คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 492 เล่นเอาช็อกไปเลย! นักฆ่าอันดับหนึ่ง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 492 เล่นเอาช็อกไปเลย! นักฆ่าอันดับหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 492 เล่นเอาช็อกไปเลย! นักฆ่าอันดับหนึ่ง

กำลังคิดว่า รออิ๋งจื่อจินมา อีวานจะโมโหขนาดไหน

อยู่ๆ เธอก็ได้ยินคำพูดที่ไม่ทันตั้งตัว มือสั่น โทรศัพท์มือถือเกือบตก “เธอ…เธอว่าไงนะ”

ถึงแม้ว่านักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งจะไม่มีแม้แต่ชื่ออยู่บนชาร์ตอันดับของเอ็นโอเค แต่ก็ยังคงสร้างความหวาดกลัวให้นักล่าคนอื่นได้

นักปรุงยาพิษลึกลับเกินคาดเดา มีแค่นักสะกดจิตที่เก่งมากเท่านั้นถึงจะพอปราบพวกเขาได้

ไม่มีนักล่าคนไหนอยากเป็นศัตรูกับนักปรุงยาพิษห้าอันดับแรก

ถึงแม้นักปรุงยาพิษอันดับสามจะดูเพี้ยนๆ แต่ความสามารถของเขาก็ไร้ข้อกังขา

นักปรุงยาพิษอันดับสองลึกลับ แต่เมื่อออกมาก็จะวางยาพิษ

ร่องรอยของนักปรุงยาพิษอันดับสองครั้งล่าสุดก็ผ่านมาสองปีกว่าแล้ว คล้ายกับหายไปจากโลกนี้แล้ว

ริต้ารู้ว่า ไอบีไอกับศูนย์ไวรัสสากลกำลังตามจับนักปรุงยาพิษอันดับสอง

“ฉันบอกว่า…” อิ๋งจื่อจินเปลี่ยนวิธีพูด เสียงเนือย “ฉันจะไปถอนพิษให้พ่อของเธอในนามของนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง”

ปรากฏว่าคำพูดนี้ทำให้ริต้ามือสั่นหนักกว่าเดิม

ภาพในอดีตจำนวนมากต่างปรากฏในสมองของเธออย่างรวดเร็ว

เธอนึกถึงตอนนั้นที่เธอถามอิ๋งจื่อจินว่านักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งทำอะไร อิ๋งจื่อจินตอบว่า ล่าตัวปลอม

เธอนึกถึงตอนที่เธอกับอิ๋งจื่อจินไปเจอตัวปลอม อิ๋งจื่อจินใจเย็นมาก ทั้งยังกล้าลงมือโดยตรง

นี่ก็เพราะ…

สุดท้ายสมองของริต้าก็เหลือเพียงคำว่า

Fuck!

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งเป็นเด็กสาวที่เด็กกว่าเธออีก!

แบบนี้นักล่าคนอื่นยังเหลือที่ให้ยืนอีกเหรอ

ริต้าเป็นคนเก่ง แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็เลยมั่นใจ ทั้งยังอวดดี

สาเหตุที่เธอเป็นที่ชื่นชอบบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเค นอกจากภูมิหลังเรื่องชาติตระกูลของเธอแล้ว ยังเป็นเพราะเธอได้ติดชาร์ตนักล่าทั้งที่อายุน้อยมาก

ริต้ายังค่อนข้างหลงตัวเอง แต่ถ้าใครเอาชนะเธอได้ เธอกลับดีใจด้วยซ้ำ เพราะจะได้มีแบบอย่างให้เรียนรู้

ตอนนั้นบนเกาะรวมนักล่าที่อยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิก เธอเห็นความสามารถของอิ๋งจื่อจินในการยิงเป้า ของแบบนี้ไม่ต้องพูดถึงฝีมือของนักแม่นปืนห้าอันดับแรก

นักแม่นปืนขั้นเทพ ยิงร้อยโดนร้อย ถึงสมควรถูกเรียกว่านักแม่นปืนขั้นเทพ

แต่อิ๋งจื่อจินไม่ได้ติดอันดับ

ดังนั้นต่อมาหลังจากที่อิ๋งจื่อจินให้ยาเธอไปรักษาพ่อจนอาการดีขึ้น เธอถึงเดาว่าอิ๋งจื่อจินอาจเป็นนักปรุงยาพิษที่หลบซ่อนตัว

ใครจะไปคิดว่าพอเปิดเผยตัวตนขึ้นมาก็เล่นเอาช็อกสุดๆ

ริต้ายังไม่ได้สติกลับมา สมองยังประมวลผลสับสนอยู่

อิ๋งจื่อจินรออยู่หนึ่งนาทีก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับ “ฮัลโหล”

“ขอ…ขอฉันตั้งสติหน่อย!” ริต้าตามเสียงตัวเองกลับมาอย่างยากลำบาก พูดตะกุกตะกัก “ฉันช็อกนิดหน่อย อยากไปกระโดดน้ำเสียตอนนี้”

อิ๋งจื่อจิน “…”

ไม่ต้องขนาดนั้น

ปลายสายมีเสียงเปิดน้ำ ผ่านไปอีกหลายนาทีริต้าถึงพูดขึ้นด้วยความระมัดระวัง “เธอ…เธอพูดออกมาแบบนี้ไม่กลัวเกิดเรื่องเหรอ”

พวกนักล่าปกปิดตัวตนกันมาตลอด เพราะนักล่าที่อยู่อันดับต้นๆ มีศัตรูอยู่ไม่น้อย

เท่าที่เธอรู้ เมื่อสองปีก่อนผู้สืบทอดของตระกูลแมนสันถูกลอบฆ่า ตระกูลแมนสันกำลังทุ่มเทล่าตัวนักฆ่าคนนี้ เพียงแต่ยังไม่พบตัว

แน่นอนว่านักล่าที่ศัตรูเยอะที่สุดต้องเป็นนักล่าอันดับหนึ่ง

โดยทั่วไปงานที่อยู่บนเว็บบอร์ดจะไม่มีทางเป็นนักล่า แต่นักฆ่าอันดับหนึ่งคนนี้ได้ถูกล่าตัว

ปีที่แล้วริต้าเห็นงานนี้ ค่าหัวของนักฆ่าอันดับหนึ่งคือพันล้านดอลลาร์ ปีนี้พุ่งขึ้นไปอีกหนึ่งเท่า

อิ๋งจื่อจินตอบ “พวกเขาก็ต้องมีความสามารถนั้นก่อน”

เธอเป็นนักปรุงยาพิษ ส่วนหนึ่งใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุ อีกส่วนใช้วิชาแพทย์แผนโบราณ

กำลังภายในที่แพทย์แผนโบราณใช้ไม่ต้องลึกล้ำมาก ดังนั้นขอแค่มีส่วนประกอบเธอก็สามารถทำพิษขึ้นมาได้

แต่ปัญหาอยู่ที่ส่วนประกอบมีน้อยเกินไป

ริต้าชะงัก

ก็จริง

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งมีพิษทั้งตัว ถ้าพวกนักล่าได้ข่าวจะต้องหนีไปให้ไกลก่อนแน่นอน

เธอรู้สึกโชคดีที่ยังไม่ถูกพิษตาย

“งั้น งั้นก็ได้” ริต้าพูด “ฉันจะเล่าอาการของพ่อในช่วงนี้ให้ฟัง”

อิ๋งจื่อจินฟังจบก็พูดขึ้น “ฉันต้องไปตรวจดูที่นั่นให้ละเอียดอีกที เธอเตรียมสมุนไพรก่อนแล้วกัน”

“ได้ๆๆ” ริต้าจดสมุนไพรสิบกว่าชื่อที่อิ๋งจื่อจินบอกมา “ไว้เธอมาถึงพวกเราค่อยติดต่อกัน”

เธอวางสาย ผ่านไปนานก็ยังสงบจิตสงบใจไม่ได้

หนึ่งชั่วโมงต่อมาริต้าก็ใจเย็นลง เข้าเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

งานที่เธอโพสต์ไว้อยู่ในหน้าหลัก มีคนมาตอบมากมาย แต่ไม่มีคนรับงานนี้ แค่บอกว่าไปลองดูได้

ขนาดนักปรุงยาพิษอันดับสามยังทำไม่สำเร็จ พวกเขาจะไปทำอะไรได้

ริต้าเริ่มพิมพ์ตอบกลับ

[มีคนรับงานแล้ว ทุกคนแยกย้ายได้ ไว้ไปซื้อของห้างที่ฉันเปิดนะ ฉันจะเปิดบิลฟรีให้ทุกคน]

พอตอบกลับมาแบบนี้พวกบอสก็พากันงง

[? ใครรับไปเหรอ]

[แอทเชิญมากินยา รีบมาเร็ว มีคนที่เก่งกว่านายปรากฏตัวแล้ว]

เชิญมากินยา : [กำลังส่องสาวที่เคาน์เตอร์ต้อนรับของศูนย์ไวรัสสากล อย่ารบกวน]

ริต้าตอบไปตามที่อิ๋งจื่อจินบอก

[นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง]

ตอบเสร็จเธอก็รีบล็อกเอาท์ออก คิดในใจ เอาให้ช็อกตายกันไปเลย

เวลานี้ฟู่อวิ๋นเซินกำลังต้มชาอยู่

โทรศัพท์มือถือดังขึ้น

เขาเหลือบตามอง เช็ดมือแล้วกดรับ “มีธุระเหรอ”

“ฮัลโหล นายเห็นในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคหรือยัง” บาร์เทนเดอร์ตื่นเต้นมาก “ตระกูลเบวินเจอตัวนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งแล้ว นายตามหามาตลอดไม่ใช่เหรอ อยากติดต่อไปไหม”

ฟู่อวิ๋นเซินตอบ “ฉันตามหาเพราะอะไร”

บาร์เทนเดอร์ชะงัก “โทษที ฉันลืมไป ขอโทษนะ…”

ฟู่อวิ๋นเซินต้องการตามหาตัวนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งก็เพื่อให้มารักษาผู้เฒ่าฟู่

ตอนนี้ผู้เฒ่าฟู่ไม่อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องตามหาอีกต่อไป

“งั้นนายไม่อยากเจอตัวเหรอ” บาร์เทนเดอร์พูด “โอกาสดีที่หาได้ยากเลยนะ นายไม่อยากเป็นเพื่อนกับอันดับหนึ่งที่นอกเหนือจากตัวนายเองเหรอ”

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น “ไม่ว่าง เด็กน้อยของฉันเก่งกว่านักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง หน้าตาก็น่ารัก ฉันมองแค่เธอพอแล้ว”

บาร์เทนเดอร์ “…”

เออๆๆ

เด็กน้อยของนายสุดยอดที่สุดแล้ว

เก่งกว่าเทพพยากรณ์อีก

บาร์เทนเดอร์รู้สึกว่าบทสนทนาระหว่างพวกเขาไปต่อไม่ได้แล้ว จำต้องพูด “งั้นนายยังจะกลับมายุโรปไหม นายอยู่ที่จีนเกือบสองปีแล้วนะ”

“อาจจะ” ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าขึ้น “ดูความต้องการของเด็กน้อย”

“…”

“ค่าหัวของนายเพิ่มขึ้นอีกแล้ว” บาร์เทนเดอร์ข่มความเซ็ง “ตอนนี้สองพันล้านดอลลาร์แล้ว โลกใต้ดินของยุโรปกำลังบ้าคลั่งหนัก มีพวกเศรษฐีหลายคนจ้างทีมทหารรับจ้างไปตามล่าตัวนาย นายจะซ่อนตัวไปแบบนี้ตลอดเหรอ”

บาร์เทนเดอร์ก็เป็นนักล่า เขากับฟู่อวิ๋นเซินรู้จักกันระหว่างที่ทำภารกิจครั้งหนึ่ง

ถ้าไม่ใช่เพราะความบังเอิญครั้งนั้น เขาคงไม่มีทางนึกถึงว่านักฆ่าอันดับหนึ่งเป็นคุณชายเสเพลไม่เอาไหน

อีกทั้งเมื่อปีที่แล้วบาร์เทนเดอร์ได้อ่านนิตยสารการเงินถึงได้รู้ว่าฟู่อวิ๋นเซินยังเป็นผู้บริหารระดับสูงของวีนัสกรุ๊ปด้วย ถูกมอบหมายให้มารับตำแหน่งประธานโซนเอเชียแปซิฟิก

เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่

นี่ถือเป็นการปั่นหัวพวกที่ตามล่าเขาอย่างสุดหล้าฟ้าเขียวอย่างสนุกสนาน

“สองพันล้านดอลลาร์เหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินครุ่นคิด แสยะยิ้ม “ชักหวั่นไหวแล้วสิ”

บาร์เทนเดอร์อึ้ง “หวั่นไหวอะไร”

“ฉันเอาตัวเองไปขึ้นเงินรางวัลสองพันล้านดอลลาร์ให้เด็กน้อยดีกว่า”

“…”

อ๊าก

บาร์เทนเดอร์กดตัดสาย

ฟู่อวิ๋นเซินโยนโทรศัพท์มือถือไว้ข้างตัว ต้มชาเสร็จก็ไปเคาะประตูห้องข้างๆ

“เชิญ”

ฟู่อวิ๋นเซินเปิดประตูเข้าไป

อิ๋งจื่อจินไม่ได้หันหน้ามา ยังคงวิดีโอคอลกับเวินทิงหลาน

จากนั้นเวินทิงหลานก็สังเกตได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เขาเห็นใครคนหนึ่งอยู่ๆ ก็โผล่มาในจอ “…ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่”

ดึกขนาดนี้แล้วทำไมฟู่อวิ๋นเซินเข้าออกห้องของพี่สาวเขาได้อย่างอิสระ

สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินไม่เปลี่ยนแปลง ดูสบายๆ เขาชูถาดในมือ “เอาผลไม้มาเสิร์ฟ”

“อ่อ ส่งเสร็จก็ไปสิ” เวินทิงหลานไร้เยื่อใย “ผมจะคุยกับพี่สาวเป็นการส่วนตัว”

อิ๋งจื่อจินก็มองเขา

“…”

ได้

ฟู่อวิ๋นเซินวางจานกับกาน้ำชาลง สายตามองไป

เขาแอบเอามือหยิกเอวอิ๋งจื่อจินในมุมที่เวินทิงหลานมองไม่เห็น

ความรู้สึกจั๊กจี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

อิ๋งจื่อจินนึกไม่ถึง เกือบเซล้ม

เธอมองเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่พูด แต่แผ่รังสีที่ส่งสัญญาณอย่างหนึ่ง

รีบออกไปซะ

“ผมตัดสินใจแล้ว” หลังจากฟู่อวิ๋นเซินออกไป เวินทิงหลานถึงพูดเสียงเบา “ผมไม่อยากเกี่ยวข้องกับเธออีก ตอนนั้นเธอทำกับผมไว้ยังไง พี่ช่วยทำแบบนั้นกับเธอด้วย”

“ต่อไปเธอจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับผมกับพ่อ”

แววตาของอิ๋งจื่อจินชะงัก ยิ้มออกมา “งั้นก็ตามนั้น”

แบบนี้ก็ดี ไม่ต้องมีเวรกรรมอะไรต่อกันอีก

อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น หวีผมแล้วเดินออกไป

เจออวิ๋นอู้พอดี

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “มีกระสอบไหม”

หน้าตายของอวิ๋นอู้ปรากฏเครื่องหมายคำถาม

“พกมาใบ” อิ๋งจื่อจินหาว “พรุ่งนี้ไปจับคนคนหนึ่ง”

อวิ๋นอู้หันตัวไปเงียบๆ ไปที่ห้องเก็บของแล้วลากกระสอบออกมา

เขาอยู่ด้านหลังอิ๋งจื่อจิน ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งข้อความหาอวิ๋นซาน

[พี่รอง คุณอิ๋งจะพาผมไปเที่ยวด้วยตัวเองล่ะ^-^]

อวิ๋นซานที่กำลังใช้เครื่องมือทรมานจี้เทียนฮ่าว “?”

นายมันไม่ใช่คนหน้าตายแต่เป็นน้องชายตัวร้าย

เช้าวันต่อมา

เรื่องตระกูลจี้ย่อมรู้ถึงหูของหลายตระกูลอย่างรวดเร็ว

ตระกูลหลินก็รู้แล้ว

ตระกูลจี้อยู่ฝ่ายตระกูลเซี่ย ตระกูลหลินย่อมยินดีที่ได้เห็นผลลัพธ์แบบนี้ จึงไม่ได้เข้าไปยุ่ง

แต่อันโหรวจิ่นโมโหจนฉีกผ้าปัก

ดวงดีจริงๆ ถูกเย่ว์ฝูอีไปเจอเข้าพอดี

แต่ครั้งหน้ายังจะโชคดีแบบนี้อีกเหรอ

เย่ว์ฝูอีเป็นพวกคลั่งฝึกวรยุทธ์ มักเก็บตัวฝึกอยู่บ่อยๆ

แววตาของอันโหรวจิ่นโกรธแค้น เธอวางผ้าปักลง หงุดหงิดใจ จึงไปหาหลินชิงจยา

อันโหรวจิ่นเข้าประเด็นทันที “แม่จะไปเจอเขา ลูกจะไปไหม”

มือของหลินชิงจยาที่จับแก้วอยู่ถึงกับชะงัก เธอรู้ว่าอันโหรวจิ่นหมายถึงใคร ส่ายหน้า “ช่วงนี้หนูไม่ว่าง ยังต้องเตรียมสมุนไพรสำหรับไปยุโรปกับหมอเก่งๆ ค่ะ”

พอได้ยินแบบนี้อันโหรวจิ่นก็โล่งอก “จำไว้นะ พ่อของลูกชื่อจิ่นอวิ๋น เป็นแบบนี้ไปตลอด”

เวินเฟิงเหมียนเป็นคนธรรมดา ไม่คู่ควรที่จะมีลูกอย่างหลินชิงจยา

“งั้นแม่ไปก่อน” อันโหรวจิ่นเอาผ้าเช็ดหน้าบังมุมปาก “ลูกช่วยแม่ปิดบังพ่อให้ด้วยนะ”

หลินชิงจยาพยักหน้า “ระวังตัวด้วยนะคะ”

อันโหรวจิ่นรีบออกไป

เพราะจะไปเจอเวินเฟิงเหมียน หลังออกจากโลกจอมยุทธ์ อันโหรวจิ่นก็เลยหาข้ออ้างเพื่อไม่ให้สองคนคุ้มกันตามไปด้วย

เธอรู้ว่าเขตบ้านพักของตระกูลจี้อยู่ที่ไหน ไม่ได้มีการป้องกันแบบห้องทดลอง เขตที่พักไม่เข้มงวดมาก เธอเข้าไปได้ง่าย

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยง เวินเฟิงเหมียนไม่มีโปรเจ็กต์ทดลองย่อมอยู่บ้าน

ครอบครัวจี้อี้หางไม่อยู่

เวินเฟิงเหมียนเตรียมไปกินข้าวที่โรงอาหาร

อันโหรวจิ่นเข้าไปหาในเวลานี้

“เฟิงเหมียน เจอกันอีกแล้วนะ” เธอยิ้ม “ตอนนี้มีบ้านดีๆ อยู่แล้วนี่ ทำไมไม่รีบกลับมาแต่แรกล่ะ ถ้ารีบกลับมาก็ไม่ต้องลำบากอยู่ที่อำเภอชิงสุ่ย”

เวินเฟิงเหมียนหยุดเดิน มองเธออย่างใจเย็น ไม่พูดอะไร

“ที่ฉันมาเพราะอยากมาบอกว่า คุณห้ามคิดจะไปเจอชิงจยาเด็ดขาด ลูกไม่มีทางยอมรับคุณ” อันโหรวจิ่นไอเล็กน้อย “ฉันเองก็ไม่อยากเห็นคุณปรากฏตัวในโลกจอมยุทธ์อีก คุณอาจไม่รู้ว่าสถานะของชิงจยาสูงแค่ไหน”

“เธอมีน้องชายคนใหม่แล้ว ส่วนน้องชายอีกคนก็ไร้ประโยชน์”

คำพูดนี้ทำให้แววตาของเวินเฟิงเหมียนเริ่มเย็นชาลง

“ฉันยอมให้คุณมากที่สุดแล้ว ปล่อยคุณใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลจี้ไป” อันโหรวจิ่นยิ้ม “เอาล่ะ ฉันไม่ขอพูดอะไรมากอีก หวังว่าคุณจะคิดได้นะ”

เธอพูดจบก็รอเวินเฟิงเหมียนตอบ แต่ก็ไม่ได้คำตอบสักที

อันโหรวจิ่นชักโมโห

ตอนนั้นที่เธออยู่กินกับเวินเฟิงเหมียนเพราะอยากอาศัยเขาเข้าไปอยู่ในตระกูลจี้ แต่ก็เพราะความหน้าตาดีของเวินเฟิงเหมียนด้วย แถมบุคลิกยังโดดเด่น

แต่สิ่งที่ทำให้อันโหรวจิ่นหงุดหงิดที่สุดคือท่าทีเฉยเมยแบบนี้ของเวินเฟิงเหมียน คล้ายกับไม่เคยเก็บเรื่องอะไรเอาไปใส่ใจ

ในขณะที่เธอหมดความอดทนกำลังจะพูดจาแรงๆ ใส่ ในที่สุดเวินเฟิงเหมียนก็พูดขึ้น “หันหลังไปสิ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 492 เล่นเอาช็อกไปเลย! นักฆ่าอันดับหนึ่ง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 492 เล่นเอาช็อกไปเลย! นักฆ่าอันดับหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 492 เล่นเอาช็อกไปเลย! นักฆ่าอันดับหนึ่ง

กำลังคิดว่า รออิ๋งจื่อจินมา อีวานจะโมโหขนาดไหน

อยู่ๆ เธอก็ได้ยินคำพูดที่ไม่ทันตั้งตัว มือสั่น โทรศัพท์มือถือเกือบตก “เธอ…เธอว่าไงนะ”

ถึงแม้ว่านักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งจะไม่มีแม้แต่ชื่ออยู่บนชาร์ตอันดับของเอ็นโอเค แต่ก็ยังคงสร้างความหวาดกลัวให้นักล่าคนอื่นได้

นักปรุงยาพิษลึกลับเกินคาดเดา มีแค่นักสะกดจิตที่เก่งมากเท่านั้นถึงจะพอปราบพวกเขาได้

ไม่มีนักล่าคนไหนอยากเป็นศัตรูกับนักปรุงยาพิษห้าอันดับแรก

ถึงแม้นักปรุงยาพิษอันดับสามจะดูเพี้ยนๆ แต่ความสามารถของเขาก็ไร้ข้อกังขา

นักปรุงยาพิษอันดับสองลึกลับ แต่เมื่อออกมาก็จะวางยาพิษ

ร่องรอยของนักปรุงยาพิษอันดับสองครั้งล่าสุดก็ผ่านมาสองปีกว่าแล้ว คล้ายกับหายไปจากโลกนี้แล้ว

ริต้ารู้ว่า ไอบีไอกับศูนย์ไวรัสสากลกำลังตามจับนักปรุงยาพิษอันดับสอง

“ฉันบอกว่า…” อิ๋งจื่อจินเปลี่ยนวิธีพูด เสียงเนือย “ฉันจะไปถอนพิษให้พ่อของเธอในนามของนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง”

ปรากฏว่าคำพูดนี้ทำให้ริต้ามือสั่นหนักกว่าเดิม

ภาพในอดีตจำนวนมากต่างปรากฏในสมองของเธออย่างรวดเร็ว

เธอนึกถึงตอนนั้นที่เธอถามอิ๋งจื่อจินว่านักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งทำอะไร อิ๋งจื่อจินตอบว่า ล่าตัวปลอม

เธอนึกถึงตอนที่เธอกับอิ๋งจื่อจินไปเจอตัวปลอม อิ๋งจื่อจินใจเย็นมาก ทั้งยังกล้าลงมือโดยตรง

นี่ก็เพราะ…

สุดท้ายสมองของริต้าก็เหลือเพียงคำว่า

Fuck!

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งเป็นเด็กสาวที่เด็กกว่าเธออีก!

แบบนี้นักล่าคนอื่นยังเหลือที่ให้ยืนอีกเหรอ

ริต้าเป็นคนเก่ง แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็เลยมั่นใจ ทั้งยังอวดดี

สาเหตุที่เธอเป็นที่ชื่นชอบบนเว็บบอร์ดเอ็นโอเค นอกจากภูมิหลังเรื่องชาติตระกูลของเธอแล้ว ยังเป็นเพราะเธอได้ติดชาร์ตนักล่าทั้งที่อายุน้อยมาก

ริต้ายังค่อนข้างหลงตัวเอง แต่ถ้าใครเอาชนะเธอได้ เธอกลับดีใจด้วยซ้ำ เพราะจะได้มีแบบอย่างให้เรียนรู้

ตอนนั้นบนเกาะรวมนักล่าที่อยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิก เธอเห็นความสามารถของอิ๋งจื่อจินในการยิงเป้า ของแบบนี้ไม่ต้องพูดถึงฝีมือของนักแม่นปืนห้าอันดับแรก

นักแม่นปืนขั้นเทพ ยิงร้อยโดนร้อย ถึงสมควรถูกเรียกว่านักแม่นปืนขั้นเทพ

แต่อิ๋งจื่อจินไม่ได้ติดอันดับ

ดังนั้นต่อมาหลังจากที่อิ๋งจื่อจินให้ยาเธอไปรักษาพ่อจนอาการดีขึ้น เธอถึงเดาว่าอิ๋งจื่อจินอาจเป็นนักปรุงยาพิษที่หลบซ่อนตัว

ใครจะไปคิดว่าพอเปิดเผยตัวตนขึ้นมาก็เล่นเอาช็อกสุดๆ

ริต้ายังไม่ได้สติกลับมา สมองยังประมวลผลสับสนอยู่

อิ๋งจื่อจินรออยู่หนึ่งนาทีก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับ “ฮัลโหล”

“ขอ…ขอฉันตั้งสติหน่อย!” ริต้าตามเสียงตัวเองกลับมาอย่างยากลำบาก พูดตะกุกตะกัก “ฉันช็อกนิดหน่อย อยากไปกระโดดน้ำเสียตอนนี้”

อิ๋งจื่อจิน “…”

ไม่ต้องขนาดนั้น

ปลายสายมีเสียงเปิดน้ำ ผ่านไปอีกหลายนาทีริต้าถึงพูดขึ้นด้วยความระมัดระวัง “เธอ…เธอพูดออกมาแบบนี้ไม่กลัวเกิดเรื่องเหรอ”

พวกนักล่าปกปิดตัวตนกันมาตลอด เพราะนักล่าที่อยู่อันดับต้นๆ มีศัตรูอยู่ไม่น้อย

เท่าที่เธอรู้ เมื่อสองปีก่อนผู้สืบทอดของตระกูลแมนสันถูกลอบฆ่า ตระกูลแมนสันกำลังทุ่มเทล่าตัวนักฆ่าคนนี้ เพียงแต่ยังไม่พบตัว

แน่นอนว่านักล่าที่ศัตรูเยอะที่สุดต้องเป็นนักล่าอันดับหนึ่ง

โดยทั่วไปงานที่อยู่บนเว็บบอร์ดจะไม่มีทางเป็นนักล่า แต่นักฆ่าอันดับหนึ่งคนนี้ได้ถูกล่าตัว

ปีที่แล้วริต้าเห็นงานนี้ ค่าหัวของนักฆ่าอันดับหนึ่งคือพันล้านดอลลาร์ ปีนี้พุ่งขึ้นไปอีกหนึ่งเท่า

อิ๋งจื่อจินตอบ “พวกเขาก็ต้องมีความสามารถนั้นก่อน”

เธอเป็นนักปรุงยาพิษ ส่วนหนึ่งใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุ อีกส่วนใช้วิชาแพทย์แผนโบราณ

กำลังภายในที่แพทย์แผนโบราณใช้ไม่ต้องลึกล้ำมาก ดังนั้นขอแค่มีส่วนประกอบเธอก็สามารถทำพิษขึ้นมาได้

แต่ปัญหาอยู่ที่ส่วนประกอบมีน้อยเกินไป

ริต้าชะงัก

ก็จริง

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งมีพิษทั้งตัว ถ้าพวกนักล่าได้ข่าวจะต้องหนีไปให้ไกลก่อนแน่นอน

เธอรู้สึกโชคดีที่ยังไม่ถูกพิษตาย

“งั้น งั้นก็ได้” ริต้าพูด “ฉันจะเล่าอาการของพ่อในช่วงนี้ให้ฟัง”

อิ๋งจื่อจินฟังจบก็พูดขึ้น “ฉันต้องไปตรวจดูที่นั่นให้ละเอียดอีกที เธอเตรียมสมุนไพรก่อนแล้วกัน”

“ได้ๆๆ” ริต้าจดสมุนไพรสิบกว่าชื่อที่อิ๋งจื่อจินบอกมา “ไว้เธอมาถึงพวกเราค่อยติดต่อกัน”

เธอวางสาย ผ่านไปนานก็ยังสงบจิตสงบใจไม่ได้

หนึ่งชั่วโมงต่อมาริต้าก็ใจเย็นลง เข้าเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

งานที่เธอโพสต์ไว้อยู่ในหน้าหลัก มีคนมาตอบมากมาย แต่ไม่มีคนรับงานนี้ แค่บอกว่าไปลองดูได้

ขนาดนักปรุงยาพิษอันดับสามยังทำไม่สำเร็จ พวกเขาจะไปทำอะไรได้

ริต้าเริ่มพิมพ์ตอบกลับ

[มีคนรับงานแล้ว ทุกคนแยกย้ายได้ ไว้ไปซื้อของห้างที่ฉันเปิดนะ ฉันจะเปิดบิลฟรีให้ทุกคน]

พอตอบกลับมาแบบนี้พวกบอสก็พากันงง

[? ใครรับไปเหรอ]

[แอทเชิญมากินยา รีบมาเร็ว มีคนที่เก่งกว่านายปรากฏตัวแล้ว]

เชิญมากินยา : [กำลังส่องสาวที่เคาน์เตอร์ต้อนรับของศูนย์ไวรัสสากล อย่ารบกวน]

ริต้าตอบไปตามที่อิ๋งจื่อจินบอก

[นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง]

ตอบเสร็จเธอก็รีบล็อกเอาท์ออก คิดในใจ เอาให้ช็อกตายกันไปเลย

เวลานี้ฟู่อวิ๋นเซินกำลังต้มชาอยู่

โทรศัพท์มือถือดังขึ้น

เขาเหลือบตามอง เช็ดมือแล้วกดรับ “มีธุระเหรอ”

“ฮัลโหล นายเห็นในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคหรือยัง” บาร์เทนเดอร์ตื่นเต้นมาก “ตระกูลเบวินเจอตัวนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งแล้ว นายตามหามาตลอดไม่ใช่เหรอ อยากติดต่อไปไหม”

ฟู่อวิ๋นเซินตอบ “ฉันตามหาเพราะอะไร”

บาร์เทนเดอร์ชะงัก “โทษที ฉันลืมไป ขอโทษนะ…”

ฟู่อวิ๋นเซินต้องการตามหาตัวนักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งก็เพื่อให้มารักษาผู้เฒ่าฟู่

ตอนนี้ผู้เฒ่าฟู่ไม่อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องตามหาอีกต่อไป

“งั้นนายไม่อยากเจอตัวเหรอ” บาร์เทนเดอร์พูด “โอกาสดีที่หาได้ยากเลยนะ นายไม่อยากเป็นเพื่อนกับอันดับหนึ่งที่นอกเหนือจากตัวนายเองเหรอ”

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น “ไม่ว่าง เด็กน้อยของฉันเก่งกว่านักปรุงยาพิษอันดับหนึ่ง หน้าตาก็น่ารัก ฉันมองแค่เธอพอแล้ว”

บาร์เทนเดอร์ “…”

เออๆๆ

เด็กน้อยของนายสุดยอดที่สุดแล้ว

เก่งกว่าเทพพยากรณ์อีก

บาร์เทนเดอร์รู้สึกว่าบทสนทนาระหว่างพวกเขาไปต่อไม่ได้แล้ว จำต้องพูด “งั้นนายยังจะกลับมายุโรปไหม นายอยู่ที่จีนเกือบสองปีแล้วนะ”

“อาจจะ” ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าขึ้น “ดูความต้องการของเด็กน้อย”

“…”

“ค่าหัวของนายเพิ่มขึ้นอีกแล้ว” บาร์เทนเดอร์ข่มความเซ็ง “ตอนนี้สองพันล้านดอลลาร์แล้ว โลกใต้ดินของยุโรปกำลังบ้าคลั่งหนัก มีพวกเศรษฐีหลายคนจ้างทีมทหารรับจ้างไปตามล่าตัวนาย นายจะซ่อนตัวไปแบบนี้ตลอดเหรอ”

บาร์เทนเดอร์ก็เป็นนักล่า เขากับฟู่อวิ๋นเซินรู้จักกันระหว่างที่ทำภารกิจครั้งหนึ่ง

ถ้าไม่ใช่เพราะความบังเอิญครั้งนั้น เขาคงไม่มีทางนึกถึงว่านักฆ่าอันดับหนึ่งเป็นคุณชายเสเพลไม่เอาไหน

อีกทั้งเมื่อปีที่แล้วบาร์เทนเดอร์ได้อ่านนิตยสารการเงินถึงได้รู้ว่าฟู่อวิ๋นเซินยังเป็นผู้บริหารระดับสูงของวีนัสกรุ๊ปด้วย ถูกมอบหมายให้มารับตำแหน่งประธานโซนเอเชียแปซิฟิก

เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่

นี่ถือเป็นการปั่นหัวพวกที่ตามล่าเขาอย่างสุดหล้าฟ้าเขียวอย่างสนุกสนาน

“สองพันล้านดอลลาร์เหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินครุ่นคิด แสยะยิ้ม “ชักหวั่นไหวแล้วสิ”

บาร์เทนเดอร์อึ้ง “หวั่นไหวอะไร”

“ฉันเอาตัวเองไปขึ้นเงินรางวัลสองพันล้านดอลลาร์ให้เด็กน้อยดีกว่า”

“…”

อ๊าก

บาร์เทนเดอร์กดตัดสาย

ฟู่อวิ๋นเซินโยนโทรศัพท์มือถือไว้ข้างตัว ต้มชาเสร็จก็ไปเคาะประตูห้องข้างๆ

“เชิญ”

ฟู่อวิ๋นเซินเปิดประตูเข้าไป

อิ๋งจื่อจินไม่ได้หันหน้ามา ยังคงวิดีโอคอลกับเวินทิงหลาน

จากนั้นเวินทิงหลานก็สังเกตได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เขาเห็นใครคนหนึ่งอยู่ๆ ก็โผล่มาในจอ “…ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่”

ดึกขนาดนี้แล้วทำไมฟู่อวิ๋นเซินเข้าออกห้องของพี่สาวเขาได้อย่างอิสระ

สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินไม่เปลี่ยนแปลง ดูสบายๆ เขาชูถาดในมือ “เอาผลไม้มาเสิร์ฟ”

“อ่อ ส่งเสร็จก็ไปสิ” เวินทิงหลานไร้เยื่อใย “ผมจะคุยกับพี่สาวเป็นการส่วนตัว”

อิ๋งจื่อจินก็มองเขา

“…”

ได้

ฟู่อวิ๋นเซินวางจานกับกาน้ำชาลง สายตามองไป

เขาแอบเอามือหยิกเอวอิ๋งจื่อจินในมุมที่เวินทิงหลานมองไม่เห็น

ความรู้สึกจั๊กจี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

อิ๋งจื่อจินนึกไม่ถึง เกือบเซล้ม

เธอมองเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่พูด แต่แผ่รังสีที่ส่งสัญญาณอย่างหนึ่ง

รีบออกไปซะ

“ผมตัดสินใจแล้ว” หลังจากฟู่อวิ๋นเซินออกไป เวินทิงหลานถึงพูดเสียงเบา “ผมไม่อยากเกี่ยวข้องกับเธออีก ตอนนั้นเธอทำกับผมไว้ยังไง พี่ช่วยทำแบบนั้นกับเธอด้วย”

“ต่อไปเธอจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับผมกับพ่อ”

แววตาของอิ๋งจื่อจินชะงัก ยิ้มออกมา “งั้นก็ตามนั้น”

แบบนี้ก็ดี ไม่ต้องมีเวรกรรมอะไรต่อกันอีก

อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น หวีผมแล้วเดินออกไป

เจออวิ๋นอู้พอดี

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “มีกระสอบไหม”

หน้าตายของอวิ๋นอู้ปรากฏเครื่องหมายคำถาม

“พกมาใบ” อิ๋งจื่อจินหาว “พรุ่งนี้ไปจับคนคนหนึ่ง”

อวิ๋นอู้หันตัวไปเงียบๆ ไปที่ห้องเก็บของแล้วลากกระสอบออกมา

เขาอยู่ด้านหลังอิ๋งจื่อจิน ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งข้อความหาอวิ๋นซาน

[พี่รอง คุณอิ๋งจะพาผมไปเที่ยวด้วยตัวเองล่ะ^-^]

อวิ๋นซานที่กำลังใช้เครื่องมือทรมานจี้เทียนฮ่าว “?”

นายมันไม่ใช่คนหน้าตายแต่เป็นน้องชายตัวร้าย

เช้าวันต่อมา

เรื่องตระกูลจี้ย่อมรู้ถึงหูของหลายตระกูลอย่างรวดเร็ว

ตระกูลหลินก็รู้แล้ว

ตระกูลจี้อยู่ฝ่ายตระกูลเซี่ย ตระกูลหลินย่อมยินดีที่ได้เห็นผลลัพธ์แบบนี้ จึงไม่ได้เข้าไปยุ่ง

แต่อันโหรวจิ่นโมโหจนฉีกผ้าปัก

ดวงดีจริงๆ ถูกเย่ว์ฝูอีไปเจอเข้าพอดี

แต่ครั้งหน้ายังจะโชคดีแบบนี้อีกเหรอ

เย่ว์ฝูอีเป็นพวกคลั่งฝึกวรยุทธ์ มักเก็บตัวฝึกอยู่บ่อยๆ

แววตาของอันโหรวจิ่นโกรธแค้น เธอวางผ้าปักลง หงุดหงิดใจ จึงไปหาหลินชิงจยา

อันโหรวจิ่นเข้าประเด็นทันที “แม่จะไปเจอเขา ลูกจะไปไหม”

มือของหลินชิงจยาที่จับแก้วอยู่ถึงกับชะงัก เธอรู้ว่าอันโหรวจิ่นหมายถึงใคร ส่ายหน้า “ช่วงนี้หนูไม่ว่าง ยังต้องเตรียมสมุนไพรสำหรับไปยุโรปกับหมอเก่งๆ ค่ะ”

พอได้ยินแบบนี้อันโหรวจิ่นก็โล่งอก “จำไว้นะ พ่อของลูกชื่อจิ่นอวิ๋น เป็นแบบนี้ไปตลอด”

เวินเฟิงเหมียนเป็นคนธรรมดา ไม่คู่ควรที่จะมีลูกอย่างหลินชิงจยา

“งั้นแม่ไปก่อน” อันโหรวจิ่นเอาผ้าเช็ดหน้าบังมุมปาก “ลูกช่วยแม่ปิดบังพ่อให้ด้วยนะ”

หลินชิงจยาพยักหน้า “ระวังตัวด้วยนะคะ”

อันโหรวจิ่นรีบออกไป

เพราะจะไปเจอเวินเฟิงเหมียน หลังออกจากโลกจอมยุทธ์ อันโหรวจิ่นก็เลยหาข้ออ้างเพื่อไม่ให้สองคนคุ้มกันตามไปด้วย

เธอรู้ว่าเขตบ้านพักของตระกูลจี้อยู่ที่ไหน ไม่ได้มีการป้องกันแบบห้องทดลอง เขตที่พักไม่เข้มงวดมาก เธอเข้าไปได้ง่าย

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยง เวินเฟิงเหมียนไม่มีโปรเจ็กต์ทดลองย่อมอยู่บ้าน

ครอบครัวจี้อี้หางไม่อยู่

เวินเฟิงเหมียนเตรียมไปกินข้าวที่โรงอาหาร

อันโหรวจิ่นเข้าไปหาในเวลานี้

“เฟิงเหมียน เจอกันอีกแล้วนะ” เธอยิ้ม “ตอนนี้มีบ้านดีๆ อยู่แล้วนี่ ทำไมไม่รีบกลับมาแต่แรกล่ะ ถ้ารีบกลับมาก็ไม่ต้องลำบากอยู่ที่อำเภอชิงสุ่ย”

เวินเฟิงเหมียนหยุดเดิน มองเธออย่างใจเย็น ไม่พูดอะไร

“ที่ฉันมาเพราะอยากมาบอกว่า คุณห้ามคิดจะไปเจอชิงจยาเด็ดขาด ลูกไม่มีทางยอมรับคุณ” อันโหรวจิ่นไอเล็กน้อย “ฉันเองก็ไม่อยากเห็นคุณปรากฏตัวในโลกจอมยุทธ์อีก คุณอาจไม่รู้ว่าสถานะของชิงจยาสูงแค่ไหน”

“เธอมีน้องชายคนใหม่แล้ว ส่วนน้องชายอีกคนก็ไร้ประโยชน์”

คำพูดนี้ทำให้แววตาของเวินเฟิงเหมียนเริ่มเย็นชาลง

“ฉันยอมให้คุณมากที่สุดแล้ว ปล่อยคุณใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลจี้ไป” อันโหรวจิ่นยิ้ม “เอาล่ะ ฉันไม่ขอพูดอะไรมากอีก หวังว่าคุณจะคิดได้นะ”

เธอพูดจบก็รอเวินเฟิงเหมียนตอบ แต่ก็ไม่ได้คำตอบสักที

อันโหรวจิ่นชักโมโห

ตอนนั้นที่เธออยู่กินกับเวินเฟิงเหมียนเพราะอยากอาศัยเขาเข้าไปอยู่ในตระกูลจี้ แต่ก็เพราะความหน้าตาดีของเวินเฟิงเหมียนด้วย แถมบุคลิกยังโดดเด่น

แต่สิ่งที่ทำให้อันโหรวจิ่นหงุดหงิดที่สุดคือท่าทีเฉยเมยแบบนี้ของเวินเฟิงเหมียน คล้ายกับไม่เคยเก็บเรื่องอะไรเอาไปใส่ใจ

ในขณะที่เธอหมดความอดทนกำลังจะพูดจาแรงๆ ใส่ ในที่สุดเวินเฟิงเหมียนก็พูดขึ้น “หันหลังไปสิ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+