คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 363 ตบหน้าระลอกสอง สัมภาษณ์อิ๋งจื่อจิน

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 363 ตบหน้าระลอกสอง สัมภาษณ์อิ๋งจื่อจิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ท้องฟ้าสีคราม ดวงอาทิตย์ยังคนสูงเด่น ไร้เมฆในระยะหมื่นลี้

อย่าว่าแต่เมฆครึ้มเลย แม้แต่เมฆขาวก็ไม่มี

บรรดาลูกค้าโดยรอบต่างแสดงสีหน้าผิดหวัง

พวกเขาเห็นอิ๋งจื่อจินพูดอย่างมีหลักการ หนักแน่นฉะฉาน ยังคิดว่าเจอเทพพยากรณ์เข้าแล้วจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแค่นักต้มตุ๋น

“เห็นหรือยัง” อาจารย์จูยืนขึ้น ทั้งยังได้ตั้งใจเปิดหน้าต่าง แสยะยิ้ม

“เธอบอกว่าอีกสิบนาทีเมฆจะก่อตัว แต่ดูสิ มีเมฆที่…”

เขายังไม่ทันพูดจบ สายตาก็จับจ้อง ทันใดนั้นบนฟ้าที่ไกลออกไปเริ่มครึ้มลง ชั้นเมฆก่อตัว

บรรดาลูกค้าก็เห็นแล้ว

“รีบทำไม” อิ๋งจื่อจินพูด

“ตอนนี้เพิ่งจะสิบนาทีพอดี” ตี้อู่เย่ว์เหลือบมองมือถือ

ไม่ขาดแม้แต่วินาทีเดียว

เธองงมาก

นี่เธอพกนาฬิกาคนมาตลอดเลยเหรอ

“มีเมฆครึ้มแสดงว่าฝนต้องตกงั้นเหรอ” กล้ามเนื้อใบหน้าอาจารย์จูเริ่มสั่น

“ตลกน่า ถ้าเมฆครึ้มนี้สลายไปจะทำไง”

เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเด็กสาววัยแค่นี้จะมีความเก่งซ่อนอยู่

“อีกสามสิบนาทีฟ้าจะผ่าไง” ตี้อู่เย่ว์มองเขาเหมือนมองคนโง่

“รอฟังดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง” อาจารย์จูสะอึก เขาโมโห

“ฉันมีเวลารอเป็นเพื่อนพวกเธอที่ไหนกัน ฉันยังมีลูกค้าอีกเยอะแยะ!”

เขารู้ดีว่าอันที่จริงเขาไม่ถือเป็นนักทำนายดวงอะไรหรอก อย่างมากก็แค่ศึกษาคัมภีร์โจวอี้อะไรพวกนี้มา ดังนั้นเวลาที่เขาทำนายดวงชะตาให้คนอื่นจึงมักจะใช้คำพูดที่คลุมเครือ เรื่องก็เป็นเช่นนี้

แต่ลูกค้ารอบตัวต่างเริ่มตั้งข้อสงสัย อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ ก้มหน้า มองโทรศัพท์มือถืออย่างขี้เกียจ

มีข้อความวีแชทหลายข้อความที่ไม่ได้อ่าน เลขาสาวเป็นคนส่งมา

[บอสคะ บอสติดคำค้นยอดนิยมแล้ว ต้องลบไหมคะ]

[(รูปภาพ)] เป็นภาพแคปชาร์ตอันดับคำค้นยอดนิยมในเวยปั๋ว

แอชแท็กเทพอิ๋ง ตอนนี้อยู่อันดับที่ห้าสิบ

อิ๋งจื่อจินกดเข้าไปดูก็พบว่า พวกแฟนคลับของเยี่ยซีต่างบอกว่าผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์ไม่มีทางเป็นเธอ เริ่มสร้างกระแสระลอกใหม่แล้ว

[ไม่ต้อง ไม่ส่งผลอะไร ประหยัดเงินได้หน่อย]

เลขาสาวตอบทันที

[ได้ค่ะบอส ทางทีมงานรายการปล่อยคลิปยืนยันความบริสุทธิ์ใจไปแล้ว แต่แฟนคลับของเยี่ยซีก็ยังคงไม่เลิกรา แต่พวกเขาโวยวายไปก็ไม่มีประโยชน์ คนที่มามุงดูเริ่มไม่เข้าข้างเยี่ยซีแล้วค่ะ]

[ทางเราก็เริ่มหาหลักฐานแล้ว ใครกันแน่ที่ทำบางอย่างกับกล่องเครื่องสำอางของเยี่ยซี]

วงการบันเทิงก็คือสถานที่แบบนี้ หาประโยชน์จากแฟนคลับ แต่ก็ต้องแลกมากับบางอย่างที่สมน้ำสมเนื้อ

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลง

[สืบจากคนข้างตัวของเยี่ยซี]

เธอตอบข้อความเสร็จก็ล้วงหูฟังออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ใส่แล้วเริ่มดูละครที่คราวก่อนยังดูไม่จบ

คนอื่นๆ ภายในห้องไม่ได้ทำตัวสบายๆ แบบเธอ จ้องท้องฟ้าตาไม่กะพริบ

ผ่านไปแบบนี้หลายสิบนาที ในขณะที่อาจารย์จูกำลังเริ่มใจชื้นขึ้น เตรียมพูดประชดอีกรอบ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงฟ้าผ่าอันน่าตกใจ

“เปรี้ยง!”

มีแสงวาบที่ปลายขอบฟ้า เมฆครึ้มที่อยู่ไกลลอยคืบคลานเข้ามาใกล้ทีละนิด

แสงอาทิตย์ถูกเมฆครึ้มกลืนกินจนหมดในชั่วเวลานี้ ลมก็พัดแรงขึ้น ท้องฟ้ามืดจนน่ากลัว

ไม่มีคนสงสัยอีกต่อไปว่าสิ่งที่อิ๋งจื่อจินพูดเป็นเรื่องโกหก ใบหน้าของอาจารย์จูชาไปหมด นั่งตัวเกร็งอยู่บนเก้าอี้ บนหน้าผากมีเหงื่อผุด ปากสั่นฟันกระทบกันกึกๆ

เขารู้ว่าเส้นทางในสมาคมโหราศาสตร์ของเขามาถึงจุดจบแล้ว

ไม่มีอะไรทำให้คนเชื่อได้ง่ายไปกว่าการมีหลักฐานปรากฏตรงหน้า

ไม่ถึงหนึ่งวัน ข่าวที่เขาเป็นหมอดูกำมะลอก็จะถูกแพร่ออกไป และจะไม่มีใครมาให้เขาทำนายดวงอีก

บรรดาลูกค้าก็อึ้งกันอยู่สักพัก พอพวกเขาได้สติกำลังจะหันมาหาอิ๋งจื่อจิน เธอกับตี้อู่เย่ว์ก็ไปรับปี่เซียะหยกออกจากห้องไปแล้ว

“ดูเหมือนครั้งนี้ฝนจะตกหนักมาก” ตี้อู่เย่ว์มองท้องฟ้า

“พี่สาว พวกเราต้องรีบกลับไป”

ความหนาของเมฆระดับนี้ร่มคันเล็กที่เธอพกมาด้วยเอาไม่อยู่แน่

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า

เธอหลุบตาลง ลูบปี่เซียะหยกที่อยู่ในมือ กำหลวมๆ จากนั้นก็เดินออกด้านนอก

มีเสียงตะโกนเรียกเธอจากด้านหลัง

“ปรมาจารย์…ท่านปรมาจารย์หยุดก่อน!”

เจ้าของเสียงเป็นชายสูงวัย เขาวิ่งตามมา หายใจหอบ พูดอย่างนอบน้อม

“ท่านปรมาจารย์ โปรดหยุดก่อน ผมมีเรื่องอยากขอคำชี้แนะ”

เท้าของอิ๋งจื่อจินหยุดชะงัก หันหน้ามา สายตามองสำรวจชายสูงวัย

เธอแน่ใจได้ว่า นี่คือคนที่มีความสามารถในการทำนาย ไม่เหมือนอาจารย์จูที่เป็นนักต้มตุ๋น

ชายสูงวัยพูดจบก็เงยหน้า หันมองตี้อู่เย่ว์ที่อยู่ข้างๆ ตะลึงสุดขีด

“คุณหนูเย่ว์ก็อยู่ด้วยหรือ”

ตี้อู่เย่ว์งง “รู้จักหนูเหรอคะ”

“แน่นอนๆ” ชายสูงวัยยิ้ม “ถ้าตอนนั้นไม่ได้ผู้อาวุโสตี้อู่ช่วยชี้แนะในวันที่ผมถึงทางตัน ก็คงไม่มีผมในวันนี้ ผมเข้าวงการมาได้ก็เพราะผู้อาวุโสตี้อู่”

“คุณปู่ของหนูเหรอคะ” ตี้อู่เย่ว์ลูบคาง

“อ๋อๆ ดูเหมือนจะเคยได้ยินคุณปู่พูดถึง คุณลุงแซ่เซียวหรือเปล่าคะ”

“ใช่แล้วครับ” ชายสูงวัยพูด “ผมชื่อเซียวปั๋ว เป็นประธานของที่นี่ ขายหน้าท่านปรมาจารย์กับคุณหนูเย่ว์แล้ว นับแต่วันนี้เป็นต้นไป จูหย่งเซิงจะไม่มีทางปรากฏตัวที่สมาคมโหราศาสตร์อีก”

ขณะพูดเขาก็หันหน้าไป “ท่านปรมาจารย์ ผมขอเชิญมาอยู่ที่สมาคมโหราศาสตร์บ่อยๆ ได้ไหมครับ”

เขาไม่มีทางคิดว่าอิ๋งจื่อจินทำอะไรไม่เป็นเพราะอายุน้อย

กลับตรงกันข้ามด้วยซ้ำ

นักพยากรณ์ที่เก่งที่สุดกลับเป็นพวกคนหนุ่มสาว

เส้นทางการทำนายดวงชะตาไม่ได้วัดกันที่ศึกษาตำรามาเยอะเท่าไร แต่วัดกันที่พรสวรรค์

เซียวปั๋วก็เพิ่งจะรู้หลังจากที่เรียนกับตี้อู่ชวนมาระยะหนึ่ง

“ไม่สนใจค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “ไปแล้วนะคะ”

ตี้อู่เย่ว์รีบตามไป

คราวนี้เซียวปั๋วไม่ได้ตาม เขาเคาะหัวตัวเองแล้วถอนหายใจ

“ไม่รู้จักห้ามตัวเอง ปรมาจารย์ระดับนี้จะมาอยู่สมาคมโหราศาสตร์ได้อย่างไร”

คนที่มีความสามารถจริงๆ ในสมาคมโหราศาสตร์ ใช้มือเดียวก็พอนับ

เซียวปั๋วส่ายหน้า เอามือไพล่หลังเดินกลับไป

หนึ่งวันผ่านไป หัวข้อสนทนาเรื่องรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ก็ยังคงไม่ลดลง

นี่เป็นผลลัพธ์ที่เฉินหลีต้องการ ดึงดูดคนมาได้ได้หรือไม่ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ ทำให้แฟนคลับของเยี่ยซียิ่งสามัคคีกันมากขึ้น

เยี่ยซีกลับไม่สบายใจ “พี่หลี มีหลายคนบอกว่ารูปนั้นคือเทพด้านการเรียนคนนั้น ถ้าเป็นจริง…”

“พี่ดูแล้ว อย่างมากก็แค่ด้านข้างคล้ายกัน สวมหน้ากากไว้ก็คล้ายกันทุกคนนั่นแหละ” เฉินหลีสังเกตรูปเปรียบเทียบอีกครั้ง สุดท้ายก็ส่ายหน้า

“ซีซี วางใจได้ เธอเครียดเกินไปแล้วนะ อีกอย่าง ชาวเน็ตก็พูดถูก เทพการเรียนจะมาเป็นผู้ช่วยได้อย่างไร”

คิดตามตรรกะคนปกติย่อมไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน

เฉินหลีก็ไปหาตารางเวลาของค่ายติวไอเอสซีมา เวลานี้พวกเด็กเทพกำลังติวกันอยู่

เยี่ยซีเม้มริมฝีปาก ในใจยังคงกระวนกระวาย

“ซีซี ไม่ต้องคิดมากแล้ว” เฉินหลีพูดอย่างมั่นใจ

“นี่ก็คือแผนที่ทางอวิ๋นเหอเย่ว์ใช้ อยากกลบเกลื่อนเรื่องนี้ มีนักข่าวไปที่ค่ายติวไอเอสซีแล้ว อีกเดี๋ยวคำโกหกของอวิ๋นเหอเย่ว์ก็จะถูกเปิดโปง”

ทางด้านค่ายติวไอเอสซี

เดิมทีพวกนักข่าวปาปารัซซี่มารออยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าอยู่ๆ จะมีพายุฝนกระหน่ำลงมา ทำพวกเขาเปียกปอนไปหมด

ช่วยไม่ได้ พวกนักข่าวกับปาปารัซซี่จำต้องกลับไปเปลี่ยนชุดที่โรงแรม

เช้าวันต่อมา พวกเขาก็มากันอีกครั้ง อออยู่ตรงทางเข้าค่ายติว

เวลานี้จั่วหลีซื้อซาลาเปาเดินฮัมเพลงเข้าไปข้างใน แต่กลับถูกล้อมไว้

นักข่าวกับปาปารัซซี่เหล่านี้ไม่รู้จักจั่วหลี คิดว่าเขาอาจเป็นพนักงานคนหนึ่ง ครั้นแล้วจึงแห่กันเข้าไปรุมล้อม

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่านักเรียนอิ๋งจื่อจินอยู่ไหมครับ พวกเราอยากสัมภาษณ์เธอ”

“สวัสดีครับ ในเน็ตมีคอมเมนต์เกี่ยวกับเธออยู่ไม่น้อยไม่ทราบว่าคุณได้ดู…”

จั่วหลีถูกเบียดซาลาเปาเกือบแตก

ถูกยิงคำถามรัวๆ เขาโมโหจะบ้าตาย

ขณะที่กำลังจะพูด พอหันไปก็เห็นอิ๋งจื่อจินเดินมาทางนี้พอดี เขารู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที

เขาพบว่าบางครั้งเก่งไปก็ไม่ใช่เรื่องดี

โชคดีที่เขาไม่ได้บอกพวกตาแก่สาขาคอมพิวเตอร์ว่าอิ๋งจื่อจินก็เขียนพวกโปรแกรมเป็น ไม่อย่างนั้นได้มีคนมาแย่งตัวเพิ่มแน่

จั่วหลีส่ายมือ “เจ้าตัวมาแล้วครับ พวกคุณถามเอาเองแล้วกัน ดูว่าเธอจะสนใจพวกคุณไหม”

พอได้ยินแบบนี้บรรดานักข่าวกับปาปารัซซี่ก็สังเกตเห็นคนที่พวกเขามาหาแล้ว

วันนี้อิ๋งจื่อจินไม่ได้สวมผ้าปิดปาก แต่ใช้ผ้าพันคอบังไว้ครึ่งหน้า

เธอเพิ่งเดินถึงประตูค่ายติวก็ถูกกลุ่มคนรุมล้อมไว้

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า ดวงตาหงส์หรี่ลงเล็กน้อย

มีนักข่าวคนหนึ่งยื่นไมโครโฟนให้ก่อน สีหน้าตื่นเต้น

“นักเรียนอิ๋ง ไม่ทราบว่าที่ในเน็ตบอกว่าผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์คือคุณเป็นเรื่องจริงไหม ถ้าไม่ใช่ก็บอกมาได้เลย พวกเราจะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้ รับรองชื่อเสียง”

กล้องที่อยู่ด้านหลังจับภาพ นี่คือการถ่ายทอดสด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 363 ตบหน้าระลอกสอง สัมภาษณ์อิ๋งจื่อจิน

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 363 ตบหน้าระลอกสอง สัมภาษณ์อิ๋งจื่อจิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ท้องฟ้าสีคราม ดวงอาทิตย์ยังคนสูงเด่น ไร้เมฆในระยะหมื่นลี้

อย่าว่าแต่เมฆครึ้มเลย แม้แต่เมฆขาวก็ไม่มี

บรรดาลูกค้าโดยรอบต่างแสดงสีหน้าผิดหวัง

พวกเขาเห็นอิ๋งจื่อจินพูดอย่างมีหลักการ หนักแน่นฉะฉาน ยังคิดว่าเจอเทพพยากรณ์เข้าแล้วจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแค่นักต้มตุ๋น

“เห็นหรือยัง” อาจารย์จูยืนขึ้น ทั้งยังได้ตั้งใจเปิดหน้าต่าง แสยะยิ้ม

“เธอบอกว่าอีกสิบนาทีเมฆจะก่อตัว แต่ดูสิ มีเมฆที่…”

เขายังไม่ทันพูดจบ สายตาก็จับจ้อง ทันใดนั้นบนฟ้าที่ไกลออกไปเริ่มครึ้มลง ชั้นเมฆก่อตัว

บรรดาลูกค้าก็เห็นแล้ว

“รีบทำไม” อิ๋งจื่อจินพูด

“ตอนนี้เพิ่งจะสิบนาทีพอดี” ตี้อู่เย่ว์เหลือบมองมือถือ

ไม่ขาดแม้แต่วินาทีเดียว

เธองงมาก

นี่เธอพกนาฬิกาคนมาตลอดเลยเหรอ

“มีเมฆครึ้มแสดงว่าฝนต้องตกงั้นเหรอ” กล้ามเนื้อใบหน้าอาจารย์จูเริ่มสั่น

“ตลกน่า ถ้าเมฆครึ้มนี้สลายไปจะทำไง”

เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเด็กสาววัยแค่นี้จะมีความเก่งซ่อนอยู่

“อีกสามสิบนาทีฟ้าจะผ่าไง” ตี้อู่เย่ว์มองเขาเหมือนมองคนโง่

“รอฟังดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง” อาจารย์จูสะอึก เขาโมโห

“ฉันมีเวลารอเป็นเพื่อนพวกเธอที่ไหนกัน ฉันยังมีลูกค้าอีกเยอะแยะ!”

เขารู้ดีว่าอันที่จริงเขาไม่ถือเป็นนักทำนายดวงอะไรหรอก อย่างมากก็แค่ศึกษาคัมภีร์โจวอี้อะไรพวกนี้มา ดังนั้นเวลาที่เขาทำนายดวงชะตาให้คนอื่นจึงมักจะใช้คำพูดที่คลุมเครือ เรื่องก็เป็นเช่นนี้

แต่ลูกค้ารอบตัวต่างเริ่มตั้งข้อสงสัย อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ ก้มหน้า มองโทรศัพท์มือถืออย่างขี้เกียจ

มีข้อความวีแชทหลายข้อความที่ไม่ได้อ่าน เลขาสาวเป็นคนส่งมา

[บอสคะ บอสติดคำค้นยอดนิยมแล้ว ต้องลบไหมคะ]

[(รูปภาพ)] เป็นภาพแคปชาร์ตอันดับคำค้นยอดนิยมในเวยปั๋ว

แอชแท็กเทพอิ๋ง ตอนนี้อยู่อันดับที่ห้าสิบ

อิ๋งจื่อจินกดเข้าไปดูก็พบว่า พวกแฟนคลับของเยี่ยซีต่างบอกว่าผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์ไม่มีทางเป็นเธอ เริ่มสร้างกระแสระลอกใหม่แล้ว

[ไม่ต้อง ไม่ส่งผลอะไร ประหยัดเงินได้หน่อย]

เลขาสาวตอบทันที

[ได้ค่ะบอส ทางทีมงานรายการปล่อยคลิปยืนยันความบริสุทธิ์ใจไปแล้ว แต่แฟนคลับของเยี่ยซีก็ยังคงไม่เลิกรา แต่พวกเขาโวยวายไปก็ไม่มีประโยชน์ คนที่มามุงดูเริ่มไม่เข้าข้างเยี่ยซีแล้วค่ะ]

[ทางเราก็เริ่มหาหลักฐานแล้ว ใครกันแน่ที่ทำบางอย่างกับกล่องเครื่องสำอางของเยี่ยซี]

วงการบันเทิงก็คือสถานที่แบบนี้ หาประโยชน์จากแฟนคลับ แต่ก็ต้องแลกมากับบางอย่างที่สมน้ำสมเนื้อ

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลง

[สืบจากคนข้างตัวของเยี่ยซี]

เธอตอบข้อความเสร็จก็ล้วงหูฟังออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ใส่แล้วเริ่มดูละครที่คราวก่อนยังดูไม่จบ

คนอื่นๆ ภายในห้องไม่ได้ทำตัวสบายๆ แบบเธอ จ้องท้องฟ้าตาไม่กะพริบ

ผ่านไปแบบนี้หลายสิบนาที ในขณะที่อาจารย์จูกำลังเริ่มใจชื้นขึ้น เตรียมพูดประชดอีกรอบ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงฟ้าผ่าอันน่าตกใจ

“เปรี้ยง!”

มีแสงวาบที่ปลายขอบฟ้า เมฆครึ้มที่อยู่ไกลลอยคืบคลานเข้ามาใกล้ทีละนิด

แสงอาทิตย์ถูกเมฆครึ้มกลืนกินจนหมดในชั่วเวลานี้ ลมก็พัดแรงขึ้น ท้องฟ้ามืดจนน่ากลัว

ไม่มีคนสงสัยอีกต่อไปว่าสิ่งที่อิ๋งจื่อจินพูดเป็นเรื่องโกหก ใบหน้าของอาจารย์จูชาไปหมด นั่งตัวเกร็งอยู่บนเก้าอี้ บนหน้าผากมีเหงื่อผุด ปากสั่นฟันกระทบกันกึกๆ

เขารู้ว่าเส้นทางในสมาคมโหราศาสตร์ของเขามาถึงจุดจบแล้ว

ไม่มีอะไรทำให้คนเชื่อได้ง่ายไปกว่าการมีหลักฐานปรากฏตรงหน้า

ไม่ถึงหนึ่งวัน ข่าวที่เขาเป็นหมอดูกำมะลอก็จะถูกแพร่ออกไป และจะไม่มีใครมาให้เขาทำนายดวงอีก

บรรดาลูกค้าก็อึ้งกันอยู่สักพัก พอพวกเขาได้สติกำลังจะหันมาหาอิ๋งจื่อจิน เธอกับตี้อู่เย่ว์ก็ไปรับปี่เซียะหยกออกจากห้องไปแล้ว

“ดูเหมือนครั้งนี้ฝนจะตกหนักมาก” ตี้อู่เย่ว์มองท้องฟ้า

“พี่สาว พวกเราต้องรีบกลับไป”

ความหนาของเมฆระดับนี้ร่มคันเล็กที่เธอพกมาด้วยเอาไม่อยู่แน่

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า

เธอหลุบตาลง ลูบปี่เซียะหยกที่อยู่ในมือ กำหลวมๆ จากนั้นก็เดินออกด้านนอก

มีเสียงตะโกนเรียกเธอจากด้านหลัง

“ปรมาจารย์…ท่านปรมาจารย์หยุดก่อน!”

เจ้าของเสียงเป็นชายสูงวัย เขาวิ่งตามมา หายใจหอบ พูดอย่างนอบน้อม

“ท่านปรมาจารย์ โปรดหยุดก่อน ผมมีเรื่องอยากขอคำชี้แนะ”

เท้าของอิ๋งจื่อจินหยุดชะงัก หันหน้ามา สายตามองสำรวจชายสูงวัย

เธอแน่ใจได้ว่า นี่คือคนที่มีความสามารถในการทำนาย ไม่เหมือนอาจารย์จูที่เป็นนักต้มตุ๋น

ชายสูงวัยพูดจบก็เงยหน้า หันมองตี้อู่เย่ว์ที่อยู่ข้างๆ ตะลึงสุดขีด

“คุณหนูเย่ว์ก็อยู่ด้วยหรือ”

ตี้อู่เย่ว์งง “รู้จักหนูเหรอคะ”

“แน่นอนๆ” ชายสูงวัยยิ้ม “ถ้าตอนนั้นไม่ได้ผู้อาวุโสตี้อู่ช่วยชี้แนะในวันที่ผมถึงทางตัน ก็คงไม่มีผมในวันนี้ ผมเข้าวงการมาได้ก็เพราะผู้อาวุโสตี้อู่”

“คุณปู่ของหนูเหรอคะ” ตี้อู่เย่ว์ลูบคาง

“อ๋อๆ ดูเหมือนจะเคยได้ยินคุณปู่พูดถึง คุณลุงแซ่เซียวหรือเปล่าคะ”

“ใช่แล้วครับ” ชายสูงวัยพูด “ผมชื่อเซียวปั๋ว เป็นประธานของที่นี่ ขายหน้าท่านปรมาจารย์กับคุณหนูเย่ว์แล้ว นับแต่วันนี้เป็นต้นไป จูหย่งเซิงจะไม่มีทางปรากฏตัวที่สมาคมโหราศาสตร์อีก”

ขณะพูดเขาก็หันหน้าไป “ท่านปรมาจารย์ ผมขอเชิญมาอยู่ที่สมาคมโหราศาสตร์บ่อยๆ ได้ไหมครับ”

เขาไม่มีทางคิดว่าอิ๋งจื่อจินทำอะไรไม่เป็นเพราะอายุน้อย

กลับตรงกันข้ามด้วยซ้ำ

นักพยากรณ์ที่เก่งที่สุดกลับเป็นพวกคนหนุ่มสาว

เส้นทางการทำนายดวงชะตาไม่ได้วัดกันที่ศึกษาตำรามาเยอะเท่าไร แต่วัดกันที่พรสวรรค์

เซียวปั๋วก็เพิ่งจะรู้หลังจากที่เรียนกับตี้อู่ชวนมาระยะหนึ่ง

“ไม่สนใจค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “ไปแล้วนะคะ”

ตี้อู่เย่ว์รีบตามไป

คราวนี้เซียวปั๋วไม่ได้ตาม เขาเคาะหัวตัวเองแล้วถอนหายใจ

“ไม่รู้จักห้ามตัวเอง ปรมาจารย์ระดับนี้จะมาอยู่สมาคมโหราศาสตร์ได้อย่างไร”

คนที่มีความสามารถจริงๆ ในสมาคมโหราศาสตร์ ใช้มือเดียวก็พอนับ

เซียวปั๋วส่ายหน้า เอามือไพล่หลังเดินกลับไป

หนึ่งวันผ่านไป หัวข้อสนทนาเรื่องรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ก็ยังคงไม่ลดลง

นี่เป็นผลลัพธ์ที่เฉินหลีต้องการ ดึงดูดคนมาได้ได้หรือไม่ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ ทำให้แฟนคลับของเยี่ยซียิ่งสามัคคีกันมากขึ้น

เยี่ยซีกลับไม่สบายใจ “พี่หลี มีหลายคนบอกว่ารูปนั้นคือเทพด้านการเรียนคนนั้น ถ้าเป็นจริง…”

“พี่ดูแล้ว อย่างมากก็แค่ด้านข้างคล้ายกัน สวมหน้ากากไว้ก็คล้ายกันทุกคนนั่นแหละ” เฉินหลีสังเกตรูปเปรียบเทียบอีกครั้ง สุดท้ายก็ส่ายหน้า

“ซีซี วางใจได้ เธอเครียดเกินไปแล้วนะ อีกอย่าง ชาวเน็ตก็พูดถูก เทพการเรียนจะมาเป็นผู้ช่วยได้อย่างไร”

คิดตามตรรกะคนปกติย่อมไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน

เฉินหลีก็ไปหาตารางเวลาของค่ายติวไอเอสซีมา เวลานี้พวกเด็กเทพกำลังติวกันอยู่

เยี่ยซีเม้มริมฝีปาก ในใจยังคงกระวนกระวาย

“ซีซี ไม่ต้องคิดมากแล้ว” เฉินหลีพูดอย่างมั่นใจ

“นี่ก็คือแผนที่ทางอวิ๋นเหอเย่ว์ใช้ อยากกลบเกลื่อนเรื่องนี้ มีนักข่าวไปที่ค่ายติวไอเอสซีแล้ว อีกเดี๋ยวคำโกหกของอวิ๋นเหอเย่ว์ก็จะถูกเปิดโปง”

ทางด้านค่ายติวไอเอสซี

เดิมทีพวกนักข่าวปาปารัซซี่มารออยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าอยู่ๆ จะมีพายุฝนกระหน่ำลงมา ทำพวกเขาเปียกปอนไปหมด

ช่วยไม่ได้ พวกนักข่าวกับปาปารัซซี่จำต้องกลับไปเปลี่ยนชุดที่โรงแรม

เช้าวันต่อมา พวกเขาก็มากันอีกครั้ง อออยู่ตรงทางเข้าค่ายติว

เวลานี้จั่วหลีซื้อซาลาเปาเดินฮัมเพลงเข้าไปข้างใน แต่กลับถูกล้อมไว้

นักข่าวกับปาปารัซซี่เหล่านี้ไม่รู้จักจั่วหลี คิดว่าเขาอาจเป็นพนักงานคนหนึ่ง ครั้นแล้วจึงแห่กันเข้าไปรุมล้อม

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่านักเรียนอิ๋งจื่อจินอยู่ไหมครับ พวกเราอยากสัมภาษณ์เธอ”

“สวัสดีครับ ในเน็ตมีคอมเมนต์เกี่ยวกับเธออยู่ไม่น้อยไม่ทราบว่าคุณได้ดู…”

จั่วหลีถูกเบียดซาลาเปาเกือบแตก

ถูกยิงคำถามรัวๆ เขาโมโหจะบ้าตาย

ขณะที่กำลังจะพูด พอหันไปก็เห็นอิ๋งจื่อจินเดินมาทางนี้พอดี เขารู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที

เขาพบว่าบางครั้งเก่งไปก็ไม่ใช่เรื่องดี

โชคดีที่เขาไม่ได้บอกพวกตาแก่สาขาคอมพิวเตอร์ว่าอิ๋งจื่อจินก็เขียนพวกโปรแกรมเป็น ไม่อย่างนั้นได้มีคนมาแย่งตัวเพิ่มแน่

จั่วหลีส่ายมือ “เจ้าตัวมาแล้วครับ พวกคุณถามเอาเองแล้วกัน ดูว่าเธอจะสนใจพวกคุณไหม”

พอได้ยินแบบนี้บรรดานักข่าวกับปาปารัซซี่ก็สังเกตเห็นคนที่พวกเขามาหาแล้ว

วันนี้อิ๋งจื่อจินไม่ได้สวมผ้าปิดปาก แต่ใช้ผ้าพันคอบังไว้ครึ่งหน้า

เธอเพิ่งเดินถึงประตูค่ายติวก็ถูกกลุ่มคนรุมล้อมไว้

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า ดวงตาหงส์หรี่ลงเล็กน้อย

มีนักข่าวคนหนึ่งยื่นไมโครโฟนให้ก่อน สีหน้าตื่นเต้น

“นักเรียนอิ๋ง ไม่ทราบว่าที่ในเน็ตบอกว่าผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์คือคุณเป็นเรื่องจริงไหม ถ้าไม่ใช่ก็บอกมาได้เลย พวกเราจะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้ รับรองชื่อเสียง”

กล้องที่อยู่ด้านหลังจับภาพ นี่คือการถ่ายทอดสด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 363 ตบหน้าระลอกสอง สัมภาษณ์อิ๋งจื่อจิน

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 363 ตบหน้าระลอกสอง สัมภาษณ์อิ๋งจื่อจิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ท้องฟ้าสีคราม ดวงอาทิตย์ยังคนสูงเด่น ไร้เมฆในระยะหมื่นลี้

อย่าว่าแต่เมฆครึ้มเลย แม้แต่เมฆขาวก็ไม่มี

บรรดาลูกค้าโดยรอบต่างแสดงสีหน้าผิดหวัง

พวกเขาเห็นอิ๋งจื่อจินพูดอย่างมีหลักการ หนักแน่นฉะฉาน ยังคิดว่าเจอเทพพยากรณ์เข้าแล้วจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นแค่นักต้มตุ๋น

“เห็นหรือยัง” อาจารย์จูยืนขึ้น ทั้งยังได้ตั้งใจเปิดหน้าต่าง แสยะยิ้ม

“เธอบอกว่าอีกสิบนาทีเมฆจะก่อตัว แต่ดูสิ มีเมฆที่…”

เขายังไม่ทันพูดจบ สายตาก็จับจ้อง ทันใดนั้นบนฟ้าที่ไกลออกไปเริ่มครึ้มลง ชั้นเมฆก่อตัว

บรรดาลูกค้าก็เห็นแล้ว

“รีบทำไม” อิ๋งจื่อจินพูด

“ตอนนี้เพิ่งจะสิบนาทีพอดี” ตี้อู่เย่ว์เหลือบมองมือถือ

ไม่ขาดแม้แต่วินาทีเดียว

เธองงมาก

นี่เธอพกนาฬิกาคนมาตลอดเลยเหรอ

“มีเมฆครึ้มแสดงว่าฝนต้องตกงั้นเหรอ” กล้ามเนื้อใบหน้าอาจารย์จูเริ่มสั่น

“ตลกน่า ถ้าเมฆครึ้มนี้สลายไปจะทำไง”

เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเด็กสาววัยแค่นี้จะมีความเก่งซ่อนอยู่

“อีกสามสิบนาทีฟ้าจะผ่าไง” ตี้อู่เย่ว์มองเขาเหมือนมองคนโง่

“รอฟังดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือไง” อาจารย์จูสะอึก เขาโมโห

“ฉันมีเวลารอเป็นเพื่อนพวกเธอที่ไหนกัน ฉันยังมีลูกค้าอีกเยอะแยะ!”

เขารู้ดีว่าอันที่จริงเขาไม่ถือเป็นนักทำนายดวงอะไรหรอก อย่างมากก็แค่ศึกษาคัมภีร์โจวอี้อะไรพวกนี้มา ดังนั้นเวลาที่เขาทำนายดวงชะตาให้คนอื่นจึงมักจะใช้คำพูดที่คลุมเครือ เรื่องก็เป็นเช่นนี้

แต่ลูกค้ารอบตัวต่างเริ่มตั้งข้อสงสัย อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ ก้มหน้า มองโทรศัพท์มือถืออย่างขี้เกียจ

มีข้อความวีแชทหลายข้อความที่ไม่ได้อ่าน เลขาสาวเป็นคนส่งมา

[บอสคะ บอสติดคำค้นยอดนิยมแล้ว ต้องลบไหมคะ]

[(รูปภาพ)] เป็นภาพแคปชาร์ตอันดับคำค้นยอดนิยมในเวยปั๋ว

แอชแท็กเทพอิ๋ง ตอนนี้อยู่อันดับที่ห้าสิบ

อิ๋งจื่อจินกดเข้าไปดูก็พบว่า พวกแฟนคลับของเยี่ยซีต่างบอกว่าผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์ไม่มีทางเป็นเธอ เริ่มสร้างกระแสระลอกใหม่แล้ว

[ไม่ต้อง ไม่ส่งผลอะไร ประหยัดเงินได้หน่อย]

เลขาสาวตอบทันที

[ได้ค่ะบอส ทางทีมงานรายการปล่อยคลิปยืนยันความบริสุทธิ์ใจไปแล้ว แต่แฟนคลับของเยี่ยซีก็ยังคงไม่เลิกรา แต่พวกเขาโวยวายไปก็ไม่มีประโยชน์ คนที่มามุงดูเริ่มไม่เข้าข้างเยี่ยซีแล้วค่ะ]

[ทางเราก็เริ่มหาหลักฐานแล้ว ใครกันแน่ที่ทำบางอย่างกับกล่องเครื่องสำอางของเยี่ยซี]

วงการบันเทิงก็คือสถานที่แบบนี้ หาประโยชน์จากแฟนคลับ แต่ก็ต้องแลกมากับบางอย่างที่สมน้ำสมเนื้อ

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลง

[สืบจากคนข้างตัวของเยี่ยซี]

เธอตอบข้อความเสร็จก็ล้วงหูฟังออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ใส่แล้วเริ่มดูละครที่คราวก่อนยังดูไม่จบ

คนอื่นๆ ภายในห้องไม่ได้ทำตัวสบายๆ แบบเธอ จ้องท้องฟ้าตาไม่กะพริบ

ผ่านไปแบบนี้หลายสิบนาที ในขณะที่อาจารย์จูกำลังเริ่มใจชื้นขึ้น เตรียมพูดประชดอีกรอบ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงฟ้าผ่าอันน่าตกใจ

“เปรี้ยง!”

มีแสงวาบที่ปลายขอบฟ้า เมฆครึ้มที่อยู่ไกลลอยคืบคลานเข้ามาใกล้ทีละนิด

แสงอาทิตย์ถูกเมฆครึ้มกลืนกินจนหมดในชั่วเวลานี้ ลมก็พัดแรงขึ้น ท้องฟ้ามืดจนน่ากลัว

ไม่มีคนสงสัยอีกต่อไปว่าสิ่งที่อิ๋งจื่อจินพูดเป็นเรื่องโกหก ใบหน้าของอาจารย์จูชาไปหมด นั่งตัวเกร็งอยู่บนเก้าอี้ บนหน้าผากมีเหงื่อผุด ปากสั่นฟันกระทบกันกึกๆ

เขารู้ว่าเส้นทางในสมาคมโหราศาสตร์ของเขามาถึงจุดจบแล้ว

ไม่มีอะไรทำให้คนเชื่อได้ง่ายไปกว่าการมีหลักฐานปรากฏตรงหน้า

ไม่ถึงหนึ่งวัน ข่าวที่เขาเป็นหมอดูกำมะลอก็จะถูกแพร่ออกไป และจะไม่มีใครมาให้เขาทำนายดวงอีก

บรรดาลูกค้าก็อึ้งกันอยู่สักพัก พอพวกเขาได้สติกำลังจะหันมาหาอิ๋งจื่อจิน เธอกับตี้อู่เย่ว์ก็ไปรับปี่เซียะหยกออกจากห้องไปแล้ว

“ดูเหมือนครั้งนี้ฝนจะตกหนักมาก” ตี้อู่เย่ว์มองท้องฟ้า

“พี่สาว พวกเราต้องรีบกลับไป”

ความหนาของเมฆระดับนี้ร่มคันเล็กที่เธอพกมาด้วยเอาไม่อยู่แน่

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า

เธอหลุบตาลง ลูบปี่เซียะหยกที่อยู่ในมือ กำหลวมๆ จากนั้นก็เดินออกด้านนอก

มีเสียงตะโกนเรียกเธอจากด้านหลัง

“ปรมาจารย์…ท่านปรมาจารย์หยุดก่อน!”

เจ้าของเสียงเป็นชายสูงวัย เขาวิ่งตามมา หายใจหอบ พูดอย่างนอบน้อม

“ท่านปรมาจารย์ โปรดหยุดก่อน ผมมีเรื่องอยากขอคำชี้แนะ”

เท้าของอิ๋งจื่อจินหยุดชะงัก หันหน้ามา สายตามองสำรวจชายสูงวัย

เธอแน่ใจได้ว่า นี่คือคนที่มีความสามารถในการทำนาย ไม่เหมือนอาจารย์จูที่เป็นนักต้มตุ๋น

ชายสูงวัยพูดจบก็เงยหน้า หันมองตี้อู่เย่ว์ที่อยู่ข้างๆ ตะลึงสุดขีด

“คุณหนูเย่ว์ก็อยู่ด้วยหรือ”

ตี้อู่เย่ว์งง “รู้จักหนูเหรอคะ”

“แน่นอนๆ” ชายสูงวัยยิ้ม “ถ้าตอนนั้นไม่ได้ผู้อาวุโสตี้อู่ช่วยชี้แนะในวันที่ผมถึงทางตัน ก็คงไม่มีผมในวันนี้ ผมเข้าวงการมาได้ก็เพราะผู้อาวุโสตี้อู่”

“คุณปู่ของหนูเหรอคะ” ตี้อู่เย่ว์ลูบคาง

“อ๋อๆ ดูเหมือนจะเคยได้ยินคุณปู่พูดถึง คุณลุงแซ่เซียวหรือเปล่าคะ”

“ใช่แล้วครับ” ชายสูงวัยพูด “ผมชื่อเซียวปั๋ว เป็นประธานของที่นี่ ขายหน้าท่านปรมาจารย์กับคุณหนูเย่ว์แล้ว นับแต่วันนี้เป็นต้นไป จูหย่งเซิงจะไม่มีทางปรากฏตัวที่สมาคมโหราศาสตร์อีก”

ขณะพูดเขาก็หันหน้าไป “ท่านปรมาจารย์ ผมขอเชิญมาอยู่ที่สมาคมโหราศาสตร์บ่อยๆ ได้ไหมครับ”

เขาไม่มีทางคิดว่าอิ๋งจื่อจินทำอะไรไม่เป็นเพราะอายุน้อย

กลับตรงกันข้ามด้วยซ้ำ

นักพยากรณ์ที่เก่งที่สุดกลับเป็นพวกคนหนุ่มสาว

เส้นทางการทำนายดวงชะตาไม่ได้วัดกันที่ศึกษาตำรามาเยอะเท่าไร แต่วัดกันที่พรสวรรค์

เซียวปั๋วก็เพิ่งจะรู้หลังจากที่เรียนกับตี้อู่ชวนมาระยะหนึ่ง

“ไม่สนใจค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “ไปแล้วนะคะ”

ตี้อู่เย่ว์รีบตามไป

คราวนี้เซียวปั๋วไม่ได้ตาม เขาเคาะหัวตัวเองแล้วถอนหายใจ

“ไม่รู้จักห้ามตัวเอง ปรมาจารย์ระดับนี้จะมาอยู่สมาคมโหราศาสตร์ได้อย่างไร”

คนที่มีความสามารถจริงๆ ในสมาคมโหราศาสตร์ ใช้มือเดียวก็พอนับ

เซียวปั๋วส่ายหน้า เอามือไพล่หลังเดินกลับไป

หนึ่งวันผ่านไป หัวข้อสนทนาเรื่องรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ก็ยังคงไม่ลดลง

นี่เป็นผลลัพธ์ที่เฉินหลีต้องการ ดึงดูดคนมาได้ได้หรือไม่ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือ ทำให้แฟนคลับของเยี่ยซียิ่งสามัคคีกันมากขึ้น

เยี่ยซีกลับไม่สบายใจ “พี่หลี มีหลายคนบอกว่ารูปนั้นคือเทพด้านการเรียนคนนั้น ถ้าเป็นจริง…”

“พี่ดูแล้ว อย่างมากก็แค่ด้านข้างคล้ายกัน สวมหน้ากากไว้ก็คล้ายกันทุกคนนั่นแหละ” เฉินหลีสังเกตรูปเปรียบเทียบอีกครั้ง สุดท้ายก็ส่ายหน้า

“ซีซี วางใจได้ เธอเครียดเกินไปแล้วนะ อีกอย่าง ชาวเน็ตก็พูดถูก เทพการเรียนจะมาเป็นผู้ช่วยได้อย่างไร”

คิดตามตรรกะคนปกติย่อมไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน

เฉินหลีก็ไปหาตารางเวลาของค่ายติวไอเอสซีมา เวลานี้พวกเด็กเทพกำลังติวกันอยู่

เยี่ยซีเม้มริมฝีปาก ในใจยังคงกระวนกระวาย

“ซีซี ไม่ต้องคิดมากแล้ว” เฉินหลีพูดอย่างมั่นใจ

“นี่ก็คือแผนที่ทางอวิ๋นเหอเย่ว์ใช้ อยากกลบเกลื่อนเรื่องนี้ มีนักข่าวไปที่ค่ายติวไอเอสซีแล้ว อีกเดี๋ยวคำโกหกของอวิ๋นเหอเย่ว์ก็จะถูกเปิดโปง”

ทางด้านค่ายติวไอเอสซี

เดิมทีพวกนักข่าวปาปารัซซี่มารออยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้ว

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าอยู่ๆ จะมีพายุฝนกระหน่ำลงมา ทำพวกเขาเปียกปอนไปหมด

ช่วยไม่ได้ พวกนักข่าวกับปาปารัซซี่จำต้องกลับไปเปลี่ยนชุดที่โรงแรม

เช้าวันต่อมา พวกเขาก็มากันอีกครั้ง อออยู่ตรงทางเข้าค่ายติว

เวลานี้จั่วหลีซื้อซาลาเปาเดินฮัมเพลงเข้าไปข้างใน แต่กลับถูกล้อมไว้

นักข่าวกับปาปารัซซี่เหล่านี้ไม่รู้จักจั่วหลี คิดว่าเขาอาจเป็นพนักงานคนหนึ่ง ครั้นแล้วจึงแห่กันเข้าไปรุมล้อม

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่านักเรียนอิ๋งจื่อจินอยู่ไหมครับ พวกเราอยากสัมภาษณ์เธอ”

“สวัสดีครับ ในเน็ตมีคอมเมนต์เกี่ยวกับเธออยู่ไม่น้อยไม่ทราบว่าคุณได้ดู…”

จั่วหลีถูกเบียดซาลาเปาเกือบแตก

ถูกยิงคำถามรัวๆ เขาโมโหจะบ้าตาย

ขณะที่กำลังจะพูด พอหันไปก็เห็นอิ๋งจื่อจินเดินมาทางนี้พอดี เขารู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที

เขาพบว่าบางครั้งเก่งไปก็ไม่ใช่เรื่องดี

โชคดีที่เขาไม่ได้บอกพวกตาแก่สาขาคอมพิวเตอร์ว่าอิ๋งจื่อจินก็เขียนพวกโปรแกรมเป็น ไม่อย่างนั้นได้มีคนมาแย่งตัวเพิ่มแน่

จั่วหลีส่ายมือ “เจ้าตัวมาแล้วครับ พวกคุณถามเอาเองแล้วกัน ดูว่าเธอจะสนใจพวกคุณไหม”

พอได้ยินแบบนี้บรรดานักข่าวกับปาปารัซซี่ก็สังเกตเห็นคนที่พวกเขามาหาแล้ว

วันนี้อิ๋งจื่อจินไม่ได้สวมผ้าปิดปาก แต่ใช้ผ้าพันคอบังไว้ครึ่งหน้า

เธอเพิ่งเดินถึงประตูค่ายติวก็ถูกกลุ่มคนรุมล้อมไว้

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า ดวงตาหงส์หรี่ลงเล็กน้อย

มีนักข่าวคนหนึ่งยื่นไมโครโฟนให้ก่อน สีหน้าตื่นเต้น

“นักเรียนอิ๋ง ไม่ทราบว่าที่ในเน็ตบอกว่าผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์คือคุณเป็นเรื่องจริงไหม ถ้าไม่ใช่ก็บอกมาได้เลย พวกเราจะช่วยยืนยันความบริสุทธิ์ให้ รับรองชื่อเสียง”

กล้องที่อยู่ด้านหลังจับภาพ นี่คือการถ่ายทอดสด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+