จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)บทที่ 463 ผีกาฝาก 2

Now you are reading จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Chapter บทที่ 463 ผีกาฝาก 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 463 ผี​กาฝาก​ 2

ฉู่ชวิ๋น​ตะโกนเรียก​อยู่​หลายครั้ง​ แต่​เกา​โม่หา​น​ก็​ไม่ตอบสนอง​เลย​แม้แต่น้อย​ เหมือนกับ​ว่า​ประสาทการ​ได้ยิน​และ​การ​มองเห็น​ถูก​ปิดกั้น​ไปทั้งหมด​

เก​อ​จ้าน​ตกใจ​กับ​เสียง​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ เพราะว่า​เส้น​ไหม​วิญญาณ​สามารถ​สื่อสาร​ผ่าน​เสียง​ได้​ ดังนั้น​จึงได้ยิน​เสียง​ของ​ฉู่ชวิ๋น​ดัง​อยู่​ตลอดเวลา​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ เกิด​อะไร​ขึ้น​?” เก​อ​จ้าน​ถามออกมา​

“ไม่รู้​เหมือนกัน​ แต่​ที่นี่​มัน​แปลก ๆ​ เดี๋ยว​ผม​จะลองดู​ใหม่​อีกครั้ง​” ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​ไปด้วย​พร้อมกับ​คิด​หา​วิธี​ช่วยเหลือ​คน​ไปด้วย​

ชายหนุ่ม​เอื้อมมือ​ออก​ไปหา​เกา​โม่หา​น​อีกครั้ง​ แต่​เรื่อง​ประหลาด​ไม่น่าเชื่อ​ก็​เกิดขึ้น​ เกา​โม่หา​น​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​เขา​ชัด​ ๆ แต่​มือ​ของ​ฉู่ชวิ๋น​กลับ​ไม่สามารถ​สัมผัส​ตัว​ของ​เกา​โม่หา​น​ได้​เลย​แม้แต่น้อย​

เหมือน​อยู่​กัน​คนละ​มิติ​อย่างไร​อย่างนั้น​

ฉู่ชวิ๋น​ดวงตา​เป็นประกาย​วาว​โรจน์​ เข้าใจ​ชัดเจน​แล้ว​ว่า​ค่าย​อาคม​แห่ง​นี้​เป็น​เหมือน​เขาวงกต​ มีเส้นทาง​วกวน​ไม่รู้​จบ​ และ​เส้นทาง​แต่ละ​สาย​ก็​จะมีค่าย​อาคม​เป็น​ของ​ตนเอง​

ฉู่ชวิ๋น​ไม่สงสัย​อีกแล้ว​ว่า​ทำไม​นักพรต​ ถึงเอาชนะ​คู่ต่อสู้​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ นั่น​ก็​เป็น​เพราะว่า​พวกเขา​มีค่าย​อาคม​ที่​น่ากลัว​เช่นนี้​อยู่​นี่เอง​

ดังนั้น​ ชายหนุ่ม​จึงตรวจสอบ​ด้วย​การ​ลอง​ปล่อย​คลื่น​จิตวิญญาณ​ออก​ไป

คลื่น​จิตวิญญาณ​ของ​เขา​กระจาย​ตัว​ไปได้​ไกล​สุด​แค่​ 10 เมตร​ เท่านี้​ก็​เป็น​หลักฐาน​ยืนยัน​เพียง​พอแล้ว​

ฉู่ชวิ๋น​พลัน​หลับตา​ลง​ และ​ใช้จิตวิญญาณ​สำรวจ​จุด​ที่​เป็น​ค่าย​อาคม​บน​พื้นดิน​ หลังจากนั้น​ เขา​ก็​เริ่ม​ขยับ​เท้า​เดิน​ไปตาม​แนว​ขวาง​สอง​ก้าว​ เป็น​ลักษณะ​การ​เดิน​ที่​ดู​แปลกตา​อย่างยิ่ง​

เก​อ​จ้าน​เบิก​ตาโต​ ไม่เข้าใจ​เลย​ว่า​ชายหนุ่ม​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​? แต่​ก็​ไม่กล้า​ส่งเสียง​ถามให้​มากความ​

สุดท้าย​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​เดิน​ตรง​ไปข้างหน้า​อีกครั้ง​ พลัน​เขา​ก็​ลืมตา​ขึ้น​มา มุมปาก​ปรากฏ​รอยยิ้ม​เล็กน้อย​ ค่าย​อาคม​ถูก​ทำลาย​เรียบร้อย​แล้ว​

ค่าย​อาคม​เมื่อ​มีคน​สร้าง​ขึ้น​มาก็​ต้อง​มีคน​ทำลาย​ได้​เช่นกัน​ มัน​ไม่ใช่เรื่อง​ยากเย็น​อะไร​ ขอ​แค่​เพียง​มีความเข้าใจ​ใน​เรื่อง​ของ​การ​วาง​ค่าย​กล​เล็กน้อย​ก็​พอแล้ว​

เกา​โม่หา​น​สายตา​มองไม่เห็น​ หู​รับฟัง​ไม่ได้ยิน​ จึงเดิน​มาชน​กับ​ฉู่ชวิ๋น​เข้า​อย่าง​จัง

“นั่น​ใคร​น่ะ​?” เกา​โม่หา​น​ตกใจ​อยู่​ไม่น้อย​ รู้สึก​ได้​ชัดเจน​ว่า​ตัวเอง​เดิน​ชน​ใคร​บางคน​อย่าง​แรง​

“พี่​เกา​ คิด​ว่า​เดิน​ชน​รูปปั้น​หรือไง​ครับ​?” ฉู่ชวิ๋น​หัวเราะ​ใน​ลำคอ​

เกา​โม่หา​น​ตกใจ​สุดขีด​ ก่อนที่จะ​ละล่ำละลัก​ออกมา​ว่า​ “นั่น​สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ใช่หรือไม่​?”

“ใช่แล้ว​ครับ​” ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​ “พี่​ตาม​ผม​มาดีกว่า​นะ​ ผม​จะพา​ออก​ไปจาก​ที่นี่​”

เกา​โม่หา​น​ลังเล​เล็กน้อย​ ก่อน​พยักหน้า​

ฉู่ชวิ๋น​สามารถ​เข้าใจ​ใน​อาการ​ลังเล​นี้​ได้​ไม่ยาก​ อยู่ดี ๆ​ เกา​โม่หา​น​ก็​เดิน​มาเจอ​เขา​กลาง​ความมืด​ แถมระหว่าง​พวกเขา​ก็​ไม่เคย​รู้จัก​หรือ​สนิทสนม​กัน​มาก่อนหน้านี้​ด้วยซ้ำ​

เกา​โม่หา​น​เป็น​เหมือน​คนตาบอด​ ต้อง​จับ​หลัง​เสื้อ​ของ​ฉู่ชวิ๋น​เอาไว้​ตลอดเวลา​ในขณะที่​เดินตาม​เขา​กลับ​ออก​มาจาก​ค่าย​อาคม​

ทันใดนั้น​ เกา​โม่หา​น​ก็​สามารถ​กลับมา​มองเห็น​ได้​อีกครั้ง​ ชาย​ชรา​ตกตะลึง​ไปทันที​เมื่อ​พบ​ว่า​ตนเอง​หลุด​ออกมา​แล้ว​

“พี่​เกา​” เก​อ​จ้าน​รีบ​เข้ามา​ทักทาย​

เกา​โม่หา​น​อุทาน​ด้วย​ความตกใจ​ “น้อง​เก​อ​ ออกมา​ได้​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​กัน​?”

“ก่อนหน้า​พี่​ไม่นาน​ ต้อง​ขอบคุณ​สหาย​น้อย​หลุน​หุย​จริง ๆ​” เก​อ​จ้าน​กล่าว​

เกา​โม่หา​น​หันมา​ขอบคุณ​ฉู่ชวิ๋น​อย่าง​สุดซึ้ง​ ทำให้​ชายหนุ่ม​รู้สึก​ซาบซึ้งใจ​แล้ว​

“แค่นี้​เรื่อง​เล็กน้อย​น่า​” ฉู่ชวิ๋น​ทำเป็น​โบกไม้โบกมือ​

หลังจากนั้น​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​ใช้วิธีการ​เดียวกัน​นี้​ เดิน​เข้าไป​ช่วยเหลือ​เตียว​ซิงอี้​ออก​มาจาก​ค่าย​อาคม​

“นี่​มัน​อะไร​กัน​เนี่ย​? ฉัน​มองไม่เห็น​ หู​ไม่ได้ยิน​ เกือบจะ​บ้า​ตาย​อยู่แล้ว​” เตียว​ซิงอี้​พูด​รัว ๆ​ ด้วย​ความหวาดกลัว​

เก​อ​จ้าน​กับ​เกา​โม่หา​น​ก็​รู้สึก​เช่นเดียวกัน​ ตอน​ที่อยู่​ใน​ค่าย​อาคม​ ทุกคน​รู้สึก​เหมือน​เป็น​คนตาบอด​ ซ้ำยัง​ไม่สามารถ​ได้ยิน​เสียง​ลมหายใจ​ของ​ตัวเอง​ ทำได้​แต่เพียง​เดิน​ไปข้างหน้า​ตาม​สัญชาตญาณ​ ต้อง​ขอบคุณ​ความเยือกเย็น​ของ​การ​มีพลัง​ขั้น​เซียน​ ถ้าพวกเขา​เป็น​ชาวบ้าน​ธรรมดา​ ป่านนี้​คง​สลบ​ไปนาน​แล้ว​

เก​อ​จ้าน​เล่า​เรื่องราว​เกี่ยวกับ​เงาดำ​ประหลาด​ให้​ฟัง

เตียว​ซิงอี้​กับ​เกา​โม่หา​น​มีสีหน้า​สยองขวัญ​ ก่อน​จะหันไป​มอง​กลุ่ม​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​ใน​ร่าง​มนุษย์​ และ​พบ​ว่า​พวก​นั้น​มีเงาดำ​ประหลาด​เกาะ​ติดตัว​อยู่​จริง ๆ​

เกา​โม่หา​น​กับ​เตียว​ซิงอี้​รีบ​ตรวจสอบ​ร่างกาย​ของ​ตนเอง​โดยทันที​ และ​ผล​ที่​ออกมา​ก็​เหมือนกับ​เก​อ​จ้าน​ ตรง​บริเวณ​หัวหน่าว​* มีกลุ่ม​ควัน​สีดำ​รูปร่าง​คล้าย​มนุษย์​ตัวเล็ก​ลอย​วนเวียน​อยู่​ตลอดเวลา​

(หัวหน่าว​ คือ​ส่วน​ของ​ร่างกาย​อยู่​เหนือ​อวัยวะเพศ​ใต้​ท้องน้อย​ลงมา​)

ไม่ว่า​จะลอง​ใช้พลัง​ลมปราณ​ขับไล่​เท่าไหร่​ ก็​ไม่เป็นผล​

“นี่​มัน​อะไร​กัน​?” เตียว​ซิงอี้​สบถ​ด้วย​ความร้อนรน​

เงาดำ​ประหลาด​ไม่สามารถ​ขับไล่​หรือ​กำจัด​ออก​ไปได้​ มัน​ฝังอยู่​ใน​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ไปแล้ว​ แถมยังอยู่​ใกล้​จุด​ลมปราณ​ ซึ่งเป็น​แหล่ง​ก่อกำเนิด​พลัง​ทั้งหมด​ ถึงไม่อยาก​เป็นกังวล​ก็​ต้อง​เป็นกังวล​ขึ้น​มาแล้ว​

ชาย​ชรา​ทั้ง​สามคน​พยายาม​โคจร​พลัง​ขับไล่​เงาดำ​อยู่​นานสองนาน​ แต่​สุดท้าย​ก็​ล้มเหลว​ เงาดำ​เหล่านี้​ก่อตัว​หนาแน่น​มากขึ้น​ เหมือนว่า​มัน​จะดูด​พลัง​จาก​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​มาไม่น้อย​

“ขอผม​ดู​หน่อย​ได้​ไหม​?” ฉู่ชวิ๋น​ถาม

ชาย​ชรา​ทั้ง​สามมีสีหน้า​ตกใจ​ ถ้าตอบ​ตกลง​ ก็​หมายความว่า​ฉู่ชวิ๋น​สามารถ​ปล่อย​พลัง​ลมปราณ​เข้าสู่​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ได้​โดยสะดวก​ ถ้าหาก​ฉู่ชวิ๋น​คิด​ไม่ดีขึ้น​มา เพิ่ม​พลัง​ลมปราณ​ขึ้น​เพียง​เล็กน้อย​ อวัยวะภายใน​ของ​พวกเขา​ก็​จะแหลก​สลาย​ไปทันที​ อย่าง​ที่​ไม่มีทาง​ป้องกันตัว​ได้​เลย​…

แต่​เมื่อ​ชาย​ชรา​ทั้ง​สามคน​ลอง​ขบ​คิดดู​ให้​ดีแล้ว​ ก็​รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​สำคัญ​ถึงความเป็นความตาย​ มัน​ไม่ใช่เรื่อง​ล้อเล่น​

“ฉัน​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​สหาย​หลุน​หุย​อยู่แล้ว​” เกา​โม่หา​น​กัดฟัน​กรอด​ มีแต่เพียง​หลุน​หุย​คนเดียว​เท่านั้น​ที่​ไม่ถูก​เงาดำ​สิงสู่ ชายหนุ่ม​จึงอาจ​เป็น​คนเดียว​ที่​รู้​วิธี​ขับไล่​มัน​

“ฉัน​ก็​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​สหาย​น้อย​หลุน​หุย​เหมือนกัน​” เก​อ​จ้าน​พูด​ เมื่อ​มีเงาดำ​สิงสู่อยู่​ใน​ร่างกาย​ ถ้าไม่รีบ​กำจัด​ออก​ไปโดยเร็ว​ ตนเอง​คง​กิน​ไม่ได้​นอนไม่หลับ​แน่​ ๆ

เตียว​ซิงอี้​ก็​เลือก​ที่จะ​เชื่อใจ​ฉู่ชวิ๋น​เช่นกัน​ เนื่องจาก​ไม่รู้​เลย​ว่า​เงาดำ​ประหลาด​เหล่านี้​จะชักนำ​เภทภัย​อะไร​เข้า​มาหา​ตัว​บ้าง​?

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ พวกเรา​ต้อง​รบกวน​คุณ​แล้ว​!” เกา​โม่หา​นข​ยับ​ออกมา​ข้างหน้า​ ลด​พลัง​ลมปราณ​ที่​แผ่ออก​มาจาก​ร่างกาย​ลง​ แต่​ก็​ยัง​อด​รู้สึก​ตึงเครียด​ขึ้น​มาไม่ได้​อยู่ดี​

ฉู่ชวิ๋น​โคจร​พลัง​ลมปราณ​เข้าสู่​ร่างกาย​ของ​เกา​โม่หา​น​ และ​สำรวจ​ดู​บริเวณ​ที่​มีเงาดำ​ประหลาด​เกาะติด​

เกา​โม่หา​น​รู้สึก​เย็นเฉียบ​ไปทั่ว​ร่างกาย​ ถ้าเกิด​ชายหนุ่ม​คน​นี้​คิด​จะทำ​อะไร​ไม่ดีขึ้น​มา ตนเอง​คง​ต้อง​ตก​ตาย​โดย​ไร้​หนทาง​ป้องกัน​เป็นแน่แท้​

ฉู่ชวิ๋น​เริ่มต้น​สำรวจ​เจ้าเงาดำ​ประหลาด​นั้น​อย่าง​รวดเร็ว​ มัน​เป็น​สิ่งมีชีวิต​ที่​ไร้​รูปร่าง​ ไร้​ความคิด​และ​ไร้​จิตวิญญาณ​ ไม่ต้องสงสัย​อีกแล้ว​ว่า​ทำไม​ถึงขับ​ไล่ออก​ไปไม่ได้​ ฉู่ชวิ๋น​รู้สึก​เหมือนเคย​พบ​เจอ​สิ่งมีชีวิต​ลักษณะ​นี้​มาก่อน​ แต่​เขา​ก็​จำไม่ได้​ว่า​เป็น​ที่ไหน​

ฉู่ชวิ๋น​ถอน​พลัง​ลมปราณ​ออก​มาจาก​ร่างกาย​ของ​เกา​โม่หา​น​ และ​นั่ง​คิด​อยู่​เงียบ ๆ​ อึด​ใจใหญ่​

เกา​โม่หา​น​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ กำลังจะ​ถามอะไร​บางอย่าง​ เก​อ​จ้าน​ก็​ยกมือ​ห้าม​เอาไว้​ไม่ให้​พูด​อะไร​ออกมา​

“ที่แท้​ก็​เป็น​เจ้านั่น​นี่เอง​” ฉู่ชวิ๋น​ดวงตา​เป็นประกาย​สว่างไสว​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​รู้​ว่า​พวก​มัน​เป็นตัว​อะไร​แล้ว​หรือ​?” เกา​โม่หา​นอ​ด​ถามออกมา​ไม่ได้​

เก​อ​จ้าน​กับ​เตียว​ซิงอี้​ก็​จ้องมอง​เขา​อย่าง​มีความหวัง​เช่นกัน​

“สิ่งนี้​เรียก​ว่า​ผี​กาฝาก​ มัน​ไม่มีรูปร่าง​ ไม่มีความคิด​ ไม่มีจิตวิญญาณ​ แต่​สามารถ​เลียนแบบ​และ​สิงสู่สิ่งมีชีวิต​ได้​ทุก​สายพันธุ์​” ฉู่ชวิ๋น​อธิบาย​

ใน​อดีต​ ตอนที่​เขา​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ขั้น​เริ่มต้น​ใน​ดินแดน​เซียน​ ฉู่ชวิ๋น​เคย​พบ​เจอ​ผู้คน​ที่​มีผี​กาฝาก​เกาะ​ติดตัว​ แต่​เรื่อง​มัน​ก็​นานมาแล้ว​ หลังจากนั้น​เกิด​อะไร​ขึ้น​บ้าง​ ก็​สุดความสามารถ​ที่​เขา​จะจำได้​ เรื่อง​มัน​ก็​ 3000 ปีมาแล้ว​

“ผี​กาฝาก​? เลียนแบบ​?” เกา​โม่หา​น​พึมพำ​ด้วย​ความ​พิศวงงงงวย​

“เดิมที​ผี​กาฝาก​ถือกำเนิด​ขึ้น​ใน​สถานที่​ที่​มีความ​หนาวเย็น​จัด​ ตัว​มัน​เอง​เป็น​เพียง​มวล​พลังงาน​ที่​ไม่มีสติปัญญา​ มัน​จะทำ​ทุกอย่าง​ตาม​สัญชาตญาณ​ เวลา​พบ​เจอมนุษย์​ มัน​จะเปลี่ยน​รูปร่าง​เลียนแบบ​มนุษย์​ เวลา​มัน​เจอ​สัตว์​ มัน​ก็​จะเปลี่ยน​รูปร่าง​เลียนแบบ​สัตว์​” หลังจาก​หยุดชะงัก​ไปเล็กน้อย​ ชายหนุ่ม​ก็​กล่าว​ต่อ​ “พวก​มัน​มีอันตราย​มาก​ เวลา​ที่​สิงสู่ร่างกาย​ผู้ใด​ มัน​จะสูบ​เอา​พลัง​ชีวิต​และ​พลัง​วิญญาณ​ของ​เจ้าของ​ร่าง​ไปหมดสิ้น​ แต่​มัน​จะสูบ​กิน​อย่าง​ช้า ๆ อาจ​ใช้เวลา​เป็น​ 10 ปีหรือ​เป็น​ร้อย​ปีได้​ทั้งนั้น​ เมื่อ​ตัว​มัน​มีพลัง​แข็งแกร่ง​แล้ว​ มัน​ก็​จะยึดครอง​ร่าง​ของ​เจ้าของ​ร่าง​ทั้งหมด​ทันที​ แม้แต่​พวก​สัตว์ร้าย​กลายพันธุ์​ก็​โดน​พวก​มัน​สิงได้​เหมือนกัน​ เพราะ​เหตุผล​นี้​เอง​มัน​ถึงถูก​เรียก​ว่า​ ‘ผี​กาฝาก​’ ”

ถูก​เกาะติด​ ถูก​สูบ​พลัง​วิญญาณ​ และ​อาจจะ​ต้อง​ถูก​ยึดครอง​ร่าง​ใน​ท้ายที่สุด​ เมื่อ​ได้ยิน​แต่ละ​คำ​ที่​ฉู่ชวิ๋น​พูด​ออกมา​ สีหน้า​ของ​ชาย​ชรา​ทั้ง​สามก็​ยิ่ง​ย่ำแย่​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​ และ​ร่างกาย​ของ​พวกเขา​ก็​เย็นเฉียบ​แล้ว​

“เกา​โม่หา​นค​น​นี้​ใช้ชีวิต​ด้วย​ความ​ซื่อสัตย์สุจริต​เสมอมา​ จะปล่อย​ให้​มีผี​ร้าย​มาเกาะกิน​จิตใจ​ได้​อย่างไร​?” เกา​โม่หา​น​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เดือดดาล​

เก​อ​จ้าน​กับ​เตียว​ซิงอี้​ก็​มีสีหน้า​เดือดดาล​ไม่แพ้​กัน​แล้ว​ ผีสาง​ชนิด​นี้​ขับไล่​ไปไม่ได้​ หรือว่า​ต้อง​อยู่​กับ​มัน​ไปจน​วัน​ตาย​?

เกา​โม่หา​น​หันมา​มองหน้า​ฉู่ชวิ๋น​ ดวงตา​เป็นประกาย​ด้วย​ความหวัง​ พูดว่า​ “สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ ใน​เมื่อ​คุณ​รู้​ว่า​มัน​เป็น​อะไร​ คุณ​ก็​น่าจะ​รู้​วิธี​กำจัด​มัน​กระมัง​?”

เมื่อ​ชาย​ชรา​อีก​สอง​คน​ได้ยิน​คำ​นี้​ ความหวัง​ก็​กลับมา​ปรากฏตัว​บน​สีหน้า​อีกครั้ง​ จริง​ด้วย​สิ ใน​เมื่อ​หลุน​หุย​รู้​ว่า​มัน​เป็นตัว​อะไร​ เขา​ก็​น่าจะ​รู้​วิธี​กำจัด​มัน​ออก​ไปเหมือนกัน​

“มีวิธี​อยู่​ครับ​ แต่​เป็น​วิธี​ที่​ค่อนข้างจะ​เจ็บปวด​ไม่น้อย​” ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​

ดวงตา​ของ​ชาย​ชรา​ทั้ง​สามคน​เป็นประกาย​วาว​โรจน์​ขึ้น​มาพร้อมกัน​ เมื่อ​เทียบ​กับ​การ​ต้อง​มีผีสิง​อยู่​ตลอดชีวิต​แล้ว​ เจ็บปวด​แค่​ไหน​พวกเขา​ก็​ยอม​

“สหาย​น้อย​หลุน​หุย​ได้​โปรด​ช่วยเหลือ​พวกเรา​ด้วย​ บุญคุณ​ใน​ครั้งนี้​ พวกเรา​จะต้อง​ตอบแทน​อย่าง​แน่นอน​” เกา​โม่หา​น​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​จริงจัง​หนักแน่น​

ฉู่ชวิ๋น​พยักหน้า​เล็กน้อย​

“มีใคร​พก​แผ่น​หยก​โบราณ​ติดตัว​มาบ้าง​หรือเปล่า​ครับ​? แล้ว​ถ้ามีศิลา​วิญญาณ​ด้วย​ก็​จะดีมาก​ มัน​จะช่วย​ให้​ขับไล่​เงาดำ​ออก​ไปได้​มีประสิทธิภาพ​มากขึ้น​” ฉู่ชวิ๋น​กล่าว​

“ต้อง​ใช้มาก​แค่​ไหน​?” เกา​โม่หา​น​ถามออกมา​คำ​เดียว​

“ยิ่ง​เยอะ​เท่าไหร่​ก็​ยิ่ง​ดี​เท่านั้น​” ฉู่ชวิ๋น​ตอบ​

พรึบ​!

ชาย​ชรา​ทั้ง​สามคน​โบกมือ​วูบ​หนึ่ง​ แล้ว​แผ่น​หยก​โบราณ​กอง​ใหญ่​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ตรงหน้า​ฉู่ชวิ๋น​ และ​ใน​กลุ่ม​กอง​แผ่น​หยก​นี้​ ก็​ยังมี​ศิลา​วิญญาณ​ระดับ​สามัญอยู่​อีก​หลาย​สิบ​ก้อน​อีกด้วย​

ชายหนุ่ม​อด​คิดถึง​บรรดา​ศิลา​วิญญาณ​ปลอม​ที่​ฝังอยู่​ใต้​ภูเขา​เฉียน​หลง​ไม่ได้​ อีก​ไม่กี่​ปีหลังจากนี้​ เขา​ก็​จะมีศิลา​วิญญาณ​อยู่​ใน​การครอบครอง​จำนวน​มากมาย​เช่นกัน​

“ทุกคน​ถอย​ไปก่อน​นะ​ครับ​” ฉู่ชวิ๋น​พูด​

เขา​กำลัง​สังเกต​คลื่น​ลาวา​ เบื้อง​หน้าเป็น​ทะเลสาบ​ลาวา​ อุณหภูมิ​ร้อน​สูง เหมาะสม​สำหรับ​การ​สร้าง​ม่าน​พลัง​เป็น​อย่างยิ่ง​

“ม่าน​พลัง​บัว​ไฟพิสุทธิ์​” เป็น​ม่าน​พลัง​ระดับ​ 4

ฉู่ชวิ๋น​เดิน​วน​ไปวน​มาใน​ลักษณะ​ประหลาด​ ระหว่าง​นั้น​ก็​โยน​แผ่น​หยก​โบราณ​ลง​ไปด้วย​ เรียบร้อย​ดี​แล้วจึง​สร้าง​ม่าน​พลัง​ที่​มองไม่เห็น​ขึ้น​มารอบ​บริเวณ​

“เชิญทุกคน​เข้า​ข้างใน​ครับ​” ฉู่ชวิ๋น​ผาย​มือ​

พวก​เกา​โม่หา​น​ไม่กล้า​เชื่องช้า​ รีบ​เดิน​เข้าไป​ยืน​อยู่​ใจกลาง​ม่าน​พลัง​ทันที​

ฉู่ชวิ๋น​นำ​ศิลา​วิญญาณ​ออกมา​วาง​ไว้​บน​พื้นดิน​แปด​จุด​ หลังจากนั้น​ก็​ใช้หิน​ลาก​พื้น​เป็น​ทาง​ยาว​ตรง​ไปที่​ทะเลสาบ​ลาวา​ พลัน​ ลาวา​ร้อน​เหลว​จาก​ใน​ทะเลสาบ​ก็​ไหลผ่าน​ร่อง​ดิน​เข้าสู่​ม่าน​พลัง​ที่​เขา​สร้าง​เอาไว้​

เมื่อ​ศิลา​วิญญาณ​ก้อน​สุดท้าย​ประจำตำแหน่ง​เรียบร้อย​ ม่าน​พลัง​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​ ห้อมล้อม​ชาย​ชรา​ทั้ง​สามคน​อยู่​ตรงกลาง​

ฉู่ชวิ๋​นรี​บ​ปล่อย​พลัง​ลมปราณ​จำแลง​ของ​ตนเอง​เข้าไป​สู่ด้านใน​ม่าน​พลัง​ เพื่อ​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​แก่​ม่าน​พลัง​มากยิ่งขึ้น​

“ไม่ว่า​จะเจ็บปวด​แค่​ไหน​ ทุกคน​ต้อง​ทน​ให้ได้​นะ​ครับ​ ห้าม​ออกมา​นอก​ม่าน​พลัง​เด็ดขาด​”

โดย​ไม่รอ​ให้​ชาย​ชรา​ทั้ง​สามคน​ตอบ​รับคำ​ใด​ ฉู่ชวิ๋น​ก็​ยก​มือขึ้น​ดีดนิ้ว​ แล้ว​ม่าน​พลัง​ก็​ระเบิด​ลำแสง​สว่างไสว​ทั่ว​บริเวณ​

ในเวลาเดียวกัน​นี้​เอง​ ได้​ปรากฏ​พลัง​ลมปราณ​รูปทรง​ดอกบัว​สีม่วง​เข้ม​ขึ้น​กลาง​ม่าน​พลัง​ บัว​ดอก​นี้​ค่อย ๆ​ ลอยตัว​ขึ้น​สูงและ​หมุน​ตัวอย่าง​เชื่องช้า​ แผ่รัศมี​แสงสว่าง​ออกมา​อาบ​ไล้​ไปทั่ว​ร่างกาย​ของ​ชาย​ชรา​ทั้ง​สามคน​

“นี่​คือ​พลัง​ของ​ดอกบัว​ไฟบริสุทธิ์​ เมื่อ​ร่างกาย​ดูดซับ​เข้าไป​แล้ว​ ก็​จะช่วย​ขับ​ไล่ผี​กาฝาก​ออกมา​ได้​” ฉู่ชวิ๋น​กล่าว​

พวก​ของ​เกา​โม่หา​น​ไม่กล้า​พูด​คำ​ใด​ออกมา​ รีบ​ทรุด​กาย​นั่งขัดสมาธิ​ ดูด​ลำแสง​จาก​ดอกบัว​ไฟเข้า​มาสู่ร่างกาย​ให้ได้​มาก​ที่สุด​ และ​แสงเหล่านั้น​ก็​ไหล​ซึมผ่าน​ทุก​รูขุมขน​บน​ผิวหนัง​ด้วย​ความ​ร้อนแรง​เป็น​อย่างยิ่ง​

เมื่อ​พลัง​ของ​ดอกบัว​ไฟบริสุทธิ์​ไหลเวียน​เข้าสู่​ใน​ร่างกาย​ ชาย​ชรา​ทั้ง​สามคน​ก็​ส่งเสียงคราง​ใน​ลำคอ​ออกมา​ไม่รู้ตัว​ ส่วน​สีหน้า​ก็​กำลัง​แสดงออก​ถึงความเจ็บปวด​สุด​ชีวิต​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด