จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)บทที่ 462 ผีกาฝาก

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter บทที่ 462 ผีกาฝาก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 462 ผี​กาฝาก​

เมื่อ​กวาดตา​มอง​รอบตัว​ ก็​พบ​แต่​ความ​มืดมิด​

ฉู่ชวิ๋น​พยายาม​ปล่อย​คลื่น​จิตวิญญาณ​ออก​ไป แต่​ก็​ต้อง​ตกตะลึง​อีกครั้ง​เมื่อ​พบ​ว่า​ที่นี่​ก็​เป็น​ค่าย​อาคม​อีก​หนึ่ง​แห่ง​ คลื่น​จิตวิญญาณ​ของ​เขา​สามารถ​แผ่​ไปได้​ไกล​เพียงแค่​ 10 เมตร​เท่านั้น​

ผู้​ที่​เคย​เป็นเจ้าของ​สถานที่​แห่ง​นี้​ ต้อง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ระดับสูง​อย่าง​แน่แท้​

ฉู่ชวิ๋น​เลิก​คิด​ฟุ้งซ่าน​ และ​เริ่มต้น​ระมัดระวัง​ตัว​มากขึ้น​

ลัทธิ​เต๋า​คงอยู่​มาอย่าง​ยาวนาน​ ตัว​เขา​เอง​คง​เป็น​แค่​เพียง​เด็กน้อย​เท่านั้น​ เมื่อ​เทียบ​กับ​พลัง​ตอนนี้​กับ​พลัง​ของ​ผู้​ที่​สร้าง​สถานที่​แห่ง​นี้​ขึ้น​มา

ยิ่งไปกว่านั้น​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​มีจิตใจ​เคารพ​ผู้​ฝักใฝ่​ใน​ลัทธิ​เต๋า​เป็น​ทุนเดิม​อยู่แล้ว​

ชายหนุ่ม​พร้อม​สู้กับ​ทุกคน​บน​โลก​นี้​ก็​จริง​ แต่​ถ้าให้​สู้กับ​ผู้​ที่​คอย​กำราบ​ปีศาจร้าย​ ถ้าเลือก​ได้​ เขา​ก็​ไม่อยาก​ทำ​เท่าไหร่​นัก​

ฉู่ชวิ๋น​ใช้คลื่น​จิตวิญญาณ​สำรวจ​แทน​ดวงตา​ เลือก​ทิศทาง​ที่จะ​ก้าวเดิน​ไปใน​ความมืด​

สถานที่​แห่ง​นี้​กว้างใหญ่​ไพศาล​เหลือเกิน​ ไม่ว่า​เขา​จะเดิน​ไปนาน​แค่​ไหน​ แต่​มือ​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ก็​ไม่เคย​สัมผัส​กับ​ผนัง​หรือ​กำแพง​เลย​สัก​แห่ง​

ฉู่ชวิ๋น​ส่งเสียงคราง​ใน​ลำคอ​ ผู้ฝึก​ตน​ด้วย​เต๋า​คือ​ส่วนผสม​ระหว่าง​เทพเจ้า​กับ​มนุษย์​ เมื่อ​ฝึก​วิชา​บรรลุ​ขั้น​สมบูรณ์​แล้วก็​จะมีชีวิต​เป็น​อมตะ​ และ​นั่น​ก็​คือ​การฝืน​กฎธรรมชาติ​ข้อ​หนึ่ง​ ถ้าจะบรรลุผล​สูงสุด​สำหรับ​การ​บําเพ็ญเพียร​ ผู้ฝึก​ตน​คน​นั้น​ก็​ต้อง​เอาชนะ​กฎ​แห่ง​ธรรมชาติ​ให้​ได้เสีย​ก่อน​

และ​มัน​ก็​เป็น​อย่าง​ที่​เขา​ทราบ​ดี​ ค่าย​อาคม​ของ​นักพรต​มักจะ​ไม่มีหัว​และ​ไม่มีท้าย​ ส่วนใหญ่​จะใช้กักขัง​ผู้​ที่​หลง​เข้ามา​ให้​เดิน​วน​ไปจนตาย​

ฉู่ชวิ๋น​ไม่เดิน​ไปข้างหน้า​อีก​ แต่​ชายหนุ่ม​เลือก​ที่จะ​เดิน​ถอยหลัง​

แน่นอน​ว่า​ในขณะที่​ก้าวเดิน​ถอยหลัง​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​รู้สึก​ได้​ถึงแรงกดดัน​บางอย่าง​ที่​พยายาม​ขัดขวาง​ไม่ให้​เขา​ถอยกลับ​ไป

“ข้าน้อย​ให้​ความเคารพ​ท่าน​ ไม่ได้มา​ที่นี่​ด้วย​เจตนา​ลบหลู่​ ได้​โปรด​ผู้อาวุโส​ปล่อย​ข้าน้อย​ไปเถิด​” ฉู่ชวิ๋น​คำราม​ออกมา​เสียงแหบ​ต่ำ​

พรึบ​!

พลัง​ลมปราณ​สีม่วง​แผ่ออก​มาจาก​ร่างกาย​ของ​ฉู่ชวิ๋น​อย่าง​รุนแรง​ ทำให้​เขา​มีสภาพ​เป็น​เหมือน​ตะเกียง​ไฟส่องแสง​สว่างไสว​อยู่​กลาง​ความมืด​

ครืน​!

เมื่อ​ฉู่ชวิ๋น​ขยับ​เท้า​ถอยหลัง​ พื้นดิน​ก็​ระเบิด​ตู้​มขึ้น​ทันที​

เขา​กำลัง​ต่อสู้​อยู่​กับ​พลัง​ที่​มองไม่เห็น​

พลัง​ที่​ไม่ได้​มาจาก​โลก​ภายนอก​ แต่​มาจาก​ใน​ค่าย​อาคม​แห่ง​นี้​นี่เอง​

“ได้​โปรด​อย่า​ขัดขวาง​ข้าน้อย​เลย​” ฉู่ชวิ๋น​กระซิบ​เสียง​แผ่วเบา​

พลัง​ลมปราณ​สีม่วง​จาก​ลำตัว​ของ​เขา​ขยาย​วงกว้าง​ออก​ไปใน​ความมืด​ ต่อสู้​กับ​แรงกดดัน​ที่​ถาโถมเข้า​มาจาก​รอบทิศทาง​

ตุบ​…!

ฉู่ชวิ๋น​สามารถ​ก้าวเดิน​ถอยหลัง​ได้​สำเร็จ​ เกิด​เป็น​รอยเท้า​ของ​เขา​ฝังแน่น​อยู่​บน​พื้น​หิน​

“จักรพรรดิ​เซียน​ ไม่ได้​รู้​ทุกอย่าง​สินะ​”

ฉู่ชวิ๋น​คำราม​อยู่​ใน​ลำคอ​ ม่าน​พลัง​สีม่วง​ห้อมล้อม​รอบกาย​ เหมือน​เป็น​วัง​น้ำวน​ที่​คอย​กำบัง​สิ่งแปลกปลอม​ไม่ให้​เข้ามา​ใกล้​

ตุบ​…!

ฉู่ชวิ๋น​สามารถ​ถอยหลัง​มาได้​อีก​ 10 ก้าว​ แล้ว​พื้นดิน​ก็​สั่นสะเทือน​ แผ่น​หินอ่อน​ใต้​ฝ่าเท้า​เกิด​เป็น​รอย​แตกร้าว​ขนาดใหญ่​

ทันใดนั้น​เอง​ ฉู่ชวิ๋น​สามารถ​มองเห็น​สิ่งรอบตัว​ได้​อีกครั้ง​ แต่​สิ่งที่​เขา​เห็น​กลับ​ถูก​อาบ​ไว้​ด้วย​แสงสีแดง​

ในที่สุด​ ก็​สามารถ​หลุด​ออก​มาจาก​ค่าย​อาคม​นั้น​ได้​แล้ว​

แต่​ที่นี่​มัน​เป็น​ที่ไหน​กัน​?

ฉู่ชวิ๋น​หรี่ตา​มอง​ทะเลสาบ​ลาวา​ที่อยู่​เบื้องหน้า​ ลาวา​เหลว​ร้อน​เคลื่อนไหว​ไหลริน​ตลอดเวลา​ ได้กลิ่น​กำมะถัน​ลอย​ขึ้น​มาเตะจมูก​อย่าง​รุนแรง​

ผิว​ลาวา​กำลัง​เดือด​ปุด​ มีฟองอากาศ​ผุด​พราว​ และ​เกิด​การระเบิด​ตูมตาม​ของ​ผิว​ลาวา​ขึ้น​มาเป็นระยะ​

ฉู่ชวิ๋น​เงยหน้า​มอง​ด้านบน​ ถ้ำแห่ง​นี้​มีเพดาน​สูงประมาณ​ 10 เมตร​ ผนัง​เป็น​ก้อนหิน​ขรุขระ​สีแดงสด​ ถ้ำแห่ง​นี้​มีขนาด​กว้างใหญ่​นับ​หมื่น​ตารางเมตร​

หรือว่า​นี่​จะเป็น​ค่าย​อาคม​อีก​หนึ่ง​แห่ง​? ฉู่ชวิ๋น​ยัง​ไม่อาจ​ปล่อย​จิตวิญญาณ​ออก​ไปสำรวจ​รอบ​พื้นที่​ได้​ ดังนั้น​ เขา​จึงทำ​อะไร​ไม่ได้​มาก​ไปกว่า​นี้​

ฉู่ชวิ๋น​ลอง​เตะ​ก้อนหิน​ลง​ไปใน​ทะเลสาบ​ลาวา​ เสียง​ฟู่ดัง​ขึ้น​พร้อมกับ​ที่​มีควัน​สีขาว​ลอย​โขมง​ ก้อนหิน​ที่​เขา​เตะ​ลง​ไปเมื่อ​สักครู่​นี้​ละลาย​หาย​ไปแล้ว​

จังหวะ​นี้​เอง​ บังเกิด​เสียง​แปลก ๆ​ ลอย​มาเข้าหู​ ฉู่ชวิ๋​นรี​บ​หันหลัง​กลับ​ไปจ้องมอง​ ก่อนที่จะ​ยืน​นิ่ง​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​

สิ่งที่​ชายหนุ่ม​เห็น​ก็​คือ​ พวก​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​ใน​ร่าง​มนุษย์​และ​พวก​เกา​โม่หา​น​กำลัง​มีสีหน้า​ตื่นกลัว​ ราวกับว่า​ทุกคน​เพิ่งจะ​ได้​พานพบ​สิ่งที่​น่ากลัว​สุด​ชีวิต​มาหมาด ๆ​

ทุกคน​เดิน​วน​เป็น​รัศมี​ 100 ตารางเมตร​ ลักษณะ​เหมือน​คนตาบอด​ แต่​ไม่สามารถ​สัมผัส​ตัว​กันและกัน​ได้​เลย​ ทุกครั้งที่​กำลังจะ​เดิน​ชน​กัน​ พวกเขา​ก็​จะเดิน​เฉียด​ผ่าน​กัน​ไปเหมือน​มีพลังงาน​ที่​มองไม่เห็น​คอย​ควบคุม​อยู่​อย่างไร​อย่างนั้น​

พลัน​ หลิว​จิว​หยวน​ก็​เหมือน​จะสติ​กระเจิง​ไปแล้ว​ ระเบิด​พลัง​ลมปราณ​ออก​มาจาก​ร่างกาย​อย่าง​บ้าคลั่ง​

เมื่อ​ถึงตอนนี้​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​อด​หรี่ตา​ลง​ไม่ได้​ เขา​เห็น​ว่า​บน​แผ่น​หลัง​ของ​หวง​ไห่​มีเงาคน​กำลัง​เกาะ​อยู่​ หรือ​ถ้าพูด​ให้​ชัดเจน​มากกว่า​นั้น​ก็​คือ​ มัน​เป็นเงา​สีดำ​รูปร่าง​มนุษย์​ที่​ไม่มีหน้าตา​นั่นเอง​

หวง​ไห่​เหมือน​จะรู้สึก​ได้​ถึงพลังงาน​อะไร​บางอย่าง​ มัน​ยก​มือขึ้น​และ​ยิง​พลัง​ไปที่​ด้านหลัง​ของ​ตัวเอง​อย่าง​รุนแรง​ แต่​ใน​วินาที​ที่​หวง​ไห่​ปล่อย​พลัง​ออก​ไปนั้น​ เงาสีดำ​ก็ได้​หายวับ​ไปแล้ว​

ฉู่ชวิ๋น​รู้สึก​ขนลุกซู่​ เพียงแค่​พริบตาเดียว​ เงาดำ​นั้น​ก็​กระโดด​กลับมา​เกาะ​แผ่น​หลัง​ของ​หวง​ไห่​อีกครั้ง​ ซ้ำมัน​ยัง​ทำท่า​หันมา​มอง​ทาง​เขา​ด้วย​ความ​เย้ยหยัน​อีกด้วย​

ฉู่ชวิ๋น​ตัวสั่น​โดยไม่รู้ตัว​ ถึงแม้เงาดำ​นั้น​จะไม่มีใบหน้า​ แต่​ก็​รู้สึก​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​มัน​กำลัง​จ้องมอง​เขา​เขม็ง​

นี่​มัน​ตัว​อะไร​กัน​เนี่ย​?

ฉู่ชวิ๋​นรี​บ​สำรวจ​ร่างกาย​ตัวเอง​ โชคดี​มัน​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ฝังตัว​เข้ามา​ใน​ร่างกาย​ของ​เขา​

แต่​ถึงอย่างนั้น​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​ยังคง​ใช้พลัง​ลมปราณ​จำแลง​สำรวจ​ทั่ว​ร่างกาย​ตัวเอง​อยู่​หลาย​รอบ​ เพื่อให้​แน่ใจ​ว่า​ไม่มีเงาดำ​แอบแฝง​อยู่​จริง ๆ​ เมื่อ​แน่ใจ​แล้ว​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​ต้อง​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​

ค่าย​อาคม​ที่​กักตัว​จอม​ยุทธ์​ขั้น​เซียน​ทั้ง​ 10 คน​นั้น​มีความ​น่ากลัว​มาก​ ถึงพวกเขา​จะอยู่​ด้วยกัน​ แต่กลับ​ไม่สามารถ​สัมผัส​กันและกัน​ได้​เลย​

ฉู่ชวิ๋น​รู้​แล้ว​ว่า​ถ้าคนใน​นั้น​หา​วิธี​ทำลาย​ค่าย​อาคม​ไม่ได้​ ก็​คง​ไม่มีวัน​ได้​หลุด​ออกมา​แน่​ ๆ

ขณะนี้​ ฉู่ชวิ๋นพบ​ว่า​มีเงาดำ​รูปร่าง​เหมือน​เด็ก​คน​หนึ่ง​ กำลัง​เกาะติด​อยู่​ที่​ต้นขา​ของ​ค่งห​ลี่​ฉุน​ไม่ยอม​ปล่อย​

ค่งห​ลี่​ฉุน​ที่​กำลัง​เดิน​ ๆ อยู่​พลัน​หยุดชะงัก​อยู่กับที่​ทันที​ สีหน้า​ของ​มัน​ปรากฏ​ความ​ตื่นกลัว​เล็กน้อย​ เปลวไฟ​พลัน​ลุก​พรึบ​ขึ้น​มาที่​ฝ่ามือ​ ก่อนที่จะ​ตบ​ฝ่ามือ​ลง​ไปบน​ต้นขา​ของ​ตนเอง​

ฉู่ชวิ๋น​ขนหัวลุก​ แสงสว่าง​จาก​ฝ่ามือ​ของ​ค่งห​ลี่​ฉุน​ทำให้​เขา​เห็น​ใบหน้า​ของ​เงาเด็ก​คน​นั้น​ มัน​เรียก​ว่า​เป็น​หน้า​มนุษย์​ไม่ได้​เลย​แม้แต่น้อย​ ใบหน้า​ของ​มัน​แบน​ราบ​ไปหมด​ แต่​มีปาก​ที่​เต็มไปด้วย​เขี้ยว​แหลม​ เพียง​พริบตาเดียว​เงาเด็ก​คน​นั้น​ก็​หายวับ​เข้าไป​ใน​ร่างกาย​ของ​ค่งห​ลี่​ฉุน​ เหมือนกับ​ว่า​สามารถ​ไหล​ซึมลง​ไปผ่าน​รูขุมขน​ของ​มนุษย์​นกยูง​ได้​ก็​ไม่ปาน​

“ระวัง​!” ฉู่ชวิ๋น​พลัน​ตะโกน​เสียงดัง​

ที่​เขา​ตะโกน​ออกมา​เนื่องจากว่า​ใน​ตอนนี้​ ปรากฏ​เงาดำ​เงาหนึ่ง​เกาะ​อยู่​บน​แผ่น​หลัง​ของ​เกา​โม่หา​น​

พวก​เกา​โม่หา​น​ช่วย​ออก​สมุนไพร​จิตวิญญาณ​ระดับสูง​ให้​ฉู่ชวิ๋น​เป็น​จำนวน​มากมาย​ถึง 300 กำ​ ฉู่ชวิ๋น​รู้ดี​ว่า​ตัวเอง​เป็นหนี้บุญคุณ​ ชาย​ชรา​ทั้ง​สามอยู่​ไม่น้อย​

นอกจากนี้​ ฉู่ชวิ๋น​ยัง​รู้สึก​ชมชอบ​นิสัยใจคอ​ของ​เกา​โม่หา​น​ และ​รู้สึก​ว่า​จำเป็นต้อง​ช่วยเหลือ​ชาย​ชรา​ให้​รอดพ้น​จาก​อันตราย​

แต่​คำเตือน​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ลอย​ไปไม่ถึงหู​คนฟัง​ เกา​โม่หา​น​ไม่ตอบสนอง​แม้แต่น้อย​ ถึงอย่างนั้น​ ชาย​ชรา​ก็​รู้​ว่า​มีอะไร​บางอย่าง​เกาะ​อยู่​บน​หลัง​ของ​ตัวเอง​ เขา​ยก​มือขึ้น​และ​ยิง​พลัง​ลมปราณ​ไปทาง​ด้านหลัง​

เปรี้ยง​!

เกา​โม่หา​น​ลงมือ​ด้วย​ความ​รวดเร็ว​รุนแรง​ เงาดำ​ถูก​พลัง​ลมปราณ​ของ​ชาย​ชรา​ซัด​ใส่ระเบิด​ไปครึ่ง​ร่าง​ เลือด​สีเขียว​สาด​กระเด็น​เต็ม​พื้นดิน​ แต่​เงาดำ​ที่​เหลือ​ครึ่ง​ท่อน​บน​ ก็​หายวับ​กลับ​เข้าไป​ใน​ร่างกาย​ของ​เกา​โม่หา​น​อีกครั้ง​

ฉู่ชวิ๋น​วางแผน​ว่า​ต้อง​ช่วย​พวก​เกา​โม่หา​นอ​อก​มาให้ได้​ก่อน​

ตอนนี้​ ฉู่ชวิ๋นพบ​ว่า​เก​อ​จ้าน​เดิน​มาถึงสุด​ขอบ​ค่าย​อาคม​แล้ว​ ถ้าก้าวเดิน​ต่อมา​อีก​แค่​ก้าว​เดียว​ เก​อ​จ้าน​ก็​จะออกมา​พ้น​จาก​ค่าย​อาคม​ได้​สำเร็จ​

แต่​จังหวะ​นั้น​เอง​ เก​อ​จ้าน​กลับ​เปลี่ยน​ทิศทาง​และ​หันหลัง​เดิน​กลับ​ไปทาง​เดิม​เสีย​อย่างนั้น​

ฉู่ชวิ๋น​ถลัน​กาย​ออก​ไปข้างหน้า​ เอื้อมมือ​ออก​ไปหมาย​จะคว้า​คอเสื้อ​ของ​เก​อ​จ้าน​ดึง​กลับมา​

แต่​มือ​ของ​ชายหนุ่ม​ก็​กระทบ​ถูก​กับ​ผนัง​กระจก​ที่​มองไม่เห็น​ ทำให้​มือ​ของ​เขา​ไม่สามารถ​สอด​ผ่าน​เข้าไป​ใน​ค่าย​อาคม​ได้​เลย​

“บ้า​จริง​ มีม่าน​พลัง​กั้น​อยู่​”

ฉู่ชวิ๋น​กำหมัด​ด้วย​ความโกรธแค้น​ พลัง​ลมปราณ​สีม่วง​พุ่ง​ออก​มาจาก​กำปั้น​ของ​เขา​ ก่อนที่​ชายหนุ่ม​จะต่อย​หมัด​ใส่ม่าน​พลัง​สุด​แรง​แขน​

เปรี้ยง​!

เปลวไฟ​สาด​กระจาย​ พลัง​ลมปราณ​แผ่ออก​ไปเป็น​วงกว้าง​ กำปั้น​ของ​ฉู่ชวิ๋น​กระแทก​เข้ากับ​ม่าน​พลัง​อย่าง​รุนแรง​อีกครั้ง​และ​อีกครั้ง​

ดูเหมือน​เก​อ​จ้าน​จะได้ยิน​เสียง​อะไร​บางอย่าง​ ชาย​ชรา​หันหน้า​กลับมา​จ้องมอง​ด้วย​ความสงสัย​ แต่​แล้ว​กลับ​ล้มเลิก​ความสนใจ​ เดินหน้า​ต่อไป​เหมือน​ไม่มีอะไร​เกิดขึ้น​

ดวงตา​ของ​ฉู่ชวิ๋น​เป็นประกาย​วาว​โรจน์​มากขึ้น​ พลัง​ลมปราณ​สีม่วง​ไหลเวียน​รอบ​ร่างกาย​ กำปั้น​ของ​เขา​เปล่งแสง​สว่างไสว​ สุก​สว่าง​ยิ่งกว่า​แสงอาทิตย์​เสีย​อีก​

แต่​ในขณะที่​ซัด​กำปั้น​ต่อย​ม่าน​พลัง​รัว ๆ​ นั้น​เอง​ อยู่ดี ๆ​ ชายหนุ่ม​ก็​หยุดชะงัก​ หรือว่า​เขา​คิด​อะไร​ขึ้น​มาได้​แล้ว​?

ฉู่ชวิ๋น​พลิก​ฝ่ามือขึ้น​มา แล้ว​ก้อนหิน​ที่​มีแสงสีขาว​สว่าง​เจิดจ้า​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ มัน​คือ​ก้อนหิน​ที่​เป็น​ตา​เปิด​ปิด​ม่าน​พลัง​นั่นเอง​

ฉู่ชวิ๋น​ถือ​ก้อนหิน​อยู่​ใน​มือ​ขณะ​เดิน​เข้าไป​หาเก​อ​จ้าน​ คราวนี้​ เขา​สามารถ​พุ่ง​ผ่าน​ม่าน​พลัง​เข้าไป​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ จึงไม่รอ​ช้า รีบ​เดิน​เข้าไป​จับ​หัวไหล่​ของ​เก​อ​จ้าน​ด้วย​ความ​รวดเร็ว​

เก​อ​จ้าน​สะดุ้งโหยง​ รีบ​โคจร​พลัง​ลมปราณ​ขึ้น​มาทั่ว​ร่างกาย​ ในขณะที่​หันมา​คว้า​จับมือ​ของ​ฉู่ชวิ๋น​

มือ​ของ​ฉู่ชวิ๋น​อัด​แน่น​ไปด้วย​พลัง​ลมปราณ​จำแลง​ ตำแหน่ง​มือ​ที่​วาง​ลง​ไปกดจุด​ลมปราณ​ของ​เก​อ​จ้าน​พอดิบพอดี​ ถึงจะไม่ได้​มีความ​แข็งแกร่ง​มาก​พอที่จะ​ปิด​จุด​ลมปราณ​ของ​จอม​ยุทธ์​ขั้น​เซียน​ได้​ แต่​มัน​ก็​ลด​พลัง​ของ​เก​อ​จ้าน​ลงมา​ได้​มาก​พอที่​ฉู่ชวิ๋น​จะรับมือ​ไม่ลำบาก​

วูบ​!

ฉู่ชวิ๋​นรี​บ​ดึง​เก​อ​จ้าน​ออก​มาจาก​ค่าย​อาคม​ทันที​

เก​อ​จ้าน​รู้สึก​สายตา​พร่ามัว​ไปชั่วขณะ​ หลังจากนั้น​ จึงเห็น​ชัดเจน​ว่า​เป็น​หลุน​หุย​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ นั่นเอง​จึงเข้าใจ​ว่า​ชายหนุ่ม​เป็น​คน​ช่วยเหลือ​ตนเอง​ออกมา​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ ขอบคุณ​มาก​!” เก​อ​จ้าน​ประสานมือ​ ถ้าไม่เป็น​เพราะ​หลุน​หุย​คน​นี้​ ตนเอง​ก็​ยังคง​เดิน​วนเวียน​อยู่​ด้านใน​ไม่รู้​จบ​เป็นแน่แท้​

ฉู่ชวิ๋น​ส่ายหน้า​บอ​กว่า​ไม่เป็นไร​ พูดว่า​ “พี่​เก​อ​ใจดี​กับ​ผม​มากมาย​ เมื่อ​พี่​เดือดร้อน​ ผม​ย่อม​ต้อง​ช่วยเหลือ​”

เก​อ​จ้าน​หัวเราะ​ใน​ลำคอ​ เมื่อ​กวาดสายตา​มอง​รอบตัว​ก็​ต้อง​หรี่ตา​ลง​ทันที​ ด้วย​พบเห็น​เงาดำ​ประหลาด​เกาะติด​อยู่​บน​ตัว​ของ​จอม​ยุทธ์​ขั้น​เซียน​ทุกคน​

“นั่น​มัน​ตัว​อะไร​น่ะ​?”

ฉู่ชวิ๋น​ส่ายหน้า​ตอบ​ว่า​ไม่รู้​

ตอนนั้น​เอง​ เงาดำ​รูปร่าง​มนุษย์​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​ลักษณะ​ที่​กำลัง​ขี่​คอ​เฮย​จง

เก​อ​จ้าน​หวาดกลัว​ขนหัวลุก​ รีบ​ตรวจสอบ​ร่างกาย​ของ​ตนเอง​ทันที​ และ​แล้ว​สีหน้า​ของ​ชาย​ชรา​ก็​แปร​เปลี่ยนไป​ เมื่อ​พบ​ว่า​บริเวณ​หัวหน่าว​*เขา​มีกลุ่ม​หมอก​สีดำ​ขนาด​เท่า​กำปั้น​ ลอย​ออก​มาจาก​ร่างกาย​ใน​ลักษณะ​รูปร่าง​ของ​มนุษย์​จิ๋ว​คน​หนึ่ง​เช่นกัน​

(หัวหน่าว​ คือ​ส่วน​ของ​ร่างกาย​อยู่​เหนือ​อวัยวะเพศ​ใต้​ท้องน้อย​ลงมา​)

“เข้ามา​อยู่​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​เนี่ย​?” เก​อ​จ้าน​ร้อง​เสียงหลง​ในขณะที่​พยายาม​โคจร​พลัง​ลมปราณ​ขับไล่​หมอก​ควัน​สีดำ​ออก​ไปจาก​ร่างกาย​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ ลอง​ตรวจสอบ​ร่างกาย​ของ​คุณ​ดูก่อน​” เก​อ​จ้าน​กล่าวเตือน​ด้วย​สีหน้า​ไม่สู้ดี​ ชาย​ชรา​ไม่รู้​เลย​ว่า​เงาดำ​นี้​คือ​อะไร​กัน​แน่​? ที่​น่ากลัว​ก็​คือ​ เงาดำ​ประหลาด​นี้​ไม่สามารถ​ใช้พลัง​ลมปราณ​ขับไล่​ได้​อีก​ต่างหาก​

“ผม​ตรวจ​ของ​ผม​เรียบร้อย​แล้ว​” ฉู่ชวิ๋น​หันหน้า​มอง​กลับ​ไปทาง​เกา​โม่หา​น​และ​พูดว่า​ “พี่​เกา​ก็​โดน​มัน​เล่นงาน​เหมือนกัน​”

“งั้น​เรา​รีบ​เข้าไป​ช่วย​พวกเขา​กัน​เถอะ​” เก​อ​จ้าน​พูด​

ฉู่ชวิ๋น​พยักหน้า​ ปล่อย​เส้น​ไหม​วิญญาณ​ออกมา​จาก​ปลายนิ้ว​ ก่อน​กล่าวว่า​ “พี่​เก​อ​ เส้น​ไหม​วิญญาณ​นี้​สามารถ​สื่อสาร​ผ่าน​เสียง​ได้​ ผม​จะเข้าไป​ข้างใน​ พี่​ก็​คอย​บอกทาง​ผม​หน่อย​แล้วกัน​ ผม​จะได้​ช่วย​พวกเขา​ออกมา​”

เก​อ​จ้าน​ตกตะลึง​อยู่​ไม่น้อย​ แต่​ก็​เข้า​ใจดี​ว่า​จอม​ยุทธ์​ขั้น​เซียน​ต่าง​ก็​มีวิถีทาง​ต่าง ๆ​ เป็น​ของ​ตัวเอง​ ชาย​ชรา​จับ​ปลาย​ด้าน​หนึ่ง​ของ​เส้น​ไหม​วิญญาณ​เอาไว้​ เรียบร้อย​ก็​พยักหน้า​ให้​กับ​ฉู่ชวิ๋น​

ฉู่ชวิ๋น​หันหลัง​กลับ​และ​เดิน​ตรง​เข้าไป​หา​เกา​โม่หา​น​ มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​ถือ​ก้อนหิน​ที่​เป็น​ตา​เปิด​ปิด​ม่าน​พลัง​ ดังนั้น​ ชายหนุ่ม​จึงสามารถ​เดิน​เข้าไป​ใน​ค่าย​อาคม​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

ภายใต้​การ​บอกทาง​ของ​เก​อ​จ้าน​ ฉู่ชวิ๋น​เข้าถึง​ตัว​เกา​โม่หา​นอ​ย่าง​รวดเร็ว​

“พี่​เกา​” ฉู่ชวิ๋น​ตะโกนเรียก​

แต่​ดูเหมือนว่า​เกา​โม่หา​น​จะกลายเป็น​คน​หูหนวกตาบอด​ไปแล้ว​ แม้ว่า​ฉู่ชวิ๋น​จะยืน​อยู่​ตรงหน้า​ แต่​ชาย​ชรา​กลับ​เดินผ่าน​เขา​ไปหน้าตาเฉย​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด