คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 394 ถ่ายทอดสดทั่วโลก ตระกูลอิ๋งงานเข้า

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 394 ถ่ายทอดสดทั่วโลก ตระกูลอิ๋งงานเข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 394 ถ่ายทอดสดทั่วโลก ตระกูลอิ๋งงานเข้า

“หืม?” ฟู่อวิ๋นเซินค่อยๆ ยืดตัวขึ้น สายตาขยับเล็กน้อย “มันเรื่องอะไร”

“ถึงแม้เรื่องจะผ่านมานานมากแล้ว ตอนนั้นอินเตอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย ร่องรอยส่วนมากถูกลบทิ้ง แต่ก็ยังคงสืบได้อะไรมาบ้าง” อวิ๋นซานหยิบรูปถ่ายออกมาปึกหนึ่ง “เดิมทีจิ่งหงเจินแม่แท้ๆ ของอิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นคู่หมั้นของอิ๋งเจิ้นถิง แต่ตอนนั้นตระกูลจิ่งตกอับ คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็เลยขัดขวางการแต่งงานครั้งนี้”

“ตอนนั้นตระกูลจงมาขอเกี่ยวดองพอดี จงมั่นหวาก็มีใจให้อิ๋งเจิ้นถิง คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งเลยจัดการให้สองคนนี้แต่งงานกันครับ”

“เพื่อป้องกันไม่ให้จิ่งหงเจินมาตามตื๊อ คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็เลยให้จิ่งหงเจินห้าล้านเพื่อให้ออกไปอยู่เมืองนอกครับ”

อวิ๋นซานชี้รูปถ่ายแล้วพูดต่อ “แต่บังเอิญมาก เมื่อสิบเก้าปีก่อนหลังจากที่อิ๋งเจิ้นถิงไปทำงานที่เมืองนอกก็ได้เจอกับจิ่งหงเจินอีกครั้งโดยบังเอิญ พวกเขาสองคนก็เลยมีการติดต่อกันอีกครั้ง”

“ต่อมาอิ๋งเย่ว์เซวียนก็เกิด วันเกิดของเธอที่แท้จริงควรเป็นวันที่ยี่สิบเก้ามิถุนายนปีสองพันสอง”

“รถของคุณชายอิ๋งในครั้งนี้เป็นฝีมือของจิ่งหงเจินครับ”

“น่าสนใจ” ฟู่อวิ๋นเซินพูด “เก็บไว้ให้ดี ไว้หาเวลาส่งให้ตระกูลอิ๋ง”

“ครับ ผมจะไปจัดการ” อวิ๋นซานพยักหน้า ยังแอบสะใจ “ไม่รู้ว่าถ้าคุณนายอิ๋งรู้เข้าจะเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งไหมนะครับ”

“ยังไม่ต้องตอนนี้” นิ้วของฟู่อวิ๋นเซินเคาะโต๊ะเบาๆ “ให้เยาเยาสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้เสร็จก่อน อย่าเอาเรื่องไร้สาระมากวนใจเธอ”

ไว้อิ๋งจื่อจินจบมัธยมปลายเมื่อไร พวกเขาก็จะไปจากฮู่เฉิงแล้ว

เมืองตี้ตูใช่ว่าตระกูลอิ๋งอยากเข้าก็เข้าได้

อวิ๋นซานคิดแล้วก็เห็นด้วย

ไม่อย่างนั้นจงมั่นหวาได้มาเกาะแกะคุณอิ๋งไม่ยอมปล่อยอีก

อวิ๋นซานเก็บรูปถ่ายแล้วออกไป

พักฟื้นอยู่ครึ่งเดือนอิ๋งเทียนลี่ว์ก็ลงมาเดินได้แล้ว

หลังจากที่เขาแน่ใจว่าร่างกายไม่เป็นอะไรแล้วก็หยิบเบอร์โทรศัพท์ที่เหวินเหรินซานให้ไว้ตอนนั้นออกมากดโทร

“อาจารย์เหวินเหรินครับ ขอบคุณอาจารย์มากจริงๆ ครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์พูด “เป็นอย่างที่อาจารย์ว่าจริงๆ ครับ ผมเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง ถ้าไม่ได้เครื่องรางของอาจารย์ช่วยไว้ เกรงว่าผมคงไม่รอดมาคุยกับอาจารย์แล้วครับ”

เหวินเหรินซานเงียบไปชั่วขณะ น้ำเสียงเคร่งขรึม “คุณอิ๋งครับ ข้างกายคุณมีคนระดับปรมาจารย์หรือเปล่าครับ”

อิ๋งเทียนลี่ว์อึ้ง “ข้างกายผมเหรอครับ”

“คุณอิ๋งอาจไม่รู้” เหวินเหรินซานพูดต่อ “ด้วยความสามารถของผม ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้คุณพ้นเคราะห์ครั้งนี้ได้”

“คุณจะต้องเจอคนที่เก่งกว่าผมแล้วแน่นอนครับ ไม่อย่างนั้นลำพังแค่เทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่มีทางที่จะทำให้คุณรอดมาได้แน่”

อิ๋งเทียนลี่ว์เงียบไปชั่วครู่ “ขอโทษด้วยครับอาจารย์เหวินเหริน ผมไม่เข้าใจที่อาจารย์พูดมาจริงๆ แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ”

พอจบการสนทนาเขาก็กดจองตั๋วเครื่องบินไปยุโรป

เมื่อสามวันก่อนผู้เฒ่าจงบินไปยุโรปพร้อมอิ๋งจื่อจินแล้ว

เดิมทีเขาก็อยากตามไปด้วย แต่ติดตรงที่ต้องพักฟื้นต่ออีกหน่อย

วันที่สิบห้าพฤษภาคมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะเปิดฉากอย่างเป็นทางการ

พอถึงตอนนั้นจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก

อิ๋งเทียนลี่ว์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ดูนาฬิกาแล้วเดินออกไป

ไม่ว่าเรื่องไหนก็ไม่สำคัญเท่าน้องสาวของเขา

ในเวลาเดียวกัน

เมืองตี้ตู

สมาคมโหราศาสตร์

หลังจากที่เหวินเหรินซานคุยโทรศัพท์กับอิ๋งเทียนลี่ว์เสร็จก็รีบไปหาเซียวปั๋วประธานสมาคม

พอเซียวปั๋วฟังเขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดจบก็ตกใจ “จริงเหรอ”

“ท่านประธาน จริงแท้แน่นอนครับ” เหวินเหรินซานพูด “ตามที่ผมคำนวณวัน คุณอิ๋งคนนั้นจะเกิดเรื่องขึ้นในเดือนนี้ แต่นี่เกิดจบไปแล้วในเดือนเมษา เขายังมีชีวิตอยู่ และก็ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย”

วันที่อิ๋งเทียนลี่ว์เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นวันที่ยี่สิบเมษายน

วันนี้เป็นวันที่ห้าพฤษภาคมแล้ว

สีหน้าของเซียวปั๋วเริ่มขรึมลง เขาพูดพึมพำ “หรือว่า นอกจากผู้อาวุโสตี้อู่แล้ว ยังมีปรมาจารย์คนอื่นอีกที่เปลี่ยนดวงชะตาได้”

ทำนายดวงชะตากับเปลี่ยนดวงชะตามันคนละเรื่องกัน

ทำนายดวงชะตาเป็นเพียงการคำนวณตามพื้นฐานดวงแล้วเขียนออกมา

แต่การเปลี่ยนดวงชะตาคือการเปลี่ยนดวงชีวิตของคนคนหนึ่ง

อย่างพวกเขาทำนายดวงชะตาได้

แต่ในเรื่องเปลี่ยนดวงชะตา อย่างมากสุดก็ได้แค่ช่วยคนจนหาเงินได้มากขึ้น หรือทำให้ดาราชั้นปลายแถวโด่งดังได้สำเร็จ

แต่เมื่อเจอกับเคราะห์กรรมที่ถึงฆาตแบบนี้ นั่นเป็นไปไม่ได้

หลายปีมานี้บุคคลเพียงคนเดียวที่เปลี่ยนแปลงดวงชะตาได้ที่เซียวปั๋วเคยเจอก็มีแค่ตี้อู่ชวนนายใหญ่ตระกูลตี้อู่

แต่ก็ต้องรับเคราะห์ไปเช่นเดียวกัน สุขภาพของตี้อู่ชวนย่ำแย่ถึงขั้นสุด ก็แค่ยังมีลมหายใจ แต่เรี่ยวแรงแทบไม่เหลือแล้ว

ร่างกายที่แย่ลงเพราะเปลี่ยนแปลงดวงชะตาแตกต่างกับการเจ็บป่วยอย่างสิ้นเชิง

“ท่านประธาน ให้ลองสืบหาคนข้างกายเขาไหมครับ” เหวินเหรินซานลังเล “ช่วยเปลี่ยนแปลงชะตาให้เขาได้จะต้องเป็นคนที่ใส่ใจเขามากแน่นอนครับ”

เปลี่ยนแปลงดวงชะตาก็ต้องแลกด้วยบางอย่าง หากไม่ใช่คนร่วมสายเลือด ใครจะอยากช่วยคนอื่นเปลี่ยนแปลงดวงชะตากัน

“ไม่ต้อง” เซียวปั๋วส่ายมือ “นายคิดมากแล้ว ปรมาจารย์ระดับนี้ ถ้าจะเปลี่ยนแปลงดวงชะตาให้ก็แอบทำอย่างเงียบๆ ทั้งนั้น ไปสืบก็ไม่เจอหรอก”

เหวินเหรินซานถอนหายใจ “ก็จริงครับ”

“ฉันจะไปหาผู้อาวุโสตี้อู่หน่อย” เซียวปั๋วพยักหน้า “นายช่วยดูเรื่องในสมาคมไปก่อน”

เหวินเหรินซานพยักหน้าแล้วเดินออกไปส่งเซียวปั๋ว

อีกด้านหนึ่ง

ยุโรป

อิ๋งจื่อจินเป็นผู้เข้าแข่งขันจากประเทศจีนกลุ่มแรกที่ไปถึง

เป็นเหมือนกับประเทศจีน ประเทศอื่นก็ส่งผู้เข้าแข่งขันที่ได้โควตาไปก่อน

ส่วนผู้เข้าแข่งขันที่มาจากรอบคัดเลือกจะมาที่สนามแข่งขันพร้อมกันในวันที่สิบ

รอบชิงชนะเลิศของไอเอสซีถูกจัดขึ้นในเมืองมหาวิทยาลัยของยุโรป

เมืองมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นเมืองอย่างแท้จริง มีขนาดพื้นที่หนึ่งพันหกร้อยล้านตารางเมตร

มหาวิทยาลัยสองในสามอันดับแรกของโลกได้ตั้งอยู่ที่นี่ ยกเว้นมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

รวมถึงห้องปฏิบัติการชั้นแนวหน้าของโลกหลายแห่ง

ทั่วทั้งโลกต่างให้ความสำคัญกับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของไอเอสซี ไม่เพียงแต่จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก หอพักที่เตรียมไว้ให้ผู้เข้าแข่งขันก็เป็นหอพักที่ดีที่สุดด้วยเช่นกัน

อาหารสามมื้อก็เชิญเชฟจากร้านมิชลินสามดาวมาทำให้ด้วยตัวเอง

เถิงอวิ้นเมิ่งไม่ชินกับอาหารตะวันตก จึงสั่งข้าวหน้าเนื้อซุปทองไปนั่งกินกับอิ๋งจื่อจินในโรงอาหาร

คนจีนน้อยมาก พอมองไปก็เห็นแต่ชาวต่างชาติหรือไม่ก็ใบหน้าลูกครึ่ง

โต๊ะข้างๆ มีนักเรียนสิบกว่าคน พวกเขาคุยกันอยู่

“น่าเสียดายจัง อันดับหนึ่งของชาร์ตรวมที่ดูลึกลับนั่นไม่ได้มา” นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้น “ได้ยินว่าทางคณะกรรมการถึงกับเชิญด้วยตัวเองทางออนไลน์ไป แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ”

“ไม่น่ามั้ง ถึงจะไม่โชว์ชื่อจริง แต่นั่นมันก็แค่สำหรับคนภายนอก ทางคณะกรรมการจะไม่รู้เลยเหรอว่าใครเป็นคนตอบโจทย์”

“เรื่องนี้ฉันก็ได้ยินมา ทางคณะกรรมการก็ไม่เห็นจริงๆ เพราะถูกเพิ่มการป้องกันไว้ คิดดูสิ อันดับหนึ่งของชาร์ตรวม ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์จะแย่ได้เหรอ”

“เก่งขนาดนี้ ถ้าอยู่ในสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามก็คงตำแหน่งประธานใหญ่เลยหรือเปล่า ดีแล้วที่ไม่มา ไม่อย่างนั้นพวกเราคงถูกเชือด”

พอได้ยินแบบนี้นักเรียนอีกคนก็หัวเราะ “คิดมากเกินไปแล้ว มีไอริน่าอยู่ ใครมาก็ไม่มีประโยชน์”

ปีนี้ไอริน่าเพิ่งจะอายุสิบเจ็ดปีก็กลายเป็นนักวิจัยของห้องปฏิบัติการชั้นแนวหน้าแล้ว

ความรู้ของเธอ แม้แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็ยังต้องยอมให้

เด็กเทพอย่างเธอใช่ว่าใครจะมาเทียบได้

มีนักเรียนอีกคนพูดขึ้น “ฉันว่าอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมน่าจะกลัวคำท้าที่ไอริน่าส่งไปล่ะไม่ว่า ถึงได้ไม่มา ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวถึงเวลาได้ทำประเทศจีนขายหน้าแย่”

นักเรียนเหล่านี้เป็นนักเรียนของโรงเรียนเอลาน ใช้ภาษาแม่คุยกัน

ภาษาอังกฤษของเถิงอวิ้นเมิ่งดีมาก ย่อมฟังเข้าใจ

เธอขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยพอใจ “ไอริน่าเก่งขนาดนั้นจริงเหรอ”

“น่าจะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “ไม่เคยเจอ ไม่รู้ความสามารถที่แท้จริงเหมือนกัน”

นับตั้งแต่เริ่มการแข่งขันไอเอสซี จั่วหลีก็เน้นย้ำกับเธอบ่อยครั้งว่าให้ระวังไอริน่า

และก็เพราะไอริน่ากลับมาเป็นปกติได้เพราะการสะกดจิต อวี้เสวี่ยเซิงถึงได้บอกว่า พอถึงวันแข่งขันรอบตัดสินเขาจะมาด้วยตัวเองเพื่อดูว่ามันเรื่องอะไรกันแน่

“จื่อจิน เธอว่าอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมมาเข้าร่วมแข่งขันจะเพราะเงินรางวัลหรือเปล่า” ทันใดนั้นเถิงอวิ้นเมิ่งก็นึกถึงความเป็นไปได้อยู่อย่าง “ไม่อย่างนั้นทำไมจงใจปกปิดตัวตนล่ะ”

ยังดีกว่าพวกนักเรียนโรงเรียนเอลาน อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ว่าอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมเป็นเจ้าของช่องในแอปฉลามไลฟ์สด

อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น พูดอย่างใจเย็น “แววตาเฉียบคมมาก”

เถิงอวิ้นเมิ่ง “?”

“พรุ่งนี้อาจารย์ของที่นี่จะพาพวกเราไปชมห้องทดลองของพวกเขา” เถิงอวิ้นเมิ่งถอนหายใจ “ฉันไม่อยากอยู่กับนักเรียนพวกนั้นเลยจริงๆ ดูซิพวกเขาดูถูกพวกเราจะตาย”

อิ๋งจื่อจินกลับไม่แคร์เรื่องพวกนี้ เธอเช็ดมือ “ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวก็ได้รู้ในสนามแข่ง”

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้

อิ๋งจื่อจินก้มมองแล้วกดดู

ข้อความจากเกอร์เวน ส่งมาเป็นภาษาจีน

[อิ๋ง ได้ยินว่ามาถึงยุโรปแล้ว แถมยังอยู่ในเมืองมหาวิทยาลัยด้วย ไม่เจอกันนานแล้วตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่จากกัน มีเวลามาที่ห้องทดลองของผมหน่อยไหม]

เกอร์เวนหลงใหลในวัฒนธรรมจีนมาก

ครั้งนั้นหลังจากที่เขากลับจากประเทศจีนก็เริ่มเรียนภาษาจีน พอเจอปัญหาอะไรก็จะมาถามเธอ

อิ๋งจื่อจินคำนวณเวลาแล้วตอบกลับ

[ได้ค่ะ พรุ่งนี้ไปได้]

เกอร์เวนตอบกลับอย่างรวดเร็ว

[งั้นไว้ถึงเวลาผมให้คนไปรับ]

หนึ่งนาทีต่อมาเกอร์เวนก็ส่งมาอีกหนึ่งข้อความ

[ทางห้องทดลองอนุมัติคุณเป็นนักวิจัยแล้ว ถึงแม้คุณบอกว่าถ้าเรียนจบอาจจะมา แต่มีตำแหน่งไว้ก็สะดวกหน่อย พอถึงเวลาคุณจะดึงข้อมูลไปอ่านได้มากมาย]

แววตาของอิ๋งจื่อจินหยุดนิ่ง

นี่แหละคือสิ่งที่เธอต้องการ

[ขอบคุณค่ะศาสตราจารย์]

เธอส่งข้อความหาเกอร์เวนเสร็จก็ยืนขึ้น “ไปเถอะ”

เถิงอวิ้นเมิ่งเก็บจานแล้วเดินตามออกไป

เวลาบ่าย

ทางด้านฮู่เฉิง

ณ คฤหาสน์ตระกูลอิ๋ง

จงมั่นหวากับอิ๋งเจิ้นถิงช่วยอิ๋งเย่ว์เซวียนเก็บสัมภาระ เตรียมส่งเธอไปยุโรป เที่ยวเล่นที่นั่นก่อนสองวันค่อยไปเมืองมหาวิทยาลัย

“เสี่ยวเซวียน ไม่ต้องกดดันนะลูก” จงมั่นหวาปิดกระเป๋าเดินทาง “ลูกเก่งมากแล้ว ถ้าไม่ได้รางวัลจริงๆ แม่ก็ดีใจมากแล้ว”

อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก “ขอบคุณค่ะแม่”

นับตั้งแต่เธอรู้ว่าตัวเองเป็นลูกนอกสมรสก็กังวลใจมาตลอด

แต่ว่าผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าแล้วจงมั่นหวาก็ยังไม่รู้ เธอก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาบ้าง

“แม่พูดถูก” อิ๋งเจิ้นถิงมีรอยยิ้มแบบที่เห็นได้ยาก “พอลูกแข่งเสร็จยังต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีก ลูกต้องเตรียมใจให้พร้อม”

อิ๋งเย่ว์เซวียนมองอิ๋งเจิ้นถิงด้วยอารมณ์สับสน

ทั้งสามคนขนสัมภาระเตรียมออกไปขึ้นรถ

ทันใดนั้นประตูบ้านกลับถูกกระแทกออกในเวลานี้

มีคนโผล่เข้ามาสิบกว่าคน แต่งตัวชุดดำ รูปร่างสูงใหญ่ บุคลิกเอาเรื่อง

ไม่ว่าจะอิ๋งเจิ้นถิงหรือจงมั่นหวาต่างไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ พากันตะลึงไปชั่วขณะ

ผู้ชายที่เดินนำมาไม่ได้มองพวกเขา ชี้ไปที่อิ๋งเย่ว์เซวียนแล้วพูดกับคนด้านหลัง “คนนั้นแหละ เอาตัวไป”

ลูกน้องสองคนเดินเข้าไปจับตัวอิ๋งเย่ว์เซวียน ไม่มีการทะนุถนอมแม้แต่น้อย ลากเธอออกไป

“พะ…พวกแกเป็นใคร” จงมั่นหวาสีหน้าเปลี่ยนอย่างรุนแรง “ทำไมต้องจับลูกสาวฉัน พวกแกกล้าบุกรุกบ้านคนอื่นเลยเหรอ!”

คนรับใช้ในบ้านล่ะ พวกเขาไม่ได้ยินเสียงเอะอะกันเลยเหรอ

อิ๋งเย่ว์เซวียนลนลาน ขอบตาแดงก่ำ

เธอระมัดระวังตัวเองมาตลอด

หลังจากที่ถูกเปิดโปงว่าเป็นคุณหนูตัวปลอม ช่วงหลายสิบกว่าวันนี้เธอก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวลงไปมาก อย่าว่าแต่ให้ไปปรากฏตัวต่อหน้าอิ๋งจื่อจินเลย ขนาดแค่เดินธรรมดาเธอยังเดินหลบ

อิ๋งเจิ้นถิงโมโหมาก “ปล่อยนะ!”

เขาเข้าไปดึงตัวอิ๋งเย่ว์เซวียนกลับมา

ทว่าหนึ่งในลูกน้องแค่หันมามองเขาแล้วถีบไปหนึ่งที

อิ๋งเจิ้นถิงถูกถีบกระเด็นไปไกลสิบกว่าเมตร กระอักเลือดพุ่ง

จงมั่นหวาหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม

“ไม่ทำไมหรอก” ชายชุดดำเอามือไพล่หลัง ยิ้มเล็กน้อย “ลูกสาวแกน่ะ เกิดวันที่ยี่สิบสี่มีนาคม แถมยังเป็นเวลาตีหนึ่ง หนึ่งนาที หนึ่งวินาที เอาแค่เรื่องนี้พวกเราก็ต้องเอาตัวเธอไปแล้ว”

“มะ…ไม่ใช่ เธอไม่ได้เกิดวันที่ยี่สิบสี่มีนาคม!” จงมั่นหวาไม่เข้าใจคำพูดของอีกฝ่าย แต่เธอก็หลุดปากพูดออกไป “เธอไม่ได้เกิดวันนั้น!”

ชายชุดดำได้ยินแบบนี้ก็หยุด มองด้วยสายตาเย็นชา “ไม่ใช่เหรอ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 394 ถ่ายทอดสดทั่วโลก ตระกูลอิ๋งงานเข้า

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 394 ถ่ายทอดสดทั่วโลก ตระกูลอิ๋งงานเข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 394 ถ่ายทอดสดทั่วโลก ตระกูลอิ๋งงานเข้า

“หืม?” ฟู่อวิ๋นเซินค่อยๆ ยืดตัวขึ้น สายตาขยับเล็กน้อย “มันเรื่องอะไร”

“ถึงแม้เรื่องจะผ่านมานานมากแล้ว ตอนนั้นอินเตอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย ร่องรอยส่วนมากถูกลบทิ้ง แต่ก็ยังคงสืบได้อะไรมาบ้าง” อวิ๋นซานหยิบรูปถ่ายออกมาปึกหนึ่ง “เดิมทีจิ่งหงเจินแม่แท้ๆ ของอิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นคู่หมั้นของอิ๋งเจิ้นถิง แต่ตอนนั้นตระกูลจิ่งตกอับ คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็เลยขัดขวางการแต่งงานครั้งนี้”

“ตอนนั้นตระกูลจงมาขอเกี่ยวดองพอดี จงมั่นหวาก็มีใจให้อิ๋งเจิ้นถิง คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งเลยจัดการให้สองคนนี้แต่งงานกันครับ”

“เพื่อป้องกันไม่ให้จิ่งหงเจินมาตามตื๊อ คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็เลยให้จิ่งหงเจินห้าล้านเพื่อให้ออกไปอยู่เมืองนอกครับ”

อวิ๋นซานชี้รูปถ่ายแล้วพูดต่อ “แต่บังเอิญมาก เมื่อสิบเก้าปีก่อนหลังจากที่อิ๋งเจิ้นถิงไปทำงานที่เมืองนอกก็ได้เจอกับจิ่งหงเจินอีกครั้งโดยบังเอิญ พวกเขาสองคนก็เลยมีการติดต่อกันอีกครั้ง”

“ต่อมาอิ๋งเย่ว์เซวียนก็เกิด วันเกิดของเธอที่แท้จริงควรเป็นวันที่ยี่สิบเก้ามิถุนายนปีสองพันสอง”

“รถของคุณชายอิ๋งในครั้งนี้เป็นฝีมือของจิ่งหงเจินครับ”

“น่าสนใจ” ฟู่อวิ๋นเซินพูด “เก็บไว้ให้ดี ไว้หาเวลาส่งให้ตระกูลอิ๋ง”

“ครับ ผมจะไปจัดการ” อวิ๋นซานพยักหน้า ยังแอบสะใจ “ไม่รู้ว่าถ้าคุณนายอิ๋งรู้เข้าจะเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งไหมนะครับ”

“ยังไม่ต้องตอนนี้” นิ้วของฟู่อวิ๋นเซินเคาะโต๊ะเบาๆ “ให้เยาเยาสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้เสร็จก่อน อย่าเอาเรื่องไร้สาระมากวนใจเธอ”

ไว้อิ๋งจื่อจินจบมัธยมปลายเมื่อไร พวกเขาก็จะไปจากฮู่เฉิงแล้ว

เมืองตี้ตูใช่ว่าตระกูลอิ๋งอยากเข้าก็เข้าได้

อวิ๋นซานคิดแล้วก็เห็นด้วย

ไม่อย่างนั้นจงมั่นหวาได้มาเกาะแกะคุณอิ๋งไม่ยอมปล่อยอีก

อวิ๋นซานเก็บรูปถ่ายแล้วออกไป

พักฟื้นอยู่ครึ่งเดือนอิ๋งเทียนลี่ว์ก็ลงมาเดินได้แล้ว

หลังจากที่เขาแน่ใจว่าร่างกายไม่เป็นอะไรแล้วก็หยิบเบอร์โทรศัพท์ที่เหวินเหรินซานให้ไว้ตอนนั้นออกมากดโทร

“อาจารย์เหวินเหรินครับ ขอบคุณอาจารย์มากจริงๆ ครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์พูด “เป็นอย่างที่อาจารย์ว่าจริงๆ ครับ ผมเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง ถ้าไม่ได้เครื่องรางของอาจารย์ช่วยไว้ เกรงว่าผมคงไม่รอดมาคุยกับอาจารย์แล้วครับ”

เหวินเหรินซานเงียบไปชั่วขณะ น้ำเสียงเคร่งขรึม “คุณอิ๋งครับ ข้างกายคุณมีคนระดับปรมาจารย์หรือเปล่าครับ”

อิ๋งเทียนลี่ว์อึ้ง “ข้างกายผมเหรอครับ”

“คุณอิ๋งอาจไม่รู้” เหวินเหรินซานพูดต่อ “ด้วยความสามารถของผม ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้คุณพ้นเคราะห์ครั้งนี้ได้”

“คุณจะต้องเจอคนที่เก่งกว่าผมแล้วแน่นอนครับ ไม่อย่างนั้นลำพังแค่เทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่มีทางที่จะทำให้คุณรอดมาได้แน่”

อิ๋งเทียนลี่ว์เงียบไปชั่วครู่ “ขอโทษด้วยครับอาจารย์เหวินเหริน ผมไม่เข้าใจที่อาจารย์พูดมาจริงๆ แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ”

พอจบการสนทนาเขาก็กดจองตั๋วเครื่องบินไปยุโรป

เมื่อสามวันก่อนผู้เฒ่าจงบินไปยุโรปพร้อมอิ๋งจื่อจินแล้ว

เดิมทีเขาก็อยากตามไปด้วย แต่ติดตรงที่ต้องพักฟื้นต่ออีกหน่อย

วันที่สิบห้าพฤษภาคมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะเปิดฉากอย่างเป็นทางการ

พอถึงตอนนั้นจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก

อิ๋งเทียนลี่ว์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ดูนาฬิกาแล้วเดินออกไป

ไม่ว่าเรื่องไหนก็ไม่สำคัญเท่าน้องสาวของเขา

ในเวลาเดียวกัน

เมืองตี้ตู

สมาคมโหราศาสตร์

หลังจากที่เหวินเหรินซานคุยโทรศัพท์กับอิ๋งเทียนลี่ว์เสร็จก็รีบไปหาเซียวปั๋วประธานสมาคม

พอเซียวปั๋วฟังเขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดจบก็ตกใจ “จริงเหรอ”

“ท่านประธาน จริงแท้แน่นอนครับ” เหวินเหรินซานพูด “ตามที่ผมคำนวณวัน คุณอิ๋งคนนั้นจะเกิดเรื่องขึ้นในเดือนนี้ แต่นี่เกิดจบไปแล้วในเดือนเมษา เขายังมีชีวิตอยู่ และก็ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย”

วันที่อิ๋งเทียนลี่ว์เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นวันที่ยี่สิบเมษายน

วันนี้เป็นวันที่ห้าพฤษภาคมแล้ว

สีหน้าของเซียวปั๋วเริ่มขรึมลง เขาพูดพึมพำ “หรือว่า นอกจากผู้อาวุโสตี้อู่แล้ว ยังมีปรมาจารย์คนอื่นอีกที่เปลี่ยนดวงชะตาได้”

ทำนายดวงชะตากับเปลี่ยนดวงชะตามันคนละเรื่องกัน

ทำนายดวงชะตาเป็นเพียงการคำนวณตามพื้นฐานดวงแล้วเขียนออกมา

แต่การเปลี่ยนดวงชะตาคือการเปลี่ยนดวงชีวิตของคนคนหนึ่ง

อย่างพวกเขาทำนายดวงชะตาได้

แต่ในเรื่องเปลี่ยนดวงชะตา อย่างมากสุดก็ได้แค่ช่วยคนจนหาเงินได้มากขึ้น หรือทำให้ดาราชั้นปลายแถวโด่งดังได้สำเร็จ

แต่เมื่อเจอกับเคราะห์กรรมที่ถึงฆาตแบบนี้ นั่นเป็นไปไม่ได้

หลายปีมานี้บุคคลเพียงคนเดียวที่เปลี่ยนแปลงดวงชะตาได้ที่เซียวปั๋วเคยเจอก็มีแค่ตี้อู่ชวนนายใหญ่ตระกูลตี้อู่

แต่ก็ต้องรับเคราะห์ไปเช่นเดียวกัน สุขภาพของตี้อู่ชวนย่ำแย่ถึงขั้นสุด ก็แค่ยังมีลมหายใจ แต่เรี่ยวแรงแทบไม่เหลือแล้ว

ร่างกายที่แย่ลงเพราะเปลี่ยนแปลงดวงชะตาแตกต่างกับการเจ็บป่วยอย่างสิ้นเชิง

“ท่านประธาน ให้ลองสืบหาคนข้างกายเขาไหมครับ” เหวินเหรินซานลังเล “ช่วยเปลี่ยนแปลงชะตาให้เขาได้จะต้องเป็นคนที่ใส่ใจเขามากแน่นอนครับ”

เปลี่ยนแปลงดวงชะตาก็ต้องแลกด้วยบางอย่าง หากไม่ใช่คนร่วมสายเลือด ใครจะอยากช่วยคนอื่นเปลี่ยนแปลงดวงชะตากัน

“ไม่ต้อง” เซียวปั๋วส่ายมือ “นายคิดมากแล้ว ปรมาจารย์ระดับนี้ ถ้าจะเปลี่ยนแปลงดวงชะตาให้ก็แอบทำอย่างเงียบๆ ทั้งนั้น ไปสืบก็ไม่เจอหรอก”

เหวินเหรินซานถอนหายใจ “ก็จริงครับ”

“ฉันจะไปหาผู้อาวุโสตี้อู่หน่อย” เซียวปั๋วพยักหน้า “นายช่วยดูเรื่องในสมาคมไปก่อน”

เหวินเหรินซานพยักหน้าแล้วเดินออกไปส่งเซียวปั๋ว

อีกด้านหนึ่ง

ยุโรป

อิ๋งจื่อจินเป็นผู้เข้าแข่งขันจากประเทศจีนกลุ่มแรกที่ไปถึง

เป็นเหมือนกับประเทศจีน ประเทศอื่นก็ส่งผู้เข้าแข่งขันที่ได้โควตาไปก่อน

ส่วนผู้เข้าแข่งขันที่มาจากรอบคัดเลือกจะมาที่สนามแข่งขันพร้อมกันในวันที่สิบ

รอบชิงชนะเลิศของไอเอสซีถูกจัดขึ้นในเมืองมหาวิทยาลัยของยุโรป

เมืองมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นเมืองอย่างแท้จริง มีขนาดพื้นที่หนึ่งพันหกร้อยล้านตารางเมตร

มหาวิทยาลัยสองในสามอันดับแรกของโลกได้ตั้งอยู่ที่นี่ ยกเว้นมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

รวมถึงห้องปฏิบัติการชั้นแนวหน้าของโลกหลายแห่ง

ทั่วทั้งโลกต่างให้ความสำคัญกับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของไอเอสซี ไม่เพียงแต่จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก หอพักที่เตรียมไว้ให้ผู้เข้าแข่งขันก็เป็นหอพักที่ดีที่สุดด้วยเช่นกัน

อาหารสามมื้อก็เชิญเชฟจากร้านมิชลินสามดาวมาทำให้ด้วยตัวเอง

เถิงอวิ้นเมิ่งไม่ชินกับอาหารตะวันตก จึงสั่งข้าวหน้าเนื้อซุปทองไปนั่งกินกับอิ๋งจื่อจินในโรงอาหาร

คนจีนน้อยมาก พอมองไปก็เห็นแต่ชาวต่างชาติหรือไม่ก็ใบหน้าลูกครึ่ง

โต๊ะข้างๆ มีนักเรียนสิบกว่าคน พวกเขาคุยกันอยู่

“น่าเสียดายจัง อันดับหนึ่งของชาร์ตรวมที่ดูลึกลับนั่นไม่ได้มา” นักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้น “ได้ยินว่าทางคณะกรรมการถึงกับเชิญด้วยตัวเองทางออนไลน์ไป แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ”

“ไม่น่ามั้ง ถึงจะไม่โชว์ชื่อจริง แต่นั่นมันก็แค่สำหรับคนภายนอก ทางคณะกรรมการจะไม่รู้เลยเหรอว่าใครเป็นคนตอบโจทย์”

“เรื่องนี้ฉันก็ได้ยินมา ทางคณะกรรมการก็ไม่เห็นจริงๆ เพราะถูกเพิ่มการป้องกันไว้ คิดดูสิ อันดับหนึ่งของชาร์ตรวม ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์จะแย่ได้เหรอ”

“เก่งขนาดนี้ ถ้าอยู่ในสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามก็คงตำแหน่งประธานใหญ่เลยหรือเปล่า ดีแล้วที่ไม่มา ไม่อย่างนั้นพวกเราคงถูกเชือด”

พอได้ยินแบบนี้นักเรียนอีกคนก็หัวเราะ “คิดมากเกินไปแล้ว มีไอริน่าอยู่ ใครมาก็ไม่มีประโยชน์”

ปีนี้ไอริน่าเพิ่งจะอายุสิบเจ็ดปีก็กลายเป็นนักวิจัยของห้องปฏิบัติการชั้นแนวหน้าแล้ว

ความรู้ของเธอ แม้แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็ยังต้องยอมให้

เด็กเทพอย่างเธอใช่ว่าใครจะมาเทียบได้

มีนักเรียนอีกคนพูดขึ้น “ฉันว่าอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมน่าจะกลัวคำท้าที่ไอริน่าส่งไปล่ะไม่ว่า ถึงได้ไม่มา ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวถึงเวลาได้ทำประเทศจีนขายหน้าแย่”

นักเรียนเหล่านี้เป็นนักเรียนของโรงเรียนเอลาน ใช้ภาษาแม่คุยกัน

ภาษาอังกฤษของเถิงอวิ้นเมิ่งดีมาก ย่อมฟังเข้าใจ

เธอขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ค่อยพอใจ “ไอริน่าเก่งขนาดนั้นจริงเหรอ”

“น่าจะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “ไม่เคยเจอ ไม่รู้ความสามารถที่แท้จริงเหมือนกัน”

นับตั้งแต่เริ่มการแข่งขันไอเอสซี จั่วหลีก็เน้นย้ำกับเธอบ่อยครั้งว่าให้ระวังไอริน่า

และก็เพราะไอริน่ากลับมาเป็นปกติได้เพราะการสะกดจิต อวี้เสวี่ยเซิงถึงได้บอกว่า พอถึงวันแข่งขันรอบตัดสินเขาจะมาด้วยตัวเองเพื่อดูว่ามันเรื่องอะไรกันแน่

“จื่อจิน เธอว่าอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมมาเข้าร่วมแข่งขันจะเพราะเงินรางวัลหรือเปล่า” ทันใดนั้นเถิงอวิ้นเมิ่งก็นึกถึงความเป็นไปได้อยู่อย่าง “ไม่อย่างนั้นทำไมจงใจปกปิดตัวตนล่ะ”

ยังดีกว่าพวกนักเรียนโรงเรียนเอลาน อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ว่าอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมเป็นเจ้าของช่องในแอปฉลามไลฟ์สด

อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น พูดอย่างใจเย็น “แววตาเฉียบคมมาก”

เถิงอวิ้นเมิ่ง “?”

“พรุ่งนี้อาจารย์ของที่นี่จะพาพวกเราไปชมห้องทดลองของพวกเขา” เถิงอวิ้นเมิ่งถอนหายใจ “ฉันไม่อยากอยู่กับนักเรียนพวกนั้นเลยจริงๆ ดูซิพวกเขาดูถูกพวกเราจะตาย”

อิ๋งจื่อจินกลับไม่แคร์เรื่องพวกนี้ เธอเช็ดมือ “ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวก็ได้รู้ในสนามแข่ง”

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้

อิ๋งจื่อจินก้มมองแล้วกดดู

ข้อความจากเกอร์เวน ส่งมาเป็นภาษาจีน

[อิ๋ง ได้ยินว่ามาถึงยุโรปแล้ว แถมยังอยู่ในเมืองมหาวิทยาลัยด้วย ไม่เจอกันนานแล้วตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่จากกัน มีเวลามาที่ห้องทดลองของผมหน่อยไหม]

เกอร์เวนหลงใหลในวัฒนธรรมจีนมาก

ครั้งนั้นหลังจากที่เขากลับจากประเทศจีนก็เริ่มเรียนภาษาจีน พอเจอปัญหาอะไรก็จะมาถามเธอ

อิ๋งจื่อจินคำนวณเวลาแล้วตอบกลับ

[ได้ค่ะ พรุ่งนี้ไปได้]

เกอร์เวนตอบกลับอย่างรวดเร็ว

[งั้นไว้ถึงเวลาผมให้คนไปรับ]

หนึ่งนาทีต่อมาเกอร์เวนก็ส่งมาอีกหนึ่งข้อความ

[ทางห้องทดลองอนุมัติคุณเป็นนักวิจัยแล้ว ถึงแม้คุณบอกว่าถ้าเรียนจบอาจจะมา แต่มีตำแหน่งไว้ก็สะดวกหน่อย พอถึงเวลาคุณจะดึงข้อมูลไปอ่านได้มากมาย]

แววตาของอิ๋งจื่อจินหยุดนิ่ง

นี่แหละคือสิ่งที่เธอต้องการ

[ขอบคุณค่ะศาสตราจารย์]

เธอส่งข้อความหาเกอร์เวนเสร็จก็ยืนขึ้น “ไปเถอะ”

เถิงอวิ้นเมิ่งเก็บจานแล้วเดินตามออกไป

เวลาบ่าย

ทางด้านฮู่เฉิง

ณ คฤหาสน์ตระกูลอิ๋ง

จงมั่นหวากับอิ๋งเจิ้นถิงช่วยอิ๋งเย่ว์เซวียนเก็บสัมภาระ เตรียมส่งเธอไปยุโรป เที่ยวเล่นที่นั่นก่อนสองวันค่อยไปเมืองมหาวิทยาลัย

“เสี่ยวเซวียน ไม่ต้องกดดันนะลูก” จงมั่นหวาปิดกระเป๋าเดินทาง “ลูกเก่งมากแล้ว ถ้าไม่ได้รางวัลจริงๆ แม่ก็ดีใจมากแล้ว”

อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก “ขอบคุณค่ะแม่”

นับตั้งแต่เธอรู้ว่าตัวเองเป็นลูกนอกสมรสก็กังวลใจมาตลอด

แต่ว่าผ่านมาหนึ่งเดือนกว่าแล้วจงมั่นหวาก็ยังไม่รู้ เธอก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาบ้าง

“แม่พูดถูก” อิ๋งเจิ้นถิงมีรอยยิ้มแบบที่เห็นได้ยาก “พอลูกแข่งเสร็จยังต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีก ลูกต้องเตรียมใจให้พร้อม”

อิ๋งเย่ว์เซวียนมองอิ๋งเจิ้นถิงด้วยอารมณ์สับสน

ทั้งสามคนขนสัมภาระเตรียมออกไปขึ้นรถ

ทันใดนั้นประตูบ้านกลับถูกกระแทกออกในเวลานี้

มีคนโผล่เข้ามาสิบกว่าคน แต่งตัวชุดดำ รูปร่างสูงใหญ่ บุคลิกเอาเรื่อง

ไม่ว่าจะอิ๋งเจิ้นถิงหรือจงมั่นหวาต่างไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ พากันตะลึงไปชั่วขณะ

ผู้ชายที่เดินนำมาไม่ได้มองพวกเขา ชี้ไปที่อิ๋งเย่ว์เซวียนแล้วพูดกับคนด้านหลัง “คนนั้นแหละ เอาตัวไป”

ลูกน้องสองคนเดินเข้าไปจับตัวอิ๋งเย่ว์เซวียน ไม่มีการทะนุถนอมแม้แต่น้อย ลากเธอออกไป

“พะ…พวกแกเป็นใคร” จงมั่นหวาสีหน้าเปลี่ยนอย่างรุนแรง “ทำไมต้องจับลูกสาวฉัน พวกแกกล้าบุกรุกบ้านคนอื่นเลยเหรอ!”

คนรับใช้ในบ้านล่ะ พวกเขาไม่ได้ยินเสียงเอะอะกันเลยเหรอ

อิ๋งเย่ว์เซวียนลนลาน ขอบตาแดงก่ำ

เธอระมัดระวังตัวเองมาตลอด

หลังจากที่ถูกเปิดโปงว่าเป็นคุณหนูตัวปลอม ช่วงหลายสิบกว่าวันนี้เธอก็สงบเสงี่ยมเจียมตัวลงไปมาก อย่าว่าแต่ให้ไปปรากฏตัวต่อหน้าอิ๋งจื่อจินเลย ขนาดแค่เดินธรรมดาเธอยังเดินหลบ

อิ๋งเจิ้นถิงโมโหมาก “ปล่อยนะ!”

เขาเข้าไปดึงตัวอิ๋งเย่ว์เซวียนกลับมา

ทว่าหนึ่งในลูกน้องแค่หันมามองเขาแล้วถีบไปหนึ่งที

อิ๋งเจิ้นถิงถูกถีบกระเด็นไปไกลสิบกว่าเมตร กระอักเลือดพุ่ง

จงมั่นหวาหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม

“ไม่ทำไมหรอก” ชายชุดดำเอามือไพล่หลัง ยิ้มเล็กน้อย “ลูกสาวแกน่ะ เกิดวันที่ยี่สิบสี่มีนาคม แถมยังเป็นเวลาตีหนึ่ง หนึ่งนาที หนึ่งวินาที เอาแค่เรื่องนี้พวกเราก็ต้องเอาตัวเธอไปแล้ว”

“มะ…ไม่ใช่ เธอไม่ได้เกิดวันที่ยี่สิบสี่มีนาคม!” จงมั่นหวาไม่เข้าใจคำพูดของอีกฝ่าย แต่เธอก็หลุดปากพูดออกไป “เธอไม่ได้เกิดวันนั้น!”

ชายชุดดำได้ยินแบบนี้ก็หยุด มองด้วยสายตาเย็นชา “ไม่ใช่เหรอ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+