คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 468 บัตรเชิญของโลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธ์

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 468 บัตรเชิญของโลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 468 บัตรเชิญของโลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธ์

คลาสทดลองที่มหาวิทยาลัยตี้ตูเพิ่งเปิดใหม่ปีนี้ดูแลโดยสาขาชีววิทยาและสาขาเคมี แต่ไม่ได้เป็นของทั้งสองสาขานี้ ถือเป็นโครงการพิเศษที่แยกเดี่ยวของมหาวิทยาลัยตี้ตู

และก็เพิ่งทำการทดสอบคัดเลือกเข้าคลาสไปเมื่อเดือนที่แล้ว

ต้องผ่านการทดสอบเท่านั้นถึงจะเข้าคลาสทดลองนี้ได้

ตอนนี้อยู่ในช่วงขึ้นทะเบียนนักศึกษาใหม่ ดังนั้นนักศึกษาใหม่จึงไม่รู้ว่ามีคลาสนี้ คนที่เข้าคลาสล้วนเป็นนักศึกษาปีสองและปีสาม

การลงทุนในด้านทรัพยากรให้คลาสทดลองนี้มีมากกว่าคลาสทั่วไปถึงสิบเท่า

“พี่สาวหนูเรียนด้านชีวเคมีค่ะ” อิ๋งจื่อจินตบบ่าจี้หลี “หนูอยากขอให้ท่านอธิการให้สิทธิ์เธอได้ทดสอบค่ะ”

“สิทธิ์ทดสอบน่ะได้” เฉินจวิ้นเซียนมองจี้หลีแล้วพยักหน้า “แต่ถ้าไม่ผ่านก็ไม่รับเข้าคลาสอยู่ดี”

“ทราบค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “ต้องให้เป็นไปอย่างยุติธรรมแน่นอนค่ะ”

เมื่อถึงปีหน้าคลาสทดลองเปิดอีกครั้ง จี้หลีก็ยังจะเข้าได้แน่

ก็แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้น

อีกทั้งเนื่องจากจี้อี้หางทำการทดลองชีวเคมีมาตลอด จี้หลีได้ฟังได้เห็น เธอย่อมเก่งกว่าคนรุ่นเดียวกันในด้านนี้

“ผมจะให้คนเอาแบบทดสอบมาส่ง” เฉินจวิ้นเซียนพยักหน้า ยกหูโทรศัพท์บนโต๊ะแล้วกดโทร “ทดสอบที่นี่เลยแล้วกัน”

ไม่นานก็มีคนเอาแบบทดสอบมาให้

ภายในห้องทำงานอธิการบดีมีห้องหนังสือในตัว เฉินจวิ้นเซียนจึงให้จี้หลีเข้าไปทำในนั้น

เวลานี้สภาพจิตใจของจี้หลีสงบลงแล้ว

นี่เป็นโอกาสที่อิ๋งจื่อจินให้เธอ เธอห้ามพลาดเป็นอันขาด

พอจี้หลีเข้าไปแล้วเฉินจวิ้นเซียนก็มองอิ๋งจื่อจิน ครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น “นักศึกษาอิ๋ง ผมได้ยินศาสตราจารย์จั่วบอกว่าคุณอยากวิจัยควันพิษเดธเหรอ”

“ค่ะ” อิ๋งจื่อจินไม่ปิดบัง สีหน้าชะงักนิดหน่อย “ท่านอธิการคะ ท่านเองก็รู้ว่านี่อาจเป็นสิ่งที่เป็นภัยต่อมวลมนุษยชาติ ไม่มีใครหนีพ้น”

ควันพิษเดธไม่ได้ติดชาร์ตอันดับยาพิษ

อิทธิพลกลุ่มนั้นที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปหัวกะโหลกสีดำน่าจะมีของจำพวกเดียวกันอีกมากมาย

แต่ตอนนี้พวกเขาหายตัวไปแล้ว

มหาวิทยาลัยนอร์ตันก็สืบไม่พบว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน

ดังนั้นก็เป็นไปได้แค่อาจอยู่ในที่ที่คล้ายโลกจอมยุทธ์ อยู่บนโลกมนุษย์ แต่ปิดกั้นโลกภายนอก

เป็นเหมือนกับจอมยุทธ์ พวกเขาก็มีข้อจำกัด ไม่ได้แสดงอำนาจบาตรใหญ่อย่างแท้จริง

มีเหรอที่เฉินจวิ้นเซียนจะไม่รู้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้ เขาถอนหายใจ พูดได้เพียงว่า “ดูแลตัวเองด้วย อนาคตของคุณสำคัญมาก คนแก่อย่างพวกผมจะปกป้องหนุ่มสาวอย่างพวกคุณ”

สองชั่วโมงต่อมาจี้หลีก็ทำแบบทดสอบเสร็จ

เฉินจวิ้นเซียนให้คนเอาแบบทดสอบของเธอไปส่งให้ทางศาสตราจารย์ตรวจ จากนั้นก็เดินออกไปส่งอิ๋งจื่อจินด้วยตัวเอง “ตอนบ่ายผลก็ออกแล้ว ไว้ผมจะแจ้งพวกคุณไปนะ”

โลกจอมยุทธ์

บ้านตระกูลหลิง

หลังจากเจียงหรานเรียนจบมัธยมปลายก็กลับโลกจอมยุทธ์อย่างเป็นทางการ

เจียงฮว่าผิงก็รู้ว่าลูกชายไม่ชอบเรียน จึงไม่ได้คิดจะให้เขาเข้ามหาวิทยาลัยอีก

เจียงหรานเป็นจอมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์ หลังจากกำลังภายในในร่างกายหยุดแปรปรวน เขาก็ฝึกจนสูงขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง

เจียงฮว่าผิงกับหลิงฉงโหลวปรึกษากันว่าจะส่งเจียงหรานไปสำนักศึกษาของศาลสถิตยุติธรรม แต่ก็ต้องเข้าร่วมทดสอบ

“นี่เป็นบัตรเชิญของงานประมูลปีนี้” หลังจากหลิงฉงโหลวกลับมาจากศาลสถิตยุติธรรมก็เอาบัตรเชิญให้พ่อบ้าน “พรุ่งนี้เรียกรวมสมาชิกของตระกูลทั้งหมด แจกจ่ายให้ตามความสามารถ”

พ่อบ้านพยักหน้าแล้วรีบไปจัดการ

“พ่อ ผมขอบัตรเชิญสองสามใบสิ” เจียงหรานได้ยินก็เงยหน้าขึ้นจากเครื่องเกม “ผมจะเอาไปให้เพื่อน”

“หมายถึงจื่อจินกับเสี่ยวอวี่เหรอ” หลิงฉงโหลวคิดแล้วตอบ “ได้ เอาไปสิ”

เจียงหรานกลับเข้าห้องตัวเอง ถ่ายรูปบัตรเชิญแล้วส่งให้อิ๋งจื่อจินรวมถึงพวกซิวอวี่

[พ่ออิ๋ง ฉันรู้ว่าเธออาจจำเป็นต้องใช้สมุนไพร งานประมูลปีละครั้งของโลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธ์มาถึงแล้ว จัดเดือนหน้า ฉันจะให้คนเอาบัตรเชิญไปให้เธอนะ]

ตอนที่อิ๋งจื่อจินได้ข้อความนี้เธอเพิ่งกลับถึงบ้านจี้อี้หางพร้อมจี้หลี

เธอดูรูปที่เจียงหรานส่งมา จากนั้นก็ดูบัตรเชิญที่เมื่อวานได้มาจากฟู่อวิ๋นเซิน พบว่าเหมือนกันไม่มีผิด

งานประมูลของโลกจอมยุทธ์กับโลกแพทย์แผนโบราณมีเยอะมาก แต่งานระดับนี้มีเพียงปีละครั้ง จัดโดยศาลสถิตยุติธรรม

สิ่งที่นำมาประมูลในงานล้วนเป็นสมุนไพรชั้นยอด และยังมีพวกสิ่งของหายากอีกนิดหน่อย

ดังนั้นไม่ใช่ว่าตระกูลไหนก็ไปได้

อย่างตระกูลเยี่ยก็ไม่ได้รับบัตรเชิญ

อิ๋งจื่อจินพิมพ์ตอบกลับ

[บัตรเชิญไม่ต้องหรอก ฉันมี ฉันจะไป]

เจียงหรานส่งสติกเกอร์ตอบกลับ

เป็นรูปหมากระดิกหาง

“…”

อิ๋งจื่อจินวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วไปเขียนแผนทดลอง

ส่วนประกอบการทดลองที่เกอร์เวนช่วยซื้อให้น่าจะมาถึงคืนนี้ พรุ่งนี้เธอกับเวินเฟิงเหมียนจะเริ่มทำการทดลองอย่างเป็นทางการ

ภายในห้องครัว

จี้หลีเดินเข้าไปหาคุณนายจี้ด้วยความระมัดระวังแล้วกระซิบ “แม่คะ แม่ต้องคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่าวันนี้หนูไปเจอใครมา”

คุณนายจี้กำลังหมักเนื้อสัตว์ “ใครเหรอ”

“อธิการบดีเฉินจวิ้นเซียนค่ะ”

คุณนายจี้มือสั่น “ลูกไปเจออธิการบดีมหาวิทยาลัยตี้ตูมาเหรอ”

“ไม่ใช่แค่เจอนะคะ หนูยังได้ทำแบบทดสอบในห้องหนังสือของเขาด้วย” จี้หลีเล่าเรื่องให้ฟัง “หนูว่าหนูตอบคำถามได้ดี น่าจะเข้าคลาสทดลองได้”

สีหน้าของคุณนายจี้เริ่มเครียด “เสี่ยวหลี พยายามเข้านะลูก แต่อย่าเที่ยวเอาไปพูด สถานการณ์ของน้องสาวลูกจะยิ่งเป็นอันตราย”

ในเมื่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยตี้ตูออกหน้า ถ้าอย่างนั้นเหยียนรั่วเสวี่ยก็หมดหนทางจะถอนทะเบียนนักศึกษาของจี้หลีแล้ว

“แน่นอนค่ะ” จี้หลีพยักหน้า “แม่คะ แม่รู้ไหมว่าคลาสทดลองคลาสนี้ในหนึ่งปีได้เงินสนับสนุนเท่าไร”

เธอชูกำปั้นขึ้นมาข้างหนึ่ง พูดด้วยความตื่นเต้น “พันล้านค่ะ”

“ไม่แปลกหรอก” คุณนายจี้พูด “งานครบรอบมหาวิทยาลัยตี้ตูปีที่แล้วมีศิษย์เก่าคนหนึ่งบริจาคไปห้าพันล้าน”

ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยตี้ตูตอนนี้เป็นเศรษฐีกันหมดแล้ว

เวลาบ่ายสี่โมงผลทดสอบของจี้หลีก็ออก

คะแนนเต็มหนึ่งร้อยคะแนน จี้หลีได้แปดสิบเจ็ดคะแนน

ตามกฎคือขอแค่ได้เกินเจ็ดสิบคะแนนขึ้นไปก็สามารถเข้าคลาสทดลองนี้ได้

อันดับหนึ่งของการทดสอบคราวก่อนได้คะแนนสูงกว่าจี้หลีแค่สามคะแนน

เนื่องจากเป็นคนที่อิ๋งจื่อจินแนะนำมา อีกทั้งคะแนนของจี้หลียังสูงขนาดนี้ เฉินจวิ้นเซียนจึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

เขาไปที่ฝ่ายรับนักศึกษาของสาขาชีววิทยาด้วยตัวเองเพื่อย้ายทะเบียนนักศึกษาของจี้หลีไปอยู่ในคลาสทดลองชีวเคมี

พอเฉินจวิ้นเซียนออกไป เหยียนรั่วเสวี่ยก็มาที่ฝ่ายรับนักศึกษาของสาขาชีววิทยาด้วยอารมณ์โกรธ

“ศาสตราจารย์เหยียน” เจ้าหน้าที่รู้จักเธอ จึงถามอย่างให้เกียรติ “มีเรื่องอะไรเหรอครับ”

“ค้นข้อมูลนักศึกษาที่ชื่อจี้หลีให้หน่อยค่ะ” เหยียนรั่วเสวี่ยน้ำเสียงเย็นชา “จากนั้นก็ถอนทะเบียนนักศึกษาของเธอ”

เธอนึกไม่ถึงว่าจี้หลีจะไม่มาหาเธอจริงๆ

เธออุตส่าห์เจตนาดีจะผลักดันจี้หลี แต่จี้หลีกลับไม่ไว้หน้าเธอขนาดนี้

งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องเห็นใจจี้หลีเหมือนกัน

คนเราต้องรู้จักสูญเสียซะบ้าง ถึงจะสำนึกในความผิดของตัวเอง

โปรเจ็กต์ทดลองของเธอมีแต่คนอยากเข้าร่วม ต่อให้ไม่มีจี้หลีเธอก็ยังมีตัวเลือกอีกมากมายให้เลือก

แต่ถ้าจี้หลีเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยตี้ตูไม่ได้ ขาดทุนทรัพย์ไปครึ่งหนึ่ง สถานะของครอบครัวจี้อี้หางก็จะตกต่ำอย่างรุนแรง

น่าเสียดายที่จี้หลีไม่เข้าใจหลักการพวกนี้

“ถอนทะเบียนเหรอครับ” เจ้าหน้าที่ประหลาดใจ แต่เหยียนรั่วเสวี่ยมีอำนาจในจุดนี้จริงๆ เขาจึงไม่พูดอะไรต่อ เริ่มค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์ “ศาสตราจารย์เหยียนรอสักครู่นะครับ”

เหยียนรั่วเสวี่ยรอ

ระหว่างรอจี้อี้หยวนก็ส่งข้อความหาเธอ

[คุณเหยียนครับ ถ้าโปรเจ็กต์ทดลองของคุณขาดคน ทางผมมีเด็กหลายคนที่เก่งใช้ได้ ผมแนะนำให้ได้นะครับ ไม่ต้องการผลงานอะไรมาก แค่ให้พวกเขาได้ไปฝึกฝนกับคุณก็พอครับ]

เข้าร่วมทำการทดลองก็จะมีผลงาน โดยจะได้ลดหลั่นกันไปตามลำดับในรายงาน

แต่ถ้าไม่เอาผลงาน ผลงานทั้งหมดก็จะตกเป็นของผู้รับผิดชอบใหญ่ของโปรเจ็กต์นั้น

จี้อี้หยวนต้องการแสดงออกว่า อยากดึงตัวเหยียนรั่วเสวี่ยมาอยู่กับเขาแบบเต็มตัว

เหยียนรั่วเสวี่ยหรี่ตาแล้วตอบกลับ

[ได้ค่ะ อีกเดี๋ยวให้พวกเขามา]

“ศาสตราจารย์เหยียนครับ เธอไม่ใช่นักศึกษาของคลาสทดลองชีววิทยาครับ” เวลานี้เจ้าหน้าที่เงยหน้าขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ด้วยความกระอักกระอ่วน “ถอนทะเบียนนักศึกษาของเธอไม่ได้ครับ”

สีหน้าของเหยียนรั่วเสวี่ยเย็นชาลง ชักหงุดหงิด “ทำไมจะไม่ใช่ ค้นต่อ ฉันมีเวลาไม่มาก เร็วหน่อยค่ะ”

ตอนที่เธอคัดเลือกคนได้ทำการสืบโดยเฉพาะก่อนแล้ว รู้ว่าจี้หลีกรอกความจำนงขอเข้าคลาสทดลองสาขาชีววิทยา

ถ้าทะเบียนนักศึกษาของจี้หลีไม่อยู่สาขาชีววิทยาจะไปอยู่ที่ไหนได้

“เอ๊ะ ไม่ถูกสิ นักศึกษาจี้หลีเดิมทีเป็นเด็กของคลาสทดลองชีววิทยาจริงๆ ครับ” เจ้าหน้าที่ตีหัวตัวเอง เพิ่งนึกออก “แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วครับ”

เหยียนรั่วเสวี่ยหมดความอดทน น้ำเสียงเย็นชา “ล้อฉันเล่นเหรอคะ อะไรคือเดิมทีใช่ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ทะเบียนของเธออยู่ๆ ก็หายไปได้งั้นเหรอคะ”

“ศาสตราจารย์เหยียน ผมสาบานได้ครับว่าตัวเองพูดความจริง” เจ้าหน้าที่ลำบากใจ พูดได้แค่ว่า “เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานท่านอธิการบดีได้มาย้ายทะเบียนนักศึกษาของเธอไปเองครับ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 468 บัตรเชิญของโลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธ์

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 468 บัตรเชิญของโลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 468 บัตรเชิญของโลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธ์

คลาสทดลองที่มหาวิทยาลัยตี้ตูเพิ่งเปิดใหม่ปีนี้ดูแลโดยสาขาชีววิทยาและสาขาเคมี แต่ไม่ได้เป็นของทั้งสองสาขานี้ ถือเป็นโครงการพิเศษที่แยกเดี่ยวของมหาวิทยาลัยตี้ตู

และก็เพิ่งทำการทดสอบคัดเลือกเข้าคลาสไปเมื่อเดือนที่แล้ว

ต้องผ่านการทดสอบเท่านั้นถึงจะเข้าคลาสทดลองนี้ได้

ตอนนี้อยู่ในช่วงขึ้นทะเบียนนักศึกษาใหม่ ดังนั้นนักศึกษาใหม่จึงไม่รู้ว่ามีคลาสนี้ คนที่เข้าคลาสล้วนเป็นนักศึกษาปีสองและปีสาม

การลงทุนในด้านทรัพยากรให้คลาสทดลองนี้มีมากกว่าคลาสทั่วไปถึงสิบเท่า

“พี่สาวหนูเรียนด้านชีวเคมีค่ะ” อิ๋งจื่อจินตบบ่าจี้หลี “หนูอยากขอให้ท่านอธิการให้สิทธิ์เธอได้ทดสอบค่ะ”

“สิทธิ์ทดสอบน่ะได้” เฉินจวิ้นเซียนมองจี้หลีแล้วพยักหน้า “แต่ถ้าไม่ผ่านก็ไม่รับเข้าคลาสอยู่ดี”

“ทราบค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบ “ต้องให้เป็นไปอย่างยุติธรรมแน่นอนค่ะ”

เมื่อถึงปีหน้าคลาสทดลองเปิดอีกครั้ง จี้หลีก็ยังจะเข้าได้แน่

ก็แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้น

อีกทั้งเนื่องจากจี้อี้หางทำการทดลองชีวเคมีมาตลอด จี้หลีได้ฟังได้เห็น เธอย่อมเก่งกว่าคนรุ่นเดียวกันในด้านนี้

“ผมจะให้คนเอาแบบทดสอบมาส่ง” เฉินจวิ้นเซียนพยักหน้า ยกหูโทรศัพท์บนโต๊ะแล้วกดโทร “ทดสอบที่นี่เลยแล้วกัน”

ไม่นานก็มีคนเอาแบบทดสอบมาให้

ภายในห้องทำงานอธิการบดีมีห้องหนังสือในตัว เฉินจวิ้นเซียนจึงให้จี้หลีเข้าไปทำในนั้น

เวลานี้สภาพจิตใจของจี้หลีสงบลงแล้ว

นี่เป็นโอกาสที่อิ๋งจื่อจินให้เธอ เธอห้ามพลาดเป็นอันขาด

พอจี้หลีเข้าไปแล้วเฉินจวิ้นเซียนก็มองอิ๋งจื่อจิน ครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น “นักศึกษาอิ๋ง ผมได้ยินศาสตราจารย์จั่วบอกว่าคุณอยากวิจัยควันพิษเดธเหรอ”

“ค่ะ” อิ๋งจื่อจินไม่ปิดบัง สีหน้าชะงักนิดหน่อย “ท่านอธิการคะ ท่านเองก็รู้ว่านี่อาจเป็นสิ่งที่เป็นภัยต่อมวลมนุษยชาติ ไม่มีใครหนีพ้น”

ควันพิษเดธไม่ได้ติดชาร์ตอันดับยาพิษ

อิทธิพลกลุ่มนั้นที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปหัวกะโหลกสีดำน่าจะมีของจำพวกเดียวกันอีกมากมาย

แต่ตอนนี้พวกเขาหายตัวไปแล้ว

มหาวิทยาลัยนอร์ตันก็สืบไม่พบว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน

ดังนั้นก็เป็นไปได้แค่อาจอยู่ในที่ที่คล้ายโลกจอมยุทธ์ อยู่บนโลกมนุษย์ แต่ปิดกั้นโลกภายนอก

เป็นเหมือนกับจอมยุทธ์ พวกเขาก็มีข้อจำกัด ไม่ได้แสดงอำนาจบาตรใหญ่อย่างแท้จริง

มีเหรอที่เฉินจวิ้นเซียนจะไม่รู้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้ เขาถอนหายใจ พูดได้เพียงว่า “ดูแลตัวเองด้วย อนาคตของคุณสำคัญมาก คนแก่อย่างพวกผมจะปกป้องหนุ่มสาวอย่างพวกคุณ”

สองชั่วโมงต่อมาจี้หลีก็ทำแบบทดสอบเสร็จ

เฉินจวิ้นเซียนให้คนเอาแบบทดสอบของเธอไปส่งให้ทางศาสตราจารย์ตรวจ จากนั้นก็เดินออกไปส่งอิ๋งจื่อจินด้วยตัวเอง “ตอนบ่ายผลก็ออกแล้ว ไว้ผมจะแจ้งพวกคุณไปนะ”

โลกจอมยุทธ์

บ้านตระกูลหลิง

หลังจากเจียงหรานเรียนจบมัธยมปลายก็กลับโลกจอมยุทธ์อย่างเป็นทางการ

เจียงฮว่าผิงก็รู้ว่าลูกชายไม่ชอบเรียน จึงไม่ได้คิดจะให้เขาเข้ามหาวิทยาลัยอีก

เจียงหรานเป็นจอมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์ หลังจากกำลังภายในในร่างกายหยุดแปรปรวน เขาก็ฝึกจนสูงขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง

เจียงฮว่าผิงกับหลิงฉงโหลวปรึกษากันว่าจะส่งเจียงหรานไปสำนักศึกษาของศาลสถิตยุติธรรม แต่ก็ต้องเข้าร่วมทดสอบ

“นี่เป็นบัตรเชิญของงานประมูลปีนี้” หลังจากหลิงฉงโหลวกลับมาจากศาลสถิตยุติธรรมก็เอาบัตรเชิญให้พ่อบ้าน “พรุ่งนี้เรียกรวมสมาชิกของตระกูลทั้งหมด แจกจ่ายให้ตามความสามารถ”

พ่อบ้านพยักหน้าแล้วรีบไปจัดการ

“พ่อ ผมขอบัตรเชิญสองสามใบสิ” เจียงหรานได้ยินก็เงยหน้าขึ้นจากเครื่องเกม “ผมจะเอาไปให้เพื่อน”

“หมายถึงจื่อจินกับเสี่ยวอวี่เหรอ” หลิงฉงโหลวคิดแล้วตอบ “ได้ เอาไปสิ”

เจียงหรานกลับเข้าห้องตัวเอง ถ่ายรูปบัตรเชิญแล้วส่งให้อิ๋งจื่อจินรวมถึงพวกซิวอวี่

[พ่ออิ๋ง ฉันรู้ว่าเธออาจจำเป็นต้องใช้สมุนไพร งานประมูลปีละครั้งของโลกแพทย์แผนโบราณกับโลกจอมยุทธ์มาถึงแล้ว จัดเดือนหน้า ฉันจะให้คนเอาบัตรเชิญไปให้เธอนะ]

ตอนที่อิ๋งจื่อจินได้ข้อความนี้เธอเพิ่งกลับถึงบ้านจี้อี้หางพร้อมจี้หลี

เธอดูรูปที่เจียงหรานส่งมา จากนั้นก็ดูบัตรเชิญที่เมื่อวานได้มาจากฟู่อวิ๋นเซิน พบว่าเหมือนกันไม่มีผิด

งานประมูลของโลกจอมยุทธ์กับโลกแพทย์แผนโบราณมีเยอะมาก แต่งานระดับนี้มีเพียงปีละครั้ง จัดโดยศาลสถิตยุติธรรม

สิ่งที่นำมาประมูลในงานล้วนเป็นสมุนไพรชั้นยอด และยังมีพวกสิ่งของหายากอีกนิดหน่อย

ดังนั้นไม่ใช่ว่าตระกูลไหนก็ไปได้

อย่างตระกูลเยี่ยก็ไม่ได้รับบัตรเชิญ

อิ๋งจื่อจินพิมพ์ตอบกลับ

[บัตรเชิญไม่ต้องหรอก ฉันมี ฉันจะไป]

เจียงหรานส่งสติกเกอร์ตอบกลับ

เป็นรูปหมากระดิกหาง

“…”

อิ๋งจื่อจินวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วไปเขียนแผนทดลอง

ส่วนประกอบการทดลองที่เกอร์เวนช่วยซื้อให้น่าจะมาถึงคืนนี้ พรุ่งนี้เธอกับเวินเฟิงเหมียนจะเริ่มทำการทดลองอย่างเป็นทางการ

ภายในห้องครัว

จี้หลีเดินเข้าไปหาคุณนายจี้ด้วยความระมัดระวังแล้วกระซิบ “แม่คะ แม่ต้องคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่าวันนี้หนูไปเจอใครมา”

คุณนายจี้กำลังหมักเนื้อสัตว์ “ใครเหรอ”

“อธิการบดีเฉินจวิ้นเซียนค่ะ”

คุณนายจี้มือสั่น “ลูกไปเจออธิการบดีมหาวิทยาลัยตี้ตูมาเหรอ”

“ไม่ใช่แค่เจอนะคะ หนูยังได้ทำแบบทดสอบในห้องหนังสือของเขาด้วย” จี้หลีเล่าเรื่องให้ฟัง “หนูว่าหนูตอบคำถามได้ดี น่าจะเข้าคลาสทดลองได้”

สีหน้าของคุณนายจี้เริ่มเครียด “เสี่ยวหลี พยายามเข้านะลูก แต่อย่าเที่ยวเอาไปพูด สถานการณ์ของน้องสาวลูกจะยิ่งเป็นอันตราย”

ในเมื่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยตี้ตูออกหน้า ถ้าอย่างนั้นเหยียนรั่วเสวี่ยก็หมดหนทางจะถอนทะเบียนนักศึกษาของจี้หลีแล้ว

“แน่นอนค่ะ” จี้หลีพยักหน้า “แม่คะ แม่รู้ไหมว่าคลาสทดลองคลาสนี้ในหนึ่งปีได้เงินสนับสนุนเท่าไร”

เธอชูกำปั้นขึ้นมาข้างหนึ่ง พูดด้วยความตื่นเต้น “พันล้านค่ะ”

“ไม่แปลกหรอก” คุณนายจี้พูด “งานครบรอบมหาวิทยาลัยตี้ตูปีที่แล้วมีศิษย์เก่าคนหนึ่งบริจาคไปห้าพันล้าน”

ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยตี้ตูตอนนี้เป็นเศรษฐีกันหมดแล้ว

เวลาบ่ายสี่โมงผลทดสอบของจี้หลีก็ออก

คะแนนเต็มหนึ่งร้อยคะแนน จี้หลีได้แปดสิบเจ็ดคะแนน

ตามกฎคือขอแค่ได้เกินเจ็ดสิบคะแนนขึ้นไปก็สามารถเข้าคลาสทดลองนี้ได้

อันดับหนึ่งของการทดสอบคราวก่อนได้คะแนนสูงกว่าจี้หลีแค่สามคะแนน

เนื่องจากเป็นคนที่อิ๋งจื่อจินแนะนำมา อีกทั้งคะแนนของจี้หลียังสูงขนาดนี้ เฉินจวิ้นเซียนจึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

เขาไปที่ฝ่ายรับนักศึกษาของสาขาชีววิทยาด้วยตัวเองเพื่อย้ายทะเบียนนักศึกษาของจี้หลีไปอยู่ในคลาสทดลองชีวเคมี

พอเฉินจวิ้นเซียนออกไป เหยียนรั่วเสวี่ยก็มาที่ฝ่ายรับนักศึกษาของสาขาชีววิทยาด้วยอารมณ์โกรธ

“ศาสตราจารย์เหยียน” เจ้าหน้าที่รู้จักเธอ จึงถามอย่างให้เกียรติ “มีเรื่องอะไรเหรอครับ”

“ค้นข้อมูลนักศึกษาที่ชื่อจี้หลีให้หน่อยค่ะ” เหยียนรั่วเสวี่ยน้ำเสียงเย็นชา “จากนั้นก็ถอนทะเบียนนักศึกษาของเธอ”

เธอนึกไม่ถึงว่าจี้หลีจะไม่มาหาเธอจริงๆ

เธออุตส่าห์เจตนาดีจะผลักดันจี้หลี แต่จี้หลีกลับไม่ไว้หน้าเธอขนาดนี้

งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องเห็นใจจี้หลีเหมือนกัน

คนเราต้องรู้จักสูญเสียซะบ้าง ถึงจะสำนึกในความผิดของตัวเอง

โปรเจ็กต์ทดลองของเธอมีแต่คนอยากเข้าร่วม ต่อให้ไม่มีจี้หลีเธอก็ยังมีตัวเลือกอีกมากมายให้เลือก

แต่ถ้าจี้หลีเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยตี้ตูไม่ได้ ขาดทุนทรัพย์ไปครึ่งหนึ่ง สถานะของครอบครัวจี้อี้หางก็จะตกต่ำอย่างรุนแรง

น่าเสียดายที่จี้หลีไม่เข้าใจหลักการพวกนี้

“ถอนทะเบียนเหรอครับ” เจ้าหน้าที่ประหลาดใจ แต่เหยียนรั่วเสวี่ยมีอำนาจในจุดนี้จริงๆ เขาจึงไม่พูดอะไรต่อ เริ่มค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์ “ศาสตราจารย์เหยียนรอสักครู่นะครับ”

เหยียนรั่วเสวี่ยรอ

ระหว่างรอจี้อี้หยวนก็ส่งข้อความหาเธอ

[คุณเหยียนครับ ถ้าโปรเจ็กต์ทดลองของคุณขาดคน ทางผมมีเด็กหลายคนที่เก่งใช้ได้ ผมแนะนำให้ได้นะครับ ไม่ต้องการผลงานอะไรมาก แค่ให้พวกเขาได้ไปฝึกฝนกับคุณก็พอครับ]

เข้าร่วมทำการทดลองก็จะมีผลงาน โดยจะได้ลดหลั่นกันไปตามลำดับในรายงาน

แต่ถ้าไม่เอาผลงาน ผลงานทั้งหมดก็จะตกเป็นของผู้รับผิดชอบใหญ่ของโปรเจ็กต์นั้น

จี้อี้หยวนต้องการแสดงออกว่า อยากดึงตัวเหยียนรั่วเสวี่ยมาอยู่กับเขาแบบเต็มตัว

เหยียนรั่วเสวี่ยหรี่ตาแล้วตอบกลับ

[ได้ค่ะ อีกเดี๋ยวให้พวกเขามา]

“ศาสตราจารย์เหยียนครับ เธอไม่ใช่นักศึกษาของคลาสทดลองชีววิทยาครับ” เวลานี้เจ้าหน้าที่เงยหน้าขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ด้วยความกระอักกระอ่วน “ถอนทะเบียนนักศึกษาของเธอไม่ได้ครับ”

สีหน้าของเหยียนรั่วเสวี่ยเย็นชาลง ชักหงุดหงิด “ทำไมจะไม่ใช่ ค้นต่อ ฉันมีเวลาไม่มาก เร็วหน่อยค่ะ”

ตอนที่เธอคัดเลือกคนได้ทำการสืบโดยเฉพาะก่อนแล้ว รู้ว่าจี้หลีกรอกความจำนงขอเข้าคลาสทดลองสาขาชีววิทยา

ถ้าทะเบียนนักศึกษาของจี้หลีไม่อยู่สาขาชีววิทยาจะไปอยู่ที่ไหนได้

“เอ๊ะ ไม่ถูกสิ นักศึกษาจี้หลีเดิมทีเป็นเด็กของคลาสทดลองชีววิทยาจริงๆ ครับ” เจ้าหน้าที่ตีหัวตัวเอง เพิ่งนึกออก “แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วครับ”

เหยียนรั่วเสวี่ยหมดความอดทน น้ำเสียงเย็นชา “ล้อฉันเล่นเหรอคะ อะไรคือเดิมทีใช่ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ทะเบียนของเธออยู่ๆ ก็หายไปได้งั้นเหรอคะ”

“ศาสตราจารย์เหยียน ผมสาบานได้ครับว่าตัวเองพูดความจริง” เจ้าหน้าที่ลำบากใจ พูดได้แค่ว่า “เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานท่านอธิการบดีได้มาย้ายทะเบียนนักศึกษาของเธอไปเองครับ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+