จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)บทที่ 412 ทนไม่ไหวแล้ว

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter บทที่ 412 ทนไม่ไหวแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 412 ทนไม่ไหว​แล้ว​

เมื่อ​พูด​จบ​ บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​ตระกูล​ห​ยาน​ทุกคน​ก็​มีสีหน้า​เข้าใจ​แจ่มแจ้งว่า​ผู้​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​เข้าใจผิด​อย่าง​ใหญ่หลวง​ แต่​ดูเหมือนว่า​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ก็​ยังคง​ไม่รู้ตัว​อยู่ดี​

ถ้าไม่ใช่เพราะว่า​เห็นแก่หน้า​ห​ยาน​หวูซวง​ ฉู่ชวิ๋น​ได้​ตบ​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​คว่ำ​ไป​แล้ว​จริง ๆ​

“แก​ไม่ได้​สนใจ​เหยา​ไป๋​เยวี่ย​จริง ๆ​ งั้น​เหรอ​?” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ยังคง​ไม่เชื่อ​อยู่ดี​ “แล้​วจะ​มาช่วย​หอ​กระจก​นิรันดร์​ทำไม​? แก​รู้​ได้​ยังไง​ว่า​พวก​เธอ​กำลัง​มีปัญหา​?”

ฉู่ชวิ๋น​ปาก​กระตุก​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้​ ตอบ​ว่า​ “ก็​บอก​แล้ว​ไงว่า​ผม​ผ่าน​มา ผม​เห็น​ว่า​เมือง​ชิงเฉิงมัน​อยู่​ใกล้​กับ​บ้าน​ตระกูล​ห​ยาน​ ก็​เลย​จะแวะ​มาเยี่ยม​สักหน่อย​ ที่​ผม​ทำ​ทั้งหมด​นี้​ก็​เพราะ​เห็นแก่​ห​ยาน​หวูซวง​คนเดียว​เท่านั้น​”

“พูด​จริง​นะ​?” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ยังคง​ไม่คลาย​ข้อสงสัย​

ฉู่ชวิ๋น​กําหมัดแน่น​แล้ว​ พยายาม​สงบจิตสงบใจ​ “ฉัน​ทน​ได้​ ฉัน​ทน​ได้​ ฉัน​ทน​ได้​…ทนไม่ไหว​แล้ว​โว้ย​”

ผลั่ก!​

ทันใดนั้น​ ฉู่ชวิ๋น​ปล่อย​หมัด​ใส่ใบหน้า​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​สอง​หมัด​ติด ๆ​ กัน​

“เจ้าหนู​ กล้า​ดี​อย่างไร​ทำร้าย​ผู้อาวุโส​แบบนี้​?” ห​ยาน​กุย​ล๋ายยก​แขน​ขึ้น​ป้องกัน​ใบหน้า​ตนเอง​ ดวงตา​ฉายแวว​โกรธแค้น​

แต่​พายุ​หมัด​ก็​ถูก​รัวใส่​เขา​อย่าง​ไม่พูดไม่จา​

ผลั่ก!​

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ส่งเสียงร้อง​โหยหวน​ในขณะที่​ตัว​คน​ลอย​กระเด็น​ไป​ ใบหน้า​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​รอย​ฟกช้ำ​ รอบ​ดวงตา​กลายเป็น​สีดำ​เหมือนกับ​หมี​แพนด้า​ ดู​แล้ว​น่าอับอาย​ยิ่งนัก​

“ไอ้​เด็ก​นี่​ คิด​ว่า​ฉัน​ทำ​อะไร​แก​ไม่ได้​ใช่ไหม​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​กัดฟัน​ด้วย​ความเจ็บปวด​

“คุณ​สู้ผม​ไม่ได้​อยู่แล้ว​” ฉู่ชวิ๋น​เหยียดหยาม​

“อ้อ​ ไอ้​เด็ก​นี่​มัน​อวดดี​เหลือเกิน​ คราวนี้​ฉัน​จะไม่ออม​มือ​ให้​แล้ว​นะ​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ถูมือ​เตรียมตัว​โจมตี​

วูบ​!

ฉู่ชวิ๋น​ขยับ​เท้า​ก้าว​เดียว​ ตัว​ก็​ลอย​วูบ​มาอยู่​เบื้องหน้า​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​แล้ว​ หมัด​ของ​เขา​ถูก​ต่อย​ออกมา​รัว ๆ​

ผลั่ก…!​

เมื่อ​หมัด​ปะทะ​เข้ากับ​ร่างกาย​คน​ ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ก็​ส่งเสียงร้อง​ออกมา​อย่าง​น่าเวทนา​ เขา​ไม่สามารถ​รับมือ​กับ​ฉู่ชวิ๋น​ได้​เลย​สักนิด​

ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้อาวุโส​ตระกูล​ห​ยาน​หรือ​บรรดา​ลูกศิษย์​ ต่าง​ก็​พา​กัน​ยืน​นิ่ง​ไม่ทำ​อะไร​ เนื่องจาก​ไม่รู้​ว่า​ตนเอง​จะช่วย​อะไร​ได้​?

ถ้าเข้าไป​ช่วย​ ก็​คง​ต้อง​โดน​ทุบตี​เช่นเดียวกับ​ท่าน​หัวหน้า​ตระกูล​ ถ้าไม่เข้าไป​ช่วย​ เต็มที่​ก็​คือ​กลับ​ไป​โดน​ดุด่า​จน​หู​ชา

เมื่อ​ลอง​คิดดู​ให้​ดี​ ยอม​ถูก​ดุด่า​ย่อม​ดีกว่า​ถูก​ทุบตี​ พวกเขา​จึงเลือก​สิ่งที่​ดี​ที่สุด​กับ​ตัวเอง​

“ไอ้​หนุ่ม​ปล่อย​ฉัน​ไป​เถอะ​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ถูก​ฉู่ชวิ๋น​อัด​ไม่ยั้ง​

ผลั่ก!​ ผลั่ก!​

ส่งผล​ให้​อีก​สอง​กำปั้น​เหล็ก​ต่อย​ฮุก​เข้ามา​ที่​ลำตัว​ของ​เขา​

“อายุ​ตั้ง​หลาย​ร้อย​ปี​ ทำไม​ทำ​อะไร​ไม่รู้จักคิด​บ้าง​?” ฉู่ชวิ๋น​เดือดดาล​จริง ๆ​ แล้ว​ พูด​ไป​ก็​สาว​หมัด​ใส่ฝ่ายตรงข้าม​ไป​ด้วย​

“ฉัน​ผิด​หรือไง​ที่​อยาก​หา​เมีย​ให้​ลูกชาย​ตัวเอง​?” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​คำราม​สวน​กลับมา​

ผลั่ก!​ ผลั่ก!​

อีก​สอง​กำปั้น​ถูก​ต่อย​เข้ามา​ ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ได้​แต่​ส่งเสียงร้อง​โหยหวน​

“จะหา​เมีย​ให้​ลูกชาย​ก็​ทำ​ไป​สิ ทำไม​ต้อง​ลาก​ผม​เข้าไป​เกี่ยวข้อง​ด้วย​? ผม​ควร​ได้​เป็น​แขก​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ ไม่ใช่ต้อง​มาเดิน​เร่ร่อน​กับ​พวกคุณ​แบบนี้​”

ฉู่ชวิ๋น​คำราม​ด้วย​ความ​ฉุนเฉียว​ บิดา​ของ​ห​ยาน​หวูซวง​เป็น​พวก​พูด​ไม่รู้จักคิด​ เห็น​แล้วก็​รู้สึก​เหนื่อยหน่าย​ใจเป็น​ที่สุด​

“จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ ฉัน​เป็น​พ่อ​ของ​ห​ยาน​เอ๋อร์​ แก​ทำร้าย​ผู้อาวุโส​แบบนี้​ สักวัน​จะต้อง​โดน​ฟ้าผ่า​ตาย​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​พูด​ด้วย​ความเจ็บ​แค้นใจ​ ด้วยว่า​ตนเอง​มีชีวิต​มาหลาย​ร้อย​ปี​แล้ว​ แต่​ยัง​ไม่เคย​ถูก​เด็ก​รุ่นใหม่​ทุบตี​จน​หมดสภาพ​แบบนี้​มาก่อน​ ถือได้ว่า​เป็นเรื่อง​ที่​เสีย​หน้าเป็น​อย่างยิ่ง​

“ก่อนที่​ผม​จะโดน​ฟ้าผ่า​ตาย​ ผม​ขอ​อัด​คุณ​ก่อน​ก็แล้วกัน​” ฉู่ชวิ๋น​สาว​กำปั้น​เข้าใส่​อีกครั้ง​

“ถ้านาย​มีความสามารถ​ก็​ปล่อย​ฉัน​ไป​ก่อน​ เรา​มาสู้กัน​อย่าง​ยุติธรรม​ดีกว่า​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ร้อง​ตะโกน​โหวกเหวก​

ฉู่ชวิ๋น​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ปล่อยตัว​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ทันที​

วูบ​!

พลัง​ลม​หมุน​ก่อ​ตัวอย่าง​รุนแรง​ ห​ยาน​กุย​ล๋าย​เป็น​ผู้​ที่อยู่​จุดศูนย์กลาง​ของ​พลัง​ลม​หมุน​นั้น​ แรง​ปะทะ​ของ​มัน​น่ากลัว​ไม่ใช่เล่น​

ตู้​ม!

แต่​น่าเสียดาย​ที่​เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​พลัง​ลมปราณ​จาก​ฝ่ามือ​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ ร่าง​ของ​ชาย​ชรา​ก็​ลอย​กระเด็น​ไป​ไกลลิบ​

หลังจาก​ต่อสู้​กัน​ไป​ได้​อีก​ครึ่ง​ยก​ ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ก็​มีสภาพ​ใบหน้า​บวม​ช้ำมากกว่า​เดิม​ รอย​ช้ำรอบ​ดวงตา​เด่นชัด​มากขึ้น​ ทำให้​เขา​เหมือน​หมี​แพนด้า​มากกว่า​เก่า​

“ไอ้​หนู​ คืน​มาให้​ฉัน​เดี๋ยวนี้​นะ​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ถลึงตา​จ้องมอง​ฉู่ชวิ๋น​เขม็ง​

“คืน​อะไร​?” ฉู่ชวิ๋น​ไม่เข้าใจ​

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​คำราม​ด้วย​ความโกรธแค้น​จน​หนวดเครา​สะบัด​ไหว​ “ไม่ต้อง​มาทำ​แกล้ง​โง่ แหวน​มิติ​ของ​ฉัน​”

ชาย​ชรา​อยาก​จะนำ​สมุนไพร​ออกมา​เยียวยา​อาการ​บาดเจ็บ​ แต่กลับ​พบ​ว่า​แหวน​มิติ​ของ​ตนเอง​ที่​สวม​ไว้​กับ​นิ้วมือ​ หาย​ไป​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ไม่ทราบ​?

ฉู่ชวิ๋น​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​ พูดว่า​ “คุณ​ลุง​ ตอนแรก​ก็​หาว่า​ผม​แอบ​ชอบ​เหยา​ไป๋​เย​วี่ย​ ผม​ยัง​พอ​ทน​ได้​ ตอนนี้​มาหาว่า​ผม​ขโมย​แหวน​มิติ​ไป​อีก​ จะให้​ผม​ทน​ไหว​ได้​ยังไง​”

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​โกรธแค้น​จน​หัว​ใจเต้น​ไม่เป็นจังหวะ​ ที่​เขา​ต้อง​บาดเจ็บ​แบบนี้​มัน​ก็​เพราะ​ใคร​กัน​ล่ะ​? อีก​อย่าง​แหวน​มิติ​สวม​ไว้​กับ​นิ้วมือ​แบบ​นั้น​ มัน​มีแขนขา​หรือ​มีปีก​บินหนี​ไป​ไหน​เอง​ได้​หรือไง​?

“จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ อย่า​คิด​ว่า​ฉัน​จะไม่เข้าใจ​ลวดลาย​ลูกไม้​ของ​แก​ เอา​แหวน​ของ​ฉัน​คืน​มาเดี๋ยวนี้​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ไม่พอใจ​

“ผม​ว่า​คุณ​ลุง​ชักจะ​วอน​หาเรื่อง​อีกแล้ว​นะ​ ตา​บวม​แค่นี้​ยัง​ไม่หนัก​พอ​ใช่ไหม​?” ฉู่ชวิ๋น​ถูไม้ถูมือ​เตรียมพร้อม​ทุบตี​ผู้คน​อีกครั้ง​

“ถ้านาย​ไม่ได้​เอา​ไป​ แล้ว​แหวน​มัน​บินหนี​ไป​ได้​เอง​หรือไง​?” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​เชื่อ​ไม่ลง​จริง ๆ​ ว่า​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ไม่ได้​ขโมย​แหวน​ไป​จาก​เขา​ ฉู่ชวิ๋น​เข้า​ประชิดตัว​เขา​ตอนที่​ต่อสู้​กัน​เมื่อ​สักครู่​นี้​ คง​อาศัย​จังหวะ​ที่​เขา​เจ็บปวด​ แอบ​ขโมย​ไป​อย่าง​แน่นอน​

“ผม​จะรู้​ได้​ไงเล่า​? ผม​ไม่ใช่แม่นม​ของ​ลุง​สักหน่อย​” ฉู่ชวิ๋น​พูด​ด้วย​ใบหน้า​เคร่งขรึม​

เมื่อ​มองเห็น​สีหน้า​จริงจัง​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ ซึ่งเป็น​สีหน้า​ของ​คน​ที่​ยอม​หัก​ไม่ยอม​งอ​ ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ก็​อด​ไม่ได้​รำพึง​ออกมา​ว่า​ “หรือว่า​ฉัน​จะเข้าใจผิด​จริง ๆ​?”

“คุณ​ทำ​ตก​ตอนที่​สู้กัน​เมื่อกี้​หรือเปล่า​?” ฉู่ชวิ๋น​ถาม

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​หันขวับ​ไป​มองหน้า​ฉู่ชวิ๋น​ เขา​เป็น​ผู้​มีพลัง​ขั้น​จักรพรรดิ​ระดับ​ 9 ของ​ตกไป​จาก​ตัว​จะไม่รู้​เชียว​หรือ​? แต่​เมื่อ​ลอง​คิดดู​ให้​ดี​ ก็​ใช่ว่า​จะเป็นไปไม่ได้​ จึงรีบ​ออกคำสั่ง​ให้​คน​ตระกูล​ห​ยาน​ช่วยกัน​ค้นหา​รอบ​บริเวณ​ทันที​

ฉู่ชวิ๋น​หยิบ​ขวด​หยก​สีขาว​ออกมา​โยน​ให้​แก่​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ แล้ว​พูดว่า​ “นี่​เป็น​ยา​จาก​จักรพรรดิ​ยา​ ช่วย​รักษา​อาการ​บาดเจ็บ​และ​รอย​ฟกช้ำ​ได้​ดีมาก​”

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​รับ​ขวด​หยก​ไป​ด้วย​ความ​ฉุนเฉียว​ ก่อนที่จะ​เรียก​บริวาร​มาช่วย​พอก​ยา​ให้​แก่​ตนเอง​

“อย่า​ใช้เยอะ​นัก​สิ!” ฉู่ชวิ๋น​พึมพำ​

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​แกล้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​

บริวาร​ของ​ตระกูล​ห​ยาน​ค้นหา​ทั่ว​บริเวณ​ที่​พวกเขา​ต่อสู้​กัน​เมื่อ​สักครู่​นี้​แล้ว​ แต่​ก็​ยัง​ไม่เจอ​แหวน​มิติ​ของ​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​อยู่ดี​

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​มอง​ไป​ที่​ฉู่ชวิ๋น​ ดวงตา​เต็มไปด้วย​แววตา​สงสัย​ เขา​รู้สึก​สังหรณ์ใจ​ว่า​แหวน​มิติ​จะต้อง​อยู่​กับ​ฉู่ชวิ๋น​อย่าง​แน่นอน​ ก่อนหน้านี้​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​เคย​หลอก​เอา​ไผ่​อัคคี​ไป​จาก​เขา​ได้​ถึงสอง​ต้น​ เมื่อ​เกิด​เหตุการณ์​เช่นนี้​ขึ้น​ จะไม่ให้​สงสัย​ได้​อย่างไร​

ฉู่ชวิ๋น​จ้อง​ตอบ​กลับมา​ด้วย​ความโกรธ​ “ไม่ต้อง​มอง​ผม​แบบนี้​เลย​นะ​ ถ้าไม่ติด​ว่า​คุณ​เป็น​พ่อ​ของ​ห​ยาน​หวูซวง​ ผม​จะตบ​ให้​ลืม​แก่​เลย​”

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​เชิดหน้า​ขึ้น​ เขา​เป็น​ถึงหัวหน้า​ตระกูล​ห​ยาน​ มีใคร​เคย​กล้า​พูด​กับ​เขา​แบบนี้​บ้าง​? เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​ฉู่ชวิ๋น​ เขา​ต้อง​เสียอารมณ์​ทุกที​เลย​สิน่า​

“ลอง​คิดดู​ให้​ดี​เถอะ​ คุณ​ลืม​เอาไว้​ที่​บ้าน​หรือเปล่า​” ฉู่ชวิ๋น​พยายาม​ให้​คำแนะนำ​

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​รับฟัง​ก็​รู้สึก​เดือดดาล​เป็น​อย่างยิ่ง​ เขา​ไม่ใช่พวก​สมอง​เลอะเลือน​สักหน่อย​ จะลืม​ของ​สำคัญ​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​? แต่​ชาย​ชรา​ก็​ทำเป็น​ไม่สนใจ​ กล่าวว่า​ “ไม่ใช่หรอก​ แต่​ฉัน​กลัว​ว่า​คง​ลืม​ของ​วิเศษ​ไว้​ที่​บ้าน​ตระกูล​ห​ยาน​นั่นแหละ​ ที่​ฉัน​พก​ติดตัว​มาด้วย​มัน​เป็น​แค่​แหวน​เปล่า​เท่านั้น​”

สอง​ตา​ของ​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​มอง​สีหน้า​ของ​ฉู่ชวิ๋น​พยายาม​จับ​พิรุธ​

“อ้าว​!” ฉู่ชวิ๋น​มีสีหน้า​โล่งอก​ไม่น้อย​ “ถ้างั้น​คุณ​จะเดือดร้อน​ไป​ทำไม​? แหวน​เปล่า​แบบ​นั้น​ หาย​ไป​ก็​ไม่เห็น​น่าเสียดาย​เลย​”

“…” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​รู้สึก​ปั่นป่วน​มวน​ใน​ท้อง​ เขา​แค่​อยาก​จะทดสอบ​ปฏิกิริยา​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ เมื่อ​พูดว่า​แหวน​ที่​หาย​ไป​เป็น​เพียงแค่​แหวน​ว่างเปล่า​ ฉู่ชวิ๋น​จะต้อ​งอด​แสดง​สีหน้า​ผิดหวัง​ออกมา​ไม่ได้​ แต่​นี่​ฉู่ชวิ๋น​กลับ​แสดง​ความ​โล่งอก​ออกมา​อย่าง​ใหญ่หลวง​ เหมือนกับ​ว่า​รู้สึก​ดีใจ​แทน​เขา​ด้วยซ้ำ​

หรือว่า​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​จะไม่ได้​เอา​ไป​จริง ๆ​? ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ได้​แต่​ถามตัวเอง​เบา​ ๆ

“พวก​แก​ลอง​ค้นหา​ดู​อีกที​ซิ” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ตะโกน​สั่งงาน​บริวาร​ตระกูล​ห​ยาน​

“แหวน​เปล่า​แบบ​นั้น​ คุณ​จะอยากได้​ไป​ทำไม​?” ฉู่ชวิ๋น​มอง​ชาย​ชรา​ด้วย​ความเวทนา​ “หัวหน้า​ตระกูล​ห​ยาน​สั่งให้​ลูกน้อง​หา​แหวน​เปล่า​อย่าง​เอาเป็นเอาตาย​ เรื่อง​นี้​รู้​ถึงไหน​คง​อาย​ไป​ถึงนั่น​ ไม่ต้องหา​หรอก​ครับ​ เดี๋ยว​เอา​แหวน​เปล่า​จาก​ผม​ไป​ก็ได้​”

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ปวดหัว​ตึบ​ ไม่รู้​จะทำ​อย่างไร​ดี​ มัน​เป็น​แหวน​เปล่า​เสีย​ที่ไหน​กัน​เล่า​? ข้างใน​นั้น​มีแต่​ของ​สำคัญ​ล้วน ๆ​ เป็น​สิ่งของ​ชั้นดี​ที่​เอาไว้​ใช้สำหรับ​การ​ฝึก​ตน​โดยเฉพาะ​

“ลืม​ไป​เถอะ​ ไม่ต้อง​ค้นหา​แล้ว​ ก็​แค่​แหวน​เปล่า​วง​นึง​เท่านั้นเอง​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​กัดฟัน​กรอด​ ข้าวของ​ที่อยู่​ใน​แหวน​วง​นั้น​ของ​เขา​ น่าจะ​เปรียบ​ได้​กับ​สมบัติ​ทั้งหมด​ของ​สำนัก​จอม​ยุทธ์​ระดับ​กลาง​ที่​ใช้เวลา​รวบรวม​มาหลาย​ร้อย​ปี​เลย​ทีเดียว​

“พวกเรา​ไป​กัน​เถอะ​!” ยา​รักษา​รอย​ฟกช้ำ​ของ​จักรพรรดิ​ยา​ใช้ได้ผล​ดีมาก​ เพียง​ไม่นาน​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ก็​กลับมา​อยู่​ใน​สภาพ​ปกติ​ และ​ลุกขึ้น​ยืน​ได้​อีกครั้ง​

“จะไป​ไหน​กัน​?” ฉู่ชวิ๋น​ถาม

“กลับบ้าน​ตระกูล​ห​ยาน​ หรือว่า​อยาก​จะนั่ง​ดื่ม​สุรา​ตากลม​ตาก​ยุง​อยู่​ที่นี่​?” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​สวน​กลับมา​ด้วย​ความแค้น​

ฉู่ชวิ๋น​ชี้มือ​ไป​ที่​ประตู​หน้า​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ที่​พัง​ถล่ม​ แล้ว​ว่า​ “ตอนนี้​พวก​เธอ​ไม่มีประตู​แล้ว​นะ​ ไอ้​พวก​ตระกูล​จังกลับมา​เมื่อไหร่​ก็​ง่าย​เลย​ ถึงตอนนั้น​ เหยา​ไป๋​เยวี่ย​คิด​หนี​ก็​คง​หนี​ไม่รอด​ ลูกชาย​คุณ​อาจจะ​ไม่ให้อภัย​คุณ​ไป​ตลอดชีวิต​ก็ได้​นะ​?”

“กล้า​ดี​ยังไง​พูด​แบบนี้​?” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​พูด​เสียง​เข้ม​ มอง​ตาขวาง​ แต่​ก็​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ฉู่ชวิ๋น​พูดจา​มีเหตุผล​ จึงหันไป​ตะโกนสั่ง​บริวาร​ว่า​ “มัว​ยืน​ทำ​อะไร​กัน​อยู่​? ยัง​ไม่ไป​ซื้อ​เต็นท์​มาเตรียม​กาง​ที่นี่​อีก​”

บริวาร​ตระกูล​ห​ยาน​มีสีหน้า​เศร้าหมอง​ แต่​ก็​ไม่มีใคร​กล้า​อุทธรณ์​คำ​ใด​ มีแต่​รีบ​วิ่ง​ไป​ปฏิบัติ​ตามคำสั่ง​แต่​โดยดี​

“หลง​อี้​ หลง​เอ้อร์​ พวกเรา​ไป​กัน​ดีกว่า​” ฉู่ชวิ๋น​ออกคำสั่ง​บ้าง​

“จะไป​ไหน​?” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ถาม

“ผม​ก็​จะกลับ​ไป​รอ​คุณ​ที่​บ้าน​ตระกูล​ห​ยาน​ไง เหยา​ไป๋​เยวี่ย​เป็น​ลูกสะใภ้​คุณ​ ไม่ใช่ของ​ผม​ เรื่อง​นี้​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​ผม​อีกแล้ว​” ฉู่ชวิ๋น​ว่า​หน้าตาเฉย​

“ไม่ได้​นะ​!” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​รีบ​เดิน​มาขวางหน้า​ฉู่ชวิ๋น​เอาไว้​ นี่​ล้อ​กัน​เล่น​หรือไง​? ให้​จอม​มาร​เข้าไป​อยู่​ใน​บ้าน​ตระกูล​ห​ยาน​ เกรง​ว่า​เมื่อ​เขา​กลับ​ไป​ถึงที่นั่น​ แม้แต่​ก้อนอิฐ​สัก​ก้อน​ก็​คง​ไม่มีเหลือ​

“แบบนี้​มัน​หมายความว่า​ยังไง​ครับ​คุณ​ลุง​?” ฉู่ชวิ๋น​พูด​ออกมา​ด้วย​น้ำเสียง​อึดอัด​ใจ “คุณ​ลุง​ก็​รู้เรื่อง​ประเพณี​ดี​ใช่ไหม​? ผม​เป็น​แขก​ ผม​จะเข้า​พัก​ใน​ฐานะ​แขก​ของ​บ้าน​คุณ​ แต่​คุณ​ปฏิเสธ​แบบนี้​ มัน​หมายความว่า​ไง?”

“เอ่อ​…” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ถึงกับ​พูด​อะไร​ไม่ออก​อีกแล้ว​ แต่​เขา​ไม่มีทาง​ปล่อย​ให้​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​กลับ​ไป​อยู่​ใน​บ้าน​ตระกูล​ห​ยาน​ตามลำพัง​เด็ดขาด​ จึงพยายาม​ฝืนยิ้ม​ พูดว่า​ “น้อง​ฉู่ชวิ๋น​ ลอง​มอง​ทัศนียภาพ​รอบตัว​ดู​ให้​ดี​สิ ที่นี่​มีทั้ง​ภูเขา​มีทั้ง​แม่น้ำ​ เรา​มานั่ง​จิบ​ชากลาง​ธรรมชาติ​กัน​สักหน่อย​ไม่ดี​หรือ​ไร​?”

ทุก​คนมีสี​หน้า​แปลก​พิกล​ พื้นที่​บริเวณ​นี้​มีแต่​ที่ราบ​ อย่า​ว่าแต่​จะมีแม่น้ำ​ ภูเขา​ที่​ใกล้​ที่สุด​ก็​อยู่​ห่างไกล​หลาย​กิโลเมตร​

“คุณ​ชอบ​ธรรมชาติ​ แต่​ผม​ไม่ได้​ชอบ​ ใน​เมื่อ​คุณ​อยาก​อยู่​ที่นี่​ ก็​ขอให้​สนุก​แล้วกัน​” ฉู่ชวิ๋น​ปฏิเสธ​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​

“น้อง​ฉู่ชวิ๋น​ แล้​วจะ​ทำ​ยังไง​ถ้าพวก​ตระกูล​จังกับ​สำนัก​วัชระ​มัน​กลับมา​?”

“แล้ว​มัน​เกี่ยวกับ​ผม​ตรง​ไหนล่ะ​ครับ​? ที่​ผม​ช่วย​พวก​เธอ​ก่อนหน้านี้​ ก็เพราะว่า​พวกคุณ​ยัง​มาไม่ถึง แต่​ตอนนี้​คุณ​มาถึงแล้ว​ ยัง​อยาก​จะใช้แรงงาน​ผม​อยู่​อีก​เหรอ​ เห็น​ผม​เป็น​คนงาน​ที่จะ​เรียก​ใช้ได้​ฟรี​ ๆ หรือไง​?”

“ถ้าอย่างนั้น​ ถ้าคุณ​ยอม​อยู่​ที่นี่​ต่อ​ ฉัน​ยินดี​จ่าย​เป็น​หญ้า​จิตวิญญาณ​สิบ​กำมือ​ แบบนี้​ดี​ไหม​?” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​พูด​ไป​หัวเราะ​ไป​

“ดี​ตรงไหน​? สิบ​กำ​จะเอา​มาทำไม​ แค่​กิน​ยัง​ไม่พอ​กิน​ด้วยซ้ำ​” ฉู่ชวิ๋น​พูด​อย่าง​ไม่พอใจ​ ตาแก่​นี่​ขี้เหนียว​มากเกินไป​แล้ว​

“แล้ว​คุณ​ต้องการ​เท่าไหร่​?”

“สมุนไพร​จิตวิญญาณ​ 1,000 ชนิด​ ยา​เห​ล่ง​เช่าระดับ​กลาง​ ห้าม​ขาด​”

“ทำไม​ไม่มาขโมย​เอา​ไป​เอง​เสีย​เลย​ล่ะ​?” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​โดด​ผลุง​ด้วย​ความ​เดือดดาล​

“ก็​ทำ​แบบนี้​มัน​ง่าย​กว่า​ตั้ง​เยอะ​” ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​กลับมา​ด้วย​น้ำเสียง​จริงจัง​

“แก​…” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​หัว​ใจเต้น​ไม่เป็นจังหวะ​ สาบาน​ว่า​สักวันหนึ่ง​จะต้อง​หาทาง​สั่งสอน​ฉู่ชวิ๋น​ให้จงได้​

“ช่างมันเถอะ​ หลง​อี้​ หลง​เอ้อร์​ พวกเรา​ไป​กัน​ดีกว่า​” ฉู่ชวิ๋น​หมุนตัว​เดิน​จากไป​

“เดี๋ยวก่อน​สิ…” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ เสียง​โทรศัพท์มือถือ​ก็​ดัง​ขึ้น​ ชาย​ชรา​กด​รับสาย​และ​เดิน​ไป​คุย​ที่​ข้างทาง​

หลังจากนั้น​ เมื่อ​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​วางสาย​เรียบร้อย​แล้ว​ และ​เห็น​ว่า​ฉู่ชวิ๋น​เดิน​ไป​ได้​ไกล​หลาย​สิบ​เมตร​อย่าง​ไม่ได้​รีบร้อน​อะไร​นัก​ ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ก็​หันไป​ส่งเสียง​ตะโกน​สั่งงาน​กับ​บริวาร​พร้อม​รอยยิ้ม​ชั่วร้าย​ “กาง​เต็นท์​เพิ่ม​อีก​สอง​หลัง​ ห​ยาน​เอ๋อร์​กำลัง​เดินทาง​มา เห็น​ว่า​พา​คุณผู้หญิง​ที่​ชื่อ​จิงหง​มาด้วย​!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด