คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ 796 หาเรื่อง

Now you are reading คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ Chapter 796 หาเรื่อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 796 หาเรื่อง

แต่ทว่าฮองเฮาทรงกริ้วอย่างมาก รู้สึกเพียงแค่เซียวอวี้พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้บุตรชายตนน่าขายหน้ามาก บุตรชายนางเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขสายหลักของราชวงศ์ ถือกำเนิดจากภรรยาเอก เหตุใดเซียวอวี้จึงพระราชทานบรรดาศักดิ์เช่นนี้ให้บุตรชาย

ปรากฏฮองเฮาเร่งรีบเสด็จไปยังห้องหนังสือ กลับไม่อาจเข้าเฝ้าฮ่องเต้ได้ เพราะฮ่องเต้ได้ยินขันทีรายงานก็รับสั่งทันทีว่า “ให้นางกลับตำหนักคุนหนิงกงไป”

ขันทีตงหลินเดินออกไปทูล “ทูลฮองเฮา ฝ่าบาทให้ฮองเฮากลับตำหนักคุนหนิงกงพ่ะย่ะค่ะ”

ฮองเฮาอดตะโกนอย่างโมโหไม่ได้ “ข้าไม่กลับ ข้าจะเข้าเฝ้าฝ่าบาท”

ในห้องทรงอักษร เซียวอวี้ย่อมได้ยินเสียงตะโกนของฮองเฮาด้านนอก เขาขมวดคิ้วสั่งการขันทีให้ฮองเฮาเข้ามา

“หลี่อวิ๋นซาน เจ้ายังดำรงกิริยาจารีตมารดาของแผ่นดินอยู่อีกหรือไม่ เป็นถึงฮองเฮามาตะโกนอยู่นอกประตูห้อง ไร้ธรรมเนียมสิ้นดี”

เซียวอวี้โกรธจัด ฮองเฮาคุกเข่าลงกราบทูลอย่างปวดใจยิ่ง “ฝ่าบาท เจินเอ๋อร์เป็นองค์ชายใหญ่ เหตุใดท่านจึงพระราชทานบรรดาศักดิ์อ๋องจิ่นให้แก่เขา”

เซียวอวี้แค่นยิ้มกล่าวว่า “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าเราควรพระราชทานบรรดาศักดิ์ใดให้เขา รัชทายาทหรือ” น้ำเสียงเย็นเยียบยิ่งกว่าน้ำแข็ง

ฮองเฮานิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง อยากจะทูลตอบว่าหรือว่าไม่สมควรหรือ

แต่สุดท้ายก็มิกล้าทูลวาจานี้ เพียงแต่สะอื้นไห้ทูลว่า “ฝ่าบาทแม้แต่งตั้งเจินเอ๋อร์เป็นอ๋อง ก็ควรพระราชทานพระราชทินนามแก่เขาให้ดีสักหน่อย ไม่ใช่อักษร จิ่น”

เซียวอวี้แค่นเสียงเย็น กล่าวว่า “จิ่นก็คือความปรารถนาที่เรามีต่อเขา หวังให้เขาระวังวาจาและการกระทำ ทำอะไรให้คิดการให้รอบคอบก่อนลงมือทำ”

เซียวอวี้กล่าวจบ โบกมือให้ฮองเฮากลับไป

“เอาละ กลับไปได้”

ฮองเฮาไหนเลยจะยอมกลับ ทูลต่อว่า “ฝ่าบาท”

เซียวอวี้สีพระพักตร์เย็นเยียบยากบรรยาย “หลี่อวิ๋นซาน หากเจ้าอยู่ตำหนักคุนหนิงกงเบื่อแล้ว เราจะให้เจ้าเปลี่ยนที่อยู่ดู”

พอทรงเอ่ยว่านี้ออกไป ในห้องทรงอักษรก็เงียบกริบลง ฮองเฮามองเซียวอวี้ สีพระพักตร์แทบไม่อยากจะเชื่อ วาจาของเซียวอวี้แทบจะบอกนางว่าหากนางยังกล้าพูดต่อ เขาก็จะปลดฮองเฮา

ฮองเฮาสีพระพักตร์ซีดขาว ไม่อาจเอ่ยวาจาใดออกมาได้อีก สุดท้ายได้แต่โงนเงนลุกขึ้นเดินออกไป

เซียวอวี้ถอนหายใจ จงหย่งโหวแท้จริงก็ไม่ได้ความสักเท่าไร ฮองเฮาที่มาจากตระกูลพวกเขาไม่ฉลาดและล้ำลึกเพียงพอ สายตาไม่กว้างไกลเพียงพอ

หลี่อวิ๋นซานเป็นฮองเฮา แต่กลับเห็นเพียงประโยชน์ส่วนตน ไม่เห็นภัยแท้จริงของแคว้นต้าโจว นางคิดเพียงให้บุตรชายตนเองขึ้นเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจว ไม่คิดถึงเพียงว่าบุตรชายตนจะรับมือสายฝั่งจ้าวกั๋วกงได้หรือไม่ จ้าวกั๋วกงมิใช่รับมือได้ง่ายเพียงนั้น ดังนั้นรัชทายาทแคว้นต้าโจวจึงไม่ได้เป็นกันง่ายๆ เช่นนั้น

น่าเสียดายพวกเขาแม่ลูกคล้ายกับมองไม่เห็น ตาบอดทั้งที่ลืมตาอยู่

เซียวอวี้เองก็ขี้เกียจจะสนใจสองแม่ลูกนั่น

ฮองเฮาคิดไปไม่ถึงขั้นนี้ ยามนี้รู้สึกเพียงแค่โมโหมาก โดยเฉพาะวาจาฮ่องเต้ก่อนหน้านี้ เห็นชัดว่าทรงคิดจะปลดตำแหน่งฮองเฮาของนาง

ฮองเฮาคิดถึงเรื่องนี้ก็โมโหจนคิดสังหารคน นางติดตามเขาเดินมาถึงวันนี้ เขาถึงกับคิดปลดตำแหน่งฮองเฮาของนาง

ฮองเฮายิ่งคิดก็ยิ่งโมโห สุดท้ายรู้สึกว่าที่ฮ่องเต้ทรงเป็นเช่นนี้ก็เพราะองค์ชายรองที่กลับเข้าวังมาผู้นั้น ดังนั้นนางต้องสังหารคนผู้นี้ทิ้ง

ไทเฮาจ้าวในตำหนักฉือหนิงกงได้ยินคนรายงานว่าฮองเฮาไปก่อเรื่องที่ห้องทรงอักษร ถูกฝ่าบาทตำหนิกลับมา

ไทเฮาจ้าวอดแค่นยิ้มไม่ได้ ตรัสว่า “หญิงตระกูลหลี่มิอาจดำรงกิริยาจารีต นางแสดงทีท่ามองโลกแคบได้เช่นนี้ ไม่ได้คิดบ้างว่าที่ฝ่าบาทยกองค์ชายรองขึ้นมา ความจริงก็เพื่อทดสอบบุตรชายของนาง ดูว่าบุตรชายนางจะเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจวได้หรือไม่ นางไม่เข้าพระทัยเจตนาของฝ่าบาทก็แล้วไป แต่ถึงกับไปเอาเรื่องฝ่าบาทใหญ่โต”

ไทเฮาจ้าวส่ายพระพักตร์ เอ่ยถามนางกำนัลสูงวัยข้างพระวรกายว่า “ทางพระสนมจ้าวมีความเคลื่อนไหวอันใดบ้างหรือไม่ ฝ่าบาททรงเสด็จไปหานางบ้างหรือไม่”

“ทูลไทเฮา ฝ่าบาททรงเสด็จไปทุกสามวันห้าวันเพคะ”

“อืม คอยดูไว้หน่อย พระสนมจ้าวตั้งครรภ์ก็ให้รีบมารายงานข้า”

“เพคะ ไทเฮา”

วันที่แปด เดือนสิบ อ๋องจิ่นอภิเษกพระชายา ขุนนางในราชสำนักและภริยาต่างไปร่วมงานเลี้ยง อ๋อง หมิงเซียวเหวินอวี๋และองค์หญิงหมิงจูเองก็ไปร่วมงานอภิเษกเสด็จพี่ตนเองเช่นกัน

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวรู้ว่าวันนี้อ๋องจิ่นอภิเษก ย่อมมีคนมากันมาก ดังนั้นจึงไม่ได้พาเซี่ยอู่เป่ากับเซี่ยหลิงหลงไปร่วมงานเลี้ยง จัดการบ้านให้สองแฝดทำ ก่อนที่พวกเขาสองสามีภรรยาพาลูกน้องสองสามคนเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนอ๋องจิ่น

หน้าประตูจวนอ๋องจิ่นมีรถม้าไปมากันขวักไขว่ ฮองเฮาส่งนางกำนัลอาวุโสในวังออกมาดำเนินการจัดงานได้อย่างมีระเบียบ บรรดาผู้ดูแลชายหญิงต่างเชิญแขกเข้าไปทีละชุด

แขกชายไปเรือนด้านหน้า แขกสตรีไปเรือนด้านหลัง

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นห่วงลู่เจียว กำชับนางให้ระมัดระวัง ยังให้หร่วนจู๋คอยตามประกบลู่เจียว

ลู่เจียวเองก็ย่อมเป็นห่วงเซี่ยอวิ๋นจิ่น ดังนั้นจึงกำชับให้เขาระวังตัวเช่นกัน

หากกล่าวว่าตอนนี้ฮองเฮากับอ๋องจิ่นโกรธแค้นผู้ใดมากที่สุด ผู้นั้นย่อมเป็นพวกเขาสองสามีภรรยา ผู้ใดให้พวกเขาเลี้ยงดูองค์ชายรองมาได้ยอดเยี่ยมเพียงนี้กัน

ตอนนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นขุนนางระดับสองในสำนักมนตรี มีเขาอยู่ย่อมต้องช่วยองค์ชายรอง พวกฮองเฮาย่อมต้องคิดกำจัดเขาทิ้ง

ส่วนลู่เจียว หากฮองเฮามีหนทางก็แทบอยากจะสับนางเป็นเนื้อบด ดังนั้นพวกเขาสองสามีภรรยาต้องระมัดระวังตัวอย่างมาก

หากมีทางเลือก สองสามีภรรยาก็ไม่อยากมาร่วมพิธีอภิเษกของอ๋องจิ่น

แต่อ๋องจิ่นเป็นองค์ชาย งานอภิเษกเขา พวกเขาสองสามีภรรยาเป็นขุนนางกับฮูหยินขุนนาง จะไม่มาร่วมงานเลี้ยงได้อย่างไร ดังนั้นได้แต่มาด้วยใจระแวดระวัง

ลู่เจียวตามผู้ดูแลหญิงเข้าไปยังเรือนด้านหลัง ผู้ดูแลหญิงให้ความเคารพลู่เจียวอย่างมาก ไม่ได้เสียมารยาทแม้แต่น้อย

เรือนด้านหลัง บรรดาฮูหยินแต่ละตระกูลเห็นลู่เจียวเข้ามาก็รีบกวักมือทักทายนาง เนี่ยอวี้เหยาลุกขึ้นมาดึงลู่เจียวไปคารวะท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่

สามีเนี่ยอวี้เหยาตำแหน่งขุนนางต่ำต้อย ตามหลักอ๋องจิ่นอภิเษก ด้วยสถานะหูซ่าน นางไม่อาจมาร่วมงานเลี้ยงได้ แต่นางเป็นญาติกับอ๋องจิ่น วันนี้นางจึงมาได้

“คารวะมารดาบุญธรรม”

ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ดึงนางขึ้นมานั่งข้างกาย ถามอย่างห่วงใยถึงเรื่องแฝดชายหญิงของนาง

ครั้งก่อนแฝดชายหญิงมีเรื่องวิวาทกับเด็กๆ ในสำนักศึกษาในตระกูลเนี่ย ต่อมาก็ไม่เรียนที่สำนักศึกษา ตระกูลเนี่ยอีก

ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ให้คนมาเชิญถึงสองครา แต่แฝดชายหญิงก็ไม่ยอมไป

วันนี้ได้พบกัน ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่จึงถามถึงแฝดชายหญิงอย่างห่วงใย ลู่เจียวอธิบายคร่าวๆ กับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เล็กน้อย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นสองสามวันนี้กำลังหาอาจารย์ให้เซี่ยอู่เป่า เซี่ยหลิงหลงปีหน้าเตรียมสอบเข้าสำนักศึกษาสตรีซุ่นเต๋อ นางได้เชิญนางกำนัลจากในวังมาท่านหนึ่ง ตอนนี้ให้สอนมารยาทจารีตนาง

ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ได้ยินการจัดการของตระกูลเซี่ยก็ไม่ได้ดึงดันจะให้แฝดชายหญิงกลับไปเรียนหนังสือที่สำนักศึกษาในตระกูลเนี่ยอีก

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน ไม่ไกลนักก็พลันมีเสียงดังมา “โลกเรานี้ไร้แรงลมย่อมไม่เกิดคลื่นลม หากนางไม่ได้เคยทำทารุณกรรมองค์ชายรอง เหตุใดจึงมีข่าวลือนี้ออกมาได้”

เสียงนี้จะว่าดังก็ไม่ดังมาก แต่คนไม่น้อยต่างได้ยิน ลู่เจียวเองก็ย่อมได้ยิน นางหันไปมองทันที เห็นคนที่เอ่ยวาจานี้ก็คือฮูหยินผู้เฒ่าจวนจงหย่งโหว คนผู้นี้ก็คือมารดาของฮองเฮา ท่านยายของอ๋องจิ่น

ฮูหยินผู้เฒ่าจงหย่งโหวเห็นลู่เจียว ไม่เพียงแต่ไม่หลบ กลับถามอย่างไม่เกรงใจ “ฮูหยินเซี่ย ข้าอยากขอถามเจ้า เจ้าเคยทำทารุณกรรมองค์ชายรองหรือไม่”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด