คู่ชะตาบันดาลรัก 393 ตระกูลจง

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter 393 ตระกูลจง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชีวิตช่วงนี้ของหยางชูอธิบายได้เป็นสี่คำ คือ หรูหราที่สุด…

อาสวนอาจเกิดมีมโนธรรมขึ้นในใจเมื่อได้เผชิญหน้ากับหูเหรินพบว่าเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพรวมทั้งพวกโจรนั้นอ่อนแอเกินไปจึงพาพวกเขาออกไปฝึกบ่อย และล่าเหยื่อกลับมาเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ฤดูหนาวมาถึงแล้ว และหากหิมะตกที่ซีเป่ยก็ยากต่อการเคลื่อนย้าย พ่อค้าจำนวนมากบางคนต้องการขายตัดราคาสินค้าและกลับบ้าน บางคนวางแผนที่จะพักที่เกาถางในฤดูหนาว แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างแรกหรืออย่างหลังเกาถางก็ได้มาอยู่ในช่วงสูงสุดของการค้าขาย

สมบัติจากทั่วทุกมุมโลกถูกส่งไปยังวังไม่ขาดสายยังไม่ทันข้ามปีก็มีสินค้าจัดเตรียมล่วงหน้าแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์สำหรับคุณชายหยางสิ่งที่ทำให้เขาเดินดูเพลินจนลืมกลับบ้านมากที่สุดก็คือเตียงของเขา…

“คุณชาย” เสียงของอาหว่านดังมาจากนอกประตู “หยางทงกลับมาแล้วเจ้าค่ะ มีข่าวของท่านหนิงด้วย” หยางชูสบถเสียงต่ำเขาลุกขึ้นจากเตียง และสวมเสื้อผ้า หมิงเวยลืมตาแล้วขยี้ตาด้วยความง่วงงุน

“ไม่มีอะไร นอนต่อเถอะ” หยางชูลูบผมนาง

“อืม..” หมิงเวยไม่ฝืนต่อนางเอนตัวลงนอนต่อทันที

ความแข็งแกร่งของร่างกายนี้อ่อนแอกว่าหยางชูมากอย่างไรเสียเด็กโง่เขลาที่ถูกเลี้ยงมาหลายสิบปีนางที่เข้าร่างมารับช่วงต่อไม่ถึงสองปีฝึกฝนมาเพียงใดก็อยู่ตรงนั้นไม่เหมือนเขา ขี้เกียจจนไม่อยากลุกจากเตียงมันคือความลามกล้วนๆ…

นางนอนหลับอยู่ในความงุนงงเป็นเวลานาน และเมื่อตื่นขึ้นมาข้างนอกก็มืดเสียแล้ว หยางชูไม่ได้อยู่ในห้องซึ่งทำให้หมิงเวยรู้สึกแปลกใจยังจัดการเรื่องไม่เสร็จหรือ พอลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวจากนั้นก็เดินออกจากห้องพบว่าทุกคนอยู่ในห้องโถง

หมิงเวยก้าวเข้ามาในห้อง “เกิดอะไรขึ้นหรือ”

ผู้จัดการคำนับนางด้วยความสนิทสนมและความเคารพ “แม่นางหมิง”

หมิงเวยพยักหน้าแล้วมองไปยังขุนศึกนามหยางทง นางจำได้ว่าหยางทงและหนิงซิวออกไปด้วยกันพวกเขาออกจากที่นี่ไปได้ครึ่งเดือนแล้ว

“เกิดเรื่องกับอาจารย์หนิงหรือเจ้าคะ”

หยางชูพยักหน้า “หยางทงบอกว่าศิษย์พี่ถูกตระกูลจงจับกุมไว้”

หมิงเวยตกใจ “ตระกูลจง หมายถึงตระกูลจงแห่งไป๋เหมินเซี่ยงั้นหรือ”

“ซีเป่ยจะมีตระกูลจงไหนอีกเล่าแน่นอนว่าเป็นพวกเขา”

นางเลิกคิ้ว “ไม่ใช่ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับถนนการค้าซีเป่ย อาจารย์หนิงจึงไปจัดการกับข้อพิพาทมิใช่หรือเหตุใดถึงไปเกี่ยวข้องกับตระกูลจงได้เจ้าคะ”

เป็นอาสวนที่อธิบายว่า “เพราะตระกูลจงก็ปราบปรามพวกโจรเช่นกันขอรับ ครั้งนี้ท่านหนิงไปจัดการถ้ำโจรได้อย่างราบรื่น แต่บังเอิญพบกับตระกูลจงที่กำลังปราบปรามโจรอยู่บอกว่าเขาล้ำเส้นจึงถูกจับไป”

“อ้อ” หมิงเวยครุ่นคิด “ด้วยทักษะของอาจารย์หนิงหากต้องการหนีจริงก็หนีได้ แต่เขาไม่กลับมาเพราะไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นใช่หรือไม่”

“อืม” หยางชูขมวดคิ้ว “ศิษย์พี่นำคนไปสิบกว่าคนเขาสามารถหนีกลับมาเองได้ แต่คนอื่น…”

หมิงเวยมองหยางทง “แล้วเจ้าล่ะเป็นอาจารย์หนิงให้เจ้ากลับมารายงานหรือเป็นตระกูลจง”

หยางทงตอบ “ตระกูลจงให้ข้าน้อยกลับมาขอรับ”

“เช่นนั้นหรือ!” เรื่องนี้ชัดเจนแล้วหมิงเวยถาม “ตระกูลจงต้องการอะไรกัน”

หยางทงหันไปทางหยางชู “พวกเขาต้องการให้คุณชายไปรับคนด้วยตนเองขอรับ”

หมิงเวยสงสัย “เรื่องนี้ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือผ่านไปนานเพียงนี้แล้วพวกท่านยังต้องเจรจาอีกหรือว่ามีปัญหาอะไร”

หยางชูพูด “เรื่องนี้ง่ายมาก แต่การไปพบจงซู่นั้นไม่ง่ายเลย”

พูดกันตามตรงฮ่องเต้ส่งเขามาที่ซีเป่ยสิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือเขามีความสัมพันธ์กับจงซู่ เขาไปก่อเรื่องที่เป่ยเทียนเหมิน เหยียบหน้าเหลียงจาง แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นจงซู่ฮ่องเต้ก็คงใจดีต่อไปไม่ไหว อย่าทดสอบความไว้ใจของฮ่องเต้ไม่เช่นนั้นจะตายอย่างอนาถ

หมิงเวยถามด้วยความสงสัย “ตระกูลจงรู้เรื่องนี้ด้วยหรือไม่”

ในความคิดของฮ่องเต้ไม่เพียงแต่หยางชูเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ แต่ยังรวมถึงตระกูลจงด้วย พวกเขาควบคุมกองทัพฝ่ายซ้ายมาสามรุ่นแล้วคอยปกป้องไป๋เหมินเซี่ย ในเมื่อมีทั้งความดีความชอบทางด้านทหารมีทั้งชื่อเสียงดีกว่าเหลียงจางเสียอีก

ครอบครัวทหารเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นขุนนางคนสำคัญที่ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ แต่ยังเป็นคนที่ต้องคอยระวังด้วย

ตระกูลจงเป็นคนที่รู้ความมาโดยตลอดบุรุษถูกส่งไปชายแดนตอนอายุสิบสอง ส่วนเด็กและสตรีไม่สามารถออกจากเมืองหลวงได้จนกว่าจะตายไม่ผูกมิตรกับขุนนางคนสำคัญไม่แต่งงานกับชนชั้นสูง

ความหมายของชีวิตสำหรับครอบครัวคือการปกป้องประตูซีเป่ยไม่ทำการเกินสถานะใช้ชีวิตเป็นแบบอย่างของขุนนางที่ซื่อสัตย์และเป็นแม่ทัพที่ดี

ผู้จัดการพูดช้าๆ ว่า “ที่แม่นางหมิงกล่าวมาข้าน้อยก็คิดว่าผิดปกติ ตระกูลจงระวังตัวมากคุณชายถูกลดตำแหน่ง และขับไล่ออกจากเมืองหลวง พวกเขาต้องเคยได้ยินข่าวนี้มาบ้างตามเหตุผลแล้วพวกเขาควรอยู่ห่างๆ ไม่ควรคิดติดต่อกับคุณชาย”

หมิงเวยจำได้ว่าหยางชูถูกลดตำแหน่งและถูกส่งมาที่เกาถาง เหลียงจางเคยส่งคนมาแสดงความเห็นอกเห็นใจ แต่จงซู่ไม่เคยพูดอะไรเลยราวกับว่าเขาเป็นเพียงคนดูแลม้าที่ไม่มีความสำคัญอะไรไม่คิดที่จะเกี่ยวข้องกับเขา ซึ่งเป็นรูปแบบที่สอดคล้องกับจงซู่แสดงให้เห็นว่าเขามีความชัดเจนในใจ

“เช่นนั้นเรื่องในครั้งนี้แปลกจริงๆ ท่านหนิงถูกตระกูลจงจับไปจริงๆ หรือ”

“จริงขอรับ” หยางทงตอบ “ผู้ที่จับกุมท่านหนิงคือจงรุ่ย คุณชายใหญ่ตระกูลจง ข้าน้อยเคยเห็นเขามาก่อนจำไม่ผิดแน่นอนขอรับ อีกอย่างผู้ที่เขาพามาล้วนเป็นทหารตระกูลจงจริงๆ”

ขุนศึกของตระกูลหยางล้วนเป็นบุคคลที่องค์หญิงใหญ่และผู้เฒ่าโหวสั่งสอนมากับมือ ในด้านนี้วิสัยทัศน์ของพวกเขาไม่ผิดแน่ จะสู้รบได้หรือไม่เป็นทหารฝีมือดีหรือไม่แค่มองก็รู้แล้ว

“เรื่องนี้น่าสนใจ…” หมิงเวยมองหยางชู “ท่านคิดว่าอย่างไรเจ้าคะ”

หยางชูกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ศิษย์พี่อยู่ในมือของพวกเขาแน่นอนว่าต้องไป เพียงแต่จะไปอย่างไรต้องคิดให้รอบคอบ”

หมิงเวยยิ้ม “ข้าเห็นว่าเรื่องนี้ง่ายมากพวกท่านไม่ต้องคิดซับซ้อนหรอก” ทุกคนมองมาที่นาง

นางพูดว่า “คุณชายตระกูลจงไม่ได้บอกหรือว่าพวกเราล้ำเส้น” นางเน้นคำว่า ล้ำเส้น อย่างหนักแน่น

อาสวนเข้าใจทันที “จริงสิ! พวกเขาเริ่มปราบปรามกลุ่มโจรอย่างจริงจังมาสองสามเดือนแล้ว”

กองทัพตระกูลจงแข็งแกร่งมาก แต่เหตุใดถึงไม่สามารถปราบโจรแข็งแกร่งได้ หนึ่งคือโจรเหล่านี้มีไหวพริบ และอีกประการหนึ่งคือพวกเขาไม่ได้มีความกล้าที่จะบุก หน้าที่ของกองทัพซีเป่ยคือการปกป้องชายแดน การปราบปรามโจรเป็นหน้าที่ของทางการ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ทำอะไรมากในการปราบปรามโจรมีเพียงแค่การรับมือเล็กน้อยเท่านั้น

ทันทีที่หยางชูมาเขาก็กำจัดโจรทั้งหมดบนภูเขาเหยียนซานดังนั้นกองทัพฝ่ายขวาจึงเริ่มปราบปรามกลุ่มโจรอย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อคิดว่ามีคนนำหน้าไปก่อนตระกูลจงกล้าที่จะลงมือด้วยความมั่นใจ

ตอนนี้พอมาคิดดูก็เตรียมการมาเพื่อวันนี้ การปราบปรามโจรมีประโยชน์มากมาย นอกจากยึดสินค้าที่ขโมยมาแล้วยังมีข้อเสนอของพ่อค้า และผลประโยชน์อื่นๆ ที่เกิดจากการเปิดเส้นทางการค้าอีกด้วย

ผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายมีความขัดแย้ง และความขัดแย้งเกิดขึ้นดูเหมือนเข้าใจง่าย

หยางชูคิดออกแล้วหัวเราะ “พวกเขาเตรียมการนานเช่นนี้เพียงเพื่อหาเหตุผล ได้! ข้าจะช่วยให้พวกเขาบรรลุผลเอง!”

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

คู่ชะตาบันดาลรัก 393 ตระกูลจง

Now you are reading คู่ชะตาบันดาลรัก Chapter 393 ตระกูลจง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชีวิตช่วงนี้ของหยางชูอธิบายได้เป็นสี่คำ คือ หรูหราที่สุด…

อาสวนอาจเกิดมีมโนธรรมขึ้นในใจเมื่อได้เผชิญหน้ากับหูเหรินพบว่าเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพรวมทั้งพวกโจรนั้นอ่อนแอเกินไปจึงพาพวกเขาออกไปฝึกบ่อย และล่าเหยื่อกลับมาเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ฤดูหนาวมาถึงแล้ว และหากหิมะตกที่ซีเป่ยก็ยากต่อการเคลื่อนย้าย พ่อค้าจำนวนมากบางคนต้องการขายตัดราคาสินค้าและกลับบ้าน บางคนวางแผนที่จะพักที่เกาถางในฤดูหนาว แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างแรกหรืออย่างหลังเกาถางก็ได้มาอยู่ในช่วงสูงสุดของการค้าขาย

สมบัติจากทั่วทุกมุมโลกถูกส่งไปยังวังไม่ขาดสายยังไม่ทันข้ามปีก็มีสินค้าจัดเตรียมล่วงหน้าแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์สำหรับคุณชายหยางสิ่งที่ทำให้เขาเดินดูเพลินจนลืมกลับบ้านมากที่สุดก็คือเตียงของเขา…

“คุณชาย” เสียงของอาหว่านดังมาจากนอกประตู “หยางทงกลับมาแล้วเจ้าค่ะ มีข่าวของท่านหนิงด้วย” หยางชูสบถเสียงต่ำเขาลุกขึ้นจากเตียง และสวมเสื้อผ้า หมิงเวยลืมตาแล้วขยี้ตาด้วยความง่วงงุน

“ไม่มีอะไร นอนต่อเถอะ” หยางชูลูบผมนาง

“อืม..” หมิงเวยไม่ฝืนต่อนางเอนตัวลงนอนต่อทันที

ความแข็งแกร่งของร่างกายนี้อ่อนแอกว่าหยางชูมากอย่างไรเสียเด็กโง่เขลาที่ถูกเลี้ยงมาหลายสิบปีนางที่เข้าร่างมารับช่วงต่อไม่ถึงสองปีฝึกฝนมาเพียงใดก็อยู่ตรงนั้นไม่เหมือนเขา ขี้เกียจจนไม่อยากลุกจากเตียงมันคือความลามกล้วนๆ…

นางนอนหลับอยู่ในความงุนงงเป็นเวลานาน และเมื่อตื่นขึ้นมาข้างนอกก็มืดเสียแล้ว หยางชูไม่ได้อยู่ในห้องซึ่งทำให้หมิงเวยรู้สึกแปลกใจยังจัดการเรื่องไม่เสร็จหรือ พอลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวจากนั้นก็เดินออกจากห้องพบว่าทุกคนอยู่ในห้องโถง

หมิงเวยก้าวเข้ามาในห้อง “เกิดอะไรขึ้นหรือ”

ผู้จัดการคำนับนางด้วยความสนิทสนมและความเคารพ “แม่นางหมิง”

หมิงเวยพยักหน้าแล้วมองไปยังขุนศึกนามหยางทง นางจำได้ว่าหยางทงและหนิงซิวออกไปด้วยกันพวกเขาออกจากที่นี่ไปได้ครึ่งเดือนแล้ว

“เกิดเรื่องกับอาจารย์หนิงหรือเจ้าคะ”

หยางชูพยักหน้า “หยางทงบอกว่าศิษย์พี่ถูกตระกูลจงจับกุมไว้”

หมิงเวยตกใจ “ตระกูลจง หมายถึงตระกูลจงแห่งไป๋เหมินเซี่ยงั้นหรือ”

“ซีเป่ยจะมีตระกูลจงไหนอีกเล่าแน่นอนว่าเป็นพวกเขา”

นางเลิกคิ้ว “ไม่ใช่ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับถนนการค้าซีเป่ย อาจารย์หนิงจึงไปจัดการกับข้อพิพาทมิใช่หรือเหตุใดถึงไปเกี่ยวข้องกับตระกูลจงได้เจ้าคะ”

เป็นอาสวนที่อธิบายว่า “เพราะตระกูลจงก็ปราบปรามพวกโจรเช่นกันขอรับ ครั้งนี้ท่านหนิงไปจัดการถ้ำโจรได้อย่างราบรื่น แต่บังเอิญพบกับตระกูลจงที่กำลังปราบปรามโจรอยู่บอกว่าเขาล้ำเส้นจึงถูกจับไป”

“อ้อ” หมิงเวยครุ่นคิด “ด้วยทักษะของอาจารย์หนิงหากต้องการหนีจริงก็หนีได้ แต่เขาไม่กลับมาเพราะไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นใช่หรือไม่”

“อืม” หยางชูขมวดคิ้ว “ศิษย์พี่นำคนไปสิบกว่าคนเขาสามารถหนีกลับมาเองได้ แต่คนอื่น…”

หมิงเวยมองหยางทง “แล้วเจ้าล่ะเป็นอาจารย์หนิงให้เจ้ากลับมารายงานหรือเป็นตระกูลจง”

หยางทงตอบ “ตระกูลจงให้ข้าน้อยกลับมาขอรับ”

“เช่นนั้นหรือ!” เรื่องนี้ชัดเจนแล้วหมิงเวยถาม “ตระกูลจงต้องการอะไรกัน”

หยางทงหันไปทางหยางชู “พวกเขาต้องการให้คุณชายไปรับคนด้วยตนเองขอรับ”

หมิงเวยสงสัย “เรื่องนี้ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือผ่านไปนานเพียงนี้แล้วพวกท่านยังต้องเจรจาอีกหรือว่ามีปัญหาอะไร”

หยางชูพูด “เรื่องนี้ง่ายมาก แต่การไปพบจงซู่นั้นไม่ง่ายเลย”

พูดกันตามตรงฮ่องเต้ส่งเขามาที่ซีเป่ยสิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือเขามีความสัมพันธ์กับจงซู่ เขาไปก่อเรื่องที่เป่ยเทียนเหมิน เหยียบหน้าเหลียงจาง แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นจงซู่ฮ่องเต้ก็คงใจดีต่อไปไม่ไหว อย่าทดสอบความไว้ใจของฮ่องเต้ไม่เช่นนั้นจะตายอย่างอนาถ

หมิงเวยถามด้วยความสงสัย “ตระกูลจงรู้เรื่องนี้ด้วยหรือไม่”

ในความคิดของฮ่องเต้ไม่เพียงแต่หยางชูเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ แต่ยังรวมถึงตระกูลจงด้วย พวกเขาควบคุมกองทัพฝ่ายซ้ายมาสามรุ่นแล้วคอยปกป้องไป๋เหมินเซี่ย ในเมื่อมีทั้งความดีความชอบทางด้านทหารมีทั้งชื่อเสียงดีกว่าเหลียงจางเสียอีก

ครอบครัวทหารเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นขุนนางคนสำคัญที่ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ แต่ยังเป็นคนที่ต้องคอยระวังด้วย

ตระกูลจงเป็นคนที่รู้ความมาโดยตลอดบุรุษถูกส่งไปชายแดนตอนอายุสิบสอง ส่วนเด็กและสตรีไม่สามารถออกจากเมืองหลวงได้จนกว่าจะตายไม่ผูกมิตรกับขุนนางคนสำคัญไม่แต่งงานกับชนชั้นสูง

ความหมายของชีวิตสำหรับครอบครัวคือการปกป้องประตูซีเป่ยไม่ทำการเกินสถานะใช้ชีวิตเป็นแบบอย่างของขุนนางที่ซื่อสัตย์และเป็นแม่ทัพที่ดี

ผู้จัดการพูดช้าๆ ว่า “ที่แม่นางหมิงกล่าวมาข้าน้อยก็คิดว่าผิดปกติ ตระกูลจงระวังตัวมากคุณชายถูกลดตำแหน่ง และขับไล่ออกจากเมืองหลวง พวกเขาต้องเคยได้ยินข่าวนี้มาบ้างตามเหตุผลแล้วพวกเขาควรอยู่ห่างๆ ไม่ควรคิดติดต่อกับคุณชาย”

หมิงเวยจำได้ว่าหยางชูถูกลดตำแหน่งและถูกส่งมาที่เกาถาง เหลียงจางเคยส่งคนมาแสดงความเห็นอกเห็นใจ แต่จงซู่ไม่เคยพูดอะไรเลยราวกับว่าเขาเป็นเพียงคนดูแลม้าที่ไม่มีความสำคัญอะไรไม่คิดที่จะเกี่ยวข้องกับเขา ซึ่งเป็นรูปแบบที่สอดคล้องกับจงซู่แสดงให้เห็นว่าเขามีความชัดเจนในใจ

“เช่นนั้นเรื่องในครั้งนี้แปลกจริงๆ ท่านหนิงถูกตระกูลจงจับไปจริงๆ หรือ”

“จริงขอรับ” หยางทงตอบ “ผู้ที่จับกุมท่านหนิงคือจงรุ่ย คุณชายใหญ่ตระกูลจง ข้าน้อยเคยเห็นเขามาก่อนจำไม่ผิดแน่นอนขอรับ อีกอย่างผู้ที่เขาพามาล้วนเป็นทหารตระกูลจงจริงๆ”

ขุนศึกของตระกูลหยางล้วนเป็นบุคคลที่องค์หญิงใหญ่และผู้เฒ่าโหวสั่งสอนมากับมือ ในด้านนี้วิสัยทัศน์ของพวกเขาไม่ผิดแน่ จะสู้รบได้หรือไม่เป็นทหารฝีมือดีหรือไม่แค่มองก็รู้แล้ว

“เรื่องนี้น่าสนใจ…” หมิงเวยมองหยางชู “ท่านคิดว่าอย่างไรเจ้าคะ”

หยางชูกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ศิษย์พี่อยู่ในมือของพวกเขาแน่นอนว่าต้องไป เพียงแต่จะไปอย่างไรต้องคิดให้รอบคอบ”

หมิงเวยยิ้ม “ข้าเห็นว่าเรื่องนี้ง่ายมากพวกท่านไม่ต้องคิดซับซ้อนหรอก” ทุกคนมองมาที่นาง

นางพูดว่า “คุณชายตระกูลจงไม่ได้บอกหรือว่าพวกเราล้ำเส้น” นางเน้นคำว่า ล้ำเส้น อย่างหนักแน่น

อาสวนเข้าใจทันที “จริงสิ! พวกเขาเริ่มปราบปรามกลุ่มโจรอย่างจริงจังมาสองสามเดือนแล้ว”

กองทัพตระกูลจงแข็งแกร่งมาก แต่เหตุใดถึงไม่สามารถปราบโจรแข็งแกร่งได้ หนึ่งคือโจรเหล่านี้มีไหวพริบ และอีกประการหนึ่งคือพวกเขาไม่ได้มีความกล้าที่จะบุก หน้าที่ของกองทัพซีเป่ยคือการปกป้องชายแดน การปราบปรามโจรเป็นหน้าที่ของทางการ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ทำอะไรมากในการปราบปรามโจรมีเพียงแค่การรับมือเล็กน้อยเท่านั้น

ทันทีที่หยางชูมาเขาก็กำจัดโจรทั้งหมดบนภูเขาเหยียนซานดังนั้นกองทัพฝ่ายขวาจึงเริ่มปราบปรามกลุ่มโจรอย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อคิดว่ามีคนนำหน้าไปก่อนตระกูลจงกล้าที่จะลงมือด้วยความมั่นใจ

ตอนนี้พอมาคิดดูก็เตรียมการมาเพื่อวันนี้ การปราบปรามโจรมีประโยชน์มากมาย นอกจากยึดสินค้าที่ขโมยมาแล้วยังมีข้อเสนอของพ่อค้า และผลประโยชน์อื่นๆ ที่เกิดจากการเปิดเส้นทางการค้าอีกด้วย

ผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายมีความขัดแย้ง และความขัดแย้งเกิดขึ้นดูเหมือนเข้าใจง่าย

หยางชูคิดออกแล้วหัวเราะ “พวกเขาเตรียมการนานเช่นนี้เพียงเพื่อหาเหตุผล ได้! ข้าจะช่วยให้พวกเขาบรรลุผลเอง!”

……………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+