คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 778 ฟู่หลิวอิ๋ง รวมพลจอมยุทธ์!

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 778 ฟู่หลิวอิ๋ง รวมพลจอมยุทธ์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 778 ฟู่หลิวอิ๋ง รวมพลจอมยุทธ์!

คุณนายผู้เฒ่าอวี้ไม่ขออะไรมาก แค่อยากให้ฟู่อวิ๋นเซินกลายเป็นผู้สืบทอดที่ว่านอนสอนง่าย

อวี้เซ่าอิ่งไม่ใช่สายเลือดตระกูลอวี้ อวี้เซ่าอวิ๋นจึงมีฟู่อวิ๋นเซินเป็นลูกชายแค่คนเดียว

คุณนายผู้เฒ่าอวี้ให้ความสำคัญกับสายเลือดขนาดนี้ เธอจำเป็นต้องคุมฟู่อวิ๋นเซินให้อยู่ในกำมือ

แต่ฟู่อวิ๋นเซินกลับปล่อยให้พนักงานในโรงแรมหยามเกียรติเธอสารพัด แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นเธอ

สายเลือดตระกูลอวี้ของพวกเขาทำไมถึงกลายเป็นคนมีนิสัยแบบนี้ได้

ตระกูลของฟู่หลิวอิ๋งจะต้องทำอะไรไว้แน่นอน

พอนึกถึงตรงนี้คุณนายผู้เฒ่าอวี้ก็ควบคุมความโกรธไม่ได้

ถ้าให้เธอเป็นคนเลี้ยงดู ฟู่อวิ๋นเซินจะต้องยอดเยี่ยมกว่านี้แน่นอน

ตระกูลฟู่ในประเทศจีนเป็นเพียงตระกูลเล็กๆ ในสายตาของเธอ ไม่ควรค่าให้พูดถึง

“ขอยาอะไร” ซาโรห์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย วางถ้วยชาในมือลง “ฉันจำได้ว่าลูกชายของเธอก็อายุใกล้จะเกินห้าสิบแล้ว ทำไม อยากได้ยาแบบนั้นอีกเหรอ”

คุณนายผู้เฒ่าอวี้ร้อนรน “ไม่ใช่ค่ะท่านจักรพรรดินี ฉันจะเอาไปใช้กับหลานชาย เขาดื้อเหลือเกิน ฉันอยากขอยาที่ทำให้คนว่านอนสอนง่ายจากท่านนักมายากลค่ะ”

สาเหตุที่ผู้วิเศษนักมายากลกลายเป็นหนึ่งในสามหัวเรือใหญ่ของสำนักผู้วิเศษได้เป็นเพราะยาของเขามหัศจรรย์มาก

“เอาล่ะ” ซาโรห์พูด “ฉันรู้เรื่องจูซานานแล้ว แค่อยากรู้ว่าพวกเธอจะจับได้เมื่อไร ปรากฏว่าถูกปั่นหัวเสียไม่มี แอบไม่พอใจสำนักผู้วิเศษอยู่ในใจหรือเปล่า”

คุณนายผู้เฒ่าอวี้หวาดกลัว “ไม่กล้าค่ะ พวกเราโง่เอง”

พวกผู้วิเศษต่างงานยุ่ง เธอมีเหรอจะกล้าหวังให้ผู้วิเศษออกหน้าช่วย

“เอาป้ายอนุญาตของฉันไปหานักมายากล” ซาโรห์โยนป้ายให้หนึ่งอันลงบนพื้น “บอกให้เขารู้สิ่งที่เธอต้องการ”

คุณนายผู้เฒ่าอวี้ดีใจมาก “ขอบคุณท่านจักรพรรดินีค่ะ ตระกูลอวี้จะเชื่อฟังแค่ท่านจักรพรรดินีคนเดียว”

เธอหยิบป้ายอนุญาตแล้วออกไปอย่างทุลักทุเล

พอคุณนายผู้เฒ่าอวี้ออกไปแล้วซาโรห์ถึงเงยหน้าขึ้น พูดพึมพำ “ฟู่หลิวอิ๋ง…”

ท่ามกลางวันเวลาอันยาวนาน คนที่เธอจำได้มีน้อยมาก

แม้จะเป็นหัวหน้าตระกูลของตระกูลชั้นแนวหน้าในแต่ละรุ่น ซาโรห์ก็ไม่มีทางจดจำ

ถือว่าฟู่หลิวอิ๋งเป็นหนึ่งในจำนวนไม่มาก

เธอกับหลุยส์เคยสงสัยว่าฟู่หลิวอิ๋งเป็นผู้วิเศษกลับชาติมาเกิด จึงพาเข้ามาในสำนักผู้วิเศษหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีเค้าลางจะเกิดอะไรขึ้น

ต่อมาก็เกิดเรื่องที่อวี้เซ่าอวิ๋นถูกรุมโจมตี ฟู่หลิวอิ๋งถูกขับไล่ออกจากเมือง

ก่อนหน้านี้ซาโรห์ก็เพิ่งรู้จากผู้ดูแลว่าฟู่หลิวอิ๋งตายแล้ว

เธอไม่สนใจ และก็ไม่ได้รู้สึกว่าน่าเสียดายอะไร

ถึงแม้ฟู่หลิวอิ๋งจะมีความพิเศษอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงคนทั่วไป

มนุษย์ธรรมดามีมากมาย ตายไปคนก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อเธอ

ถ้าฟู่หลิวอิ๋งเป็นผู้วิเศษ ซาโรห์ไม่มีทางนิ่งเฉย

ซาโรห์ค่อยๆ จิบชา มือสั่นเล็กน้อย

เธอคิดว่าตัวเองเก็บซ่อนความคิดไว้อย่างดี แม้แต่ผู้วิเศษคู่รักก็ไม่สังเกตเห็น แต่หลุยส์กลับรู้ได้

เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของเธอมาก

ราวกับซาโรห์นึกอะไรออก สั่งให้คนดูแลเข้ามา “เอาประวัติของคุณชายใหญ่ที่ตระกูลอวี้เพิ่งรับกลับมาให้ฉันดูหน่อย”

คนดูแลรีบไปจัดการทันที เอาข้อมูลเวอร์ชันอิเล็กทรอนิกส์มายื่นให้

เป็นครั้งแรกที่ซาโรห์เห็นรูปของฟู่อวิ๋นเซิน อดตกใจไม่ได้ “หน้าตาดีกว่าพ่อแม่อีกนะ”

เธอเปิดอ่านไปเรื่อยๆ แล้วโยนทิ้ง

ไม่มีอะไรควรค่าให้ใส่ใจ

เธอไม่ว่างสนใจเรื่องภายในตระกูลอวี้

ซาโรห์นึกถึงคำพูดนั้นของหลุยส์อีกครั้ง สีหน้าหม่นลง

เธอทนได้เหรอถ้าเดวิลกลับมาเกิดใหม่แล้วมีคนที่ชอบ

ทนไม่ได้หรอก

โลกจอมยุทธ์

บ้านตระกูลหลิง

“พ่ออิ๋ง! พ่ออิ๋งของฉัน!” เจียงหรานวิ่งออกมา “พ่อ พ่อกลับมาแล้ว ดูฉันสิ วรยุทธ์ฉันก้าวหน้าขึ้นเยอะเลยนะ”

อิ๋งจื่อจินมองสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เลิกคิ้วพลางพูด “ห้าสิบปีแล้ว เร็วมาก”

เจียงหรานกลับกัดฟัน ชี้หลิงเหมียนซี “ถูกพี่เค้นออกมา”

เขาสู้หลิงเหมียนซีไม่ได้จริงๆ

แต่ใครจะรู้ว่าญาติผู้พี่คนนี้ของเขาพอฟื้นขึ้นมาก็บรรลุเป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์

อีกทั้งในเวลาสั้นๆ แค่สองเดือนวรยุทธ์ก็พุ่งทะยานไปถึงร้อยห้าสิบปี

ไม่มีใครในโลกจอมยุทธ์ที่รุ่นเดียวกันสู้ได้

นี่ก็เป็นสาเหตุที่ตระกูลหลิงก้าวขึ้นสามอันดับแรกของโลกจอมยุทธ์ได้อย่างรวดเร็ว

เจียงหรานยังคิดอยู่ว่าพ่ออิ๋งของเขาเอาสุดยอดยาอะไรให้หลิงเหมียนซีกินหรือเปล่า ต่อมาเขาก็พบว่าพี่สาวของเขาเก่งเข้าขั้นพิสดารเอง

เขามองเนี่ยอี้ เริ่มเห็นใจชีวิตหลังแต่งงานของพวกเขา

ฟู่อวิ๋นเซินพิงเก้าอี้ เงยหน้า “เรียกคนของศาลสถิตยุติธรรมมาให้หมด”

“อ่อๆ” เจียงหรานวิ่งออกไปอย่างเชื่อฟัง

ผ่านไปไม่นานเขาก็เข้าห้องโถงมาพร้อมคณะผู้อาวุโสกับพวกหัวหน้าทีมคุ้มกัน

พอเห็นสองคนที่อยู่ข้างหน้า ผู้อาวุโสใหญ่ก็ดีใจมาก “ท่านเงา คุณอิ๋ง”

ตอนนั้นที่อิ๋งจื่อจินกับฟู่อวิ๋นเซินไปจากโลกจอมยุทธ์ พวกเขาก็เตรียมใจแล้วว่าทั้งสองคนจะหายไปหลายปี

นึกไม่ถึงว่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้

ฟู่อวิ๋นเซินค่อยๆ เหลือบตาขึ้น “ผู้อาวุโสรอง หาแฟนให้ลูกชายได้หรือยัง”

ผู้อาวุโสรอง “…”

เสียดแทงใจ

ลูกชายของเขายังคงเป็นชายโสดแปดสิบปี

คอยดูเถอะ เขากลับไปจะอัดไอ้ลูกอกตัญญูให้น่วม

หลิงฉงโหลวกับคนรุ่นผู้นำตระกูลหลิงก็มาพร้อมกันจากเรือนด้านหลัง

ต่อมาก็มีพวกยอดฝีมือจากสหพันธ์จอมยุทธ์ ตระกูลเย่ว์ ตระกูลหลิน รวมถึงตระกูลอื่นๆ ในโลกจอมยุทธ์

แม้แต่หมาซื่อบื้ออย่างเจียงหรานก็ยังดมได้กลิ่นผิดปกติในครั้งนี้

เขาถูชายเสื้อด้วยความกังวล กระซิบถาม “พี่ พ่ออิ๋งกลับมาทำไมเหรอ”

หลิงเหมียนซีชี้ตัวเอง “มาพาฉันไปเที่ยวเมืองแห่งโลก นายไม่มีหวังหรอก ฝึกอยู่บ้านไปเลย”

เจียงหราน “…”

ปากร้ายจริงๆ สมน้ำหน้าแล้วที่อกเล็ก

“ครั้งนี้ฉันกลับมาเพราะต้องการความช่วยเหลือจากทุกท่าน” อิ๋งจื่อจินเงยหน้าขึ้น เข้าประเด็นทันที “มีสงครามที่ต้องทำ แต่อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้น…”

เธอยังไม่ทันพูดจบ ผู้อาวุโสใหญ่ก็พูดแทรก

“คุณอิ๋ง ไม่ต้องพูดอะไรมาก ยินดีช่วยคุณอิ๋งอยู่แล้วครับ!” เขายืนขึ้นก่อน กำมือคารวะ “ถ้าไม่มีคุณอิ๋งก็ไม่มีโลกจอมยุทธ์ในวันนี้”

“คุณอิ๋งต้องการอะไร ศาลสถิตยุติธรรมจะช่วยเต็มที่แน่นอนครับ!”

จอมยุทธ์คนอื่นๆ ก็ไม่มีลังเล คุกเข่าลงข้างหนึ่ง แสดงความภักดี

“สหพันธ์จอมยุทธ์ยินดีช่วยท่านบูรพาจารย์!”

“ตระกูลเย่ว์ยินดีช่วยคุณอิ๋ง!”

ถ้าไม่มีอิ๋งจื่อจินเผยแพร่วิทยายุทธ์ แล้วพวกเขาจะไปเรียนที่ไหนได้

อีกทั้งเวลามีเรื่องอะไรอิ๋งจื่อจินก็ชอบแบกไว้คนเดียวตลอด

เธอพูดแบบนี้ออกมาได้ เกรงว่าสงครามครั้งนี้จะต้องเป็นภัยคุกคามต่อพลเมืองโลกทั้งหมด

ถึงแม้จอมยุทธ์จะอาศัยอยู่แต่ในโลกจอมยุทธ์ แต่บางสงครามในโลกปุถุชนช่วงหลายปีมานี้พวกเขาก็เข้าไปแทรกแซงด้วย

ไม่มีทางนิ่งดูดาย

ผู้อาวุโสใหญ่พูดต่อ “คุณอิ๋ง ชีวิตของผมขายให้ศาลสถิตยุติธรรมตั้งแต่เข้ามาแล้ว ตายช้าตายเร็วก็ไม่ได้ต่างกัน”

เดิมทีอายุขัยของพวกเขาก็ยืนยาวกว่าคนธรรมดามาก มีชีวิตอยู่นานเกินไปก็ไม่ได้มีความหมายอะไร

ไม่สู้สร้างคุณูปการในบั้นปลายชีวิต

พอได้ยินแบบนี้อิ๋งจื่อจินก็ค่อยๆ พูดขึ้น “ฉันยังอยู่ ฉันไม่มีทางปล่อยให้พวกคุณตาย ฉันไม่มีทางปล่อยให้พวกคุณล้มลงไปก่อนฉัน”

นี่คือคำมั่นสัญญา

“ฉันจะอยู่ที่โลกจอมยุทธ์ไม่กี่วัน” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “จอมยุทธ์คนไหนที่บรรลุด้วยตัวเองไม่ได้ก็มาลงชื่อให้หมด ฉันจะช่วยเองค่ะ”

พวกจอมยุทธ์ดีใจมาก “ขอบคุณคุณอิ๋งมากครับ!”

ฟู่อวิ๋นเซินหันไปมองด้วยสายตาอ่อนโยน

เธอโดดเด่นสะดุดตาที่สุดเสมอ

ต่อให้ทำได้แค่มองเธอไปแบบนี้ตลอดก็พอแล้ว

บรรดาจอมยุทธ์ของอิทธิพลใหญ่แยกย้าย เริ่มกลับไปรวบรวมยอดฝีมือในตระกูล

นี่ยังเป็นครั้งแรกที่โลกจอมยุทธ์ร่วมแรงร่วมใจ

เจียงหรานชี้ตัวเอง “พ่ออิ๋ง ฉันไปเมืองแห่งโลกด้วยได้ไหม ขอไปดูก็ยังดี”

อิ๋งจื่อจินปฏิเสธทันที “ไม่ได้”

วรยุทธ์ของเจียงหรานจัดอยู่ในกลุ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกัน

แต่ก็มีแต่จะถูกบดขยี้หากสู้กับพวกหัวกะโหลกสีดำ

“ให้เขาไปดูหน่อยเถอะ” ฟู่อวิ๋นเซินลูบศีรษะอิ๋งจื่อจิน ยิ้มพลางพูด “ฝึกฝนให้มากถึงจะเติบโตได้เร็ว”

“ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าสู้กันขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่มีทางให้เขาออกโรงหรอก”

คราวนี้อิ๋งจื่อจินไม่ปฏิเสธ “ได้”

เจียงหรานดีใจ “พ่อฟู่ วันนี้พ่อฟู่เป็นพ่อผม!”

“อย่าแบบนี้” น้ำเสียงของฟู่อวิ๋นเซินนุ่มนวล “ยังไงฉันก็ชอบลูกสาวมากกว่าหน่อย”

เจียงหราน “…”

“คุณอิ๋งครับ” ผู้อาวุโสใหญ่ลังเล สุดท้ายก็เดินเข้าไป “อาการท่านเฟิงซิวไม่สู้ดีนัก คุณอิ๋งไปดูหน่อยเถอะครับ พวกเราก็ไม่กล้าพูดอะไรกับเขา”

อิ๋งจื่อจินสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

ข้างศาลสถิตยุติธรรมเป็นทะเลสาบ

ชายชรายังคงสวมชุดกันฝนสวมหมวกงอบ นั่งตกปลาอยู่ริมทะเลสาบอันเงียบสงบ

อิ๋งจื่อจินแค่มองปราดเดียวก็เห็นความผิดปกติ

วรยุทธ์ของเฟิงซิวไม่ได้เสื่อมถอย แต่พลังชีวิตในตัวเขากลับมอดลงไปเรื่อยๆ แล้ว

นี่คือสัญญาณของอายุขัยใกล้หมดลง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด