คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 465 เดินทางกลับ

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter บทที่ 465 เดินทางกลับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยาง​ชูรับ​พระ​ราชโองการ​ราวกับ​คน​ละเมอ​ จนกระทั่ง​จงซู่ และ​กัว​สวี่​โค้ง​คำนับ​พร้อมกัน​ “คารวะ​เยวี่ย​อ๋อง​”

สติ​ของ​เขา​กลับมา​แล้ว​เข้าไป​ประคอง​ “ทั้งสอง​ท่าน​ไม่ต้อง​มาก​พิธี​”

ทั้งสอง​คน​ไม่ได้​โง่จึงดูออก​ว่า​ตอนนี้​อารมณ์​ของ​เขา​กำลัง​ปั่นป่วน​เมื่อ​เห็น​ว่า​ยัง​ไม่สามารถ​คุย​กัน​ได้​จึงกล่าว​แสดงความยินดี​แล้ว​ขอตัว​ลา​ พวกเขา​ไม่ได้​ไป​ไหน​ไกล​ แค่​ยืน​อยู่​บน​เนินเขา​

ทิวทัศน์​ยังคง​เป็น​ทิวทัศน์​เมื่อ​ครู่​ แต่​อารมณ์​ต่าง​ไป​จาก​เดิม​อย่าง​สิ้นเชิง​

ผ่าน​ไป​นาน​จงซู่เปิดปาก​ “ไม่คิด​ว่า​ฝ่าบาท​จะมีราชโองการ​ให้​หยาง​…เยวี่ย​อ๋อง​กลับ​ราชวงศ์​รับรอง​อย่าง​ดี​เช่นนี้​…”

แม้เขา​จะสายตา​เฉียบคม​ แต่​ก็​คาดเดา​ไม่ได้​เลย​ว่า​มีฟู่จิน​คอย​วางแผน​ให้​หยาง​ชูใน​เมืองหลวง​ เขา​ไม่รู้​เลย​ว่า​เพื่อ​เป้าหมาย​แล้​วจะ​แอบ​ทำ​อะไร​มาก​แค่​ไหน​

ผู้​ที่​องค์​หญิง​ใหญ่​ทิ้ง​เอาไว้​ให้​กระจาย​เป็นหูเป็นตา​อยู่​ทั่ว​แคว้น​ฉีรวมถึง​การกระทำ​ต่างๆ​ ของ​เขา​ใน​ตง​กง​…แม้แต่​พระ​ราชโองการ​ลับ​ก็​เตรียม​มาแต่​เนิ่นๆ​

ถึงจะเป็น​ของปลอม​ แต่​เส้น​ไหม​สีเหลือง​ สีหมึก​ และ​ลายมือ​จะไม่ลงแรง​หา​มาได้​อย่างไร​ ไม่ต้อง​พูดถึง​การ​พยายาม​ตอบสนอง​ต่อ​ทุกฝ่าย​เพียง​เพื่อให้​ได้มา​ซึ่งขอบเขต​ที่​เหมาะสม​

อาจารย์​ไม่ได้​นอนหลับ​เต็มอิ่ม​เป็นเวลา​สอง​ปี​เต็ม​ดูเหมือน​จะทำได้​โดยง่าย​แต่​จริงๆ​ แล้ว​กลับ​เก็บ​ซ่อน​ไว้​มาก​แล้ว​ค่อยๆ​ ปล่อย​ออกมา​

ในที่สุด​เมื่อ​ได้รับ​พระ​ราชโองการ​นี้​ทำให้​เขา​ได้ชื่อ​กลับคืน​มา อารมณ์​ของ​กัว​สวี่​ก็​ไม่สงบ​เช่นกัน​ เมื่อ​เกิด​เหตุการณ์​เช่นนี้​ความ​โดดเด่น​ของ​เขา​ใน​สงคราม​ถูก​หยาง​ชูแย่ง​ไป​ แต่​เขา​ไม่มีเวลา​มาสนใจ​แล้ว​

อย่างไร​จงซู่ก็​ไม่อยู่​ใน​เมืองหลวง​ เขา​ไม่เข้าใจ​วิถี​ของ​ราชสำนัก​เท่า​เขา​ กัว​สวี่​ได้​กลิ่นอาย​พิเศษ​จาก​เรื่อง​นี้​

รู้สึก​ว่า​…มีคน​ต้อง​การผลัก​เด็ก​คน​นี้​ออกมา​

เมื่อ​ลอง​คิดดู​อีกที​ตั้งแต่​ออกจาก​เมืองหลวง​ เด็ก​คน​นี้​ดูเหมือน​ไร้จุดหมาย​ แต่​หลังจาก​ไตร่ตรอง​อย่าง​ละเอียดถี่ถ้วน​แล้ว​เขา​ก็​เดิน​อย่าง​มั่นคง​อย่างยิ่ง​ใน​ทุก​ขั้นตอน​ ทำการ​ก่อสร้าง​เป็นการใหญ่​ใน​เกา​ถาง การ​ที่​เขา​ตกต่ำ​ลง​ทำให้​พระทัย​ของ​ฮ่องเต้​สงบ​ลง​

การ​ทำให้​เหลียง​จางขุ่นเคือง​เหมือน​การ​ตัด​เส้นทาง​ของ​ตน​วิ่ง​ไป​ที่​ไป๋​เห​มินเซี่ย​ เป็น​ทั้ง​ศัตรู​และ​มิตร​กับ​ตระกูล​จง จากนั้น​ใช้โอกาส​ที่​ทหาร​เผ่า​หู​มุ่งหน้า​มาแดน​ใต้​เข้าร่วม​กองทัพ​ผูก​ติดกับ​ตระกูล​จง ด้วย​การ​สนับสนุน​จาก​ตระกูล​จงจึงมีความมั่นใจ​เป็นอย่างมาก​

ตอนนี้​มีความดี​ความชอบ​ทางทหาร​แล้ว​อีก​ทั้ง​ได้​ยศ​อ๋อง​ต่อไป​ยาม​รุก​ก็​สามารถ​บุก​โจมตี​ได้​ ยาม​ถอย​ก็​สามารถ​ป้องกัน​เอาไว้​ได้​ ยิ่ง​กัว​สวี่​ไตร่ตรอง​มาก​เท่าไร​ เขา​ก็​ยิ่ง​พบ​ว่า​น่าสนใจ​มากขึ้น​เท่านั้น​

นี่​ไม่ใช่สถานการณ์​ที่​หยาง​ซาน​สามารถ​สร้าง​ได้​เพียงลำพัง​มีอะไร​ใน​เมืองหลวง​ที่​เขา​มองข้าม​ไป​หรือไม่​ ด้วย​นิสัย​ของ​ฮ่องเต้​องค์​ปัจจุบัน​ การ​ยอมรับ​สถานะ​ของ​เขา​ง่ายดาย​เช่นนี้​อีก​ทั้ง​ยัง​มอบ​ตำแหน่ง​อ๋อง​ให้​อีก​จะต้อง​มีใคร​สัก​คนใน​เมืองหลวง​ช่วย​พูด​ให้​เขา​แน่​!

และ​ผู้​ที่​สามารถ​พูด​เรื่อง​นี้​ได้​มีน้อย​มาก​ กัว​สวี่​นับ​คน​เหล่านั้น​ทีละ​คน​ และ​ในที่สุด​ตนเอง​ก็​ต้อง​ตกใจ​

ผู้อาวุโส​หลู่​งั้น​หรือ​ ให้​ตาย​เถอะ​! ดูเหมือนว่า​เขา​จะเป็น​คนเดียว​ที่​พูด​เรื่อง​นี้​ได้​โดย​ไม่ทำให้​ฝ่าบาท​สงสัย​

เด็ก​คน​นี้​…หู​ได้ยิน​จงซู่ถามว่า​ “ใต้เท้า​กัว​ ข้า​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​มัน​แปลก​ๆ หรือ​ข้า​คิดมาก​ไป​เอง​”

กัว​สวี่​เหม่อลอย​ “ใช่ๆ!”

“เยวี่ย​อ๋อง​ต้อง​รีบ​กลับ​เมืองหลวง​สถานการณ์​ใน​เมืองหลวง​ในอนาคต​จะเป็น​อย่างไร​…”

กัว​สวี่​กลอกตา​ และ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ถ้าแม่ทัพ​จงถามถึงเรื่อง​นั้น​เกรง​ว่า​ท่าน​คง​คิดมาก​ไป​ เยวี่ย​อ๋อง​เป็น​เหลน​ของ​ไท่​จู่ และ​ความสัมพันธ์​นี้​ค่อนข้าง​ห่างไกล​”

จงซู่หนักอกหนักใจ​จึงไม่สังเกต​สีหน้า​ของ​อีก​ฝ่าย​เขา​พึมพำ​ “ก็​จริง​…”

เมื่อ​เห็น​เขา​มีท่าที​เช่นนั้น​กัว​สวี่​ก็​ยิ้มเยาะ​ใน​ใจ

เสแสร้ง​! ท่าน​เสแสร้ง​! ก่อนหน้านี้​คิด​ว่า​ตระกูล​จงอยู่​ข้าง​อัน​อ๋อง​ แต่​ก็​ดู​ไม่สมเหตุสมผล​ ตอนนี้​เขา​เข้าใจ​แล้ว​ที่แท้​การ​เดิมพัน​อยู่​ที่นี่​

ช่างกล้าหาญ​มาก​

กัว​สวี่​บิด​เอว​แสร้ง​ทำเป็น​เหนื่อย​ “ไอ​ห​ยา​ แม่ทัพ​ที่​เปลี่ยน​เวร​มาถึงหรือยัง​ พวกเรา​ต้อง​เตรียมตัว​กลับ​เมืองหลวง​แล้ว​! ปี​นี้​มีแต่​คน​หยาบกระด้าง​ ช่าง…”

อืม​…แต่​ก็​ยังมี​สาวงาม​อยู่​ แต่​คน​ผู้​นั้น​…กัว​สวี่​หนาว​จน​ตัวสั่น​ระริก​ไม่กล้า​คิด​อะไร​ คิด​เรื่อง​ที่จะ​กลับ​เมืองหลวง​ดีกว่า​

จริง​สิ ระหว่าง​กลับ​เมืองหลวง​ต้อง​ประจบ​เยวี่ย​อ๋อง​คน​ใหม่​เข้า​ไว้​จะปล่อย​ให้​ตระกูล​จงเอาเปรียบ​ไม่ได้​

………

หยาง​ชูอ่าน​พระ​ราชโองการ​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​

เจียง​เหยี่ยน​

นิ้ว​ของ​เขา​หยุด​ที่​คำ​สอง​คำ​นี้​ไม่ขยับ​ไป​ไหน​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​เห็น​ชื่อ​ของ​ตน​ใน​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ เป็น​ชื่อ​ที่​เขา​เกิด​มาก็​สูญเสีย​มัน​ไป​

เหยี่ยน​คือ​เกิด​ ชูคือ​ตาย​

ทันทีที่​เขา​รอดตาย​ เขา​เป็น​เหมือน​คนตาย​ และ​ตอนนี้​เจียง​เหยี่ยน​ก็​กลับมา​มีชีวิต​อีกครั้ง​ มีมือ​แตะ​ตรง​หว่าง​คิ้ว​ตาม​ด้วย​เสียง​ของ​หมิง​เวย​ “ท่าน​ได้รับ​ชื่อ​กลับคืน​มาแล้ว​หวัง​ว่า​รูปลักษณ์​ของ​ท่าน​จะกลับมา​เร็ว​ๆ นี้​”

หยาง​ชูกะพริบ​ไล่น้ำ​ที่​หาง​ตา​แล้ว​พยักหน้า​ การ​รับ​ชื่อ​กลับเป็น​เพียง​ก้าว​แรก​เท่านั้น​ หาก​รูปลักษณ์​ของ​เขา​จะเปลี่ยน​ก็​ไม่ควร​เปลี่ยน​ตอนนี้​

“ดีใจ​หรือไม่​เจ้าคะ​” นาง​ถาม หยาง​ชูยิ้ม​แล้ว​กอด​นาง​

“ดีใจ​” เขา​ฝังหน้า​ลง​กับ​ซอก​คอ​ของ​นาง​แล้ว​พูด​เสียง​อู้อี้​ “ข้า​ใกล้​ถึงเป้าหมาย​นั้น​แล้ว​วันที่​ท่าน​แม่จะเป็นอิสระ​ใกล้​เข้ามา​แล้ว​ใช่หรือไม่​”

“ใช่เจ้าค่ะ​” หมิง​เวย​กอด​เขา​อย่าง​อ่อนโยน​

หยาง​ชูสงบสติอารมณ์​และ​พูดว่า​ “ข้า​ไม่คิด​ว่า​จะเร็ว​เพียงนี้​เป็น​เพราะ​ความดี​ความชอบ​ของ​อาจารย์​ฟู่ กลับ​เมืองหลวง​ข้า​ต้อง​ขอบคุณ​เขา​”

หมิง​เวย​หัวเราะ​ “แน่นอน​อยู่แล้ว​เจ้าค่ะ​” นาง​ชะงัก​และ​กระซิบ​เสียง​เบา​ “ดู​สิ มีคน​มากมาย​ที่​ช่วยเหลือ​ท่าน​ ก่อนหน้านี้​เป็น​องค์​หญิง​ใหญ่​และ​ผู้เฒ่า​โหว​ จากนั้น​ก็​เป็น​ศิษย์​พี่​ของ​ท่าน​กับ​อาจารย์​ฟู่ แม้แต่​แม่ทัพ​จงที่​ไม่ได้​ตั้งใจ​ลุย​น้ำ​โคลน​ไป​กับ​ท่าน​ ตอนนี้​แม้แต่​ตระกูล​จงก็​ยื่นมือ​เข้ามา​ช่วย​แล้ว​ท่าน​ไม่ได้​อยู่​คนเดียว​เลย​ มีคน​มากมาย​ที่​ช่วยเหลือ​ท่าน​”

“ใช่ ข้า​โชค​ดีมาก​” หยาง​ชูเงยหน้า​ขึ้น​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​ลึกซึ้ง​ “แต่​ทุกอย่าง​เริ่มต้น​จาก​ท่าน​”

เมื่อ​เขา​พบ​นาง​ชะตาชีวิต​ของ​เขา​ก็​เริ่ม​พลิกผัน​ไม่อย่างนั้น​เขา​อาจจะ​ต้อง​เร่ร่อน​ไป​ตาม​ยุทธ​ภพ​กับ​ศิษย์​พี่​ก็​เป็นได้​

หมิง​เวย​ยิ้ม​ “ใช่เจ้าค่ะ​! แล้ว​ท่าน​จะตอบแทน​ข้า​อย่างไร​”

หยาง​ชูลังเล​อยาก​จะพูด​อะไร​ แต่​ก็​ไม่กล้า​พูด​ออกมา​

หมิง​เวย​รู้​ว่า​เขา​อยาก​พูด​อะไร​นาง​วาง​นิ้ว​บน​ริมฝีปาก​ของ​เขา​ “ช่างเถอะ​ แค่นี้​ก็​พอแล้ว​เจ้าค่ะ​”

“เวยเวย…”​ หยาง​ชูพูด​เสียงอ่อน​เขา​ยัง​ไม่ทัน​พูด​ออกมา​เลย​!

ทำไม​ซูถูพูด​กับ​นาง​ตรงๆ​ ได้​ว่า​จะให้​นาง​เป็น​หวา​งเฟย​ของ​ตน​แล้ว​เหตุใด​เขา​กลับ​พูด​ไม่ได้​

“ตราบใดที่​ข้า​ยัง​กังวล​อยู่​ท่าน​พูด​ไป​ก็​ไม่มีประโยชน์​เจ้าค่ะ​” อย่างไรก็ตาม​หมิง​เวย​ไม่สงสาร​เขา​เลย​ นาง​ตอบ​อย่าง​ใจแข็ง​ว่า​ “เพราะฉะนั้น​ประหยัด​แรง​ไว้​จะดีกว่า​!”

“แล้ว​สถานการณ์​แบบ​ไหน​ที่จะ​ทำให้​ความกังวล​ของ​ท่าน​หาย​ไป​ได้​”

หมิง​เวย​คิด​แล้ว​ส่ายหน้า​ “ไม่รู้​เจ้าค่ะ​”

หยาง​ชูเอนหลัง​พิง​โต๊ะ​อย่าง​หมดกำลังใจ​เขา​คร่ำครวญ​ “ให้​ความหวัง​สักนิด​ไม่ได้​หรือ​”

หมิง​เวย​อยาก​หัวเราะ​ “เรื่อง​อื่น​ให้ได้​ แต่​เรื่อง​นี้​ไม่ได้​จริงๆ​ เจ้าค่ะ​”

“ท่าน​ไร้​หัวใจ​จริงๆ​…” เขา​ว่า​ไป​คำ​หนึ่ง​ นาง​ว่า​ไป​คำ​หนึ่ง​ ทั้ง​ห้อง​อบอวล​ไป​ด้วย​ไออุ่น​ หนิง​ซิว​ยืน​อยู่​นอก​ค่าย​มองดู​ท้องฟ้า​สูง และ​ทุ่งหญ้า​กว้างใหญ่​ด้านนอก​

เดิมที​เขา​คิด​ว่า​มัน​เป็น​ภาพลวงตา​ไม่คิด​ว่า​พอ​ก้าว​ไป​ทีละ​ก้าว​เขา​จะเข้าไป​ใกล้​ขึ้น​เรื่อยๆ​ เขา​ถอนหายใจ​ใน​ใจ “ท่าน​อาจารย์​ ภารกิจ​ที่​ท่าน​มอบให้​ข้า​ดูเหมือน​ศิษย์​จะทำ​ไม่สำเร็จ​”

ท้องฟ้า​มืด​ลง​โดยไม่รู้ตัว​ไม่รู้​ว่า​เมื่อไร​ที่​หิมะ​แรก​ของ​ฤดูหนาว​นี้​ตก​ลงมา​

ใบ​หลิว​ลอย​ไป​ตาม​ลม​ อากาศ​หนาว​มาก​ แต่​ก็​งดงาม​มาก​เช่นกัน​

………..

ใน​ส่วนลึก​ของ​ทุ่งหญ้า​มีคนดู​หิมะ​อยู่​เช่นกัน​

ทั้งคน​ทั้ง​ม้าต่าง​เหน็ดเหนื่อย​ไม่ได้​กิน​อะไร​มาก​ นี่​เป็น​ฤดูหนาว​ที่​น่าเศร้า​สำหรับ​เผ่า​หมาป่า​หิมะ​ ซูถูรู้​ว่า​คนใน​เผ่า​หลาย​คน​มีความคิดเห็น​เกี่ยวกับ​เขา​คิด​ว่า​เขา​หัวรุนแรง​มากเกินไป​จน​ต้อง​ถอย​ออกมา​ครั้งแล้วครั้งเล่า​นำไปสู่​สถานการณ์​ใน​ตอนนี้​

อย่างไรก็ตาม​เขา​ไม่เสียใจ​เลย​

“พี่​เจ็ด​!” น่า​ซูวิ่ง​เข้ามา​สลัด​เกล็ด​หิมะ​ตามตัว​แล้ว​พูดว่า​ “สำรวจ​เส้นทาง​เรียบร้อย​แล้ว​พวกเรา​ออกเดินทาง​เลย​ดี​หรือไม่​ขอรับ​” พวกเขา​จะกลับ​เป่ย​ไห่​เพื่อ​พักฟื้น​ รอ​ต้อนรับ​การ​กลับมา​ของ​เผ่า​หมาป่า​หิมะ​อีกครั้ง​

“อืม​” ซูถูพยักหน้า​ “ไป​กัน​เถอะ​”

เขา​กระโดด​ขึ้น​นั่ง​บน​หลัง​ม้าศึก​ของ​ตน​ และ​มอง​ย้อนกลับ​ไป​ที่​ด่าน​เหลียง​ชวน​อัน​ยิ่งใหญ่​เป็น​ครั้งสุดท้าย​

ที่นี่​เขา​จะกลับมา​อีก​แน่นอน​!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด