คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา 183 วิธีการเย็บแผล / 184 มอบหัวใจให้
ตอนที่ 183 วิธีการเย็บแผล
หลังจากพ่นยาฆ่าเชื้อแล้ว นางก็หันไปมองตรงที่หูเฟิงนั่งอยู่ ทว่ากลับถูกร่างสูงใหญ่ราวกับกำแพงบังสายตาเอาไว้ ไม่รู้ว่าคนผู้นี้มายืนอยู่ข้างหลังนางตั้งแต่เมื่อใด
หูเฟิงอดทนมานานมากแล้ว คราวนี้เห็นนางหันกลับมา เขาจึงรีบชี้ไปที่ยาพ่นที่นางเพิ่งวางไปเมื่อครู่ พลางถามว่า “นี่คืออะไรหรือ”
มันเป็นขวดสีขาวขนาดเล็กขวดหนึ่ง ด้านบนมีฝาทรงกลม ทุกครั้งที่นางใช้นิ้วกดลงไป จะมีไอน้ำหลายกลุ่มพ่นออกมา ไอน้ำนี้มีกลิ่นแปลกๆ สายหนึ่ง ทุกเมื่อที่นางพ่นใส่บาดแผลของเมิ่งหนาน เขาจะส่งเสียงร้องโอดครวญออกมา
ไป๋จื่อหันหน้ากลับไปในทันที “น้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับทำความสะอาดแผล”
“ได้มาจากที่ใด” เขาถามอีก
“ของของข้า”
“ข้าถามว่าเจ้าได้มาจากที่ใด”
นางฉีดโปรเคนเฉพาะตรงบาดแผลของเมิ่งหนาน ท่าทางชำนิชำนาญยิ่งนัก แต่ในสายตาของเมิ่งหนานและหูเฟิง ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องแปลกใหม่ ของเหลวสีขาวเหล่านั้นจะเข้าไปในร่างกายของคน ผ่านเข็มหนาๆ เข็มหนึ่งอย่างนั้นหรือ
เมิ่งหนานเครียดเกร็งยิ่งนัก ในที่สุดก็เข้าใจครึ่งประโยคก่อนหน้าของนาง ว่าเหตุใดเขาต้องเก็บกระบวนการรักษาในวันนี้เป็นความลับ
เพราะมันช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก!
ไป๋จื่อไม่มองหูเฟิงแม้สักครั้ง แต่ก็ยังไม่ลืมจะตอบคำถามของเขา “เจ้าไม่ต้องสนใจว่าข้าได้มาจากที่ใด เจ้ามีสิทธิถามก็จริง แต่ข้าก็มีสิทธิที่จะไม่ตอบเช่นกัน หูเฟิง เมิ่งหนาน พวกเจ้าขอเพียงจำไว้ว่าข้าไป๋จื่อไม่ใช่คนเลว ไม่มีเจตนาจะทำร้ายพวกเจ้า แม้สิ่งของของข้าเหล่านี้จะแปลกสำหรับพวกเจ้า แต่พวกมันกลับเป็นยาดีที่ใช้รักษาคนป่วยและช่วยชีวิต”
นางหยิบสิ่งของออกมาจากในกระเป๋าผ้าอีก เข็มเย็บ ด้ายสำหรับเย็บแผล แหนบ กรรไกร…
หลังจากนางใช้ผ้าชุ่มน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดสิ่งของเหล่านั้นแล้ว นางก็วางพวกมันบนผ้าชิ้นเดิมบนโต๊ะข้างเตียง เพื่อให้สะดวกในการหยิบใช้
ที่นี่ไม่มีพยาบาลเป็นลูกมือคอยช่วยเหลือนาง จึงจำเป็นต้องพึ่งพาตนเองทุกอย่าง
เมิ่งหนานมองเข็มเย็บที่มีลักษณะโค้งงอ พลันร้องเสียงหลงและตัวสั่น “น่ะ นั่นคืออะไร”
ไป๋จื่อไม่ได้ตอบ กลับใส่ด้ายบางๆ สีดำใส่เข้าไปในรูเข็ม เมิ่งหนานก้มหน้าลงมองบาดแผลของตนเอง อดใจสั่นไม่ได้ “เจ้าไม่ได้คิดจะใช้สิ่งนี้ปักลายบนตัวข้ากระมัง”
เด็กสาวถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์นัก “ข้าปักลายไม่เป็นหรอก เอ็นข้อมือของท่านขาดแล้ว จำเป็นต้องเย็บตรงจุดที่ขาด หากไม่ใช้เข็ม เช่นนั้นแล้วจะใช้อะไรเย็บ”
ครั้นเห็นเมิ่งหนานมีสีหน้าขาวซีด นางก็ยิ้มกล่าวว่า “วางใจเถอะ ไม่เจ็บหรอก”
“ไม่เจ็บ? เข็มหนาเช่นนี้ ด้ายหนาขนาดนี้ จะไม่เจ็บได้อย่างไร” ระหว่างที่เขาพูด ไป๋จื่อก็ลงเข็มแล้ว ความรู้สึกที่ปลายเข็มแหลมคมทะลุผ่านผิวและเนื้อนั้น เขาแม้กระทั่งรู้สึกได้ว่าด้ายยาวๆ กำลังดึงทึ้งอยู่ในเนื้อของเขา แต่ที่น่าแปลกก็คือ เขาไม่รู้สึกเจ็บแม้สักนิดจริงๆ ราวกับเนื้อชิ้นนั้นกลายเป็นเนื้อตายไปแล้ว…
หูเฟิงเลิกคิ้ว เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเมิ่งหนานจะไม่ร้องครวญครางอีก เสียงร้องเมื่อครู่หายเงียบไป การเย็บที่ดูแล้วน่าหวาดหวั่นและดูเจ็บปวดในตอนนี้ เหตุใดเขาถึงไม่ร้องออกมาเล่า
ท่าทางของไป๋จื่อคล่องแคล่วมาก หากไม่ใช่คนโง่ล้วนต้องมองออก ว่านางไม่ได้ทำเรื่องเช่นนี้เป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน ราวกับว่าเคยทำมาเป็นร้อยเป็นพันครั้งจนชินมือเสียแล้ว
ไม่นานการเย็บก็จบลง หลังจากเย็บเอ็นข้อมือเรียบร้อยแล้ว นางก็เย็บบาดแผลบนผิวหนังอย่างรวดเร็วอีก ง่ายดายเหมือนกับการเย็บกระเป๋าที่ขาดให้กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง
ไป๋จื่อตัดด้าย ก่อนจะลุกขึ้นเก็บข้าวของ
หูเฟิงถามเมิ่งหนานที่ไม่ร้องออกมาสักแอะ “ไม่เจ็บหรือ”
เมิ่งหนานส่ายหน้า “ไม่เจ็บ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด รู้สึกได้ว่าด้ายนั่นกำลังดึงทึ้งอยู่ในเนื้อของข้าแท้ๆ แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด”
……….
ตอนที่ 184 มอบหัวใจให้
หูเฟิงเหล่มองขวดบนโต๊ะ ขวดขนาดเล็กเท่านิ้วของเด็กสาว ของเหลวโปร่งใสด้านในถูกไป๋จื่อใช้เข็มและหลอดดูดออกมาใช้จนหมด และมันอยู่ในร่างกายของเมิ่งหนานทั้งหมด
ก่อนหน้านี้นางเคยพูดว่า มีสิ่งนี้แล้วจะไม่เจ็บ
เขามองไป๋จื่อเก็บข้าวของชิ้นแล้วชิ้นเล่าใส่กระเป๋าผ้า ในใจมีแต่คำถามมากมายอัดอั้นอยู่ ทว่าเขาก็ไม่อยากจะเอ่ยปากถามต่อหน้าเมิ่งหนาน
เมื่อไป๋จื่อเก็บของเสร็จแล้ว นางก็ผูกเชือกปิดปากกระเป๋าผ้า คราวนี้ถึงจะเดินไปนั่งลงที่ข้างโต๊ะอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อเขียนใบสั่งยาสองใบให้เมิ่งหนาน
หากใช้แพทย์แผนปัจจุบันรักษาเมิ่งหนาน อย่างมากจะฟื้นฟูกลับมาได้เจ็ดส่วน ทว่าแพทย์แผนจีนกลับรักษาได้ห้าส่วน
แต่หากรักษาด้วยการใช้แพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนจีนผสมผสานกัน อย่างน้อยจะฟื้นฟูได้ถึงเก้าส่วน ถ้าหากโชคดี อาจจะฟื้นฟูกลับมาได้เหมือนเมื่อก่อนด้วยซ้ำไป
และที่โชคดียิ่งกว่านั้น นางทั้งเคยร่ำเรียนแพทย์แผนจีน ทั้งยังชำนาญในแพทย์แผนปัจจุบัน นับเป็นโชคดีของนาง และเป็นโชคดีของเมิ่งหนานเช่นกัน
นางเปิดประตูออก ก่อนจะเรียกองครักษ์จินเข้ามา นางส่งใบสั่งยาสองใบให้เขา “ใบสั่งยาสองใบนี้ ใบหนึ่งเป็นยาสำหรับใช้ภายนอก วันหนึ่งใช้สองครั้ง เช้าหนึ่งครั้ง เย็นหนึ่งครั้ง ส่วนอีกใบเป็นยาสำหรับภายใน วันหนึ่งใช้สามครั้ง ก่อนอาหารทั้งหมด”
องครักษ์จินรับใบสั่งยาไป ครั้นเห็นตัวอักษรที่เขียนไว้อย่างครบครันบนนั้น เขายิ้มกล่าว “ข้าจะจำไว้”
ไป๋จื่อหันกลับไปมองเมิ่งหนาน แล้วพูดอีกว่า “สามวันให้หลังข้าจะมาตรวจอาการอีกครั้ง ระหว่างนี้อย่าได้ใช้แรงที่มือซ้าย ต้องระมัดระวัง อย่าได้ชะล่าใจ ไม่เช่นนั้นหากขาดอีกครั้ง ข้าก็ไม่อาจรักษาได้แล้วเช่นกัน”
“ข้าเข้าใจแล้ว สามวันนี้ข้ารับรองว่าจะจับตาดูเขาทั้งวันทั้งคืน แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำก็จะไม่ให้เขาถอดกางเกงเองเลยเชียว” องครักษ์จินกล่าว
ไป๋จื่อที่เดิมทีมีสีหน้าจริงจังมาโดยตลอด จู่ๆ ก็เกร็งไว้ไม่ไหว ในหัวเต็มไปด้วยภาพองครักษ์จินช่วยเมิ่งหนานถอดกางเกง รวมถึงเช็ดก้นด้วยซ้ำไป สุดยอด บาดตายิ่งนัก
เมิ่งหนานหน้าแดงระเรื่อ ตะคอกใส่องครักษ์จินว่า “พวกเจ้าไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้หรอกนะ”
องครักษ์จินกลอกตา “หากข้าไม่พูด พวกท่านล้วนต้องคิดว่าข้าเป็นใบ้ ข้าไม่ใช่คนใบ้สักหน่อย”
เมื่อจะออกจากที่ว่าการอำเภอ ไป๋จื่อกล่าวกับเมิ่งหนานว่า “จำคำที่ข้าพูดกับท่านไว้ก่อนหน้านี้ด้วยนะเจ้าคะ รักษาสัญญาที่มีต่อข้าด้วย อย่าได้ทำให้ข้าผิดหวังเชียว”
เมิ่งหนานรู้ว่านางจริงจัง เขามองออกจากในสายตาของนาง ว่านางไม่ได้พูดไปเรื่อยเปื่อย
เขาพยักหน้า “วางใจเถอะ เรื่องที่ข้ารับปากเจ้าแล้ว ข้าจะต้องทำให้ได้อย่างแน่นอน”
ไป๋จื่อถือกระเป๋าผ้าเดินไป ส่วนหูเฟิงตามหลังไปติดๆ
องครักษ์จินเข้ามาที่หน้าเตียงของเมิ่งหนาน ยิ้มถามว่า “คุณชาย ท่านรับปากอะไรนางหรือ คงไม่ใช่รับปากจะมอบหัวใจให้นางกระมัง”
เมิ่นหนานถอนใจเสียงหนึ่ง “ข้าว่าเรื่องนั้นต้องดูความยินยอมของนางถึงจะใช้ได้” เด็กสาวผู้นี้พิเศษเหลือเกิน ยิ่งมองยิ่งไม่เหมือนเด็กสาวในป่าเขาทั่วไป สิ่งของแปลกประหลาดในกระเป๋าใบนั้นของนาง แท้จริงแล้วนางได้มาจากที่ใดกัน
องครักษ์จินตกใจจนอ้าปากค้าง “คุณชาย ท่านไม่เป็นอะไรกระมัง ด้วยหน้าตาอันหล่อเหลาของท่าน รวมถึงฐานะและตำแหน่ง หากท่านอยากจะมอบหัวใจให้ แม่นางคนใดจะไม่รับบ้าง”
เมิ่งหนานมองรอยเย็บเหมือนตะขาบบนข้อมือตนเอง เขารู้ดีแก่ใจว่าไป๋จื่อไม่ใช่บุตรสาวของครอบครัวมั่งมีที่เขาเคยพบเจอ ที่จะยกหัวใจให้เขาง่ายๆ เพราะใบหน้า ฐานะ และตำแหน่งของเขา
เขาส่ายหน้า เขาคือเมิ่งหนานผู้สง่างาม ย่อมไม่มีทางหวั่นไหวกับเด็กสาวบ้านนา ไม่มีทางเด็ดขาด
ไม่มีทาง!
ครั้นเห็นสีหน้าของคุณชายย่ำแย่ลงอย่างกะทันหัน องครักษ์จินก็ไม่กล้าถามคำถามนี้อีก “คุณชาย เมื่อครู่คนของศาลาว่าการด้านหน้ามารายงานว่า มีผู้ประสบภัยที่หนีมาจากทางใต้หลั่งไหลเข้ามาในเมืองมากมาย ราคาข้าวในเมืองจึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านพากันร้องโอดครวญกันหมดแล้วขอรับ”
Comments