คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา 645 อ้อมซีหลิน / 646 ซูฉุน

Now you are reading คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา Chapter 645 อ้อมซีหลิน / 646 ซูฉุน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 645 อ้อม​ซีหลิน​

“ทว่า​เวลา​นั้น​จะอยู่​ห่าง​จาก​ค่ายทหาร​ลาดตระเวน​ไม่ถึงห้า​ลี้​ แม้จะเป็น​สถานที่​ที่​ดีมาก​ แต่กลับ​เสี่ยง​ถูก​จับได้​อย่างยิ่ง​ เมื่อ​ดึงดูด​คน​จาก​ค่ายทหาร​ลาดตระเวน​มาได้​ สถานที่​ที่​ดี​ก็​กลายเป็น​สถานที่​ที่​อันต​รายได้​เช่นกัน​”

“นิสัย​ของ​ฉู่เฟิงนั้น​ เขา​มักจะ​ทำ​อะไร​ด้วย​ความมั่นคง​ ไม่มีทาง​เกิด​ความเสี่ยง​เช่นนั้น​ได้​ ดังนั้น​เขา​ต้อง​ไม่สั่งให้​คน​ไปซุ่มจู่โจมที่​ภูเขา​ผา​น​หลง​แน่นอน​”

ฟู่เจิงมอง​แผนที่​ พลัน​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “หาก​ไม่ใช่ภูเขา​ผา​น​หลง​ เช่นนั้น​ก็​เป็น​เนิน​ม้าวิ่ง​แล้ว​”

หู​เฟิงพยักหน้า​ “ถูกต้อง​ เนิน​ม้าวิ่ง​นี่แหละ​ ที่นี่​อาจจะ​ดู​ธรรมดา​ ไม่มีอะไร​ผิดปกติ​ ทว่า​ความจริง​แล้ว​ระหว่างทาง​มีจุด​ที่​อันตราย​อยู่​ ขอ​เพียง​อยาก​ลงมือ​อย่าง​โหดเหี้ยม​กับ​ใคร​บน​เส้นทาง​นี้​ การ​จู่โจมครั้งนี้​ก็​เหมาะสม​กับ​ความต้องการ​ของ​พวกเขา​พอดี​”

“เช่นนั้น​พวกเรา​ควร​ทำ​เช่นไร​ดี​ขอรับ​” โจว​กัง​ถาม

“ก่อน​จะเข้า​เมืองหลวง​ ข้า​ไม่อยาก​ให้​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​อีก​ ข้า​ไม่มีเวลา​มาเสีย​ให้​เขา​ พรุ่งนี้​อ้อม​ไปทาง​ซีหลิน​ แล้ว​ค่อย​เปลี่ยนเส้นทาง​มุ่งหน้า​เข้า​เมืองหลวง​” หู​เฟิงกล่าว​ ตอนนี้​เขา​เพียง​อยาก​กลับ​ไปพบ​เสด็จ​พ่อ​โดยเร็ว​ เสร็จ​เรื่อง​แล้ว​จะได้​ไปตามหา​จื่อเอ๋อร์​และ​หู​จ่างหลิน​ หาก​ฉู่เฟิงต้องการ​ประมือ​กับ​เขา​ เช่นนั้น​ก็​รอ​หน่อย​แล้วกัน​ ตอนนี้​ยัง​ไม่ถึงเวลา​

“เจ้าว่า​อะไร​นะ​ เขา​ไม่มา? เป็นไปได้​อย่างไร​” ฉู่เฟิงถลึงตา​มอง​องครักษ์​เบื้องหน้า​อย่าง​ดุดัน​

องครักษ์​พลัน​ลนลาน​ “ท่าน​อ๋อง​ ข้าน้อย​ส่งคน​ไปสืบ​ดู​บน​เส้นทาง​ก่อนที่​พวกเขา​จะหาย​ไปร้อย​ลี้​ พบ​ว่า​พวกเขา​ตั้งค่าย​ที่​ริมแม่น้ำ​ ตามหลักการ​แล้ว​เนิน​ม้าวิ่ง​เป็น​เส้นทาง​ที่​จำเป็น​สำหรับ​พวกเขา​ ทว่า​พวกเขา​กลับ​หาย​ไปที่ไหน​ก็​ไม่รู้​”

ฉู่เฟิงนั่งลง​บน​เก้าอี้​ดังเดิม​ โทสะ​ปะทุ​ชัดเจน​ “เขา​ต้อง​เปลี่ยน​ทาง​แน่​ ข้า​ควรจะ​คิด​ไว้​แต่แรก​ว่า​จะเป็น​เช่นนั้น​” จาก​ประสบการณ์​บน​สนามรบ​อัน​เนิ่นนาน​ของ​ฉู่เยี่ยน​ เขา​จะเดา​ไม่ออก​ได้​เช่นไร​ ว่า​จะมีการ​ซุ่มจู่โจมระหว่างทาง​ ฉลาด​นัก​ ใช้ศาสตร์​การ​รบ​มาคิด​วิเคราะห์​ เดา​ได้​ว่า​ตน​จะให้​ทหาร​ซุ่มอยู่​ที่​เนิน​ม้าวิ่ง​ เขา​ควรจะ​คิดได้​เช่นนี้​ตั้งแต่​ทีแรก​แล้ว​เชียว​

“ค้นหา​ต่อไป​!”

องครักษ์​เพิ่ง​ออก​ไปได้​ไม่ทัน​ องครักษ์​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​มารายงาน​ “ท่าน​อ๋อง​ จิ้น​อ๋อง​เข้า​เมืองหลวง​แล้ว​ขอรับ​”

ฉู่เฟิงไม่ได้​แปลกใจ​มาก​นัก​ ใน​เมื่อ​เดิน​ทางอ้อม​ หลีกเลี่ยง​การ​ซุ่มจู่โจมของ​เขา​ได้​ จะเข้า​เมืองหลวง​มาได้​ก็​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ ดูท่า​ตอนนี้​เขา​ต้องหา​โอกาส​อื่น​เสียแล้ว​

“รู้​แล้ว​ ออก​ไปเถอะ​ ไปประกาศ​ให้​ทุกคน​รู้​ เรียก​เหล่า​พี่น้อง​ที่อยู่​ข้างนอก​นั่น​กลับมา​”

หลังจาก​องครักษ์​ออก​ไป ฉู่เฟิงก็​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​ชุด​ใหม่​ทันที​ แล้ว​รีบ​เข้า​วังหลวง​ไป

ตำหนัก​ชิ่งอัน​

ฉุน​ฮองเฮา​กำลัง​นอน​กลางวัน​ ก่อน​จะมีนางกำนัล​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​ “ฮองเฮา​ เซียว​อ๋อง​รอ​พบ​อยู่​ด้านนอก​เพคะ​”

“มีเรื่อง​อะไร​ถึงได้​รีบร้อน​เพียงนี้​” เฟิงเอ๋อร์​ไม่เคย​เข้า​วัง​ในเวลานี้​มาก่อน​ จะต้อง​มีเรื่องด่วน​เป็นแน่​

“ให้​เขา​เข้ามา​เถอะ​” นาง​ลง​จาก​เตียง​ โดย​มีนางกำนัล​คน​หนึ่ง​หยิบ​เสื้อผ้า​เข้ามา​ให้​ทันที​ ทว่า​ยัง​ไม่ได้​ใส่ให้​เสร็จ​ดี​ ฉู่เฟิงก็​ย่างเท้า​เข้ามา​ภายใน​ตำหนัก​แล้ว​

“เสด็จ​แม่!” ฉู่เฟิงทำ​หน้า​เคร่ง​ ก่อน​จะโค้ง​กาย​ทำความเคารพ​นาง​

ซูฉุน​เอ่ย​ว่า​ “ไม่ต้อง​มาก​พิธี​ นั่ง​เถอะ​!”

ไหน​เลย​ตอนนี้​ฉู่เฟิงจะมีกะใจ​เอ่ย​วาจา​มากความ​ เขา​เร่ง​กล่าวว่า​ “เสด็จ​แม่ ฉู่เยี่ยน​เข้า​เมืองหลวง​แล้ว​พ่ะย่ะค่ะ​”

ดวงตา​ดุจ​หงส์​ที่​กำลัง​หรี่​ลง​พลัน​เบิกโพลง​โดยพลัน​ แววตา​เย็นเยียบ​จับจ้อง​ที่​บน​ใบหน้า​ของ​โอรส​ “เจ้าว่า​อะไร​นะ​”

ฉู่เฟิงมอง​นางกำนัล​และ​ขันที​ที่อยู่​ใน​ตำหนัก​ครั้งหนึ่ง​ ทว่า​ไม่ได้​พูด​อะไร​

ซูฉุน​จึงโบกมือ​ “ออก​ไปให้​หมด​!”

ภายใน​ตำหนัก​ที่​โอ่โถง​เหลือ​เพียง​สอง​แม่ลูก​

ซูฉุน​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ ชาถ้วย​ใหม่​บน​โต๊ะ​ด้าน​ข้าง​กำลัง​ปล่อย​ควัน​ร้อน​ๆ มัน​เป็น​รูปแบบ​การชงชา​ที่​นาง​ชื่นชอบ​ที่สุด​ ทว่า​เวลานี้​นาง​ไม่มีอารมณ์​จิบ​ชาแล้ว​

“เจ้าบอ​กว่า​เตรียมการ​เอาไว้​แล้ว​ และ​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​เขา​เข้า​เมืองหลวง​ได้​แน่นอน​ไม่ใช่หรือ​ แท้จริง​แล้ว​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​” ซูฉุน​รีบ​ถาม

ฉู่เฟิงเอง​ก็​มีสีหน้า​อัดอั้น​ “กระหม่อม​เตรียมการ​เอาไว้​แล้ว​พ่ะย่ะค่ะ​ แต่​ใคร​จะรู้​ว่า​เขา​จะเปลี่ยนเส้นทาง​กลาง​กัน​ การ​เตรียมการ​ของ​กระหม่อม​จึงล้ม​ไม่เป็นท่า​ ตอนนี้​เขา​เข้า​เมืองหลวง​มาแล้ว​ พูด​เรื่อง​นี้​ไปก็​ไม่มีประโยชน์​แล้ว​พ่ะย่ะค่ะ​ สู้คิด​ว่า​ต่อไป​จะทำ​เช่นไร​ดีกว่า​”

……….

 

ตอนที่​ 646 ซูฉุน​

ซูฉุน​ขมวดคิ้ว​ สีหน้า​คร่ำเคร่ง​ “ตั้งแต่​รู้​ว่า​ฉู่เยี่ยน​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ อาการป่วย​ของ​เสด็จ​พ่อเจ้า​ก็​ดีขึ้น​โดย​ไม่ต้อง​พึ่ง​ยา​รักษา​ ช่วงนี้​ภายใน​ราชสำนัก​ก็​เริ่ม​ปูทาง​เพื่อ​เขา​แล้ว​ เรื่อง​พวก​นี้​เจ้าล้วน​รู้ดี​ เจ้าทำ​พลาด​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​กัน​”

ฉูเฟิงกล่าวว่า​ “เสด็จ​แม่ พวกเรา​จัดการ​เรื่อง​ต่างๆ​ มาตั้ง​หลาย​ปี บัดนี้​มีคน​ที่​ใช้ประโยชน์​ได้​อยู่​ใน​กำมือ​ไม่น้อย​เช่นกัน​ หรือยัง​กลัว​ว่า​ลูก​คน​นี้​จะทำ​ไม่สำเร็จ​”

“เจ้าอย่า​หู​ตา​ฝ้าฟางนัก​เลย​ เหตุผล​ที่​คน​ที่อยู่​ใน​กำมือ​เจ้าเหล่านั้น​ใช้ประโยชน์​ได้​ เจ้าไม่รู้​เลย​หรือ​ นั่น​เป็น​เพราะ​ฉู่เยี่ยน​ไม่อยู่​อย่างไรเล่า​ เสด็จ​พ่อ​ของ​เจ้าก็​ยินยอม​โดย​ดุษณี​เช่นกัน​ พวกเขา​ถึงได้​ยอมให้​เจ้าออกคำสั่ง​ได้​ ทว่า​ตอนนี้​ฉู่เยี่ยน​กลับมา​แล้ว​ สายตา​ของ​เสด็จ​พ่อเจ้า​ย่อม​ไม่อยู่​ที่​เจ้าอีก​ คน​ที่​ฉลาด​คิด​หน่อย​จะยัง​ยอมให้​เจ้าใช้งาน​อีก​หรือ​ไร​” ซูฉุน​เอ่ย​พลาง​ถลึงตา​ใส่โอรส​ไปด้วย​

สีหน้า​ของ​ฉู่เฟิงเริ่ม​ร้อนใจ​ “เสด็จ​แม่ หรือว่า​จะไม่มีหนทาง​อื่น​แล้ว​”

ซูฉุน​คิด​คำนวณ​ จู่ๆ ก็​เอ่ย​ขึ้น​ “ก็​ใช่ว่า​จะไม่มีวิธี​”

“เสด็จ​แม่บอก​ลูก​เถอะ​!” ฉู่เฟิงเงี่ย​หูฟัง​โดยพลัน​

“หลาย​วันก่อน​จวน​ชางหยวน​โหว​พา​หญิงสาว​กลับมา​คน​หนึ่ง​ เจ้ารู้เรื่อง​นี้​หรือไม่​” ซูฉุน​ถาม

ฉู่เฟิงพยักหน้า​ “ได้ยิน​มาเช่นกัน​พ่ะย่ะค่ะ​ ว่า​กัน​ว่า​เป็น​เด็กหญิง​เมื่อ​สิบ​สามปีก่อน​ ตอนนั้น​พูด​กัน​ว่า​นาง​ตาย​ไปแล้ว​ ไย​ตอนนี้​ถึงมีชีวิต​อยู่​กัน​”

ซูฉุน​แค่น​หัวเราะ​เสียง​เย็น​ “เรื่อง​คาว​ๆ เช่นนี้​ พูด​ไปพูด​มาก็​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​น่า​พูด​เท่าไร​ ทว่า​เรื่อง​เหล่านั้น​ไม่สำคัญ​ ที่​สำคัญ​ก็​คือ​หญิงสาว​คน​นี้​กลับมา​แล้ว​ นาง​ถือว่า​เป็น​หลานสาว​ของ​ตง​ฟางมู่ คู่หมั้น​ของ​ฉู่เยี่ยน​ ตง​ฟางมู่เป็น​คน​เช่นไร​ เจ้าคงจะ​รู้ดี​กระมัง​”

“เสด็จ​แม่โปรด​พูด​ตามตรง​” ฉู่เฟิงไม่ค่อย​เข้าใจ​นัก​

“อิทธิพล​ของ​ตง​ฟางมู่ใน​ราชสำนัก​นั้น​ สามารถ​พูด​ได้​แค่​ว่า​ย่ำเท้า​เพียง​หนึ่ง​ ก็​สามารถ​สั่นสะเทือน​ได้​ถึงสาม เสด็จ​พ่อ​ของ​เจ้าเชื่อใจ​เขา​เป็น​อย่างยิ่ง​เช่นกัน​ แม้จะพูดว่า​พึ่งพาอาศัย​เขา​ก็​ไม่เกินไป​ ตอนนั้น​ฉู่เยี่ยน​ถูก​ส่งไปที่​เขา​ฉีอวิ๋น​ ถือได้ว่า​เขา​เลี้ยงดู​ไท่จื่อ​ ดังนั้น​ตง​ฟางมู่ถึงได้​ตกลง​หมั้น​หมาย​ฉู่เยี่ยน​กับ​เด็กหญิง​คน​นั้น​อย่าง​ลับ​ๆ ได้​”

“ขอ​เพียง​เจ้าได้รับ​การ​สนับสนุน​ของ​ตง​ฟางมู่ ฉู่เยี่ยน​ก็​ไม่มีค่า​อะไร​แล้ว​”

ฉู่เฟิงเข้าใจ​โดยพลัน​ “ความหมาย​ของ​เสด็จ​แม่ก็​คือ​ ให้​ลูก​ไปตีสนิท​กับ​หญิงสาว​นาง​นั้น​ หาก​ได้​นาง​มาครอบครอง​ ก็​ถือว่า​ได้​ครอง​ใต้​หล้า​แล้ว​ใช่หรือไม่​”

ซูฉุน​พยักหน้า​ “ถูกต้อง​ ตง​ฟางมู่มีบุตรี​เพียง​คนเดียว​ เขา​รัก​และ​เอ็นดู​นาง​ที่สุด​ บัดนี้​หลานสาว​กลับมา​แล้ว​ เขา​จะไม่รัก​และ​เอ็นดู​บ้าง​หรือ​ไร​ ฝ่าบาท​และ​สกุล​เผย​ไม่มีทาง​ยกเลิก​งานมงคล​ แต่​หาก​หญิงสาว​ผู้​นั้น​ต้องการ​ยกเลิก​เอง​ก็​ว่า​ไปอย่าง​”

“เสด็จ​แม่ปราดเปรื่อง​นัก​ ลูก​จะจัด​การตาม​นี้​พ่ะย่ะค่ะ​” ฉูเฟิงเข้าใจ​แจ่มแจ้งแล้ว​ จึงยก​นิ้วโป้ง​ให้​ผู้​เป็น​มารดา​

ซูฉุน​เอ่ย​อี​กว่า​ “อย่า​ได้​ทำ​เรื่อง​นี้​โจ่งแจ้งเกินไป​เป็นการ​ดี​ที่สุด​ เอา​อย่างนี้​ วันหน้า​ข้า​จะหา​ข้ออ้าง​เชิญหญิงสาว​นาง​นั้น​เข้า​วัง​ ถึงตอนนั้น​แล้ว​เจ้าก็​ค่อย​มาสมทบ​แล้วกัน​”

ฉู่เฟิงยิ้ม​รับ​ “เสด็จ​แม่รอบคอบ​ยิ่ง​”

“นายใหญ่​ อีก​สอง​ลี้​จะถึงเมืองหลวง​แล้ว​ขอรับ​” องครักษ์​กล่าว​กับ​ตง​ฟางมู่ที่อยู่​ข้างใน​รถม้า​

ตง​ฟางมู่บอก​ให้​รถม้า​หยุด​ก่อน​ แล้ว​ลอด​กาย​ออก​มาจาก​ใน​ตัว​รถ​ ต้องการ​ม้าตัว​หนึ่ง​ขึ้น​ขี่​ “นั่ง​รถม้า​มาหลาย​วัน​แล้ว​ ควรจะ​ยืดเส้นยืดสาย​บ้าง​แล้ว​เช่นกัน​” หาก​ไม่ใช่เพราะ​ไป๋จื่อ​ยืนกราน​ เขา​คง​ไม่ยอม​นั่ง​รถม้า​เช่นนี้​แน่​ ทว่า​อุดอู้​อยู่​ใน​รถม้า​ ไหน​เลย​จะสบาย​ตัว​เท่ากับ​นั่ง​อยู่​บน​หลัง​ม้ากัน​

เขา​ขี่ม้า​นำหน้า​รถม้า​ของ​ตง​ฟางหว่าน​เอ๋อร์​ ก่อน​จะถามด้านใน​ “หว่าน​เอ๋อร์​ ข้างหน้า​นี้​เป็น​เมืองหลวง​แล้ว​ เจ้ายังไหว​หรือไม่​”

ตง​ฟางหว่าน​เอ๋อร์​เลิก​ม่าน​ ยิ้ม​ตอบ​บิดา​ “ท่าน​พ่อ​ ข้า​ยังไหว​เจ้าค่ะ​ ไย​ท่าน​ถึงออก​ไปอีกแล้ว​เล่า​”

ตง​ฟางมู่หัวเราะ​ฮ่าๆ “พ่อ​นั่ง​รถม้า​จน​เหนื่อย​แล้ว​ จึงออกมา​พัก​เท้า​สักหน่อย​ อีก​อย่างหนึ่ง​ วันนี้​ไม่มีฝนตก​ จื่อเอ๋อร์​ไม่มีทาง​ว่า​ข้า​หรอก​”

ไม่รู้​ว่า​ตั้งแต่​เมื่อใด​ ที่​บิดา​ของ​เขา​เรียก​หมอ​ไป๋ว่า​จื่อเอ๋อร์​ แถมเรียก​อย่าง​ติด​ปากเสีย​ด้วย​ เหมือนกับ​ที่​เรียก​นาง​ว่า​หว่าน​เอ๋อร์​อย่างไร​อย่างนั้น​ ราวกับว่า​หมอ​ไป๋เป็นหนึ่ง​ใน​สมาชิก​ของ​สกุล​ตง​ฟางของ​พวกเขา​แล้ว​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด