คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 688 ซูเปอร์อัจฉริยะ! ยีนของตระกูลเรนเกล!

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 688 ซูเปอร์อัจฉริยะ! ยีนของตระกูลเรนเกล! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 688 ซูเปอร์อัจฉริยะ! ยีนของตระกูลเรนเกล!

มีไม่กี่คนที่รู้สึกเหนือความคาดหมาย

อยู่ในความคาดหมายที่สมเหตุสมผล

“เธอเองเหรอ มิน่าล่ะ”

“นักศึกษาระดับต้นเข้าสอบของคณะวิศวะก็คงเลือกได้แค่เส้นทางทุจริตแหละ”

“จึ๊ คนธรรมดาแบบเธอคงไม่รู้หรอกว่าเทคโนโลยีของสำนักวิจัยสูงขนาดไหน”

ระหว่างที่มีเสียงซุบซิบ อิ๋งจื่อจินนั่งนิ่งอยู่หน้าโต๊ะทดลองบีศูนย์สอง เธอเงยหน้าขึ้น

นักศึกษาแต่ละคนจะมีโต๊ะทดลองเป็นของตัวเอง

หัวข้อที่สอบไม่ได้ยาก แค่ให้ใช้วัสดุบนโต๊ะประกอบเป็นเครื่องมือหนึ่งชนิดอะไรก็ได้ภายในเวลาที่กำหนด

สุดท้ายผู้คุมสอบจะทำการทดสอบในแต่ละด้าน เช่น การทำงาน ประสิทธิภาพ

แต่ละโต๊ะทดลองจะมีเครื่องพิมพ์ภาพสามมิติ ใช้วัสดุได้ตามใจชอบ

แต่ถ้ามีนักศึกษาคนไหนเอาภาพสำเร็จของอุปกรณ์โอนถ่ายเข้ามาในคลังข้อมูลของโต๊ะทดลองก่อนก็จะสามารถประกอบตามภาพได้อย่างสบายๆ ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับการทดสอบ

เมื่อก่อนก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

สุดท้ายก็ถูกจับออกมาก่อนสอบอย่างไม่มีข้อยกเว้น

แต่ก็มักจะมีคนที่คิดว่าอาจดวงดี พยายามหาทางทุจริต

ผู้คุมสอบเห็นอิ๋งจื่อจินไม่ขยับก็พูดด้วยเสียงเย็นชา “บอกให้ออกมาไม่ได้ยินหรือไง”

นักศึกษาระดับต้นไม่มีทางผ่านการทดสอบของคณะวิศวกรรมศาสตร์หรอก

นึกไม่ถึงว่าจะใช้วิธีชั้นต่ำทุจริต

“ขอเรียนให้ทราบว่าในโต๊ะทดลองของฉันไม่มีภาพแบบร่างใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ” สายตาของอิ๋งจื่อจินเคร่งขรึม ทำตัวสบายๆ เธอยกมือขึ้น “ฉันยินดีให้ตรวจดูค่ะ”

พอได้ยินแบบนี้นักศึกษาระดับสูงที่อยู่โต๊ะข้างกันก็แสยะยิ้ม “อิ๋งจื่อจิน เธอคงไม่ได้คิดว่าเครื่องตรวจของสำนักวิจัยเป็นแค่สิ่งประดับใช่ไหม”

“ได้” ผู้คุมสอบพูดเสียงเย็นชา “เดิมทีอยากไว้หน้าเธอบ้าง ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ!”

เขารีบเข้าไปปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ

การสอบยังไม่เริ่ม นักศึกษาคนอื่นต่างหันมามองด้วยความรู้สึกสะใจ

เนื่องจากวันนั้นซ้อมนักศึกษาระดับสูงของคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ไปจนน่วม ตอนนี้ก็ถือว่าอิ๋งจื่อจินมีชื่อเสียงในสำนักวิจัยพอสมควร แต่ก็จำกัดแค่ในวงสนทนาระหว่างนักศึกษาระดับต้นด้วยกัน

อย่างไรเสียจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้แสดงความสามารถออกไป

แค่ใช้กำลัง คนที่สติปัญญาไม่สูงไม่มีทางได้รับการต้อนรับในสำนักวิจัย

ไม่กี่นาทีต่อมาสีหน้าของผู้คุมสอบก็ชะงัก

เขาแทบไม่อยากเชื่อ

ค้นอย่างละเอียดจนทั่วโต๊ะทดลองบีศูนย์สองแล้ว อีกทั้งยังใช้สิทธิ์ระดับเอ

แต่สุดท้ายเขาก็ไม่พบภาพแบบร่างอะไรทั้งนั้น ถึงขั้นที่ไม่มีร่องรอยการถ่ายโอนข้อมูลใดๆ ด้วยซ้ำ

น่าแปลก

หรือว่าระบบตรวจด้านหลังจะมีปัญหา

ต่อให้ระบบตรวจของสำนักวิจัยเกิดปัญหา เว็บดับบลิวก็ไม่มีทางเกิดปัญหาหรือเปล่า

แต่ละสนามสอบของสำนักวิจัยจะเชื่อมต่อกับเว็บดับบลิว

ทุกคนต่างรู้ว่าผู้วิเศษนักพรตคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเว็บดับบลิว

ไม่เพียงเท่านี้ เว็บดับบลิวก็ยังแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองแห่งโลกด้วย

ถ้าเว็บดับบลิวเกิดปัญหาก็ถือเป็นเรื่องใหญ่

อินเตอร์เน็ตของเมืองแห่งโลกก็จะล่ม หยุดชะงักกันไปหมด

พอผู้คุมสอบนึกถึงจุดนี้ก็นั่งไม่ติดแล้ว รีบร้อนเดินออก “ทุกคนสอบต่อ จุดจบของคนทุจริตเป็นยังไง มีเขียนไว้อย่างชัดเจนในกฎการสอบ”

ทุจริตในการสอบระดับนี้ จุดจบคือถูกส่งไปเป็นตัวทดลองของคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์

บรรดานักศึกษาต่างตกใจเหงื่อแตกไปทั้งตัว

จนกระทั่งเสียงกริ่งเริ่มสอบดังขึ้น พวกเขาถึงเหมือนตื่นจากฝัน เริ่มก้มหน้าก้มตาทำชิ้นงานของตัวเองไป

อิ๋งจื่อจินยังคงสุขุมใจเย็น แววตาแน่วแน่

เธอใช้มือข้างหนึ่งหยิบวัสดุในเครื่องพิมพ์ภาพสามมิติ มืออีกข้างทำการประกอบ

หลายวันนี้เธอคุ้นเคยกับอุปกรณ์หลายอย่างแล้ว ล้ำสมัยกว่าเจ็ดทวีปสี่มหาสมุทรไปมาก

แต่น่าเสียดายที่เธอไม่พบองค์ประกอบอะไรจำพวกตัวขับเคลื่อนยานอวกาศข้ามจักรวาล

ในเมืองแห่งโลกก็ไม่มีการมีอยู่ของยานอวกาศข้ามจักรวาล

อิ๋งจื่อจินนึกถึงตอนนั้นหลังจากมานูเอลถูกจับ เขาบอกว่าในเมืองแห่งโลกห้ามมียานอวกาศข้ามจักรวาลปรากฏ ถึงได้อยากฆ่าเกอร์เวน

เธอตั้งใจประกอบ มือเคลื่อนไหวเร็วขึ้น

การสอบมีเวลาทั้งหมดสี่ชั่วโมง เวลาค่อยๆ ผ่านไป

ในเวลานี้เองได้เกิดเสียงระเบิดดังตูมที่ด้านขวา

โต๊ะทดลองระเบิด

แต่โชคดีที่เครื่องป้องกันตรวจจับได้ก่อนระเบิด มีฉากป้องกันเลื่อนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

จึงไม่มีใครบาดเจ็บ

ในขณะเดียวกันโต๊ะทดลองก็คืนสภาพอย่างรวดเร็ว

แต่โต๊ะทดลองระเบิดก็แสดงว่าการสอบครั้งนี้ล้มเหลว

นักศึกษาระดับสูงจำต้องเดินคอตกออกจากสนามสอบ รู้สึกไม่ค่อยยินยอม

ต่อมาก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง

มีนักศึกษาหลายคนเดินออกไปอย่างเศร้าๆ พวกเขาทำได้เพียงรอสอบปีหน้า

อีกด้านหนึ่ง

ภายในห้องคุมกล้องวงจรปิด

“ใจร้อนกันเกินไป” อาจารย์คนหนึ่งส่ายหน้า กดบนหน้าจอสามมิติที่ลอยอยู่ “ดูเด็กพวกนี้สิ เดิมทีอย่างน้อยก็สามารถทำออกมาได้สำเร็จหนึ่งชิ้น ปรากฏว่าอยากได้คะแนนสูงขึ้นเลยใช้วัสดุที่เกินกว่าความสามารถของตัวเองจะควบคุมได้”

“มั่วเฟิง ฉันกลับคิดว่าพวกเขากล้าที่จะลอง” อาจารย์หญิงอีกคนยิ้ม “มีประสบการณ์แล้ว สอบครั้งหน้าไม่แน่ว่าอาจผ่านเลย”

มั่วเฟิงไม่พูดอะไรอีก สีหน้าเย็นชา เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยเห็นด้วย

สิ่งที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ต้องการคือการก้าวหน้าอย่างมั่นคง

นี่แค่การทดสอบ ถ้าเกิดข้อผิดพลาดตอนทำโปรเจ็กต์วิศวกรรม ใครจะรับผิดชอบไหว

กึก!

ในขณะที่เหลือเวลาสอบอีกสองชั่วโมง อิ๋งจื่อจินก็ใส่วัสดุชิ้นสุดท้ายเสร็จ

เธอเอาชิ้นงานที่ทำเสร็จโยนใส่ในโต๊ะทดลองแล้วลุกออกจากสนามสอบ

ชิ้นงานที่ประกอบเสร็จเรียบร้อยจะเข้าระบบประเมินคะแนนโดยอัตโนมัติ ซึ่งผลคะแนนก็จะออกมาอย่างรวดเร็ว

พออิ๋งจื่อจินลุกขึ้น นักศึกษาคนอื่นก็มองมาด้วยความตะลึง

อิ๋งจื่อจินเป็นแค่นักศึกษาระดับต้น ทำไมถึงทำเสร็จเร็วกว่าพวกเขาอีก!

นักศึกษาระดับสูงเรียนอยู่ในสำนักวิจัยมาอย่างน้อยก็ห้าปี

แต่ถ้าทำชิ้นงานแบบที่กึ่งสำเร็จรูป ระบบประเมินคะแนนก็จะปฏิเสธ

ปรากฏว่าพอพวกเขามองไป ไม่ทันระวังของในมือ มีหลายคนที่โต๊ะทดลองระเบิด

ภาพเหตุการณ์เหล่านี้ปรากฏในสายตาของบรรดาอาจารย์

อาจารย์หญิงส่ายหน้าถอนหายใจ “ไม่มีสมาธิ”

มั่วเฟิงสายตาเย็นชา

นักศึกษาเหล่านี้ไม่เหมาะที่จะเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์

“แต่ฉันคิดว่าเด็กสาวคนนี้มีพรสวรรค์พอสมควรเลยนะคะ ทำเสร็จเร็วขนาดนี้” อาจารย์หญิงชื่นชม “คุณอยากรับเธอไปเป็นลูกศิษย์ไหม”

มั่วเฟิงเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาอันดับหนึ่งของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ใครๆ ต่างยอมรับ

บิล เรนเกล ก็เป็นลูกศิษย์ของเขา

นักศึกษาจำนวนไม่น้อยคิดหาทางแทบตายเพื่อที่จะได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของเขา

แต่เงื่อนไขในการรับลูกศิษย์ของมั่วเฟิงเข้มงวดมาก นอกจากต้องเรียนจบก่อนแล้ว เขาก็มีลูกศิษย์อยู่แค่สามคน รวมบิล

มั่วเฟิงแค่เหลือบมอง จากนั้นก็ละสายตากลับ “ไม่รับ คุณอยากรับก็รับไปเถอะ คุณขาดลูกศิษย์อยู่คนไม่ใช่เหรอ”

“ไม่รับเหรอ” อาจารย์หญิงตกใจ “ให้เวลาสอบสี่ชั่วโมง แต่เธอใช้เวลาสองชั่วโมงก็ทำผลงานเสร็จแล้ว แถมระหว่างนั้นไม่มีผิดพลาดเลยด้วย”

“ก็เพราะว่าเธอส่งผลงานเร็วเกินไปนี่แหละ ผมถึงไม่รับ” มั่วเฟิงตอบ “ชิงจิ่ว คุณต้องดูการสอบที่แล้วๆ มา คนที่ได้เข้าคณะวิศวะ มีคนไหนบ้างที่ไม่ส่งผลงานตอนท้ายๆ”

“อยู่ได้นานเท่าไรก็อยู่ เธอส่งผลงานกลางคันไม่ต่างจากสละสิทธิ์”

ชิงจิ่วไม่เห็นด้วย “อาจารย์ลืมแล้วเหรอคะว่าบิลก็ส่งผลงานก่อนหมดเวลา”

“น่าตลกจริง ใครก็เทียบกับบิลได้เหรอ” มั่วเฟิงขมวดคิ้ว “คุณอย่าลืมนะว่าบิลมาจากตระกูลไหน ตระกูลเรนเกล”

ยีนของตระกูลเรนเกลใช่ว่าใครก็มีได้เหรอ

ชิงจิ่วเงียบไป

ก็จริง แต่ไหนแต่ไรมาตระกูลเรนเกลมีแต่คนยอดเยี่ยม

“จะว่าไป นับตั้งแต่…” ชิงจิ่วหยุดเล็กน้อย เลี่ยงไม่พูดชื่อนั้น “คณบดีก็ไม่ได้รับลูกศิษย์อีกเลย”

ในเวลาสิบปีนี้มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นมาก คนของสำนักวิจัยก็เปลี่ยนไปหลายชุดแล้ว

ก็มีแค่อาจารย์อย่างพวกเขาที่อยู่ในสำนักวิจัยเกินสิบปีขึ้นไปที่จำได้

ซีนายเก่งเกินไป ไม่มีใครเทียบได้

บิลที่เป็นหลานของซีนายยังด้อยกว่ามาก

“ถ้าไม่เก่งระดับคุณซีนาย ท่านคณบดีไม่มีทางรับเป็นศิษย์” มั่วเฟิงส่ายหน้า หันไปมอง “คุณดูต่อไปแล้วกัน ผมจะพาบิลออกไปหน่อย”

ชิงจิ่วพยักหน้า

มั่วเฟิงเดินออกไป

มีรถคันหนึ่งรออยู่ตรงระเบียงดาดฟ้า

บิลเรียกด้วยความนอบน้อม “อาจารย์”

“ทำไมอาจารย์ได้ยินนักศึกษาคนอื่นพูดว่า มีแอ๊กเคานท์ที่สไตล์คล้ายเธอปรากฏในโซนซื้อขายของเว็บดับบลิวล่ะ” มั่วเฟิงขึ้นรถแล้วถาม “เธอเปิดแอ๊กหลุมเพิ่มเหรอ”

“แอ๊กหลุมเหรอคะ” บิลขมวดคิ้ว “หนูไม่ว่างขนาดนั้นหรอกค่ะ”

ช่วงนี้ตระกูลเรนเกลยุ่งมาก

หัวหน้าตระกูลหายสาบสูญนานเกินไปแล้ว จะปล่อยให้ตระกูลไม่มีนายไม่ได้

มีการเสนอกำหนดการคัดเลือกหัวหน้าตระกูล อีกทั้งได้ส่งไปที่สำนักผู้วิเศษ

ขอแค่ยืนยันได้ว่าซู่เวิ่นไม่มีทางฟื้นขึ้นมาอีก สำนักผู้วิเศษก็จะอนุมัติเอกสารเพื่อให้ตระกูลเรนเกลเลือกหัวหน้าตระกูลคนใหม่

บิลสนใจเรื่องนี้ก็เลยลดเวลาเล่นเน็ตให้น้อยลง

กิจกรรมที่เธอทำบ่อยที่สุดในเน็ตก็คือไลฟ์สดในเว็บดับบลิว บางครั้งผลงานที่ทำตอนไลฟ์สดก็จะเอาไปวางขายในโซนซื้อขาย

“เธอลองดู” มั่วเฟิงพยักหน้า “เดี๋ยวเจอคนแอบอ้างชื่อเธอมันจะไม่ดี”

[แอ๊กเคานท์เอสวายต้องเป็นคุณหนูบิลแน่ ฉันไปทิ้งข้อความไว้ยังถูกลบด้วย ถ้าไม่ใช่ทำไมไม่ตอบฉัน เพราะถูกฉันจับได้แน่นอน]

[ว่ากันตามตรง สไตล์คล้ายกันมาก แต่ของที่เอสวายขายระดับล่างเกินไป ฉันจะรอดูว่าต่อไปเธอจะทำอาวุธรุ่นใหม่มาขายหรือเปล่า]

[ไม่มั้ง เอสวายแค่ขายรองเท้าไปสองคู่ มีคนซื้อไปหนึ่งคู่ เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งไลฟ์สดโชว์รองเท้าคู่นี้ให้ดู แอบกระซิบ คุณหนูบิลทำรองเท้าแบบนี้ออกมาไม่ได้หรอก อุปกรณ์ขับเคลื่อนที่อยู่ในรองเท้ามันประณีตมากเลยนะ]

[ฉันล่ะยอมใจ กล้าเอาคนหน้าใหม่ไปเทียบกับคุณหนูบิล เมาปะเนี่ย]

มีคนมาคอมเมนต์ด้านล่างถึงหนึ่งหมื่นข้อความ ทั้งยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

บิลกวาดตาอ่านคอมเมนต์ที่อยู่ในโซนซื้อขาย คิ้วขมวดแน่นกว่าเดิม

เธออ่านแล้วก็ชักหงุดหงิด เลิกสนใจ ปิดหน้าจอ

ในเว็บดับบลิวมีคนเลียนแบบสไตล์ของเธออยู่ไม่น้อย นี่ก็แค่หนึ่งในนั้น

ส่วนเอสวายคือใคร เธอไม่สนใจอยากรู้

เวลาบ่ายที่คณะวิศวกรรมศาสตร์

“ท่านคณบดีครับ” เลขาเคาะประตู “ปีนี้มีคนเข้าสอบทั้งหมดหนึ่งพันเจ็ดร้อยแปดสิบคนครับ สุดท้ายมีคนทำชิ้นงานเสร็จสมบูรณ์แค่หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคนครับ”

“คะแนนทั้งหมดส่งเข้าคอมพิวเตอร์ของท่านแล้วครับ เชิญตรวจดูได้”

มีแค่คณบดีที่ดูคะแนนสอบได้ คนอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์

คณบดีนอร์แมนดันแว่นตา “ได้ ผมจะดูเดี๋ยวนี้”

เขานั่งหน้าโต๊ะทำงาน กดเปิดชิ้นงานและคะแนนของการสอบครั้งนี้

คะแนนไล่ตั้งแต่ต่ำไปสูง

คะแนนต่ำสุดได้แค่ยี่สิบคะแนน

คณบดีนอร์แมนไล่ดูอย่างรวดเร็ว ผลคะแนนลำดับที่เก้าสิบแปดเพิ่งจะผ่านเกณฑ์

อัตราการสอบผ่านเท่านี้ถือว่าปกติ แต่ละปีคณะวิศวกรรมศาสตร์รับมาได้ยี่สิบคนก็ถือว่าดีมากแล้ว

คณบดีนอร์แมนดูต่อ พอเปิดไปจนถึงลำดับที่สองสีหน้าของเขาก็ผ่อนคลายลง

ในที่สุดก็มีคะแนนถึงแปดสิบแล้ว

เขาจำชื่อไว้ จากนั้นก็เปิดไปดูผลคะแนนหน้าสุดท้าย

สีหน้าของคณบดีนอร์แมนเปลี่ยนในชั่วพริบตา มือก็เริ่มสั่น

เขารีบค้นข้อมูลทั้งหมดของการสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ในรุ่นก่อนๆ จากในคอมพิวเตอร์ เจอชื่อคนที่ได้อันดับหนึ่ง

ชื่อ-นามสกุล : บิล เรนเกล

อายุ : 20

ผลสอบ : 86 คะแนน

บิลสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้เมื่อสองปีก่อน คะแนนตอนเรียนก็สูงมากภายใต้การสั่งสอนของอาจารย์ที่ปรึกษาอันดับหนึ่ง

คาดว่าปลายปีนี้เธอก็จะสามารถเลื่อนเป็นนักวิจัยระดับเอสได้สำเร็จ

ยีนของตระกูลเรนเกลสุดยอดมากจริงๆ

ราวกับคณบดีนอร์แมนนึกอะไรออก เขากดผลคะแนนของอีกคนออกมา

เป็นของซีนาย

เพื่อเป็นการปกป้องซีนาย หลังจากที่เธอหายตัวไป ผลคะแนนของซีนายได้ถูกเขาลบจากคลังข้อมูลใหญ่ทั้งหมด

คณบดีคณะอื่นและผู้อำนวยการสำนักวิจัยก็ดึงข้อมูลมาดูไม่ได้

ตอนนั้นเขาคัดลอกเอาไว้

ซีนายสอบได้คะแนนรวมเก้าสิบเอ็ดคะแนน

เธอเป็นเพียงคนเดียวที่ได้เกินเก้าสิบคะแนนในช่วงการสอบหลายปีมานี้ของคณะวิศวกรรม ยกเว้นไซมอน แบรนด์

แต่ใครก็ตามที่ได้คะแนนถึงเก้าสิบก็จะได้เป็นนักวิจัยระดับดับเบิลเอสแบบไม่มีข้อยกเว้น

แต่ตอนนั้นที่ไซมอนสอบผ่านมีอายุแค่สิบสี่ปี

สิบสี่ปีทำผลงานได้ขนาดนี้ก็ถือว่าน่ากลัวมาก

ส่วนผลคะแนนในมือเขาตอนนี้…

คณบดีนอร์แมนสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามบังคับสายตาให้จับจ้อง แต่หัวใจกลับเต้นเร็ว

ชื่อ-นามสกุล : อิ๋งจื่อจิน

อายุ : 19

ผลสอบ : 100

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด