คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 617 โลกแพทย์แผนโบราณให้นับถือคุณอิ๋งเป็นหลัก
ตอนที่ 617 โลกแพทย์แผนโบราณให้นับถือคุณอิ๋งเป็นหลัก
ช่วงหลายปีมานี้ตระกูลหลิงอยู่ท่ามกลางปัญหารุมเร้าในโลกจอมยุทธ์มาตลอด
ภายในแก่งแย่งชิงดี ภายนอกรบราฆ่าฟัน ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก
สายอื่นในตระกูลหลิงที่จับจ้องตำแหน่งนายใหญ่มีอยู่ไม่น้อย
นอกจากหลิงตงชิงแล้วอย่างน้อยยังมีอีกสามคน อีกทั้งฝีมือก็ไม่ด้อย
และเนื่องจากตระกูลหลิงไม่มีตระกูลใหญ่หนุนหลังแม้แต่ตระกูลเดียว ทำให้บางครั้งถูกแย่งทรัพยากรไป
ถ้าไม่ใช่เพราะหลิงฉงโหลวฉลาดวางแผน ตระกูลหลิงอาจล่มสลายไปหลายปีแล้ว
ดังนั้นต่อให้คณะผู้อาวุโสไม่พอใจหลิงฉงโหลวที่แต่งงานกับเจียงฮว่าผิง แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างสายอื่นในตระกูลที่อยากให้หลิงฉงโหลวลงจากตำแหน่ง
แต่ตอนนี้…
ผู้อาวุโสใหญ่มีสีหน้าหนักใจ
แพทย์แผนโบราณสำคัญเหลือเกิน
ถ้าตระกูลหลิงไม่มีแพทย์แผนโบราณ อย่าว่าแต่จะเบียดขึ้นเป็นตระกูลใหญ่เลย อาจถึงขั้นที่หลุดออกจากห้าสิบตระกูลแรกของโลกจอมยุทธ์ด้วยซ้ำ
“หวังว่าทางตระกูลหลิงจะพิจารณาให้ดี” พ่อบ้านฝานยิ้ม “ให้เวลาสามวัน ในสามวันนี้พวกเราจะทิ้งแพทย์แผนโบราณไว้ให้สามคนครับ”
เขาถอยหนึ่งก้าวเพื่อหลีกทางให้
ด้านหลังมีหญิงสองชายหนึ่งถือกล่องยาเข้ามา
“สามท่านนี้เป็นศิษย์ภายในสำนักเทียนอี วิชาการรักษาของพวกเขาล้ำเลิศมาก” พ่อบ้านฝานพูดแฝงความนัย “ผู้อาวุโสใหญ่จะลองดูก็ได้ รับรองว่าแพทย์ไร้สังกัดพวกนั้นสู้ไม่ได้ครับ”
ผู้อาวุโสใหญ่ไม่พูดอะไร
เขาไม่ต้องลองก็รู้ว่าศิษย์ภายในสำนักเทียนอีย่อมเก่งกว่าแพทย์แผนโบราณทั่วไปอยู่แล้ว
ตำราลับมากมายของแพทย์แผนโบราณก็มีแค่ที่สำนักเทียนอีเท่านั้น
โดยเฉพาะศาสตร์มืดสิบสามเข็ม คนในโลกแพทย์แผนโบราณที่ใช้เป็นมีอยู่ไม่เกินสิบคน
ผู้อาวุโสใหญ่เงียบไปนานถึงพูดขึ้น “ครับ แต่เรื่องเปลี่ยนนายใหญ่ ตระกูลหลิงขอเวลาสักระยะ”
พ่อบ้านฝานไม่แปลกใจกับคำตอบนี้
โลกจอมยุทธ์มีแค่ตระกูลขนาดกลางขึ้นไปเท่านั้นถึงจะมีคณะผู้อาวุโส คณะผู้อาวุโสต้องปกป้องทั้งตระกูล ไม่ใช่คนคนเดียว
“งั้นตระกูลฝานจะรอฟังข่าวจากตระกูลหลิงนะครับ ต่อไปพวกเราก็เป็นพวกเดียวกันแล้ว”
พ่อบ้านฝานพูดจบก็ออกไป
ผู้อาวุโสใหญ่มีสีหน้าเย็นชา
บอกว่าเป็นพวกเดียวกัน สุดท้ายก็แค่ลูกน้องใต้อาณัติ
เขาดูแก่ลงไปมากทันที กวักมือเรียก “ไปเรียกคณะผู้อาวุโส ฉงโหลว รวมถึงสายอื่นๆ ให้มาประชุมกัน”
…
อีกด้านหนึ่ง
เมืองตี้ตู
อิ๋งจื่อจินกับฟู่อวิ๋นเซินออกมาจากห้างสรรพสินค้า
เจียงหรานหิ้วถุงใบน้อยใบใหญ่พะรุงพะรังตามอยู่ด้านหลัง
พอขึ้นรถเขาก็นึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง ทำเสียงจึ๊ โทรหาซิวอวี่
ครั้งล่าสุดที่พวกเขาเจอกันเป็นตอนงานรวมรุ่นช่วงปิดเทอมหน้าหนาว
“เอ๊ะ นี่ใครกัน พอเป็นนายใหญ่ของบ้านก็ไม่เหมือนเดิมเลยจริงๆ” เจียงหรานแซว “รู้สึกดีไหมที่ได้เป็นนายใหญ่ เธอไม่รู้หรอกว่าตอนเธอเป็นนายใหญ่ พ่ออิ๋งพาฉันบินด้วย”
“อิจฉาหรือเปล่า ฉันรู้ว่าเธออิจฉา พูดออกมาสิ ฉันไม่หัวเราะเยาะหรอก”
“อ่อ…” ซิวอวี่น้ำเสียงราบเรียบ “พวกเราไม่เหมือนกัน พ่อฉันพาฉันบุกอยู่ในยุโรป นายไม่รู้หรอกว่าพ่อช่วยเชิญไอบีไอไปปราบตระกูลหนึ่งให้ฉันด้วย”
เจียงหราน “…”
โวะ
แต่เล็กจนโตเขาไม่เคยเถียงชนะซิวอวี่ได้เลย
เจียงหรานกดตัดสายด้วยความโมโห
เขากัดฟันพูด “พ่ออิ๋ง ฉันอยากไปยุโรป”
อิ๋งจื่อจินที่นั่งข้างคนขับหันไปพูด “นายจะไปยุโรปทำไม”
เจียงหรานพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ “ฉันอยากให้พ่ออิ๋งพาฉันไปบุกยุโรป”
อิ๋งจื่อจิน “…”
ประสาท อาการหนักพอควร
“ฉันจะพานายไปยุโรปเอง เป็นไง” ฟู่อวิ๋นเซินหมุนพวงมาลัยรถ “ฉันจะคุ้มครองนาย พานายไปบุกยุโรป”
เจียงหราน “…งั้นไม่เอาดีกว่า”
เขากลัวว่าไปแล้วจะไม่ได้กลับ
“ทำไม” ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว “ก็พ่อเหมือนกัน มีเลือกปฏิบัติด้วยเหรอ ฉันชักหึงแล้วนะ”
“คุณไม่เหมือนกัน” เจียงหรานกระชับเสื้อตัวนอก พูดพึมพำ “คุณคนก่อนกับตอนนี้แตกต่างมากเกินไป ผมกลัวคุณ”
คุณชายเสเพลแห่งฮู่เฉิงที่ใครๆ ต่างรู้จักอยู่ๆ ก็กลายเป็นประธานของวีนัสกรุ๊ป
คนนอกที่โลกจอมยุทธ์คิดว่าไม่มีภูมิหลังอยู่ๆ ก็กลายเป็นท่านเงาของศาลสถิตยุติธรรม
จิตใจของใครจะไปรับไหว
“พูดถึงยุโรป เดือนมิถุนายนวีนัสกรุ๊ปมีประชุมรายงาน พี่ชายต้องไปร่วม” ฟู่อวิ๋นเซินหันไปพูด “เยาเยา อยากไปเที่ยวไหม หลายครั้งก่อนหน้านี้ไม่ได้เที่ยวดีๆ เลย”
อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง เงียบไปชั่วขณะ “ไปสิ”
ไม่รู้ทำไม เธอสังหรณ์ใจอยู่อย่าง
เธอจำเป็นต้องไปที่ยุโรปในระยะเวลาอันใกล้
เจียงหรานได้ฟังก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที “งั้นผมตามไปด้วยคน”
ฟู่อวิ๋นเซินมองถนนข้างหน้า เหลือบตาขึ้น “นายจะไปทำไม กขค”
เจียงหราน “…”
อิ๋งจื่อจินเอามือยันศีรษะ กดรับโทรศัพท์
ตอนนี้ฝูซีใช้พวกแอปฯ จำพวกวีแชทคล่องแล้ว
เธอวิดีโอคอลมาหาอิ๋งจื่อจิน “อาจารย์คะ คณะผู้อาวุโสของสมาพันธ์โอสถถามว่าอาจารย์สนใจอยากเป็นประธานสมาพันธ์ไหม”
วันนั้นหลังจากชิวมั่นประธานสมาพันธ์โอสถฆ่าตัวตายก็เกิดการล้างบางครั้งใหญ่ในสมาพันธ์โอสถ
ลำพังแค่ในคนระดับกลางถึงสูงกับสมาชิกคนสำคัญของสมาพันธ์โอสถก็จับแพทย์ผิดจรรยาบรรณออกมาได้ถึงหนึ่งพันคน
ตำแหน่งประธานสมาพันธ์โอสถว่างอยู่ คณะผู้อาวุโสย่อมนึกถึงอิ๋งจื่อจิน
สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย “เธอว่าฉันเหมือนคนชอบเป็นผู้นำเหรอ”
ขณะพูดประโยคนี้อิ๋งจื่อจินได้เหลือบมองเจียงหรานที่นั่งอยู่เบาะหลัง นวดขมับ
วุ่นวายจริง
ทำให้เธอนึกถึงซีซาร์สมัยศตวรรษที่สิบแปด
น่ารำคาญ อยากถีบ
ฝูซี “…”
ก็จริง
“งั้นฉันจะปฏิเสธพวกเขาให้ค่ะ” ฝูซีพูด “ถ้าอาจารย์มีอะไรจะสั่งก็บอกได้เลยนะคะ แพทย์แผนโบราณใต้อาณัติของฉันให้เชื่อฟังอาจารย์เป็นหลักค่ะ”
พอแพทย์ผิดจรรยาบรรณที่เป็นเนื้อร้ายของวงการถูกตัดรากถอนโคน ในที่สุดอันตรายที่ปกคลุมโลกแพทย์แผนโบราณมาเกือบร้อยปีก็สลายไป
บรรดาแพทย์แผนโบราณก็โล่งอก
ตอนนี้ไม่มีใครในโลกแพทย์แผนโบราณกล้าหือกับอิ๋งจื่อจิน
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย “ลำบากเธอแล้ว เธอเองก็อย่าหักโหมเกินไป”
ฝูซีลังเล ส่งรูปภาพที่แคปหน้าจอไป “อาจารย์คะ สอนฉันดาวน์โหลดสติกเกอร์อันนี้หน่อยสิคะ”
“…”
“พ่อฉันรับลูกศิษย์ด้วยเหรอ” เจียงหรานหูผึ่ง โน้มตัวไปข้างหน้า “พ่อฟู่ ตั้งแต่เมื่อไร ใครเหรอ”
“ฝูซี ผู้นำตระกูลฝู และยังเป็นแพทย์แผนโบราณอันดับหนึ่ง ส่วนเมื่อไร ขอนับก่อนนะ…” ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปชั่วครู่ ครุ่นคิดแล้วพูดขึ้น “สองร้อยกว่าปีก่อนได้มั้ง”
เจียงหราน “?”
…
เจียงหรานอยู่ในภาวะช็อกมาตลอดทาง
ทำให้เขาไม่ค่อยกล้ามองอิ๋งจื่อจินตรงๆ
พอกลับถึงบ้านตระกูลหลิงเจียงหรานก็รู้สึกว่าบรรยากาศภายในบ้านดูผิดปกติ
เจียงฮว่าผิงกับหลิงฉงโหลวนั่งอยู่ที่โต๊ะ สีหน้าคิดหนัก พอเห็นเจียงหรานก็หันหน้าไปพร้อมกัน
“พ่อ แม่” เห็นแบบนี้เจียงหรานก็นึกถึงตอนเขาเด็กๆ จึงพูดขึ้น “ผมไม่ได้ติดเที่ยว ไม่ได้ไปทะเลาะวิวาทด้วย ผมไม่ได้ทำนะ”
“แล้วใครว่านาย” เจียงฮว่าผิงจนปัญญา “แต่มีเรื่องบางอย่างที่แม่ต้องบอกนายหน่อย”
เธอกำลังจะอ้าปากก็สังเกตเห็นอิ๋งจื่อจินกับฟู่อวิ๋นเซินเดินตามหลังเข้ามา
เจียงฮว่าผิงชะงัก สุดท้ายก็เล่าเรื่องที่วันนี้ตระกูลหลิงประชุมภายในให้ฟัง
“ตระกูลฝานเหรอ” มือข้างหนึ่งของฟู่อวิ๋นเซินล้วงกระเป๋า “ตระกูลฝานไหน”
“ตระกูลใหญ่อันดับเจ็ดของโลกจอมยุทธ์” เจียงหรานกำหมัดแน่น “ก็คือตระกูลที่ตระกูลเฉียวพึ่งพา ต้องเป็นฝีมือตระกูลเฉียวแน่”
ศักยภาพโดยรวมของตระกูลหลิงเบียดเข้าห้าสิบอันดับแรกของโลกจอมยุทธ์ได้พอดี
“ตระกูลฝานข่มขู่แพทย์แผนโบราณที่ไร้สังกัดพวกนั้นไม่ให้เข้ามารักษาในตระกูลหลิงงั้นเหรอ” อิ๋งจื่อจินฟังจบก็เข้าใจแล้ว “เว้นเสียแต่ลุงหลิงจะลงจากตำแหน่งนายใหญ่”
“ใช่ อีกทั้งพวกเขายังส่งแพทย์แผนโบราณของสำนักเทียนอีมาอยู่ที่บ้านตระกูลหลิง” หลิงฉงโหลวยิ้มอย่างไม่เครียด “มองไม่ออกเลยนะว่าลุงเป็นคนสำคัญขนาดนี้”
ลงจากตำแหน่งนายใหญ่ก็ไม่เห็นเป็นไร เดิมทีเขาก็ไม่ได้แคร์ตำแหน่งนี้อยู่แล้ว
แต่ก็เหมือนที่นายใหญ่เฉียวพูด ถ้าไม่มีตำแหน่งนายใหญ่เขาก็ปกป้องเจียงฮว่าผิงกับเจียงหรานไม่ได้
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “ลุงหลิงยังมีเงินใช่ไหมคะ”
หลิงฉงโหลวไม่เข้าใจว่าทำไมอิ๋งจื่อจินถามแบบนี้ แต่ก็ตอบ “มี ลุงมีบริษัทอยู่หลายแห่งในตี้ตู หนึ่งในนั้นเพิ่งเข้าตลาดหุ้นของต่างประเทศเมื่อไม่นานมานี้ อาจรวยไม่เท่าตระกูลเนี่ยตระกูลมู่ แต่ก็มีอยู่ไม่น้อย”
เขาหยุดเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “ลุงมาลองคิดดู อย่างมากลุงกับเสี่ยวฮว่าก็ย้ายไปอยู่ตี้ตู แต่หมอนี่ยังอยู่ศาลสถิตยุติธรรม อยู่ในช่วงฝึกฝน จื่อจิน รบกวนหนูดูแลด้วย”
มือของอิ๋งจื่อจินหยุดลง “ตัดสินใจแล้วเหรอคะ”
เธออยู่บ้านตระกูลหลิงก็รู้จักแค่คนทางสายของหลิงฉงโหลว รวมถึงหลิงเหมียนซีกับแม่
คนอื่นๆ ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ
อิ๋งจื่อจินไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นแม่พระที่ต้องไปช่วยเหลือทุกคน
หลิงฉงโหลวเงียบไปชั่วขณะ ถอนหายใจยาว พูดเสียงเบา “ก็แค่รู้สึกผิดต่อผู้นำตระกูล ตระกูลหลิงจะล้มแล้วแต่ลุงกลับช่วยอะไรไม่ได้”
ผู้นำตระกูลที่ก่อตั้งตระกูลหลิงได้เสียชีวิตไปแล้ว
ตอนเด็กๆ เขาเคยได้รับการสั่งสอนจากผู้นำตระกูลคนนี้
ตอนนี้ตระกูลหลิงกำลังจะตกอยู่ใต้อาณัติตระกูลฝาน แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
“ค่ะ ไปแจ้งคณะผู้อาวุโสนะคะว่ามีแพทย์แผนโบราณ ฝีมือล้ำเลิศ” อิ๋งจื่อจินกดเบอร์ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เมื่อก่อนตระกูลหลิงเคยช่วยหนูไว้ ตอนนี้หนูจะช่วยให้ตระกูลหลิงกลายเป็นตระกูลใหญ่ติดสิบอันดับแรกของโลกจอมยุทธ์”
Comments