คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 405 ซีซาร์ ลอเรนท์ ‘บอส!’

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 405 ซีซาร์ ลอเรนท์ ‘บอส!’ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 405 ซีซาร์ ลอเรนท์ ‘บอส!’

พอคำพูดนี้ออกมาผู้ช่วยก็อึ้งไป “อาจารย์อิ๋งว่าไงนะครับ”

แม้แต่เกอร์เวนที่แต่ไหนแต่ไรไม่สนใจเรื่องที่อยู่นอกเหนือแวดวงวิจัยวิทยาศาสตร์ก็ยังเงยหน้าด้วยความตกใจ “ตระกูลลอเรนท์เหรอ”

ไม่มีใครบนโลกนี้ไม่รู้จักตระกูลลอเรนท์ เป็นที่ทราบกันโดยทั่วกันว่า ตระกูลที่สามารถเรียกว่าตระกูลอันดับหนึ่งของโลกได้มีแค่ตระกูลลอเรนท์เท่านั้น

เศรษฐกิจโลกล้วนถูกควบคุมโดยตระกูลลอเรนท์ ต่อให้เป็นโลกจอมยุทธก็เกรงกลัวตระกูลลอเรนท์

ไม่ใช่เป็นเพราะอิทธิพลโดยรวมของตระกูลลอเรนท์ที่อยู่เหนือตระกูลจอมยุทธที่มีผู้นำตระกูลวิทยายุทธแก่กล้าสองสามร้อยปี แต่เป็นเพราะเบื้องหลังตระกูลลอเรนท์มีบุคคลอยู่คนหนึ่ง

เทพพยากรณ์

รู้ความลับที่แท้จริงของโลกใบนี้ คนที่คลุกคลีอยู่ในพื้นที่ปิดของเว็บบอร์ดเอ็นโอเคต่างรู้ว่าตระกูลลอเรนท์มั่นคงอยู่ในฟลอเรนซ์ได้ก็เพราะมีความช่วยเหลือจากเทพพยากรณ์

ต่อให้ช่วงหลายปีมานี้เทพพยากรณ์ไม่เคยปรากฏตัว แม้ตระกูลลอเรนท์จะถดถอยไปสองสามร้อยกว่าปีก็ตาม

แต่ก็ไม่มีอิทธิพลไหนอยากไปล่วงเกินตระกูลลอเรนท์หากไม่จำเป็น

มีเรื่องกับตระกูลลอเรนท์ ยังพอจะหนีได้

แต่ถ้าล่วงเกินเทพพยากรณ์จะกลายเป็นเรื่องใหญ่

ไม่ว่าจะในยุโรปหรือประเทศจีน เทพพยากรณ์ก็คือนักทำนายอันดับหนึ่งที่ทุกคนยอมรับ

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าจนถึงตอนนี้มีนักทำนายอยู่น้อยมาก นักทำนายเก่งๆ ที่แท้จริงรวมกันทั้งโลกมีอยู่ไม่ถึงยี่สิบคน ไม่อย่างนั้นในบรรดานักล่าอาชีพทั้งหมด นักทำนายขึ้นครองอันดับหนึ่งก็ไม่มีทางมีใครคัดค้าน

ทำนายชะตาได้ เปลี่ยนแปลงดวงชะตาได้ นี่ถือเป็นการต่อสู้กับสวรรค์แล้ว

ไม่ว่าจะนักปรุงยาพิษหรือนักสะกดจิตก็ยังห่างชั้นอีกไกล

เพียงแต่เรื่องอย่างอันที่จริงเทพพยากรณ์กับซีซาร์ ลอเรนท์ยังมีชีวิตอยู่ พวกเกอร์เวนยังไม่รู้

คนหลังแม้แต่พวกบอสใหญ่ในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคก็ไม่รู้

อย่างไรเสียหลังจากซีซาร์ ลอเรนท์ฟื้นขึ้นมา ส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในคฤหาสน์ไม่ออกมา สั่งการอยู่เบื้องหลังมาตลอด

เกอร์เวนกับผู้ช่วยรู้แค่ว่า ตระกูลลอเรนท์แข็งแกร่งมาก ถึงขั้นที่เอาสี่ตระกูลมหาเศรษฐีของยุโรปอยู่หมัด

“ถ้าตระกูลลอเรนท์มาลงทุนได้ก็ต้องพออยู่แล้ว” ผู้ช่วยส่ายหน้า

“แต่จะเป็นไปได้ยังไง ตอนนี้ตระกูลลอเรนท์สนใจแค่กิจการธนาคาร ไม่สนใจเรื่องวงการอื่นแล้ว”

ในหนังสือประวัติศาสตร์ก็มีบันทึกไว้แบบนี้

สาเหตุที่ซีซาร์ ลอเรนท์ ผู้นำตระกูลที่เก่งที่สุดของตระกูลลอเรนท์ถูกลอบสังหารหลายครั้งเป็นเพราะตระกูลลอเรนท์ให้เงินทุนสนับสนุนคนมีชื่อเสียงในวงการอื่นจำนวนมากมาย เช่น วงการดนตรี วงการวิจัยวิทยาศาสตร์ วงการภาพวาดสีน้ำมัน…มากมายนับไม่ถ้วน

สร้างความอิจฉาให้กับอิทธิพลอื่นอยู่ไม่น้อย

แต่บันทึกประวัติศาสตร์แบบนี้ก็ไม่ได้มีข้อสรุป ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า

ทว่านับตั้งแต่ตระกูลลอเรนท์กลับมาควบคุมฟลอเรนซ์ได้อีกครั้งก็ไม่ได้ลงทุนในโปรเจ็กต์วิจัยทางวิทยาศาสตร์อีกเลย

“แค่พอก็จบแล้วค่ะ” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ

“ศาสตราจารย์วางใจได้ค่ะ ห้องทดลองเปิดต่อไปได้แน่ ไม่มีทางต้องปิดตัวลง”

โปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาล เธอจะต้องเข้าร่วมให้ได้

อิ๋งจื่อจินพยักหน้ารับปากเสร็จก็ออกไปก่อน

ภายในห้องทำงาน เป็นครั้งแรกที่เกอร์เวนกับผู้ช่วยจ้องตากัน

บรรยากาศเงียบอย่างน่าพิศวง

“สะ…ศาสตราจารย์ครับ” ผ่านไปสักพักผู้ช่วยถึงได้สติกลับมาอย่างงงๆ กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

“อะ…อาจารย์อิ๋ง ยะ…ยังรู้จักตระกูลลอเรนท์ด้วยเหรอครับ สะ…ศาสตราจารย์ไปค้นพบบุคคลระดับไหนมาจากประเทศจีนครับ”

แม้แต่วีนัสกรุ๊ปก็พูดให้ตระกูลลอเรนท์มาลงทุนไม่ได้ อย่างมากสุดทั้งสองฝ่ายก็แค่ร่วมมือกัน

นี่ต้องเป็นบุคคลระดับไหนถึงมาถามพวกเขาได้หน้าตาเฉยว่าถ้าเป็นตระกูลลอเรนท์ล่ะจะพอไหม

ราวกับว่าถ้าพวกเขาบอกไม่พอ อิ๋งจื่อจินยังจะสามารถเพิ่มให้ได้

เกอร์เวนเองก็งง “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

เขามีเจตนาอยากบ่มเพาะคนเก่ง ไม่อยากให้เงินทองมาบดบัง

ตอนที่เขาจับอิ๋งจื่อจินเซ็นสัญญาเข้าห้องทดลองก็ไม่ได้สนใจเรื่องชาติกำเนิดหรือภูมิหลังของเธอ

เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญในสายตาของเกอร์เวน

ผู้ช่วยเกาหัว “ศาสตราจารย์ครับ ถ้าเป็นเรื่องจริง งั้นก็…”

เขาไม่กล้าคิดต่อแล้ว

มีตระกูลลอเรนท์อยู่ ตระกูลแพชช์ยังจะกล้าอวดดีอีกเหรอ

อย่าว่าแต่ตระกูลแพชช์เลย สี่ตระกูลมหาเศรษฐีรวมกันก็ยังไม่กล้า และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ถ้าตระกูลลอเรนท์ลงทุนให้ห้องทดลองของเกอร์เวน ความปลอดภัยของเกอร์เวนก็จะถูกยกระดับขึ้นสูงมาก

สามยักษ์ใหญ่ที่ยอมรับกันทั่วโลกก็เข้ามายุ่งไม่ได้ ตระกูลลอเรนท์เองก็ปกป้องคนของตัวเองมาก

“ทำใจสบายๆ” เกอร์เวนส่ายหน้า ยังคงมองโลกในแง่ดี “บางครั้งยิ่งอยากได้อะไรก็จะยิ่งไม่ได้”

เขาสวมแว่นตา ลุกขึ้น “ผมจะไปห้องปฏิบัติการ จากนั้นจะจัดตารางงานช่วงนี้ใหม่ เลื่อนงานทั้งหมดออกไปก่อน”

ผู้ช่วยพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับศาสตราจารย์”

อีกสองสามวันหลังจากนี้จะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของไอเอสซี เกอร์เวนจะไปดูที่สนามแข่ง

ต้องเตรียมผู้คุ้มกันไปให้พอ

หลังออกจากห้องทดลองอิ๋งจื่อจินก็กลับเข้าที่พัก

เธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะ เปิดคอมพิวเตอร์ ล็อกอินเว็บบอร์ดเอ็นโอเคแล้วเข้าพื้นที่ปิด

จากนั้นก็ใส่ชื่อไอดีตรงช่องเสิร์ชเพิ่มเพื่อนว่า ‘รักแค่เงิน’

นิ้วของอิ๋งจื่อจินชะงักไปสองวินาที สุดท้ายก็กดเอนเทอร์

รูปโปรไฟล์ของไอดีนี้เป็นภาพด้านหลังของเด็กหนุ่ม ซึ่งก็คือซีซาร์ ลอเรนท์

เธอเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็พิมพ์ข้อความลงไป

[เทพพยากรณ์ : ถ้าเป็นตัวจริง เห็นแล้วเรียกด้วย]

อิ๋งจื่อจินก็รู้ว่า คนรับใช้ที่มีหน้าที่ดูแลซีซาร์ ลอเรนท์ จะไม่มีทางหักหลังเขาเด็ดขาด เธอถึงได้วางใจมาก อีกทั้งพวกเขาเองก็รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเทพพยากรณ์กับซีซาร์ ลอเรนท์

ผ่านไปแค่หนึ่งนาที รูปโปรไฟล์ของรักแค่เงินก็สว่างขึ้นมา

[รักแค่เงิน : บอสเหรอ]

[รักแค่เงิน : บอส!]

อิ๋งจื่อจินก้มหน้า ตอบกลับ

[เทพพยากรณ์ : ฉันเอง]

พอตอบเสร็จก็เงียบไปอีกสักพัก

อิ๋งจื่อจินเห็น ‘อีกฝ่ายกำลังพิมพ์ข้อความ’ ตรงด้านบนของกรอบหน้าต่างสนทนา แวบขึ้นมาไม่หยุด

[เทพพยากรณ์ : ยังอยู่ไหม]

[รักแค่เงิน : ผมเพิ่งตื่น ขอสงบจิตสงบใจก่อน]

[รักแค่เงิน : อยากร้องไห้มากด้วย]

[รักแค่เงิน : บอสอย่าขำนะ]

มือของอิ๋งจื่อจินหยุดชะงัก สีหน้าฉายแววสับสนนิดหน่อย

เธอไม่อยากเจอซีซาร์ ลอเรนท์ ก็เพราะความสามารถของเธอยังไม่กลับคืนมาทั้งหมด อีกทั้งเทคโนโลยีสมัยนี้ก็ก้าวหน้าไปไกลมาก ไม่มีใครรู้ว่าถ้าเจอกันจะเกิดเรื่องอย่างลอบสังหารแบบเมื่อก่อนหรือเปล่า

เธอจึงทำได้แค่ส่งยาไปให้ที่คฤหาสน์ลอเรนท์ เพื่อบำรุงร่างกาย

อย่างไรเสียหลังจากซีซาร์ ลอเรนท์ ฟื้นขึ้นมาก็มีโรคติดตัว หากไม่ระวังหัวใจอาจฉีกขาดได้

[รักแค่เงิน : เอาล่ะ บอส ว่ามาได้เลยว่าเรื่องอะไร]

[รักแค่เงิน : ซีซาร์รอฟังคำสั่ง]

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก เธอจำคำพูดนี้ได้

ครั้งแรกที่เจอซีซาร์ ลอเรนท์ เขามีอายุแค่สิบห้าปี

ตอนนั้นสถานะของเขาในตระกูลลอเรนท์ อย่าว่าแต่ผู้สืบทอดเลย เป็นเพียงสมาชิกธรรมดาที่ไม่สะดุดตาในตระกูลเท่านั้น

เด็กหนุ่มมองเธอด้วยดวงตาสีน้ำเงินเข้ม น้ำเสียงยังดูเด็ก แต่จริงจังมาก พูดขึ้นมาว่า ‘ซีซาร์รอฟังคำสั่ง’

เพียงชั่วพริบตาผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว

[เทพพยากรณ์ : เคยได้ยินเรื่องยานอวกาศข้ามจักรวาลไหม]

[รักแค่เงิน : บินออกจากระบบสุริยะไปกาแล็คซีอื่นน่ะเหรอ ดูเหมือนจะมีห้องทดลองแห่งหนึ่งของยุโรปที่ริเริ่มโปรเจ็กต์นี้]

[เทพพยากรณ์ : จักรวาลกว้างใหญ่ ไกลกว่าที่นี่มาก]

[รักแค่เงิน : บอสหายตัวไปหลายปีขนาดนี้ คงไม่ได้ไปจักรวาลอื่นมาแล้วนะ]

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้วเล็กน้อย

ต้องยอมรับเลยว่า บางครั้งเด็กคนนี้ก็ฉลาดมาก

[เทพพยากรณ์ : ตระกูลแพชช์ถอนเงินทุนไปแล้ว ทางห้องทดลองต้องการตระกูลใหญ่ของยุโรปมาลงทุน]

เรื่องบางอย่างเธอก็อยากลองดู แม้สุดท้ายจะไม่สำเร็จก็ตาม

อย่างน้อยก็มีความหวัง

[รักแค่เงิน : ตระกูลแพชช์เหรอ พวกเขารนหาที่ตายเหรอ]

[รักแค่เงิน : บอสวางใจได้ ผมไม่มีอย่างอื่น ไม่ได้ใจกล้าเหมือนนอร์ตัน ก็แค่ร่ำรวย ลงทุนแค่นี้เอง สบายๆ]

[เทพพยากรณ์ : ได้ ยาของเดือนนี้ไปถึงแล้ว อย่าลืมให้คนไปเอา]

อีกฝ่ายเงียบไปสิบกว่าวินาทีก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง

[รักแค่เงิน : บอส…ยังมีอีกเรื่อง]

[เทพพยากรณ์ : ?]

[รักแค่เงิน : อย่าเอาเรื่องที่ผมร้องไห้พูดออกไปนะ ผมยังไม่มีเมีย เสียภาพลักษณ์หมด]

[รักแค่เงิน : ถ้านอร์ตันรู้เข้าต้องมาหัวเราะเยาะผมแน่]

[เทพพยากรณ์ : …]

เด็กคนนี้โรคเพี้ยนกำเริบอีกแล้ว

โรคนี้เธอคงรักษาไม่ได้

เวลานี้

ณ เมืองฟลอเรนซ์

ใจกลางคฤหาสน์ลอเรนท์

ลมอุ่นพัดผ่าน สกุณาขับขาน

แสงแดดลอดผ่านแมกไม้ตกกระทบบนพื้น เกิดเป็นเงากระจัดกระจาย

บรรยากาศเงียบสงบ

บนเตียงใหญ่สีขาว เด็กหนุ่มผมทองพลิกตัว โยนไอแพดที่อยู่ในมือลงข้างตัว

ใบหน้าหล่อเหลาของเขายังคงซีดเซียว แทบไร้สีเลือด

“ไปย้ายเงินจากธนาคารมาแสนล้าน” ซีซาร์พูด สั่งคนรับใช้ที่อยู่ด้านข้าง

“ก่อตั้งกองทุนวิจัยวิทยาศาสตร์ ลงทุนที่ห้องทดลองนี้ก่อน”

เขารู้ว่าบอสของเขามีความสนใจหลายเรื่อง

เขารู้สึกนับถือจากใจจริงที่เธอสามารถเรียนอะไรได้มากมายขนาดนั้น

แต่เขาไม่เหมือนกัน เขารักแค่เงิน

จ็อบตกใจ “นายท่านหมายถึงวิจัยทางวิทยาศาสตร์เหรอครับ”

ซีซาร์ติดเที่ยวเล่น และก็รักสนุกมากกว่า ไม่เหมือนผู้นำคนอื่นในตระกูลลอเรนท์ นักวิทยาศาสตร์ที่เขาสนับสนุนมีน้อยมาก

“ใช่ วิจัยทางวิทยาศาสตร์ “ ซีซาร์พูด “ฉันยังอยากให้นายป่าวประกาศไปทั่วยุโรป พวกคนตระกูลแพชช์ต้องได้รู้”

เรียกได้ว่าตระกูลแพชช์กับตระกูลลอเรนท์เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน พอเข้าศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดถึงจะเริ่มดีขึ้นมาบ้าง หลังจากซีซาร์ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง อยากอยู่อย่างสงบ จึงไม่ได้อะไรกับตระกูลแพชช์มากนัก

อย่างไรเสียสมาชิกตระกูลแพชช์ที่ตอนนั้นลอบสังหารเขาก็ถูกฝังไปนานแล้ว และก็เพราะถูกตระกูลลอเรนท์เอาเรื่องมานาน ตระกูลแพชช์ในตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนไปทำธุรกิจอย่างอื่นนานแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธนาคาร

………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 405 ซีซาร์ ลอเรนท์ ‘บอส!’

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 405 ซีซาร์ ลอเรนท์ ‘บอส!’ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 405 ซีซาร์ ลอเรนท์ ‘บอส!’

พอคำพูดนี้ออกมาผู้ช่วยก็อึ้งไป “อาจารย์อิ๋งว่าไงนะครับ”

แม้แต่เกอร์เวนที่แต่ไหนแต่ไรไม่สนใจเรื่องที่อยู่นอกเหนือแวดวงวิจัยวิทยาศาสตร์ก็ยังเงยหน้าด้วยความตกใจ “ตระกูลลอเรนท์เหรอ”

ไม่มีใครบนโลกนี้ไม่รู้จักตระกูลลอเรนท์ เป็นที่ทราบกันโดยทั่วกันว่า ตระกูลที่สามารถเรียกว่าตระกูลอันดับหนึ่งของโลกได้มีแค่ตระกูลลอเรนท์เท่านั้น

เศรษฐกิจโลกล้วนถูกควบคุมโดยตระกูลลอเรนท์ ต่อให้เป็นโลกจอมยุทธก็เกรงกลัวตระกูลลอเรนท์

ไม่ใช่เป็นเพราะอิทธิพลโดยรวมของตระกูลลอเรนท์ที่อยู่เหนือตระกูลจอมยุทธที่มีผู้นำตระกูลวิทยายุทธแก่กล้าสองสามร้อยปี แต่เป็นเพราะเบื้องหลังตระกูลลอเรนท์มีบุคคลอยู่คนหนึ่ง

เทพพยากรณ์

รู้ความลับที่แท้จริงของโลกใบนี้ คนที่คลุกคลีอยู่ในพื้นที่ปิดของเว็บบอร์ดเอ็นโอเคต่างรู้ว่าตระกูลลอเรนท์มั่นคงอยู่ในฟลอเรนซ์ได้ก็เพราะมีความช่วยเหลือจากเทพพยากรณ์

ต่อให้ช่วงหลายปีมานี้เทพพยากรณ์ไม่เคยปรากฏตัว แม้ตระกูลลอเรนท์จะถดถอยไปสองสามร้อยกว่าปีก็ตาม

แต่ก็ไม่มีอิทธิพลไหนอยากไปล่วงเกินตระกูลลอเรนท์หากไม่จำเป็น

มีเรื่องกับตระกูลลอเรนท์ ยังพอจะหนีได้

แต่ถ้าล่วงเกินเทพพยากรณ์จะกลายเป็นเรื่องใหญ่

ไม่ว่าจะในยุโรปหรือประเทศจีน เทพพยากรณ์ก็คือนักทำนายอันดับหนึ่งที่ทุกคนยอมรับ

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าจนถึงตอนนี้มีนักทำนายอยู่น้อยมาก นักทำนายเก่งๆ ที่แท้จริงรวมกันทั้งโลกมีอยู่ไม่ถึงยี่สิบคน ไม่อย่างนั้นในบรรดานักล่าอาชีพทั้งหมด นักทำนายขึ้นครองอันดับหนึ่งก็ไม่มีทางมีใครคัดค้าน

ทำนายชะตาได้ เปลี่ยนแปลงดวงชะตาได้ นี่ถือเป็นการต่อสู้กับสวรรค์แล้ว

ไม่ว่าจะนักปรุงยาพิษหรือนักสะกดจิตก็ยังห่างชั้นอีกไกล

เพียงแต่เรื่องอย่างอันที่จริงเทพพยากรณ์กับซีซาร์ ลอเรนท์ยังมีชีวิตอยู่ พวกเกอร์เวนยังไม่รู้

คนหลังแม้แต่พวกบอสใหญ่ในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคก็ไม่รู้

อย่างไรเสียหลังจากซีซาร์ ลอเรนท์ฟื้นขึ้นมา ส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในคฤหาสน์ไม่ออกมา สั่งการอยู่เบื้องหลังมาตลอด

เกอร์เวนกับผู้ช่วยรู้แค่ว่า ตระกูลลอเรนท์แข็งแกร่งมาก ถึงขั้นที่เอาสี่ตระกูลมหาเศรษฐีของยุโรปอยู่หมัด

“ถ้าตระกูลลอเรนท์มาลงทุนได้ก็ต้องพออยู่แล้ว” ผู้ช่วยส่ายหน้า

“แต่จะเป็นไปได้ยังไง ตอนนี้ตระกูลลอเรนท์สนใจแค่กิจการธนาคาร ไม่สนใจเรื่องวงการอื่นแล้ว”

ในหนังสือประวัติศาสตร์ก็มีบันทึกไว้แบบนี้

สาเหตุที่ซีซาร์ ลอเรนท์ ผู้นำตระกูลที่เก่งที่สุดของตระกูลลอเรนท์ถูกลอบสังหารหลายครั้งเป็นเพราะตระกูลลอเรนท์ให้เงินทุนสนับสนุนคนมีชื่อเสียงในวงการอื่นจำนวนมากมาย เช่น วงการดนตรี วงการวิจัยวิทยาศาสตร์ วงการภาพวาดสีน้ำมัน…มากมายนับไม่ถ้วน

สร้างความอิจฉาให้กับอิทธิพลอื่นอยู่ไม่น้อย

แต่บันทึกประวัติศาสตร์แบบนี้ก็ไม่ได้มีข้อสรุป ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า

ทว่านับตั้งแต่ตระกูลลอเรนท์กลับมาควบคุมฟลอเรนซ์ได้อีกครั้งก็ไม่ได้ลงทุนในโปรเจ็กต์วิจัยทางวิทยาศาสตร์อีกเลย

“แค่พอก็จบแล้วค่ะ” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ

“ศาสตราจารย์วางใจได้ค่ะ ห้องทดลองเปิดต่อไปได้แน่ ไม่มีทางต้องปิดตัวลง”

โปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาล เธอจะต้องเข้าร่วมให้ได้

อิ๋งจื่อจินพยักหน้ารับปากเสร็จก็ออกไปก่อน

ภายในห้องทำงาน เป็นครั้งแรกที่เกอร์เวนกับผู้ช่วยจ้องตากัน

บรรยากาศเงียบอย่างน่าพิศวง

“สะ…ศาสตราจารย์ครับ” ผ่านไปสักพักผู้ช่วยถึงได้สติกลับมาอย่างงงๆ กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

“อะ…อาจารย์อิ๋ง ยะ…ยังรู้จักตระกูลลอเรนท์ด้วยเหรอครับ สะ…ศาสตราจารย์ไปค้นพบบุคคลระดับไหนมาจากประเทศจีนครับ”

แม้แต่วีนัสกรุ๊ปก็พูดให้ตระกูลลอเรนท์มาลงทุนไม่ได้ อย่างมากสุดทั้งสองฝ่ายก็แค่ร่วมมือกัน

นี่ต้องเป็นบุคคลระดับไหนถึงมาถามพวกเขาได้หน้าตาเฉยว่าถ้าเป็นตระกูลลอเรนท์ล่ะจะพอไหม

ราวกับว่าถ้าพวกเขาบอกไม่พอ อิ๋งจื่อจินยังจะสามารถเพิ่มให้ได้

เกอร์เวนเองก็งง “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

เขามีเจตนาอยากบ่มเพาะคนเก่ง ไม่อยากให้เงินทองมาบดบัง

ตอนที่เขาจับอิ๋งจื่อจินเซ็นสัญญาเข้าห้องทดลองก็ไม่ได้สนใจเรื่องชาติกำเนิดหรือภูมิหลังของเธอ

เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญในสายตาของเกอร์เวน

ผู้ช่วยเกาหัว “ศาสตราจารย์ครับ ถ้าเป็นเรื่องจริง งั้นก็…”

เขาไม่กล้าคิดต่อแล้ว

มีตระกูลลอเรนท์อยู่ ตระกูลแพชช์ยังจะกล้าอวดดีอีกเหรอ

อย่าว่าแต่ตระกูลแพชช์เลย สี่ตระกูลมหาเศรษฐีรวมกันก็ยังไม่กล้า และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ถ้าตระกูลลอเรนท์ลงทุนให้ห้องทดลองของเกอร์เวน ความปลอดภัยของเกอร์เวนก็จะถูกยกระดับขึ้นสูงมาก

สามยักษ์ใหญ่ที่ยอมรับกันทั่วโลกก็เข้ามายุ่งไม่ได้ ตระกูลลอเรนท์เองก็ปกป้องคนของตัวเองมาก

“ทำใจสบายๆ” เกอร์เวนส่ายหน้า ยังคงมองโลกในแง่ดี “บางครั้งยิ่งอยากได้อะไรก็จะยิ่งไม่ได้”

เขาสวมแว่นตา ลุกขึ้น “ผมจะไปห้องปฏิบัติการ จากนั้นจะจัดตารางงานช่วงนี้ใหม่ เลื่อนงานทั้งหมดออกไปก่อน”

ผู้ช่วยพยักหน้า “เข้าใจแล้วครับศาสตราจารย์”

อีกสองสามวันหลังจากนี้จะเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของไอเอสซี เกอร์เวนจะไปดูที่สนามแข่ง

ต้องเตรียมผู้คุ้มกันไปให้พอ

หลังออกจากห้องทดลองอิ๋งจื่อจินก็กลับเข้าที่พัก

เธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะ เปิดคอมพิวเตอร์ ล็อกอินเว็บบอร์ดเอ็นโอเคแล้วเข้าพื้นที่ปิด

จากนั้นก็ใส่ชื่อไอดีตรงช่องเสิร์ชเพิ่มเพื่อนว่า ‘รักแค่เงิน’

นิ้วของอิ๋งจื่อจินชะงักไปสองวินาที สุดท้ายก็กดเอนเทอร์

รูปโปรไฟล์ของไอดีนี้เป็นภาพด้านหลังของเด็กหนุ่ม ซึ่งก็คือซีซาร์ ลอเรนท์

เธอเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นก็พิมพ์ข้อความลงไป

[เทพพยากรณ์ : ถ้าเป็นตัวจริง เห็นแล้วเรียกด้วย]

อิ๋งจื่อจินก็รู้ว่า คนรับใช้ที่มีหน้าที่ดูแลซีซาร์ ลอเรนท์ จะไม่มีทางหักหลังเขาเด็ดขาด เธอถึงได้วางใจมาก อีกทั้งพวกเขาเองก็รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเทพพยากรณ์กับซีซาร์ ลอเรนท์

ผ่านไปแค่หนึ่งนาที รูปโปรไฟล์ของรักแค่เงินก็สว่างขึ้นมา

[รักแค่เงิน : บอสเหรอ]

[รักแค่เงิน : บอส!]

อิ๋งจื่อจินก้มหน้า ตอบกลับ

[เทพพยากรณ์ : ฉันเอง]

พอตอบเสร็จก็เงียบไปอีกสักพัก

อิ๋งจื่อจินเห็น ‘อีกฝ่ายกำลังพิมพ์ข้อความ’ ตรงด้านบนของกรอบหน้าต่างสนทนา แวบขึ้นมาไม่หยุด

[เทพพยากรณ์ : ยังอยู่ไหม]

[รักแค่เงิน : ผมเพิ่งตื่น ขอสงบจิตสงบใจก่อน]

[รักแค่เงิน : อยากร้องไห้มากด้วย]

[รักแค่เงิน : บอสอย่าขำนะ]

มือของอิ๋งจื่อจินหยุดชะงัก สีหน้าฉายแววสับสนนิดหน่อย

เธอไม่อยากเจอซีซาร์ ลอเรนท์ ก็เพราะความสามารถของเธอยังไม่กลับคืนมาทั้งหมด อีกทั้งเทคโนโลยีสมัยนี้ก็ก้าวหน้าไปไกลมาก ไม่มีใครรู้ว่าถ้าเจอกันจะเกิดเรื่องอย่างลอบสังหารแบบเมื่อก่อนหรือเปล่า

เธอจึงทำได้แค่ส่งยาไปให้ที่คฤหาสน์ลอเรนท์ เพื่อบำรุงร่างกาย

อย่างไรเสียหลังจากซีซาร์ ลอเรนท์ ฟื้นขึ้นมาก็มีโรคติดตัว หากไม่ระวังหัวใจอาจฉีกขาดได้

[รักแค่เงิน : เอาล่ะ บอส ว่ามาได้เลยว่าเรื่องอะไร]

[รักแค่เงิน : ซีซาร์รอฟังคำสั่ง]

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก เธอจำคำพูดนี้ได้

ครั้งแรกที่เจอซีซาร์ ลอเรนท์ เขามีอายุแค่สิบห้าปี

ตอนนั้นสถานะของเขาในตระกูลลอเรนท์ อย่าว่าแต่ผู้สืบทอดเลย เป็นเพียงสมาชิกธรรมดาที่ไม่สะดุดตาในตระกูลเท่านั้น

เด็กหนุ่มมองเธอด้วยดวงตาสีน้ำเงินเข้ม น้ำเสียงยังดูเด็ก แต่จริงจังมาก พูดขึ้นมาว่า ‘ซีซาร์รอฟังคำสั่ง’

เพียงชั่วพริบตาผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว

[เทพพยากรณ์ : เคยได้ยินเรื่องยานอวกาศข้ามจักรวาลไหม]

[รักแค่เงิน : บินออกจากระบบสุริยะไปกาแล็คซีอื่นน่ะเหรอ ดูเหมือนจะมีห้องทดลองแห่งหนึ่งของยุโรปที่ริเริ่มโปรเจ็กต์นี้]

[เทพพยากรณ์ : จักรวาลกว้างใหญ่ ไกลกว่าที่นี่มาก]

[รักแค่เงิน : บอสหายตัวไปหลายปีขนาดนี้ คงไม่ได้ไปจักรวาลอื่นมาแล้วนะ]

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้วเล็กน้อย

ต้องยอมรับเลยว่า บางครั้งเด็กคนนี้ก็ฉลาดมาก

[เทพพยากรณ์ : ตระกูลแพชช์ถอนเงินทุนไปแล้ว ทางห้องทดลองต้องการตระกูลใหญ่ของยุโรปมาลงทุน]

เรื่องบางอย่างเธอก็อยากลองดู แม้สุดท้ายจะไม่สำเร็จก็ตาม

อย่างน้อยก็มีความหวัง

[รักแค่เงิน : ตระกูลแพชช์เหรอ พวกเขารนหาที่ตายเหรอ]

[รักแค่เงิน : บอสวางใจได้ ผมไม่มีอย่างอื่น ไม่ได้ใจกล้าเหมือนนอร์ตัน ก็แค่ร่ำรวย ลงทุนแค่นี้เอง สบายๆ]

[เทพพยากรณ์ : ได้ ยาของเดือนนี้ไปถึงแล้ว อย่าลืมให้คนไปเอา]

อีกฝ่ายเงียบไปสิบกว่าวินาทีก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง

[รักแค่เงิน : บอส…ยังมีอีกเรื่อง]

[เทพพยากรณ์ : ?]

[รักแค่เงิน : อย่าเอาเรื่องที่ผมร้องไห้พูดออกไปนะ ผมยังไม่มีเมีย เสียภาพลักษณ์หมด]

[รักแค่เงิน : ถ้านอร์ตันรู้เข้าต้องมาหัวเราะเยาะผมแน่]

[เทพพยากรณ์ : …]

เด็กคนนี้โรคเพี้ยนกำเริบอีกแล้ว

โรคนี้เธอคงรักษาไม่ได้

เวลานี้

ณ เมืองฟลอเรนซ์

ใจกลางคฤหาสน์ลอเรนท์

ลมอุ่นพัดผ่าน สกุณาขับขาน

แสงแดดลอดผ่านแมกไม้ตกกระทบบนพื้น เกิดเป็นเงากระจัดกระจาย

บรรยากาศเงียบสงบ

บนเตียงใหญ่สีขาว เด็กหนุ่มผมทองพลิกตัว โยนไอแพดที่อยู่ในมือลงข้างตัว

ใบหน้าหล่อเหลาของเขายังคงซีดเซียว แทบไร้สีเลือด

“ไปย้ายเงินจากธนาคารมาแสนล้าน” ซีซาร์พูด สั่งคนรับใช้ที่อยู่ด้านข้าง

“ก่อตั้งกองทุนวิจัยวิทยาศาสตร์ ลงทุนที่ห้องทดลองนี้ก่อน”

เขารู้ว่าบอสของเขามีความสนใจหลายเรื่อง

เขารู้สึกนับถือจากใจจริงที่เธอสามารถเรียนอะไรได้มากมายขนาดนั้น

แต่เขาไม่เหมือนกัน เขารักแค่เงิน

จ็อบตกใจ “นายท่านหมายถึงวิจัยทางวิทยาศาสตร์เหรอครับ”

ซีซาร์ติดเที่ยวเล่น และก็รักสนุกมากกว่า ไม่เหมือนผู้นำคนอื่นในตระกูลลอเรนท์ นักวิทยาศาสตร์ที่เขาสนับสนุนมีน้อยมาก

“ใช่ วิจัยทางวิทยาศาสตร์ “ ซีซาร์พูด “ฉันยังอยากให้นายป่าวประกาศไปทั่วยุโรป พวกคนตระกูลแพชช์ต้องได้รู้”

เรียกได้ว่าตระกูลแพชช์กับตระกูลลอเรนท์เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน พอเข้าศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดถึงจะเริ่มดีขึ้นมาบ้าง หลังจากซีซาร์ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง อยากอยู่อย่างสงบ จึงไม่ได้อะไรกับตระกูลแพชช์มากนัก

อย่างไรเสียสมาชิกตระกูลแพชช์ที่ตอนนั้นลอบสังหารเขาก็ถูกฝังไปนานแล้ว และก็เพราะถูกตระกูลลอเรนท์เอาเรื่องมานาน ตระกูลแพชช์ในตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนไปทำธุรกิจอย่างอื่นนานแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธนาคาร

………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+