คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 556 อิ๋งจื่อจิน ‘ตระกูลเฮอร์เชลไม่ธรรมดาเหรอ
ตอนที่ 556 อิ๋งจื่อจิน ‘ตระกูลเฮอร์เชลไม่ธรรมดาเหรอ’
เธอกระอักเลือดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
เลือดหยดลงบนพรมหน้าประตู
เป็นที่น่าตกใจ
คนคุ้มกันสีหน้าเปลี่ยนไปมาก “คุณหนู!”
แม้แต่มู่เฮ่อชิงก็ไม่คาดคิดว่าเมิ่งชิงเสวี่ยจะสะเทือนใจได้ถึงขนาดนี้
เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกระอักกระอ่วน อึ้งอยู่กับที่ จากนั้นก็หันไปมองฟู่อวิ๋นเซิน
ถ้าเกิดเมิ่งชิงเสวี่ยเป็นอะไรที่บ้านตระกูลมู่ ความซวยก็จะมาตกที่ตระกูลมู่
แต่ต่อให้ตระกูลมู่รู้ว่าเมิ่งชิงเสวี่ยจะมา ก็ไม่มีทางห้ามเธอได้
ตระกูลในโลกปุถุชนต่อให้สถานะสูงแค่ไหนก็คนละระดับกับโลกจอมยุทธ์และแพทย์แผนโบราณอยู่ดี
คนคุ้มกันร้อนใจมาก หยิบขวดหยกที่พกติดตัวออกมา “กินยาครับคุณหนู กินยาก่อน”
เขาเปลืองแรงไปมากกว่าจะป้อนยาหนึ่งเม็ดเข้าปากเมิ่งชิงเสวี่ยได้
ยาพวกนี้ผู้อาวุโสในตระกูลเมิ่งปรุงให้เมิ่งชิงเสวี่ยโดยเฉพาะ
ช่วงนี้เมิ่งชิงเสวี่ยไปรักษาคนไม่มาก สองปีนี้ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไร ทำไมวันนี้ถึงอาเจียนเป็นเลือดได้
“ผู้เฒ่ามู่คะ ร่างกายหนูไม่ค่อยดี” เมิ่งชิงเสวี่ยพยายามพูด ก้มหน้าอย่างหมดแรง ไอไม่หยุด “แค่กๆๆ…ชิงเสวี่ยขอตัวก่อน”
มู่เฮ่อชิงถึงโล่งอก “มู่เฉิง”
“คุณหนูเมิ่ง ทางนี้ครับ” มู่เฉิงรีบเข้าไปทันที พูดเสียงเบา “ข้างนอกอากาศหนาว ผมจะขับรถไปส่งที่ทางเข้าโลกแพทย์แผนโบราณแล้วกันนะครับ”
“รบกวนคุณเฉิงด้วยค่ะ ฉัน…” เมิ่งชิงเสวี่ยพูดต่อไม่ไหว มีเสียงสะอื้นมาแทน น้ำตาพรั่งพรู
มู่เฉิงกระอักกระอ่วนใจ
เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีก็เลยเงียบไว้ เขากับคนคุ้มกันช่วยพาเมิ่งชิงเสวี่ยออกไป
ภายในคฤหาสน์ บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย
“ฉันไม่รู้มาก่อนว่าเธอจะมา” มู่เฮ่อชิงนั่งอยู่ที่โซฟาอีกตัว “ขอโทษจริงๆ”
“ผู้เฒ่ามู่พูดอะไรแบบนั้นครับ” ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้นอย่างขี้เกียจ “ทำไมต้องขอโทษด้วย”
“ก็จริง” มู่เฮ่อชิงเหลือบมองเขา “นายต่างหากที่ควรขอโทษฉัน ดูซิ ทำเธอโกรธจนกระอักเลือด”
“อืม ขอโทษครับ ช่วงนี้จน ช่วยไม่ได้ งั้น…” ฟู่อวิ๋นเซินกวาดตามองพรมเปื้อนเลือด “เดี๋ยวซื้อพรมให้ใหม่ครับ”
“…”
มู่เฮ่อชิงโมโหทำเสียงฮึดฮัด “ไปๆๆ เจ้าบ้าเอ๊ย อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก จากที่ฉันอายุยืนจะถูกนายทำให้อายุสั้นลง”
เถียงไม่เคยชนะเลยจริงๆ
“ผู้เฒ่ามู่อย่าโมโหนักสิครับ” ฟู่อวิ๋นเซินลุกขึ้น “ผมไปก่อน วันที่สามสิบเอ็ดค่อยพาเยาเยามาใหม่”
มู่เฮ่อชิงส่ายมือ อยากรีบไล่ออกไปเร็วๆ
ฟู่อวิ๋นเซินผูกผ้าพันคอให้อิ๋งจื่อจินตามความเคยชิน ทั้งยังช่วยใส่เสื้อโค้ทให้
อิ๋งจื่อจินมองไปที่ไกลๆ พลางครุ่นคิด “เธอชอบคุณ”
“ก็อาจจะ อย่างน้อยก็มีคนคิดแบบนี้” ฟู่อวิ๋นเซินไม่สนใจเท่าไร “ไม่อย่างนั้น เยาเยาเธอคิดว่าลูกหลานสายตรงของตระกูลเมิ่งที่ถูกพี่ชายทำพิการจะอยู่ๆ มาหาเรื่องพี่ชายทำไม”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “เพราะเมิ่งชิงเสวี่ยเหรอ”
ในรุ่นหนุ่มสาว เมิ่งชิงเสวี่ยเป็นอัจฉริยะแพทย์แผนโบราณ
แม้เธอจะสุขภาพไม่แข็งแรง แต่ก็มีคนมาจีบอยู่ไม่น้อย
เธอยังมีพี่น้องหลายคนที่ปกป้องเธอ
เป็นดอกไม้ในเรือนกระจกที่แท้จริง
“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินตอบน้ำเสียงเย็นชา “ไม่เกี่ยวกับพี่ชายนะ เดินคนละเส้นทางกันเลย”
ตอนนั้นสิ่งที่ค้ำจุนเขาคือความแค้น
เขาเดินอยู่บนความเป็นความตายมาตลอด กดดันให้ตัวเองเอาชนะขีดจำกัดครั้งแล้วครั้งเล่า มีวรยุทธ์ที่สูงขึ้น มีเวลาสนใจเรื่องอื่นที่ไหนกัน
เขาไม่เคยคุยกับเมิ่งชิงเสวี่ย แค่เคยเจอกันไม่กี่ครั้ง แต่เมิ่งชิงเสวี่ยกลับนำความยุ่งยากมาให้เขาอยู่ไม่น้อย
มีคนมาหาเรื่องเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
“พี่ชายน่ะ ตอนนี้มีคนที่ชอบอยู่แล้ว และเป็นเพียงคนเดียว” ฟู่อวิ๋นเซินลูบศีรษะของเธอ “เธอชื่อว่าอิ๋งจื่อจิน มีชื่อเล่นว่าเยาเยา พี่ชายคิดไม่ซื่อกับคนคนนี้ มีจุดประสงค์แอบแฝง คิดแค่ว่า…”
“จะลักพาตัวเธอยังไงให้มาเป็นของพี่ชายอย่างสมบูรณ์”
“ฉันไว้ใจคุณ คุณก็มั่นใจในตัวเองหน่อย” อิ๋งจื่อจินหยุดเล็กน้อย เลิกคิ้วพูดต่อ “จะว่าไปเมื่อก่อนฉันเคยบอกเพื่อนสนิทว่า ชีวิตนี้ฉันจะไม่มีทางแต่งงานมีลูก”
“หืม?”
“กลืนน้ำลายตัวเอง”
ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม “พี่ชายรู้ เธอเองก็ชอบพี่ชายมากๆ เหมือนกัน ตอนดึกเธอนอนเตะผ้าห่มยังรู้จักกอดพี่ชาย”
เขาอารมณ์ดีขึ้นมาทันที อมยิ้มพลางพูด “เด็กน้อย ตอนเย็นอยากกินอะไร”
“ซี่โครงผัดซอสเปรี้ยวหวาน”
“หืม? ไม่กินแกงหมูเหรอ เธอชอบกินเผ็ดไม่ใช่เหรอ”
อิ๋งจื่อจินคิด “งั้นก็ได้”
วันนี้เธอใช้เรี่ยวแรงไปมาก จะกินเท่าไรก็ได้
ฟู่อวิ๋นเซินหลุบตาลงหัวเราะเบาๆ “เลี้ยงหมูไว้จริงๆ”
พอเขาพูดจบก็ถูกหยิกเอว
“ไม่เอาน่า” เขาจับมือเธอไว้ ยิ้มพลางพูด “พี่ชายยินดีเลี้ยงแค่เธอคนเดียว”
…
หลังจากเมิ่งชิงเสวี่ยกลับถึงบ้านตระกูลเมิ่งก็เริ่มมีไข้สูง นอนอยู่บนเตียง ไม่ค่อยรู้สึกตัว
พอนายใหญ่เมิ่งทราบข่าวก็รีบมาหา ตะคอกใส่คนคุ้มกันยกใหญ่ “เกิดอะไรขึ้น ทำไมชิงเสวี่ยออกไปเดี๋ยวเดียวกลายเป็นแบบนี้ได้!”
“ระ เรียนนายใหญ่” คนคุ้มกันคุกเข่า ตอบตัวสั่น “คะ คุณหนูไปเห็นคุณชายฟู่ที่มาจากโลกปุถุชนครับ”
เขาตามติดเมิ่งชิงเสวี่ยตลอด ย่อมรู้จักฟู่อวิ๋นเซิน
“เขาเหรอ” นายใหญ่เมิ่งอึ้งก่อน จากนั้นก็รู้สึกเหลือเชื่อ “ชิงเสวี่ย ลูกอย่าบอกนะว่า ลูกชอบเขาจริงๆ”
เมิ่งชิงเสวี่ยพยายามลืมตา “คุณพ่อ…”
“ชิงเสวี่ย ลูกชอบเขาตรงไหน” นายใหญ่เมิ่งข่มอารมณ์โมโห “เขาไม่มีชาติตระกูล ไม่มีภูมิหลัง แถมยังทำน้องชายลูกจนกลายเป็นแบบนั้น ยังลืมเขาไม่ได้อีกเหรอ”
ใช่ พรสวรรค์จอมยุทธ์ของฟู่อวิ๋นเซินน่ากลัวมาก เก่งกว่าพวกคนรุ่นเดียวกันที่มากพรสวรรค์ในโลกจอมยุทธ์
มีแค่เซี่ยอวี้ที่หมดสติไม่ฟื้นเพียงคนเดียวที่สู้เขาได้
ตอนนี้ยังมีตระกูลจอมยุทธ์หลายตระกูลอยากได้เขาไป
แต่ถ้าไม่มีคนหนุนหลังในโลกจอมยุทธ์ โอกาสรอดก็ต่ำมาก
ฟู่อวิ๋นเซินจับคู่กับเมิ่งชิงเสวี่ย สุดท้ายก็ยังด้อยกว่าหน่อย
นายใหญ่เมิ่งยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห “เขาทำลูกบาดเจ็บขนาดนี้ พ่อจะให้คนไปจับเขามาชดใช้!”
เมิ่งชิงเสวี่ยเป็นแก้วตาดวงใจที่ทุกคนในตระกูลเมิ่งต่างประคบประหงม จะปล่อยให้ถูกรังแกได้เหรอ
“คุณพ่อคะ ไม่โทษเขา หนูสมัครใจเอง ขอร้องนะคะ อย่าไปหาเขาเลย อย่าทำให้เขาออกห่างจากหนูไปมากกว่านี้เลยนะคะ” เมิ่งชิงเสวี่ยพูดเหมือนขอร้องเสร็จก็หมดแรง สลบไปอีกครั้ง
นายใหญ่เมิ่งนิ่งเงียบ สีหน้าเคร่งเครียดเย็นชา
ผู้อาวุโสใหญ่ได้ข่าวก็รีบมา
หลังจากจับชีพจรให้เมิ่งชิงเสวี่ยเสร็จก็ถอนหายใจ “สะเทือนใจอย่างรุนแรง หนักกว่าเมื่อสิบปีก่อน มันเรื่องอะไรกันแน่”
สิบปีก่อนเมิ่งฮูหยินจากไป
นายใหญ่เมิ่งเม้มริมฝีปาก ไม่อยากพูดชื่อฟู่อวิ๋นเซิน
เพราะเขาไม่อยากเชื่อและไม่ยินดีจะเชื่อว่าฟู่อวิ๋นเซินสามารถมีอิทธิพลต่อเมิ่งชิงเสวี่ยได้มากขนาดนี้
“ปล่อยชิงเสวี่ยพักรักษาตัวให้ดี” ผู้อาวุโสใหญ่ไม่พูดอะไรมาก เขียนใบสั่งยา “ก่อนปีใหม่จันทรคติอย่าให้ชิงเสวี่ยออกไปไหน”
โลกจอมยุทธ์กับโลกแพทย์แผนโบราณสืบทอดขนบธรรมเนียมโบราณ ให้ความสำคัญกับปีใหม่
นายใหญ่เมิ่งพยักหน้า อยู่กับเมิ่งชิงเสวี่ยสักพักแล้วถึงออกไปจัดการธุระ
…
การถ่ายทอดสดวันที่สองขาดนักศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ตันไปสามคน
ทีมงานไม่ได้อธิบายเหตุผล แค่บอกว่ามีธุระ
แต่พลังขุดของชาวเน็ตแข็งแกร่งมาก ไม่นานก็ขุดพบเรื่องฮวนเข้าพักในโรงพยาบาล
[เสียสติงั้นเหรอ]
[เขาไปทำอะไรมา ทำไมอยู่ๆ ก็เสียสติ คงไม่ได้ช็อกเรื่องเทพอิ๋งหรอกนะ]
[ฉันว่าเขาก็เก่งอยู่นะ ยังไงซะก็เป็นนักศึกษาสองสถาบันอย่างมหาวิทยาลัยนอร์ตันกับมหาวิทยาลัยศิลปะรอยัลแห่งยุโรป คนธรรมดาอย่างพวกเราตอนอายุสิบเก้าไม่ประสบความสำเร็จเท่านี้]
[อย่ามาเทียบกับเทพอิ๋งเลยจริงๆ เธอไม่ใช่คน เป็นที่ยอมรับ เทียบจนสุดท้ายไม่มีแม้แต่ความอิจฉาแล้ว]
เนื่องจากความสามารถเกินจริงไปมาก อิจฉาไปก็ไม่มีประโยชน์
พอไม่มีสามคนนี้ รายการยังคงดำเนินไปตามปกติ ชาวเน็ตที่มาดูกลับเยอะมากขึ้น
วันนี้ไปห้องพิศวงที่มหาวิทยาลัยตี้ตูทำขึ้นมา มีปริศนาสารพัดที่ความยากระดับสูง
“พี่สาว ฉันลืมบอกพี่ไป” อะเดลกลุ้มใจระหว่างทาง “ฮวนกลายเป็นแบบนั้น ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตระกูลเฮอร์เชลไม่ธรรมดา จะต้องมาเอาเรื่องพวกพี่แน่”
“ไม่ธรรมดาเหรอ” สายตาของอิ๋งจื่อจินเรียบเฉย “ให้พวกเขามาตามสบาย”
อะเดลหวดหมัด “ไม่เป็นไรนะพี่สาว ฉันจะปกป้องพวกพี่เอง”
เธอไปหาเวินทิงหลาน กระโดดโลดเต้นออกไป
อิ๋งจื่อจินเช็กยอดรับชมของซีซั่นสามอีกครั้ง
ดีมาก
รอรายการจบชูกวงมีเดียก็จะได้กำไรมาอีกหลายพันล้าน
…
ในเวลาเดียวกัน ภายในโรงพยาบาล นักศึกษาที่ดูแลฮวนอยู่ข้างเตียงกดรับสายวิดีโอคอลที่มาจากมหาวิทยาลัยนอร์ตัน
คนในวิดีโอเป็นชายสูงวัย ผมสีดอกเลา แต่ดูกระฉับกระเฉง
นี่คือผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลเฮอร์เชล
เห็นได้ชัดว่าตระกูลเฮอร์เชลรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
ชายชราเคาะโต๊ะ สายตาเอาเรื่อง พูดเสียงเย็นชา “เวินทิงหลาน อิ๋งจื่อจิน แล้วยังมีใครอีก”
Comments