คู่ชะตาบันดาลรักบทที่ 506 ไม่แปลกใจ

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter บทที่ 506 ไม่แปลกใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หย่ง​ซีหวา​งเฟย​งั้น​หรือ​…

ไท่จื่อ​ตกตะลึง​ครู่หนึ่ง​ก่อนที่​เขา​จะจำได้​หย่ง​ซีอ๋อง​เป็น​บิดา​ผู้ให้กำเนิด​ที่​จากไป​แล้ว​ของ​หยาง​ซาน​ อดีต​หวง​ฉางซุน​ แล้ว​หย่ง​ซีหวา​งเฟย​ที่​หญิง​ชรา​ผู้​นี้​พูดถึง​หรือ​จะเป็น​ มารดา​ของ​หยาง​ซาน​…

ไท่จื่อ​เคย​พบ​หย่ง​ซีหวา​งเฟย​เมื่อนานมาแล้ว​ ตอนนั้น​เขา​ยัง​เด็ก​มาก​จึงจำได้​เพียง​เลือนราง​ว่า​นาง​เป็น​สตรี​ที่​งดงาม​ ต่อมา​เมื่อ​เผย​กุ้ยเฟย​เข้า​วัง​เขา​ได้ยิน​มาว่า​นาง​จริงๆ​ แล้ว​เป็น​ฮูหยิน​สอง​จาก​ตระกูล​หยาง​ เนื่องจาก​นาย​ท่าน​รอง​เสียชีวิต​นาง​จึงเป็น​หม้าย​ ไม่รู้​ว่า​ไปคบ​กับ​บิดา​ของ​เขา​ได้​อย่างไร​ถึงได้​กลาย​มาเป็น​สนม​คนโปรด​คน​ใหม่​

ตอนนี้​หญิง​ชรา​พูด​ออกมา​เช่นนั้น​ได้​กระตุ้น​ความสงสัย​ของ​เขา​

“เหตุใด​เจ้าถึงบอ​กว่า​นาง​คือ​หย่ง​ซีหวา​งเฟย​ไม่ใช่พี่น้อง​ตระกูล​เดียวกัน​หรือ​ โตมา​หน้าตา​เหมือนกัน​เป็นเรื่อง​ปกติ​”

ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​สั่นเครือ​ว่า​ “ใน​ตอนที่​บ่าว​ยัง​เยาว์​เคย​รับใช้​หย่ง​ซีหวา​งเฟย​ที่​เข้า​พัก​ใน​วัง​ชั่วคราว​อย่าง​ใกล้ชิด​จำได้​ว่า​นาง​มีไฝที่​ข้อมือ​ เมื่อ​ครู่​…เมื่อ​ครู่​บ่าว​เข้าไป​ใน​ห้อง​บังเอิญ​เห็น​แขน​เสื้อ​ของ​กุ้ยเฟย​เปิด​ออก​เห็น​ว่า​มีไฝใน​นั้น​…”

ไท่จื่อ​ใจเต้น​ตึก​ตัก​เขา​ถามว่า​ “ฮูหยิน​สอง​จาก​จวน​โป๋วห​ลิง​โหว​ไม่มีหรือ​”

ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​ตอบ​ว่า​ “แม้จะเป็น​พี่น้อง​กัน​ก็​เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​มีไฝที่​เดียวกัน​เจ้าค่ะ​”

ใบหน้า​ของ​ไท่จื่อ​ซีด​ลง​เกิด​พา​ยุขึ้น​ใน​ใจ ก่อนหน้านี้​เขา​คิด​ว่า​กุ้ยเฟย​เป็น​ฮูหยิน​สอง​จาก​ตระกูล​หยาง​ เรื่อง​นี้​หาก​พูด​ออก​ไปแม้จะเป็น​เรื่องอื้อฉาว​ แต่​ก็​เป็น​เรื่องส่วนตัว​ของ​ฮ่องเต้​ด้วย​

ตอนนี้​รู้​แล้ว​ว่า​กุ้ยเฟย​คือ​หย่ง​ซีหวา​งเฟย​จริงๆ​ เกิด​เรื่องราว​ฉากใหญ่​ขึ้น​ใน​หัว​อย่าง​รวดเร็ว​ จาก​ความจริง​ที่​รู้​ตอนนี้​เขา​รับรู้​ทุกอย่าง​เป็นที่​แน่นอน​แล้ว​

หยาง​ซาน​เป็น​ลูกหลาน​ของ​ซือฮว๋ายไท่จื่อ​ ตอนนั้น​เขา​ยังอยู่​ใน​ครรภ์​มารดา​และ​สามารถ​หลบหนี​จาก​เหตุการณ์​เลวร้าย​นั้น​มาได้​หมายความว่า​ตอนนั้น​มารดา​ของ​เขา​ยัง​มีชีวิต​อยู่​!

เหตุใด​เขา​ไม่นึกถึง​ปัญหา​นี้​มาก่อน​เมื่อ​พิจารณา​อย่าง​รอบคอบ​แล้ว​ คำพูด​ใน​พระ​ราชโองการ​ของ​ฮ่องเต้​เต็มไปด้วย​คำ​ใบ้​ว่า​ผู้​ที่​มีชีวิตรอด​มีเพียง​หยาง​ซาน​ ไม่มีคนอื่น​

ใน​เมื่อ​หย่ง​ซีหวา​งเฟย​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ตอนที่​คลอด​เขา​แล้ว​หลังจากนั้น​ไปไหนล่ะ​

กุ้ยเฟย​ไม่ใช่ฮูหยิน​สอง​จาก​ตระกูล​หยาง​ และ​ฮูหยิน​สอง​จาก​ตระกูล​หยาง​ตัวจริง​เสียชีวิต​หลังจาก​คลอด​บุตร​

หย่ง​ซีหวา​งเฟย​ใน​ตอนนี้​ได้​เข้ามา​แทนที่​ฮูหยิน​สอง​จาก​ตระกูล​หยาง​ หลังจาก​ดำเนินการ​บางอย่าง​นาง​ก็​เข้า​วัง​ใน​ฐานะ​สตรี​จาก​ตระกูล​เผย​

ภายนอก​นาง​เป็น​เพียง​สตรี​จาก​ตระกูล​เผย​ผู้​ที่​รู้เรื่องราว​ภายใน​คิด​ว่า​นาง​คือ​ฮูหยิน​สอง​จาก​ตระกูล​หยาง​ ไม่มีผู้ใด​คิด​ว่า​แท้จริง​แล้ว​นาง​คือ​หย่ง​ซีหวา​งเฟย​

ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ที่​หลังจาก​นาง​เข้า​วัง​มาก็​ไม่ค่อย​ปรากฏตัว​ใน​ที่สาธารณะ​

เมื่อ​เขา​ยัง​เด็ก​คิด​ว่า​เป็น​เสด็จ​แม่ที่​กดขี่​เผย​กุ้ยเฟย​ แต่​จริงๆ​ แล้ว​นาง​ไม่กล้า​ปรากฏตัว​ต่างหาก​ ต่อมา​เสด็จ​แม่เสียชีวิต​จาก​อา​การประชวร​ นาง​ที่อยู่​ใน​วัง​มาหลาย​ปีแล้วจึง​ปรากฏตัว​เป็นครั้งคราว​เท่านั้น​

แต่​สิบ​ปีต่อมา​ รูปร่างหน้าตา​ของ​นาง​เปลี่ยนไป​อีก​ทั้ง​การ​แต่งหน้า​ทำให้​เป็นเรื่อง​ง่าย​ที่​คนอื่น​จะเข้าใจผิด​ว่า​พี่น้อง​จาก​ตระกูล​เดียวกัน​มีหน้าตา​คล้าย​กัน​ ไม่น่าแปลกใจ​ที่​ตระกูล​เผย​ไม่เคย​ใกล้ชิด​กับ​กุ้ยเฟย​เลย​

สตรี​จาก​ตระกูล​อื่น​ หาก​ครอบครัว​ฝ่าย​หญิง​ไม่ส่งข้อความ​เข้า​วัง​มาก็​เข้า​วัง​มาเยี่ยม​เป็นครั้งคราว​ แต่​ใน​ความทรงจำ​ของ​เขา​มัน​ไม่เคย​มีเรื่อง​นี้​เกิดขึ้น​เลย​

ไม่แปลกใจ​ที่​เสด็จ​พ่อ​จะทำดี​กับ​จวน​โป๋วห​ลิง​โหว​ถึงเพียงนั้น​

แม้พวกเขา​จะไม่ได้​สืบทอด​ผลงาน​ของ​บรรพบุรุษ​มานาน​แล้ว​ แต่​ก็​มอบ​รางวัล​ให้​พวกเขา​ไม่เคย​ขาด​ เพราะ​พวกเขา​เป็น​แพะรับบาป​ให้​เสด็จ​พ่อ​

ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ที่​ฮ่องเต้​จะใจกว้าง​ต่อ​หยาง​ซาน​เพียงนั้น​เพราะ​มารดา​ของ​เขา​อยู่​ข้าง​กาย​เสด็จ​พ่อ​!

ไท่จื่อ​รู้สึก​เหมือน​รู้แจ้ง​รายละเอียด​มากมาย​ที่​เขา​รู้​มาก่อน​ แต่​ไม่เคย​สนใจ​ก็​ปรากฏ​อย่าง​ชัดเจน​ใน​ใจของ​เขา​ เขา​ไม่เคย​รู้สึก​ตื่นตัว​เช่นนี้​มาก่อน​ จาก​คำพูด​ของ​หญิง​ชรา​ได้​เผยความลับ​อัน​ยิ่งใหญ่​ทำให้​ไท่จื่อ​รู้สึก​พึงพอใจ​อย่าง​น่าอัศจรรย์​ และ​เขา​เชื่อ​ใน​ผลลัพธ์​นี้​

นี่​จะต้อง​เป็น​ความจริง​!

“ไท่จื่อ”​ เสียง​ของ​องครักษ์​เรียก​สติ​ของ​เขา​กลับมา​ ไท่จื่อ​อยู่​ใน​อารมณ์​สงบ​ ดวงตา​ของ​เขา​หันไป​ทาง​หญิง​ชรา​แล้ว​เกิด​ความลังเล​ใน​ใจ

ความลับ​นี้​แน่นอน​ว่า​ไม่มีผู้ใด​รู้​แน่ๆ​ แล้​วจะ​ทำ​อะไร​กับ​หญิง​ชรา​ผู้​นี้​ดี​ ฆ่าปิดปาก​หรือ​

เดี๋ยวก่อน​…เรื่อง​นี้​เป็น​จุดอ่อน​ที่​ดี​ไม่แน่​ว่า​อาจ​มีประโยชน์​ในอนาคต​ เช่นนั้น​หญิง​ชรา​ผู้​นี้​จึงเป็น​พยาน​ที่​สำคัญ​มาก​ควร​ได้รับ​การ​คุ้มครอง​เป็น​อย่าง​ดี​

แววตา​ของ​ไท่จื่อ​อบอุ่น​ขึ้น​มาเขา​ถามนาง​ว่า​ “เจ้าพัก​อยู่​ที่ใด​”

ท่าน​ยาย​ห​ร่วน​ตอบ​เสียง​เครือ​ “บ่าว​มีหน้าที่​ทำความสะอาด​ตำหนัก​ไท่​หยวน​และ​อาศัย​อยู่​ด้านหลัง​เจ้าค่ะ​”

ไท่จื่อ​พยักหน้า​แล้ว​พูด​กับ​องครักษ์​ของ​ตน​ว่า​ “ส่งนาง​กลับ​อย่าง​ปลอดภัย​ อย่า​ให้​ผู้ใด​มารบกวน​ได้​” องครักษ์​เข้าใจ​เป็น​อย่าง​ดี​จึงกึ่ง​บังคับ​เชิญนาง​กลับ​ไป

ไท่จื่อ​คิด​ไว้​ว่า​เมื่อ​พิธีกรรม​สิ้นสุดลง​เขา​ต้อง​หาทาง​พา​หญิง​ชรา​ออกจาก​วัง​และ​หา​ที่ซ่อน​ไว้​เผื่อ​ฉุกเฉิน​

ตอนนี้​เผย​กุ้ยเฟย​กุม​ตำหนัก​ทั้ง​หก​ไว้​อยู่​การ​หา​โอกาส​จึงไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​เพราะ​เรื่อง​นี้​ช่วง​บ่าย​ไท่จื่อ​จึงมีท่าที​กระสับกระส่าย​

ซิ่น​อ๋อง​ที่​ให้ความสนใจ​อยู่​เสมอ​เมื่อ​เห็น​เขา​ทำพิธี​พลาด​อยู่​หลายครั้ง​ก็​ก้มหน้า​ซ่อน​รอยยิ้ม​ หยาง​ชูและ​อัน​อ๋อง​กลับมา​แล้ว​ และ​ทั้งสอง​ก็​ใช้เวลา​ช่วง​บ่าย​ตามปกติ​

เสวียน​เฟย​เคาะ​ระฆัง​เพื่อ​ยุติ​พิธีกรรม​ของ​วันนี้​ เหล่า​เชื้อพระวงศ์​ และ​คุณชาย​ที่​เหน็ดเหนื่อย​แยกย้าย​กัน​ไปพักผ่อน​และ​รับประทาน​อาหาร​

อัน​อ๋อง​โน้มตัว​อีกครั้ง​และ​ถามว่า​ “เจ้าไม่อยาก​พบ​คน​ผู้​นั้น​หรือ​ ตอนนี้​เป็นเวลา​เหมาะสม​ที่จะ​นัด​ออก​มานะ​”

หยาง​ชูใจเต้น​เล็กน้อย​ แต่​เมื่อ​นึกถึง​เวลา​ของ​พิธีกรรม​ อย่า​พูดถึง​เรื่อง​ของ​ชาย​หญิง​เลย​ แม้แต่​เนื้อสัตว์​ยัง​ห้าม​หาก​ถูก​ผู้อื่น​เห็น​ว่า​แอบ​นัด​พบกัน​ถึงแม้จะเป็นการ​พูดคุย​ไม่กี่​คำ​ แต่​ก็​ง่าย​ต่อ​การ​ทำ​เรื่องเล็ก​ให้​เป็น​เรื่องใหญ่​ได้​

สถานะ​ถูก​แต่งตั้ง​ไว้​แล้ว​อยู่​นอก​วัง​ไม่ใช่ว่า​อยาก​ทำ​อะไร​ก็​ทำได้​ เหตุใด​ต้อง​รีบ​สร้างเรื่อง​ให้​เกิด​ภัย​เงียบ​ใน​ตอนนี้​ด้วย​ อดทน​ไว้​อีก​แค่​สอง​วัน​เอง​

เมื่อ​ถูก​ปฏิเสธอัน​อ๋อง​มีสีหน้า​ผิดหวัง​ “เจ้านี่​ขี้ขลาด​เสีย​จริง​”

หยาง​ชูพูด​ “ท่าน​คิด​ว่า​หาก​ข้า​เป็น​ท่าน​จะกล้า​เกิด​ตัณหา​หรือ​ หาก​ท่าน​กล้า​นัก​ก็​ไปหา​หวา​งเฟย​ของ​ท่าน​เลย​!”

อัน​อ๋อง​หัวหด​ทันที​เขา​พึมพำ​ “เจ้าอย่า​พูดถึง​หวา​งเฟย​ให้​ข้า​ตกใจ​สิ!”

หยาง​ชูไม่ต้อง​การสนใจ​เขา​และ​ตัดสินใจ​ไปทาน​อาหารเย็น​

อัน​อ๋อง​เดินตาม​ทันที​ “เดี๋ยวก่อน​!”

…………

ถึงหยาง​ชูพูด​เช่นนั้น​ แต่​เขา​รู้สึก​คัน​ใน​หัวใจ​มาก​ เขา​ไม่คิด​แสดงตัว​แค่​คิด​ยืน​มอง​อยู่​ที่​ฝั่งหนึ่ง​ เขา​รู้​ว่า​หมิง​เวย​รับประทาน​อาหารเย็น​กับ​เผย​กุ้ยเฟย​ทุกวัน​จึงไปยืน​มอง​อยู่​แถว​นั้น​

นาง​หลู​ที่​ทานอาหาร​เสร็จ​ออก​ไปเดินเล่น​รอบ​ๆ ตำหนัก​ไท่​หยวน​กับ​สาวใช้​

ใน​ช่วง​พิธีกรรม​จะมีการ​แยก​ชาย​หญิง​หาก​ไปเดินเล่น​จะมองเห็น​คน​จาก​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​สวน​เป็น​บางครั้ง​ ซึ่งนาง​หลู​ก็​มองเห็น​หยาง​ชู

นาง​เดินเล่น​แค่​ครึ่งหนึ่ง​ของ​ใน​สวน​ และ​พบ​ว่า​หยาง​ชูนั่ง​อยู่​บน​ต้นไม้​อีก​ฝั่งหนึ่ง​ สายตา​จ้อง​ไปยัง​ทิศ​ของ​ศาลา​ด้านหลัง​ไม่ขยับ​ไปไหน​

นาง​หลู​ถามสาวใช้​ว่า​ “นั่น​ใช่น้อง​สามหรือไม่​”

สาวใช้​ตอบ​ “เป็น​เยวี่ย​อ๋อง​เจ้าค่ะ​”

นาง​ห​ลูก​ลอก​ตา​ “เจ้าคิด​ว่า​ข้า​ไม่รู้​หรือว่า​เขา​เป็น​อ๋อง​!”

นาง​เดินเล่น​ในขณะเดียวกัน​ก็​มอง​ไปที่​หยาง​ชู ไม่นาน​ก็​เห็น​หมิง​เวย​เดิน​ออก​มาจาก​ศาลา​ด้านหลัง​และ​เดินผ่าน​สวน​

“หือ​!” นาง​หลู​ตื่นเต้น​ “พวกเขา​นัด​พบกัน​หรือ​!”

นาง​หลู​คิดในใจ​ที่แท้​เด็ก​คน​นี้​ก็​ทนไม่ไหว​เลย​นัดพบ​ระหว่าง​ทำพิธี​ หึ​! หาก​เรื่อง​นี้​ถูก​เปิดโปง​ ฝ่าบาท​ต้อง​ทรง​พิโรธ​อย่าง​แน่นอน​

เมื่อ​นึกถึง​สิ่งที่​หมิง​เวย​จงใจทำ​ไม่ดี​ต่อ​ตน​ใน​วันนี้​ ใจนาง​หลู​ก็​รู้สึก​ร้อน​เป็นไฟ​ นาง​รอ​ให้​พวกเขา​หา​ที่​นัด​พบกัน​ส่วน​ตน​รอ​คิด​หา​วิธี​ให้​คน​มาเปิดโปง​

ถึงแม้จะเกลียดชัง​พวกเขา​ แต่​ก็​ถือเป็น​การแก้แค้น​สำหรับ​วันนี้​! อย่างไรก็ตาม​หยาง​ชูไม่ได้​เรียก​นาง​เพียงแค่​มอง​หมิง​เวย​เดินผ่าน​ไป

นาง​ห​ลูป​ระ​หลา​ด​ใจ “พวกเขา​ไม่ได้​นัด​พบกัน​หรือ​”

สาวใช้​ตอบ​ “ดูเหมือน​เยวี่ย​อ๋อง​จะรู้​ขอบเขต​ดี​นะ​เจ้าคะ​”

การ​ที่​เขา​รู้​ขอบเขต​ดี​ทำให้​นาง​หลู​ไม่พอใจ​เดิมที​คิด​จะหา​โอกาส​แก้แค้น​ไม่คิด​ว่า​จะผิดพลาด​เช่นนี้​ คิดไปคิดมา​ก็​ยิ่ง​ไม่พอใจ​นาง​หลู​คิด​แผน​ขึ้น​มา “เจ้าไปรั้ง​นาง​ไว้​!”

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด