จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 237 ชุลมุน!
บทที่ 237 ชุลมุน![รีไรท์]
ท่าทางของเหลยเป้าดูร้อนรนเมื่อเห็นความทรงพลังของเหยียนชง
“เหยียนชง ดูเหมือนว่าแกจะไม่ปล่อยฉันไปเลยสินะ” เรื่องมาขนาดนี้แล้ว เหยียนชงก็ไม่ปิดบังอะไรอีก ตอนนี้เขาครอบครองกระจกทองแดงแปดเหลี่ยมเอาไว้ เขาควบคุมทุกอย่างได้สบายไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง
“พี่เหลย พวกเราไม่สามารถครองทั้งประเทศได้ภายในวันเดียว ครอบครัวก็ไม่สามารถอยู่ด้วยกันเพียงแค่วันเดียว ฉันเห็นว่าไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าอนาคตของวังมังกรเพลิงแล้ว!” (เหยียนชงหมายความประมาณว่าถ้าเขาได้มาเป็นเจ้าวังคนเดียวคงไม่มีทางจะทำอะไรได้) เหลยเป้ายิ้มแห้งออกมา พลางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“เหยียนชง ฉันเข้าใจสิ่งที่แกสื่อออกมาดี แกอยากจะเป็นเจ้าแห่งวังสินะ งั้นฉันบอกเลยก็แล้วกัน กูไม่เห็นด้วยโว้ย!” หน้าของเหยียนชงที่ยิ้มแห้ง ๆ อยู่กลายเป็นหน้าถมึงทึง พูดออกมาว่า “พี่เหลย ฉันยอมรับว่าฉันอยากจะเป็นเจ้าของวังนี้ แต่นี่มันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ฉันถามหน่อยว่านอกจากฉันยังมีใครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอีก”
เหลยเป้าขำแห้ง แล้วพูดถากถางออกไปว่า “งั้นก็ได้ มาลองแบบนี้ไหม ไม่ต้องใช้พลังจากสมบัติลึกลับ เอาพลังที่แท้จริงมาสู้กันเลยเป็นไง ถ้าแกทำให้ฉันเหลยเป้ายอมแพ้ได้ ฉันยินดีรับใช้แกในฐานะที่แกเป็นเจ้าวัง กลับกันหากแกแพ้ก็เข้ามาคุกเข่าคำนับให้ท่านเหลย[19] พร้อมทั้งเอาหัวฟาดกับพื้นไปสามครั้ง จากนั้นก็ไสหัวกลับกลุ่มโหรของแกไปซะเลิกพูดเวิ่นเว้อ กับเรื่องนี้ได้แล้ว”
“ล้อเล่นหรือไง ? สมบัติลึกลับนั่นคือส่วนหนึ่งของพลังของฉัน ทำไมฉันถึงจะไม่ใช้มันล่ะ ถ้านายมีแบบฉัน นายก็คงงัดมันออกมาใช้เช่นกันแหละน่า” เหยียนชงพูดเยาะเย้ย เหลยเป้าหน้าแดงพูดอะไรไม่ออก
“ท่านหัวหน้าเหยียน วันนี้ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนนะ จะหยุดก่อนไหม ?” สาวหม้ายคนสวยกล่าวโดนคนบีบบังคับโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ เธอรู้สึกไม่มีความสุข
“ฉันกำลังคิดถึงอนาคตของวังมังกรเพลิงนะ!!” เหยียนชงตะโกนออกมา
หญิงหม้ายคนสวยพูดเสียดสี “เมื่อกี้ฉันรักษาน้ำใจแล้วนะ ก็ได้ฉันจะพูดตรง ๆ เลยก็แล้วกัน หากนายจะเป็นเจ้าแห่งวังจริง ๆ ฉันในฐานะหัวหน้ากลุ่มจิ้งจอกเพลิงขอตอบว่า ไม่เห็นด้วย!”
สายตาเหยียนชงปล่อยความรู้สึกเย็นยะเยือกออกมา เหลยเป้าเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ หญิงหม้ายคนสวย พร้อมพูดจาเหน็บแนม
“เหยียนชง ฉันไม่รู้หรอกนะว่าไอ้สมบัติลึกลับของแกจะช่วยให้แกชนะพวกเราสองคนได้หรือเปล่า?”
เหยียนชงหน้าอกสั่นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ อย่างแรง จากที่เขาคิดว่าจะครอบครองวังมังกรเพลิงโดยสมบูรณ์ ตอนนี้ดูท่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
เขายิ้มออกมาด้วยท่าทางแบบแปลก ๆ “พวกนายตั้งใจจะท้าทายฉันสินะ”
หญิงหม้ายคนสวยพูดออกมา “เหยียนชง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายต้องการอะไร นายน่ะต้องการจะควบคุมวังมังกรเพลิงถืออำนาจสูงสุด ซึ่งพวกเราไม่เห็นด้วย”
“เหยียนชง แกมันคนทะเยอทะยาน อย่าคิดว่าพวกเราโง่จนไม่รู้ว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่” เหลยเป้ากล่าว
เหยียนชงกลับไปไตร่ตรองอย่างใจเย็น เขามองเหลยเป้าและหญิงหม้ายคนสวย ส่วนนักรบเสือก็ยังโดนเมิน พลางพูดออกมาว่า “ในเมื่อพวกนายไม่ต้องการ งั้นฉันจะทำลายกลุ่มวายุอัสนีและกลุ่มจิ้งจอกเพลิงทิ้งซะ”
“อย่างแกน่ะนะ ?” เหลยเป้าพูดสบประมาท สมบัติลึกลับแข็งแกร่งก็จริง แต่ถ้าหากเขาร่วมมือกันกับหญิงหม้ายขึ้นมา ถึงเหยียนชงจะมีสมบัติลึกลับนั้น เขาจะไม่มีชนะได้เลย
“ฉันรู้ว่าพลังการฝึกฝนของนายสูงมาก และแน่นอนว่าฉันคงจะไม่พึ่งพาสมบัติลึกลับแค่ชิ้นเดียวหรอก ถ้าเตรียมใจมาขนาดนี้” เหยียนชงยิ้มแฉ่งออกมา
“พี่จั่ว พี่ซ่ง ออกมาซะ”
พรึบ พรึบ!
เงาสองคนโผล่ออกมาไวเหมือนสายฟ้าฟาด พริบตาเดียวก็อยู่ข้าง ๆ เหยียนชง สองคนนี้ดูท่าทางจะเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง ท่าทางหยิ่งผยอง ทั้งคู่พกดาบยาว ท่าทางกำยำ สองคนนี้คือจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับหนึ่ง
เหลยเป้าและหญิงหม้ายเชิดหน้าขึ้น
“ขอแนะนำนะ” เหยียนชงยิ้มแล้วมองไปที่ชายที่ถือดาบ “คนนี้มาจากสำนักดาบพิฆาต ชื่อว่าจั๋วจื่อชิว” พอพูดจบก็ไปแนะนำตัวอีกคน “คนนี้มาจากสำนักดาบพิฆาตเช่นกัน ซ่งติง”
“เหยียนชง แกคบค้าสมาคมกับพวกสำนักดาบพิฆาตงั้นเหรอ ?” เหลยเป้าพูดสบถออกมา
เหยียนชงผงบหัวรับ “พี่เหลยเข้าใจผิดแล้วนะ พวกเราร่วมงานกัน เพื่อจะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่างหาก”
“น้องเหยียน พวกเราไม่มีเวลามานั่งฟังเรื่องเวิ่นเว้อนะ” ซ่งติงพูดออกมาชัดเจน
สายตาเหยียนชงโกรธที่ได้ยินแบบนี้ แต่เขาก็ปกปิดมันได้ดี เขามองไปที่เหลยเป้าและสาวหม้าย “ขอให้ทั้งสองกลับไปคิดใหม่ให้ดี โลกเปลี่ยนไปแล้วโอกาสมันก็มีอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ร่วมกันทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กับฉันล่ะ”
หญิงหม้ายยิ้มเจื่อน “ตอบง่ายนิดเดียว พวกเราร่วมกับทางรัฐบาลเพื่อปราบสัตว์ร้าย คอยปกป้องชีวิตประชาชนนี่ไงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ จะให้พวกเรามาเลี้ยงไอ้พวกสำนักดาบพิฆาตเหมือนหมา คงทำไม่ได้หรอกนะ!”
“ตัวฉันเหลยเป้าคนนี้ ก็รู้ดีว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ”
ชัวะ!
เหลยเป้าไม่ยอมอ่อนข้อ ทันใดนั้นก็มีประกายวิบวับจากดาบส่องมาหาเขา เป็นซ่งติงที่ชักดาบออกมา
เหลยเป้าโกรธจัด รอบตัวเกิดประจุสายฟ้าขึ้นวนไฟรอบตัว เขาปล่อยหมัดออกมา สายฟ้าฟาดลงไปที่ด้ามดาบจนเกิดระเบิดขึ้น
“ไอ้พวกคนชั่วไร้ยางอาย!” เหลยเป้าโกรธมาก ก่อนหน้านี้เขาบาดเจ็บจากการที่เหยียนชงใช้กระจกทองแดงโจมตีเขา ก่อนจะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายนี้เพียงครู่เดียว ทำให้บาดแผลยังมีผลอยู่ เลือดไหลซิกออกจากปาก หลังจากโจมตีไปหนึ่งครั้ง
“น้องเหยียน พวกเขาอยากจะเป็นนักบุญ ก็ให้ฉันฟันคอเขาเถอะ ให้เขาได้เข้าใจว่าตัวเองยังเอาไม่รอด จะเอาปัญญาอะไรไปช่วยประชาชน” ซ่งติงพูดอย่างถมึงทึงเหมือนกับประกายดาบ
เหยียนชงหัวเราะลั่น ทำท่าคารวะแบบจอมยุทธ์จีน “งั้นรบกวนหน่อยนะพี่ซ่ง”
เก๊ง!
เสียงดาบออกมาจากฝัก ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่าน ประกายจากดาบฟาดไปมา มันมีเสียงฟ่อ ๆ ราวกับเสียงงูพิษส่งเสียงขู่
“แกคือเหลยเป้า สินะตอนนี้ก็เป็นแค่ลูกพลับแห้งที่ใครหล่นเท่านั้นละ!”
เหลยเป้าเร่งพลังลมปราณในตัวให้พลุ่งพล่านไปมา หมัดสองข้างตั้งการ์ดรอ
ปัง!
พลังระเบิดที่รุนแรง ชนเข้ากับคมดาบ ซ่งติงเข้าสู้อย่างดุเดือด ยกดาบแกว่งไปมา ประกายดาบดูมีเลห์มีกล ร้ายกาจและดูมีพิษภัย มันเคลื่อนไหวล้อมรอบตัวเหลยเป้าเอาไว้
เหลยเป้าร้องคำรามออกมาหลายต่อหลายครั้ง กำปั้นเหล็กห่อหุ้มไปด้วยลมปราณกลายเป็นพายุสายฟ้า ทั้งสองเริ่มเปิดฉากปะทะกัน
จั๋วจื่อชิวมองไปยังเรือนร่างของสาวหม้ายคนสวยด้วยสายตาที่วิปริตแล้วมองที่เหยียนชง พร้อมบอกว่า “เธอคนนี้ฉันขอ”
เหยียนชงเข้าใจแจ่มแจ้งว่าตัวจั๋วจื่อชิวคิดอะไรอยู่ เขาทำท่าทางผ่อนคายสนุกสนานขณะพยักหน้ารับ
จั๋วจื่อชิวเขี่ยเท้าเบา ๆ เคลื่อนไหวไหลลื่น แสดงถึงวิชาตัวเบาที่ล้ำลึก เขามุ่งเข้าใส่สาวหม้ายคนสวย ขณะยกมือขึ้นแล้วจับไหล่สาวหม้าย
หญิงหม้ายรูปงามนี้ทำเสียงเยือกเย็น จั๋วจื่อชิวประมาทเกินไป เขาไม่ชักดาบออกมา แต่ในวินาทีที่จั๋วจื่อชิวคว้าไหลของเธอก็เกิดบางอย่างขึ้น
ตู้ม!
เปลวเพลิงสีแดงอันรุ่มร้อนลุกรอบตัวหญิงหม้าย เธอยกมือขึ้น ปรากฏเป็นมังกรเปลวไฟสีแดงพุ่งเข้าใส่อกของจั๋วจื่อชิว
จั๋วจื่อชิวตกใจกลัว รีบเก็บมือ แต่ก็สายไปแล้ว ท้องน้อยของเขาโดนมังกรไฟโจมตี ตัวไถลถอยไกลเป็นร้อยเมตร เสื้อคลุ่มสีขาวโดนเผาจนเปลี่ยนเป็นสีดำ ทำให้เขาช็อกตาค้าง
“แล้วเธอจะเสียใจ” จั๋วจื่อชิวพูดใส่หญิงหม้าย
“แกตั้งหากที่จะเสียใจ! ฉันจะควักลูกตาแกออกมา” หญิงหม้ายกล่าว ก่อนหน้านี้จั๋วจื่อชิวมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยตัณหาและความสกปรก ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงมากจนอยากควักลูกตาอีกฝ่ายออกมา
ตู้ม!
