คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 502 ปราบอธรรม รู้หรือเปล่าว่าวิชาแพทย์ของหลินชิงจยามาจากสำนักไหน

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 502 ปราบอธรรม รู้หรือเปล่าว่าวิชาแพทย์ของหลินชิงจยามาจากสำนักไหน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 502 ปราบอธรรม รู้หรือเปล่าว่าวิชาแพทย์ของหลินชิงจยามาจากสำนักไหน

เขาอายุยี่สิบต้นๆ มาดเท่ผึ่งผาย

ขอบตาเว้าลึกเผยให้ใบหน้าดูคมคาย ผิวพรรณขาวซีดเมื่ออยู่ภายใต้แสงแดด

“นายน่ะเหรอ นายมันก็แค่ไอ้เด็กกระจอก นาย…” นายใหญ่โคเฮนยังคงพูดจาดูถูก แต่ทันใดนั้นคำพูดของเขาก็หยุดชะงัก สายตาจับจ้องไปบนฟ้า

ภายนอกของเครื่องบินสิบกว่าลำนี้มีรหัสและสัญลักษณ์

สิ่งที่นายใหญ่โคเฮนให้ความสนใจไม่ใช่สัญลักษณ์ แต่เป็นรหัส

ถึงแม้ตระกูลโคเฮนจะไม่ใช่ตระกูลใหญ่ของยุโรป แต่เนื่องจากลักลอบทำการค้าผิดกฎหมายบ่อย นายใหญ่โคเฮนจึงให้ความสนใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไอบีไอมาตลอด

รหัสของเครื่องบินพวกนี้มีแค่ของไอบีไอเท่านั้น!

ตระกูลน้อยใหญ่ในยุโรปกลัวอะไร

กลัวไอบีไอ

บนหน้าผากของนายใหญ่โคเฮนมีเหงื่อผุด เริ่มยืนไม่ไหวในชั่วขณะ

ตระกูลโคเฮนระมัดระวังมาตลอด ไม่มีทางทิ้งจุดอ่อนไว้ต่อหน้าคนมากมาย แล้วทำไมครั้งนี้แค่เพราะงานแข่งรถถึงเรียกไอบีไอมาได้

ล้อเล่นอะไรกัน

ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทียุโรปไม่อนุญาตให้มีโลกใต้ดิน

นายใหญ่โคเฮนย่อมไม่กล้าลงมือกับซิวอวี่ที่ประเทศจีน แต่ขอแค่ออกมาข้างนอกก็ได้แล้ว

“ว้าว ปราสาทนี่มันช่างอลังการงานสร้างจริงๆ” แอนโทนี่กอดอก “ออกแบบเจ๋งเลยนะสหาย”

“ไม่งั้นเอางี้ ฉันขอเชิญนายไปเป็นสถาปนิกออกแบบในคุกนานาชาติหน่อยเป็นไง”

คำพูดนี้กวนประสาทมาก นายใหญ่โคเฮนพยายามนึกถึงข่าวลือที่เกี่ยวกับไอบีไอ สีหน้าเปลี่ยนไป

คนที่สอดคล้องกับรูปร่างหน้าตาแบบนี้ อายุและนิสัย ก็มีแค่คนเดียว

สองขาของเขาสั่น คอแห้งผาด “ผะ ผู้บัญชาการแอนโทนี่เหรอ”

ไอบีไอถึงกับส่งคนระดับสูงมาที่เมืองเฮบาร์ของพวกเขาเลยเหรอ

แถมยังเป็นผู้บัญชาการหน่วยรบทางอากาศด้วย

นายใหญ่โคเฮนได้รับเกียรติจากไอบีไอขนาดนี้เลยเหรอ

สองขาของนายใหญ่โคเฮนอ่อนแรง คุกเข่าลงไปบนพื้น “ผู้บัญชาการแอนโทนี่ครับ พวกเรา พวกเราทำผิดอะไรเหรอครับ”

ถ้าคนระดับสูงของไอบีไอมาด้วยตัวเอง ย่อมไม่ใช่แค่เรื่องงานแข่งรถแน่นอน

แต่นายใหญ่โคเฮนพยายามนึกแล้วก็นึกไม่ออกว่าเขาทำพลาดตรงไหนกันแน่

“ฉันไม่สนหรอกว่าผิดอะไร” แอนโทนี่ทำเสียงหึ “ฉันแค่รับผิดชอบมาจับคนที่นี่ที่ทำผิดกฎหมายกลับไป อย่าพูดมาก นายจะมาเองหรือให้ฉันเข้าไปหา”

นายใหญ่โคเฮนหมดแรง ไม่มีแม้แต่แรงจะยืนขึ้น

ตอนนี้เขาไม่หลงเหลือความอวดดีแบบก่อนหน้านี้ ใบหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด แม้แต่จะหายใจยังลำบาก

แอนโทนี่เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของนายใหญ่โคเฮนขึ้นมา “แค่นี้ยังจะกล้าเบ่งอีกเหรอ นายเท่กว่าฉันเหรอ”

นายใหญ่โคเฮนปากสั่น พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

“ขยะ” แอนโทนี่ลากเขา “ไป”

มีเสียงหนึ่งดังจากด้านหลัง

“เดี๋ยวก่อน”

แอนโทนี่หันไป ชะงัก เขาพูดขึ้น “พี่สะ…”

อิ๋งจื่อจินมองเขา

แอนโทนี่กลืนคำพูดที่เหลือลงไปหมด

“ฉันขอให้ลูกอมเขาเม็ดนึง”

นายใหญ่โคเฮนยังไม่ทันตั้งตัวแอนโทนี่ก็จับปากเขาหันไป เอา ‘ลูกอม’ เม็ดนั้นยัดใส่ปาก

‘ลูกอม’ เข้าปากก็ละลายทันที มีรสหวาน

แต่นายใหญ่โคเฮนรู้สึกเพียงว่าอวัยวะภายในเหมือนไปกองรวมกัน คล้ายถูกแมลงนับหมื่นกัดกร่อน เจ็บปวดจนหายใจไม่ออก

“ทำตัวดีๆ” ทันใดนั้นแอนโทนี่ก็ถีบเขาหนึ่งที “ถ้านายทำให้ฉัน…ขายหน้า ฉันจะเอานายไปโยนให้ฝูงฉลามกิน”

นายใหญ่โคเฮนเหงื่อแตก ตัวสั่นไม่หยุด ใบหน้าซีดเซียว

เขาถึงได้นึกข่าวลืออีกอย่างออก

ข่าวลือบอกว่า พวกคนระดับสูงของไอบีไอแท้จริงแล้วเป็นพวกชอบใช้กำลัง

ไอบีไอทำงานเร็วมาตลอด

หลังจากแอนโทนี่เอาตัวนายใหญ่โคเฮนกับคนอื่นๆ ในตระกูลโคเฮนที่ทำผิดกฎหมายกลับมาแล้ว ไม่นานทีมตรวจสอบกับฝ่ายความปลอดภัยก็รวบรวมคดีทั้งหมดเสร็จ

ระดับความรุนแรงที่ต่างกัน โทษก็จะไม่เหมือนกัน

ทางเมืองเฮบาร์ก็มีหัวหน้านักสืบกับนักสืบเก็บงานที่เหลืออยู่

“ฮ่าๆๆ ลิซิเนียส นายมันโง่เง่า!” แอนโทนี่บุกเข้าไปที่ห้องทำงานประธานทันที ตบโต๊ะหัวเราะเสียงดัง “นึกไม่ถึงใช่ไหมล่ะ คราวก่อนนายไปทำภารกิจ ครั้งนี้ฉันไป! แถมไปกับพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยนะเว้ย!”

“ถึงฉันจะไม่ได้เห็นหน้าตาของเธอ แต่ก็ได้เห็นรูปร่าง สุดยอด!”

แอนโทนี่ทำเสียงจึ๊ “เฮ้อ นายคิดดูนะ พี่สะใภ้ใหญ่หุ่นดี หน้าตาสวย ต่อสู้ก็เก่ง นี่มันนางฟ้านางสวรรค์ชัดๆ ทำไมถึงได้ชอบนักพรตตบะแตกอย่างผู้บัญชาการได้”

เขาน่ารักกว่าผู้บัญชาการด้วยซ้ำ หนุ่มหล่อรูปงาม

พอได้ยินแบบนี้ลิซิเนียสก็ละสายตาจากคอมพิวเตอร์ เหล่มองแอนโทนี่ เคาะแป้นพิมพ์อย่างใจเย็น

ขณะที่แอนโทนี่กำลังถอนหายใจก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้น

นี่เป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เขากับฟู่อวิ๋นเซินใช้ติดต่อกัน

“ฮัลโหลผู้บัญชาการ เรียกหาผมเหรอ” ดวงตาสีน้ำเงินของแอนโทนี่เปล่งประกาย ยืนตัวตรงทันที “งานเสร็จเรียบร้อยครับ ยึดอาวุธอันตราย ที่ดินก็คืนให้ชาวบ้านคนอื่นๆ ทุกคนอยู่ในความปลอดภัยแล้วครับ เชิญชี้แนะได้”

“ไดอาใกล้กลับมาจากโซนพิเศษที่เจ็ดแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินที่อยู่ปลายสายพูดเสียงเนือย เจือไปด้วยเสียงหัวเราะ “นายไปเปลี่ยนกับเขา ก่อนกลับมานายต้องฝึกทีมชั้นยอดออกมาให้ได้หนึ่งทีม อย่าทำให้ผู้บัญชาการผิดหวัง”

แอนโทนี่ที่กำลังรอคำชมถึงกับช็อกในชั่วขณะ “?”

ทำไมเขาเพิ่งสร้างผลงานก็ถูกเนรเทศแล้วล่ะ

ถึงแม้โซนพิเศษที่เจ็ดจะเป็นสถานที่ฝึกของไอบีไอ แต่ทำไมเขาต้องไปทนหนาวในพื้นที่เย็นสุดขั้วแบบนั้นในตอนนี้ด้วย

แถมยังต้องฝึกทีมชั้นยอดออกมาให้ได้อีก

ให้เขาไปบัญชาการเครื่องบินรบยังพอว่า แต่เรื่องฝึกไม่ใช่หน้าที่ที่รองประธานไดอาควรทำเหรอ

“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ตอบแบบขอไปที “เด็กดี จัดการบัตรผ่านให้นายแล้ว ไปได้ทันที”

แอนโทนี่ถูกวางสายใส่

เขาเงียบไปหลายวินาที ทันใดนั้นได้หันไปมองลิซิเนียส

ลิซิเนียสยกมือทันที ทำสีหน้าไม่รู้เรื่อง “ไม่เกี่ยวกับฉันนะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย เมื่อกี้ฉันดูข้อมูลคนใหม่อยู่ตลอด เตรียมสัมภาษณ์อยู่”

“ถุย ใครเชื่อนายก็เป็นหมูแล้ว!” แอนโทนี่โมโหอีกรอบ “วันไหนฉันเอาชนะนายได้จะนั่งตำแหน่งแทนนาย”

เขาไม่เคยเจอใครหน้าด้านเท่านี้มาก่อน

เรื่องที่ตระกูลโคเฮนถูกไอบีไอบุกจับอย่างกะทันหันได้ถูกลือไปยังอิทธิพลใหญ่ๆ ของยุโรปทันที

แต่ก็ไม่มีใครเก็บเอามาใส่ใจ อย่างไรเสียเรื่องแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีมาก่อน

ใครใช้ให้ตระกูลโคเฮนซวยแบบนั้น เจอไอบีไอพอดี

ต่อให้เป็นสี่ตระกูลมหาเศรษฐีของยุโรปก็ยังต้องให้เกียรติไอบีไอ

ไม่ว่าอย่างไรไอบีไอก็เป็นเพียงองค์กรเดียวที่พิทักษ์สันติสุขของโลก ไม่สนดินแดน ไม่สนชาติพันธุ์ สนแค่ช่วยชีวิตคน

เรื่องเล็กๆ แบบนี้ไม่นานก็ถูกลืม คนที่รักการแข่งขันจำนวนไม่น้อยต่างทุ่มความสนใจไปที่การแข่งขันเอฟวันที่ตระกูลแมนสันจัดขึ้น

ซิวอวี่ฟื้นฟูร่างกายเร็วมากภายใต้การดูแลของอิ๋งจื่อจิน และก็รู้เรื่องที่ตระกูลโคเฮนถูกไอบีไอจัดการ

แม้แต่ซิวอวี่ก็ตะลึง “พะ พ่ออิ๋ง เธอคงไม่ได้รู้จักกับผู้บัญชาการไอบีไอจริงๆ ใช่ไหม”

เธอยังจำได้เรื่องเมื่อปีที่แล้วที่เฝ่ยชุ่ยไจของตระกูลจงถูกขโมยของล้ำค่าไปได้ ไอบีไอยังได้ลงทะเบียนเปิดแอ๊กเคานท์เวยปั๋วด้วยตัวเอง

สองเรื่องนี้ถ้าแยกกันมองก็ดูปกติมาก ไอบีไอจัดการผู้ร้ายข้ามชาติ

แต่เมื่อนำมารวมกันมันก็น่าเก็บมาคิดแล้ว

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่ “ไม่ใช่แค่นั้น”

ยังเคยจูบกันด้วย

ซิวอวี่ “?”

เธอลูบคาง “ฉันจะไปเตรียมแข่งแล้ว พ่ออิ๋ง เดี๋ยวเชียร์ฉันด้วยนะ”

อิ๋งจื่อจินตบบ่าซิวอวี่ ยิ้มให้ “แน่นอน”

คำนี้เหมือนเรียกความฮึกเหิมให้ซิวอวี่ เธอกอดหมวกกันน็อกแล้วเดินไปเปลี่ยนชุดแข่งรถที่ห้องแต่งตัว

อิ๋งจื่อจินกวาดตามองด้านนอก สายตาชะงัก

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือได้ดังขึ้น จั่วหลีโทรมา

อิ๋งจื่อจินตัดสายทิ้งอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็ตอบกลับเป็นข้อความเสียงทางวีแชท

“นักศึกษาอิ๋ง” จั่วหลีงงมาก “ทำไมตัดสายอาจารย์ล่ะ”

“หนูอยู่ยุโรป เปลืองค่าโทรข้ามประเทศค่ะ”

จั่วหลี “…”

เธอเป็นถึงอภิมหาเศรษฐินีแห่งอาณาจักรบันเทิง แคร์เศษเงินโทรข้ามประเทศด้วยเหรอ

ไม่เหมือนเขา ซื้อมาร์คหน้าขาวใสให้เมียหลายลังจนเงินเก็บหมดแล้ว

“อาจารย์แค่จะโทรไปบอกว่าทางมหาวิทยาลัยตี้ตูเปิดเทอมแล้ว” จั่วหลีถอนหายใจ “ยังมีเรื่องอื่นอีก รอเธอกลับมาค่อยว่ากัน ไม่รีบ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ค่ะ”

“งั้นแค่นี้แหละ” จั่วหลีอารมณ์ดี “รอเธอกลับมานะ”

อิ๋งจื่อจินวางสาย เธอเดินไปยังที่นั่งผู้ชม

โซนนั่งพักของนักแข่งรถ

ตำแหน่งที่นั่งใกล้หน้าต่างก็เป็นทีมที่มาจากเอเชียเช่นกัน

ทีมที่เข้ารอบชิงชนะเลิศมีทั้งหมดสี่สิบแปดทีม เป็นทีมจากประเทศจีนเจ็ดทีม แต่มีห้าทีมที่เป็นทีมสำรอง

นอกจากทีมรถแข่งของตระกูลซิวแล้ว ทีมที่ได้โควตาลงแข่งอย่างเป็นทางการยังมีทีมจากประเทศจีนอีกหนึ่งทีม

หัวหน้าของทีมนี้ก็เป็นผู้หญิงอายุน้อยแบบซิวอวี่เหมือนกัน อายุแค่ประมาณยี่สิบปี

“คุณป้า วางใจได้ค่ะ” เด็กสาวพูดอย่างใจเย็น “หนูก็จะลงแข่งรถครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ต่อไปจะตั้งใจเรียนหมอให้ดีค่ะ”

มือของเธอไว้ใช้สำหรับเรียนหมอ แข่งรถก็แค่เอาสนุก ไม่ได้จริงจัง

พ่อแม่ของเธอตายในปีที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอได้เหยียนรั่วเสวี่ยที่เป็นป้าช่วยเอาไว้

ดังนั้นเธอย่อมเชื่อฟังคำพูดของเหยียนรั่วเสวี่ย

“อันเหอ รู้แบบนั้นก็ดี” น้ำเสียงของเหยียนรั่วเสวี่ยถึงได้อ่อนลง “วิชาการแพทย์มีประโยชน์กว่าแข่งรถเยอะ ปกป้องมือของเธอให้ดี ไว้แข่งเสร็จกลับมาป้าจะพาเธอไปหาคุณชิงจยา”

เธอชอบเหยียนอันเหอที่เป็นหลานสาวคนนี้มาก ขยัน มีพรสวรรค์สูงในด้านการเรียนหมอ

พูดถึงตรงนี้ อยู่ๆ น้ำเสียงของเหยียนรั่วเสวี่ยก็ตื่นเต้นขึ้นเป็นครั้งแรก “อันเหอ รู้หรือเปล่าว่าวิชาการแพทย์ของคุณชิงจยาได้รับการถ่ายทอดมาจากใคร”

เหยียนอันเหอก็สงสัย “ใครเหรอคะ”

เธอได้ยินชื่อหลินชิงจยาจากเหยียนรั่วเสวี่ยหลายครั้งมาก

เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งที่เป็นทั้งจอมยุทธ์และแพทย์แผนโบราณ

“สำนักที่เธออยู่เป็นของผู้ก่อตั้งสำนักแพทย์แผนโบราณคนแรก วิชาการแพทย์ของเธอก็เป็นสายตรงของโลกแพทย์แผนโบราณ” เหยียนรั่วเสวี่ยบอก “คุณชิงจยาจิตใจดีมาก ชอบช่วยเหลือผู้คน ป้าเองกว่าจะเอาโควตามาให้เธอได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ ถ้าเป็นคนอื่นไม่มีทางสนใจคนธรรมดาอย่างพวกเราหรอก”

“เธอต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดีๆ เข้าไปเป็นศิษย์สำนักเดียวกับคุณชิงจยาให้ได้”

ขอแค่ได้กลายเป็นแพทย์แผนโบราณ แม้จะมีวิชาแพทย์แผนโบราณเพียงน้อยนิดก็จะสามารถตั้งตัวในวงการแพทย์ได้ แบบนี้ก็ไม่ต้องกลุ้มเรื่องอนาคตของเหยียนอันเหอแล้ว

เหยียนอันเหอยิ้มพลางพยักหน้า “ทราบแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะคุณป้า”

“จริงสิ ป้าได้ยินมาว่าประเทศจีนของพวกเรายังมีนักแข่งที่มากพรสวรรค์อีกคนเหรอ” เหยียนรั่วเสวี่ยไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ก็แค่ลองถามดู “ก็ไปเข้าร่วมแข่งครั้งนี้ด้วยเหรอ”

“ค่ะ” เหยียนอันเหอเหลือบมองซิวอวี่ที่อยู่ตรงข้าม พูดเสียงเย็นชาลง “เธอเก่งจริงค่ะ หนูเคยดูการแข่งที่ตอนนั้นเธออายุสิบห้าปี แต่เธอไม่ได้แข่งรถมาห้าปีแล้ว พรสวรรค์ดีแค่ไหนก็หมดลงได้ค่ะ”

เหยียนรั่วเสวี่ยพูดต่ออีกนิดหน่อยแล้ววางสาย

ขณะที่เหยียนอันเหอกำลังเล่นมือถือเรื่อยเปื่อยก็เห็นนักแข่งคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน มาหาซิวอวี่

สายตาของคนที่อยู่ในห้องจำนวนไม่น้อยมองไป

“พี่อวี่” นักแข่งคนนี้กัดฟันพูด “ผมเพิ่งไปด้านหลังมา รถของพวกเรา…”

ซิวอวี่สีหน้าเปลี่ยน “พาฉันไปดูหน่อย”

เธอลุกขึ้นแล้วรีบตามนักแข่งคนนี้ไปยังจุดจอดรถแข่ง

แววตาของเหยียนอันเหอวูบไหว ยืนขึ้นแล้วเดินตามออกไป

นักแข่งที่อยู่ทีมเดียวกันกับเธอมองเธอ “หัวหน้าเหยียน?”

“รอก่อนนะ” เหยียนอันเหอตอบ “ฉันจะไปดูหน่อย”

จุดจอดรถแข่งอยู่ไม่ไกลจากโซนนั่งพัก ไม่นานก็ไปถึง

สายตาของซิวอวี่เย็นชาลง

ทีมรถแข่งของตระกูลซิวมีรถแข่งทั้งหมดเจ็ดคัน แต่ตอนนี้ยางรถกับเครื่องยนต์พังหมด

ฝีมือคนทำแน่นอน อีกทั้งตระกูลแมนสันที่เป็นฝ่ายจัดงานก็หนีไม่พ้นความเกี่ยวข้อง อย่างไรเสียที่นี่ก็มีคนคอยคุมโดยเฉพาะ

รถของนักแข่งสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะยางรถหรือเครื่องยนต์ต่างก็ไม่ใช่แบบที่รถยนต์ทั่วไปจะมาเทียบได้

การแข่งขันใกล้เริ่มแล้ว รถพังก็ลงแข่งไม่ได้

“รถพังเหรอ” เหยียนอันเหอที่ตามเข้ามาด้วยย่อมสังเกตเห็นแล้ว “คุณซิว ไม่งั้นมาเป็นเนวิเกเตอร์ให้ฉันไหม”

ซิวอวี่หันไปแสยะยิ้ม “ฝันกลางวันเหรอ”

เธอไม่รู้จักเหยียนอันเหอ แต่เคยดูข้อมูลของพวกผู้เข้าแข่งขันก่อนแข่ง

ตอนเธออายุสิบห้าปีเป็นแค่เนวิเกเตอร์เพราะปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย

ครั้งนี้เธอมาในฐานะนักแข่ง

เธอเป็นเนวิเกเตอร์ให้นักแข่งทีมตัวเองได้ แต่ถ้าไปเป็นให้ทีมอื่น ครั้งนี้ตระกูลซิวก็เสียแรงเปล่าแล้ว

“ไม่ยินดีเหรอ” น้ำเสียงของเหยียนอันเหอเจือไปด้วยความดูถูก “นักแข่งที่เข้ารอบมีใครไม่รู้บ้างว่าเธอไม่ได้แข่งรถมาห้าปีแล้ว ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่รถ อยากทำประเทศจีนขายหน้าเหรอ เธอก็เป็นได้แค่เนวิเกเตอร์แล้ว”

“คุณซิว ฉันให้โอกาสคุณได้ลงสนามมันก็ดีมากแล้วนะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 502 ปราบอธรรม รู้หรือเปล่าว่าวิชาแพทย์ของหลินชิงจยามาจากสำนักไหน

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 502 ปราบอธรรม รู้หรือเปล่าว่าวิชาแพทย์ของหลินชิงจยามาจากสำนักไหน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 502 ปราบอธรรม รู้หรือเปล่าว่าวิชาแพทย์ของหลินชิงจยามาจากสำนักไหน

เขาอายุยี่สิบต้นๆ มาดเท่ผึ่งผาย

ขอบตาเว้าลึกเผยให้ใบหน้าดูคมคาย ผิวพรรณขาวซีดเมื่ออยู่ภายใต้แสงแดด

“นายน่ะเหรอ นายมันก็แค่ไอ้เด็กกระจอก นาย…” นายใหญ่โคเฮนยังคงพูดจาดูถูก แต่ทันใดนั้นคำพูดของเขาก็หยุดชะงัก สายตาจับจ้องไปบนฟ้า

ภายนอกของเครื่องบินสิบกว่าลำนี้มีรหัสและสัญลักษณ์

สิ่งที่นายใหญ่โคเฮนให้ความสนใจไม่ใช่สัญลักษณ์ แต่เป็นรหัส

ถึงแม้ตระกูลโคเฮนจะไม่ใช่ตระกูลใหญ่ของยุโรป แต่เนื่องจากลักลอบทำการค้าผิดกฎหมายบ่อย นายใหญ่โคเฮนจึงให้ความสนใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไอบีไอมาตลอด

รหัสของเครื่องบินพวกนี้มีแค่ของไอบีไอเท่านั้น!

ตระกูลน้อยใหญ่ในยุโรปกลัวอะไร

กลัวไอบีไอ

บนหน้าผากของนายใหญ่โคเฮนมีเหงื่อผุด เริ่มยืนไม่ไหวในชั่วขณะ

ตระกูลโคเฮนระมัดระวังมาตลอด ไม่มีทางทิ้งจุดอ่อนไว้ต่อหน้าคนมากมาย แล้วทำไมครั้งนี้แค่เพราะงานแข่งรถถึงเรียกไอบีไอมาได้

ล้อเล่นอะไรกัน

ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทียุโรปไม่อนุญาตให้มีโลกใต้ดิน

นายใหญ่โคเฮนย่อมไม่กล้าลงมือกับซิวอวี่ที่ประเทศจีน แต่ขอแค่ออกมาข้างนอกก็ได้แล้ว

“ว้าว ปราสาทนี่มันช่างอลังการงานสร้างจริงๆ” แอนโทนี่กอดอก “ออกแบบเจ๋งเลยนะสหาย”

“ไม่งั้นเอางี้ ฉันขอเชิญนายไปเป็นสถาปนิกออกแบบในคุกนานาชาติหน่อยเป็นไง”

คำพูดนี้กวนประสาทมาก นายใหญ่โคเฮนพยายามนึกถึงข่าวลือที่เกี่ยวกับไอบีไอ สีหน้าเปลี่ยนไป

คนที่สอดคล้องกับรูปร่างหน้าตาแบบนี้ อายุและนิสัย ก็มีแค่คนเดียว

สองขาของเขาสั่น คอแห้งผาด “ผะ ผู้บัญชาการแอนโทนี่เหรอ”

ไอบีไอถึงกับส่งคนระดับสูงมาที่เมืองเฮบาร์ของพวกเขาเลยเหรอ

แถมยังเป็นผู้บัญชาการหน่วยรบทางอากาศด้วย

นายใหญ่โคเฮนได้รับเกียรติจากไอบีไอขนาดนี้เลยเหรอ

สองขาของนายใหญ่โคเฮนอ่อนแรง คุกเข่าลงไปบนพื้น “ผู้บัญชาการแอนโทนี่ครับ พวกเรา พวกเราทำผิดอะไรเหรอครับ”

ถ้าคนระดับสูงของไอบีไอมาด้วยตัวเอง ย่อมไม่ใช่แค่เรื่องงานแข่งรถแน่นอน

แต่นายใหญ่โคเฮนพยายามนึกแล้วก็นึกไม่ออกว่าเขาทำพลาดตรงไหนกันแน่

“ฉันไม่สนหรอกว่าผิดอะไร” แอนโทนี่ทำเสียงหึ “ฉันแค่รับผิดชอบมาจับคนที่นี่ที่ทำผิดกฎหมายกลับไป อย่าพูดมาก นายจะมาเองหรือให้ฉันเข้าไปหา”

นายใหญ่โคเฮนหมดแรง ไม่มีแม้แต่แรงจะยืนขึ้น

ตอนนี้เขาไม่หลงเหลือความอวดดีแบบก่อนหน้านี้ ใบหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีด แม้แต่จะหายใจยังลำบาก

แอนโทนี่เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของนายใหญ่โคเฮนขึ้นมา “แค่นี้ยังจะกล้าเบ่งอีกเหรอ นายเท่กว่าฉันเหรอ”

นายใหญ่โคเฮนปากสั่น พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

“ขยะ” แอนโทนี่ลากเขา “ไป”

มีเสียงหนึ่งดังจากด้านหลัง

“เดี๋ยวก่อน”

แอนโทนี่หันไป ชะงัก เขาพูดขึ้น “พี่สะ…”

อิ๋งจื่อจินมองเขา

แอนโทนี่กลืนคำพูดที่เหลือลงไปหมด

“ฉันขอให้ลูกอมเขาเม็ดนึง”

นายใหญ่โคเฮนยังไม่ทันตั้งตัวแอนโทนี่ก็จับปากเขาหันไป เอา ‘ลูกอม’ เม็ดนั้นยัดใส่ปาก

‘ลูกอม’ เข้าปากก็ละลายทันที มีรสหวาน

แต่นายใหญ่โคเฮนรู้สึกเพียงว่าอวัยวะภายในเหมือนไปกองรวมกัน คล้ายถูกแมลงนับหมื่นกัดกร่อน เจ็บปวดจนหายใจไม่ออก

“ทำตัวดีๆ” ทันใดนั้นแอนโทนี่ก็ถีบเขาหนึ่งที “ถ้านายทำให้ฉัน…ขายหน้า ฉันจะเอานายไปโยนให้ฝูงฉลามกิน”

นายใหญ่โคเฮนเหงื่อแตก ตัวสั่นไม่หยุด ใบหน้าซีดเซียว

เขาถึงได้นึกข่าวลืออีกอย่างออก

ข่าวลือบอกว่า พวกคนระดับสูงของไอบีไอแท้จริงแล้วเป็นพวกชอบใช้กำลัง

ไอบีไอทำงานเร็วมาตลอด

หลังจากแอนโทนี่เอาตัวนายใหญ่โคเฮนกับคนอื่นๆ ในตระกูลโคเฮนที่ทำผิดกฎหมายกลับมาแล้ว ไม่นานทีมตรวจสอบกับฝ่ายความปลอดภัยก็รวบรวมคดีทั้งหมดเสร็จ

ระดับความรุนแรงที่ต่างกัน โทษก็จะไม่เหมือนกัน

ทางเมืองเฮบาร์ก็มีหัวหน้านักสืบกับนักสืบเก็บงานที่เหลืออยู่

“ฮ่าๆๆ ลิซิเนียส นายมันโง่เง่า!” แอนโทนี่บุกเข้าไปที่ห้องทำงานประธานทันที ตบโต๊ะหัวเราะเสียงดัง “นึกไม่ถึงใช่ไหมล่ะ คราวก่อนนายไปทำภารกิจ ครั้งนี้ฉันไป! แถมไปกับพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยนะเว้ย!”

“ถึงฉันจะไม่ได้เห็นหน้าตาของเธอ แต่ก็ได้เห็นรูปร่าง สุดยอด!”

แอนโทนี่ทำเสียงจึ๊ “เฮ้อ นายคิดดูนะ พี่สะใภ้ใหญ่หุ่นดี หน้าตาสวย ต่อสู้ก็เก่ง นี่มันนางฟ้านางสวรรค์ชัดๆ ทำไมถึงได้ชอบนักพรตตบะแตกอย่างผู้บัญชาการได้”

เขาน่ารักกว่าผู้บัญชาการด้วยซ้ำ หนุ่มหล่อรูปงาม

พอได้ยินแบบนี้ลิซิเนียสก็ละสายตาจากคอมพิวเตอร์ เหล่มองแอนโทนี่ เคาะแป้นพิมพ์อย่างใจเย็น

ขณะที่แอนโทนี่กำลังถอนหายใจก็มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้น

นี่เป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เขากับฟู่อวิ๋นเซินใช้ติดต่อกัน

“ฮัลโหลผู้บัญชาการ เรียกหาผมเหรอ” ดวงตาสีน้ำเงินของแอนโทนี่เปล่งประกาย ยืนตัวตรงทันที “งานเสร็จเรียบร้อยครับ ยึดอาวุธอันตราย ที่ดินก็คืนให้ชาวบ้านคนอื่นๆ ทุกคนอยู่ในความปลอดภัยแล้วครับ เชิญชี้แนะได้”

“ไดอาใกล้กลับมาจากโซนพิเศษที่เจ็ดแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินที่อยู่ปลายสายพูดเสียงเนือย เจือไปด้วยเสียงหัวเราะ “นายไปเปลี่ยนกับเขา ก่อนกลับมานายต้องฝึกทีมชั้นยอดออกมาให้ได้หนึ่งทีม อย่าทำให้ผู้บัญชาการผิดหวัง”

แอนโทนี่ที่กำลังรอคำชมถึงกับช็อกในชั่วขณะ “?”

ทำไมเขาเพิ่งสร้างผลงานก็ถูกเนรเทศแล้วล่ะ

ถึงแม้โซนพิเศษที่เจ็ดจะเป็นสถานที่ฝึกของไอบีไอ แต่ทำไมเขาต้องไปทนหนาวในพื้นที่เย็นสุดขั้วแบบนั้นในตอนนี้ด้วย

แถมยังต้องฝึกทีมชั้นยอดออกมาให้ได้อีก

ให้เขาไปบัญชาการเครื่องบินรบยังพอว่า แต่เรื่องฝึกไม่ใช่หน้าที่ที่รองประธานไดอาควรทำเหรอ

“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ตอบแบบขอไปที “เด็กดี จัดการบัตรผ่านให้นายแล้ว ไปได้ทันที”

แอนโทนี่ถูกวางสายใส่

เขาเงียบไปหลายวินาที ทันใดนั้นได้หันไปมองลิซิเนียส

ลิซิเนียสยกมือทันที ทำสีหน้าไม่รู้เรื่อง “ไม่เกี่ยวกับฉันนะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย เมื่อกี้ฉันดูข้อมูลคนใหม่อยู่ตลอด เตรียมสัมภาษณ์อยู่”

“ถุย ใครเชื่อนายก็เป็นหมูแล้ว!” แอนโทนี่โมโหอีกรอบ “วันไหนฉันเอาชนะนายได้จะนั่งตำแหน่งแทนนาย”

เขาไม่เคยเจอใครหน้าด้านเท่านี้มาก่อน

เรื่องที่ตระกูลโคเฮนถูกไอบีไอบุกจับอย่างกะทันหันได้ถูกลือไปยังอิทธิพลใหญ่ๆ ของยุโรปทันที

แต่ก็ไม่มีใครเก็บเอามาใส่ใจ อย่างไรเสียเรื่องแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีมาก่อน

ใครใช้ให้ตระกูลโคเฮนซวยแบบนั้น เจอไอบีไอพอดี

ต่อให้เป็นสี่ตระกูลมหาเศรษฐีของยุโรปก็ยังต้องให้เกียรติไอบีไอ

ไม่ว่าอย่างไรไอบีไอก็เป็นเพียงองค์กรเดียวที่พิทักษ์สันติสุขของโลก ไม่สนดินแดน ไม่สนชาติพันธุ์ สนแค่ช่วยชีวิตคน

เรื่องเล็กๆ แบบนี้ไม่นานก็ถูกลืม คนที่รักการแข่งขันจำนวนไม่น้อยต่างทุ่มความสนใจไปที่การแข่งขันเอฟวันที่ตระกูลแมนสันจัดขึ้น

ซิวอวี่ฟื้นฟูร่างกายเร็วมากภายใต้การดูแลของอิ๋งจื่อจิน และก็รู้เรื่องที่ตระกูลโคเฮนถูกไอบีไอจัดการ

แม้แต่ซิวอวี่ก็ตะลึง “พะ พ่ออิ๋ง เธอคงไม่ได้รู้จักกับผู้บัญชาการไอบีไอจริงๆ ใช่ไหม”

เธอยังจำได้เรื่องเมื่อปีที่แล้วที่เฝ่ยชุ่ยไจของตระกูลจงถูกขโมยของล้ำค่าไปได้ ไอบีไอยังได้ลงทะเบียนเปิดแอ๊กเคานท์เวยปั๋วด้วยตัวเอง

สองเรื่องนี้ถ้าแยกกันมองก็ดูปกติมาก ไอบีไอจัดการผู้ร้ายข้ามชาติ

แต่เมื่อนำมารวมกันมันก็น่าเก็บมาคิดแล้ว

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่ “ไม่ใช่แค่นั้น”

ยังเคยจูบกันด้วย

ซิวอวี่ “?”

เธอลูบคาง “ฉันจะไปเตรียมแข่งแล้ว พ่ออิ๋ง เดี๋ยวเชียร์ฉันด้วยนะ”

อิ๋งจื่อจินตบบ่าซิวอวี่ ยิ้มให้ “แน่นอน”

คำนี้เหมือนเรียกความฮึกเหิมให้ซิวอวี่ เธอกอดหมวกกันน็อกแล้วเดินไปเปลี่ยนชุดแข่งรถที่ห้องแต่งตัว

อิ๋งจื่อจินกวาดตามองด้านนอก สายตาชะงัก

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือได้ดังขึ้น จั่วหลีโทรมา

อิ๋งจื่อจินตัดสายทิ้งอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็ตอบกลับเป็นข้อความเสียงทางวีแชท

“นักศึกษาอิ๋ง” จั่วหลีงงมาก “ทำไมตัดสายอาจารย์ล่ะ”

“หนูอยู่ยุโรป เปลืองค่าโทรข้ามประเทศค่ะ”

จั่วหลี “…”

เธอเป็นถึงอภิมหาเศรษฐินีแห่งอาณาจักรบันเทิง แคร์เศษเงินโทรข้ามประเทศด้วยเหรอ

ไม่เหมือนเขา ซื้อมาร์คหน้าขาวใสให้เมียหลายลังจนเงินเก็บหมดแล้ว

“อาจารย์แค่จะโทรไปบอกว่าทางมหาวิทยาลัยตี้ตูเปิดเทอมแล้ว” จั่วหลีถอนหายใจ “ยังมีเรื่องอื่นอีก รอเธอกลับมาค่อยว่ากัน ไม่รีบ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ค่ะ”

“งั้นแค่นี้แหละ” จั่วหลีอารมณ์ดี “รอเธอกลับมานะ”

อิ๋งจื่อจินวางสาย เธอเดินไปยังที่นั่งผู้ชม

โซนนั่งพักของนักแข่งรถ

ตำแหน่งที่นั่งใกล้หน้าต่างก็เป็นทีมที่มาจากเอเชียเช่นกัน

ทีมที่เข้ารอบชิงชนะเลิศมีทั้งหมดสี่สิบแปดทีม เป็นทีมจากประเทศจีนเจ็ดทีม แต่มีห้าทีมที่เป็นทีมสำรอง

นอกจากทีมรถแข่งของตระกูลซิวแล้ว ทีมที่ได้โควตาลงแข่งอย่างเป็นทางการยังมีทีมจากประเทศจีนอีกหนึ่งทีม

หัวหน้าของทีมนี้ก็เป็นผู้หญิงอายุน้อยแบบซิวอวี่เหมือนกัน อายุแค่ประมาณยี่สิบปี

“คุณป้า วางใจได้ค่ะ” เด็กสาวพูดอย่างใจเย็น “หนูก็จะลงแข่งรถครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ต่อไปจะตั้งใจเรียนหมอให้ดีค่ะ”

มือของเธอไว้ใช้สำหรับเรียนหมอ แข่งรถก็แค่เอาสนุก ไม่ได้จริงจัง

พ่อแม่ของเธอตายในปีที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอได้เหยียนรั่วเสวี่ยที่เป็นป้าช่วยเอาไว้

ดังนั้นเธอย่อมเชื่อฟังคำพูดของเหยียนรั่วเสวี่ย

“อันเหอ รู้แบบนั้นก็ดี” น้ำเสียงของเหยียนรั่วเสวี่ยถึงได้อ่อนลง “วิชาการแพทย์มีประโยชน์กว่าแข่งรถเยอะ ปกป้องมือของเธอให้ดี ไว้แข่งเสร็จกลับมาป้าจะพาเธอไปหาคุณชิงจยา”

เธอชอบเหยียนอันเหอที่เป็นหลานสาวคนนี้มาก ขยัน มีพรสวรรค์สูงในด้านการเรียนหมอ

พูดถึงตรงนี้ อยู่ๆ น้ำเสียงของเหยียนรั่วเสวี่ยก็ตื่นเต้นขึ้นเป็นครั้งแรก “อันเหอ รู้หรือเปล่าว่าวิชาการแพทย์ของคุณชิงจยาได้รับการถ่ายทอดมาจากใคร”

เหยียนอันเหอก็สงสัย “ใครเหรอคะ”

เธอได้ยินชื่อหลินชิงจยาจากเหยียนรั่วเสวี่ยหลายครั้งมาก

เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งที่เป็นทั้งจอมยุทธ์และแพทย์แผนโบราณ

“สำนักที่เธออยู่เป็นของผู้ก่อตั้งสำนักแพทย์แผนโบราณคนแรก วิชาการแพทย์ของเธอก็เป็นสายตรงของโลกแพทย์แผนโบราณ” เหยียนรั่วเสวี่ยบอก “คุณชิงจยาจิตใจดีมาก ชอบช่วยเหลือผู้คน ป้าเองกว่าจะเอาโควตามาให้เธอได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ ถ้าเป็นคนอื่นไม่มีทางสนใจคนธรรมดาอย่างพวกเราหรอก”

“เธอต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดีๆ เข้าไปเป็นศิษย์สำนักเดียวกับคุณชิงจยาให้ได้”

ขอแค่ได้กลายเป็นแพทย์แผนโบราณ แม้จะมีวิชาแพทย์แผนโบราณเพียงน้อยนิดก็จะสามารถตั้งตัวในวงการแพทย์ได้ แบบนี้ก็ไม่ต้องกลุ้มเรื่องอนาคตของเหยียนอันเหอแล้ว

เหยียนอันเหอยิ้มพลางพยักหน้า “ทราบแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะคุณป้า”

“จริงสิ ป้าได้ยินมาว่าประเทศจีนของพวกเรายังมีนักแข่งที่มากพรสวรรค์อีกคนเหรอ” เหยียนรั่วเสวี่ยไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ก็แค่ลองถามดู “ก็ไปเข้าร่วมแข่งครั้งนี้ด้วยเหรอ”

“ค่ะ” เหยียนอันเหอเหลือบมองซิวอวี่ที่อยู่ตรงข้าม พูดเสียงเย็นชาลง “เธอเก่งจริงค่ะ หนูเคยดูการแข่งที่ตอนนั้นเธออายุสิบห้าปี แต่เธอไม่ได้แข่งรถมาห้าปีแล้ว พรสวรรค์ดีแค่ไหนก็หมดลงได้ค่ะ”

เหยียนรั่วเสวี่ยพูดต่ออีกนิดหน่อยแล้ววางสาย

ขณะที่เหยียนอันเหอกำลังเล่นมือถือเรื่อยเปื่อยก็เห็นนักแข่งคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยความรีบร้อน มาหาซิวอวี่

สายตาของคนที่อยู่ในห้องจำนวนไม่น้อยมองไป

“พี่อวี่” นักแข่งคนนี้กัดฟันพูด “ผมเพิ่งไปด้านหลังมา รถของพวกเรา…”

ซิวอวี่สีหน้าเปลี่ยน “พาฉันไปดูหน่อย”

เธอลุกขึ้นแล้วรีบตามนักแข่งคนนี้ไปยังจุดจอดรถแข่ง

แววตาของเหยียนอันเหอวูบไหว ยืนขึ้นแล้วเดินตามออกไป

นักแข่งที่อยู่ทีมเดียวกันกับเธอมองเธอ “หัวหน้าเหยียน?”

“รอก่อนนะ” เหยียนอันเหอตอบ “ฉันจะไปดูหน่อย”

จุดจอดรถแข่งอยู่ไม่ไกลจากโซนนั่งพัก ไม่นานก็ไปถึง

สายตาของซิวอวี่เย็นชาลง

ทีมรถแข่งของตระกูลซิวมีรถแข่งทั้งหมดเจ็ดคัน แต่ตอนนี้ยางรถกับเครื่องยนต์พังหมด

ฝีมือคนทำแน่นอน อีกทั้งตระกูลแมนสันที่เป็นฝ่ายจัดงานก็หนีไม่พ้นความเกี่ยวข้อง อย่างไรเสียที่นี่ก็มีคนคอยคุมโดยเฉพาะ

รถของนักแข่งสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะยางรถหรือเครื่องยนต์ต่างก็ไม่ใช่แบบที่รถยนต์ทั่วไปจะมาเทียบได้

การแข่งขันใกล้เริ่มแล้ว รถพังก็ลงแข่งไม่ได้

“รถพังเหรอ” เหยียนอันเหอที่ตามเข้ามาด้วยย่อมสังเกตเห็นแล้ว “คุณซิว ไม่งั้นมาเป็นเนวิเกเตอร์ให้ฉันไหม”

ซิวอวี่หันไปแสยะยิ้ม “ฝันกลางวันเหรอ”

เธอไม่รู้จักเหยียนอันเหอ แต่เคยดูข้อมูลของพวกผู้เข้าแข่งขันก่อนแข่ง

ตอนเธออายุสิบห้าปีเป็นแค่เนวิเกเตอร์เพราะปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย

ครั้งนี้เธอมาในฐานะนักแข่ง

เธอเป็นเนวิเกเตอร์ให้นักแข่งทีมตัวเองได้ แต่ถ้าไปเป็นให้ทีมอื่น ครั้งนี้ตระกูลซิวก็เสียแรงเปล่าแล้ว

“ไม่ยินดีเหรอ” น้ำเสียงของเหยียนอันเหอเจือไปด้วยความดูถูก “นักแข่งที่เข้ารอบมีใครไม่รู้บ้างว่าเธอไม่ได้แข่งรถมาห้าปีแล้ว ตอนนี้เธอไม่มีแม้แต่รถ อยากทำประเทศจีนขายหน้าเหรอ เธอก็เป็นได้แค่เนวิเกเตอร์แล้ว”

“คุณซิว ฉันให้โอกาสคุณได้ลงสนามมันก็ดีมากแล้วนะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+