คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 569 อิทธิพลและเส้นสายที่อยู่เบื้องหลังอิ๋งจื่อจิน

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 569 อิทธิพลและเส้นสายที่อยู่เบื้องหลังอิ๋งจื่อจิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 569 อิทธิพลและเส้นสายที่อยู่เบื้องหลังอิ๋งจื่อจิน

หลังจากมีการก่อตั้งโลกแพทย์แผนโบราณ ก็มีแพทย์แผนโบราณประเภทนี้มาตลอด พวกเขาเดินบนเส้นทางผิดๆ ก็แค่ลดลงไปบ้างในช่วงไม่กี่ปีมานี้

หลายคนที่หนีออกไปก็ล้วนถูกจับกลับมา แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อยที่เก็บตัวหลบซ่อน รอวันเคลื่อนไหว

พวกเขาจะทำยาสารพัดที่ส่งผลต่อระบบประสาท สร้างภาพหลอน เป็นต้น อีกทั้งยังจับพวกคนปรุงยา ฝีมือโหดเหี้ยมขั้นสุด

เพียงแต่แพทย์แผนโบราณประเภทนี้ถ้าไม่เป็นฝ่ายเปิดเผยตัวเอง โดยทั่วไปจะไม่ถูกพบเจอ

พวกเขาหลบซ่อนตัวดีมาก

โลกแพทย์แผนโบราณจำเป็นต้องกำจัดแพทย์แผนโบราณประเภทที่โหดเหี้ยมแบบนี้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดความวุ่นวาย

อย่างไรเสียบางครั้งการเดินบนเส้นทางผิดๆ กลับจะทำให้ความสามารถพัฒนาได้เร็ว จึงมักจะมีคนที่ทนต่อสิ่งยั่วยุไม่ไหว เลือกเดินบนเส้นทางนี้

พออาจารย์ฟางพูดแบบนี้ อาจารย์คนอื่นก็พากันซุบซิบ

รองประธานสมาพันธ์ก็หน้านิ่ว

อนาคตของอิ๋งจื่อจินไร้ขีดจำกัด นี่เป็นสิ่งที่แน่นอน

แต่ตอนนี้เธอเป็นเพียงสมาชิกระดับสี่ สมาชิกระดับสี่ในสมาพันธ์โอสถมีร่วมพันคน

สมาชิกระดับห้าถึงจะติดต่อรองประธานสมาพันธ์ได้โดยไม่ต้องผ่านพวกอาจารย์

“อาจารย์ฟาง ยังไม่ได้แต่แม้แต่ชันสูตรศพ คุณก็จะฟันธงแล้วเหรอว่านายใหญ่คนก่อนของตระกูลสวีถูกยาพิษตาย” อาจารย์หลี่แสยะยิ้ม “คุณเห็นกับตาเหรอ หรือเขามาเข้าฝันบอก”

“คุณไปพาลใส่คุณอิ๋งเพราะความโง่เขลาของตัวเองจนพลาดโอกาสดีๆ สินะ แอบล้างแค้นส่วนตัวสนุกพอหรือยัง”

ลู่สวี่ที่อาจารย์ฟางส่งไปสำนักเทียนอีถูกขับไล่ออกจากสำนักหลังผ่านไปไม่กี่วันเพราะทำผิด

อีกทั้งพอสำนักเทียนอีทราบว่าลู่สวี่ได้สิทธิ์นี้มาเพราะอ้างชื่อหลินชิงจยา ก็ยิ่งเอาชื่อเขาขึ้นบัญชีต้องห้าม

คนรุ่นหลังในตระกูลถัดจากลู่สวี่ไปอีกสามรุ่นจะไม่สามารถเข้าสำนักเทียนอีได้อีก

ทางด้านอาจารย์ฟางย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย สำนักเทียนอีตัดขาดกับเขาอย่างสิ้นเชิง

อย่าว่าแต่จะอาศัยสำนักเทียนอีเพื่อไต่เต้าเลย ไม่มีโอกาสอะไรเหลือแล้ว

อาจารย์ฟางนึกเสียใจ

โดยเฉพาะหลังจากที่เห็นจอมยุทธกับตระกูลแพทย์แผนโบราณจำนวนไม่น้อยต่างไปขอทำความรู้จักอิ๋งจื่อจินที่บ้านตระกูลเยี่ย เขายิ่งรู้สึกไม่ยอม

“อาจารย์หลี่ คำพูดบางอย่างอย่าพูดออกมามั่วๆ นะ” อาจารย์ฟางไม่ยอม “แล้วเขาไม่ได้ตายเพราะกินยาของอิ๋งจื่อจินหรือไง”

อาจารย์หลี่แสยะยิ้ม “กินยาแล้วตายก็ใช่ว่าจะเกี่ยวกับยาเสมอไป งั้นผมยังพูดได้อีกนะว่าเป็นเพราะเขาเริ่มจะอาการดีขึ้น ตื่นเต้นมากเกินไปจนโรคหัวใจกำเริบอย่างกะทันหัน”

อาจารย์ฟางหน้าแดงก่ำ “คุณ…”

“เอาล่ะ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้น “ต้องชันสูตรศพ แต่ที่อาจารย์ฟางพูดก็มีเหตุผล”

อาจารย์ฟางเรียกด้วยความนอบน้อม “ผู้อาวุโสสาม”

ผู้อาวุโสสี่ที่อยู่ข้างผู้อาวุโสสามใส่อารมณ์ยิ่งกว่า

“ถ้าเธอเดินทางผิดจริง จะต้องกำจัด! จะให้เธอมองข้ามกฎระเบียบได้เพราะความเป็นอัจฉริยะนักปรุงยาหรือไง”

เขาตบโต๊ะอย่างแรง “ไม่สิ เพราะเธอเป็นอัจฉริยะนักปรุงยา พอเธอเรียนสำเร็จก็จะไม่มีใครควบคุมเธอได้แล้ว! แพทย์แผนโบราณแบบนี้เป็นอันตรายต่อพวกเราแค่ไหนไม่รู้กันเหรอ!”

“ผู้อาวุโสสี่” ผู้อาวุโสสามขมวดคิ้ว “เรื่องยังไม่ได้ข้อสรุป อย่าใส่ความรู้สึกส่วนตัว”

ผู้อาวุโสสี่หุบปาก แววตามีความเคียดแค้นเข้ากระดูก

ลูกชายกับลูกสะใภ้ของเขา รวมถึงหลานๆ ต่างถูกแพทย์แผนโบราณที่โหดเหี้ยมจับไปปรุงยาหมด

กว่าเขาจะไปพบ ทั้งสี่คนก็เหลือเพียงโครงกระดูกที่ไม่สมบูรณ์แล้ว

แต่ก็ยังไม่เจอตัวแพทย์แผนโบราณที่โหดเหี้ยมคนนี้จนถึงทุกวันนี้

รองประธานสมาพันธ์เงียบไปสักพัก เคาะโต๊ะแล้วพูด

“เรื่องนี้ต้องวางแผนระยะยาว หยุดการสนับสนุนสมุนไพรให้เธอก่อน ไปขอศพอดีตนายใหญ่มาจากตระกูลสวีแล้วทำการชันสูตร”

“แล้วก็ ไปส่งข่าวที่สำนักเทียนอี ตระกูลฝู ตระกูลเมิ่ง รวมถึงพวกตระกูลแพทย์แผนโบราณตระกูลอื่น ให้พวกเขามาประชุมกันว่าคิดเห็นอย่างไร”

เรื่องแบบนี้เกี่ยวพันถึงทั่วทั้งโลกแพทย์แผนโบราณ ไม่มีทางทำแบบขอไปที

แต่ถ้านายใหญ่สวีตายเพราะยาที่อิ๋งจื่อจินทำจริง ถ้าอย่างนั้นเพื่อความสงบสุข และอนาคตของแพทย์แผนโบราณ ยอมฆ่าคนผิดตัวหมื่นครั้งยังดีกว่าปล่อยไปสักคน

ทางด้านโลกจอมยุทธ

ฝูเฉินกับฝูซีก็ถูกเชิญไปด้วย

แต่ฝูเฉินไม่กล้านั่ง เขาไปนั่งยองริมทะเลสาบ ช่วยอวิ๋นซานที่กลับมาจากศาลสถิตยุติธรรมใช้หินจับปลา

อวิ๋นซานรู้จักฝูเฉิน

เขาเคยเห็นพวกภาพเหมือนของบรรดาอัจฉริยะในโลกจอมยุทธกับโลกแพทย์แผนโบราณ

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

อวิ๋นซานมองฝูเฉินโยนหินลงทะเลสาบ โยนปุ๊บก็มีปลาลอยขึ้นมาหนึ่งตัว ในที่สุดเขาก็อดถามไม่ได้ “คุณเป็นทั้งจอมยุทธ์ทั้งแพทย์แผนโบราณเหรอครับ”

“หา ทำไมเหรอ” ฝูเฉินโยนหินอีกก้อน ครั้งนี้ได้ตัวใหญ่ “มีปัญหาอะไรเหรอ”

อวิ๋นซาน “…”

โคตรมี

เขารู้สึกได้ถึงวรยุทธ์ในตัวฝูเฉิน เกรงว่าจะไม่ด้อยไปกว่าเขา

แต่ปัญหาคือ ฝูเฉินเป็นแพทย์แผนโบราณไม่ใช่เหรอ

วรยุทธ์ของแพทย์แผนโบราณจะเหมือนเขาได้เหรอ

อวิ๋นซานสะเทือนใจ เขายกเข่งปลาไปวางไว้ข้างเตาย่าง จากนั้นก็เริ่มย่างปลาด้วยความรู้สึกต่ำต้อย

อวิ๋นอู้ไปฆ่าไก่หลังบ้าน

อีกด้านหนึ่งของเรือน กับข้าวถูกเตรียมไว้พร้อมแล้ว

ฝูเฉินถึงได้กล้าไป ค่อยๆ นั่งลงข้างฝูซี

โลกจอมยุทธ์ไม่มีของอย่างสเต็กเนื้อ ฟู่อวิ๋นเซินสั่งให้คนเอามาจากข้างนอกโดยเฉพาะ

เขาหั่นเสร็จแล้วถึงป้อนอิ๋งจื่อจินทีละชิ้น

ฝูซีมือสั่น ขนาดเธอมีวรยุทธ์สองร้อยกว่าปีก็ยังจับตะเกียบไม่อยู่

จนถึงตอนนี้เธอยังรับไม่ได้ว่าอาจารย์ของเธอคบกับใคร

ฝูเฉินงง “ท่านผู้นำตระกูล”

ฝูซีถอนหายใจ พูดเสียงเบา “มีชีวิตอยู่มานาน พอเห็นคนใกล้ตัวทยอยล้มหายตายจากไปก่อนตัวเองทีละคนมันก็รู้สึกแย่”

สามีของเธอ ลูก หรือแม้กระทั่งหลาน ต่างตายก่อนเธอทั้งนั้น

เพราะไม่มีอิ๋งจื่อจินชี้แนะ การฝึกแพทย์แผนโบราณกับจอมยุทธในเวลาเดียวกันจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก

เธอมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้เพราะวรยุทธ แต่คนอื่นไม่ไหว

“อาจารย์คะ มีเรื่องที่อยากขอร้อง ศิษย์ใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี” ฝูซีกำมือคารวะ “รบกวนอาจารย์ช่วยสอนเด็กคนนี้หน่อย ว่าทำอย่างไรถึงจะฝึกวรยุทธ์ได้โดยที่ไม่กระทบต่อฝีมือการรักษาของแพทย์แผนโบราณ”

“วรยุทธ์ของเขาต่ำมาก ตอนนี้มีแค่สามสิบปี ไม่น่าพูดถึงเท่าไร”

พอได้ยินแบบนี้ฟู่อวิ๋นเซินก็เลิกคิ้ว ครุ่นคิด จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ “วรยุทธเท่านี้ก็สูงมากแล้วครับ”

จอมยุทธ์ในวัยเดียวกันมีแค่ไม่กี่คนที่มีวรยุทธสูงเท่านี้

แต่ไม่มีใครรู้เรื่องที่ฝูเฉินเป็นทั้งจอมยุทธและแพทย์แผนโบราณ

ด้านหนึ่งเป็นเพราะฝูเฉินถ่อมตัว อีกด้านหนึ่งเป็นเพราะฝูซีปกป้องไว้อย่างดี

อย่างไรเสียตระกูลฝูก็เป็นแค่ตระกูลแพทย์แผนโบราณ หากว่ากันด้วยเรื่องวิชาต่อสู้ย่อมสู้ตระกูลจอมยุทธไม่ได้

หากลือออกไป ตระกูลเซี่ยยังคงมีความคิดกวาดล้างพวกอัจฉริยะ

วรยุทธ์เกือบสี่ร้อยปี โลกจอมยุทธมีแค่ไม่กี่คนที่ต้านทานได้

ผู้นำตระกูลหลินกับตระกูลเย่ว์อย่างมากก็ได้แค่สู้แล้วเสมอ

เว้นเสียแต่จอมยุทธอันดับหนึ่งในตำนานจะยังมีชีวิตอยู่

แต่หลายปีมานี้ไม่เคยมีใครเจอเขา

“ไม่รบกวน เรื่องง่ายๆ” อิ๋งจื่อจินเหลือบมองฝูเฉินแล้วพูดอย่างใจเย็น

“ให้ฉันสอนวิธีฝึกกำลังภายในยามหลับไหม”

ฝูเฉินมีความหวัง “จริงเหรอ”

นี่มันความฝันของเขาเลยนะ!

มีเรื่องดีๆ แบบนี้ด้วยเหรอ

ฝูเฉินคุกเข่าลงทันที กราบคารวะเป็นศิษย์ เริ่มคำนับโป๊กๆ

“ท่านปรมาจารย์ ได้โปรดสอนผมด้วย ต้องสอนผมให้ได้นะครับ!”

ฝูซีอดทน ข่มความอยากถีบฝูเฉินตกทะเลสาบ

เธอไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ ว่าทายาทรุ่นหลังของเธอคนนี้จะขี้เกียจได้ขนาดนี้

“ได้” อิ๋งจื่อจินวางตะเกียบลง “เงินมางานเดิน”

ฝูเฉิน “?”

เขางงไปชั่วขณะ

ไม่กี่วินาทีถัดมาฝูเฉินถึงเข้าใจ “ท่านปรมาจารย์ ผมไม่มีเงินหรอก มีแค่คลังสมุนไพรน้อย”

“ก็ได้” อิ๋งจื่อจินคิดว่าสมุนไพรมีค่ายิ่งกว่าเงิน “อีกสองสามวันมาเอาที่สมาพันธ์โอสถ”

ฝูเฉินดีใจมาก “ครับ!”

อย่างไรเสียเขาก็ไม่อยากปรุงยา เอาสมุนไพรไปให้หมดนั่นต่างหากคือความต้องการของเขา

“อาจารย์จะมาสำนักเทียนอีไหมคะ” ฝูซีถาม “ศิษย์จะให้อวี้เซวียนรับรอง”

ขณะพูดก็ถอนหายใจ “อวี้เซวียนเป็นลูกศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดของศิษย์ ก็มีแค่เขาที่ยังมีชีวิตอยู่”

อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเบาๆ “ไม่ล่ะ ฉันไม่มีเวลา”

ฝูซีเข้าใจ

อิ๋งจื่อจินคิดแล้วรับกล่องมาจากฟู่อวิ๋นเซินยื่นให้ฝูซี

ฝูซีอึ้ง “นี่คืออะไรเหรอคะอาจารย์”

“โทรศัพท์มือถือ ในนั้นมีตัวปล่อยสัญญาณขนาดจิ๋ว เล่นเน็ตได้” อิ๋งจื่อจินพูด “ต่อไปมีเรื่องอะไรก็ใช้สิ่งนี้ติดต่อ สะดวกมาก”

ฝูซีพยักหน้า “ดูเหมือนพวกเด็กๆ ในบ้านจะเคยเล่นของพวกนี้”

แต่เธอไม่ได้ออกจากโลกแพทย์แผนโบราณนานแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง รู้แค่ว่าวิทยาการล้ำหน้า

ฝูเฉินมองกล่องใบนั้น พอพบว่าเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เขาก็ชี้ตัวเอง “งั้นของผมล่ะ”

โทรศัพท์มือถือของเขายังเป็นสองจีที่โละมาจากนายใหญ่ฝูอยู่เลย

อิ๋งจื่อจินใส่คู่มือวิธีใช้ให้แล้วเงยหน้า “นายเป็นลูกศิษย์ฉันเหรอ”

ฝูเฉิน “…”

ไม่ เขาไม่ใช่

อิ๋งจื่อจินพักผ่อนอยู่สักพักก็ลุกขึ้น “อยากไปเดินเล่นที่โลกข้างนอกไหม”

ฝูซีย่อมอยากใช้เวลาอยู่กับอิ๋งจื่อจินให้มากๆ “ไปโลกปุถุชนเหรอคะ ได้ค่ะ”

ฟู่อวิ๋นเซินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่งบาร์โค้ดรหัสตั๋วให้ “เพิ่งจองตั๋วหนังให้ ไปดูกันสิ”

ฝูซีขมวดคิ้วทันที “อาจารย์ ฉันไม่ได้เอาบัตรผ่านมา ต้องกลับไปเอาก่อนค่ะ”

จอมยุทธ์ที่มีวรยุทธ์ห้าสิบปีขึ้นไปจำเป็นต้องมีบัตรผ่านที่ออกโดยศาลสถิตยุติธรรม

อย่างไรเสียจอมยุทธระดับนี้ก็ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ทั่วไปมากพอสมควร

ฟู่อวิ๋นเซินหันไปเรียก “อวิ๋นซาน”

อวิ๋นซานวิ่งมาทันที “ครับคุณชาย”

“บัตรผ่าน”

“อ่อๆ” อวิ๋นซานล้วงออกมาปึกหนึ่ง “ตรงนี้มีพอไว้ทำเชื้อเพลิงแล้วครับ”

ฟู่อวิ๋นเซินหยิบออกมาหนึ่งใบยื่นให้ฝูซี “ไม่พอยังมีอีกนะครับ”

ฝูซีตะลึง “คือ?”

บัตรผ่านแบบนี้จอมยุทธต้องไปขอให้ศาลสถิตยุติธรรมออกให้ด้วยตัวเอง พกติดตัวมากขนาดนี้ได้ด้วยเหรอ

อิ๋งจื่อจินหาว พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เขาคือเงา”

ฝูซีสีหน้าเปลี่ยน เกือบหยุดหายใจ “เงาเหรอ”

ชื่อเสียงของเงาก็โด่งดังมากในโลกแพทย์แผนโบราณ

คนที่เคยเจอเขามีไม่มาก คนที่เคยเจอใบหน้าที่แท้จริงของเขายิ่งมีน้อยเข้าไปใหญ่

แค่คาดเดาว่าเขายังหนุ่ม และก็มีหลายคนที่เดาว่าเขาเป็นนายน้อยของสหพันธ์จอมยุทธ ก็แค่ไม่เคยได้ข้อสรุป

คนในโลกปุถุชนสามารถกลายเป็นบุคคลระดับสูงของศาลสถิตยุติธรรมได้ถือว่าสุดยอดมาก

ฝูซีชักเข้าใจแล้วว่าทำไมอิ๋งจื่อจินถึงเลือกฟู่อวิ๋นเซิน

ด้านหลัง

ฝูเฉินกับฟู่อวิ๋นเซินเดินไปด้วยกัน ในที่สุดเขาก็ไม่รู้สึกกดดันอะไรแล้ว

“พี่ฟู่ พี่ไม่กลัวจริงๆ เหรอ” ฝูเฉินพูดเสียงเบา “ปรมาจารย์เลยนะ เธอเป็นถึงอาจารย์ของผู้นำตระกูลผม แต่พี่…”

ดวงตาของเขาฉายแววหวาดกลัว

แค่เขามองอิ๋งจื่อจินก็แข้งขาอ่อนแรงแล้ว

สุดยอดเลยจริงๆ

เป็นไอดอลของเขาเลย

ฟู่อวิ๋นเซิน “เรียกผิดแล้ว”

ฝูเฉิน “?”

“นายก็ควรเรียกฉันว่า…” ฟู่อวิ๋นเซินติดกระดุมเสื้อเชิ้ต ฉีกยิ้ม “ปรมาจารย์”

“…”

เช้าวันต่อมา

บรรดาอิทธิพลใหญ่ในโลกแพทย์แผนโบราณต่างได้รับแจ้งข่าวจากสมาพันธ์โอสถ

เรื่องเกี่ยวพันถึงแพทย์ผิดจรรยาบรรณ ไม่ว่าจะสำนักเทียนอีหรือตระกูลฝูต่างให้ความสำคัญ

บ้านตระกูลเมิ่ง

“เฮ้อ ดูสิ ถึงว่าเธอจะอัจฉริยะขนาดนั้นได้อย่างไร” นายใหญ่เมิ่งถือจดหมายที่สมาพันธ์โอสถส่งมา ทำเสียงจึ๊ๆ “ที่แท้ก็เดินบนเส้นทางผิดๆ คราวนี้ความแตกก็เลยซวย”

ตระกูลเมิ่งทุ่มเทด้านทรัพยากรมาก แต่ในรุ่นหนุ่มสาว พวกเขาเพิ่งบ่มเพาะอัจฉริยะออกมาได้แค่คนเดียวก็คือเมิ่งชิงเสวี่ย

อิ๋งจื่อจินเป็นเพียงญาติห่างๆ ของตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลเยี่ย ก่อนเข้าสมาพันธ์โอสถไม่เคยมีอาจารย์สอนสั่ง แล้วจะมีความสามารถในการปรุงยาสูงขนาดนี้ได้อย่างไร

ถ้าเป็นแบบนี้ ทุกอย่างก็ดูสมเหตุสมผลแล้ว

เมิ่งชิงเสวี่ยเพิ่งกินยาเสร็จ นั่งรถเข็นออกมา พอได้ยินก็สงสัย “คุณพ่อว่าอะไรนะคะ”

“อัจฉริยะนักปรุงยาคนใหม่ของสมาพันธ์โอสถคนนั้นน่ะ อิ๋งจื่อจิน” นายใหญ่เมิ่งพับจดหมาย

“ทางสมาพันธ์โอสถบอกว่า เธอใช้ยาพิษทำคนตาย ตอนนี้ถูกสงสัยว่าจะเป็นแพทย์ผิดจรรยาบรรณ เลยอยากให้ตระกูลเมิ่งไปประชุมหารือ”

ขณะพูดเขาก็ถอนหายใจ “โชคดีที่ตระกูลเมิ่งดึงตัวมาไม่สำเร็จ”

เมิ่งชิงเสวี่ยอึ้งเล็กน้อย “ใช้ยาพิษฆ่าคนตายเหรอคะ”

แพทย์แผนโบราณมีหน้าที่ช่วยชีวิตคน แม้คนคนนั้นจะมีความผิดร้ายแรงก็ตาม ไม่ได้เกี่ยวกับแพทย์แผนโบราณ อย่างมากก็แค่ไม่รักษาใครเลย

เมิ่งชิงเสวี่ยเม้มริมฝีปาก “เป็นไปไม่ได้ เธอ…”

“กำลังชันสูตรศพ ยังไม่รู้ผล บ่ายเรียกประชุม พ่อจะไปหน่อย” นายใหญ่เมิ่งพูด “ถ้าเธอเป็นแพทย์ผิดจรรยาบรรณจริง ทางสมาพันธ์โอสถจะต้องสืบอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังเธอแน่นอน จากนั้นก็ตัดรากถอนโคน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด