คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 586 พิธีประกาศรางวัล งั้นก็โชว์อิทธิพลให้ดูสิ
ตอนที่ 586 พิธีประกาศรางวัล งั้นก็โชว์อิทธิพลให้ดูสิ
เดวิดดูต่อ
เขาเห็นรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมกับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมก็เป็นของภาพยนตร์เรื่องชีวิตใหม่ คิดในใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ
เดวิดไม่ได้รู้จักบริษัทบันเทิงอย่างชูกวงมีเดียเท่าไร
ภาพยนตร์ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลไม่มีทางมาถึงเขา เขาจะเห็นแค่รายชื่อภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลเท่านั้น
เดวิดแก้ชื่อผู้กำกับยอดเยี่ยมเป็นไดน่า แพชช์ จากนั้นถึงวางปากกาลง
เขาไม่ได้แตะต้องรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
รางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดของไอเอฟเอฟก็คือรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม และรางวัลนักแสดงนำชาย/หญิงยอดเยี่ยม
ในฐานะที่ภาพยนตร์เรื่องชีวิตใหม่เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของประเทศจีนที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงในงานไอเอฟเอฟ ครั้งนี้ได้รับรางวัลก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว
ไทม์มีเดียเป็นบริษัทสร้างภาพยนตร์อันดับสองของโลก เดิมทีศักยภาพโดยรวมก็อยู่เหนือชูกวงมีเดีย
หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่สามารถสังเกตเห็นถึงความแตกต่างที่ใหญ่มากของภาพยนตร์สองเรื่องนี้
อีกทั้งภาพยนตร์เรื่องความทรงจำที่หายไปที่ไดน่ากำกับก็ไม่ได้แย่ถึงกับไม่สมควรได้รางวัล ย่อมไม่มีใครเกิดความสงสัย
“เอาล่ะ นี่เป็นผลการตัดสินสุดท้าย” เดวิดยื่นเอกสารคืนคณะกรรมการหลังจากแก้เสร็จ “ไปติดต่อแขกที่จะมามอบรางวัลครั้งนี้ด้วย”
กรรมการรับเอกสารมาดู อึ้งไปชั่วขณะ อดพูดขึ้นไม่ได้ “คุณเดวิดครับ ทำไมตัดชื่อภาพยนตร์เรื่องชีวิตใหม่ออกหมดเลยล่ะครับ”
ทำเกินไปหรือเปล่า
สามรางวัลสำคัญที่สุดที่เดิมทีเป็นของภาพยนตร์เรื่องชีวิตใหม่ตอนนี้กลับยกให้เรื่องความทรงจำที่หายไปทั้งหมด
“เอาแบบนี้แหละ” เดวิดพูด “ผมคุยกับคุณไดน่าแล้ว ผมคิดว่าภาพยนตร์ของเธอก็สมควรได้รางวัลตุ๊กตาทองเหมือนกัน”
กรรมการพูด “แต่ก่อนหน้านี้คุณยังบอกว่าชีวิตใหม่ทำได้ดีมากอยู่เลยนะครับ”
“ใช่ ดีมาก” เดวิดไม่ปฏิเสธ “แต่คุณดูแล้วกันว่าเรื่องความทรงจำที่หายไปใครกำกับ ไดน่า แพชช์”
“ในบรรดาพวกเรามีใครบ้างกล้าล่วงเกินตระกูลแพชช์ อยากตายเหรอ”
พวกคณะกรรมการมองหน้ากัน ต่างพูดไม่ออก
“อีกอย่าง ในสายตาของคนนอกแยกความแตกต่างของภาพยนตร์สองเรื่องนี้ไม่ออกหรอก ผู้ชมก็มองเทคนิคการถ่ายทำไม่ออกเท่าไร” เดวิดเคาะโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ “อีกอย่างนะ งานประกาศรางวัลสมัยนี้ก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งนั้น เอาตามนี้แหละ”
เขายิ้มอย่างไม่แคร์ “ถ้าพวกเราไม่พูดใครจะรู้”
ต่อให้เป็นการแข่งขันกีฬาที่รับชมได้ตลอดการแข่งก็ยังสามารถเล่นตุกติกที่กรรมการได้
อยากได้ความยุติธรรมเหรอ
งั้นก็แสดงอิทธิพลให้เห็นสิ
เดวิดจัดการเรื่องรายชื่อเสร็จก็ลุกเดินออกไปโทรหาไดน่า
ใบหน้ามีรอยยิ้ม “ครับ ใช่ครับ คุณไดน่า รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมกับผู้กำกับยอดเยี่ยมในครั้งนี้เป็นของคุณทั้งหมดครับ”
…
ชาวจีนก็ให้ความสนใจรางวัลตุ๊กตาทองของงานไอเอฟเอฟในครั้งนี้เช่นกัน อย่างไรเสียภาพยนตร์จากประเทศจีนก็ได้ทะลุเข้าไปชิงรางวัลอีกครั้งหลังเว้นมายี่สิบแปดปี
ซังเย่าจือก็เป็นนักแสดงชายจากประเทศจีนคนแรกที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
เขาอายุยังไม่ถึงสามสิบ หากเทียบกับประวัติศาสตร์การมอบรางวัลในงานไอเอฟเอฟ เขาก็ถือว่าโดดเด่นมากทีเดียว
ต่อให้ไม่ได้รับรางวัล ต่อไปงานภาพยนตร์ในระดับสากลของซังเย่าจือก็ไม่มีทางน้อย
กอปรกับซังเย่าจือเป็นดารากระแสนิยมชั้นแนวหน้าของประเทศจีน ขนาดพิธีมอบรางวัลยังไม่เริ่มก็มีคนมารอดูถ่ายทอดสดอย่างหนาแน่นแล้ว
แม้ไม่ใช่แฟนคลับของซังเย่าจือ แต่ต่างก็มาดูเพราะได้ยินว่าภาพยนตร์จากประเทศจีนถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในงานไอเอฟเอฟอีกครั้ง
ผู้จัดการส่วนตัวที่อยู่ในงานกระวนกระวายไม่เป็นสุข ขาดก็แค่ทึ้งผมเกาหัวแล้ว
“ทำไมพี่ดูตื่นเต้นขนาดนี้” ซังเย่าจือรู้สึกขำผู้จัดการส่วนตัว “ดูคุณอิ๋งสิ ใจเย็นมาก พี่อายุตั้งสี่สิบกว่าแล้ว สุขุมหน่อย”
อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้นวม กำลังพักสายตา เสียงเอะอะภายนอกไม่รบกวนแม้แต่น้อย
“ไม่ใช่แบบนั้น” ผู้จัดการส่วนตัวพูดขึ้น “เป็นเพราะต่อให้นายได้รางวัลก็ไม่มีเงินรางวัลให้บริษัท และก็ไม่มีเงินตกถึงมือคุณอิ๋งด้วย”
ซังเย่าจือ “…”
เขาประเมินสถานะตัวเองสูงเกินไป
เลขาสาวยืนอยู่ด้านหลังอิ๋งจื่อจิน พูดอย่างตื่นเต้น “วันนี้บอสสวมชุดเดรสสวยมากค่ะ ซื้อที่ไหนเหรอคะ”
“หืม?” พออิ๋งจื่อจินได้ยินคำถามนี้ก็ลืมตาเล็กน้อย “แฟนให้มา น่าจะสั่งตัดนะ”
เลขาสาว “…”
ซังเย่าจือ “…”
พวกเขาเป็นโสดกันทั้งโต๊ะ ทำไมต้องมาได้ยินอะไรแบบนี้ด้วย!
“เร็วเข้า เริ่มแล้ว” ผู้จัดการส่วนตัวลุกพรวด “เย่าจือ นายไปเดินพรมแดงกับผู้กำกับลู่แล้วก็โปรดิวเซอร์สวี”
ซังเย่าจือพยักหน้า หันไปมองด้านขวา ยิ้มพลางพูด “อาจารย์เซี่ยก็มาแล้วครับ”
เนื่องจากภาพยนตร์ที่เซี่ยมั่นอวี่ร่วมแสดงเป็นภาพยนตร์ของบริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์ส จึงไม่ได้นั่งกับพวกเขา
อิ๋งจื่อจินเป็นบอสของชูกวงมีเดีย ย่อมไม่มีทางไปเดินพรมแดง
ด้วยสถานะของชูกวงมีเดียในวงการภาพยนตร์ระดับโลก ทำให้ตำแหน่งที่นั่งค่อนออกไปไกล
แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเห็นอิ๋งจื่อจินในที่นั่งของแขก
[โอ้โห เห็นหรือยัง เทพอิ๋งสวมชุดเดรส! เดรสยาวสีแดง!]
[ขิตแล้วจ้า หุ่นโคตรดี เนื้อหนังขึ้นในที่ที่ควรขึ้นจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าอีกหน่อยใครจะได้เธอไปครอง อิจฉาจัง]
[พี่อวิ๋นดูอยู่หรือเปล่า ไปขอเคล็ดลับเทพอิ๋งเร็วว่ากินอะไร เอาแต่กินมะละกอไม่ได้ผลหรอก]
ทางด้านประเทศจีนมีเจ้าหน้าที่ถ่ายทอดสดโดยเฉพาะ แต่ฝ่ายจัดงานก็สังเกตเห็นความสวยออร่าที่อยู่ในที่นั่งแขกแล้ว จึงรีบให้กล้องไปจับภาพทันที
อิ๋งจื่อจินหลับตาอยู่ ขนตางอนเป็นแพยาว
ริมฝีปากแดง ตัดกับผิวพรรณที่ขาวผ่อง
ปอยผมระอยู่ตรงกระดูกไหปลาร้า ในความเย็นชามีความงดงามที่เหนือใคร
ดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อยในทันที
คนที่สวยขนาดนี้ทำไมไม่เข้าวงการบันเทิง
นักข่าวคนหนึ่งจ้องอิ๋งจื่อจินอยู่สักพักแล้วพูดด้วยความตะลึง “โอ้ก็อด ดูเหมือนเธอจะเป็นเด็กเรียนคนนั้นที่เมื่อปีที่แล้วเข้าร่วมแข่งขันวิชาการ!”
เขาตื่นเต้นมาก คิดพาดหัวข่าวลงหนังสือพิมพ์วันพรุ่งนี้ไว้แล้ว
อีกด้านหนึ่ง นักแสดงหญิงแอบพูด “คุณไดน่าคะ เครื่องประดับที่เธอใส่ใช่อัญมณีเลอค่าของร้านจีวายในฟลอเรนซ์หรือเปล่าคะ”
ไดน่าต้องรับรางวัล ก็เลยไม่ได้นั่งตรงที่นั่งแขก
ห่างออกไปไกล เธอเห็นมงกุฎที่อยู่บนศีรษะอิ๋งจื่อจิน
เรียบง่าย ไม่ได้ประดับอัญมณีมากนัก แต่กลับทำให้ละสายตาออกไปไม่ได้
ไดน่าก็เคยไปฟลอเรนซ์ครั้งหนึ่ง เคยเห็นเครื่องประดับชุดนี้
แต่ทางร้านไม่ขาย แม้เธอจะเป็นสมาชิกแพลตตินัมก็ตาม
ขนาดเธอยังซื้อไม่ได้ แล้วไปอยู่บนตัวผู้หญิงจีนงั้นเหรอ
ไดน่าพูด “ของเลียนแบบล่ะไม่ว่า ช่างกล้าใส่ออกงาน จีวายเคร่งเรื่องลิขสิทธิ์จะตาย เดี๋ยวยัยนั่นคงได้รับจดหมายทนาย”
เธออยู่ในวงการบันเทิงเห็นคนแบบนี้มาเยอะ
ไม่มีปัญญาซื้อก็ซื้อของเลียนแบบ แต่พอเป็นข่าวก็ได้แต่ยิ้มแห้งขอโทษอีกฝ่าย
ไดน่ากับคลาร์คมองหน้ากันแล้วละสายตาไป
บนเวทีเริ่มประกาศรางวัลแล้ว
เริ่มจากรางวัลที่เล็กที่สุด ประกาศรางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยมก่อน
คลาร์คไม่สนใจรางวัลเล็กๆ พวกนี้ เขาจัดชุดสูทให้ดีแล้วเดินเข้าไปหาอิ๋งจื่อจิน
“น่าเสียดายนะครับคุณอิ๋ง ครั้งนี้พวกคุณคงต้องกลับมือเปล่าแล้ว” เขาพูด “แต่อาจได้รางวัลเล็กๆ กลับไปก็ได้ ก็ไม่ถือว่ามาเสียเที่ยว”
พูดจบคลาร์คก็จงใจหลบกล้อง หันข้างมาพูดเสียงเบา “พวกคุณอยู่ในประเทศจีนก็ดีอยู่แล้ว ยังจะมาแย่งชิงทรัพยากรกับพวกเราในระดับโลกอีก”
บริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์สเป็นผู้นำที่ใครก็ไล่ตามไม่ถึง อีกทั้งยังมีตระกูลลอเรนท์หนุนหลัง พวกเขาไล่ตามไม่ทันและก็ไม่กล้าด้วย
แต่บริษัทเล็กๆ อย่างชูกวงมีเดีย พวกเขายังจะข่มไม่อยู่อีกเหรอ
แบบนั้นจะดูถูกความสามารถของตระกูลแพชช์เกินไปแล้ว
คลาร์คหัวเราะ พูดแฝงความนัย “คุณอิ๋ง นี่ยังแค่เริ่มต้นนะครับ”
เขาให้การสนับสนุนบริษัทบันเทิงของจีนอยู่แห่งหนึ่ง รอวันที่จะต่อสู้กับชูกวงมีเดีย
ในที่สุดอิ๋งจื่อจินก็เงยหน้าขึ้น แววตาเรียบเฉย “คุณพูดถูก นี่เป็นแค่การเริ่มต้น”
คลาร์คสบตาเธอ ใจหายวาบ
ความรู้สึกใจคอไม่ดีปรากฏอีกครั้ง
แต่เขาคิดอยู่นานก็ไม่รู้ว่าอิ๋งจื่อจินไปเอาความมั่นใจมาจากไหน สุดท้ายก็ได้แค่ยักไหล่แล้วกลับที่ตัวเอง
“ต่อไปจะเป็นการประกาศรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม…” ราชาภาพยนตร์รุ่นเก๋าคนหนึ่งมองบัตรในมือแล้วพูดขึ้น ขอแสดงความยินดีกับนักแสดงนำชายจากเรื่องความทรงจำที่หายไป คุณแมตต์ บิลิชครับ”
เสียงปรบมือดังเกรียวกราว
ชาวต่างชาติวัยกลางคนเดินขึ้นไปรับรางวัล
ในที่สุดไดน่าก็ยิ้มออก เธอยืนขึ้น เตรียมออกไปรับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมและรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
ซังเย่าจือถอนหายใจ ยิ้มพลางพูด “ดูท่าฝีมือจะยังไม่ถึง”
ถึงแม้ผู้จัดการส่วนตัวก็รู้สึกเศร้า แต่ยังให้กำลังใจเขา “เย่าจือ อย่าเพิ่งท้อ นายยังหนุ่ม ต่อไปยังมีโอกาสอีกเยอะ”
[มันทะแม่งๆ นะ กลิ่นตุๆ ถึงฉันจะเป็นคนนอกวงการ แต่จะดูยังไงพี่เย่าจือของฉันก็แสดงดีกว่าเห็นๆ นักแสดงนำชายของเรื่องความทรงจำที่หายไปจะมาสู้พี่เย่าจือได้ยังไง]
[อย่าทำขายหน้าน่า ซังเย่าจือเป็นราชาภาพยนตร์โด่งดังในประเทศจีน แต่ถ้าเป็นระดับโลกยังจะมีชื่อเขาอีกเหรอ หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว ทำคนจีนขายหน้าหมด]
เลขาสาวสีหน้าเปลี่ยน “บอสคะ พวกเขาติดสินบนกรรมการจริงด้วย!”
เธอมองไปทางคลาร์ค
ไม่เหนือความคาดหมาย คลาร์คก็มองมาทางนี้เหมือนกัน ยิ้มหน้าบาน แววตาเย้ยหยันและดูถูกแบบไม่มีปิดบังแม้แต่น้อย
อิ๋งจื่อจินกดโทรศัพท์มือถือแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “รอเดี๋ยว”
Comments