คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 321 ไอดีของอิ๋งจื่อจิน ลงมือ

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 321 ไอดีของอิ๋งจื่อจิน ลงมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เผยเทียนอี้รู้ดีว่า เว็บบอร์ดเอ็นโอเคเป็นโปรแกรมโซเชียลที่แปลกประหลาดมาก

หาในแอปสโตร์ไม่เจอ ค้นหาในเน็ตก็ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับเว็บบอร์ดนี้

ตอนนั้นที่อาจารย์ของเขาให้โปรแกรม แอคเคาท์กับพาสเวิร์ดมา ยังได้กำชับด้วยว่าห้ามแพร่งพรายไปข้างนอก

ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ให้พวกนี้มา เผยเทียนอี้ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเว็บบอร์ดอย่างเอ็นโอเคอยู่

จากสถานการณ์ที่เขาลองโพสต์ภารกิจบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเค และมีคนมาทำก็แสดงให้เห็นแล้วว่าในโปรแกรมโซเชียลโปรแกรมนี้มีคนเก่งๆ มากมายปะปนอยู่จริงๆ

อีกทั้งยังไม่มีโปรแกรมโซเชียลโปรแกรมไหนที่ทำได้อย่างเว็บบอร์ดเอ็นโอเค หรือแม้กระทั่งเลียนแบบบนโลกนี้มีเพียงหนึ่งเดียว

แต่อิ๋งจื่อจิน?

เผยเทียนอี้เห็นชื่อไอดีเธออย่างชัดเจนเป็นคำสั้นๆ เทพ…

ทันใดนั้นหน้าจอได้ดับลง

อิ๋งจื่อจินเงยหน้าขึ้น ดวงตาหงส์ฉายแววเย็นชา ไร้ซึ่งความอบอุ่นใดๆ มองเขาอยู่แบบนั้น ใบหน้าที่งดงามเกินใครทะลวงเข้าไปในดวงตา ความงามที่ต้องมนต์สะกดได้พุ่งเข้าหาพร้อมแรงกดดัน

พลังโจมตีเต็มเปี่ยม แทบทำให้หยุดหายใจ เผยเทียนอี้ถอยหลังไปสองก้าวโดยอัตโนมัติ

ถูกจับได้เต็มๆ เขารู้สึกกระอักกระอ่วน กลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างควบคุมไม่ได้

อิ๋งจื่อจินเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าเสื้อ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“มีนิสัยชอบแอบดูของของคนอื่นเหรอ”

เสียงไม่ดัง พูดด้วยระดับความดังปกติ แต่จั่วหลีที่อยู่ข้างๆ ย่อมได้ยิน เดิมทีเขากำลังใช้กล้องส่องทางไกลส่องดูคฤหาสน์ร้างที่อยู่ห่างออกไปร้อยเมตรด้วยความร้อนใจ พอได้ยินแบบนั้นเขาก็หันมา ขมวดคิ้วมองเผยเทียนอี้

“มีอะไรกัน”

“เปล่าครับ” ถูกพูดใส่หน้าตรงๆ แบบนี้ เผยเทียนอี้ยิ่งอายเข้าไปใหญ่

ริมฝีปากของเขาขยับ แต่สุดท้ายก็พูดว่า “ขอโทษ” ออกไป

เขาเดินไปอยู่ด้านข้าง หลบออกมา สีหน้าของเผยเทียนอี้เรียบเฉย

เขาคิดมากเกินไป เว็บบอร์ดเอ็นโอเคมีแค่เวอร์ชันคอมพิวเตอร์

เขาเคยลองเอาโปรแกรมมาติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือ แต่กลับต้องเสียโทรศัพท์ไปเครื่องหนึ่ง

น่าจะเป็นโปรแกรมอื่นมากกว่า ก็แค่รูปคล้ายกัน

เผยเทียนอี้ไม่มองอิ๋งจื่อจินอีก เขาไปคุยข้อมูลกับทางตำรวจ

อิ๋งจื่อจินล็อกอินด้วยไอดีเทพพยากรณ์

อย่างไรเสียไอดีคนชี้ทางก็อยู่แค่ระดับ เอ

ถึงแม้จะเข้าพื้นที่ปิดได้ แต่ไม่มีสิทธิพิเศษมากพอ

เธอเหลือบมองระดับบัญชีผู้ใช้งานของตัวเอง ไม่ใช่ระดับ เอสเอส หรืออย่างอื่น แต่เป็นอักษรภาษาอังกฤษ

TAROT ก็คือ ทาโรต์

ทั่วทั้งเว็บบอร์ดเอ็นโอเค บัญชีใช้งานที่มีระดับแบบนี้มีอยู่แค่สี่บัญชี

อีกสามบัญชีคือสิบ กับอีกสองคนที่ร่วมกันก่อตั้งสมาพันธ์ลับ

อิ๋งจื่อจินล็อกอินเข้าบัญชีเทพพยากรณ์ได้อย่างสบายใจเป็นเพราะไม่มีทางขึ้นแจ้งเตือนบนหน้าจอว่าบัญชีระดับ เอสเอส มีความเคลื่อนไหว

ไม่อย่างนั้น เธอล็อกอินเข้าไปแบบนี้ สมาชิกของสมาพันธ์ลับทั้งหมดก็จะรู้

แต่ไม่รวม สิบ

อิ๋งจื่อจินเพิ่งเข้าเว็บบอร์ดก็มีหน้าต่างสนทนาเด้งขึ้นมา

แอทสิบ : [!!!]

แอทสิบ : [เตรียมออกจากถ้ำแล้วใช่ไหม เร็วเข้าๆ รีบบอกมาว่าเมื่อไรจะมาหาผม ผมรอคุณมาทำนายดวงชะตาให้ มีแค่คุณที่ทำนายได้ ท่านเทพพยากรณ์ผู้ยิ่งใหญ่ ขอคำนับ มาซะทีเถอะนะ ขอร้องล่ะ]

“…”

อิ๋งจื่อจินปิดหน้าต่างสนทนานี้ทันที

ต่อให้ไม่ใช้ชีวิตเกษียณแล้วเธอก็ไม่มีทางไปหา สิบ

ญาณพยากรณ์ของเธอในตอนนี้ทำนายสิ่งที่ สิบ ต้องการไม่ได้

อิ๋งจื่อจินไปดูที่ชาร์ตนักล่า

ใช้บัญชีเทพพยากรณ์เธอสามารถเห็นข้อมูลของชาร์ตนักล่าในส่วนที่บัญชีผู้ใช้งานอื่นไม่เห็น ต่อให้เป็นบัญชีระดับ เอสเอส ก็เห็นแค่อันดับ เธอสามารถดูพิกัดของนักล่าได้ ถึงแม้จะแค่ห้าสิบอันดับหลัง แต่นั่นก็พอแล้ว

สายตาของอิ๋งจื่อจินหยุดอยู่ที่อันดับหกสิบเจ็ดของชาร์ตนักสะกดจิต ด้านหลังมีพิกัด

พิกัดนี้เป็นจุดเดียวกับเกอร์เวน

มีนักสะกดจิตตามที่คิดไว้

นักสะกดจิตที่ติดชาร์ต การสะกดจิตแบบหมู่เป็นงานที่ง่ายมากสำหรับพวกเขา ต่อให้เป็นคนมีวิชาป้องกันตัวก็ต่อต้านอะไรไม่ได้

แต่จอมยุทธ์ไม่เหมือนกัน พวกเขามีกำลังภายในที่แก่กล้า ประสาทสัมผัสย่อมไวกว่าคนปกติไปไกลมาก หากคิดจะสะกดจิตพวกเขา อย่างน้อยก็ต้องเป็นนักสะกดจิตยี่สิบอันดับแรกของชาร์ต

อิ๋งจื่อจินล็อกเอ๊าออกจากเว็บบอร์ดเอ็นโอเค มองไปที่ไกลๆ

ทีมยอดฝีมือที่เนี่ยอี้ส่งมาได้มาถึงในเวลานี้

พวกเขาสวมชุดยูนิฟอร์มแบบเดียวกัน แต่ละคนยังหนุ่มยากที่ใครจะไม่สงสัย

สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างห่างไกล ตอนที่ฝ่ายนั้นลักพาตัวเกอร์เวนก็เห็นได้ชัดว่ามีการเตรียมตัวมาอย่างดี

ตอนนี้อยู่ๆ มีคนโผล่มาห้าคน ทำให้เผยเทียนอี้สีหน้าเปลี่ยน เขาตวาดเสียงดุ “พวกคุณเป็นใคร”

หัวหน้าทีมปาดเหงื่อ ไม่สนใจเผยเทียนอี้เดินเข้าไปหาอิ๋งจื่อจิน

อิ๋งจื่อจินเงยหน้ามองเขา สีหน้าไม่มีความเปลี่ยนแปลง แต่ความหมายชัดเจนมาก

หัวหน้าทีมกลืนคำพูดที่จะพูดลงคอไปทันที

เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเธอ เดินไปหาฝ่ายตำรวจของฮู่เฉิงแล้วหยิบบัตรประจำตัวออกมา “สวัสดีครับ”

ตำรวจรับบัตรนั้นมาดู สีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที “สวัสดีครับ”

พวกเขาไม่รู้จักหน่วยอีจื้อ แต่รู้จักสัญลักษณ์ที่อยู่บนบัตร

ใครก็ตามที่ถือสัญลักษณ์นี้ก็แสดงว่าเบื้องบนส่งมา

คราวนี้ จากเดิมที่พวกตำรวจระมัดระวังอยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าเดิม

ตอนที่พวกเผยเทียนอี้ไปแจ้งความไม่ได้พูดชื่อเกอร์เวน บอกแค่ว่าเป็นบุคคลที่สำคัญมาก

แต่ดูจากตอนนี้ แสดงว่าต้องสำคัญสุดๆ ไม่อย่างนั้นเบื้องบนคงไม่สั่งการลงมา

“พวกคุณรออยู่ที่นี่ก่อน” หัวหน้าทีมพยักหน้า

“พวกเราจะไปสืบดูลาดเลา”

ตำรวจพยักหน้า ทำตามอย่างเคร่งครัด

เผยเทียนอี้มองคนหนุ่มที่อยู่ในชุดเครื่องแบบทั้งห้าคนเดินตรงไปทางคฤหาสน์ร้าง เขาขมวดคิ้ว พูดด้วยความไม่พอใจ

“ไหนคุยกันแล้วว่าห้ามบุ่มบ่าม พวกเขาเป็นใครกันแน่ ทำไมไปทางนั้นได้”

ถ้าเกอร์เวนได้รับบาดเจ็บคงไม่มีใครรับผิดชอบไหว

ตำรวจยิ้มอย่างสุภาพ บอกอ้อมๆ

“ขอโทษครับคุณเผย นี่เป็นความลับ บอกให้คุณทราบไม่ได้ครับ”

เผยเทียนอี้สูดลมหายใจเข้าลึก แต่เขาก็จนปัญญาได้แต่รอด้วยความร้อนใจ

เวลานี้ที่ยุโรป

ตระกูลเทเลอร์

คนที่ก่อนหน้านี้โทรหาเผยเทียนอี้ก็คือคนของตระกูลเทเลอร์

ชื่อเสียงของตระกูลเทเลอร์ไม่ต่างจากตระกูลเบวินเท่าไร

แน่นอนว่าไม่มีทางเทียบกับตระกูลลอเรนท์ได้

ภายในห้องทำงาน

“ท่านคะ” เลขาลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็พูดขึ้น “ถ้าส่งเครื่องพ่นรูปตัวแอลไปตอนนี้จะยังช่วยศาสตราจารย์เกอร์เวนได้นะคะ”

“ช่วยเหรอ ทำไมต้องช่วย” ผู้ชายที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์พอได้ยินแบบนี้ก็ไม่เห็นด้วย น้ำเสียงไม่พอใจ

“ผมต้องการเครื่องพ่นรูปตัวแอล ไม่ได้ต้องการผู้เชี่ยวชาญกลศาสตร์ควอนตัม”

ปลายนิ้วของเขาเคาะแป้นคีย์บอร์ดเบาๆ

“ถ้าเป็นศาสตราจารย์มานูเอล ผมก็จะเอาเครื่องพ่นรูปตัวแอลไปแลกอยู่หรอก”

ศาสตราจารย์มานูเอลก็เป็นศาสตราจารย์ชั้นแนวหน้าของโลกเหมือนกัน เพียงแต่ค้นคว้าด้านชีวเคมี

เครื่องพ่นรูปตัวแอลก็คืองานวิจัยของมานูเอล

ผู้ชายคนนี้ยังรอให้วันหน้ามานูเอลค้นคว้างานวิจัยอื่นๆ อีกย่อมไม่มีทางปล่อยให้เขาเป็นอะไร

แต่เกอร์เวน? เกอร์เวนคือที่สุดของด้านกลศาสตร์ควอนตัม แต่ว่ากลศาสตร์ควอนตัมเป็นโจทย์ที่ยากมากของวงการฟิสิกส์มาตลอด

จวบจนทุกวันนี้มีการนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตน้อยมาก ก็แค่เซมิคอนดักเตอร์ หรือสัมประสิทธิ์การนำความร้อนอะไรพวกนี้

ผ่านมาตั้งกี่ปีแล้วก็ยังไม่เห็นค้นพบอะไรที่สะเทือนไปทั้งโลกได้ ทำอย่างกับว่าวันหน้าเกอร์เวนจะคิดค้นยานอวกาศที่สามารถทะลุมิติได้จริงๆ แต่มันน่าขำเกินไปหรือเปล่า อีกอย่างเขากับเกอร์เวนก็ไม่ได้รู้จักกัน และก็ไม่เคยลงทุนให้ห้องทดลองของเกอร์เวนด้วย

จึงยิ่งไม่มีความจำเป็นต้องเปลืองกำลังทรัพย์ของตัวเองไปช่วย

“แต่ว่าท่านคะ…” เลขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับศาสตราจารย์เกอร์เวน เกรงว่า…”

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราต้องคิด” เขาพูดขัดจังหวะ

“แต่เรื่องนี้ถือเป็นการเตือนพวกเราว่าให้เพิ่มคนคุ้มกันศาสตราจารย์มานูเอล ห้ามปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นกับเขาเด็ดขาด”

ผลงานสิ่งประดิษฐ์อย่างเครื่องพ่นรูปตัวแอล ใครๆ ก็อยากมาแย่งไป

ในฐานะที่มานูเอลเป็นผู้คิดค้นได้คนแรกจะต้องถูกจับตามองอย่างแน่นอน เพียงแต่ช่วงนี้มานูเอลไม่ได้ออกจากห้องทดลอง คนอื่นก็เลยลงมือไม่ได้

พูดได้เพียงว่าเกอร์เวนซวยเอง

เลขาเห็นเจ้านายยืนกรานแบบนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ออกไปจัดการทันที

ทางด้านฮู่เฉิง

ภายในคฤหาสน์ร้าง

เกอร์เวนถูกมัดติดกับเก้าอี้ อยู่ในภาวะสลบไสล

ข้างกายเขามีคนอยู่ทั้งหมดสี่คน ต่างสวมชุดกันกระสุน หนึ่งในนั้นมีคอมพิวเตอร์อยู่บนแขน มืออีกข้างกำลังเคาะแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็พูดขึ้น

“ตรวจสอบแล้ว ในเวลาห้าชั่วโมงที่ผ่านมา เมืองที่มีห้องทดลองตั้งอยู่ไม่มีเครื่องบินมาฮู่เฉิงสักลำ”

เครื่องพ่นรูปตัวแอลเป็นผลงานสำเร็จรูป เพิ่งสร้างขึ้นมาได้ไม่นาน ไม่จำเป็นต้องเตรียมการอะไร

แต่ผ่านมาห้าชั่วโมงแล้วกลับไม่มีข่าวคราวอะไรเลย นี่ก็แสดงว่าทางยุโรปไม่ได้คิดจะเอาเครื่องพ่นรูปตัวแอลมาแลกชีวิตของเกอร์เวน เรื่องนี้อยู่ในความคาดหมายของพวกเขา แต่ก็ยังคงอยากลองดู

พวกเขาก็รู้ว่าเครื่องพ่นรูปตัวแอลอยู่ในมือตระกูลเทเลอร์ เพียงแต่ตระกูลเทเลอร์ไม่ใช่ที่ที่ใครก็บุกเข้าไปได้

เคยมีคนโพสต์ภารกิจบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเคว่า ต้องการชีวิตของนายใหญ่ตระกูลเทเลอร์

นักฆ่าอันดับสี่ไป แต่ก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาหาทางลงมือกับมานูเอลไม่ได้ ก็ไม่มีทางลงทุนลงแรงมาลักพาตัวเกอร์เวน

“จึ๊ ไร้ประโยชน์ ยังคิดว่าจะข่มขู่ได้เสียอีก” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ค่อยๆ ยืนขึ้น สายตาเย็นชา

“ทำฉันเสียเวลา ฆ่าทิ้งซะ”

เขาพูดง่ายๆ ขยับข้อมือ หยิบปืนออกมาหนึ่งกระบอกแล้วเล็งไปที่กลางหน้าผากเกอร์เวน

เขาเหนี่ยวไกโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 321 ไอดีของอิ๋งจื่อจิน ลงมือ

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 321 ไอดีของอิ๋งจื่อจิน ลงมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เผยเทียนอี้รู้ดีว่า เว็บบอร์ดเอ็นโอเคเป็นโปรแกรมโซเชียลที่แปลกประหลาดมาก

หาในแอปสโตร์ไม่เจอ ค้นหาในเน็ตก็ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับเว็บบอร์ดนี้

ตอนนั้นที่อาจารย์ของเขาให้โปรแกรม แอคเคาท์กับพาสเวิร์ดมา ยังได้กำชับด้วยว่าห้ามแพร่งพรายไปข้างนอก

ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ให้พวกนี้มา เผยเทียนอี้ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเว็บบอร์ดอย่างเอ็นโอเคอยู่

จากสถานการณ์ที่เขาลองโพสต์ภารกิจบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเค และมีคนมาทำก็แสดงให้เห็นแล้วว่าในโปรแกรมโซเชียลโปรแกรมนี้มีคนเก่งๆ มากมายปะปนอยู่จริงๆ

อีกทั้งยังไม่มีโปรแกรมโซเชียลโปรแกรมไหนที่ทำได้อย่างเว็บบอร์ดเอ็นโอเค หรือแม้กระทั่งเลียนแบบบนโลกนี้มีเพียงหนึ่งเดียว

แต่อิ๋งจื่อจิน?

เผยเทียนอี้เห็นชื่อไอดีเธออย่างชัดเจนเป็นคำสั้นๆ เทพ…

ทันใดนั้นหน้าจอได้ดับลง

อิ๋งจื่อจินเงยหน้าขึ้น ดวงตาหงส์ฉายแววเย็นชา ไร้ซึ่งความอบอุ่นใดๆ มองเขาอยู่แบบนั้น ใบหน้าที่งดงามเกินใครทะลวงเข้าไปในดวงตา ความงามที่ต้องมนต์สะกดได้พุ่งเข้าหาพร้อมแรงกดดัน

พลังโจมตีเต็มเปี่ยม แทบทำให้หยุดหายใจ เผยเทียนอี้ถอยหลังไปสองก้าวโดยอัตโนมัติ

ถูกจับได้เต็มๆ เขารู้สึกกระอักกระอ่วน กลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างควบคุมไม่ได้

อิ๋งจื่อจินเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าเสื้อ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“มีนิสัยชอบแอบดูของของคนอื่นเหรอ”

เสียงไม่ดัง พูดด้วยระดับความดังปกติ แต่จั่วหลีที่อยู่ข้างๆ ย่อมได้ยิน เดิมทีเขากำลังใช้กล้องส่องทางไกลส่องดูคฤหาสน์ร้างที่อยู่ห่างออกไปร้อยเมตรด้วยความร้อนใจ พอได้ยินแบบนั้นเขาก็หันมา ขมวดคิ้วมองเผยเทียนอี้

“มีอะไรกัน”

“เปล่าครับ” ถูกพูดใส่หน้าตรงๆ แบบนี้ เผยเทียนอี้ยิ่งอายเข้าไปใหญ่

ริมฝีปากของเขาขยับ แต่สุดท้ายก็พูดว่า “ขอโทษ” ออกไป

เขาเดินไปอยู่ด้านข้าง หลบออกมา สีหน้าของเผยเทียนอี้เรียบเฉย

เขาคิดมากเกินไป เว็บบอร์ดเอ็นโอเคมีแค่เวอร์ชันคอมพิวเตอร์

เขาเคยลองเอาโปรแกรมมาติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือ แต่กลับต้องเสียโทรศัพท์ไปเครื่องหนึ่ง

น่าจะเป็นโปรแกรมอื่นมากกว่า ก็แค่รูปคล้ายกัน

เผยเทียนอี้ไม่มองอิ๋งจื่อจินอีก เขาไปคุยข้อมูลกับทางตำรวจ

อิ๋งจื่อจินล็อกอินด้วยไอดีเทพพยากรณ์

อย่างไรเสียไอดีคนชี้ทางก็อยู่แค่ระดับ เอ

ถึงแม้จะเข้าพื้นที่ปิดได้ แต่ไม่มีสิทธิพิเศษมากพอ

เธอเหลือบมองระดับบัญชีผู้ใช้งานของตัวเอง ไม่ใช่ระดับ เอสเอส หรืออย่างอื่น แต่เป็นอักษรภาษาอังกฤษ

TAROT ก็คือ ทาโรต์

ทั่วทั้งเว็บบอร์ดเอ็นโอเค บัญชีใช้งานที่มีระดับแบบนี้มีอยู่แค่สี่บัญชี

อีกสามบัญชีคือสิบ กับอีกสองคนที่ร่วมกันก่อตั้งสมาพันธ์ลับ

อิ๋งจื่อจินล็อกอินเข้าบัญชีเทพพยากรณ์ได้อย่างสบายใจเป็นเพราะไม่มีทางขึ้นแจ้งเตือนบนหน้าจอว่าบัญชีระดับ เอสเอส มีความเคลื่อนไหว

ไม่อย่างนั้น เธอล็อกอินเข้าไปแบบนี้ สมาชิกของสมาพันธ์ลับทั้งหมดก็จะรู้

แต่ไม่รวม สิบ

อิ๋งจื่อจินเพิ่งเข้าเว็บบอร์ดก็มีหน้าต่างสนทนาเด้งขึ้นมา

แอทสิบ : [!!!]

แอทสิบ : [เตรียมออกจากถ้ำแล้วใช่ไหม เร็วเข้าๆ รีบบอกมาว่าเมื่อไรจะมาหาผม ผมรอคุณมาทำนายดวงชะตาให้ มีแค่คุณที่ทำนายได้ ท่านเทพพยากรณ์ผู้ยิ่งใหญ่ ขอคำนับ มาซะทีเถอะนะ ขอร้องล่ะ]

“…”

อิ๋งจื่อจินปิดหน้าต่างสนทนานี้ทันที

ต่อให้ไม่ใช้ชีวิตเกษียณแล้วเธอก็ไม่มีทางไปหา สิบ

ญาณพยากรณ์ของเธอในตอนนี้ทำนายสิ่งที่ สิบ ต้องการไม่ได้

อิ๋งจื่อจินไปดูที่ชาร์ตนักล่า

ใช้บัญชีเทพพยากรณ์เธอสามารถเห็นข้อมูลของชาร์ตนักล่าในส่วนที่บัญชีผู้ใช้งานอื่นไม่เห็น ต่อให้เป็นบัญชีระดับ เอสเอส ก็เห็นแค่อันดับ เธอสามารถดูพิกัดของนักล่าได้ ถึงแม้จะแค่ห้าสิบอันดับหลัง แต่นั่นก็พอแล้ว

สายตาของอิ๋งจื่อจินหยุดอยู่ที่อันดับหกสิบเจ็ดของชาร์ตนักสะกดจิต ด้านหลังมีพิกัด

พิกัดนี้เป็นจุดเดียวกับเกอร์เวน

มีนักสะกดจิตตามที่คิดไว้

นักสะกดจิตที่ติดชาร์ต การสะกดจิตแบบหมู่เป็นงานที่ง่ายมากสำหรับพวกเขา ต่อให้เป็นคนมีวิชาป้องกันตัวก็ต่อต้านอะไรไม่ได้

แต่จอมยุทธ์ไม่เหมือนกัน พวกเขามีกำลังภายในที่แก่กล้า ประสาทสัมผัสย่อมไวกว่าคนปกติไปไกลมาก หากคิดจะสะกดจิตพวกเขา อย่างน้อยก็ต้องเป็นนักสะกดจิตยี่สิบอันดับแรกของชาร์ต

อิ๋งจื่อจินล็อกเอ๊าออกจากเว็บบอร์ดเอ็นโอเค มองไปที่ไกลๆ

ทีมยอดฝีมือที่เนี่ยอี้ส่งมาได้มาถึงในเวลานี้

พวกเขาสวมชุดยูนิฟอร์มแบบเดียวกัน แต่ละคนยังหนุ่มยากที่ใครจะไม่สงสัย

สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างห่างไกล ตอนที่ฝ่ายนั้นลักพาตัวเกอร์เวนก็เห็นได้ชัดว่ามีการเตรียมตัวมาอย่างดี

ตอนนี้อยู่ๆ มีคนโผล่มาห้าคน ทำให้เผยเทียนอี้สีหน้าเปลี่ยน เขาตวาดเสียงดุ “พวกคุณเป็นใคร”

หัวหน้าทีมปาดเหงื่อ ไม่สนใจเผยเทียนอี้เดินเข้าไปหาอิ๋งจื่อจิน

อิ๋งจื่อจินเงยหน้ามองเขา สีหน้าไม่มีความเปลี่ยนแปลง แต่ความหมายชัดเจนมาก

หัวหน้าทีมกลืนคำพูดที่จะพูดลงคอไปทันที

เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเธอ เดินไปหาฝ่ายตำรวจของฮู่เฉิงแล้วหยิบบัตรประจำตัวออกมา “สวัสดีครับ”

ตำรวจรับบัตรนั้นมาดู สีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที “สวัสดีครับ”

พวกเขาไม่รู้จักหน่วยอีจื้อ แต่รู้จักสัญลักษณ์ที่อยู่บนบัตร

ใครก็ตามที่ถือสัญลักษณ์นี้ก็แสดงว่าเบื้องบนส่งมา

คราวนี้ จากเดิมที่พวกตำรวจระมัดระวังอยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าเดิม

ตอนที่พวกเผยเทียนอี้ไปแจ้งความไม่ได้พูดชื่อเกอร์เวน บอกแค่ว่าเป็นบุคคลที่สำคัญมาก

แต่ดูจากตอนนี้ แสดงว่าต้องสำคัญสุดๆ ไม่อย่างนั้นเบื้องบนคงไม่สั่งการลงมา

“พวกคุณรออยู่ที่นี่ก่อน” หัวหน้าทีมพยักหน้า

“พวกเราจะไปสืบดูลาดเลา”

ตำรวจพยักหน้า ทำตามอย่างเคร่งครัด

เผยเทียนอี้มองคนหนุ่มที่อยู่ในชุดเครื่องแบบทั้งห้าคนเดินตรงไปทางคฤหาสน์ร้าง เขาขมวดคิ้ว พูดด้วยความไม่พอใจ

“ไหนคุยกันแล้วว่าห้ามบุ่มบ่าม พวกเขาเป็นใครกันแน่ ทำไมไปทางนั้นได้”

ถ้าเกอร์เวนได้รับบาดเจ็บคงไม่มีใครรับผิดชอบไหว

ตำรวจยิ้มอย่างสุภาพ บอกอ้อมๆ

“ขอโทษครับคุณเผย นี่เป็นความลับ บอกให้คุณทราบไม่ได้ครับ”

เผยเทียนอี้สูดลมหายใจเข้าลึก แต่เขาก็จนปัญญาได้แต่รอด้วยความร้อนใจ

เวลานี้ที่ยุโรป

ตระกูลเทเลอร์

คนที่ก่อนหน้านี้โทรหาเผยเทียนอี้ก็คือคนของตระกูลเทเลอร์

ชื่อเสียงของตระกูลเทเลอร์ไม่ต่างจากตระกูลเบวินเท่าไร

แน่นอนว่าไม่มีทางเทียบกับตระกูลลอเรนท์ได้

ภายในห้องทำงาน

“ท่านคะ” เลขาลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็พูดขึ้น “ถ้าส่งเครื่องพ่นรูปตัวแอลไปตอนนี้จะยังช่วยศาสตราจารย์เกอร์เวนได้นะคะ”

“ช่วยเหรอ ทำไมต้องช่วย” ผู้ชายที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์พอได้ยินแบบนี้ก็ไม่เห็นด้วย น้ำเสียงไม่พอใจ

“ผมต้องการเครื่องพ่นรูปตัวแอล ไม่ได้ต้องการผู้เชี่ยวชาญกลศาสตร์ควอนตัม”

ปลายนิ้วของเขาเคาะแป้นคีย์บอร์ดเบาๆ

“ถ้าเป็นศาสตราจารย์มานูเอล ผมก็จะเอาเครื่องพ่นรูปตัวแอลไปแลกอยู่หรอก”

ศาสตราจารย์มานูเอลก็เป็นศาสตราจารย์ชั้นแนวหน้าของโลกเหมือนกัน เพียงแต่ค้นคว้าด้านชีวเคมี

เครื่องพ่นรูปตัวแอลก็คืองานวิจัยของมานูเอล

ผู้ชายคนนี้ยังรอให้วันหน้ามานูเอลค้นคว้างานวิจัยอื่นๆ อีกย่อมไม่มีทางปล่อยให้เขาเป็นอะไร

แต่เกอร์เวน? เกอร์เวนคือที่สุดของด้านกลศาสตร์ควอนตัม แต่ว่ากลศาสตร์ควอนตัมเป็นโจทย์ที่ยากมากของวงการฟิสิกส์มาตลอด

จวบจนทุกวันนี้มีการนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตน้อยมาก ก็แค่เซมิคอนดักเตอร์ หรือสัมประสิทธิ์การนำความร้อนอะไรพวกนี้

ผ่านมาตั้งกี่ปีแล้วก็ยังไม่เห็นค้นพบอะไรที่สะเทือนไปทั้งโลกได้ ทำอย่างกับว่าวันหน้าเกอร์เวนจะคิดค้นยานอวกาศที่สามารถทะลุมิติได้จริงๆ แต่มันน่าขำเกินไปหรือเปล่า อีกอย่างเขากับเกอร์เวนก็ไม่ได้รู้จักกัน และก็ไม่เคยลงทุนให้ห้องทดลองของเกอร์เวนด้วย

จึงยิ่งไม่มีความจำเป็นต้องเปลืองกำลังทรัพย์ของตัวเองไปช่วย

“แต่ว่าท่านคะ…” เลขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับศาสตราจารย์เกอร์เวน เกรงว่า…”

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราต้องคิด” เขาพูดขัดจังหวะ

“แต่เรื่องนี้ถือเป็นการเตือนพวกเราว่าให้เพิ่มคนคุ้มกันศาสตราจารย์มานูเอล ห้ามปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นกับเขาเด็ดขาด”

ผลงานสิ่งประดิษฐ์อย่างเครื่องพ่นรูปตัวแอล ใครๆ ก็อยากมาแย่งไป

ในฐานะที่มานูเอลเป็นผู้คิดค้นได้คนแรกจะต้องถูกจับตามองอย่างแน่นอน เพียงแต่ช่วงนี้มานูเอลไม่ได้ออกจากห้องทดลอง คนอื่นก็เลยลงมือไม่ได้

พูดได้เพียงว่าเกอร์เวนซวยเอง

เลขาเห็นเจ้านายยืนกรานแบบนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ออกไปจัดการทันที

ทางด้านฮู่เฉิง

ภายในคฤหาสน์ร้าง

เกอร์เวนถูกมัดติดกับเก้าอี้ อยู่ในภาวะสลบไสล

ข้างกายเขามีคนอยู่ทั้งหมดสี่คน ต่างสวมชุดกันกระสุน หนึ่งในนั้นมีคอมพิวเตอร์อยู่บนแขน มืออีกข้างกำลังเคาะแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็พูดขึ้น

“ตรวจสอบแล้ว ในเวลาห้าชั่วโมงที่ผ่านมา เมืองที่มีห้องทดลองตั้งอยู่ไม่มีเครื่องบินมาฮู่เฉิงสักลำ”

เครื่องพ่นรูปตัวแอลเป็นผลงานสำเร็จรูป เพิ่งสร้างขึ้นมาได้ไม่นาน ไม่จำเป็นต้องเตรียมการอะไร

แต่ผ่านมาห้าชั่วโมงแล้วกลับไม่มีข่าวคราวอะไรเลย นี่ก็แสดงว่าทางยุโรปไม่ได้คิดจะเอาเครื่องพ่นรูปตัวแอลมาแลกชีวิตของเกอร์เวน เรื่องนี้อยู่ในความคาดหมายของพวกเขา แต่ก็ยังคงอยากลองดู

พวกเขาก็รู้ว่าเครื่องพ่นรูปตัวแอลอยู่ในมือตระกูลเทเลอร์ เพียงแต่ตระกูลเทเลอร์ไม่ใช่ที่ที่ใครก็บุกเข้าไปได้

เคยมีคนโพสต์ภารกิจบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเคว่า ต้องการชีวิตของนายใหญ่ตระกูลเทเลอร์

นักฆ่าอันดับสี่ไป แต่ก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาหาทางลงมือกับมานูเอลไม่ได้ ก็ไม่มีทางลงทุนลงแรงมาลักพาตัวเกอร์เวน

“จึ๊ ไร้ประโยชน์ ยังคิดว่าจะข่มขู่ได้เสียอีก” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ค่อยๆ ยืนขึ้น สายตาเย็นชา

“ทำฉันเสียเวลา ฆ่าทิ้งซะ”

เขาพูดง่ายๆ ขยับข้อมือ หยิบปืนออกมาหนึ่งกระบอกแล้วเล็งไปที่กลางหน้าผากเกอร์เวน

เขาเหนี่ยวไกโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 321 ไอดีของอิ๋งจื่อจิน ลงมือ

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 321 ไอดีของอิ๋งจื่อจิน ลงมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เผยเทียนอี้รู้ดีว่า เว็บบอร์ดเอ็นโอเคเป็นโปรแกรมโซเชียลที่แปลกประหลาดมาก

หาในแอปสโตร์ไม่เจอ ค้นหาในเน็ตก็ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับเว็บบอร์ดนี้

ตอนนั้นที่อาจารย์ของเขาให้โปรแกรม แอคเคาท์กับพาสเวิร์ดมา ยังได้กำชับด้วยว่าห้ามแพร่งพรายไปข้างนอก

ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ให้พวกนี้มา เผยเทียนอี้ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเว็บบอร์ดอย่างเอ็นโอเคอยู่

จากสถานการณ์ที่เขาลองโพสต์ภารกิจบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเค และมีคนมาทำก็แสดงให้เห็นแล้วว่าในโปรแกรมโซเชียลโปรแกรมนี้มีคนเก่งๆ มากมายปะปนอยู่จริงๆ

อีกทั้งยังไม่มีโปรแกรมโซเชียลโปรแกรมไหนที่ทำได้อย่างเว็บบอร์ดเอ็นโอเค หรือแม้กระทั่งเลียนแบบบนโลกนี้มีเพียงหนึ่งเดียว

แต่อิ๋งจื่อจิน?

เผยเทียนอี้เห็นชื่อไอดีเธออย่างชัดเจนเป็นคำสั้นๆ เทพ…

ทันใดนั้นหน้าจอได้ดับลง

อิ๋งจื่อจินเงยหน้าขึ้น ดวงตาหงส์ฉายแววเย็นชา ไร้ซึ่งความอบอุ่นใดๆ มองเขาอยู่แบบนั้น ใบหน้าที่งดงามเกินใครทะลวงเข้าไปในดวงตา ความงามที่ต้องมนต์สะกดได้พุ่งเข้าหาพร้อมแรงกดดัน

พลังโจมตีเต็มเปี่ยม แทบทำให้หยุดหายใจ เผยเทียนอี้ถอยหลังไปสองก้าวโดยอัตโนมัติ

ถูกจับได้เต็มๆ เขารู้สึกกระอักกระอ่วน กลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างควบคุมไม่ได้

อิ๋งจื่อจินเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าเสื้อ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“มีนิสัยชอบแอบดูของของคนอื่นเหรอ”

เสียงไม่ดัง พูดด้วยระดับความดังปกติ แต่จั่วหลีที่อยู่ข้างๆ ย่อมได้ยิน เดิมทีเขากำลังใช้กล้องส่องทางไกลส่องดูคฤหาสน์ร้างที่อยู่ห่างออกไปร้อยเมตรด้วยความร้อนใจ พอได้ยินแบบนั้นเขาก็หันมา ขมวดคิ้วมองเผยเทียนอี้

“มีอะไรกัน”

“เปล่าครับ” ถูกพูดใส่หน้าตรงๆ แบบนี้ เผยเทียนอี้ยิ่งอายเข้าไปใหญ่

ริมฝีปากของเขาขยับ แต่สุดท้ายก็พูดว่า “ขอโทษ” ออกไป

เขาเดินไปอยู่ด้านข้าง หลบออกมา สีหน้าของเผยเทียนอี้เรียบเฉย

เขาคิดมากเกินไป เว็บบอร์ดเอ็นโอเคมีแค่เวอร์ชันคอมพิวเตอร์

เขาเคยลองเอาโปรแกรมมาติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือ แต่กลับต้องเสียโทรศัพท์ไปเครื่องหนึ่ง

น่าจะเป็นโปรแกรมอื่นมากกว่า ก็แค่รูปคล้ายกัน

เผยเทียนอี้ไม่มองอิ๋งจื่อจินอีก เขาไปคุยข้อมูลกับทางตำรวจ

อิ๋งจื่อจินล็อกอินด้วยไอดีเทพพยากรณ์

อย่างไรเสียไอดีคนชี้ทางก็อยู่แค่ระดับ เอ

ถึงแม้จะเข้าพื้นที่ปิดได้ แต่ไม่มีสิทธิพิเศษมากพอ

เธอเหลือบมองระดับบัญชีผู้ใช้งานของตัวเอง ไม่ใช่ระดับ เอสเอส หรืออย่างอื่น แต่เป็นอักษรภาษาอังกฤษ

TAROT ก็คือ ทาโรต์

ทั่วทั้งเว็บบอร์ดเอ็นโอเค บัญชีใช้งานที่มีระดับแบบนี้มีอยู่แค่สี่บัญชี

อีกสามบัญชีคือสิบ กับอีกสองคนที่ร่วมกันก่อตั้งสมาพันธ์ลับ

อิ๋งจื่อจินล็อกอินเข้าบัญชีเทพพยากรณ์ได้อย่างสบายใจเป็นเพราะไม่มีทางขึ้นแจ้งเตือนบนหน้าจอว่าบัญชีระดับ เอสเอส มีความเคลื่อนไหว

ไม่อย่างนั้น เธอล็อกอินเข้าไปแบบนี้ สมาชิกของสมาพันธ์ลับทั้งหมดก็จะรู้

แต่ไม่รวม สิบ

อิ๋งจื่อจินเพิ่งเข้าเว็บบอร์ดก็มีหน้าต่างสนทนาเด้งขึ้นมา

แอทสิบ : [!!!]

แอทสิบ : [เตรียมออกจากถ้ำแล้วใช่ไหม เร็วเข้าๆ รีบบอกมาว่าเมื่อไรจะมาหาผม ผมรอคุณมาทำนายดวงชะตาให้ มีแค่คุณที่ทำนายได้ ท่านเทพพยากรณ์ผู้ยิ่งใหญ่ ขอคำนับ มาซะทีเถอะนะ ขอร้องล่ะ]

“…”

อิ๋งจื่อจินปิดหน้าต่างสนทนานี้ทันที

ต่อให้ไม่ใช้ชีวิตเกษียณแล้วเธอก็ไม่มีทางไปหา สิบ

ญาณพยากรณ์ของเธอในตอนนี้ทำนายสิ่งที่ สิบ ต้องการไม่ได้

อิ๋งจื่อจินไปดูที่ชาร์ตนักล่า

ใช้บัญชีเทพพยากรณ์เธอสามารถเห็นข้อมูลของชาร์ตนักล่าในส่วนที่บัญชีผู้ใช้งานอื่นไม่เห็น ต่อให้เป็นบัญชีระดับ เอสเอส ก็เห็นแค่อันดับ เธอสามารถดูพิกัดของนักล่าได้ ถึงแม้จะแค่ห้าสิบอันดับหลัง แต่นั่นก็พอแล้ว

สายตาของอิ๋งจื่อจินหยุดอยู่ที่อันดับหกสิบเจ็ดของชาร์ตนักสะกดจิต ด้านหลังมีพิกัด

พิกัดนี้เป็นจุดเดียวกับเกอร์เวน

มีนักสะกดจิตตามที่คิดไว้

นักสะกดจิตที่ติดชาร์ต การสะกดจิตแบบหมู่เป็นงานที่ง่ายมากสำหรับพวกเขา ต่อให้เป็นคนมีวิชาป้องกันตัวก็ต่อต้านอะไรไม่ได้

แต่จอมยุทธ์ไม่เหมือนกัน พวกเขามีกำลังภายในที่แก่กล้า ประสาทสัมผัสย่อมไวกว่าคนปกติไปไกลมาก หากคิดจะสะกดจิตพวกเขา อย่างน้อยก็ต้องเป็นนักสะกดจิตยี่สิบอันดับแรกของชาร์ต

อิ๋งจื่อจินล็อกเอ๊าออกจากเว็บบอร์ดเอ็นโอเค มองไปที่ไกลๆ

ทีมยอดฝีมือที่เนี่ยอี้ส่งมาได้มาถึงในเวลานี้

พวกเขาสวมชุดยูนิฟอร์มแบบเดียวกัน แต่ละคนยังหนุ่มยากที่ใครจะไม่สงสัย

สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างห่างไกล ตอนที่ฝ่ายนั้นลักพาตัวเกอร์เวนก็เห็นได้ชัดว่ามีการเตรียมตัวมาอย่างดี

ตอนนี้อยู่ๆ มีคนโผล่มาห้าคน ทำให้เผยเทียนอี้สีหน้าเปลี่ยน เขาตวาดเสียงดุ “พวกคุณเป็นใคร”

หัวหน้าทีมปาดเหงื่อ ไม่สนใจเผยเทียนอี้เดินเข้าไปหาอิ๋งจื่อจิน

อิ๋งจื่อจินเงยหน้ามองเขา สีหน้าไม่มีความเปลี่ยนแปลง แต่ความหมายชัดเจนมาก

หัวหน้าทีมกลืนคำพูดที่จะพูดลงคอไปทันที

เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเธอ เดินไปหาฝ่ายตำรวจของฮู่เฉิงแล้วหยิบบัตรประจำตัวออกมา “สวัสดีครับ”

ตำรวจรับบัตรนั้นมาดู สีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที “สวัสดีครับ”

พวกเขาไม่รู้จักหน่วยอีจื้อ แต่รู้จักสัญลักษณ์ที่อยู่บนบัตร

ใครก็ตามที่ถือสัญลักษณ์นี้ก็แสดงว่าเบื้องบนส่งมา

คราวนี้ จากเดิมที่พวกตำรวจระมัดระวังอยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าเดิม

ตอนที่พวกเผยเทียนอี้ไปแจ้งความไม่ได้พูดชื่อเกอร์เวน บอกแค่ว่าเป็นบุคคลที่สำคัญมาก

แต่ดูจากตอนนี้ แสดงว่าต้องสำคัญสุดๆ ไม่อย่างนั้นเบื้องบนคงไม่สั่งการลงมา

“พวกคุณรออยู่ที่นี่ก่อน” หัวหน้าทีมพยักหน้า

“พวกเราจะไปสืบดูลาดเลา”

ตำรวจพยักหน้า ทำตามอย่างเคร่งครัด

เผยเทียนอี้มองคนหนุ่มที่อยู่ในชุดเครื่องแบบทั้งห้าคนเดินตรงไปทางคฤหาสน์ร้าง เขาขมวดคิ้ว พูดด้วยความไม่พอใจ

“ไหนคุยกันแล้วว่าห้ามบุ่มบ่าม พวกเขาเป็นใครกันแน่ ทำไมไปทางนั้นได้”

ถ้าเกอร์เวนได้รับบาดเจ็บคงไม่มีใครรับผิดชอบไหว

ตำรวจยิ้มอย่างสุภาพ บอกอ้อมๆ

“ขอโทษครับคุณเผย นี่เป็นความลับ บอกให้คุณทราบไม่ได้ครับ”

เผยเทียนอี้สูดลมหายใจเข้าลึก แต่เขาก็จนปัญญาได้แต่รอด้วยความร้อนใจ

เวลานี้ที่ยุโรป

ตระกูลเทเลอร์

คนที่ก่อนหน้านี้โทรหาเผยเทียนอี้ก็คือคนของตระกูลเทเลอร์

ชื่อเสียงของตระกูลเทเลอร์ไม่ต่างจากตระกูลเบวินเท่าไร

แน่นอนว่าไม่มีทางเทียบกับตระกูลลอเรนท์ได้

ภายในห้องทำงาน

“ท่านคะ” เลขาลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็พูดขึ้น “ถ้าส่งเครื่องพ่นรูปตัวแอลไปตอนนี้จะยังช่วยศาสตราจารย์เกอร์เวนได้นะคะ”

“ช่วยเหรอ ทำไมต้องช่วย” ผู้ชายที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์พอได้ยินแบบนี้ก็ไม่เห็นด้วย น้ำเสียงไม่พอใจ

“ผมต้องการเครื่องพ่นรูปตัวแอล ไม่ได้ต้องการผู้เชี่ยวชาญกลศาสตร์ควอนตัม”

ปลายนิ้วของเขาเคาะแป้นคีย์บอร์ดเบาๆ

“ถ้าเป็นศาสตราจารย์มานูเอล ผมก็จะเอาเครื่องพ่นรูปตัวแอลไปแลกอยู่หรอก”

ศาสตราจารย์มานูเอลก็เป็นศาสตราจารย์ชั้นแนวหน้าของโลกเหมือนกัน เพียงแต่ค้นคว้าด้านชีวเคมี

เครื่องพ่นรูปตัวแอลก็คืองานวิจัยของมานูเอล

ผู้ชายคนนี้ยังรอให้วันหน้ามานูเอลค้นคว้างานวิจัยอื่นๆ อีกย่อมไม่มีทางปล่อยให้เขาเป็นอะไร

แต่เกอร์เวน? เกอร์เวนคือที่สุดของด้านกลศาสตร์ควอนตัม แต่ว่ากลศาสตร์ควอนตัมเป็นโจทย์ที่ยากมากของวงการฟิสิกส์มาตลอด

จวบจนทุกวันนี้มีการนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตน้อยมาก ก็แค่เซมิคอนดักเตอร์ หรือสัมประสิทธิ์การนำความร้อนอะไรพวกนี้

ผ่านมาตั้งกี่ปีแล้วก็ยังไม่เห็นค้นพบอะไรที่สะเทือนไปทั้งโลกได้ ทำอย่างกับว่าวันหน้าเกอร์เวนจะคิดค้นยานอวกาศที่สามารถทะลุมิติได้จริงๆ แต่มันน่าขำเกินไปหรือเปล่า อีกอย่างเขากับเกอร์เวนก็ไม่ได้รู้จักกัน และก็ไม่เคยลงทุนให้ห้องทดลองของเกอร์เวนด้วย

จึงยิ่งไม่มีความจำเป็นต้องเปลืองกำลังทรัพย์ของตัวเองไปช่วย

“แต่ว่าท่านคะ…” เลขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับศาสตราจารย์เกอร์เวน เกรงว่า…”

“นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราต้องคิด” เขาพูดขัดจังหวะ

“แต่เรื่องนี้ถือเป็นการเตือนพวกเราว่าให้เพิ่มคนคุ้มกันศาสตราจารย์มานูเอล ห้ามปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นกับเขาเด็ดขาด”

ผลงานสิ่งประดิษฐ์อย่างเครื่องพ่นรูปตัวแอล ใครๆ ก็อยากมาแย่งไป

ในฐานะที่มานูเอลเป็นผู้คิดค้นได้คนแรกจะต้องถูกจับตามองอย่างแน่นอน เพียงแต่ช่วงนี้มานูเอลไม่ได้ออกจากห้องทดลอง คนอื่นก็เลยลงมือไม่ได้

พูดได้เพียงว่าเกอร์เวนซวยเอง

เลขาเห็นเจ้านายยืนกรานแบบนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ออกไปจัดการทันที

ทางด้านฮู่เฉิง

ภายในคฤหาสน์ร้าง

เกอร์เวนถูกมัดติดกับเก้าอี้ อยู่ในภาวะสลบไสล

ข้างกายเขามีคนอยู่ทั้งหมดสี่คน ต่างสวมชุดกันกระสุน หนึ่งในนั้นมีคอมพิวเตอร์อยู่บนแขน มืออีกข้างกำลังเคาะแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็พูดขึ้น

“ตรวจสอบแล้ว ในเวลาห้าชั่วโมงที่ผ่านมา เมืองที่มีห้องทดลองตั้งอยู่ไม่มีเครื่องบินมาฮู่เฉิงสักลำ”

เครื่องพ่นรูปตัวแอลเป็นผลงานสำเร็จรูป เพิ่งสร้างขึ้นมาได้ไม่นาน ไม่จำเป็นต้องเตรียมการอะไร

แต่ผ่านมาห้าชั่วโมงแล้วกลับไม่มีข่าวคราวอะไรเลย นี่ก็แสดงว่าทางยุโรปไม่ได้คิดจะเอาเครื่องพ่นรูปตัวแอลมาแลกชีวิตของเกอร์เวน เรื่องนี้อยู่ในความคาดหมายของพวกเขา แต่ก็ยังคงอยากลองดู

พวกเขาก็รู้ว่าเครื่องพ่นรูปตัวแอลอยู่ในมือตระกูลเทเลอร์ เพียงแต่ตระกูลเทเลอร์ไม่ใช่ที่ที่ใครก็บุกเข้าไปได้

เคยมีคนโพสต์ภารกิจบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเคว่า ต้องการชีวิตของนายใหญ่ตระกูลเทเลอร์

นักฆ่าอันดับสี่ไป แต่ก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาหาทางลงมือกับมานูเอลไม่ได้ ก็ไม่มีทางลงทุนลงแรงมาลักพาตัวเกอร์เวน

“จึ๊ ไร้ประโยชน์ ยังคิดว่าจะข่มขู่ได้เสียอีก” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ค่อยๆ ยืนขึ้น สายตาเย็นชา

“ทำฉันเสียเวลา ฆ่าทิ้งซะ”

เขาพูดง่ายๆ ขยับข้อมือ หยิบปืนออกมาหนึ่งกระบอกแล้วเล็งไปที่กลางหน้าผากเกอร์เวน

เขาเหนี่ยวไกโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+