คู่ชะตาบันดาลรัก 386 ทูต

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter 386 ทูต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อาหารอันโอชะนำมาวางบนโต๊ะไม่ขาดสาย

ตัวฝูถอนหายใจ “แม่ทัพเหลียงผู้นั้นเป็นคนดีจริงๆ!”

หมิงเวยยิ้มแล้วมองน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมตรงหน้า “เจ้ายังบาดเจ็บไม่หายดีพวกเราเองก็รีบเดินทางด้วย ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวตอนนี้ต้องบำรุงร่างกายให้ดีๆ”

“เจ้าค่ะ คุณหนู” ตัวฝูดื่มน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมจนหมดอย่างมีความสุข

หลายวันมานี้พวกเขามีช่วงเวลาที่ดีต้องการอะไรเพียงแค่เอ่ยปาก พ่อบ้านก็จัดหามาให้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะแพงหรือหายากเพียงใดก็จะถูกส่งไปหาพวกเขาในภายหลัง

ตอบสนองทุกคำขอแน่นอนว่าต้องได้คืบจะเอาศอก ด้วยเหตุนี้เงินที่ใช้ไปในช่วงสองสามวันนี้เท่ากับค่าใช้จ่ายหนึ่งเดือนในจวนผู้บัญชาการทัพ

เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าเหลียงจางประหยัดเขาเป็นใหญ่ในเป่ยเทียนเหมิน ต้องการความมั่งคั่งและอำนาจ มีอะไรให้ประหยัดกัน แต่ไม่ว่าจะฟุ่มเฟือยเพียงใด เขาก็ไม่คิดกินอาหารอย่างอุ้งเท้าหมี! ล่าได้ก็กินในตลาดมีคนขายก็ซื้อ

แล้วหยางชูเล่า เขามักจะเลือกของดีๆ หากหาไม่ได้ก็จะหาซื้อในราคาที่สูง เงินจำนวนนี้ไม่ใช่จ่ายมากเกินไปหรือ เหลียงจางมองใบเสร็จรับเงินที่พ่อบ้านนำมาให้เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาเต้นตุบๆ

พ่อบ้านพูดอย่างระมัดระวัง “ท่านแม่ทัพ พวกเราพอแค่นี้ดีหรือไม่ขอรับ เป็นเช่นนี้จ่ายไม่ไหวจริงๆ เงินเดือนของท่านสำหรับหนึ่งปีเพียงพอแล้วที่ให้พวกเขาใช้จ่ายไปในสองสามวัน”

เหลียงจางอยากจะโกรธแค้น แต่เงินก็ถูกโยนออกไปแล้วจะให้หยุดตอนนี้หรือ หากเด็กคนนั้นก่อเรื่องขึ้นมาจะทำอย่างไร เขาก่อเรื่องพอสมควร แต่ฝีมือของเขานั้นก็ดีจริง หากบังคับให้อยู่เกรงว่าจะทำไม่ได้ปล่อยให้เขากลับเกาถางเพราะสิ่งที่เขารอคอยได้มาแล้วหากไปจับกุมอีกรอบคงไม่ง่ายดายเช่นนี้…

เขาลูบหน้าอกแล้วพูดว่า “อดทนไว้ อดทนอีก แค่ไม่กี่วันเท่านั้น”

“ท่านแม่ทัพ…”

เหลียงจางกัดฟัน “เมื่อเขาออกเดินทางข้าได้รีบนำเรื่องนี้ขึ้นรายงานต่อฝ่าบาท ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าแล้วพระราชโองการของฝ่าบาทน่าจะใกล้ถึงแล้ว รอให้มาถึงก่อนเถอะ หึ!”

