คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 351 หมอแผนโบราณ คนที่ชูกวงมีเดียปกป้อง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 351 หมอแผนโบราณ คนที่ชูกวงมีเดียปกป้อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เธอโทรไปที่สำนักงานใหญ่ของเทียนสิงมีเดีย

ปีนี้อิทธิพลของเทียนสิงมีเดียจะต้องยิ่งใหญ่กว่าชูกวงมีเดีย เพราะสมาชิกอันดับต้นๆ ของวงที่เกิดจากรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 101 เป็นเด็กในสังกัดของเทียนสิงมีเดีย และยังมีดาราสาวเยี่ยซีที่กำลังดังในขณะนี้

แต่ในความเป็นจริง เป็นเพราะก่อนหน้านี้ชูกวงมีเดียได้บุกเบิกตลาดภาพยนตร์ระดับสากล และวงการเพลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างราชินีภาพยนตร์ระดับโลกเซี่ยมั่นอวี่ก็ไม่สนใจตลาดในประเทศแล้ว

ราชาภาพยนตร์อย่างซังเย่าจือพอย้ายมาอยู่ชูกวงมีเดียก็เริ่มเบนเข็มไปในระดับสากลแล้ว

หากว่ากันด้วยเรื่องทรงอิทธิพล เทียนสิงมีเดียเทียบชั้นกับชูกวงมีเดียไม่ได้

เมื่อปีที่แล้วเทียนสิงมีเดียร่วมงานกับไทม์มีเดียบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับโลกก็เพื่อต้องการแข่งขันกับชูกวงมีเดีย

ด้วยเหตุนี้เทียนสิงมีเดียจึงให้ความสำคัญกับการแข่งขันในรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ครั้งนี้มาก พวกเขาต้องการปลุกปั้นดารา ไม่ว่ายังไงก็ต้องปั้นไอดอลชายชั้นแนวหน้าขึ้นมาให้ได้สักคน ไม่ต้องเอาถึงขึ้นเหนือกว่าซังเย่าจือ แค่พอสูสีก็ได้แล้ว

“เรื่องโปรดิวเซอร์หลี่มันอะไรกัน” เฉินหลีขมวดคิ้ว “ทำไมเขาต้องเข้ามายุ่งด้วย”

“พี่หลี ถามมาแล้ว ชูกวงมีเดียโทรไปหาทางนั้น” ผู้ช่วยที่อยู่ปลายสายตอบ

“บอกว่ามีการแข่งขันที่ไม่ยุติธรรม ถ้าไม่จัดการ พวกเขาจะถอนเงินลงทุน”

เฉินหลีแสยะยิ้ม “งั้นก็ให้พวกเขาถอนไปสิ ใครกลัว พวกเราไม่ได้ลงทุนหรือไง”

“ตะ…แต่ว่าพี่หลี ชูกวงมีเดียลงไปหกร้อยล้าน” ผู้ช่วยปาดเหงื่อ “พวกเราลงไปสองร้อยล้าน อีกทั้งช่วงนี้การเงินบริษัทเราก็ค่อนข้างหนัก ถ้าชูกวงมีเดียถอนเงินลงทุน แบบนั้นก็…”

สีหน้าของเฉินหลีเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด ทิ้งคำพูดไว้ด้วยความโมโห

“ฉันพูดตามตรงนะ ชูกวงมีเดียทำแบบนี้ อีกไม่นานคงได้เจ๊ง”

ยุคสมัยแห่งกระแสนิยม ใครยังจะรักษากฎเกณฑ์อะไรขนาดนั้น

แค่เล่นตุกติกนิดหน่อยก็สามารถดูดเงินมาได้ไม่น้อย ไม่ต้องใช้แม้แต่ความสามารถ

ชูกวงมีเดียยังจะยึดหลักการบ่มเพาะนักแสดงกับนักร้อง เฉินหลีเชื่อว่า สุดท้ายจะต้องถูกเทียนสิงมีเดียแทนที่แน่นอน

เฉินหลีโมโหมาก เธอคิดแล้วกดโทรอีกเบอร์หนึ่ง

ไม่ว่าอย่างไรเธอต้องพยายามขัดขวางการเข้าแข่งขันของอวิ๋นเหอเย่ว์ให้ได้

กลางเดือนมกราคม ค่ายติวไอเอสซีครั้งที่สองก็เริ่มต้นขึ้น

อิ๋งจื่อจินย้ายจากบ้านตระกูลหลิงมาอยู่ที่หอพักภายในค่ายติว

เนื่องจากครั้งก่อนซิวเหยียนถูกไล่ออก โควตาที่ว่างอยู่หนึ่งที่จึงให้กับเทพด้านการเรียนที่แท้จริงอีกคนหนึ่ง

“นักเรียนอิ๋ง” ไม่เจอกันหลายเดือน จั่วหลีทักทายอิ๋งจื่อจินด้วยความดีใจ เขาจงใจถอดหมวก “ดูผมของอาจารย์สิ ทั้งดำทั้งหนาเลยใช่ไหม”

เขาได้กลายเป็นคนที่ผมดกที่สุดในบรรดาอาจารย์ของคณะฟิสิกส์แล้ว

อิ๋งจื่อจินมองผมที่พันกันยุ่งเหยิงเหมือนรังนกของเขา “…”

เธอรู้สึกว่าเธอควรให้ทางโรงพยาบาลเซ่าเหรินเปลี่ยนยาสระผมเร่งผมดกของจั่วหลีเป็นยาทำให้ผมร่วงแทน

“ศาสตราจารย์เกอร์เวนโทรมาหาอาจารย์หลายครั้ง” จั่วหลีสวมหมวกกลับไป แอบบ่นเบาๆ “ทำไมเธอถึงรับปากว่าจะไปอยู่ห้องทดลองของเขาล่ะ พวกเราสองคนรู้จักกันก่อนนะ”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา พูดอย่างใจเย็น “เพราะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สุดด้านกลศาสตร์ควอนตัมค่ะ”

“ก็ได้” จั่วหลีคิด “อย่างไรซะเธอก็เป็นคนจีนยังต้องกลับมา ก็พอดีเธอไปศึกษาเทคโนโลยีของเขาจนเป็นแล้วกลับมาแอบสอนอาจารย์นะ”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่ “แต่ก็ไม่แน่ค่ะ หนูก็อาจมาอยู่ตี้ตูไว้ถึงเวลาค่อยว่ากัน”

เธออยากจัดการเรื่องของเวินเฟิงเหมียน เรื่องอื่นไม่สำคัญเท่าเรื่องของคนในครอบครัว

จั่วหลีพยักหน้า “เอาเป็นว่าอาจารย์ยื่นขอตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของคณะฟิสิกส์ให้เธอแล้ว เธออยากมาเมื่อไรก็มาได้”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าแล้วเดินขึ้นชั้นบน

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้ เจียงหรานโทรมา

“พ่ออิ๋ง ฟังฉันพูดนะ” น้ำเสียงของเขาจริงจังแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

“ห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาดเรื่องที่เธอเคยช่วยชีวิตฉันไว้ เรื่องนี้ฉันกับซิวอวี่รู้ก็พอแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะมีอันตรายถึงชีวิต”

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก เธอขมวดคิ้ว

อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีลูกชายเป็นห่วง

“ฉันรู้” อิ๋งจื่อจินตอบ “วางใจได้ ไม่มีคนเชื่อหรอก”

เจียงหราน “…”

เขาไม่เถียงคำพูดนี้

แพทย์แผนโบราณก็เหมือนจอมยุทธ์ ต้องอาศัยสั่งสมประสบการณ์เป็นปีๆ

โดยทั่วไปผู้อาวุโสย่อมเก่งกว่า เว้นเสียแต่จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ

เจียงหรานก็เคยเจอคนเก่งมาไม่น้อย

จอมยุทธ์ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แพทย์แผนโบราณส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

วงการแพทย์แผนโบราณมีหมออายุน้อย ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นผู้หญิง ปีนี้อายุยังไม่ถึงยี่สิบห้าปี

โดยเฉพาะหลินชิงจยาลูกเลี้ยงของนายใหญ่ตระกูลหลิน เธอเป็นจอมยุทธ์พรสวรรค์สูง ขณะเดียวกันฝีมือการรักษาก็ล้ำเลิศ

ดังนั้นต่อให้แม่ของเธอก็เป็นคนธรรมดา แต่ตระกูลหลินกลับไม่มีใครกล้าแตะต้อง อย่างไรเสียคนที่เป็นทั้งแพทย์แผนโบราณและจอมยุทธ์ก็มีน้อยมาก หลายสิบปีอาจจะมีมาสักคน

แต่เจียงหรานไม่เคยเจอคนแบบอิ๋งจื่อจิน ไม่ใช่แค่อัจฉริยะ แต่เป็นเทพ

ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเองคงไม่มีใครเชื่อจริงๆ

“พ่ออิ๋ง เธอคงไม่รู้” เจียงหรานพูดต่อ “ผู้นำตระกูลฝูให้ยาคงความเยาว์ที่ช่วยต่ออายุให้แม่ฉันแปดสิบปี”

สายตาของอิ๋งจื่อจินจับจ้อง “ตัวฝู แบบเดียวกับคำว่าขึ้นลงต่อเนื่องน่ะเหรอ”

“ใช่” เจียงหรานทำปากทู่ “ผู้นำตระกูลคนนั้นแก่กว่าพ่อฉันไม่รู้ตั้งกี่รอบ พ่อฉันตกใจมาก แค่สือเฟิ่งอี๋คนเดียวไม่น่ามีค่ามากขนาดนั้นหรือเปล่า น่าแปลกจริงๆ”

อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไรอีก เธอนิ่งเงียบ

เธอพอจะเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องราวแล้ว

ฝูซีลูกศิษย์คนนี้ดีทุกอย่าง ก็แค่บางครั้งใจกว้างเกินไป ไม่รู้จักดูแลตัวเอง

ทำยาต่ออายุแปดสิบปี ไม่รู้ว่าแก่นแท้ของร่างกายเสียหายไปมากขนาดไหน

อิ๋งจื่อจินวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วนวดศีรษะ

สุดท้ายเธอก็จำเป็นต้องไปที่โลกแพทย์แผนโบราณสินะ

เช้าวันที่ยี่สิบสามมกราคม รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ได้ปล่อยภาพของผู้เข้าแข่งขันร้อยเอ็ดคน

บางคนก็ถูกแต่งรูปให้อย่างดี บางคนก็ภาพสด

อวิ๋นเหอเย่ว์ไม่ได้ถูกแต่งรูป แต่แค่หน้าสดของเธอกลับกลายเป็นข่มผู้เข้าแข่งขันคนอื่นเรียบ

[โอ้โห สู่ขิตแล้วฉัน นี่มันหนุ่มน้อยเทพบุตร หล่อพิฆาตขนาดนี้ ฆ่าฉันเถอะค่า!]

[ขอแนะนำแถวหน้า ผู้เข้าแข่งขันคนนี้ชื่ออวิ๋นเหอเย่ว์ ปีนี้อายุยี่สิบ เป็นเด็กฝึกไร้สังกัด เก่งทั้งร้อง และเต้น ในเว็บบีมีคลิปเต้นของเขา เขาร้องเพลงเพราะโคตร!]

[โหวตให้เขาๆ หนุ่มหล่อแบบนี้ต้องได้เดบิวต์!]

เกิดกระแสคึกคักในเน็ต รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ก็เริ่มบันทึกเทปวันนี้ตอนบ่าย จะทำการตัดต่อในช่วงสุดสัปดาห์และปล่อยบนแพลตฟอร์มองุ่น

เวลานี้บรรดาผู้เข้าแข่งขันกำลังต่อคิวแต่งหน้า

ทีมงานจัดช่างแต่งหน้าไว้ให้โดยเฉพาะ และมีการแบ่งห้องแต่งหน้า

อิ๋งจื่อจินยังคงรับบทเป็นผู้ช่วย ตามอวิ๋นเหอเย่ว์เข้ามา

อวิ๋นเหอเย่ว์พิมพ์ข้อความให้อ่าน

[พี่คะ เดี๋ยวหนูไปเข้าห้องน้ำ รอก่อนนะคะ]

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า เข้าห้องแต่งหน้าไปก่อนแล้วนั่งลง

เวลานี้สตาฟคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดด้วยความโมโห

“ใครให้เธอเข้ามา ที่นี่เป็นห้องแต่งหน้าของพี่เยี่ยซีโดยเฉพาะ ถ้าเกิดมีอะไรเสียหายเธอชดใช้ไหวเหรอ”

อิ๋งจื่อจินหันหน้าไป สายตาเรียบเฉย ประกายในดวงตาดุจหิมะ

“ห้องแต่งหน้าส่วนตัวยังจงใจจัดให้ผู้เข้าแข่งขันอีกเหรอ”

สตาฟหน้าเสีย แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นอวดดี “จงใจแล้วไงล่ะ”

อิ๋งจื่อจินไม่สนใจเขา หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเลขาสาว

“จัดห้องแต่งหน้าที่บริษัทไว้ เชิญช่างแต่งหน้าคิวทองมา เตรียมเครื่องสำอางที่ดีที่สุดไว้ด้วย ฉันจะพาคนไป”

ชูกวงมีเดียอยู่ห่างจากที่นี่แค่นั่งรถสิบนาที ทำงานก็รวดเร็ว

เรื่องเดียวที่แย่สำหรับการไม่มีญาณพยากรณ์ก็คือเสียเวลา

แต่พอไหวลองนับเวลาดูแล้วอีกไม่นานก็ฟื้นกลับมา

อิ๋งจื่อจินลุกเดินออกจากห้องแต่งหน้า

อวิ๋นเหอเย่ว์กลับมาพอดี สายตาของเธอเป็นเชิงสงสัย

“ไปเถอะ” อิ๋งจื่อจินสีหน้าเรื่อยเปื่อย

“เครื่องสำอางที่นี่ราคาถูกเกินไป เดี๋ยวเปลี่ยนที่ให้นะ”

มีเหรอที่อวิ๋นเหอเย่ว์จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพิมพ์

[พี่คะ หนูจะพยายามหาเงินมาให้พี่ค่ะ!]

ภายในห้องแต่งหน้า

สตาฟจัดเก้าอี้ให้เข้าที่อีกครั้ง ทำเสียงฮึดฮัด

“แสร้งทำเป็นพูด คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทอะไรหรือไง ชิ”

แค่ผู้ช่วย ยังจะทำตัวอวดดี

ห้านาทีต่อมาเยี่ยซีก็มาที่ห้องแต่งหน้า

ที่นี่เป็นห้องแต่งหน้าส่วนตัวของเยี่ยซีจริงๆ เธอเป็นโปรดิวเซอร์ให้บอยแบนด์ครั้งนี้ เรียกกระแสให้รายการได้ไม่น้อย

“พี่ซี” ผู้ช่วยของเธอช่วยถือกระเป๋า “พี่หลีจงใจจัดให้อวิ๋นเหอเย่ว์มาใช้ห้องแต่งหน้าของพี่ จะไม่ส่งผลอะไรกับพี่จริงๆ เหรอคะ เขาดังมากในเน็ต”

“ไม่ว่าอย่างไรพี่หลีก็เป็นแมวมองที่เจอฉัน” เยี่ยซีพูด “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ช่วยเหลือกันได้ ถ้าเกิดเรื่องก็เป็นความรับผิดชอบของทีมงาน”

ขณะพูดเธอก็หยิบรองพื้นที่อยู่ข้างๆ แล้วเริ่มแต่งหน้า

ทารองพื้นเสร็จเธอก็หยิบคอนซีลเลอร์

อยู่ๆ ผู้ช่วยก็พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ “พี่ซี คะ…คอพี่”

“ทำไมเหรอ” เยี่ยซีเลื่อนกระจกลงล่าง มือสั่น กระจกหล่นลงบนโต๊ะ

ตรงคอของเธอมีรอยแดงเป็นริ้วๆ อีกทั้งยังเป็นแนวยาวขึ้นไปจนถึงคางแล้ว

เยี่ยซีลุกพรวด ตวาดเสียง “ใครเข้ามาในนี้ แตะต้องเครื่องสำอางของฉัน!”

ตอนบ่ายต้องอัดรายการแล้ว สภาพเธอเป็นแบบนี้จะออกกล้องได้อย่างไร

สตาฟที่อยู่ข้างๆ ก็อึ้ง

ทันใดนั้นดูเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ตะโกนเสียงดัง

“มีครับ ผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์!”

ผู้ช่วยก็โมโห “ยังไม่รีบไปเอาตัวมาอีก ใบหน้าของพี่ซีมีประกัน ยัยนั่นชดใช้ด้วยชีวิตก็ยังไม่พอ!”

ตอนนี้เยี่ยซีกำลังโมโห เธอกับเย่าจือมีแฟนคลับคู่จิ้นอยู่ไม่น้อย แฟนคลับคู่จิ้นเหล่านี้เอาเรื่องเก่งยิ่งกว่าแฟนคลับของเธออีก

เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พวกแฟนคลับสามารถฉีกผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์ได้เป็นชิ้นๆ

อวิ๋นเหอเย่ว์ก็ต้องพังพินาศตามไปด้วย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 351 หมอแผนโบราณ คนที่ชูกวงมีเดียปกป้อง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 351 หมอแผนโบราณ คนที่ชูกวงมีเดียปกป้อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เธอโทรไปที่สำนักงานใหญ่ของเทียนสิงมีเดีย

ปีนี้อิทธิพลของเทียนสิงมีเดียจะต้องยิ่งใหญ่กว่าชูกวงมีเดีย เพราะสมาชิกอันดับต้นๆ ของวงที่เกิดจากรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 101 เป็นเด็กในสังกัดของเทียนสิงมีเดีย และยังมีดาราสาวเยี่ยซีที่กำลังดังในขณะนี้

แต่ในความเป็นจริง เป็นเพราะก่อนหน้านี้ชูกวงมีเดียได้บุกเบิกตลาดภาพยนตร์ระดับสากล และวงการเพลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างราชินีภาพยนตร์ระดับโลกเซี่ยมั่นอวี่ก็ไม่สนใจตลาดในประเทศแล้ว

ราชาภาพยนตร์อย่างซังเย่าจือพอย้ายมาอยู่ชูกวงมีเดียก็เริ่มเบนเข็มไปในระดับสากลแล้ว

หากว่ากันด้วยเรื่องทรงอิทธิพล เทียนสิงมีเดียเทียบชั้นกับชูกวงมีเดียไม่ได้

เมื่อปีที่แล้วเทียนสิงมีเดียร่วมงานกับไทม์มีเดียบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับโลกก็เพื่อต้องการแข่งขันกับชูกวงมีเดีย

ด้วยเหตุนี้เทียนสิงมีเดียจึงให้ความสำคัญกับการแข่งขันในรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ครั้งนี้มาก พวกเขาต้องการปลุกปั้นดารา ไม่ว่ายังไงก็ต้องปั้นไอดอลชายชั้นแนวหน้าขึ้นมาให้ได้สักคน ไม่ต้องเอาถึงขึ้นเหนือกว่าซังเย่าจือ แค่พอสูสีก็ได้แล้ว

“เรื่องโปรดิวเซอร์หลี่มันอะไรกัน” เฉินหลีขมวดคิ้ว “ทำไมเขาต้องเข้ามายุ่งด้วย”

“พี่หลี ถามมาแล้ว ชูกวงมีเดียโทรไปหาทางนั้น” ผู้ช่วยที่อยู่ปลายสายตอบ

“บอกว่ามีการแข่งขันที่ไม่ยุติธรรม ถ้าไม่จัดการ พวกเขาจะถอนเงินลงทุน”

เฉินหลีแสยะยิ้ม “งั้นก็ให้พวกเขาถอนไปสิ ใครกลัว พวกเราไม่ได้ลงทุนหรือไง”

“ตะ…แต่ว่าพี่หลี ชูกวงมีเดียลงไปหกร้อยล้าน” ผู้ช่วยปาดเหงื่อ “พวกเราลงไปสองร้อยล้าน อีกทั้งช่วงนี้การเงินบริษัทเราก็ค่อนข้างหนัก ถ้าชูกวงมีเดียถอนเงินลงทุน แบบนั้นก็…”

สีหน้าของเฉินหลีเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด ทิ้งคำพูดไว้ด้วยความโมโห

“ฉันพูดตามตรงนะ ชูกวงมีเดียทำแบบนี้ อีกไม่นานคงได้เจ๊ง”

ยุคสมัยแห่งกระแสนิยม ใครยังจะรักษากฎเกณฑ์อะไรขนาดนั้น

แค่เล่นตุกติกนิดหน่อยก็สามารถดูดเงินมาได้ไม่น้อย ไม่ต้องใช้แม้แต่ความสามารถ

ชูกวงมีเดียยังจะยึดหลักการบ่มเพาะนักแสดงกับนักร้อง เฉินหลีเชื่อว่า สุดท้ายจะต้องถูกเทียนสิงมีเดียแทนที่แน่นอน

เฉินหลีโมโหมาก เธอคิดแล้วกดโทรอีกเบอร์หนึ่ง

ไม่ว่าอย่างไรเธอต้องพยายามขัดขวางการเข้าแข่งขันของอวิ๋นเหอเย่ว์ให้ได้

กลางเดือนมกราคม ค่ายติวไอเอสซีครั้งที่สองก็เริ่มต้นขึ้น

อิ๋งจื่อจินย้ายจากบ้านตระกูลหลิงมาอยู่ที่หอพักภายในค่ายติว

เนื่องจากครั้งก่อนซิวเหยียนถูกไล่ออก โควตาที่ว่างอยู่หนึ่งที่จึงให้กับเทพด้านการเรียนที่แท้จริงอีกคนหนึ่ง

“นักเรียนอิ๋ง” ไม่เจอกันหลายเดือน จั่วหลีทักทายอิ๋งจื่อจินด้วยความดีใจ เขาจงใจถอดหมวก “ดูผมของอาจารย์สิ ทั้งดำทั้งหนาเลยใช่ไหม”

เขาได้กลายเป็นคนที่ผมดกที่สุดในบรรดาอาจารย์ของคณะฟิสิกส์แล้ว

อิ๋งจื่อจินมองผมที่พันกันยุ่งเหยิงเหมือนรังนกของเขา “…”

เธอรู้สึกว่าเธอควรให้ทางโรงพยาบาลเซ่าเหรินเปลี่ยนยาสระผมเร่งผมดกของจั่วหลีเป็นยาทำให้ผมร่วงแทน

“ศาสตราจารย์เกอร์เวนโทรมาหาอาจารย์หลายครั้ง” จั่วหลีสวมหมวกกลับไป แอบบ่นเบาๆ “ทำไมเธอถึงรับปากว่าจะไปอยู่ห้องทดลองของเขาล่ะ พวกเราสองคนรู้จักกันก่อนนะ”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา พูดอย่างใจเย็น “เพราะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สุดด้านกลศาสตร์ควอนตัมค่ะ”

“ก็ได้” จั่วหลีคิด “อย่างไรซะเธอก็เป็นคนจีนยังต้องกลับมา ก็พอดีเธอไปศึกษาเทคโนโลยีของเขาจนเป็นแล้วกลับมาแอบสอนอาจารย์นะ”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่ “แต่ก็ไม่แน่ค่ะ หนูก็อาจมาอยู่ตี้ตูไว้ถึงเวลาค่อยว่ากัน”

เธออยากจัดการเรื่องของเวินเฟิงเหมียน เรื่องอื่นไม่สำคัญเท่าเรื่องของคนในครอบครัว

จั่วหลีพยักหน้า “เอาเป็นว่าอาจารย์ยื่นขอตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของคณะฟิสิกส์ให้เธอแล้ว เธออยากมาเมื่อไรก็มาได้”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าแล้วเดินขึ้นชั้นบน

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้ เจียงหรานโทรมา

“พ่ออิ๋ง ฟังฉันพูดนะ” น้ำเสียงของเขาจริงจังแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

“ห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาดเรื่องที่เธอเคยช่วยชีวิตฉันไว้ เรื่องนี้ฉันกับซิวอวี่รู้ก็พอแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะมีอันตรายถึงชีวิต”

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก เธอขมวดคิ้ว

อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีลูกชายเป็นห่วง

“ฉันรู้” อิ๋งจื่อจินตอบ “วางใจได้ ไม่มีคนเชื่อหรอก”

เจียงหราน “…”

เขาไม่เถียงคำพูดนี้

แพทย์แผนโบราณก็เหมือนจอมยุทธ์ ต้องอาศัยสั่งสมประสบการณ์เป็นปีๆ

โดยทั่วไปผู้อาวุโสย่อมเก่งกว่า เว้นเสียแต่จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ

เจียงหรานก็เคยเจอคนเก่งมาไม่น้อย

จอมยุทธ์ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แพทย์แผนโบราณส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

วงการแพทย์แผนโบราณมีหมออายุน้อย ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นผู้หญิง ปีนี้อายุยังไม่ถึงยี่สิบห้าปี

โดยเฉพาะหลินชิงจยาลูกเลี้ยงของนายใหญ่ตระกูลหลิน เธอเป็นจอมยุทธ์พรสวรรค์สูง ขณะเดียวกันฝีมือการรักษาก็ล้ำเลิศ

ดังนั้นต่อให้แม่ของเธอก็เป็นคนธรรมดา แต่ตระกูลหลินกลับไม่มีใครกล้าแตะต้อง อย่างไรเสียคนที่เป็นทั้งแพทย์แผนโบราณและจอมยุทธ์ก็มีน้อยมาก หลายสิบปีอาจจะมีมาสักคน

แต่เจียงหรานไม่เคยเจอคนแบบอิ๋งจื่อจิน ไม่ใช่แค่อัจฉริยะ แต่เป็นเทพ

ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเองคงไม่มีใครเชื่อจริงๆ

“พ่ออิ๋ง เธอคงไม่รู้” เจียงหรานพูดต่อ “ผู้นำตระกูลฝูให้ยาคงความเยาว์ที่ช่วยต่ออายุให้แม่ฉันแปดสิบปี”

สายตาของอิ๋งจื่อจินจับจ้อง “ตัวฝู แบบเดียวกับคำว่าขึ้นลงต่อเนื่องน่ะเหรอ”

“ใช่” เจียงหรานทำปากทู่ “ผู้นำตระกูลคนนั้นแก่กว่าพ่อฉันไม่รู้ตั้งกี่รอบ พ่อฉันตกใจมาก แค่สือเฟิ่งอี๋คนเดียวไม่น่ามีค่ามากขนาดนั้นหรือเปล่า น่าแปลกจริงๆ”

อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไรอีก เธอนิ่งเงียบ

เธอพอจะเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องราวแล้ว

ฝูซีลูกศิษย์คนนี้ดีทุกอย่าง ก็แค่บางครั้งใจกว้างเกินไป ไม่รู้จักดูแลตัวเอง

ทำยาต่ออายุแปดสิบปี ไม่รู้ว่าแก่นแท้ของร่างกายเสียหายไปมากขนาดไหน

อิ๋งจื่อจินวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วนวดศีรษะ

สุดท้ายเธอก็จำเป็นต้องไปที่โลกแพทย์แผนโบราณสินะ

เช้าวันที่ยี่สิบสามมกราคม รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ได้ปล่อยภาพของผู้เข้าแข่งขันร้อยเอ็ดคน

บางคนก็ถูกแต่งรูปให้อย่างดี บางคนก็ภาพสด

อวิ๋นเหอเย่ว์ไม่ได้ถูกแต่งรูป แต่แค่หน้าสดของเธอกลับกลายเป็นข่มผู้เข้าแข่งขันคนอื่นเรียบ

[โอ้โห สู่ขิตแล้วฉัน นี่มันหนุ่มน้อยเทพบุตร หล่อพิฆาตขนาดนี้ ฆ่าฉันเถอะค่า!]

[ขอแนะนำแถวหน้า ผู้เข้าแข่งขันคนนี้ชื่ออวิ๋นเหอเย่ว์ ปีนี้อายุยี่สิบ เป็นเด็กฝึกไร้สังกัด เก่งทั้งร้อง และเต้น ในเว็บบีมีคลิปเต้นของเขา เขาร้องเพลงเพราะโคตร!]

[โหวตให้เขาๆ หนุ่มหล่อแบบนี้ต้องได้เดบิวต์!]

เกิดกระแสคึกคักในเน็ต รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ก็เริ่มบันทึกเทปวันนี้ตอนบ่าย จะทำการตัดต่อในช่วงสุดสัปดาห์และปล่อยบนแพลตฟอร์มองุ่น

เวลานี้บรรดาผู้เข้าแข่งขันกำลังต่อคิวแต่งหน้า

ทีมงานจัดช่างแต่งหน้าไว้ให้โดยเฉพาะ และมีการแบ่งห้องแต่งหน้า

อิ๋งจื่อจินยังคงรับบทเป็นผู้ช่วย ตามอวิ๋นเหอเย่ว์เข้ามา

อวิ๋นเหอเย่ว์พิมพ์ข้อความให้อ่าน

[พี่คะ เดี๋ยวหนูไปเข้าห้องน้ำ รอก่อนนะคะ]

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า เข้าห้องแต่งหน้าไปก่อนแล้วนั่งลง

เวลานี้สตาฟคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดด้วยความโมโห

“ใครให้เธอเข้ามา ที่นี่เป็นห้องแต่งหน้าของพี่เยี่ยซีโดยเฉพาะ ถ้าเกิดมีอะไรเสียหายเธอชดใช้ไหวเหรอ”

อิ๋งจื่อจินหันหน้าไป สายตาเรียบเฉย ประกายในดวงตาดุจหิมะ

“ห้องแต่งหน้าส่วนตัวยังจงใจจัดให้ผู้เข้าแข่งขันอีกเหรอ”

สตาฟหน้าเสีย แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นอวดดี “จงใจแล้วไงล่ะ”

อิ๋งจื่อจินไม่สนใจเขา หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเลขาสาว

“จัดห้องแต่งหน้าที่บริษัทไว้ เชิญช่างแต่งหน้าคิวทองมา เตรียมเครื่องสำอางที่ดีที่สุดไว้ด้วย ฉันจะพาคนไป”

ชูกวงมีเดียอยู่ห่างจากที่นี่แค่นั่งรถสิบนาที ทำงานก็รวดเร็ว

เรื่องเดียวที่แย่สำหรับการไม่มีญาณพยากรณ์ก็คือเสียเวลา

แต่พอไหวลองนับเวลาดูแล้วอีกไม่นานก็ฟื้นกลับมา

อิ๋งจื่อจินลุกเดินออกจากห้องแต่งหน้า

อวิ๋นเหอเย่ว์กลับมาพอดี สายตาของเธอเป็นเชิงสงสัย

“ไปเถอะ” อิ๋งจื่อจินสีหน้าเรื่อยเปื่อย

“เครื่องสำอางที่นี่ราคาถูกเกินไป เดี๋ยวเปลี่ยนที่ให้นะ”

มีเหรอที่อวิ๋นเหอเย่ว์จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพิมพ์

[พี่คะ หนูจะพยายามหาเงินมาให้พี่ค่ะ!]

ภายในห้องแต่งหน้า

สตาฟจัดเก้าอี้ให้เข้าที่อีกครั้ง ทำเสียงฮึดฮัด

“แสร้งทำเป็นพูด คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทอะไรหรือไง ชิ”

แค่ผู้ช่วย ยังจะทำตัวอวดดี

ห้านาทีต่อมาเยี่ยซีก็มาที่ห้องแต่งหน้า

ที่นี่เป็นห้องแต่งหน้าส่วนตัวของเยี่ยซีจริงๆ เธอเป็นโปรดิวเซอร์ให้บอยแบนด์ครั้งนี้ เรียกกระแสให้รายการได้ไม่น้อย

“พี่ซี” ผู้ช่วยของเธอช่วยถือกระเป๋า “พี่หลีจงใจจัดให้อวิ๋นเหอเย่ว์มาใช้ห้องแต่งหน้าของพี่ จะไม่ส่งผลอะไรกับพี่จริงๆ เหรอคะ เขาดังมากในเน็ต”

“ไม่ว่าอย่างไรพี่หลีก็เป็นแมวมองที่เจอฉัน” เยี่ยซีพูด “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ช่วยเหลือกันได้ ถ้าเกิดเรื่องก็เป็นความรับผิดชอบของทีมงาน”

ขณะพูดเธอก็หยิบรองพื้นที่อยู่ข้างๆ แล้วเริ่มแต่งหน้า

ทารองพื้นเสร็จเธอก็หยิบคอนซีลเลอร์

อยู่ๆ ผู้ช่วยก็พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ “พี่ซี คะ…คอพี่”

“ทำไมเหรอ” เยี่ยซีเลื่อนกระจกลงล่าง มือสั่น กระจกหล่นลงบนโต๊ะ

ตรงคอของเธอมีรอยแดงเป็นริ้วๆ อีกทั้งยังเป็นแนวยาวขึ้นไปจนถึงคางแล้ว

เยี่ยซีลุกพรวด ตวาดเสียง “ใครเข้ามาในนี้ แตะต้องเครื่องสำอางของฉัน!”

ตอนบ่ายต้องอัดรายการแล้ว สภาพเธอเป็นแบบนี้จะออกกล้องได้อย่างไร

สตาฟที่อยู่ข้างๆ ก็อึ้ง

ทันใดนั้นดูเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ตะโกนเสียงดัง

“มีครับ ผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์!”

ผู้ช่วยก็โมโห “ยังไม่รีบไปเอาตัวมาอีก ใบหน้าของพี่ซีมีประกัน ยัยนั่นชดใช้ด้วยชีวิตก็ยังไม่พอ!”

ตอนนี้เยี่ยซีกำลังโมโห เธอกับเย่าจือมีแฟนคลับคู่จิ้นอยู่ไม่น้อย แฟนคลับคู่จิ้นเหล่านี้เอาเรื่องเก่งยิ่งกว่าแฟนคลับของเธออีก

เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พวกแฟนคลับสามารถฉีกผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์ได้เป็นชิ้นๆ

อวิ๋นเหอเย่ว์ก็ต้องพังพินาศตามไปด้วย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 351 หมอแผนโบราณ คนที่ชูกวงมีเดียปกป้อง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 351 หมอแผนโบราณ คนที่ชูกวงมีเดียปกป้อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เธอโทรไปที่สำนักงานใหญ่ของเทียนสิงมีเดีย

ปีนี้อิทธิพลของเทียนสิงมีเดียจะต้องยิ่งใหญ่กว่าชูกวงมีเดีย เพราะสมาชิกอันดับต้นๆ ของวงที่เกิดจากรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 101 เป็นเด็กในสังกัดของเทียนสิงมีเดีย และยังมีดาราสาวเยี่ยซีที่กำลังดังในขณะนี้

แต่ในความเป็นจริง เป็นเพราะก่อนหน้านี้ชูกวงมีเดียได้บุกเบิกตลาดภาพยนตร์ระดับสากล และวงการเพลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างราชินีภาพยนตร์ระดับโลกเซี่ยมั่นอวี่ก็ไม่สนใจตลาดในประเทศแล้ว

ราชาภาพยนตร์อย่างซังเย่าจือพอย้ายมาอยู่ชูกวงมีเดียก็เริ่มเบนเข็มไปในระดับสากลแล้ว

หากว่ากันด้วยเรื่องทรงอิทธิพล เทียนสิงมีเดียเทียบชั้นกับชูกวงมีเดียไม่ได้

เมื่อปีที่แล้วเทียนสิงมีเดียร่วมงานกับไทม์มีเดียบริษัทเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับโลกก็เพื่อต้องการแข่งขันกับชูกวงมีเดีย

ด้วยเหตุนี้เทียนสิงมีเดียจึงให้ความสำคัญกับการแข่งขันในรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ครั้งนี้มาก พวกเขาต้องการปลุกปั้นดารา ไม่ว่ายังไงก็ต้องปั้นไอดอลชายชั้นแนวหน้าขึ้นมาให้ได้สักคน ไม่ต้องเอาถึงขึ้นเหนือกว่าซังเย่าจือ แค่พอสูสีก็ได้แล้ว

“เรื่องโปรดิวเซอร์หลี่มันอะไรกัน” เฉินหลีขมวดคิ้ว “ทำไมเขาต้องเข้ามายุ่งด้วย”

“พี่หลี ถามมาแล้ว ชูกวงมีเดียโทรไปหาทางนั้น” ผู้ช่วยที่อยู่ปลายสายตอบ

“บอกว่ามีการแข่งขันที่ไม่ยุติธรรม ถ้าไม่จัดการ พวกเขาจะถอนเงินลงทุน”

เฉินหลีแสยะยิ้ม “งั้นก็ให้พวกเขาถอนไปสิ ใครกลัว พวกเราไม่ได้ลงทุนหรือไง”

“ตะ…แต่ว่าพี่หลี ชูกวงมีเดียลงไปหกร้อยล้าน” ผู้ช่วยปาดเหงื่อ “พวกเราลงไปสองร้อยล้าน อีกทั้งช่วงนี้การเงินบริษัทเราก็ค่อนข้างหนัก ถ้าชูกวงมีเดียถอนเงินลงทุน แบบนั้นก็…”

สีหน้าของเฉินหลีเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด ทิ้งคำพูดไว้ด้วยความโมโห

“ฉันพูดตามตรงนะ ชูกวงมีเดียทำแบบนี้ อีกไม่นานคงได้เจ๊ง”

ยุคสมัยแห่งกระแสนิยม ใครยังจะรักษากฎเกณฑ์อะไรขนาดนั้น

แค่เล่นตุกติกนิดหน่อยก็สามารถดูดเงินมาได้ไม่น้อย ไม่ต้องใช้แม้แต่ความสามารถ

ชูกวงมีเดียยังจะยึดหลักการบ่มเพาะนักแสดงกับนักร้อง เฉินหลีเชื่อว่า สุดท้ายจะต้องถูกเทียนสิงมีเดียแทนที่แน่นอน

เฉินหลีโมโหมาก เธอคิดแล้วกดโทรอีกเบอร์หนึ่ง

ไม่ว่าอย่างไรเธอต้องพยายามขัดขวางการเข้าแข่งขันของอวิ๋นเหอเย่ว์ให้ได้

กลางเดือนมกราคม ค่ายติวไอเอสซีครั้งที่สองก็เริ่มต้นขึ้น

อิ๋งจื่อจินย้ายจากบ้านตระกูลหลิงมาอยู่ที่หอพักภายในค่ายติว

เนื่องจากครั้งก่อนซิวเหยียนถูกไล่ออก โควตาที่ว่างอยู่หนึ่งที่จึงให้กับเทพด้านการเรียนที่แท้จริงอีกคนหนึ่ง

“นักเรียนอิ๋ง” ไม่เจอกันหลายเดือน จั่วหลีทักทายอิ๋งจื่อจินด้วยความดีใจ เขาจงใจถอดหมวก “ดูผมของอาจารย์สิ ทั้งดำทั้งหนาเลยใช่ไหม”

เขาได้กลายเป็นคนที่ผมดกที่สุดในบรรดาอาจารย์ของคณะฟิสิกส์แล้ว

อิ๋งจื่อจินมองผมที่พันกันยุ่งเหยิงเหมือนรังนกของเขา “…”

เธอรู้สึกว่าเธอควรให้ทางโรงพยาบาลเซ่าเหรินเปลี่ยนยาสระผมเร่งผมดกของจั่วหลีเป็นยาทำให้ผมร่วงแทน

“ศาสตราจารย์เกอร์เวนโทรมาหาอาจารย์หลายครั้ง” จั่วหลีสวมหมวกกลับไป แอบบ่นเบาๆ “ทำไมเธอถึงรับปากว่าจะไปอยู่ห้องทดลองของเขาล่ะ พวกเราสองคนรู้จักกันก่อนนะ”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา พูดอย่างใจเย็น “เพราะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สุดด้านกลศาสตร์ควอนตัมค่ะ”

“ก็ได้” จั่วหลีคิด “อย่างไรซะเธอก็เป็นคนจีนยังต้องกลับมา ก็พอดีเธอไปศึกษาเทคโนโลยีของเขาจนเป็นแล้วกลับมาแอบสอนอาจารย์นะ”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่ “แต่ก็ไม่แน่ค่ะ หนูก็อาจมาอยู่ตี้ตูไว้ถึงเวลาค่อยว่ากัน”

เธออยากจัดการเรื่องของเวินเฟิงเหมียน เรื่องอื่นไม่สำคัญเท่าเรื่องของคนในครอบครัว

จั่วหลีพยักหน้า “เอาเป็นว่าอาจารย์ยื่นขอตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของคณะฟิสิกส์ให้เธอแล้ว เธออยากมาเมื่อไรก็มาได้”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าแล้วเดินขึ้นชั้นบน

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้ เจียงหรานโทรมา

“พ่ออิ๋ง ฟังฉันพูดนะ” น้ำเสียงของเขาจริงจังแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

“ห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาดเรื่องที่เธอเคยช่วยชีวิตฉันไว้ เรื่องนี้ฉันกับซิวอวี่รู้ก็พอแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะมีอันตรายถึงชีวิต”

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก เธอขมวดคิ้ว

อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีลูกชายเป็นห่วง

“ฉันรู้” อิ๋งจื่อจินตอบ “วางใจได้ ไม่มีคนเชื่อหรอก”

เจียงหราน “…”

เขาไม่เถียงคำพูดนี้

แพทย์แผนโบราณก็เหมือนจอมยุทธ์ ต้องอาศัยสั่งสมประสบการณ์เป็นปีๆ

โดยทั่วไปผู้อาวุโสย่อมเก่งกว่า เว้นเสียแต่จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ

เจียงหรานก็เคยเจอคนเก่งมาไม่น้อย

จอมยุทธ์ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แพทย์แผนโบราณส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

วงการแพทย์แผนโบราณมีหมออายุน้อย ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นผู้หญิง ปีนี้อายุยังไม่ถึงยี่สิบห้าปี

โดยเฉพาะหลินชิงจยาลูกเลี้ยงของนายใหญ่ตระกูลหลิน เธอเป็นจอมยุทธ์พรสวรรค์สูง ขณะเดียวกันฝีมือการรักษาก็ล้ำเลิศ

ดังนั้นต่อให้แม่ของเธอก็เป็นคนธรรมดา แต่ตระกูลหลินกลับไม่มีใครกล้าแตะต้อง อย่างไรเสียคนที่เป็นทั้งแพทย์แผนโบราณและจอมยุทธ์ก็มีน้อยมาก หลายสิบปีอาจจะมีมาสักคน

แต่เจียงหรานไม่เคยเจอคนแบบอิ๋งจื่อจิน ไม่ใช่แค่อัจฉริยะ แต่เป็นเทพ

ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเองคงไม่มีใครเชื่อจริงๆ

“พ่ออิ๋ง เธอคงไม่รู้” เจียงหรานพูดต่อ “ผู้นำตระกูลฝูให้ยาคงความเยาว์ที่ช่วยต่ออายุให้แม่ฉันแปดสิบปี”

สายตาของอิ๋งจื่อจินจับจ้อง “ตัวฝู แบบเดียวกับคำว่าขึ้นลงต่อเนื่องน่ะเหรอ”

“ใช่” เจียงหรานทำปากทู่ “ผู้นำตระกูลคนนั้นแก่กว่าพ่อฉันไม่รู้ตั้งกี่รอบ พ่อฉันตกใจมาก แค่สือเฟิ่งอี๋คนเดียวไม่น่ามีค่ามากขนาดนั้นหรือเปล่า น่าแปลกจริงๆ”

อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไรอีก เธอนิ่งเงียบ

เธอพอจะเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องราวแล้ว

ฝูซีลูกศิษย์คนนี้ดีทุกอย่าง ก็แค่บางครั้งใจกว้างเกินไป ไม่รู้จักดูแลตัวเอง

ทำยาต่ออายุแปดสิบปี ไม่รู้ว่าแก่นแท้ของร่างกายเสียหายไปมากขนาดไหน

อิ๋งจื่อจินวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วนวดศีรษะ

สุดท้ายเธอก็จำเป็นต้องไปที่โลกแพทย์แผนโบราณสินะ

เช้าวันที่ยี่สิบสามมกราคม รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ได้ปล่อยภาพของผู้เข้าแข่งขันร้อยเอ็ดคน

บางคนก็ถูกแต่งรูปให้อย่างดี บางคนก็ภาพสด

อวิ๋นเหอเย่ว์ไม่ได้ถูกแต่งรูป แต่แค่หน้าสดของเธอกลับกลายเป็นข่มผู้เข้าแข่งขันคนอื่นเรียบ

[โอ้โห สู่ขิตแล้วฉัน นี่มันหนุ่มน้อยเทพบุตร หล่อพิฆาตขนาดนี้ ฆ่าฉันเถอะค่า!]

[ขอแนะนำแถวหน้า ผู้เข้าแข่งขันคนนี้ชื่ออวิ๋นเหอเย่ว์ ปีนี้อายุยี่สิบ เป็นเด็กฝึกไร้สังกัด เก่งทั้งร้อง และเต้น ในเว็บบีมีคลิปเต้นของเขา เขาร้องเพลงเพราะโคตร!]

[โหวตให้เขาๆ หนุ่มหล่อแบบนี้ต้องได้เดบิวต์!]

เกิดกระแสคึกคักในเน็ต รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ก็เริ่มบันทึกเทปวันนี้ตอนบ่าย จะทำการตัดต่อในช่วงสุดสัปดาห์และปล่อยบนแพลตฟอร์มองุ่น

เวลานี้บรรดาผู้เข้าแข่งขันกำลังต่อคิวแต่งหน้า

ทีมงานจัดช่างแต่งหน้าไว้ให้โดยเฉพาะ และมีการแบ่งห้องแต่งหน้า

อิ๋งจื่อจินยังคงรับบทเป็นผู้ช่วย ตามอวิ๋นเหอเย่ว์เข้ามา

อวิ๋นเหอเย่ว์พิมพ์ข้อความให้อ่าน

[พี่คะ เดี๋ยวหนูไปเข้าห้องน้ำ รอก่อนนะคะ]

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า เข้าห้องแต่งหน้าไปก่อนแล้วนั่งลง

เวลานี้สตาฟคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดด้วยความโมโห

“ใครให้เธอเข้ามา ที่นี่เป็นห้องแต่งหน้าของพี่เยี่ยซีโดยเฉพาะ ถ้าเกิดมีอะไรเสียหายเธอชดใช้ไหวเหรอ”

อิ๋งจื่อจินหันหน้าไป สายตาเรียบเฉย ประกายในดวงตาดุจหิมะ

“ห้องแต่งหน้าส่วนตัวยังจงใจจัดให้ผู้เข้าแข่งขันอีกเหรอ”

สตาฟหน้าเสีย แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นอวดดี “จงใจแล้วไงล่ะ”

อิ๋งจื่อจินไม่สนใจเขา หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเลขาสาว

“จัดห้องแต่งหน้าที่บริษัทไว้ เชิญช่างแต่งหน้าคิวทองมา เตรียมเครื่องสำอางที่ดีที่สุดไว้ด้วย ฉันจะพาคนไป”

ชูกวงมีเดียอยู่ห่างจากที่นี่แค่นั่งรถสิบนาที ทำงานก็รวดเร็ว

เรื่องเดียวที่แย่สำหรับการไม่มีญาณพยากรณ์ก็คือเสียเวลา

แต่พอไหวลองนับเวลาดูแล้วอีกไม่นานก็ฟื้นกลับมา

อิ๋งจื่อจินลุกเดินออกจากห้องแต่งหน้า

อวิ๋นเหอเย่ว์กลับมาพอดี สายตาของเธอเป็นเชิงสงสัย

“ไปเถอะ” อิ๋งจื่อจินสีหน้าเรื่อยเปื่อย

“เครื่องสำอางที่นี่ราคาถูกเกินไป เดี๋ยวเปลี่ยนที่ให้นะ”

มีเหรอที่อวิ๋นเหอเย่ว์จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาพิมพ์

[พี่คะ หนูจะพยายามหาเงินมาให้พี่ค่ะ!]

ภายในห้องแต่งหน้า

สตาฟจัดเก้าอี้ให้เข้าที่อีกครั้ง ทำเสียงฮึดฮัด

“แสร้งทำเป็นพูด คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทอะไรหรือไง ชิ”

แค่ผู้ช่วย ยังจะทำตัวอวดดี

ห้านาทีต่อมาเยี่ยซีก็มาที่ห้องแต่งหน้า

ที่นี่เป็นห้องแต่งหน้าส่วนตัวของเยี่ยซีจริงๆ เธอเป็นโปรดิวเซอร์ให้บอยแบนด์ครั้งนี้ เรียกกระแสให้รายการได้ไม่น้อย

“พี่ซี” ผู้ช่วยของเธอช่วยถือกระเป๋า “พี่หลีจงใจจัดให้อวิ๋นเหอเย่ว์มาใช้ห้องแต่งหน้าของพี่ จะไม่ส่งผลอะไรกับพี่จริงๆ เหรอคะ เขาดังมากในเน็ต”

“ไม่ว่าอย่างไรพี่หลีก็เป็นแมวมองที่เจอฉัน” เยี่ยซีพูด “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ช่วยเหลือกันได้ ถ้าเกิดเรื่องก็เป็นความรับผิดชอบของทีมงาน”

ขณะพูดเธอก็หยิบรองพื้นที่อยู่ข้างๆ แล้วเริ่มแต่งหน้า

ทารองพื้นเสร็จเธอก็หยิบคอนซีลเลอร์

อยู่ๆ ผู้ช่วยก็พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ “พี่ซี คะ…คอพี่”

“ทำไมเหรอ” เยี่ยซีเลื่อนกระจกลงล่าง มือสั่น กระจกหล่นลงบนโต๊ะ

ตรงคอของเธอมีรอยแดงเป็นริ้วๆ อีกทั้งยังเป็นแนวยาวขึ้นไปจนถึงคางแล้ว

เยี่ยซีลุกพรวด ตวาดเสียง “ใครเข้ามาในนี้ แตะต้องเครื่องสำอางของฉัน!”

ตอนบ่ายต้องอัดรายการแล้ว สภาพเธอเป็นแบบนี้จะออกกล้องได้อย่างไร

สตาฟที่อยู่ข้างๆ ก็อึ้ง

ทันใดนั้นดูเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ตะโกนเสียงดัง

“มีครับ ผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์!”

ผู้ช่วยก็โมโห “ยังไม่รีบไปเอาตัวมาอีก ใบหน้าของพี่ซีมีประกัน ยัยนั่นชดใช้ด้วยชีวิตก็ยังไม่พอ!”

ตอนนี้เยี่ยซีกำลังโมโห เธอกับเย่าจือมีแฟนคลับคู่จิ้นอยู่ไม่น้อย แฟนคลับคู่จิ้นเหล่านี้เอาเรื่องเก่งยิ่งกว่าแฟนคลับของเธออีก

เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พวกแฟนคลับสามารถฉีกผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์ได้เป็นชิ้นๆ

อวิ๋นเหอเย่ว์ก็ต้องพังพินาศตามไปด้วย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+