คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 491 โยนออกจากตระกูล นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 491 โยนออกจากตระกูล นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 491 โยนออกจากตระกูล นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง

ตระกูลเบวินเชิญคนมารักษานายใหญ่มากมาย

สาเหตุที่นักปรุงยาพิษอันดับสามสติเพี้ยนมักไปอยู่แถวชายหาดที่เป็นของตระกูลเบวิน ลงมือขายครีมกันแดดจริง แต่นั่นก็แค่การอำพราง

แท้จริงแล้วเขากำลังรักษาให้นายใหญ่ตระกูลเบวิน

ภายในร่างกายของนายใหญ่เบวินไม่ได้มีพิษแค่ชนิดเดียว พิษเหล่านี้รักษาสมดุลได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ก็พร้อมจะเล่นงานได้ทุกเมื่อ

พิษเหล่านี้แม้แต่นักปรุงยาพิษอันดับสามก็แก้ไม่ได้

ตอนนั้นริต้าถึงได้ไปหานักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง แต่นั่นก็ตัวปลอม

สิ่งที่ทำให้ริต้าคาดไม่ถึงคือ ยาที่อิ๋งจื่อจินให้เธอได้ผลจริง

นายใหญ่เบวินอาการดีขึ้นรวดเร็วแบบที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้อยู่ๆ อาการก็ทรุดลง

นายใหญ่ของสี่ตระกูลมหาเศรษฐีของยุโรปไม่เหมือนโลกจอมยุทธ์ที่คิดจะเปลี่ยนเมื่อไรก็ได้

หากนายใหญ่เบวินตาย ทั้งตระกูลเบวินก็อาจแตกแยก

เหมือนซีซาร์ ลอเรนท์ในตอนนั้น การตายของเขาทำให้ตระกูลลอเรนท์เข้าสู่ช่วงตกต่ำครั้งใหญ่

อีวาน เบวิน เป็นลูกชายคนรองของนายใหญ่เบวิน และยังมีอำนาจสืบทอด

เพียงแต่เป็นคนที่ความสามารถกลางๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น

“เอามือถือฉันคืนมา” ริต้าชักปืนสีเงินเล็งไปที่กลางหน้าผากของอีวาน ไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย

“ถ้าไม่อยากตาย”

“ริต้า เธอ…” อีวานสีหน้าเปลี่ยน จำต้องคืนโทรศัพท์มือถือให้

“ขอโทษที” มือข้างหนึ่งของริต้าถือโทรศัพท์ “ฉันคงต้องเลิกคุยกับเธอก่อน ขอไปจัดการเรื่องในบ้าน”

“ไม่เป็นไร” อิ๋งจื่อจินหาว “ฉันมีเวลา ไว้ค่อยคุยกัน”

“ได้ รบกวนด้วย” ริต้าวางสาย กวาดตามองอีวานด้วยสายตาดุดัน แสยะยิ้ม “หมอเถื่อนเหรอ ฉันยังจะพูดอยู่ว่าหมอแซ่หลินบ้าบออะไรนั่นที่ตระกูลเทเลอร์เชิญมาคือหมอเถื่อน ฉันเชิญเพื่อนฉันมา ยุ่งอะไรด้วย”

อีวานโมโหจนหัวเราะ “คุณอาเทเลอร์ไปโลกจอมยุทธ์ของประเทศจีน กว่าจะเชิญมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ คุณหลินคนนี้อยู่ที่นู่นก็มีเกียรติมาก แล้วจะเป็นหมอเถื่อนได้ยังไง”

“หรือเธอไม่รู้ว่า คุณหลินคนนี้เคยถูกวงการเล่นแร่แปรธาตุเชิญไปด้วยตัวเองด้วย”

วงการเล่นแร่แปรธาตุเป็นสถานที่ลึกลับเสียยิ่งกว่าโลกจอมยุทธ

เป็นปริศนาสำหรับสี่ตระกูลมหาเศรษฐีแห่งยุโรป

อีกทั้งนักเล่นแร่แปรธาตุที่แท้จริงก็ไม่เคยปรากฏตัวมานานมากแล้ว

“เอาสิ” ริต้าขมวดคิ้ว “งั้นพอถึงตอนนั้นก็ลองดูว่าใครกันแน่ที่เป็นหมอเถื่อน”

อีวานแสยะยิ้มไม่พูดอะไร

ขณะที่ทั้งสองคนประจันหน้ากันอยู่นั้น อยู่ๆ พ่อบ้านก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา

“คุณหนูริต้า คุณชายอีวาน อยู่ๆ คุณท่านก็หมดสติไปอีกแล้วครับ”

ริต้าสีหน้าเปลี่ยน เก็บปืน รีบตามออกไปทันที

ภายในห้องรักษา อาการของนายใหญ่เบวินไม่สู้ดีนัก

หมอสิบกว่าคนล้อมอยู่ ผ่านไปนานกว่าจะกดพิษในร่างกายของนายใหญ่เบวินไว้ได้ชั่วคราว

หมอเจ้าของไข้ถอดผ้าปิดปากออก เช็ดเหงื่อ สีหน้าหนักใจ “คุณหนูริต้าครับ ต้องรีบตามหาหมอเทวดามาให้เร็วที่สุด อย่างมากก็หนึ่งเดือน พวกเราจนปัญญาแล้วจริงๆ ครับ”

ริต้าเม้มริมฝีปาก “ทราบค่ะ”

เธอครุ่นคิด จากนั้นก็โพสต์งานล่ารางวัลลงในเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

ทางด้านตระกูลจี้ในโลกจอมยุทธ

งานประมูลครั้งนี้ทำตระกูลจี้เสียหายอย่างรุนแรง

ตอนที่นายใหญ่ตระกูลจี้ถูกคนคุ้มกันหามกลับไปได้สลบไปแล้ว

บรรดาผู้นำตระกูลและผู้อาวุโสของตระกูลจี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรจริงๆ

ล่วงเกินเย่ว์ฝูอีกับเปลี่ยนนายใหญ่ แน่นอนว่าต้องเลือกอย่างหลัง

คนที่สภาพแย่กว่านายใหญ่ตระกูลจี้คือจี้เทียนฮ่าว เส้นเสียงของเขาถูกอิ๋งจื่อจินบีบจนพัง แขนขาทั้งสี่ก็หักหมด

“เย่ว์ฝูอีโหดมากจริงๆ” ผู้อาวุโสตระกูลจี้ขมวดคิ้ว “หวังว่าสักวันเธอจะไปเจอของแข็งบ้าง ดูซิยังจะกล้าทำตัวอวดดีไหม”

จี้เทียนฮ่าวไม่ได้ฆ่าคน ก็แค่ชอบสาวสวย ดีกว่าจอมยุทธคนอื่นตั้งเยอะ

บรรดาผู้ใหญ่ของตระกูลจี้ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาตรงไหน

ผู้อาวุโสตระกูลจี้โบกมือ “หามออกไป ไม่ต้องเชิญหมอแผนโบราณมาแล้ว”

จี้เทียนฮ่าวสภาพนี้แล้ว ก็คงพิการอย่างเดียว

เชิญหมอมายังต้องเสียเงินเสียทอง ไม่จำเป็น

อวัยวะเดียวที่ยังทำงานได้ดีของจี้เทียนฮ่าวก็คือหู พอได้ยินแบบนี้เขาก็พยายามถลึงตา สีหน้าทุรนทุราย

เขาอยากบอกว่าไม่ใช่ฝีมือเย่ว์ฝูอี แต่ปากพูดไม่ได้ มือก็เขียนไม่ได้ เขาถูกหามออกไปทั้งแบบนั้น แม้แต่ดิ้นรนก็ทำไม่ได้ ถูกเอาไปโยนทิ้งบนเขาร้าง

ตระกูลจี้โหดเหี้ยม คนที่ไร้ค่าจุดจบยิ่งน่าเวทนา

เรื่องที่จี้เทียนฮ่าวถูกโยนออกจากตระกูลจี้ อวิ๋นซานไปรายงานให้ฟู่อวิ๋นเซินฟังอย่างรวดเร็ว

ฟู่อวิ๋นเซินเชิดคางเล็กน้อย “ช่วยผสานกระดูกแล้วลากไปขังไว้ที่ศาลสถิตยุติธรรม”

พอได้ยินแบบนี้อวิ๋นซานก็ล้วงกระสอบออกมาแล้วเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี

อยู่นอกโลกจอมยุทธ์ต้องสงบเสงี่ยม เขาคันไม้คันมือมานานแล้ว

ในที่สุดตอนนี้ก็ได้เก็บพวกไม่ดูตาม้าตาเรือ เขาจะเอาให้สนุกสุดเหวี่ยง

พออวิ๋นซานออกไปฟู่อวิ๋นเซินก็ลุกขึ้น ไปเรือนที่อยู่ด้านนอก “เยาเยา กินข้าว”

อิ๋งจื่อจินลืมตาขึ้น มองสีท้องฟ้า พบว่าดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว

เธอยืนขึ้น “ไปเถอะ”

นี่เป็นงานเลี้ยงภายในครอบครัว บรรยากาศสนุกสนานเป็นกันเอง

หลังจากกินข้าวเสร็จฟู่อวิ๋นเซินก็ถูกหลิงฉงโหลวชวนไปสอนเจียงหรานฝึกกระบวนท่าต่างๆ ที่สนามฝึก

อิ๋งจื่อจินดูอยู่ข้างๆ

เจียงฮว่าผิงเดินมาที่ข้างเธอ เงียบอยู่สักพักถึงพูดขึ้น “เรื่องบางอย่างเขาไม่มีทางบอกเธอ ฉันคิดๆ ดูแล้ว พูดออกมาดีกว่า”

“ครั้งที่เขาเจ็บหนักที่สุด ปอดกับหัวใจทะลุ ล้มลงที่หน้าบ้านตระกูลหลิง เลือดท่วมตัว แต่เขาก็อดทนออกไปจากตรงนั้นด้วยตัวเอง”

แววตาของอิ๋งจื่อจินเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ป้าเจียง?”

“เขาขอเอง” เจียงฮว่าผิงถอนหายใจเบาๆ” ถึงแม้ตระกูลหลิงจะไม่ใหญ่ แต่ถ้าให้ปกป้องเขาก็ไม่มีปัญหา แต่เขาบอกว่าเขาต้องสัมผัสถึงความรู้สึกเฉียดตายบ่อยๆ เท่านั้นถึงจะทำให้ตัวเองก้าวหน้าไม่หยุด”

“ตอนนั้นสภาพของเขาไม่ต่างจากซอมบี้ เขามีชีวิตเพื่อล้างแค้น”

เจียงฮว่าผิงหันมาจับมืออิ๋งจื่อจิน “ขอบคุณนะที่ทำให้เขามีความหวังอีกครั้ง”

“ไม่เลยค่ะ” อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง “ควรเป็นหนูที่ขอบคุณเขา”

“อีกหน่อยพวกเธอแต่งงานอย่าลืมเชิญป้านะ” เจียงฮว่าผิงยิ้ม “หลิวอิ๋งไม่ได้เห็นแล้ว ฉันจะไปดูแทนหลิวอิ๋งเอง”

อิ๋งจื่อจินมองผู้ชายร่างสูงที่อยู่ในสนามฝึก สายตาเคลื่อนไปตามการเคลื่อนไหวของเขา

ตอนเย็นพอกลับถึงห้อง อิ๋งจื่อจินก็ดูเวลาแล้วติดต่อเวินทิงหลานที่อยู่ไกลถึงมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

“พี่” บนหน้าจอปรากฏภาพเด็กหนุ่ม “วันนี้รองอธิการมาพูดกับผมเรื่องพี่อีกแล้ว”

อิ๋งจื่อจินหรี่ตาเล็กน้อย “เขาพูดว่ายังไง”

“บอกว่าพี่หาเงินเก่ง”

“…”

“พี่มีเรื่องจะคุยกับนายหน่อย” อิ๋งจื่อจินจับหัว “ชีวิตในมหา’ลัยเป็นไงบ้าง”

“ชินแล้ว” เวินทิงหลานคิดแล้วหยิบอาวุธรุ่นใหม่ออกมาจากตู้ของตัวเอง “พี่ นี่เป็นอาวุธที่ผมกับพวกรุ่นพี่คิดค้นขึ้นมา แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เป็นอาวุธเลเซอร์ ไม่รู้ว่าตอนผมเรียนจบจะทำได้สำเร็จหรือเปล่า”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “อาวุธเลเซอร์เหรอ”

“ก็คล้ายๆ ในเรื่องสตาร์วอร์ พี่เคยดูไหม”

“ไม่ดู พี่ดูแค่ละครน้ำเน่า”

“…”

เวินทิงหลานเก็บอาวุธชนิดใหม่ ไว้อาลัยสองวินาทีแล้วพูดต่อ “อาจารย์ในมหา’ลัยก็ดี อาหารของโรงอาหารก็อร่อย ผมได้ใบรับรองระดับเอจากวิชาศิลปะป้องกันตัวมาแล้วนะ”

อิ๋งจื่อจินรู้จักวิชาศิลปะป้องกันตัวของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน มีศาสตราจารย์จากคณะเล่นแร่แปรธาตุมาช่วยสอนด้วย

หากต้องการเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยนอร์ตันต้องได้ใบรับรองระดับเอส

เวินทิงหลานได้ใบรับรองระดับเอก็แสดงว่าฝีมือของเขาในตอนนี้ไม่ด้อยไปกว่าจอมยุทธที่วรยุทธสิบปี

ซึ่งจอมยุทธที่ฝึกได้ระดับนี้ แปดสิบเปอร์เซ็นต์อายุสามสิบแล้ว

“เสี่ยวหลาน” อิ๋งจื่อจินหยุดเล็กน้อย “พี่เจอผู้หญิงที่ตอนนั้นทิ้งพ่อไปแล้ว”

เวินทิงหลานที่หน้าขรึมอยู่ตลอดสีหน้าเปลี่ยนไป “พี่?”

“ผู้หญิงคนนั้นแต่งงานกับนายใหญ่ของตระกูลหนึ่งในโลกจอมยุทธ” อิ๋งจื่อจินพูด “ตอนนั้นเธอจงใจทำร้ายนาย”

เวินทิงหลานเม้มริมฝีปากแน่น มือเริ่มสั่น “จงใจเหรอ”

ตอนแรกสุดที่เขาเกลียดอันโหรวจิ่นเป็นเพราะอันโหรวจิ่นทอดทิ้งเวินเฟิงเหมียน

แต่เขาก็อยากได้ความรักของแม่จริงๆ

แต่นึกไม่ถึงว่าอันโหรวจิ่นจะจงใจขังเขาไว้ในห้องมืด

ความรู้สึกอึดอัดในความมืดแบบนั้น จนถึงตอนนี้เขาก็ยังจำได้

“ตอนนี้พี่ยังอยู่ในโลกจอมยุทธ ก็เลยอยากถามนาย…” อิ๋งจื่อจินเอามือเคาะโต๊ะ สายตาเรียบเฉย “นายอยากให้ทำยังไง”

น้ำเสียงราบเรียบ เจือด้วยความไม่จริงจัง แต่เวินทิงหลานฟังแล้วรู้สึกว่า

พี่ช่วยนายจัดการได้ สบายๆ เหมือนดื่มชา

เลือกมาสักหนึ่งบริการ รับรองทุกระดับประทับใจ

หลังจากเงียบไปนานมาก เสียงแหบแห้งของเด็กหนุ่มก็ดังขึ้น “พี่ ผมขอ…คิดดูก่อน”

“ได้” อิ๋งจื่อจินมองโทรศัพท์มือถือ “ขอพี่รับสายก่อนนะ”

ริต้าโทรมา

“ขอโทษที ในตระกูลมีเรื่องยุ่งๆ เยอะ” เสียงของริต้าดูเหนื่อย

“เธอจะมาเมื่อไร ฉันจะได้ส่งคนไปรับ แต่ตอนนี้ตระกูลเราไม่ปลอดภัย ฉันอาจรับรองความปลอดภัยให้เธอไม่ได้”

“ฉันไปเอง” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ “ได้ยินว่าพวกเธอต้องการนักปรุงยาพิษเหรอ”

“ใช่” ริต้าถอนหายใจ “ยังไงซะพ่อฉันก็ถูกพิษ แต่ฉันเชื่อในตัวเธอ เธอเก่งมาก เก่งกว่านักปรุงยาพิษอันดับสามสมองเพี้ยนนั่นเยอะ เธอก็เป็นนักปรุงยาพิษใช่ไหม”

“อีวานสมองกลวง ฉันเชิญนักปรุงยาพิษมาเสียหน่อย ไว้เธอมาเอาให้พวกเขาหน้าหงายเลยนะ”

มีนักปรุงยาพิษกลายคนที่ไม่ได้อยู่บนชาร์ตอันดับ

ริต้าเดาว่าอิ๋งจื่อจินอาจเก็บตัวมาตลอด

“เอาแบบนี้” อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดแล้วพูดขึ้น “บอกพวกเขาว่าเธอเชิญนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งมา”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 491 โยนออกจากตระกูล นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 491 โยนออกจากตระกูล นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 491 โยนออกจากตระกูล นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง

ตระกูลเบวินเชิญคนมารักษานายใหญ่มากมาย

สาเหตุที่นักปรุงยาพิษอันดับสามสติเพี้ยนมักไปอยู่แถวชายหาดที่เป็นของตระกูลเบวิน ลงมือขายครีมกันแดดจริง แต่นั่นก็แค่การอำพราง

แท้จริงแล้วเขากำลังรักษาให้นายใหญ่ตระกูลเบวิน

ภายในร่างกายของนายใหญ่เบวินไม่ได้มีพิษแค่ชนิดเดียว พิษเหล่านี้รักษาสมดุลได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ก็พร้อมจะเล่นงานได้ทุกเมื่อ

พิษเหล่านี้แม้แต่นักปรุงยาพิษอันดับสามก็แก้ไม่ได้

ตอนนั้นริต้าถึงได้ไปหานักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง แต่นั่นก็ตัวปลอม

สิ่งที่ทำให้ริต้าคาดไม่ถึงคือ ยาที่อิ๋งจื่อจินให้เธอได้ผลจริง

นายใหญ่เบวินอาการดีขึ้นรวดเร็วแบบที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้อยู่ๆ อาการก็ทรุดลง

นายใหญ่ของสี่ตระกูลมหาเศรษฐีของยุโรปไม่เหมือนโลกจอมยุทธ์ที่คิดจะเปลี่ยนเมื่อไรก็ได้

หากนายใหญ่เบวินตาย ทั้งตระกูลเบวินก็อาจแตกแยก

เหมือนซีซาร์ ลอเรนท์ในตอนนั้น การตายของเขาทำให้ตระกูลลอเรนท์เข้าสู่ช่วงตกต่ำครั้งใหญ่

อีวาน เบวิน เป็นลูกชายคนรองของนายใหญ่เบวิน และยังมีอำนาจสืบทอด

เพียงแต่เป็นคนที่ความสามารถกลางๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น

“เอามือถือฉันคืนมา” ริต้าชักปืนสีเงินเล็งไปที่กลางหน้าผากของอีวาน ไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย

“ถ้าไม่อยากตาย”

“ริต้า เธอ…” อีวานสีหน้าเปลี่ยน จำต้องคืนโทรศัพท์มือถือให้

“ขอโทษที” มือข้างหนึ่งของริต้าถือโทรศัพท์ “ฉันคงต้องเลิกคุยกับเธอก่อน ขอไปจัดการเรื่องในบ้าน”

“ไม่เป็นไร” อิ๋งจื่อจินหาว “ฉันมีเวลา ไว้ค่อยคุยกัน”

“ได้ รบกวนด้วย” ริต้าวางสาย กวาดตามองอีวานด้วยสายตาดุดัน แสยะยิ้ม “หมอเถื่อนเหรอ ฉันยังจะพูดอยู่ว่าหมอแซ่หลินบ้าบออะไรนั่นที่ตระกูลเทเลอร์เชิญมาคือหมอเถื่อน ฉันเชิญเพื่อนฉันมา ยุ่งอะไรด้วย”

อีวานโมโหจนหัวเราะ “คุณอาเทเลอร์ไปโลกจอมยุทธ์ของประเทศจีน กว่าจะเชิญมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ คุณหลินคนนี้อยู่ที่นู่นก็มีเกียรติมาก แล้วจะเป็นหมอเถื่อนได้ยังไง”

“หรือเธอไม่รู้ว่า คุณหลินคนนี้เคยถูกวงการเล่นแร่แปรธาตุเชิญไปด้วยตัวเองด้วย”

วงการเล่นแร่แปรธาตุเป็นสถานที่ลึกลับเสียยิ่งกว่าโลกจอมยุทธ

เป็นปริศนาสำหรับสี่ตระกูลมหาเศรษฐีแห่งยุโรป

อีกทั้งนักเล่นแร่แปรธาตุที่แท้จริงก็ไม่เคยปรากฏตัวมานานมากแล้ว

“เอาสิ” ริต้าขมวดคิ้ว “งั้นพอถึงตอนนั้นก็ลองดูว่าใครกันแน่ที่เป็นหมอเถื่อน”

อีวานแสยะยิ้มไม่พูดอะไร

ขณะที่ทั้งสองคนประจันหน้ากันอยู่นั้น อยู่ๆ พ่อบ้านก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา

“คุณหนูริต้า คุณชายอีวาน อยู่ๆ คุณท่านก็หมดสติไปอีกแล้วครับ”

ริต้าสีหน้าเปลี่ยน เก็บปืน รีบตามออกไปทันที

ภายในห้องรักษา อาการของนายใหญ่เบวินไม่สู้ดีนัก

หมอสิบกว่าคนล้อมอยู่ ผ่านไปนานกว่าจะกดพิษในร่างกายของนายใหญ่เบวินไว้ได้ชั่วคราว

หมอเจ้าของไข้ถอดผ้าปิดปากออก เช็ดเหงื่อ สีหน้าหนักใจ “คุณหนูริต้าครับ ต้องรีบตามหาหมอเทวดามาให้เร็วที่สุด อย่างมากก็หนึ่งเดือน พวกเราจนปัญญาแล้วจริงๆ ครับ”

ริต้าเม้มริมฝีปาก “ทราบค่ะ”

เธอครุ่นคิด จากนั้นก็โพสต์งานล่ารางวัลลงในเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

ทางด้านตระกูลจี้ในโลกจอมยุทธ

งานประมูลครั้งนี้ทำตระกูลจี้เสียหายอย่างรุนแรง

ตอนที่นายใหญ่ตระกูลจี้ถูกคนคุ้มกันหามกลับไปได้สลบไปแล้ว

บรรดาผู้นำตระกูลและผู้อาวุโสของตระกูลจี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรจริงๆ

ล่วงเกินเย่ว์ฝูอีกับเปลี่ยนนายใหญ่ แน่นอนว่าต้องเลือกอย่างหลัง

คนที่สภาพแย่กว่านายใหญ่ตระกูลจี้คือจี้เทียนฮ่าว เส้นเสียงของเขาถูกอิ๋งจื่อจินบีบจนพัง แขนขาทั้งสี่ก็หักหมด

“เย่ว์ฝูอีโหดมากจริงๆ” ผู้อาวุโสตระกูลจี้ขมวดคิ้ว “หวังว่าสักวันเธอจะไปเจอของแข็งบ้าง ดูซิยังจะกล้าทำตัวอวดดีไหม”

จี้เทียนฮ่าวไม่ได้ฆ่าคน ก็แค่ชอบสาวสวย ดีกว่าจอมยุทธคนอื่นตั้งเยอะ

บรรดาผู้ใหญ่ของตระกูลจี้ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาตรงไหน

ผู้อาวุโสตระกูลจี้โบกมือ “หามออกไป ไม่ต้องเชิญหมอแผนโบราณมาแล้ว”

จี้เทียนฮ่าวสภาพนี้แล้ว ก็คงพิการอย่างเดียว

เชิญหมอมายังต้องเสียเงินเสียทอง ไม่จำเป็น

อวัยวะเดียวที่ยังทำงานได้ดีของจี้เทียนฮ่าวก็คือหู พอได้ยินแบบนี้เขาก็พยายามถลึงตา สีหน้าทุรนทุราย

เขาอยากบอกว่าไม่ใช่ฝีมือเย่ว์ฝูอี แต่ปากพูดไม่ได้ มือก็เขียนไม่ได้ เขาถูกหามออกไปทั้งแบบนั้น แม้แต่ดิ้นรนก็ทำไม่ได้ ถูกเอาไปโยนทิ้งบนเขาร้าง

ตระกูลจี้โหดเหี้ยม คนที่ไร้ค่าจุดจบยิ่งน่าเวทนา

เรื่องที่จี้เทียนฮ่าวถูกโยนออกจากตระกูลจี้ อวิ๋นซานไปรายงานให้ฟู่อวิ๋นเซินฟังอย่างรวดเร็ว

ฟู่อวิ๋นเซินเชิดคางเล็กน้อย “ช่วยผสานกระดูกแล้วลากไปขังไว้ที่ศาลสถิตยุติธรรม”

พอได้ยินแบบนี้อวิ๋นซานก็ล้วงกระสอบออกมาแล้วเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี

อยู่นอกโลกจอมยุทธ์ต้องสงบเสงี่ยม เขาคันไม้คันมือมานานแล้ว

ในที่สุดตอนนี้ก็ได้เก็บพวกไม่ดูตาม้าตาเรือ เขาจะเอาให้สนุกสุดเหวี่ยง

พออวิ๋นซานออกไปฟู่อวิ๋นเซินก็ลุกขึ้น ไปเรือนที่อยู่ด้านนอก “เยาเยา กินข้าว”

อิ๋งจื่อจินลืมตาขึ้น มองสีท้องฟ้า พบว่าดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว

เธอยืนขึ้น “ไปเถอะ”

นี่เป็นงานเลี้ยงภายในครอบครัว บรรยากาศสนุกสนานเป็นกันเอง

หลังจากกินข้าวเสร็จฟู่อวิ๋นเซินก็ถูกหลิงฉงโหลวชวนไปสอนเจียงหรานฝึกกระบวนท่าต่างๆ ที่สนามฝึก

อิ๋งจื่อจินดูอยู่ข้างๆ

เจียงฮว่าผิงเดินมาที่ข้างเธอ เงียบอยู่สักพักถึงพูดขึ้น “เรื่องบางอย่างเขาไม่มีทางบอกเธอ ฉันคิดๆ ดูแล้ว พูดออกมาดีกว่า”

“ครั้งที่เขาเจ็บหนักที่สุด ปอดกับหัวใจทะลุ ล้มลงที่หน้าบ้านตระกูลหลิง เลือดท่วมตัว แต่เขาก็อดทนออกไปจากตรงนั้นด้วยตัวเอง”

แววตาของอิ๋งจื่อจินเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ป้าเจียง?”

“เขาขอเอง” เจียงฮว่าผิงถอนหายใจเบาๆ” ถึงแม้ตระกูลหลิงจะไม่ใหญ่ แต่ถ้าให้ปกป้องเขาก็ไม่มีปัญหา แต่เขาบอกว่าเขาต้องสัมผัสถึงความรู้สึกเฉียดตายบ่อยๆ เท่านั้นถึงจะทำให้ตัวเองก้าวหน้าไม่หยุด”

“ตอนนั้นสภาพของเขาไม่ต่างจากซอมบี้ เขามีชีวิตเพื่อล้างแค้น”

เจียงฮว่าผิงหันมาจับมืออิ๋งจื่อจิน “ขอบคุณนะที่ทำให้เขามีความหวังอีกครั้ง”

“ไม่เลยค่ะ” อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง “ควรเป็นหนูที่ขอบคุณเขา”

“อีกหน่อยพวกเธอแต่งงานอย่าลืมเชิญป้านะ” เจียงฮว่าผิงยิ้ม “หลิวอิ๋งไม่ได้เห็นแล้ว ฉันจะไปดูแทนหลิวอิ๋งเอง”

อิ๋งจื่อจินมองผู้ชายร่างสูงที่อยู่ในสนามฝึก สายตาเคลื่อนไปตามการเคลื่อนไหวของเขา

ตอนเย็นพอกลับถึงห้อง อิ๋งจื่อจินก็ดูเวลาแล้วติดต่อเวินทิงหลานที่อยู่ไกลถึงมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

“พี่” บนหน้าจอปรากฏภาพเด็กหนุ่ม “วันนี้รองอธิการมาพูดกับผมเรื่องพี่อีกแล้ว”

อิ๋งจื่อจินหรี่ตาเล็กน้อย “เขาพูดว่ายังไง”

“บอกว่าพี่หาเงินเก่ง”

“…”

“พี่มีเรื่องจะคุยกับนายหน่อย” อิ๋งจื่อจินจับหัว “ชีวิตในมหา’ลัยเป็นไงบ้าง”

“ชินแล้ว” เวินทิงหลานคิดแล้วหยิบอาวุธรุ่นใหม่ออกมาจากตู้ของตัวเอง “พี่ นี่เป็นอาวุธที่ผมกับพวกรุ่นพี่คิดค้นขึ้นมา แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เป็นอาวุธเลเซอร์ ไม่รู้ว่าตอนผมเรียนจบจะทำได้สำเร็จหรือเปล่า”

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “อาวุธเลเซอร์เหรอ”

“ก็คล้ายๆ ในเรื่องสตาร์วอร์ พี่เคยดูไหม”

“ไม่ดู พี่ดูแค่ละครน้ำเน่า”

“…”

เวินทิงหลานเก็บอาวุธชนิดใหม่ ไว้อาลัยสองวินาทีแล้วพูดต่อ “อาจารย์ในมหา’ลัยก็ดี อาหารของโรงอาหารก็อร่อย ผมได้ใบรับรองระดับเอจากวิชาศิลปะป้องกันตัวมาแล้วนะ”

อิ๋งจื่อจินรู้จักวิชาศิลปะป้องกันตัวของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน มีศาสตราจารย์จากคณะเล่นแร่แปรธาตุมาช่วยสอนด้วย

หากต้องการเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยนอร์ตันต้องได้ใบรับรองระดับเอส

เวินทิงหลานได้ใบรับรองระดับเอก็แสดงว่าฝีมือของเขาในตอนนี้ไม่ด้อยไปกว่าจอมยุทธที่วรยุทธสิบปี

ซึ่งจอมยุทธที่ฝึกได้ระดับนี้ แปดสิบเปอร์เซ็นต์อายุสามสิบแล้ว

“เสี่ยวหลาน” อิ๋งจื่อจินหยุดเล็กน้อย “พี่เจอผู้หญิงที่ตอนนั้นทิ้งพ่อไปแล้ว”

เวินทิงหลานที่หน้าขรึมอยู่ตลอดสีหน้าเปลี่ยนไป “พี่?”

“ผู้หญิงคนนั้นแต่งงานกับนายใหญ่ของตระกูลหนึ่งในโลกจอมยุทธ” อิ๋งจื่อจินพูด “ตอนนั้นเธอจงใจทำร้ายนาย”

เวินทิงหลานเม้มริมฝีปากแน่น มือเริ่มสั่น “จงใจเหรอ”

ตอนแรกสุดที่เขาเกลียดอันโหรวจิ่นเป็นเพราะอันโหรวจิ่นทอดทิ้งเวินเฟิงเหมียน

แต่เขาก็อยากได้ความรักของแม่จริงๆ

แต่นึกไม่ถึงว่าอันโหรวจิ่นจะจงใจขังเขาไว้ในห้องมืด

ความรู้สึกอึดอัดในความมืดแบบนั้น จนถึงตอนนี้เขาก็ยังจำได้

“ตอนนี้พี่ยังอยู่ในโลกจอมยุทธ ก็เลยอยากถามนาย…” อิ๋งจื่อจินเอามือเคาะโต๊ะ สายตาเรียบเฉย “นายอยากให้ทำยังไง”

น้ำเสียงราบเรียบ เจือด้วยความไม่จริงจัง แต่เวินทิงหลานฟังแล้วรู้สึกว่า

พี่ช่วยนายจัดการได้ สบายๆ เหมือนดื่มชา

เลือกมาสักหนึ่งบริการ รับรองทุกระดับประทับใจ

หลังจากเงียบไปนานมาก เสียงแหบแห้งของเด็กหนุ่มก็ดังขึ้น “พี่ ผมขอ…คิดดูก่อน”

“ได้” อิ๋งจื่อจินมองโทรศัพท์มือถือ “ขอพี่รับสายก่อนนะ”

ริต้าโทรมา

“ขอโทษที ในตระกูลมีเรื่องยุ่งๆ เยอะ” เสียงของริต้าดูเหนื่อย

“เธอจะมาเมื่อไร ฉันจะได้ส่งคนไปรับ แต่ตอนนี้ตระกูลเราไม่ปลอดภัย ฉันอาจรับรองความปลอดภัยให้เธอไม่ได้”

“ฉันไปเอง” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ “ได้ยินว่าพวกเธอต้องการนักปรุงยาพิษเหรอ”

“ใช่” ริต้าถอนหายใจ “ยังไงซะพ่อฉันก็ถูกพิษ แต่ฉันเชื่อในตัวเธอ เธอเก่งมาก เก่งกว่านักปรุงยาพิษอันดับสามสมองเพี้ยนนั่นเยอะ เธอก็เป็นนักปรุงยาพิษใช่ไหม”

“อีวานสมองกลวง ฉันเชิญนักปรุงยาพิษมาเสียหน่อย ไว้เธอมาเอาให้พวกเขาหน้าหงายเลยนะ”

มีนักปรุงยาพิษกลายคนที่ไม่ได้อยู่บนชาร์ตอันดับ

ริต้าเดาว่าอิ๋งจื่อจินอาจเก็บตัวมาตลอด

“เอาแบบนี้” อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดแล้วพูดขึ้น “บอกพวกเขาว่าเธอเชิญนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งมา”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+