เด็กคนนี้คิดว่าจะล้มเขาได้งั้นหรือ สูญเสียความโปรดปรานจนถูกไล่ให้มาอยู่ที่เกาถางแล้วยังกล้าก่อเรื่องใหญ่เช่นนี้เพื่อสตรีคนเดียวถึงขั้นเอากระบี่จ่อคอเขาแล้วบังคับให้มอบทหารให้ รู้หรือไม่ว่าตนใส่ความคิดลงในสาสน์ไปมากเพียงใด เขียนละเอียดทุกคำให้ฝ่าบาทได้เห็น

หากฝ่าบาทรู้ว่าเขากล้าที่จะแทรกแซงในกองทัพต้องทรงพิโรธมากเป็นแน่เมื่อถึงเวลานั้นมีแต่ตนนี่แหละที่สบายใจ!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เหลียงจางจึงรู้สึกสบายใจขึ้น และเรียกองครักษ์มา “ทางฝั่งเรือนนั้นเป็นอย่างไร ทุกคนต้องคอยจับตามองให้ดีคนของตระกูลหยางไม่สามารถได้รับการปฏิบัติเหมือนคนทั่วไปได้”

องครักษ์ตบหน้าอกและรับปากว่า “ท่านวางใจได้เลยขอรับ ข้าน้อยรับปากว่าจะไม่มีแมลงวันตัวไหนสามารถหนีจากสายตาของเราได้!”

“ระวังหน่อย อย่าให้พวกเขาจับได้ล่ะ”

“ขอรับ”

วันแรก หยางชูขอเอ็นกวางและอุ้งเท้าหมี และยังขอให้เปลี่ยนอุปกรณ์ห้องนอนทั้งหมดเหลียงจางก็รับปาก

วันที่สอง เขาบอกตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องการทานโสมพันปี เหลียงจางก่นด่าในใจ แต่ก็หยิบโสมที่ตนเก็บไว้ออกมา แม้ว่ามันจะอายุเพียงห้าร้อยปี แต่ก็พอได้อยู่

หึ! เหตุใดถึงมีแค่ห้าร้อยปีน่ะหรือ แค่โสมอายุร้อยปียังหายากเลย!

วันที่สาม หยางชูบอกว่าเขาเบื่อและต้องการออกไปเดินเล่น เหลียงจางชักแม่น้ำทั้งห้าให้เขาอยู่เล่นหมากรุก ผลลัพธ์กลายเป็นถูกเขาชวนเล่นหมากรุก

วันที่สี่…ความโกรธของเหลียงจางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ระงับมันไว้

เมื่อถึงวันที่ห้า หยางชูร้องต้องการไปเหลียงจางจึงต้องเกลี้ยกล่อมเขาเป็นการส่วนตัว

“ไอหยา หลานหยางเป็นเพราะอาดูแลหลานได้ไม่ดีหรือหลานถึงต้องการจากไปแล้ว”

หยางชูตอบ “ท่านอา ถึงแม้สิ่งของจะเป็นรอง แต่ก็สามารถทนได้ พอนึกถึงสถานที่อย่างเป่ยเทียนเหมินท่านอาก็พยายามสุดความสามารถแล้ว”

มุมปากเหลียงจางกระตุก “เช่นนั้นหลานสามารถอยู่ต่อได้อีกกี่วันหรือ”

สีหน้าหยางชูดูทนไม่ได้ “หลานไม่สามารถอยู่ในที่ของคนอื่นได้จริงๆ! ต่อให้เป็นรังเงินรังทองก็ไม่เท่ากับรังหมาของเรา[1] ใช่หรือไม่ขอรับ”

เส้นเลือดบนหน้าผากของเหลียงจางนูนขึ้นยังมีหน้ามาพูดอีก! ใช้เงินของคนอื่นไม่เจ็บปวดสุดท้ายก็ไม่ดีเท่ารังหมาของตนเองงั้นหรือ

ในใจโกรธมากเพียงใด แต่ใบหน้าของเหลียงจางยังคงเปื้อนยิ้ม “พูดเช่นนั้น หลานไม่อยากรอหมอเทวดาจงแล้วหรือ หลังจากที่รอมาหลายวันเหตุใดถึงรีบร้อนตอนนี้เล่าบางทีท่านหมออาจมาถึงในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้”

หยางชูหมดหนทาง “รอวันแล้ววันเล่าเมื่อไรจะได้พบกันเล่า ช่างเถิดขอรับ หลานทิ้งองครักษ์ไว้ที่นี่ก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้นคอยเชิญไปที่เกาถาง”

“แต่…หมอเทวดาค่อนข้างแปลกอาเกรงว่าเขาคงไม่ยินยอม”

เขาไม่พอใจ “หลานเป็นคนเชิญ เหตุใดเขาจะไม่ยินยอมเล่าขอรับ”

“ก็อย่างที่บอกนั่นแหละหากเชิญไม่ได้ขึ้นมาเล่า หากหลานไม่คิดถึงตนเองก็คิดถึงแม่นางผู้นั้นเถอะ”

หยางชูลังเลสักพักแล้วโบกมือ “ไม่ดีกว่าขอรับ อยู่ที่นี่หลานกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ละวันช่างผ่านไปอย่างยากลำบาก”

เหลียงจางสูดหายใจเข้าลึกๆ “หลานชายอยากกินอะไร พูดมาเลย! หากอาสามารถอาจะหามาให้”

“จริงหรือขอรับ”

“จริง”

หยางชูยิ้มออกมา “อันที่จริงสาเหตุหลักคือยาที่หลานทานประจำหมดไปแล้ว หากไม่มียานั่นหลานจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ…”

เหลียงจางถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เป็นแค่ยาเม็ดใช่หรือไม่ อาจะให้คนจ่ายยามาให้หลานเอาใบสั่งยามาให้ก็พอ”

“ดีเลยขอรับ” หยางชูดึงใบสั่งยาออกมาจากแขนเสื้อของเขาราวกับเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว “นี่ขอรับ”

เหลียงจางรับไปดูแล้วเส้นเลือดบนหน้าเขาก็ปูดขึ้นอีกครั้ง

“ท่านอา เป็นอะไรหรือขอรับ”

เหลียงจางพยายามทรงตัวให้มั่นคงเขาสูดหายใจเข้าลึกๆ หากเขาเปลี่ยนใจตอนนี้แล้วลงมือฆ่าอีกฝ่ายได้หรือไม่ โสม เขากวางอ่อน บัวหิมะ ถังเช่า…มีแต่ของแพงๆ ทั้งนั้น! เขาไม่เชื่อว่าต่อให้มีใบสั่งยาแล้วจะสามารถหาวัตถุดิบอันล้ำค่าทั้งหมดได้ในคราวเดียว!

แต่หยางชูยังคงพูดพล่ามอยู่นั่น “ท่านอาดีเพียงนี้ หลานช่างมีตาหามีแววไม่ หลังจากนั้นคงต้องติดต่อกับท่านอาบ่อยๆ…”

เหลียงจางลังเลต่อให้เปลี่ยนใจตอนนี้หรืออดทนต่อไปดี หากเปลี่ยนใจตอนนี้ก็สามารถประหยัดเงินได้มาก แต่หากอดทนอีกสักหน่อยพระราชโองการคงมาถึง…

คิดสิ่งใดได้สิ่งนั้นเขาเพิ่งคิดถึงเรื่องนี้พ่อบ้านก็เข้ามาหาอย่างเร่งรีบ “ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพขอรับ! ท่านทูตมาขอรับ!”

เหลียงจางรู้สึกปลาบปลื้ม “เร็ว รีบไปเชิญท่านทูตมาที่นี่เร็ว!”

เขาพูดพลางถอยหลังสองก้าวไปยืนอยู่ข้างหลังองครักษ์มองดูหยางชูอย่างระแวดระวังแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หลานหยางคงคิดถึงฝ่าบาทมากรอเดี๋ยวก่อน ไม่แน่ว่าอาจมีข่าวของหลาน”

ตามหลักเหตุผลเมื่อท่านทูตมาถึงเขาควรออกไปต้อนรับ แต่เหลียงจางกลับไม่ขยับตัวซ้ำยังส่งสายตาให้ทหารชั้นยอดที่ช่วงสองสามวันนี้เดินวนรอบๆ เรือนทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจมาล้อมพวกเขาไว้

หยางชูดูประหลาดใจมาก “ท่านอาทำอะไรน่ะขอรับ ท่านไม่ออกไปต้อนรับท่านทูต แต่เหตุใดดูเหมือนจะลงมือกับหลานอย่างไรอย่างนั้นเช่นนี้ไม่ได้เรียกว่าการต้อนรับแล้ว”

เหลียงจางตัดสินใจนั่งไขว่ห้างลงบนเก้าอี้ผู้บัญชาการยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ หลังจากทนเป็นไอ้โง่อยู่หลายวันในที่สุดก็ได้ระบายความโกรธออกมา “หลานหยางไม่ต้องใจร้อน อีกไม่นานหลานก็ทราบแล้วอย่าโทษอาเลยนี่เป็นพระราชโองการ”

พูดจบเขาก็เห็นท่านทูตที่ถูกเชิญมาที่เรือนรับรองแขกจึงรีบเข้าไปทักทายอย่างยินดี “ที่แท้ก็เป็นหลิวกงกงนี่เอง ไม่เจอกันเสียนานเลยไม่ต้องห่วงขอรับ เด็กคนนี้ข้าควบคุมเอาไว้แล้วท่านค่อยๆ ประกาศได้เลย”

หลิวกงกงผู้นี้แปลกใจเขาไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูด “แม่ทัพเหลียง ท่านหมายความว่าอย่างไรหรือ ควบคุมตัวอะไรกัน อา..คุณชายสามท่านอยู่ที่นี่นี่เอง!” พูดจบก็คำนับให้อย่างแข็งขัน

…………

[1] ต่อให้เป็นรังเงินรังทองก็ไม่เท่ากับรังหมาของเรา : คนคนหนึ่งที่รักบ้านเกิดของตัวเอง ต่อให้สถานที่ต่างแดดเลิศหรูขนาดไหนเขาก็ไม่อยากไปอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คู่ชะตาบันดาลรัก 386 ทูต

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter 386 ทูต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

อาหารอันโอชะนำมาวางบนโต๊ะไม่ขาดสาย

ตัวฝูถอนหายใจ “แม่ทัพเหลียงผู้นั้นเป็นคนดีจริงๆ!”

หมิงเวยยิ้มแล้วมองน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมตรงหน้า “เจ้ายังบาดเจ็บไม่หายดีพวกเราเองก็รีบเดินทางด้วย ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวตอนนี้ต้องบำรุงร่างกายให้ดีๆ”

“เจ้าค่ะ คุณหนู” ตัวฝูดื่มน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมจนหมดอย่างมีความสุข

หลายวันมานี้พวกเขามีช่วงเวลาที่ดีต้องการอะไรเพียงแค่เอ่ยปาก พ่อบ้านก็จัดหามาให้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะแพงหรือหายากเพียงใดก็จะถูกส่งไปหาพวกเขาในภายหลัง

ตอบสนองทุกคำขอแน่นอนว่าต้องได้คืบจะเอาศอก ด้วยเหตุนี้เงินที่ใช้ไปในช่วงสองสามวันนี้เท่ากับค่าใช้จ่ายหนึ่งเดือนในจวนผู้บัญชาการทัพ

เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าเหลียงจางประหยัดเขาเป็นใหญ่ในเป่ยเทียนเหมิน ต้องการความมั่งคั่งและอำนาจ มีอะไรให้ประหยัดกัน แต่ไม่ว่าจะฟุ่มเฟือยเพียงใด เขาก็ไม่คิดกินอาหารอย่างอุ้งเท้าหมี! ล่าได้ก็กินในตลาดมีคนขายก็ซื้อ

แล้วหยางชูเล่า เขามักจะเลือกของดีๆ หากหาไม่ได้ก็จะหาซื้อในราคาที่สูง เงินจำนวนนี้ไม่ใช่จ่ายมากเกินไปหรือ เหลียงจางมองใบเสร็จรับเงินที่พ่อบ้านนำมาให้เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาเต้นตุบๆ

พ่อบ้านพูดอย่างระมัดระวัง “ท่านแม่ทัพ พวกเราพอแค่นี้ดีหรือไม่ขอรับ เป็นเช่นนี้จ่ายไม่ไหวจริงๆ เงินเดือนของท่านสำหรับหนึ่งปีเพียงพอแล้วที่ให้พวกเขาใช้จ่ายไปในสองสามวัน”

เหลียงจางอยากจะโกรธแค้น แต่เงินก็ถูกโยนออกไปแล้วจะให้หยุดตอนนี้หรือ หากเด็กคนนั้นก่อเรื่องขึ้นมาจะทำอย่างไร เขาก่อเรื่องพอสมควร แต่ฝีมือของเขานั้นก็ดีจริง หากบังคับให้อยู่เกรงว่าจะทำไม่ได้ปล่อยให้เขากลับเกาถางเพราะสิ่งที่เขารอคอยได้มาแล้วหากไปจับกุมอีกรอบคงไม่ง่ายดายเช่นนี้…

เขาลูบหน้าอกแล้วพูดว่า “อดทนไว้ อดทนอีก แค่ไม่กี่วันเท่านั้น”

“ท่านแม่ทัพ…”

เหลียงจางกัดฟัน “เมื่อเขาออกเดินทางข้าได้รีบนำเรื่องนี้ขึ้นรายงานต่อฝ่าบาท ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าแล้วพระราชโองการของฝ่าบาทน่าจะใกล้ถึงแล้ว รอให้มาถึงก่อนเถอะ หึ!”

เด็กคนนี้คิดว่าจะล้มเขาได้งั้นหรือ สูญเสียความโปรดปรานจนถูกไล่ให้มาอยู่ที่เกาถางแล้วยังกล้าก่อเรื่องใหญ่เช่นนี้เพื่อสตรีคนเดียวถึงขั้นเอากระบี่จ่อคอเขาแล้วบังคับให้มอบทหารให้ รู้หรือไม่ว่าตนใส่ความคิดลงในสาสน์ไปมากเพียงใด เขียนละเอียดทุกคำให้ฝ่าบาทได้เห็น

หากฝ่าบาทรู้ว่าเขากล้าที่จะแทรกแซงในกองทัพต้องทรงพิโรธมากเป็นแน่เมื่อถึงเวลานั้นมีแต่ตนนี่แหละที่สบายใจ!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เหลียงจางจึงรู้สึกสบายใจขึ้น และเรียกองครักษ์มา “ทางฝั่งเรือนนั้นเป็นอย่างไร ทุกคนต้องคอยจับตามองให้ดีคนของตระกูลหยางไม่สามารถได้รับการปฏิบัติเหมือนคนทั่วไปได้”

องครักษ์ตบหน้าอกและรับปากว่า “ท่านวางใจได้เลยขอรับ ข้าน้อยรับปากว่าจะไม่มีแมลงวันตัวไหนสามารถหนีจากสายตาของเราได้!”

“ระวังหน่อย อย่าให้พวกเขาจับได้ล่ะ”

“ขอรับ”

วันแรก หยางชูขอเอ็นกวางและอุ้งเท้าหมี และยังขอให้เปลี่ยนอุปกรณ์ห้องนอนทั้งหมดเหลียงจางก็รับปาก

วันที่สอง เขาบอกตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องการทานโสมพันปี เหลียงจางก่นด่าในใจ แต่ก็หยิบโสมที่ตนเก็บไว้ออกมา แม้ว่ามันจะอายุเพียงห้าร้อยปี แต่ก็พอได้อยู่

หึ! เหตุใดถึงมีแค่ห้าร้อยปีน่ะหรือ แค่โสมอายุร้อยปียังหายากเลย!

วันที่สาม หยางชูบอกว่าเขาเบื่อและต้องการออกไปเดินเล่น เหลียงจางชักแม่น้ำทั้งห้าให้เขาอยู่เล่นหมากรุก ผลลัพธ์กลายเป็นถูกเขาชวนเล่นหมากรุก

วันที่สี่…ความโกรธของเหลียงจางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็ระงับมันไว้

เมื่อถึงวันที่ห้า หยางชูร้องต้องการไปเหลียงจางจึงต้องเกลี้ยกล่อมเขาเป็นการส่วนตัว

“ไอหยา หลานหยางเป็นเพราะอาดูแลหลานได้ไม่ดีหรือหลานถึงต้องการจากไปแล้ว”

หยางชูตอบ “ท่านอา ถึงแม้สิ่งของจะเป็นรอง แต่ก็สามารถทนได้ พอนึกถึงสถานที่อย่างเป่ยเทียนเหมินท่านอาก็พยายามสุดความสามารถแล้ว”

มุมปากเหลียงจางกระตุก “เช่นนั้นหลานสามารถอยู่ต่อได้อีกกี่วันหรือ”

สีหน้าหยางชูดูทนไม่ได้ “หลานไม่สามารถอยู่ในที่ของคนอื่นได้จริงๆ! ต่อให้เป็นรังเงินรังทองก็ไม่เท่ากับรังหมาของเรา[1] ใช่หรือไม่ขอรับ”

เส้นเลือดบนหน้าผากของเหลียงจางนูนขึ้นยังมีหน้ามาพูดอีก! ใช้เงินของคนอื่นไม่เจ็บปวดสุดท้ายก็ไม่ดีเท่ารังหมาของตนเองงั้นหรือ

ในใจโกรธมากเพียงใด แต่ใบหน้าของเหลียงจางยังคงเปื้อนยิ้ม “พูดเช่นนั้น หลานไม่อยากรอหมอเทวดาจงแล้วหรือ หลังจากที่รอมาหลายวันเหตุใดถึงรีบร้อนตอนนี้เล่าบางทีท่านหมออาจมาถึงในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้”

หยางชูหมดหนทาง “รอวันแล้ววันเล่าเมื่อไรจะได้พบกันเล่า ช่างเถิดขอรับ หลานทิ้งองครักษ์ไว้ที่นี่ก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้นคอยเชิญไปที่เกาถาง”

“แต่…หมอเทวดาค่อนข้างแปลกอาเกรงว่าเขาคงไม่ยินยอม”

เขาไม่พอใจ “หลานเป็นคนเชิญ เหตุใดเขาจะไม่ยินยอมเล่าขอรับ”

“ก็อย่างที่บอกนั่นแหละหากเชิญไม่ได้ขึ้นมาเล่า หากหลานไม่คิดถึงตนเองก็คิดถึงแม่นางผู้นั้นเถอะ”

หยางชูลังเลสักพักแล้วโบกมือ “ไม่ดีกว่าขอรับ อยู่ที่นี่หลานกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ละวันช่างผ่านไปอย่างยากลำบาก”

เหลียงจางสูดหายใจเข้าลึกๆ “หลานชายอยากกินอะไร พูดมาเลย! หากอาสามารถอาจะหามาให้”

“จริงหรือขอรับ”

“จริง”

หยางชูยิ้มออกมา “อันที่จริงสาเหตุหลักคือยาที่หลานทานประจำหมดไปแล้ว หากไม่มียานั่นหลานจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ…”

เหลียงจางถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เป็นแค่ยาเม็ดใช่หรือไม่ อาจะให้คนจ่ายยามาให้หลานเอาใบสั่งยามาให้ก็พอ”

“ดีเลยขอรับ” หยางชูดึงใบสั่งยาออกมาจากแขนเสื้อของเขาราวกับเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว “นี่ขอรับ”

เหลียงจางรับไปดูแล้วเส้นเลือดบนหน้าเขาก็ปูดขึ้นอีกครั้ง

“ท่านอา เป็นอะไรหรือขอรับ”

เหลียงจางพยายามทรงตัวให้มั่นคงเขาสูดหายใจเข้าลึกๆ หากเขาเปลี่ยนใจตอนนี้แล้วลงมือฆ่าอีกฝ่ายได้หรือไม่ โสม เขากวางอ่อน บัวหิมะ ถังเช่า…มีแต่ของแพงๆ ทั้งนั้น! เขาไม่เชื่อว่าต่อให้มีใบสั่งยาแล้วจะสามารถหาวัตถุดิบอันล้ำค่าทั้งหมดได้ในคราวเดียว!

แต่หยางชูยังคงพูดพล่ามอยู่นั่น “ท่านอาดีเพียงนี้ หลานช่างมีตาหามีแววไม่ หลังจากนั้นคงต้องติดต่อกับท่านอาบ่อยๆ…”

เหลียงจางลังเลต่อให้เปลี่ยนใจตอนนี้หรืออดทนต่อไปดี หากเปลี่ยนใจตอนนี้ก็สามารถประหยัดเงินได้มาก แต่หากอดทนอีกสักหน่อยพระราชโองการคงมาถึง…

คิดสิ่งใดได้สิ่งนั้นเขาเพิ่งคิดถึงเรื่องนี้พ่อบ้านก็เข้ามาหาอย่างเร่งรีบ “ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพขอรับ! ท่านทูตมาขอรับ!”

เหลียงจางรู้สึกปลาบปลื้ม “เร็ว รีบไปเชิญท่านทูตมาที่นี่เร็ว!”

เขาพูดพลางถอยหลังสองก้าวไปยืนอยู่ข้างหลังองครักษ์มองดูหยางชูอย่างระแวดระวังแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หลานหยางคงคิดถึงฝ่าบาทมากรอเดี๋ยวก่อน ไม่แน่ว่าอาจมีข่าวของหลาน”

ตามหลักเหตุผลเมื่อท่านทูตมาถึงเขาควรออกไปต้อนรับ แต่เหลียงจางกลับไม่ขยับตัวซ้ำยังส่งสายตาให้ทหารชั้นยอดที่ช่วงสองสามวันนี้เดินวนรอบๆ เรือนทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจมาล้อมพวกเขาไว้

หยางชูดูประหลาดใจมาก “ท่านอาทำอะไรน่ะขอรับ ท่านไม่ออกไปต้อนรับท่านทูต แต่เหตุใดดูเหมือนจะลงมือกับหลานอย่างไรอย่างนั้นเช่นนี้ไม่ได้เรียกว่าการต้อนรับแล้ว”

เหลียงจางตัดสินใจนั่งไขว่ห้างลงบนเก้าอี้ผู้บัญชาการยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ หลังจากทนเป็นไอ้โง่อยู่หลายวันในที่สุดก็ได้ระบายความโกรธออกมา “หลานหยางไม่ต้องใจร้อน อีกไม่นานหลานก็ทราบแล้วอย่าโทษอาเลยนี่เป็นพระราชโองการ”

พูดจบเขาก็เห็นท่านทูตที่ถูกเชิญมาที่เรือนรับรองแขกจึงรีบเข้าไปทักทายอย่างยินดี “ที่แท้ก็เป็นหลิวกงกงนี่เอง ไม่เจอกันเสียนานเลยไม่ต้องห่วงขอรับ เด็กคนนี้ข้าควบคุมเอาไว้แล้วท่านค่อยๆ ประกาศได้เลย”

หลิวกงกงผู้นี้แปลกใจเขาไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูด “แม่ทัพเหลียง ท่านหมายความว่าอย่างไรหรือ ควบคุมตัวอะไรกัน อา..คุณชายสามท่านอยู่ที่นี่นี่เอง!” พูดจบก็คำนับให้อย่างแข็งขัน

…………

[1] ต่อให้เป็นรังเงินรังทองก็ไม่เท่ากับรังหมาของเรา : คนคนหนึ่งที่รักบ้านเกิดของตัวเอง ต่อให้สถานที่ต่างแดดเลิศหรูขนาดไหนเขาก็ไม่อยากไปอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+