คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 446 พ่ายแพ้

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter บทที่ 446 พ่ายแพ้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ช่วงนี้​หมิง​เวย​รู้สึก​จิตใจ​ไม่สงบ​จึงทำนาย​ดวงชะตา​ หนิง​ซิว​เหลือบมอง​ “ก​ว้า​นี้​ดู​อันตราย​มาก​” หมิง​เวย​ขมวดคิ้ว​และ​เก็บ​เหรียญทองแดง​

“ท่าน​ทำนาย​ให้​ศิษย์​น้อง​หรือ​” หมิง​เวย​พยักหน้า​

หนิง​ซิว​เลิกคิ้ว​ หยาง​ชูอยู่​แนวหน้า​ไม่มีผู้ใด​สามารถ​พูด​อะไร​เกี่ยวกับ​สงคราม​ได้​หาก​มีอะไร​…พอ​คิด​เรื่อง​นี้​ก็​ได้ยิน​เสียง​ฝีเท้า​ที่​ดัง​มาจาก​ข้างนอก​

หนิง​ซิว​เรียก​ทหาร​มา “เกิด​อะไร​ขึ้น​”

ทหาร​นาย​นั้น​ตอบ​ “กลุ่ม​ของ​เรา​ถูก​หู​เห​ริน​โจมตี​ตอนนี้​พวกเรา​พ่ายแพ้​สงคราม​ มีผู้บาดเจ็บ​จำนวนมาก​พวกเรา​ต้อง​รีบ​ไป​สนับสนุน​ขอรับ​” หนิง​ซิว​หัน​กลับมา​มอง​หมิง​เวย​ทันที​

หมิง​เวย​เม้มปาก​แล้ว​ตอบ​ไป​ว่า​ “ไปดู​”

ท้องฟ้า​มืด​ลง​แล้ว​ทั้งสอง​ออกจาก​ประตูเมือง​ก็​เห็น​ว่า​ข้างนอก​มีเสียงดัง​วุ่นวาย​ ทหาร​ที่​ป้องกัน​เนิน​กรวด​รีบ​ก้าว​ออกมา​ข้างหน้า​เพื่อ​ประคอง​ผู้บาดเจ็บ​ลง​จาก​หลัง​ม้า

เจ้าหน้าที่​ขนส่ง​เสบียง​สั่งการ​เสียงดัง​ “เร็ว​เข้า​! คน​บาดเจ็บ​มาทาง​นี้​ส่วน​ม้าไป​ตรงนั้น​ คน​บาดเจ็บสาหัส​อยู่​ข้างหน้า​ผู้ใด​บาดเจ็บ​เล็กน้อย​ไป​อยู่​ด้านหลัง​” แพทย์​ทหาร​ปฏิบัติตาม​ และ​ดำเนินการ​ตรวจสอบ​ผู้บาดเจ็บ​เบื้องต้น​

“คน​นี้​ตาย​แล้ว​ ยก​ออก​ไป​”

“คน​นี้​บาดเจ็บ​เล็กน้อย​พา​ไป​ที่​กระโจม​”

“คน​นี้​บาดเจ็บ​หนัก​ต้อง​รีบ​รักษา​ทันที​…”

หมิง​เวย​ดึง​ทหาร​มาถาม “นี่​เป็น​กองทหาร​กอง​ไหน​หัวหน้า​คือ​ผู้ใด​กัน​”

ทหาร​นาย​นั้น​งุนงง​เล็กน้อย​ “ข้าน้อย​ไม่ทราบ​ขอ​รับรู้​แค่​ว่า​เป็น​ทหาร​ที่​ถอยทัพ​มาจาก​เหลียง​ชวน​”

หมิง​เวย​กับ​หนิง​ซิว​มองหน้า​กัน​และ​พวกเขา​ต่าง​รู้สึก​ใจเต้น​ไม่เป็นจังหวะ​จดหมาย​ฉบับ​สุดท้าย​ที่​หยาง​ชูส่งกลับมา​เกี่ยวกับ​การ​ไป​เหลียง​ชวน​ของ​เขา​ หลังจาก​ยกทัพ​จับ​ศึก​มาหก​เดือน​ เขา​ก็​สามารถ​เป็น​ผู้นำ​กองทัพ​เพียงลำพัง​ได้​ใน​เมื่อ​ส่งเขา​ไป​ก็​คง​ไม่มีกองทหาร​อื่น​อีกแล้ว​

หมิง​เวย​หัน​ศีรษะ​และ​วิ่ง​ออก​ไป​มอง​ใบหน้า​ของ​ผู้​ได้รับบาดเจ็บ​ทีละ​คน​ว่า​มีขุนศึก​ตระกูล​หยาง​ที่​นาง​คุ้นเคย​หรือไม่​

นาง​เป็น​คน​จำใบหน้า​คน​ยาก​อยู่แล้ว​ยิ่ง​ตอนนี้​ฟ้ามืด​ เวลา​ที่​ล่วงเลย​ไป​ครึ่ง​ปี​ทำให้​จำกลิ่นไอ​ไม่ชัดเจน​จึงรู้สึก​ตื่นตระหนก​ชั่วขณะ​

หนิง​ซิว​ตามมา​บอ​กว่า​ “อย่า​ใจร้อน​ไป​ คน​บาดเจ็บสาหัส​อยู่​ข้างหน้า​หมด​แล้ว​ ถ้าไม่เห็น​เขา​หมายความว่า​เขา​ไม่เป็นอะไร​…”

หมิง​เวย​รู้​ แม้ก​ว้า​ที่​นาง​คำนวณ​จะบอ​กว่า​อันตราย​ แต่​ก็​ยัง​มีพลัง​ชีวิต​อยู่​ แต่​พอ​ไม่เห็น​คน​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ตื่นตระหนก​

“อา​สวน​!” จู่ๆ หนิง​ซิว​ก็​ร้อง​ขึ้น​มา

หมิง​เวย​หันไป​มอง​ และ​เห็น​ว่า​อา​สวน​ที่​ถอด​หมวก​เกราะ​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ และ​กำลัง​คุย​กับ​ใคร​บางคน​อยู่​ พอ​ได้ยิน​เสียง​ของ​หนิง​ซิว​ อา​สวน​ และ​คน​ที่​เขา​คุย​ด้วย​อยู่​นั้น​จึงหันมา​มอง​

ลมหายใจ​ของ​หมิง​เวย​หยุดชะงัก​ ชุด​เกราะ​ของ​ชาย​ผู้​นั้น​เต็มไปด้วย​คราบเลือด​ ผ้า​พัน​ไหล่​ขาด​หลุด​รุ่ย​ เขา​ถอด​หมวก​เกราะ​เช่นกัน​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​มวยผม​ถึงได้​ดู​หน้าตา​ไม่เรียบร้อย​ ผมเผ้า​กระเซอะกระเซิง​สภาพ​ดู​ไม่ค่อย​ได้​ด้วยเหตุนี้​หนิง​ซิว​เลย​ดู​ไม่ออก​

เขา​มอง​มาด้าน​นี้​ รอยยิ้ม​กว้าง​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบ​หน้าที่​เปื้อน​เลือด​ แต้ม​ชาด​บน​หน้าผาก​ของ​เขา​ยิ่ง​ดู​เปล่งประกาย​แล้ว​เขา​ก็​รีบ​วิ่ง​มาทาง​นี้​

หมิง​เวย​รู้สึก​เพียง​ลม​พัดผ่าน​จากนั้น​ก็​ถูก​เขา​สวมกอด​ แรง​ของ​เขา​ที่​มากเกินไป​ ชุด​เกราะ​นั่น​ทำให้​นาง​รู้สึก​อึดอัด​ แต่​หัวใจ​กลับ​สงบ​ลง​ กลิ่น​เลือด​รุนแรง​จน​น่ากลัว​ทำให้​นาง​แทบ​สำลัก​ แต่​นาง​ไม่ได้​ผลักไส​เขา​ออก​ไป​

ครึ่ง​ปี​แล้ว​…พวกเขา​ไม่เคย​แยก​จากกัน​นาน​เพียงนี้​

หลังจากนั้น​ไม่นาน​หยาง​ชูก็​คลาย​อ้อมกอด​แล้ว​พูดว่า​ “ข้า​คิด​จะทำให้​พวก​ท่าน​ประหลาดใจ​อยู่แล้ว​เชียว​เหตุใด​ถึงออกมา​ล่ะ​”

ไม่รอ​ให้​หมิง​เวย​พูด​ จู่ๆ เขา​ก็​ร้อง​ออกมา​แล้ว​ยกมือ​กุม​หัว​ตนเอง​ “ข้า​ยัง​ไม่ได้​หวี​ผม​! เร็ว​ๆๆ รีบ​หันหลัง​กลับ​ไป​ซะ กลับ​ไป​ก่อน​! รอ​สักพัก​เดี๋ยว​ข้า​ไปหา​ท่าน​!”

นาง​เห็น​หน้าตา​น่าเกลียด​ของ​เขา​เข้า​แล้ว​หมดกัน​ภาพลักษณ์​ของ​เขา​!

หมิง​เวย​หัวเราะ​เล็กน้อย​ แต่​ก็​ยอม​เดินตาม​แรงผลัก​ของ​เขา​ “งั้น​ข้า​จะกลับ​ไป​รอ​ท่าน​”

“รีบ​ไป​เถอะ​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​หมิง​เวย​จากไป​หนิง​ซิว​ก็​คิด​จะจากไป​ด้วย​ แต่​หยาง​ชูกลับ​รั้ง​เขา​ไว้​ “ศิษย์​พี่​รีบ​มาช่วย​ข้า​เร็ว​! คน​ของ​ข้า​ไม่พอ​” หนิง​ซิว​มอง​เขา​อย่าง​เฉยเมย​

“ท่าน​ยืน​งงอะไร​อยู่​ ตอนนี้​เหล่า​ฟางได้รับบาดเจ็บ​ขา​หัก​ไม่รู้​จะต่อ​ได้​หรือไม่​” หยาง​ชูพึมพำ​ใน​ลำคอ​ “ท่าน​มียา​ลับ​ไม่ใช่หรือ​รีบ​ให้​เขา​ทาน​เร็ว​เข้า​ ช่วยชีวิต​เขา​ก่อน​ ไอ​ห​ยา​! มอง​ข้า​ทำไม​ไม่มีเวลา​แล้ว​ชีวิต​คน​มีค่า​มาก​นะ​!”

หนิง​ซิว​กระตุก​มุมปาก​ และ​เดินตาม​อา​สวน​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ช่างมันเถอะ​ อย่างไร​เขา​ก็​ปล่อยวาง​แล้วก็​แค่​ปฏิบัติ​ไม่เท่าเทียมกัน​

…………

เกิด​ความ​พลุ่งพล่าน​ที่​เนิน​กรวด​กลางดึก​จนกระทั่ง​รุ่งสาง​หมิง​เวย​ถึงได้​เห็น​หยาง​ชูที่​ชำระ​กาย​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​เรียบร้อย​แล้ว​

ครึ่ง​ปี​ที่​ไม่เจอกัน​เขา​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ใบหน้า​ดู​คม​มากขึ้น​ ผิว​หยาบกร้าน​ โชคดี​ที่​ผิว​ไม่คล้ำ​ง่าย​ เมื่อ​กลับมา​สวม​เสื้อผ้า​ปกติ​เขา​ดู​หล่อเหลา​ และ​กล้าหาญ​มากขึ้น​ไม่ดู​หยาบคาย​

“ข้า​กลับมา​แล้ว​ ถือว่า​มีความโชคดี​ใน​ความ​โชคร้าย​จริงๆ​!”

หมิง​เวย​คว้า​แขน​ของ​เขา​ “ตรงนี้​ได้รับบาดเจ็บ​หรือไม่​เจ้าคะ​”

หยาง​ชูพ่น​ลมหายใจ​ และ​ปล่อย​ให้​นาง​เลิก​เสื้อผ้า​ขึ้น​ดู​ “ไม่เป็นไร​ ไม่ใช่บาดแผล​หนัก​อะไร​นัก​ เย็บ​เรียบร้อย​แล้ว​”

หมิง​เวย​เห็น​ว่า​ด้านใน​พัน​แผลเป็น​อย่าง​ดี​ แต่​มีเลือด​ไหล​ออกมา​เป็น​จำนวนมาก​ แค่​มองดู​ก็​รู้​ว่า​บาดแผล​ค่อนข้าง​ยาว​

“มีแผล​ที่อื่น​อีก​หรือไม่​เจ้าคะ​”

“ไม่มีๆ ข้า​เป็น​คน​ดวงดี​ ได้รับบาดเจ็บ​น้อย​มาก​ นอกจาก​ตรงนี้​ที่​เหลือ​หายสนิท​แล้ว​”

หมิง​เวย​สัมผัส​อีกครั้ง​เมื่อ​แน่ใจ​ว่า​เขา​ไม่ได้​โกหก​จึงหยุด​มือ​ “ตกลง​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​เจ้าคะ​ พวก​ท่าน​ถูก​โจมตี​หรือ​”

ขณะที่​พูดคุย​กัน​ก็​มีเสียงดัง​มาจาก​ข้างนอก​เป็น​พ่อครัว​ที่​นำ​บะหมี่​มาส่ง

หยาง​ชูมองดู​ชามบะหมี่​แล้ว​น้ำลายไหล​ “รอเดี๋ยว​ ข้า​ไม่ได้​กิน​อะไร​มาทั้งวัน​แล้ว​ รอ​ข้า​ทาน​เสร็จ​ก่อน​แล้ว​ค่อย​คุย​กัน​”

“ได้​เจ้าค่ะ​” หมิง​เวย​นั่ง​มองดู​เขา​ทาน​บะหมี่​

บะหมี่​ชามนี้​อันที่จริง​ไม่ได้​รส​เลิศ​อะไร​เพียงนั้น​ เป็น​บะหมี่​ต้ม​ทั่วไป​ที่​มีผัก​ไม่กี่​ชนิด​ ไม่มีโรยหน้า​ไม่มีเพิ่ม​น้ำแกง​ แต่​เขา​กลับ​กิน​อย่าง​เอาเป็นเอาตาย​ราวกับว่า​มัน​เป็น​อาหาร​อัน​โอชะ​ที่​หา​ยาก​

หมิง​เว​ยอด​คิดถึง​เหตุการณ์​ที่​พบ​เจอ​คุณชาย​หยาง​เป็นครั้งแรก​ไม่ได้​

ใน​ตอนนั้น​เขา​กำลัง​จิบ​สุรา​ และ​อาหาร​รส​เลิศ​ อาหารคาว​ขึ้นชื่อ​มากมาย​อยู่​ตรงหน้า​เขา​แค่​มอง​ก็​รู้​ว่า​อร่อย​แล้ว​ ไหน​เลย​จะคิด​ว่า​จะมีวันที่​เขา​ถือ​ชามบะหมี่​กิน​อย่าง​มีความสุข​เช่นนี้​ บะหมี่​ชามใหญ่​ไหล​ลง​สู่ท้อง​ของ​เขา​ หยาง​ชูทาน​เข้าไป​ทีเดียว​ด้วย​ความพอใจ​

“ทาน​เสบียง​ทหาร​มาครึ่ง​ปี​แม้แต่​รสชาติ​ของ​บะหมี่​ข้า​ก็​ลืม​ไป​หมด​แล้ว​”

หมิง​เวย​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ปวดใจ​จึงเข้าไป​กอด​เขา​ นาง​ยืน​เขา​นั่ง​ทำให้​เขา​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​นาง​พอดี​

หยาง​ชูมีความสุข​มาก​เขา​กระซิบ​ “ทำให้​ท่าน​กอด​ข้า​ได้​ความลำบาก​ที่ผ่านมา​ช่างคุ้มค่า​นัก​”

หมิง​เวย​ปล่อยมือ​แล้ว​ถามเขา​ว่า​ “พูด​มาก่อน​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​เจ้าคะ​”

“อ้อ​…”

หยาง​ชูลูบ​จมูก​แล้ว​เล่า​เหตุการณ์​ที่​เขา​ประสบ​มาให้​นาง​ฟัง เขา​อยู่​ที่​เหลียง​ชวน​ และ​ถูก​โจมตี​จริงๆ​ ผู้​ที่​โจมตี​เขา​คือ​น่า​ซู ทั้งสองฝ่าย​ต่อสู้​กัน​อย่าง​ดุเดือด​ทั้งวัน​ เมื่อ​เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​มีกำลัง​เสริม​มาสมทบ​เขา​จึงจำเป็นต้อง​พา​คน​ถอย​ออกมา​

เหลียง​ชวน​อยู่​ไม่ไกล​จาก​เนิน​กรวด​ และ​มีผู้บาดเจ็บ​มากเกินไป​เขา​จึงจำเป็นต้อง​กลับมา​

“มีเพียงเท่านี้​แหละ​”

หมิง​เวย​ถามเขา​อี​กว่า​ “สงคราม​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ทะลุ​ผ่าน​ได้​หรือไม่​เจ้าคะ​”

เมื่อ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​หยาง​ชูมีสีหน้า​เศร้าสร้อย​ “เรื่อง​นี้​ข้า​ไม่รู้​จริงๆ​ ฝ่าบาท​ปฏิเสธ​ที่จะ​ส่งทหาร​มาให้​เรา​ทำให้​มัน​ไม่ง่าย​เลย​ที่จะ​รับมือ​! หาก​มีกำลังคน​เพิ่ม​อีก​สัก​แสน​นาย​น่าจะ​มั่นคง​ขึ้น​ ช่างน่าเสียดาย​…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด