จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)บทที่ 426 ราตรีมรณะ

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter บทที่ 426 ราตรีมรณะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 426 ราตรี​มรณะ​

ในที่สุด​ ฉู่ชวิ๋น​ ก็​มาถึงยอดเขา​ เขา​ปล่อย​คลื่น​พลังจิต​ออก​ไป​ไม่นาน​ก็​รู้สึก​ได้​ถึงขุม​กำลัง​อัน​แข็งแกร่ง​ที่อยู่​รอบ​บริเวณ​

ฉู่ชวิ๋น​เคลื่อนไหว​เหมือน​ภูตผี​ใน​เงามืด​

เขา​พบ​ว่า​บรรดา​มนุษย์​กลายพันธุ์​ใน​ที่​แห่ง​นี้​ ส่วนใหญ่​ยังคง​หน้าตา​ตามแบบฉบับ​สัตว์ประหลาด​ตาม​สายพันธุ์​ แต่​รูปร่าง​นั้น​เป็น​เค้าโครง​ของ​มนุษย์​

ที่นี่​ชุมนุม​ด้วย​ยอด​มีฝีมือ​จาก​เผ่าพันธุ์​ต่างๆ​

ฉู่ชวิ๋น​เกือบ​เจอ​หน่วย​ลาดตระเวน​ ซึ่งเป็น​คน​ของ​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​คิงคอง​ แต่​ชายหนุ่ม​เลือก​ที่จะ​หลีกเลี่ยง​อย่าง​รวดเร็ว​

หลังจากนั้น​ เขา​ก็​พบ​หน่วย​ลาดตระเวน​อีก​หลาย​หน่วย​ บาง​หน่วย​ก็​ไม่ได้​เปลี่ยน​ร่าง​เป็น​มนุษย์​ จึงยาก​ที่จะ​แฝงตัว​เข้าไป​ได้​

ฉู่ชวิ๋น​อยาก​ลงมือ​ฆ่าพวก​มัน​โดยทันที​ แต่​ความรู้สึก​ไม่สบายใจ​ยังคง​รบกวน​เขา​อยู่​ไม่หาย​ เขา​จึงไม่กล้า​ลงมือ​

ใน​ระหว่าง​ที่​ฉู่ชวิ๋น​กำลัง​ขบคิด​อยู่​นั้น​เอง​ หน่วย​ลาดตระเวน​อีก​หน่วย​หนึ่ง​ก็​เดินผ่าน​มา ผู้​เป็น​หัวหน้า​หน่วย​เปลี่ยน​ร่าง​เป็น​มนุษย์​ ส่วน​ลูกน้อง​ของ​มัน​ ยัง​คงอยู่​ใน​ร่าง​พังพอน​ตัว​ใหญ่​น่าเกลียดน่ากลัว​

“ไอ้​พวก​มนุษย์​นกยูง​ น่าอร่อย​จังเลย​นะ​” หัวหน้า​หน่วย​ลาดตระเวน​ของ​กลุ่ม​พังพอน​ปีศาจ​พูด​น้ำลายไหล​ย้อย​

“*เหล่า​สือ​ อย่า​พูด​สิครับ​ ข้าน้อย​ยิ่ง​หิว​อยู่​” ดวงตา​ขนาด​เท่า​เม็ด​ถั่วเขียว​ของ​พังพอน​เหล่านั้น​เป็นประกาย​วิบวับ​

*เหล่า​สือ​ คือ​ ผู้อาวุโส​ลำดับ​ที่​ 10

“ให้​ตาย​เถอะ​ ดู​สายตา​ของ​แก​ซะก่อน​สิ” เหล่า​สือ​ผู้​เป็น​หัวหน้ากลุ่ม​ยิ้ม​

“เหล่า​สือ​ ท่าน​ก็​คิด​เหมือนกัน​ใช่ไหม​?” พังพอน​ตัว​หนึ่ง​หยอกเย้า​ขึ้น​มา

“ข้าน้อย​เห็น​ท่าน​กลืนน้ำลาย​ตลอดเวลา​ตอนที่​เรา​เจอ​พวก​มัน​”

“พวก​แก​ตาฝาด​มากกว่า​” เหล่า​สือ​ยกมือ​ลูบ​หนวดเครา​แล้ว​กลืนน้ำลาย​ไม่รู้ตัว​ “แต่ว่า​แค่​ได้กลิ่น​เลือด​ของ​พวก​มัน​แค่นี้​ ฉัน​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​เนื้อ​ของ​มัน​ต้อง​อร่อย​มาก​แน่ๆ​”

“เหล่า​สือ​ พวกเรา​สงสัย​เหลือเกิน​ ไม่ทราบ​ว่า​ชีวิต​นี้​พวก​ข้าน้อย​จะได้​มีโอกาส​ลิ้มรส​เนื้อ​นกยูง​บ้าง​หรือไม่​?”

ดวงตา​เท่า​เม็ด​ถั่วเขียว​ของ​เหล่า​สือ​เป็นประกาย​วาววับ​ขณะ​พูดว่า​ “วางใจ​ได้​ พวก​แก​ย่อม​มีโอกาส​นั้น​แน่นอน​”

“ถ้าหาก​เหล่า​สือ​มีโอกาส​ได้​กิน​เนื้อ​พวก​มัน​เมื่อไหร่​ อย่า​ลืม​มอบ​น้ำแกง​ให้​พวกเรา​ได้​ลอง​ชิมด้วย​นะ​ครับ​”

“ไม่ต้อง​ห่วง​ ฉัน​ไม่มีทาง​ลืม​พวก​แก​เด็ดขาด​” เหล่า​สือ​ยิ่ง​พูด​ก็​ต้อง​ยิ่ง​กลืนน้ำลาย​ “พวก​แก​ไป​ก่อน​เถอะ​ ฉัน​ขอ​แวะ​ยิง​กระต่าย​ก่อน​สักหน่อย​”

บรรดา​พังพอน​ปีศาจ​ที่​เป็น​ลูกน้อง​ออก​เดิน​ลาดตระเวน​ต่อไป​ เหล่า​สือ​หัวเราะเยาะ​ แล้วก็​เดิน​แยก​ออกมา​ที่​ต้นไม้​ข้างทาง​ต้น​หนึ่ง​

เหล่า​สือ​ประมาท​มากเกินไป​ ไม่รู้​เลย​ว่า​มัจจุราช​กำลัง​เข้าถึง​ตัว​แล้ว​

คน​ผู้​หนึ่ง​ปรากฏ​กาย​ขึ้น​ด้านหลัง​มัน​ เหล่า​สือ​มีพลัง​ระดับ​จักรพรรดิ​ขั้น​ที่​ 8 เรียก​ได้​ว่า​เป็นยอด​ฝีมือ​คน​หนึ่ง​ มัน​รู้สึกตัว​ทันที​และ​รีบ​หันขวับ​กลับ​ไป​มอง​

ผล​คือ​ ท่อน​แขน​ของ​ชายหนุ่ม​คน​หนึ่ง​รัด​รอบ​ลำคอ​ของ​มัน​ เหล่า​สือ​อยาก​จะร้อง​ตะโกน​ขอความช่วยเหลือ​ แต่​แล้วก็​ได้ยิน​เสียงดัง​กร๊อบ​ คอ​ของ​มัน​หัก​เสียแล้ว​

เหล่า​สือคอ​หัก​ ดวงตา​ถลน​ เสียชีวิต​ง่ายดาย​ราวกับ​เป็น​แค่​เพียง​เป็ด​ไก่​ตัว​หนึ่ง​

ฉู่ชวิ๋น​มอง​ร่าง​ไร้​วิญญาณ​ของ​เหล่า​สือ​ จากนั้น​กล้ามเนื้อ​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​เริ่ม​กระตุก​อย่าง​เชื่องช้า​ สวนทาง​กับ​โครงหน้า​ของ​เขา​ที่​เปลี่ยนแปลง​อย่าง​รวดเร็ว​ เช่นเดียวกับ​โครงกระดูก​ที่​มีลักษณะ​บาง​กรอบ​มากขึ้น​ รวมถึง​ความสูง​ที่​ลด​ลงมา​ด้วย​

ไม่นาน​หลังจากนั้น​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​แปลงร่าง​มาเป็น​เหล่า​สือ​ได้​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​

ยัง​เหลือ​อะไร​อีก​นะ​?

หนวด​ยังไง​ล่ะ​

ฉู่ชวิ๋น​เพิ่ม​ความ​แนบเนียน​ให้​มากขึ้น​ ด้วย​การ​ติด​หนวดเครา​ปลอม​เข้ากับ​ใต้​คาง​ของ​ตนเอง​

เรียบร้อย​แล้ว​ เขา​ก็​ถีบ​ศพ​ของ​เหล่า​สือตก​ยอดเขา​ไป​ด้วย​เท้า​เพียง​ข้างเดียว​

ประเมิน​ได้​ว่า​ก่อน​รุ่งสาง​ ศพ​ของ​เหล่า​สือคง​ถูก​สัตว์ร้าย​ใน​หุบเขา​นี้​กิน​จน​ไม่เหลือ​แม้แต่​กระดูก​

ฉู่ชวิ๋น​เดิน​ออก​มาจาก​หลัง​ต้นไม้​ ทอดสายตา​มอง​หน่วย​ลาดตระเวน​ที่​เดิน​ไกล​ออก​ไป​ เขา​พอ​จะจับ​วิธีการ​พูด​ของ​เหล่า​สือ​ได้​ไม่ยาก​

“ไอ้​เจ้าพวก​นี้​ รอ​ฉัน​ด้วย​สิ”

หน่วย​ลาดตระเวน​ที่​เดิน​นำหน้า​ไป​หยุดชะงัก​ทันที​ ฉู่ชวิ๋น​ค่อยๆ​ เดินตาม​ไป​จน​ทัน​

“เหล่า​สือ​ ทำไม​ถึงไป​นาน​จังเลย​ครับ​? ไป​แอบมอง​พวก​มนุษย์​นกยูง​มาหรือเปล่า​?” พังพอน​ปีศาจ​ตัว​หนึ่ง​พูด​ล้อเลียน​

พวก​มัน​ไม่รู้ตัว​เลย​แม้แต่น้อย​ว่า​เหล่า​สือ​ที่​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​คน​นี้​เป็นตัว​ปลอม​

“จะว่า​ไป​เนื้อ​นกยูง​มัน​อร่อย​จริงๆ​ นะ​ ข้า​ชัก​อดใจ​ไม่ไหว​แล้ว​สิ” ฉู่ชวิ๋น​เลียนแบบ​ลักษณะ​การ​พูด​ของ​เหล่า​สือ​ ดวงตา​เท่า​เม็ด​ถั่วเขียว​ของ​เขา​เป็นประกาย​ระยิบระยับ​ ในขณะที่​กลืนน้ำลาย​ลงคอ​เอื๊อก​ใหญ่​

ทั้งหมด​นี้​เป็น​สิ่งที่​เขา​ได้​เรียนรู้​มาระหว่าง​แอบมอง​อยู่​ข้าง​ต้นไม้​

“เหล่า​สือ​ อย่า​ไป​คิดถึง​เรื่อง​นั้น​เลย​ครับ​ จะทำให้​พวกเรา​พลอย​หิว​ไป​ด้วย​ แค่นี้​พวก​ข้าน้อย​ก็​กลืนน้ำลาย​ไม่รู้​กี่​ครั้ง​แล้ว​ แต่​ตอนนี้​พวกเรา​เป็น​พันธมิตร​กัน​ คุณ​หวู​สั่งไว้​ไม่ให้​เรา​ทำร้าย​พวก​เดียว​กันเอง​เด็ดขาด​”

คุณ​หวู?​

ดวงตา​ของ​ฉู่ชวิ๋น​เป็นประกาย​ คุณ​หวู​อะไร​นี่​มัน​เป็น​ใคร​กัน​อีก​ละ​เนี่ย​? แต่​ลางสังหรณ์​บอก​เขา​ได้​ทันที​ว่า​ชาย​คน​นี้​ไม่ธรรมดา​

ดู​ได้​จาก​สีหน้า​ของ​พังพอน​ปีศาจ​พวก​นี้​ พวก​มัน​หวาดกลัว​คุณ​หวู​เป็นอย่างมาก​

ฉู่ชวิ๋น​ไม่เก่ง​เรื่อง​การ​ถามคำถาม​ จึงแกล้ง​ไหล​ตามน้ำ​ไป​ตาม​เรื่องราว​

“ถ้าไม่เป็น​เพราะ​คุณ​หวู​นะ​ ป่านนี้​ฉัน​จับ​นกยูง​พวก​นั้น​มาต้ม​กิน​ไป​แล้ว​”

ฉู่ชวิ๋น​พูด​ด้วย​ความ​เหยียดหยาม​ แกล้ง​ทำเป็น​รู้เรื่อง​

“เหล่า​สือ​ไม่ต้อง​คิดมาก​ หลังจาก​พวกเรา​ฆ่าไอ้​บัดซบ​ฉู่ชวิ๋น​แล้ว​ คุณ​หวู​ก็​คง​ไม่สนใจ​อะไร​พวกเรา​อีก​ ถึงตอนนั้น​ พวกเรา​จะฆ่าพวก​มนุษย์​นกยูง​สัก​กี่​ตัว​ก็ได้​”

ระหว่าง​ที่​พูด​อยู่​นี้​ บังเอิญ​มีกลุ่ม​มนุษย์​นกยูง​เดินผ่าน​มาพอดี​

ฉู่ชวิ๋น​รู้สึก​ตลก​เป็น​อย่างยิ่ง​ที่​เห็น​บรรดา​พังพอน​ปีศาจ​กลืนน้ำลาย​ด้วย​ความหิวโหย​

พังพอน​ธรรมดา​กิน​ไก่​ พังพอน​ปีศาจ​ย่อม​ต้อง​กิน​นกยูง​ปีศาจ​

ดวงตา​ของ​ฉู่ชวิ๋น​เป็นประกาย​แวววาว​ ยิ้มมุมปาก​ออกมา​โดยไม่รู้ตัว​

เขา​ขยับ​เท้า​ออก​ไป​ข้างหน้า​และ​กระแอม​ไอ​ไล่​เสลด​

“สวัสดี​ สหาย​นกยูง​ เข้าเวร​กลางคืน​แบบนี้​ คง​เหนื่อย​แย่​เลย​สินะ​”

หัวหน้า​หน่วย​ลาดตระเวน​ของ​มนุษย์​นกยูง​เป็น​หญิงสาว​รูปร่างหน้าตา​ดี​คน​หนึ่ง​ มีพลัง​ระดับ​จักรพรรดิ​ขั้น​ที่​ 7

มนุษย์​นกยูง​ล้วนแต่​เป็น​เผ่าพันธุ์​ที่​มีแต่​คน​หน้าตา​ดี​ พวก​มัน​จึงจ้องมอง​บรรดา​พังพอน​ปีศาจ​ผู้​มีหน้าตา​อัปลักษณ์​ด้วย​ความ​ขยะแขยง​

มนุษย์​นกยูง​คิด​ว่า​ตนเอง​เป็น​เผ่าพันธุ์​ที่​สูงส่งเสมอมา​ แน่นอน​ว่า​พวก​มัน​ย่อม​เกลียดชัง​เผ่าพันธุ์​พังพอน​ปีศาจ​และ​คิด​ว่า​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​เป็น​พวก​สิ่งมีชีวิต​สกปรก​โสมม

หน่วย​ลาดตระเวน​ของ​มนุษย์​นกยูง​ไม่มอง​กลุ่ม​พังพอน​ปีศาจ​แม้แต่​หาง​ตา​ พวก​มัน​เดิน​เชิดหน้า​จากไป​ราวกับว่า​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​ไม่มีตัวตน​

“เฮอะ​ อวดดี​เหลือเกิน​ อีกไม่นาน​ข้า​จะกิน​เจ้าให้ได้​” พังพอน​ตัว​หนึ่ง​คำราม​ออก​ไป​ด้วย​ความโกรธแค้น​

“มีค่า​เป็น​แค่​อาหาร​ของ​พวกเรา​ มัน​กล้า​ทำ​เมินเฉย​กับ​ข้า​ได้​ยังไง​ แบบนี้​ไม่สั่งสอน​สักหน่อย​คง​ไม่ได้​แล้ว​” ฉู่ชวิ๋น​พูด​ด้วย​ความ​เดือดดาล​จน​หนวดเครา​สะบัด​

“เหล่า​สือ​ อย่า​เพิ่ง​วู่วาม​ รอ​ให้​เรื่อง​ของ​ไอ้​ฉู่ชวิ๋น​มัน​จบ​ลง​ไป​เสีย​ก่อน​ ข้าน้อย​จะช่วย​ท่าน​ฆ่าพวก​มัน​ไม่ให้​เหลือ​เอง​” พังพอน​ตัว​หนึ่ง​พูด​ออกมา​ด้วย​ความภักดี​

“ทำไม​ต้อง​รอ​ให้​จบเรื่อง​ของ​จอม​มาร​อะไร​นั้น​ก่อน​ด้วย​ล่ะ​?” ดวงตา​สีเขียว​ของ​ฉู่ชวิ๋น​เป็นประกาย​วาว​โรจน์​ “นี่แหละ​โอกาสดี​ที่สุด​แล้ว​”

“เหล่า​สือ​ ไม่ได้​นะ​ครับ​ ถ้าคุณ​หวู​รู้​เข้า​…”

“เรา​ก็​อย่า​ให้​เขา​รู้​สิวะ​!” ฉู่ชวิ๋น​หัวเราะเยาะ​ “ค่ำ​คืนนี้​เหมาะ​แก่​การ​ฆ่าคน​เป็น​อย่างยิ่ง​ อีก​อย่าง​ถ้าพวกเรา​ไม่พูด​ จะมีใคร​รู้​ว่า​เรา​ฆ่าพวก​มัน​?”

“แต่​ถ้าคุณ​หวู​เกิด​รู้​ขึ้น​มาล่ะ​ครับ​?”

“แก​จะกลัว​อะไร​นักหนา​ เรื่อง​นี้​ถ้าเรา​ไม่พูด​ คนอื่น​จะรู้​ได้​ยังไง​?” ฉู่ชวิ๋น​หันกลับ​ไป​จ้องมอง​กลุ่ม​ของ​มนุษย์​นกยูง​ด้วย​ความโกรธแค้น​ “ไอ้​นกยูง​พวก​นี้​มัน​ดูถูก​เรา​มานาน​แล้ว​ ข้า​จะไม่ทน​อีกต่อไป​”

“พวก​แก​ไม่อยาก​กิน​เนื้อ​มนุษย์​นกยูง​หรือไง​? เนื้อ​ของ​พวก​มัน​มีสารอาหาร​มากมาย​ เมื่อ​กิน​เข้าไป​แล้วก็​ช่วย​ใน​การ​ฝึก​วิชา​ได้​ดีมาก​” ฉู่ชวิ๋น​ยังคง​พูด​ต่อไป​

แน่นอน​ว่า​พังพอน​ปีศาจ​ผู้​เป็น​ลูกน้อง​ของ​เหล่า​สือ​ต่าง​พา​กัน​กลืนน้ำลาย​ไม่รู้ตัว​

“พวก​แก​วางใจ​ได้​ ถ้ามีอะไร​เกิดขึ้น​ เดี๋ยว​ฉัน​รับผิดชอบ​เอง​” ฉู่ชวิ๋น​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​หนักแน่น​

“ข้าน้อย​เชื่อฟัง​เหล่า​สือ​แล้ว​”

“ข้าน้อย​ก็​ทน​มอง​นกยูง​พวก​นั้น​ทำตัว​อวดดี​ใส่เรา​มานาน​แล้ว​”

“เหล่า​สือ​ ได้​โปรด​ออกคำสั่ง​ พวกเรา​จะทำ​ตามแต่​โดยดี​”

ฉู่ชวิ๋น​ลอบ​ยิ้ม​เงียบงัน​ ก่อนที่จะ​เรียก​พังพอน​ปีศาจ​กลุ่ม​นี้​มารวมตัวกัน​ แล้ว​วางแผนการ​ใน​ความมืด​

เดิมที​พังพอน​เป็น​สัตว์​ที่​เจ้าเล่ห์​เป็น​ทุนเดิม​อยู่แล้ว​ พวก​มัน​เชี่ยวชาญ​เรื่อง​การ​ซุ่มโจมตี​ ลักพาตัว​และ​ขโมย​ของ​ คราวนี้​ พวก​มัน​หมายตา​เนื้อ​ของ​มนุษย์​นกยูง​ จึงมีความระมัดระวัง​เป็น​อย่างยิ่ง​

“เรียบร้อย​ ทำตาม​นี้​ก็แล้วกัน​” ฉู่ชวิ๋น​ตบมือ​เสียงดัง​และ​ออกคำสั่ง​ “เรา​จะไป​แอบ​อยู่​หลัง​ก้อนหิน​ตรงนั้น​ รอ​ให้​พวก​มัน​เดิน​มาถึง แกก็ต้อง​ล่อ​ให้​พวก​มัน​เข้าไป​ให้ได้​”

ภูเขา​ลูก​นี้​มีขนาด​ใหญ่โต​ พื้นที่​ด้าน​หนึ่ง​เป็น​ลาน​หิน​ ที่​มีแต่​ก้อนหิน​ลักษณะ​แปลกประหลาด​ตั้งอยู่​เต็มไปหมด​

“จำเอาไว้​นะ​ว่า​ ต้อง​ลงมือ​ทีเดียว​เอา​ให้​พวก​มัน​ตาย​ให้ได้​” ฉู่ชวิ๋น​ว่า​

กลุ่ม​พังพอน​ปีศาจ​ค้นหา​ก้อนหิน​ที่​เหมาะสม​สำหรับ​การ​ซ่อนตัว​ หลังจากนั้น​ก็​รอคอย​ให้​มนุษย์​นกยูง​เดิน​ลาดตระเวน​มาถึง

แน่นอน​ว่า​บรรดา​พังพอน​ปีศาจ​ชำนาญ​เรื่อง​การรอคอย​เหยื่อ​ ใช้เวลา​ไม่นาน​ กลุ่ม​ของ​มนุษย์​นกยูง​ก็​เดิน​ลาดตระเวน​มาถึงบริเวณ​นั้น​

“เจ้ามาทำ​อะไร​ตรงนี้​?” หญิงสาว​หัวหน้ากลุ่ม​ลาดตระเวน​เอ่ย​ถามเสียงดัง​

พังพอน​ปีศาจ​ดวงตา​เป็นประกาย​ ตอบ​ว่า​ “พบศพ​คนตาย​อยู่​ที่นี่​ ผู้อาวุโส​ของ​เรา​อยาก​เชิญทุกท่าน​เข้า​ไปดู​สักหน่อย​ เชิญตาม​ข้าน้อย​มาได้​เลย​”

พูด​จบ​พังพอน​ปีศาจ​ตัว​นั้น​ก็​วิ่ง​เข้าไป​ที่​ลาน​หิน​

หญิงสาว​หัวหน้ากลุ่ม​มนุษย์​นกยูง​ตกใจ​เล็กน้อย​ แต่​ไม่มีเวลา​ให้​คิด​อะไร​อีกแล้ว​ เธอ​รีบ​นำ​ลูกน้อง​ตามติด​เข้าไป​ทันที​

เมื่อ​ตาม​เข้าไป​ถึงใน​ลาน​หิน​ กลุ่ม​มนุษย์​นกยูง​ก็​พบ​ว่า​พังพอน​ปีศาจ​ตัว​นั้น​หาย​ไป​แล้ว​

แต่​ก่อนที่​พวก​มัน​จะทัน​ได้​เข้าใจ​อะไร​ ก็​ได้ยิน​เสียง​คน​ตะโกน​ว่า​ “ลงมือ​”

วูบ​…!

แล้ว​เงาร่าง​สีดำ​ก็​กระโจน​ออก​มาจาก​หลัง​ก้อนหิน​

พวก​มัน​คือ​พังพอน​ปีศาจ​ที่​มีขนาด​ความ​ยาว​ตัว​ละ​สามเมตร​ เขี้ยว​ทั้งสอง​ข้าง​ยาว​ 10 เซนติเมตร​ คม​ยิ่งกว่า​ใบมีดโกน​ ซ้ำพวก​มัน​ยังมี​รวดเร็ว​ แถมยัง​เตรียมตัว​ล่วงหน้า​เอาไว้​แล้ว​

ก่อนที่​กลุ่ม​มนุษย์​นกยูง​จะทัน​ได้​ทำ​อะไร​ พวก​มัน​ก็​ถูก​พังพอน​ปีศาจ​กัด​กล่องเสียง​ ทำให้​ไม่สามารถ​เปล่งเสียง​ออกมา​ได้​

เลือดสาด​กระจาย​ มนุษย์​นกยูง​ตก​ตาย​ด้วย​ความ​ทรมาน​ กลุ่ม​พังพอน​ปีศาจ​กัด​ลำคอ​ของ​พวก​มัน​ไม่ยอม​ปล่อย​

“แก​…” หัวหน้ากลุ่ม​มนุษย์​นกยูง​ที่​เป็น​หญิงสาว​หน้าตา​ซีด​ขาว​ หลังจากนั้น​ เธอ​ก็​เค้น​เสียง​ออกมา​ด้วย​ความโกรธแค้น​

จังหวะ​นั้น​เอง​ ฉู่ชวิ๋น​กระโจน​ลง​จาก​ก้อนหิน​ก้อน​หนึ่ง​และ​สะบัด​ฝ่ามือ​ใส่เธอ​ หญิงสาว​มนุษย์​นกยูง​รีบ​เปลี่ยน​ร่าง​กลายเป็น​นกยูง​ตัว​ใหญ่​ ที่​มีขนาด​ความ​ยาว​ลำตัว​หลาย​สิบ​เมตร​ แต่​ก็​ยัง​ไม่อาจ​รอดพ้น​ชะตากรรม​ ถูก​พลัง​ลมปราณ​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ซัด​เข้าใส่​จน​ขาดใจตาย​ในที่สุด​

ในขณะเดียวกัน​นี้​ การดิ้นรน​ของ​กลุ่ม​มนุษย์​นกยูง​ก็​ลดน้อยลง​เรื่อยๆ​ ลำคอ​ของ​พวก​มัน​โดน​กัด​เป็น​บาด​แผลฉกรรจ์​ เลือด​ไหล​นอง​เต็ม​พื้น​หิน​ ไม่มีใคร​สามารถ​รอดชีวิต​ได้​อีกแล้ว​

พังพอน​ปีศาจ​กลุ่ม​นี้​มีความชำนาญ​เรื่อง​การ​ล่า​เหยื่อ​ การ​ลงมือ​ของ​พวก​มัน​แม่นยำ​เสมอมา​

หลังจาก​พวก​มนุษย์​นกยูง​ตาย​แล้ว​ กลุ่ม​พังพอน​ปีศาจ​ก็​รู้สึก​เบาใจ​ และ​รอ​ไม่ไหว​แล้ว​ที่จะ​เลีย​เลือด​ของ​มนุษย์​นกยูง​ที่​ไหล​นอง​อยู่​บน​พื้น​

ฉู่ชวิ๋น​มองดู​แล้วก็​รู้สึก​ขยะแขยง​ยิ่งนัก​

“ไอ้​พวก​นกยูง​เหล่านี้​หลงตัวเอง​นักหนา​ คิด​ว่า​ผู้อื่น​ต่ำต้อย​เสีย​เต็มประดา​ แต่​พวก​มัน​ไม่ใช่คู่มือ​ของ​เรา​เลย​แม้แต่น้อย​” พังพอน​ปีศาจ​ตัว​หนึ่ง​พูด​ออกมา​

“พวก​มัน​ก็​แค่​คุยโว​โอ้อวด​จน​เคยตัว​นั่นแหละ​” ฉู่ชวิ๋น​พูด​เสริม​

แต่​ไม่มีผู้ใด​ทราบ​เลย​ว่า​ตอนที่​เริ่ม​ลงมือ​ต่อสู้​กัน​นั้น​ ฉู่ชวิ๋น​ได้​แอบ​สกัด​จุด​ลมปราณ​ของ​มนุษย์​นกยูง​เอาไว้​หมด​แล้ว​

นอกจาก​หญิงสาว​หัวหน้ากลุ่ม​ที่​เหลือ​ก็​มีพลัง​จักรพรรดิ​ขั้น​แรกเริ่ม​ ฉู่ชวิ๋น​จึงสามารถ​สกัด​จุด​ลมปราณ​ของ​พวก​มัน​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

“เหล่า​สือ​ ผม​ขอ​กิน​เนื้อ​พวก​มัน​ได้​ไหม​?” พังพอน​ปีศาจ​ตัว​หนึ่ง​ที่​มีเลือด​เปื้อน​เต็ม​เขี้ยว​ ถามใน​ลักษณะ​น้ำลายไหล​ยืด​

ฉู่ชวิ๋น​รู้ดี​อยู่แล้ว​ว่า​พวก​พังพอน​ปีศาจ​อยาก​กิน​เนื้อ​นกยูง​มาก​ขนาด​ไหน​

“ตัว​นี้​ข้า​ขอ​ก็แล้วกัน​” ฉู่ชวิ๋น​ชี้มือ​ไป​ยัง​ตัว​ที่​เขา​ฆ่าทิ้ง​บน​พื้น​ และ​กล่าว​ต่อ​ “ส่วนตัว​ที่​เหลือ​พวก​แก​เอา​ไป​เลย​”

ได้ยิน​ดังนั้น​ กลุ่ม​พังพอน​ปีศาจ​ก็​รีบ​พุ่ง​เข้าหา​ซากศพ​ของ​มนุษย์​นกยูง​ที่​พวก​มัน​สังหาร​ทันที​

“ช้าก่อน​” ฉู่ชวิ๋น​โพล่ง​ขึ้น​

พังพอน​ปีศาจ​เหล่านั้น​หยุดชะงัก​ แล้ว​หันมา​มองหน้า​เขา​ด้วย​ความแปลกใจ​

“พวก​แก​กิน​แค่​พออิ่ม​ก็​พอ​ ส่วนที่เหลือ​เก็บ​เอาไว้​ใน​แหวน​เก็บ​สมบัติ​ เก็บ​เอาไว้​กิน​วันหลัง​บ้าง​ หรือ​อย่าง​น้อย​ก็​แบ่งปัน​พี่น้อง​ที่​ยัง​ไม่มีโอกาส​ได้​เคย​กิน​เนื้อ​พวก​มัน​ พวก​แก​เล่น​ทำ​ท่าจะ​กิน​อย่าง​ตระ​ก​ละ​ตระ​กลา​มอย่าง​นี้​ แล้ว​เนื้อ​จะเหลือ​ถึงคนอื่น​ได้​อย่างไร​?”

“เหล่า​สือ​พูด​ถูกต้อง​ เรา​ต้อง​ไม่ลืม​พี่น้อง​ของ​เรา​ กินกัน​แต่​พออิ่ม​ดีกว่า​”

เมื่อ​พูด​จบ​แล้ว​ บรรดา​พังพอน​ปีศาจ​ก็​หันกลับ​ไป​ให้ความสนใจ​ที่​ศพ​ของ​มนุษย์​นกยูง​อีกครั้ง​

หลังจากนั้น​ ขนนก​ก็​ปลิว​กระจาย​ เลือด​ไหล​ทะลัก​ ลำไส้​ถูก​ควัก​ออกมา​กอง​อยู่​เต็มไปหมด​ พร้อมกัน​นั้น​ก็​จะได้ยิน​เสียง​บด​เคี้ยว​กระดูก​ดัง​ “กร๊อบ​ๆ” ตลอดเวลา​

ฉู่ชวิ๋น​รู้สึก​อยาก​อาเจียน​ออกมา​แล้ว​

“เหล่า​สือ​ ไม่มากิน​ด้วยกัน​หรือ​ครับ​?” พังพอน​ปีศาจ​ตัว​หนึ่ง​เหลียว​หน้า​มาถาม ใน​ปาก​ของ​มัน​กำลัง​เคี้ยว​ลำไส้​อย่าง​เอร็ดอร่อย​

ฉู่ชวิ๋น​สะกด​ความ​คลื่นเหียน​เอาไว้​และ​พูด​ออกมา​ว่า​ “ข้า​เป็น​เหล่า​สือ​ผู้​สุภาพ​และ​สูงส่งของ​สำนัก​พร​พิฆาต​ จะมากิน​มูมมามให้​พวก​แก​เห็น​ได้​ยังไง​? แบบ​นั้น​เสีย​ภาพลักษณ์​ของ​ข้า​หมดกัน​พอดี​ ต้อง​กิน​สุก​ ๆ สิ”

“เหล่า​สือ​ช่างล้ำลึก​ยิ่งนัก​ พวกเรา​ต้อง​คารวะ​แล้ว​!”

“แต่​เหล่า​สือ​ครับ​ ถ้าเรา​ก่อไฟ​ทำอาหาร​ จะมีใคร​มาเจอ​หรือเปล่า​”

ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​ว่า​ “ที่นี่​เป็น​ลาน​หิน​ เปลวไฟ​คง​ไม่ลาม​ไป​ไหน​ได้​หรอก​ ตอนนี้​ท้องฟ้า​มืด​หมด​แล้ว​ ต่อให้​มีควัน​ลอย​ขึ้นไป​ ใคร​มัน​จะมองเห็น​? รีบ​กิน​เข้า​เถอะ​ กิน​เสร็จ​แล้ว​อย่า​ลืม​ทำความสะอาด​ด้วย​”

พังพอน​ปีศาจ​พร้อมใจกัน​พยักหน้า​ รู้สึก​ว่า​ผู้อาวุโส​ลำดับ​ที่​ 10 ของ​พวก​มัน​ฉลาด​ล้ำลึก​เหลือเกิน​ ซ้ำยังมี​วิสัยทัศน์​กว้างไกล​ นับ​ได้​ว่า​พวก​มัน​เลือก​ติดตาม​คน​ไม่ผิด​แล้ว​ หลังจากนั้น​ กลุ่ม​พังพอน​ปีศาจ​ก็​รับประทาน​เนื้อ​มนุษย์​นกยูง​อย่าง​เอร็ดอร่อย​

แต่​ไม่มีใคร​สังเกต​เลย​ว่า​หญิงสาว​ผู้​เป็น​หัวหน้ากลุ่ม​ของ​มนุษย์​นกยูง​ ที่​ถูก​ฉู่ชวิ๋น​ฆ่าตาย​ไป​เมื่อ​สักครู่​นี้​ กำลัง​แอบ​ลืมตา​ขึ้น​มาอย่าง​เชื่องช้า​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด