คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 692 ตัวตนเปิดเผย นอร์ตัน!

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 692 ตัวตนเปิดเผย นอร์ตัน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 692 ตัวตนเปิดเผย นอร์ตัน!

เนื่องจากมีสำนักผู้วิเศษหนุนหลัง สำนักวิจัยจึงมีสถานะสูงมากในเมืองแห่งโลก

โดยเฉพาะตอนนี้สินค้าเทคโนโลยีหลายอย่างที่ชาวเมืองใช้ก็ล้วนมาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์

ปีนี้คณบดีนอร์แมนอายุหกสิบห้าปีแล้ว นอกจากเขาจะมีสติปัญญาที่สูงส่ง สร้างสิ่งประดิษฐ์มากมาย

ทุกปีเขายังได้บริจาคเงินเพื่อการกุศล และก็มักเอาของไปแจกจ่ายยังที่พักอาศัยของพลเมืองชั้นสองด้วยตัวเอง

คณบดีนอร์แมนไม่มียศสูงศักดิ์อะไร แต่สะสมบารมีไว้มาก ชาวเมืองแห่งโลกต่างให้เกียรติเขา

[โอ้โห คณบดีนอร์แมนมาหาถึงที่เลยเหรอ!]

[กรี๊ดดด คณบดีนอร์แมนจะรับคุณหนูบิลเป็นลูกศิษย์แล้วเหรอ! คุณหนูบิลสมกับเป็นไอดอลของฉัน]

[ก่อนหน้านี้เจ้าของไลฟ์ก็บอกแล้วว่าไม่ใช่คุณหนูบิล! เห็นเธอคอมเมนต์หลายรอบแล้วนะ เอาแต่โหมกระแส เป็นไรมากปะ!]

[นี่แฟนคลับสมองเพี้ยนของบิล เรนเกล เหรอ ใครก็ตามที่ประกอบอาวุธเป็นคือบิลหมดเลยหรือไง

งั้นฉันขอบอกพวกเธอไว้เลยนะ สิบปีก่อนตอนที่คุณหนูบิลของพวกเธอยังเป็นนักเรียนตัวน้อยอยู่ ตระกูลเรนเกลก็มีนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะแล้ว คุณหนูบิลของพวกเธอยังต้องเรียกว่าอาเลยนะ หึๆ]

อิ๋งจื่อจินก็จำไอดีนี้ได้ ก็คือคนที่มาทิ้งข้อความครั้งแรกไว้ในโซนซื้อขายของเธอ

ลบไปหนึ่งครั้ง ต่อมาก็เปลี่ยนไอดีหลายไอดีมาคอมเมนต์ ไม่ยอมเลิกราง่ายๆ

อิ๋งจื่อจินเคาะแป้นคีย์บอร์ด ทำการบล็อกไอพีแอดเดรสนี้

จากนั้นเธอก็ปิดไลฟ์สด พยักหน้า “ท่านคณบดี”

“โทษทีนะโทษที ฉันตื่นเต้นไปหน่อย” คณบดีนอร์แมนรู้สึกผิด “ไม่รบกวนเธอใช่ไหม”

พอเขาเตรียมทุกอย่างเสร็จก็ติดต่ออิ๋งจื่อจินทันที หลังจากเธอตอบ เขาก็รีบมาชนิดที่แทบทนรอไม่ไหว

“ไม่ค่ะ” อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเบาๆ ยิ้มพลางพูด “ประกอบอาวุธเสร็จไปหนึ่งรอบพอดี ท่านคณบดีมาได้เวลาเลยค่ะ”

“งั้นก็ดี งั้นก็ดี” คณบดีนอร์แมนโล่งอก “นี่คือหนังสือสัญญา เธอลองดูนะว่าอยากเติมอะไรไหม เติมได้ตามสบายเลยนะ!”

ขอแค่เขาได้รับลูกศิษย์คนนี้ ผมจะร่วงหมดหัวก็ยอม

“ขอบคุณค่ะ” อิ๋งจื่อจินตั้งใจอ่านหนึ่งรอบแล้วเซ็นชื่อ

สัญญามีผลทันที

“ซีนายบอกฉันว่าเธอสนใจพวกโปรเจ็กต์ยานอวกาศอะไรพวกนี้มาก” คณบดีนอร์แมนยิ้ม “ช่วงนี้ฉันมีโปรเจ็กต์วิศวกรรมโปรเจ็กต์ใหม่พอดี มีแต่พวกอาจารย์ที่วิจัยยานอวกาศทั้งนั้น อยากลองดูหน่อยไหม”

อิ๋งจื่อจินยิ้มพลางพยักหน้า “ได้ตลอดเวลาค่ะ”

“โอเคๆ ฉันจะใส่ชื่อเธอให้” คณบดีนอร์แมนพยักหน้าด้วยความดีใจ “ปกติเธอก็เรียนรู้กับฉันไป”

อิ๋งจื่อจินจดพื้นฐานของโปรเจ็กต์ทดลองไว้

“แต่ทำไมนึกอยากไลฟ์สดขึ้นมาล่ะ” คณบดีนอร์แมนมองบนหน้าจอใหญ่ ถามด้วยความเป็นห่วง “เงินไม่พอใช้เหรอ”

“เธอเป็นลูกศิษย์ของฉัน สำนักวิจัยจะมีเงินให้ประจำ ปีนึงได้ประมาณห้าสิบล้าน”

พอเขาพูดจบก็เห็นข้อความใหม่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ

[สินค้ารหัส A34921 ของคุณถูกซื้อไปแล้ว มีเงินเข้าบัญชี 12,000,000 กรุณาตรวจสอบ]

คณบดีนอร์แมน “…”

คิดเสียว่าเขาไม่ได้ถามแล้วกัน

โซนซื้อขายของเว็บดับบลิวมีความเข้มงวดมาตลอด จะประเมินระดับของสินค้าโดยอัตโนมัติ สินค้าประเภทมีกลไกอะไรพวกนี้ยิ่งเงื่อนไขเยอะ

อักษรตัวแรกของรหัสสินค้าก็คือระดับ

ทำสินค้าระดับเอออกมาได้ ทั้งยังขายได้ในราคาสูงขนาดนี้ ฝีมือถึงขั้นเป็นนักวิจัยระดับเอสได้เลยทีเดียว

แต่ซีนายบอกเขาว่าอิ๋งจื่อจินเพิ่งเรียนมาครึ่งเดือน

พรสวรรค์ขั้นเทพชัดๆ!

คณบดีนอร์แมนยิ่งมองก็ยิ่งเอ็นดู เขาถูมืออย่างควบคุมไม่ได้

“กำลังตามหาคนคนนึง” อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดแล้วยื่นรูปถ่ายของนอร์ตันให้ดู “ท่านคณบดีเคยเจอเขาไหมคะ”

นี่คือรูปถ่ายหน้าตรงของนอร์ตัน

ผมสีดอกเลาของเขาสะดุดตามาก

เขามีใบหน้าแบบชาวตะวันตกแท้ๆ เครื่องหน้าคมชัด

สีหน้าเย็นชา แววตาเฉียบคม

แรงอาฆาตที่แผ่ออกมาชวนให้หวาดกลัว

“อ่อ ขอดูก่อนนะ” คณบดีนอร์แมนรับมา ดันแว่นตา ขมวดคิ้ว “ไม่เคยเห็น ถ้าฉันเคยเห็นเขาฉันต้องจำได้แน่นอน เขาทำงานอะไรเหรอ”

“เกี่ยวกับพวกยาค่ะ” อิ๋งจื่อจินเก็บรูปกลับมา ครุ่นคิดแล้วพูด “เขาไม่ได้อยู่ที่คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์”

นอร์ตันหลุดเข้ามาในเมืองแห่งโลกได้สองปีแล้ว

หลังจากเธอมาที่เมืองแห่งโลกก็เคยลองใช้ไพ่ทาโรต์ทำนาย

ไม่เพียงแต่นอร์ตันจะไม่มีอันตรายถึงชีวิต ความสามารถโดยรวมยังพัฒนาขึ้นด้วย

อัจฉริยะสติเฟื่องที่สนใจแค่วิชาเล่นแร่แปรธาตุ นอกจากคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ที่จะดึงดูดเขาได้ ยังจะมีที่ไหนอีก

“คณะพันธุศาสตร์…นับตั้งแต่ซีนายเกิดเรื่อง ฉันก็มีความคิดที่ไม่แน่ใจ” คณบดีนอร์แมนมีสีหน้าเคร่งขรึม “สำนักผู้วิเศษพยายามวางอำนาจข่มคณะวิศวะมาตลอด เพื่อสกัดกั้นความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีอุตสาหกรรม”

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่เล็กน้อย “ท่านคะ?”

“คราวก่อนฉันเคยบอกเธอไม่ใช่เหรอว่า เมื่อหลายร้อยปีก่อนเคยมีนักวิจัยระดับดับเบิลเอสที่เป็นสุดยอดอัจฉริยะ เขาไปจากเมืองแห่งโลก” คณบดีนอร์แมนถอนหายใจ “การจากไปของเขาทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีของเมืองแห่งโลกต้องหยุดลงอย่างน้อยห้าสิบปี”

“สิบปีก่อนซีนายก็มาหายตัวไป ทางคณะวิศวะเคยลองประมวลข้อมูล การหายตัวไปของเธอจะทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีช้าลงอย่างน้อยหลายสิบปี”

สีหน้าของอิ๋งจื่อจินชะงัก

คณบดีนอร์แมนคิดว่าสองเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสำนักผู้วิเศษ

“ฉันเปลี่ยนผลคะแนนของเธอแล้ว สำนักผู้วิเศษไม่มีทางสนใจเธอ” นอร์แมนเดินขึ้นหน้า กำชับอีกครั้ง “ต้องปกป้องตัวเองให้ดี”

อิ๋งจื่อจินเดินออกไปส่งคณบดีนอร์แมน พอกลับมาเธอก็เปิดไลฟ์สดอีกครั้ง

หยุดไลฟ์ไปหนึ่งชั่วโมง คนในห้องไลฟ์สดไม่มีลดลง กลับเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ

อีกทั้งยังติดสิบอันดับแรกของชาร์ตอันดับคำค้นหาของเว็บดับบลิว

#คณบดีนอร์แมนกลางไลฟ์เอสวาย#

ชื่อเสียงของคณบดีนอร์แมนโด่งดังมาก ทั้งยังปรากฏตัวในไลฟ์สดเป็นครั้งแรก

ผู้ชมหลายคนตื่นเต้นมาก

[กรี๊ดดด ฉันจะบ้าแล้ว เจ้าของห้องไลฟ์เป็นใครกันแน่ ตอนนี้คณะวิศวะมีคนที่ควรค่าให้คณบดีนอร์แมนมาหาถึงที่ด้วยเหรอ]

[ใช่ๆๆ ฉันถูกกระแสพาไป คนนี้ไม่ใช่คุณหนูบิล เอสวายมีความแตกต่างจากคุณหนูบิลอยู่บ้าง แต่ว่าเอสวายไม่ได้จงใจอาศัยชื่อคุณหนูบิลเพื่อดึงดูดแฟนคลับจริงเหรอ]

[ไปดีกว่า นึกว่าคุณหนูบิลเสียอีก ดูตั้งนานที่แท้ก็ของก๊อบเกรดเอ สมัยนี้เจ้าของไลฟ์ที่มีสไตล์เป็นของตัวเองมีไม่มากแล้ว เลียนแบบคนอื่นมันดีตรงไหน ซ้ำซาก น่าเบื่อ]

[ขยะ!]

หลายคนออกจากห้องไลฟ์ แต่ในเวลานี้เองกลับมีหน้าต่างหนึ่งเด้งขึ้นมา

[อวี๋ขอเชื่อมต่อกับคุณ]

อวี๋ก็คือไอดีไลฟ์สดของฉินหลิงอวี๋

ตอนนี้เธอเป็นนักไลฟ์สดหน้าใหม่อันดับหนึ่งของโซนร้องเต้น โดดเด่นเกินหน้าเกินตาคนเก่าๆ ไปหลายคน

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว กดตกลง

“ไฮ” ฉินหลิงอวี๋ก็ไม่เผยใบหน้าเหมือนกัน “ไม่เจอกันนาน ต่อไมค์เล่นเกมกันหน่อยไหม”

ข้อความของผู้ชมเงียบไปสองวินาที จากนั้นก็กรูกันมาเต็มไปหมด

[? จะมาฟีเจอริ่งกันเหรอ]

[โอ้โห ลูกอวี๋! นี่ก็ขวัญใจฉันอีกคน ฮ่าๆๆ ไม่ใช่บิลแน่ละ หลายวันก่อนลูกอวี๋เพิ่งบอกเองว่าไม่รู้จักบิล]

[สรุปว่าเจ้าของไลฟ์เป็นใครกันแน่ ยังรู้จักใครอีก!]

#อวี๋SY#

ไม่นานก็มีแฮชแท็กใหม่ปรากฏขึ้น

พอมีฉินหลิงอวี๋มาร่วม ความนิยมในห้องไลฟ์สดของอิ๋งจื่อจินก็พุ่งสูงขึ้นวินาทีละแสน

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที ยอดผู้ชมพุ่งไปถึงหกสิบล้าน

คราวนี้บรรดาชาวเน็ตที่เมื่อครู่บอกว่าไปดีกว่า ของก๊อบเกรดเอ ต่างก็เริ่มหวั่นไหว พากันกลับมา

แต่พวกเขาพบว่า พวกเขาเข้าห้องไลฟ์ของเอสวายไม่ได้แล้ว ถูกกันไว้ข้างนอก

[ทำไมฉันเข้าไม่ได้!]

[แอดมินล่ะ!]

แอดมิน : [บอกว่าของก๊อบเกรดเอไม่ใช่เหรอ งั้นพวกคุณก็ไม่คู่ควรที่จะดู ไม่ต้องดูหรอก ไลฟ์เลียนแบบบิลมีเยอะแยะ เชิญเลือกดูตามสบาย]

บรรดาชาวเน็ตโมโหมาก แต่กลับทำอะไรไม่ได้

ฉินหลิงอวี๋ก็เห็นแล้ว เธอเลือกตัวละครในเกมพลางส่งข้อความส่วนตัวหาอิ๋งจื่อจิน “แอดมินของเธอเจ๋งดีนะ”

“เพื่อนฉันเอง” อิ๋งจื่อจินใช้มือข้างเดียวเล่นเกม มืออีกข้างเท้าศีรษะ “สาวน้อยจิตใจดี”

“นึกไม่ถึงว่าพวกเธอก็มาเมืองแห่งโลกด้วย” อยู่ๆ ฉินหลิงอวี๋ก็พูดขึ้น “แต่ฉันต้องไปจากที่นี่แน่นอน รอฉันสืบเรื่องบางอย่างเสร็จก่อน ฉันไปแน่”

“พี่ชายสมองเพี้ยนของฉันคงยังไงก็ได้ ไปที่ไหนก็กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับแฮกชาวบ้าน”

ที่นี่ติดต่อประเทศจีนกับยุโรปไม่ได้

อยู่ๆ เธอหายตัวไป พวกแฟนคลับต้องแตกตื่นแน่นอน

“อืม” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “เธออยากออกจากเมืองเมื่อไรก็ติดต่อมา ฉันจะเอาบัตรผ่านให้”

คราวก่อนซิวให้บัตรผ่านเธอมาเป็นปึก

“ได้” ฉินหลิงอวี๋โบกมือ “ออกแล้วนะ เธอเองก็รีบพักผ่อนล่ะ”

โทรศัพท์มือถือของอิ๋งจื่อจินดังขึ้นในเวลานี้

มีข้อความเข้า

ซิว : [สุดสัปดาห์ผมจะกลับสำนักผู้วิเศษ จะเอาใบอนุญาตให้คุณได้เช้าวันจันทร์]

อิ๋งจื่อจินตอบกลับว่า ‘โอเค’ แล้วปิดไลฟ์

สุดสัปดาห์

ตอนบ่าย

สำนักผู้วิเศษ

ชั้นบนสุด

ซิวใช้ความสามารถพิเศษในการหลบซ่อน แปลงโฉมได้ตามใจ

หลังจากเขาเข้าห้องตัวเองก็เซ็นใบอนุญาตที่ใช้กับตระกูลเรนเกลแล้วออกมา

สำนักผู้วิเศษมีประวัติศาสตร์ร่วมพันปีแล้ว อาคารยังคงเป็นสไตล์โบราณ

ซิวค่อนข้างชอบแบบสมัยใหม่ เขาเลยไม่ค่อยกลับมาสำนักผู้วิเศษ

“ซิว” เวลานี้มีเสียงเรียกดังขึ้น “นานๆ จะกลับมาที ไม่นั่งคุยกันหน่อยเหรอ”

ซิวหยุดเดิน หันหน้าไป

เป็นผู้หญิงตัวสูงรูปร่างสะโอดสะอง

เธออยู่ในชุดเดรสยาวสีแดงรัดรูป บนศีรษะมีมงกุฎสีทอง

ผู้วิเศษลำดับที่สี่จากยี่สิบสองคน ผู้วิเศษจักรพรรดินี

ซาโรห์ วิกตอเรีย!

“ซาโรห์เองเหรอ” ซิวทักทายอย่างสุภาพแต่ดูห่างเหิน “ไม่มีอะไรให้ต้องคุยนี่ ทำงานกับพวกคุณมาหลายปี เบื่อจะแย่แล้ว”

เป็นผู้วิเศษ พวกเขาอายุยืนมาก จนถึงขั้นที่เห็นความเปลี่ยนแปลงของผืนดินและท้องทะเล

สิบปีสำหรับพวกเขาแค่เรื่องเล็ก

อีกทั้งเขาก็ไม่ค่อยได้คลุกคลีกับผู้วิเศษจักรพรรดินี

เมื่อนานมาแล้ว นานจนถึงสมัยที่เมืองแห่งโลกยังเป็นยุคโบราณ ผู้วิเศษที่เขากับน้องสาวคลุกคลีด้วยมากที่สุดคือพลัง ความยุติธรรม และผู้วิเศษเทวทูต

ส่วนซาโรห์ค่อนข้างสนิทกับสังฆราช จักรพรรดิ และหอคอย

มีแค่ตอนประชุมที่ผู้วิเศษทั้งหมดต้องเข้าร่วมเท่านั้น พวกเขาถึงจะเจอหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง

ปกติซิวไม่มีทางพูดคุยกับซาโรห์

ซาโรห์พูด “คำพูดนี้ของคุณทำร้ายจิตใจฉันนะ”

ขณะพูดสายตาของเธอก็เคลื่อนลง “ในมือนั่นอะไรเหรอ”

แม้ซาโรห์จะถามไปแบบนั้น แต่ก็เห็นแล้ว

[จดหมายอนุญาต

จงเชื่อฟังผู้ที่ถือจดหมายฉบับนี้

ผู้วิเศษนักพรต ซิว!]

ซิวไม่อยากพูดอะไรกับซาโรห์อีก เขายังต้องกลับไปดื่มเหล้าตัวใหม่ของบาร์ข้างถนน หันตัวเดินออก

ซาโรห์เงยหน้าแล้วพูดขึ้น “ขอโทษที ฉันไม่เห็นด้วย”

แววตาของซิวเย็นชา “ผมก็ไม่ได้ขอความคิดเห็นจากคุณเสียหน่อย”

“งั้นเหรอ” ในที่สุดซาโรห์ก็มีรอยยิ้ม เธอครุ่นคิดพลางพูด “คุณอยู่ข้างนอกตลอด ไม่ได้มีความใกล้ชิดกับตระกูลเรนเกล ตอนนี้คุณกลับมากลับจะให้ซู่เวิ่นรับการรักษาด้วยการฝังเข็มเหรอ”

“ฉันขอคิดแบบนี้ได้ไหมว่าแท้จริงแล้วคุณอยากให้ซู่เวิ่นตายเพื่อที่จะได้ควบคุมตระกูลเรนเกล”

“อยากคิดอะไรก็ตามสบาย” ซิวพูดอย่างใจเย็น “ผมเคยเจอหัวหน้าตระกูลของพวกเขา เคยรู้จักกันระดับหนึ่ง ผมไม่อยากเห็นภรรยาของเขาต้องหมดสติไปตลอดกาล เลยเชิญแพทย์แผนโบราณจากนอกเมืองมา ไม่ได้หรือไง”

เขาเคยเห็นอาการป่วยของซู่เวิ่นแล้ว

แต่ความสามารถพิเศษของเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้

ได้ยินว่านักมายากลกับนักบวชหญิงก็เคยช่วยรักษา แต่ก็ยังทำให้ซู่เวิ่นฟื้นไม่ได้

ซิวไม่เคยเห็นฝีมือการรักษาของอิ๋งจื่อจิน

แต่ในสายตาของเขา อิ๋งจื่อจินกล้าขอเขาเรื่องนี้ก็แสดงว่ามั่นใจพอสมควรแล้ว

ซาโรห์มองเขาด้วยสายตาเย็นชา

เกิดความเงียบขึ้นภายในห้องโถงที่กว้างใหญ่

“อัศวินรถม้า คุณล่ะ” ทันใดนั้นซาโรห์ก็มองไปทางด้านหลังของซิว “คุณคิดว่าควรให้ซู่เวิ่นรับการรักษาที่ล้าหลังแบบนี้ไหม”

ซิวตะลึงเล็กน้อย เขาหันไป

ผู้วิเศษอัศวินรถม้ามาตั้งแต่เมื่อไร

ตามคาด

ผู้วิเศษที่ได้รับการยกย่องว่าต่อสู้เก่งที่สุดถัดจากผู้วิเศษเดวิล แม้แต่ปรากฏตัวก็มาแบบเงียบเชียบ

เป็นผู้ชายผมสีดอกเลา ใส่ตุ้มหูสีดำสองเม็ดที่หูขวา มีประกายสะท้อนแสง

เขากอดอก เงยหน้าด้วยสีหน้ากึ่งยิ้ม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด