจากเครื่องจักร
จากนั้นไม่ถึงสามวินาทีไฟทุกดวงของเครื่องจักรก็สว่างขึ้น
ส่วนอื่นๆ ก็เริ่มทำงานตามกันมา ต่อเนื่องกันทั้งเครื่อง
นี่คือการทำงานอย่างสมบูรณ์!
เถิงอวิ้นเมิ่งเอามือปิดปาก ร้องกรี๊ด
สายตาของซิวเหยียนเปลี่ยนไป ในที่สุดก็มีสีหน้าเคร่งขรึม
จั่วหลีมุมปากกระตุก “…”
กะแล้ว
เครื่องมืออันนี้ไม่ใช่ของยาก ถ้าให้เวลาพอ ทุกกลุ่มก็สามารถทำให้เครื่องจักรทำงานสมบูรณ์ได้เหมือนกัน
ประเด็นคือเวลาไม่พอ
แค่ทำให้เครื่องจักรทำงานได้ก็เพียงพอแล้ว
เขาอุตส่าห์บอกให้เบาๆ อิ๋งจื่อจินก็ยังจะจัดเต็ม
“ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว ทุกคนก็เห็นแล้ว” จั่วหลีถอนหายใจ “คะแนนเต็ม”
ไม่มีใครคัดค้าน
ซิวเหยียนกำมือแน่นกว่าเดิม
“นักเรียนอิ๋ง เธอเป็นคนมาตรงเวลาตลอด” จั่วหลีก็แค่ลองถามดู “ทำไมครั้งนี้มาสายล่ะ”
อิ๋งจื่อจินเป็นคนตรงเวลาแม้กระทั่งหลักวินาที
เขาไม่รู้ว่าเธอทำได้อย่างไร
ตรงเวลาเสียยิ่งกว่านาฬิกา
อิ๋งจื่อจินปิดเครื่อง เอาเครื่องมือออกมา “ไปเอาภาพกล้องวงจรปิดของถนนตงจยามาค่ะ เสียเวลาไปนิดหน่อย”
“ศาสตราจารย์จั่วลองดูค่ะ”
เธอเอาแฟลชไดร์วางบนโต๊ะ
ถนนตงจยาก็คือถนนเส้นที่เถิงอวิ้นเมิ่งไปซื้ออะไหล่
Comments
คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 272 ภาพจากกล้องวงจรปิด ความรู้สึกที่ถูกบอสเอาคืน
ตอนนั้นที่ศาสตราจารย์มอบหมายงานให้ก็บอกแล้วว่า กิจกรรมทำเครื่องมือฟิสิกส์ชิ้นนี้ต้องทำเป็นงานกลุ่ม
กลุ่มละสามคน ช่วยกันทำให้สำเร็จ และสุดท้ายจะให้คะแนนจากผลทดสอบ
คะแนนนี้จะมีผลต่อคะแนนรวมของค่ายติวครั้งนี้
แต่ละประเทศจะมีค่ายติว บรรดาศาสตราจารย์ก็ล้วนมาจากโรงเรียนชื่อดังระดับโลกสิบแห่ง
ดังนั้นหลังจากที่การติวครั้งนี้จบลง คะแนนของแต่ละกลุ่มจะถูกส่งไปที่ทางคณะกรรมการ
คณะกรรมการจะใช้คะแนนนี้ทำการประเมินบรรดาผู้สมัครในขั้นต้น หรือแม้กระทั่งอาจมีผลไปถึงการแข่งขันตัดสินรอบนานาชาติ
เครื่องมือฟิสิกส์ที่ว่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะทำขึ้นมาค่อนข้างซับซ้อน
โดยเฉพาะใจกลางของเครื่องมือ
นักเรียนกลุ่มละสามคนจำเป็นต้องทำให้เสร็จในสามวัน
ซิวเหยียนเห็นชัดเจนว่ากลุ่มของอิ๋งจื่อจินมีแค่เถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ที่ทำมาตลอด ส่วนอิ๋งจื่อจินไม่ทำอะไรเลย
แล้วแบบนี้ยังจะถูกเรียกว่าเทพอิ๋งอีกเหรอ
พวกชาวเน็ตก็อวยกันเข้าไป แต่ก็แค่เพราะหน้าตาดี
แต่ซิวเหยียนก็จำต้องยอมรับว่า อิ๋งจื่อจินหน้าตาดีจริงๆ
เธอเข้าวงการบันเทิงมาหนึ่งปี เจอดาราผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าสวยขั้นเทพมามากมายหลายคน
ต่อให้เป็นดาวค้างฟ้าที่วงการบันเทิงยอมรับในขณะนี้ก็ยังข่มความสวยของอิ๋งจื่อจินไม่ได้แม้แต่ครึ่งเดียว
โชคดีที่อิ๋งจื่อจินไม่เข้าวงการบันเทิง
ซิวเหยียนถอนหายใจเบาๆ
น่าเสียดาย
คนแบบนี้ดันไปเป็นเพื่อนกับซิวอวี่เสียได้
นี่ก็แสดงว่าพวกเธอเป็นได้แค่ศัตรูกันเท่านั้น
ไม่ว่าอิ๋งจื่อจินจะเรียนเก่งจริงหรือเปล่า แต่เธอจะปล่อยให้ซิวอวี่มีกองหนุนเพิ่มไม่ได้
“เธอหรือเปล่า” เถิงอวิ้นเมิ่งทนฟังคำพูดเสแสร้งแบบนี้ของซิวเหยียนไม่ได้ เธอตบโต๊ะแสยะยิ้ม “เธอก็อยู่ชั้นสาม ถ้าเธออยากเข้าห้องฉันก็ใช่ว่าจะไม่มีทาง”
ตอนเช้าเธอออกไปซื้ออะไหล่ เครื่องมือก็ยังดีๆ อยู่
พอกลับมาตรงใจกลางกลับไหม้ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
ซิวเหยียนหุบยิ้ม สีหน้าเย็นชาลง “เถิงอวิ้นเมิ่ง สร้างข่าวลือผิดกฎหมายนะ ใครจะไปรู้ว่าพวกเธอไปแตะต้องตรงไหนหรือเปล่า”
“พวกเราก็ทำเครื่องมือชิ้นนี้เหมือนกัน รู้ว่าใจกลางของมันพังง่ายแค่ไหน เธอไม่เก็บให้ดีเองอย่ามาโทษคนอื่นนะ”
เฟิงเย่ว์รีบดึงเถิงอวิ้นเมิ่งไว้แล้วส่ายหน้าให้
ตระกูลซิวมีอิทธิพลมาก อีกทั้งซิวเหยียนยังเป็นคุณหนูใหญ่ อย่าไปมีเรื่องด้วยจะดีกว่า
ซิวเหยียนหยุดเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มอีกครั้ง “แล้วก็ เถิงอวิ้นเมิ่ง ถ้าเอาตามตรรกะของเธอ อิ๋งจื่อจินก็อยู่ชั้นสามเหมือนกัน ถ้าอยากเข้าห้องเธอไม่ง่ายกว่าฉันอีกเหรอ”
เถิงอวิ้นเมิ่งโมโหจนหัวเราะให้กับความหน้าไม่อายของซิวเหยียน “อย่าให้ฉันหาหลักฐานได้ก็แล้วกัน”
ซิวเหยียนยักไหล่เหมือนไม่แคร์ ยังคงยิ้ม “เอาสิ เชิญไปหาเลย”
อิ๋งจื่อจินไม่สนใจ เธอมองเครื่องมือสี่เหลี่ยมตรงหน้าต่อ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
อีกสองกลุ่มที่ถามด้วยความเป็นห่วง ก็นั่งรออยู่ข้างๆ เหมือนกัน
ผ่านไปสักพักพวกศาสตราจารย์ก็มากัน
ด้านหลังยังมีเจ้าหน้าที่ตามมาอีกสองสามคน พวกเขายกเครื่องจักรที่สูงเท่าคนเข้ามา
“วันนี้เป็นวันทดสอบเครื่องมือฟิสิกส์” จั่วหลีตบมือ “อีกเดี๋ยวเรียงตามลำดับเข้ามา อาจารย์จะจดคะแนนให้ ไม่มีปัญหากันใช่ไหม”
“มีค่ะ” ไม่รอให้เฟิงเย่ว์กับเถิงอวิ้นเมิ่งเอ่ยปาก นักเรียนหญิงที่อยู่ข้างซิวเหยียนก็ยกมือขึ้นทันที “ศาสตราจารย์จั่วคะ เครื่องมือของกลุ่มเถิงอวิ้นเมิ่งเสียแล้วค่ะ เข้าร่วมการทดสอบวันนี้ไม่ได้ค่ะ”
พอได้ยินแบบนี้จั่วหลีก็อึ้ง “เสียเหรอ เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่รู้ใครทำครับ ใจกลางไหม้ไปแล้ว” เฟิงเย่ว์จนปัญญา “ศาสตราจารย์จั่วครับ ให้เวลาพวกเราอีกหน่อยได้ไหมครับ”
“ทำไมล่ะ” นักเรียนหญิงคนนั้นกอดอก “ใจกลางไหม้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเธอเชื่อมวงจรไม่ดีเอง เราควรทำให้เสร็จในเวลาที่กำหนด”
ซิวเหยียนยิ้ม ไม่พูดอะไร
จั่วหลีไม่สนใจเธอ เขาขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สักพัก “งั้นจะให้เวลาพวกเธออีกครึ่งวัน”
จากนั้นเขาก็พูดด้วยความจนใจ “นักเรียนอิ๋ง เธอช่วยได้นะ”
มือของอิ๋งจื่อจินที่จับเครื่องมืออยู่หยุดชะงัก เธอเงยหน้าแล้วเลิกคิ้วอย่างใจเย็น “เอาจริงเหรอคะศาสตราจารย์จั่ว”
ก่อนหน้านี้จั่วหลียังแอบจับตาดูเธออยู่ระยะหนึ่งเพื่อป้องกันเธอเข้าไปช่วย
“จริงๆ” จั่วหลีเท้าศีรษะ “ขอแบบเบาๆ ก็พอ เบาๆ พอนะ”
เขาไม่อยากทนดูอิ๋งจื่อจินรังแกนักเรียนคนอื่น
แต่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมันก็ช่วยไม่ได้แล้ว
จะปล่อยให้คะแนนกลุ่มตกต่ำไม่ได้ อย่างไรเสียคะแนนทดสอบนี้ก็ต้องส่งไปให้ทางคณะกรรมการ
ถ้าคะแนนขาดหายไปมากก็จะส่งผลไม่ดีต่อเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์
อิ๋งจื่อจิน “จะพยายามค่ะ”
“…”
“งั้นเอาแบบนี้” จั่วหลีตบมืออีกครั้ง “ทุกคนกลับไปก่อน พวกอาจารย์เตรียมโจทย์ใหม่ไว้แล้ว เดี๋ยวห้าโมงเย็นค่อยมาทดสอบกัน”
อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น พยักหน้าให้เถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ “พวกเธอไปทำโจทย์เถอะ เครื่องนี่ยกให้ฉัน เดี๋ยวบ่ายก็เสร็จ วางใจได้”
พูดจบอิ๋งจื่อจินก็หยิบเครื่องมือสี่เหลี่ยมเดินออกไป
“เหยียนเหยียน คำพูดเมื่อกี้ของศาสตราจารย์จั่วหมายความว่าไงเหรอ” นักเรียนหญิงอึ้ง “ทำไมเขาต้องบอกให้อิ๋งจื่อจินเบาๆ ด้วย”
ซิวเหยียนไม่แคร์แม้แต่น้อย “คงคิดว่าเพื่อนอิ๋งเทพมากมั้ง แค่โชว์ฝีมือก็อาจทำพวกเราช็อกตายได้”
พอได้ยินแบบนี้นักเรียนหญิงก็หัวเราะ “ยัยนั่นน่ะนะทำพวกเราช็อก คิดว่าจะซ่อมเครื่องมือได้ในเวลาแค่ครึ่งวันเหรอ ใจกลางของเครื่องมือนี้ไหม้ มันต้องเริ่มทำใหม่ทั้งหมดเลยนะ”
จั่วหลีให้เวลาเพิ่มอีกครึ่งวัน อันที่จริงไม่ต่างอะไรกับไม่ให้
เวลาครึ่งวันแค่เชื่อมวงจรก็ยังไม่พอเลย
เรื่องที่ขนาดเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ทำด้วยกันยังทำไม่ได้ อิ๋งจื่อจินคนเดียวจะไปทำได้เหรอ
“ไม่ต้องไปสนพวกเขาหรอก” ซิวเหยียนเหลือบตามอง “ไปเถอะ กลับไปทำโจทย์”
เถิงอวิ้นเมิ่งไม่ไป เธอกำลังตอบวีแชทของอิ๋งจื่อจิน
เฟิงเย่ว์ชะโงกหน้าเข้ามา “เทพอิ๋งส่งอะไรให้เหรอ”
เถิงอวิ้นเมิ่งเกาหัว “ถามว่าซื้ออะไหล่ที่ไหน”
เนื่องจากมีข้อกำหนดว่านักเรียนจะต้องทำเครื่องมือด้วยตัวเอง ค่ายติวจึงไม่มีให้แม้แต่อะไหล่
อย่างไรเสียก็ออกแบบมาไม่เหมือนกัน อะไหล่ที่ใช้ก็ย่อมต่างกัน
เฟิงเย่ว์พยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรอีก
…
เวลาครึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ตอนสี่โมงห้าสิบนาทีพวกนักเรียนก็มารวมตัวที่ห้องเรียนใหญ่อีกครั้ง
อิ๋งจื่อจินยังไม่มา
จั่วหลีดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ “พวกเธอทดสอบก่อน กลุ่มเถิงอวิ้นเมิ่งไว้หลังสุด”
ถึงแม้กลุ่มของซิวเหยียนจะไม่ใช่กลุ่มที่ผลงานดีที่สุด แต่เธอเป็นหัวหน้ากลุ่ม
เธอถือเครื่องมือที่ทำเสร็จแล้วเดินขึ้นหน้า จากนั้นก็ใส่ในเครื่องจักรตรงหน้า
ทว่าเวลาผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆ เครื่องจักรก็ยังไม่ขยับ ถึงขั้นที่ไม่มีแม้แต่เสียง
นี่ก็พิสูจน์ได้ว่าเครื่องมือฟิสิกส์ที่พวกเขาทำออกมาไม่ผ่านการทดสอบ
รอยยิ้มของซิวเหยียนชะงัก กำมือแน่น
“อย่าน้อยก็ไม่ระเบิด” จั่วหลีเขียนคะแนนลงสมุด น้ำเสียงราบเรียบ “เอาล่ะ กลุ่มต่อไป”
ซิวเหยียนหยิบผลงานกลุ่มตัวเองออกมา ก้มหน้า หลบไปยืนด้านข้างอย่างรวดเร็ว แก้มเริ่มแดง
ไม่ว่าจะในวงการบันเทิงหรือในตระกูลซิว เธอก็ถูกเอาอกเอาใจจนชินแล้ว ไม่เคยถูกทำขายหน้าแบบนี้มาก่อน
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากเพิ่มคะแนนนิยมกับช่วยตระกูลซิวผูกมิตรกับคนเก่ง เธอไม่มีทางมาเข้าร่วมค่ายติวอะไรนี่หรอก
สองกลุ่มถัดมาหลังจากที่เอาเครื่องมือใส่ลงไปในเครื่องจักรก็ทำให้เครื่องจักรขยับได้ แต่ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
“ใช้ได้ๆ” จั่วหลีรู้สึกเซอร์ไพรส์ “ใช้ได้ เก่งมากแล้ว ดีมาก”
เขาเองก็ได้ข่าวมาจากทางค่ายติวที่อื่นแล้ว
นักเรียนของประเทศอื่นๆ ก็ใช่ว่าทุกกลุ่มจะทำให้เครื่องจักรทำงานได้
ส่วนกลุ่มที่ทำให้เครื่องจักรทำงานอย่างสมบูรณ์ได้ก็มีแค่กลุ่มสองกลุ่ม
อิ๋งจื่อจินมาถึงในเวลานี้พอดี เวลาห้าโมงห้านาที
เธอขยับเครื่องมือในมือ เดินไปด้านหน้าแล้วเอาใส่เครื่องจักร
เถิงอวิ้นเมิ่งแอบกังวล “เฟิงเย่ว์ ของพวกเราจะไม่ระเบิดใช่ไหม”
“จะเป็นไปได้ยังไง” เฟิงเย่ว์มั่นใจมาก “มีเทพอิ๋งจะกลัวอะไร”
“ประเด็นคือเวลามันน้อยไง” เถิงอวิ้นเมิ่งเครียด “ไม่รู้ว่าจื่อจินเชื่อมต่อวงจรทั้งหมดได้หรือเปล่า”
ซิวเหยียนกอดอก มองไปด้วยสายตาเย็นชา
เธอก็อยากจะรอดูว่า แค่เวลาไม่นานอิ๋งจื่อจินจะโชว์ฝีมืออะไรออกมาได้
ขนาดพวกเขาทำมาสี่วันยังล้มเหลว เธอไม่เชื่อหรอกว่าอิ๋งจื่อจินจะทำได้จริงๆ
ไม่ใช่แค่ซิวเหยียน สายตาของนักเรียนคนอื่นๆ ก็จับจ้องไปที่เครื่องจักร
อิ๋งจื่อจินกดสวิตช์ท่ามกลางสายตาของทุกคน
ครืน ครืน…
พอกดปุ๊บก็มีเสียงดังออกมาจากเครื่องจักร
จากนั้นไม่ถึงสามวินาทีไฟทุกดวงของเครื่องจักรก็สว่างขึ้น
ส่วนอื่นๆ ก็เริ่มทำงานตามกันมา ต่อเนื่องกันทั้งเครื่อง
นี่คือการทำงานอย่างสมบูรณ์!
เถิงอวิ้นเมิ่งเอามือปิดปาก ร้องกรี๊ด
สายตาของซิวเหยียนเปลี่ยนไป ในที่สุดก็มีสีหน้าเคร่งขรึม
จั่วหลีมุมปากกระตุก “…”
กะแล้ว
เครื่องมืออันนี้ไม่ใช่ของยาก ถ้าให้เวลาพอ ทุกกลุ่มก็สามารถทำให้เครื่องจักรทำงานสมบูรณ์ได้เหมือนกัน
ประเด็นคือเวลาไม่พอ
แค่ทำให้เครื่องจักรทำงานได้ก็เพียงพอแล้ว
เขาอุตส่าห์บอกให้เบาๆ อิ๋งจื่อจินก็ยังจะจัดเต็ม
“ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว ทุกคนก็เห็นแล้ว” จั่วหลีถอนหายใจ “คะแนนเต็ม”
ไม่มีใครคัดค้าน
ซิวเหยียนกำมือแน่นกว่าเดิม
“นักเรียนอิ๋ง เธอเป็นคนมาตรงเวลาตลอด” จั่วหลีก็แค่ลองถามดู “ทำไมครั้งนี้มาสายล่ะ”
อิ๋งจื่อจินเป็นคนตรงเวลาแม้กระทั่งหลักวินาที
เขาไม่รู้ว่าเธอทำได้อย่างไร
ตรงเวลาเสียยิ่งกว่านาฬิกา
อิ๋งจื่อจินปิดเครื่อง เอาเครื่องมือออกมา “ไปเอาภาพกล้องวงจรปิดของถนนตงจยามาค่ะ เสียเวลาไปนิดหน่อย”
“ศาสตราจารย์จั่วลองดูค่ะ”
เธอเอาแฟลชไดร์วางบนโต๊ะ
ถนนตงจยาก็คือถนนเส้นที่เถิงอวิ้นเมิ่งไปซื้ออะไหล่
Comments
คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 272 ภาพจากกล้องวงจรปิด ความรู้สึกที่ถูกบอสเอาคืน
ตอนนั้นที่ศาสตราจารย์มอบหมายงานให้ก็บอกแล้วว่า กิจกรรมทำเครื่องมือฟิสิกส์ชิ้นนี้ต้องทำเป็นงานกลุ่ม
กลุ่มละสามคน ช่วยกันทำให้สำเร็จ และสุดท้ายจะให้คะแนนจากผลทดสอบ
คะแนนนี้จะมีผลต่อคะแนนรวมของค่ายติวครั้งนี้
แต่ละประเทศจะมีค่ายติว บรรดาศาสตราจารย์ก็ล้วนมาจากโรงเรียนชื่อดังระดับโลกสิบแห่ง
ดังนั้นหลังจากที่การติวครั้งนี้จบลง คะแนนของแต่ละกลุ่มจะถูกส่งไปที่ทางคณะกรรมการ
คณะกรรมการจะใช้คะแนนนี้ทำการประเมินบรรดาผู้สมัครในขั้นต้น หรือแม้กระทั่งอาจมีผลไปถึงการแข่งขันตัดสินรอบนานาชาติ
เครื่องมือฟิสิกส์ที่ว่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะทำขึ้นมาค่อนข้างซับซ้อน
โดยเฉพาะใจกลางของเครื่องมือ
นักเรียนกลุ่มละสามคนจำเป็นต้องทำให้เสร็จในสามวัน
ซิวเหยียนเห็นชัดเจนว่ากลุ่มของอิ๋งจื่อจินมีแค่เถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ที่ทำมาตลอด ส่วนอิ๋งจื่อจินไม่ทำอะไรเลย
แล้วแบบนี้ยังจะถูกเรียกว่าเทพอิ๋งอีกเหรอ
พวกชาวเน็ตก็อวยกันเข้าไป แต่ก็แค่เพราะหน้าตาดี
แต่ซิวเหยียนก็จำต้องยอมรับว่า อิ๋งจื่อจินหน้าตาดีจริงๆ
เธอเข้าวงการบันเทิงมาหนึ่งปี เจอดาราผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าสวยขั้นเทพมามากมายหลายคน
ต่อให้เป็นดาวค้างฟ้าที่วงการบันเทิงยอมรับในขณะนี้ก็ยังข่มความสวยของอิ๋งจื่อจินไม่ได้แม้แต่ครึ่งเดียว
โชคดีที่อิ๋งจื่อจินไม่เข้าวงการบันเทิง
ซิวเหยียนถอนหายใจเบาๆ
น่าเสียดาย
คนแบบนี้ดันไปเป็นเพื่อนกับซิวอวี่เสียได้
นี่ก็แสดงว่าพวกเธอเป็นได้แค่ศัตรูกันเท่านั้น
ไม่ว่าอิ๋งจื่อจินจะเรียนเก่งจริงหรือเปล่า แต่เธอจะปล่อยให้ซิวอวี่มีกองหนุนเพิ่มไม่ได้
“เธอหรือเปล่า” เถิงอวิ้นเมิ่งทนฟังคำพูดเสแสร้งแบบนี้ของซิวเหยียนไม่ได้ เธอตบโต๊ะแสยะยิ้ม “เธอก็อยู่ชั้นสาม ถ้าเธออยากเข้าห้องฉันก็ใช่ว่าจะไม่มีทาง”
ตอนเช้าเธอออกไปซื้ออะไหล่ เครื่องมือก็ยังดีๆ อยู่
พอกลับมาตรงใจกลางกลับไหม้ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
ซิวเหยียนหุบยิ้ม สีหน้าเย็นชาลง “เถิงอวิ้นเมิ่ง สร้างข่าวลือผิดกฎหมายนะ ใครจะไปรู้ว่าพวกเธอไปแตะต้องตรงไหนหรือเปล่า”
“พวกเราก็ทำเครื่องมือชิ้นนี้เหมือนกัน รู้ว่าใจกลางของมันพังง่ายแค่ไหน เธอไม่เก็บให้ดีเองอย่ามาโทษคนอื่นนะ”
เฟิงเย่ว์รีบดึงเถิงอวิ้นเมิ่งไว้แล้วส่ายหน้าให้
ตระกูลซิวมีอิทธิพลมาก อีกทั้งซิวเหยียนยังเป็นคุณหนูใหญ่ อย่าไปมีเรื่องด้วยจะดีกว่า
ซิวเหยียนหยุดเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มอีกครั้ง “แล้วก็ เถิงอวิ้นเมิ่ง ถ้าเอาตามตรรกะของเธอ อิ๋งจื่อจินก็อยู่ชั้นสามเหมือนกัน ถ้าอยากเข้าห้องเธอไม่ง่ายกว่าฉันอีกเหรอ”
เถิงอวิ้นเมิ่งโมโหจนหัวเราะให้กับความหน้าไม่อายของซิวเหยียน “อย่าให้ฉันหาหลักฐานได้ก็แล้วกัน”
ซิวเหยียนยักไหล่เหมือนไม่แคร์ ยังคงยิ้ม “เอาสิ เชิญไปหาเลย”
อิ๋งจื่อจินไม่สนใจ เธอมองเครื่องมือสี่เหลี่ยมตรงหน้าต่อ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
อีกสองกลุ่มที่ถามด้วยความเป็นห่วง ก็นั่งรออยู่ข้างๆ เหมือนกัน
ผ่านไปสักพักพวกศาสตราจารย์ก็มากัน
ด้านหลังยังมีเจ้าหน้าที่ตามมาอีกสองสามคน พวกเขายกเครื่องจักรที่สูงเท่าคนเข้ามา
“วันนี้เป็นวันทดสอบเครื่องมือฟิสิกส์” จั่วหลีตบมือ “อีกเดี๋ยวเรียงตามลำดับเข้ามา อาจารย์จะจดคะแนนให้ ไม่มีปัญหากันใช่ไหม”
“มีค่ะ” ไม่รอให้เฟิงเย่ว์กับเถิงอวิ้นเมิ่งเอ่ยปาก นักเรียนหญิงที่อยู่ข้างซิวเหยียนก็ยกมือขึ้นทันที “ศาสตราจารย์จั่วคะ เครื่องมือของกลุ่มเถิงอวิ้นเมิ่งเสียแล้วค่ะ เข้าร่วมการทดสอบวันนี้ไม่ได้ค่ะ”
พอได้ยินแบบนี้จั่วหลีก็อึ้ง “เสียเหรอ เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่รู้ใครทำครับ ใจกลางไหม้ไปแล้ว” เฟิงเย่ว์จนปัญญา “ศาสตราจารย์จั่วครับ ให้เวลาพวกเราอีกหน่อยได้ไหมครับ”
“ทำไมล่ะ” นักเรียนหญิงคนนั้นกอดอก “ใจกลางไหม้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเธอเชื่อมวงจรไม่ดีเอง เราควรทำให้เสร็จในเวลาที่กำหนด”
ซิวเหยียนยิ้ม ไม่พูดอะไร
จั่วหลีไม่สนใจเธอ เขาขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สักพัก “งั้นจะให้เวลาพวกเธออีกครึ่งวัน”
จากนั้นเขาก็พูดด้วยความจนใจ “นักเรียนอิ๋ง เธอช่วยได้นะ”
มือของอิ๋งจื่อจินที่จับเครื่องมืออยู่หยุดชะงัก เธอเงยหน้าแล้วเลิกคิ้วอย่างใจเย็น “เอาจริงเหรอคะศาสตราจารย์จั่ว”
ก่อนหน้านี้จั่วหลียังแอบจับตาดูเธออยู่ระยะหนึ่งเพื่อป้องกันเธอเข้าไปช่วย
“จริงๆ” จั่วหลีเท้าศีรษะ “ขอแบบเบาๆ ก็พอ เบาๆ พอนะ”
เขาไม่อยากทนดูอิ๋งจื่อจินรังแกนักเรียนคนอื่น
แต่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมันก็ช่วยไม่ได้แล้ว
จะปล่อยให้คะแนนกลุ่มตกต่ำไม่ได้ อย่างไรเสียคะแนนทดสอบนี้ก็ต้องส่งไปให้ทางคณะกรรมการ
ถ้าคะแนนขาดหายไปมากก็จะส่งผลไม่ดีต่อเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์
อิ๋งจื่อจิน “จะพยายามค่ะ”
“…”
“งั้นเอาแบบนี้” จั่วหลีตบมืออีกครั้ง “ทุกคนกลับไปก่อน พวกอาจารย์เตรียมโจทย์ใหม่ไว้แล้ว เดี๋ยวห้าโมงเย็นค่อยมาทดสอบกัน”
อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น พยักหน้าให้เถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ “พวกเธอไปทำโจทย์เถอะ เครื่องนี่ยกให้ฉัน เดี๋ยวบ่ายก็เสร็จ วางใจได้”
พูดจบอิ๋งจื่อจินก็หยิบเครื่องมือสี่เหลี่ยมเดินออกไป
“เหยียนเหยียน คำพูดเมื่อกี้ของศาสตราจารย์จั่วหมายความว่าไงเหรอ” นักเรียนหญิงอึ้ง “ทำไมเขาต้องบอกให้อิ๋งจื่อจินเบาๆ ด้วย”
ซิวเหยียนไม่แคร์แม้แต่น้อย “คงคิดว่าเพื่อนอิ๋งเทพมากมั้ง แค่โชว์ฝีมือก็อาจทำพวกเราช็อกตายได้”
พอได้ยินแบบนี้นักเรียนหญิงก็หัวเราะ “ยัยนั่นน่ะนะทำพวกเราช็อก คิดว่าจะซ่อมเครื่องมือได้ในเวลาแค่ครึ่งวันเหรอ ใจกลางของเครื่องมือนี้ไหม้ มันต้องเริ่มทำใหม่ทั้งหมดเลยนะ”
จั่วหลีให้เวลาเพิ่มอีกครึ่งวัน อันที่จริงไม่ต่างอะไรกับไม่ให้
เวลาครึ่งวันแค่เชื่อมวงจรก็ยังไม่พอเลย
เรื่องที่ขนาดเถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ทำด้วยกันยังทำไม่ได้ อิ๋งจื่อจินคนเดียวจะไปทำได้เหรอ
“ไม่ต้องไปสนพวกเขาหรอก” ซิวเหยียนเหลือบตามอง “ไปเถอะ กลับไปทำโจทย์”
เถิงอวิ้นเมิ่งไม่ไป เธอกำลังตอบวีแชทของอิ๋งจื่อจิน
เฟิงเย่ว์ชะโงกหน้าเข้ามา “เทพอิ๋งส่งอะไรให้เหรอ”
เถิงอวิ้นเมิ่งเกาหัว “ถามว่าซื้ออะไหล่ที่ไหน”
เนื่องจากมีข้อกำหนดว่านักเรียนจะต้องทำเครื่องมือด้วยตัวเอง ค่ายติวจึงไม่มีให้แม้แต่อะไหล่
อย่างไรเสียก็ออกแบบมาไม่เหมือนกัน อะไหล่ที่ใช้ก็ย่อมต่างกัน
เฟิงเย่ว์พยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรอีก
…
เวลาครึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ตอนสี่โมงห้าสิบนาทีพวกนักเรียนก็มารวมตัวที่ห้องเรียนใหญ่อีกครั้ง
อิ๋งจื่อจินยังไม่มา
จั่วหลีดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ “พวกเธอทดสอบก่อน กลุ่มเถิงอวิ้นเมิ่งไว้หลังสุด”
ถึงแม้กลุ่มของซิวเหยียนจะไม่ใช่กลุ่มที่ผลงานดีที่สุด แต่เธอเป็นหัวหน้ากลุ่ม
เธอถือเครื่องมือที่ทำเสร็จแล้วเดินขึ้นหน้า จากนั้นก็ใส่ในเครื่องจักรตรงหน้า
ทว่าเวลาผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆ เครื่องจักรก็ยังไม่ขยับ ถึงขั้นที่ไม่มีแม้แต่เสียง
นี่ก็พิสูจน์ได้ว่าเครื่องมือฟิสิกส์ที่พวกเขาทำออกมาไม่ผ่านการทดสอบ
รอยยิ้มของซิวเหยียนชะงัก กำมือแน่น
“อย่าน้อยก็ไม่ระเบิด” จั่วหลีเขียนคะแนนลงสมุด น้ำเสียงราบเรียบ “เอาล่ะ กลุ่มต่อไป”
ซิวเหยียนหยิบผลงานกลุ่มตัวเองออกมา ก้มหน้า หลบไปยืนด้านข้างอย่างรวดเร็ว แก้มเริ่มแดง
ไม่ว่าจะในวงการบันเทิงหรือในตระกูลซิว เธอก็ถูกเอาอกเอาใจจนชินแล้ว ไม่เคยถูกทำขายหน้าแบบนี้มาก่อน
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากเพิ่มคะแนนนิยมกับช่วยตระกูลซิวผูกมิตรกับคนเก่ง เธอไม่มีทางมาเข้าร่วมค่ายติวอะไรนี่หรอก
สองกลุ่มถัดมาหลังจากที่เอาเครื่องมือใส่ลงไปในเครื่องจักรก็ทำให้เครื่องจักรขยับได้ แต่ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
“ใช้ได้ๆ” จั่วหลีรู้สึกเซอร์ไพรส์ “ใช้ได้ เก่งมากแล้ว ดีมาก”
เขาเองก็ได้ข่าวมาจากทางค่ายติวที่อื่นแล้ว
นักเรียนของประเทศอื่นๆ ก็ใช่ว่าทุกกลุ่มจะทำให้เครื่องจักรทำงานได้
ส่วนกลุ่มที่ทำให้เครื่องจักรทำงานอย่างสมบูรณ์ได้ก็มีแค่กลุ่มสองกลุ่ม
อิ๋งจื่อจินมาถึงในเวลานี้พอดี เวลาห้าโมงห้านาที
เธอขยับเครื่องมือในมือ เดินไปด้านหน้าแล้วเอาใส่เครื่องจักร
เถิงอวิ้นเมิ่งแอบกังวล “เฟิงเย่ว์ ของพวกเราจะไม่ระเบิดใช่ไหม”
“จะเป็นไปได้ยังไง” เฟิงเย่ว์มั่นใจมาก “มีเทพอิ๋งจะกลัวอะไร”
“ประเด็นคือเวลามันน้อยไง” เถิงอวิ้นเมิ่งเครียด “ไม่รู้ว่าจื่อจินเชื่อมต่อวงจรทั้งหมดได้หรือเปล่า”
ซิวเหยียนกอดอก มองไปด้วยสายตาเย็นชา
เธอก็อยากจะรอดูว่า แค่เวลาไม่นานอิ๋งจื่อจินจะโชว์ฝีมืออะไรออกมาได้
ขนาดพวกเขาทำมาสี่วันยังล้มเหลว เธอไม่เชื่อหรอกว่าอิ๋งจื่อจินจะทำได้จริงๆ
ไม่ใช่แค่ซิวเหยียน สายตาของนักเรียนคนอื่นๆ ก็จับจ้องไปที่เครื่องจักร
อิ๋งจื่อจินกดสวิตช์ท่ามกลางสายตาของทุกคน
ครืน ครืน…
พอกดปุ๊บก็มีเสียงดังออกมาจากเครื่องจักร
จากนั้นไม่ถึงสามวินาทีไฟทุกดวงของเครื่องจักรก็สว่างขึ้น
ส่วนอื่นๆ ก็เริ่มทำงานตามกันมา ต่อเนื่องกันทั้งเครื่อง
นี่คือการทำงานอย่างสมบูรณ์!
เถิงอวิ้นเมิ่งเอามือปิดปาก ร้องกรี๊ด
สายตาของซิวเหยียนเปลี่ยนไป ในที่สุดก็มีสีหน้าเคร่งขรึม
จั่วหลีมุมปากกระตุก “…”
กะแล้ว
เครื่องมืออันนี้ไม่ใช่ของยาก ถ้าให้เวลาพอ ทุกกลุ่มก็สามารถทำให้เครื่องจักรทำงานสมบูรณ์ได้เหมือนกัน
ประเด็นคือเวลาไม่พอ
แค่ทำให้เครื่องจักรทำงานได้ก็เพียงพอแล้ว
เขาอุตส่าห์บอกให้เบาๆ อิ๋งจื่อจินก็ยังจะจัดเต็ม
“ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว ทุกคนก็เห็นแล้ว” จั่วหลีถอนหายใจ “คะแนนเต็ม”
ไม่มีใครคัดค้าน
ซิวเหยียนกำมือแน่นกว่าเดิม
“นักเรียนอิ๋ง เธอเป็นคนมาตรงเวลาตลอด” จั่วหลีก็แค่ลองถามดู “ทำไมครั้งนี้มาสายล่ะ”
อิ๋งจื่อจินเป็นคนตรงเวลาแม้กระทั่งหลักวินาที
เขาไม่รู้ว่าเธอทำได้อย่างไร
ตรงเวลาเสียยิ่งกว่านาฬิกา
อิ๋งจื่อจินปิดเครื่อง เอาเครื่องมือออกมา “ไปเอาภาพกล้องวงจรปิดของถนนตงจยามาค่ะ เสียเวลาไปนิดหน่อย”
“ศาสตราจารย์จั่วลองดูค่ะ”
เธอเอาแฟลชไดร์วางบนโต๊ะ
ถนนตงจยาก็คือถนนเส้นที่เถิงอวิ้นเมิ่งไปซื้ออะไหล่
Comments
Pengaturan Membaca
The quick brown fox jumps over the lazy dog
Background :
Font :
Size :