รอบตัวหญิงหม้ายรายล้อมด้วยเปลวเพลิง อากาศรอบ ๆ โดนแผดเผามีเสียงอะไรสักอย่างแตกออกมา แล้วมันก็พุ่งตรงมาที่จั๋วจื่อชิว
จั๋วจื่อชิวรีบดึงดาบออกจากฝัก พร้อมใช้เพลงดาบที่ดุดันร้ายกาจออกมา ความหนาวเหน็บลอยทั่วอากาศ คมดาบที่ร้ายกาจนี้แทงใส่หญิงหม้ายเข้า
เต๊ง!
หญิงหม้ายทุบดาบด้วยฝ่ามือ ไฟลุกโชนออกมา แล้วปล่อยคลืนพลังที่น่ากลัวสวนกลับ
เต๊ง เต๊ง……!
สองคนเปิดฉากปะทะกัน เปลวไฟสีแดงของหญิงหม้ายดูทรงอิทธิฤทธิ์มาก ฝ่ามือเปล่า ๆ สองข้างสู้กันกับเพลงดาบของจั๋วจื่อชิวได้แบบไม่เป็นรองเลยแม้แต่น้อย
จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิเมื่อปะทะกัน ทุกอย่างก็ดูน่ากลัว รอบข้างพวกเขาเต็มไปด้วยทรายและหินที่ระเบิดไม่หยุดหย่อน
ปัง!
เหลยเป้ากระเด็นออกมา เลือดกระเด็นเต็มบนฟ้า ที่หน้าอกมีรอยดาบฟันยาวสิบสองเซนติเมตรพร้อมเลือดสด ๆ ไหลทะลัก
เขาบาดเจ็บจากก่อนหน้านี้แล้ว หากหลบไม่ทัน เขาคงโดนซ่งติงเอาดาบฟันยาวไปถึงลำไส้ หญิงหม้ายท่าทางเร่งรีบไปช่วย เปลวไฟรอบ ๆ ตัวร้อนแรง ฝ่ามือสองข้างผายออก ยิงลูกไฟอย่างต่อเนื่อง
เต๊ง!
ดาบของจั๋วจื่อชิวปรากฏรอยแตก สาวหม้ายฟาดฝ่ามือลงไปที่ไหล่ของเขา
จั๋วจื่อชิวร้องออกมา เสื้อผ้าตรงส่วนไหล่โดนเผาเป็นสีเทา ผิวหนังตรงช่วงไหล่เป็นสีดำ แรงจากเผาไหม้ลึกเข้าไปถึงเส้นเลือดดำ
พอซ่งติงเห็นเข้า เขาก็รีบปล่อยเหลยเป้าไป พุ่งตัวไปหาหญิงหม้าย ดาบฟันมาจากทิศตะวันออก พลังดาบปล่อยทั้งแนวตั้งและแนวนอน สาวหม้ายไม่รู้สึกหวาดกลัว เธอยกฝ่ามือผายออกสู้อย่างไม่มีความเกรงกลัว
เต๊ง เต๊ง……..!
รอบข้างระเบิดต่อเหนื่องไม่หยุดไม่หย่อน ซ่งติงเองก็โดนหญิงหม้ายปล่อยระเบิดใส่จนต้องถอยร่นไป
บู้ม!
สาวหม้ายจุดไฟสีแดงที่มือแล้วฟาดลงไปที่ดาบ ดาบยาวของซ่งติงโดนเผาจนกลายเป็นสีแดง หากว่าดาบนี้ตีจากเหล็กธรรมดา คงโดนหลอมละลาย ไปแล้ว
แต่อยู่ดี ๆ ในเวลานั้นก็มีมังกรเข้ามาทางข้างหลังของสาวหม้าย
ปัง!
มังกรเงาสีทองตัวหนึ่งชนเข้ากับสาวหม้าย ปล่อยประกายสีทองออกมา หญิงหม้ายกระอักเลือดออกมากองใหญ่ตัวปลิวกระเด็นไปไกลหลายร้อยเมตร
“แค่ก ๆ เหยียนชง ไอ้ชั่วหน้าไม่อาย!!” เหลยเป้าด่าพลางกระอักเลือดออกมา เหยียนชงอาศัยจังหวะชุลมุนที่ต่อสู้กันโจมตีหญิงหม้าย เขาใช้กระจกทองแดงแปดเหลี่ยมโจมตีเธอ
เหยียนชงพูดเยาะเย้ย “แล้วทำไมวะ ตอนนี้แกน่ะเอาตัวเองให้รอดก่อน”
ซ่งติงแสยะยิ้มออกมา หรี้เข้าไปหาเหลยเป้า คว้าดาบยาวขึ้นแทงไปที่หัวใจเหลยเป้า
เหลยเป้าโมโหเดือดดาล แต่เขาก็บาดเจ็บหนัก ตัวอาบไปด้วยเลือด ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังออกมา จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเพียงเสียง
“ปิ้ว” กลางอากาศ พร้อมเสียงตะโกนดังออกมาจากเหยียนชง
“รีบถอยไป!” เหยียนชงตะโกนลั่น
พอซ่งติงได้ยินเข้าก็รู้สึกใจคอไม่ดี จึงรีบล่าถอยไปดั่งสายฟ้าฟาด
ชัวะ!
ประกายสีเงินลอยมาแทงข้างหลังเขา พวกเขาได้ยินเพียงเสียง “ตู้มม” เกิดเป็นไฟลุกโชนอย่างดุเดือด ลมจากแรงระเบิดแพร่กระจายออกไป พื้นดินสั่นไหว เหล่าตึกรามบ้านช่องในระยะร้อยเมตรกลายเป็นเพียงฝุ่นผง
ทุกคนในพื้นที่รอบข้างนั้นหนังหัวด้านชา มือเท้าเย็นวาบ โดยเฉพาะซ่งติงที่หน้าผากชุ่มเหงื่อ หัวใจสั่นระรัว ทุกคนมองไปที่นักรบเสือ
พวกเขามองตามไปทันที เขาไม่เคยคิดว่าปืนนั้นว่ามันจะน่ากลัวได้ขนาดนี้ มันสามารถฆ่าจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับหนึ่งได้เลย!!
“แกรนหาที่ตายเองนะ!” จั๋วจื่อชิวระเบิดพลังออกมาจากตัว เขาอยู่ใกล้กับนักรบเสือที่สุด เขาจับดาบแน่น พลังลมปราณจากดาบก็ระเบิดออกมา
ตู้ม!
กระบอกปืนแตกกระจุยกระจาย นักรบเสือกระอักเลือดกองใหญ่ ตัวปลิวกระเด็นไปไกล
“ไอ้มดปลวกนี่กล้าดียังไงมายิงฉัน !?” ซ่งติงเกรี้ยวกราด เขาพุ่งไปหานักรบเสือ ส่วนเหยียนชงเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า เขาเองก็เป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ ถ้าโดนยิงเข้าไปคงตัวระเบิดกลายเป็นหมอกเลือดไปแล้ว เพราะงั้นเขาจำเป็นต้องฆ่านักรบเสือทิ้งเพื่อระบายความโกรธแค้น!
เหลยเป้าคำรามออกมา ฮึดขึ้นตามซ่งติงไปหวังว่าจะหยุดเขา ช่วยชีวิตนักรบเสือ เขาดูถูกดูแคลนมดตัวเล็ก ๆ แบบนักรบเสือ แต่ตอนนี้กลับกังวลนักรบเสือที่มาช่วยชีวิตเขาไว้ เขาทนเห็นนักรบเสือตายในเงื้อมมือของซ่งติงไม่ได้!!
แต่ทว่าเขาบาดเจ็บหนักจนพ่นเลือดออกไปไกลกว่าสิบเมตร เดินกะเผลกจนแทบจะล้มลง นักรบเสือโกรธจัด เขามองดูซ่งติงที่หมายจะเข้ามาฆ่าเขา เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิจะมาฆ่าฉัน ? แล้วฉันจะหนีได้ยังไง ?
ซ่งติงหน้าตาดุร้าย ฟันออกมาหลายดาบใส่นักรบเสือ ที่จริงแล้วฟันเพียงดาบเดียวก็สับให้นักรบเสือกลายเป็นเศษเนื้อไปแล้ว นับว่าซ่งติงโหดเหี้ยมมาก ดาบตั้งตระหง่าน แฝงด้วยพลังลมปราณ ทำให้นักรบเสือตัวเย็นวาบ
“ตาย!!” ดาบยาวนี้ปล่อยลมปราณอำมหิตออกมาตัดฉับลงไป สายตาของซ่งติงดูดุร้ายเลือดเย็น
ฟิ่ว!
แล้วทันใดนั้นเอง คมดาบนับพันก็กระหน่ำลงมา ส่องประกายสีเงินทั่วทั้งท้องฟ้า ซ่งติงตกใจแกว่งดาบไปมาเพื่อป้องกันตัวเอง
เต๊ง!
คมดาบนับพันนั้นแท้จริงแล้วคือ ปลายกระบอกปืนที่แตกไปก่อนหน้านี้ มีคนใช้ด้ามปืนฟาดลงมาที่ดาบ เกิดเป็นประกายไฟ เมื่อปะทะกันดาบยาวของซ่งติงก็ระเบิดแตกกระจุย!
ปืนยาวราวกับมังกร มันทำลายดาบโดยที่ไม่มีอะไรสามารถหยุดมันได้เลย
ฟู่ว!
เลือดสาดกระเซ็น ปืนสีเงินจ่ออยู่ที่คอของซ่งติง ทำตัวเขาปลิวกระเด็นไปไกลนับพันเมตร!
“ตู้มมมมม!” เป็นเสียงเดียวที่ดังออกมา ซ่งติงตายสภาพโดนตรึงเข้ากับกำแพงหิน จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับหนึ่ง ตายโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายยังไงด้วยซ้ำ!!
Comments
จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) 237 ชุลมุน!
บทที่ 237 ชุลมุน![รีไรท์]
ท่าทางของเหลยเป้าดูร้อนรนเมื่อเห็นความทรงพลังของเหยียนชง
“เหยียนชง ดูเหมือนว่าแกจะไม่ปล่อยฉันไปเลยสินะ” เรื่องมาขนาดนี้แล้ว เหยียนชงก็ไม่ปิดบังอะไรอีก ตอนนี้เขาครอบครองกระจกทองแดงแปดเหลี่ยมเอาไว้ เขาควบคุมทุกอย่างได้สบายไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง
“พี่เหลย พวกเราไม่สามารถครองทั้งประเทศได้ภายในวันเดียว ครอบครัวก็ไม่สามารถอยู่ด้วยกันเพียงแค่วันเดียว ฉันเห็นว่าไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่าอนาคตของวังมังกรเพลิงแล้ว!” (เหยียนชงหมายความประมาณว่าถ้าเขาได้มาเป็นเจ้าวังคนเดียวคงไม่มีทางจะทำอะไรได้) เหลยเป้ายิ้มแห้งออกมา พลางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“เหยียนชง ฉันเข้าใจสิ่งที่แกสื่อออกมาดี แกอยากจะเป็นเจ้าแห่งวังสินะ งั้นฉันบอกเลยก็แล้วกัน กูไม่เห็นด้วยโว้ย!” หน้าของเหยียนชงที่ยิ้มแห้ง ๆ อยู่กลายเป็นหน้าถมึงทึง พูดออกมาว่า “พี่เหลย ฉันยอมรับว่าฉันอยากจะเป็นเจ้าของวังนี้ แต่นี่มันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ฉันถามหน่อยว่านอกจากฉันยังมีใครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอีก”
เหลยเป้าขำแห้ง แล้วพูดถากถางออกไปว่า “งั้นก็ได้ มาลองแบบนี้ไหม ไม่ต้องใช้พลังจากสมบัติลึกลับ เอาพลังที่แท้จริงมาสู้กันเลยเป็นไง ถ้าแกทำให้ฉันเหลยเป้ายอมแพ้ได้ ฉันยินดีรับใช้แกในฐานะที่แกเป็นเจ้าวัง กลับกันหากแกแพ้ก็เข้ามาคุกเข่าคำนับให้ท่านเหลย[19] พร้อมทั้งเอาหัวฟาดกับพื้นไปสามครั้ง จากนั้นก็ไสหัวกลับกลุ่มโหรของแกไปซะเลิกพูดเวิ่นเว้อ กับเรื่องนี้ได้แล้ว”
“ล้อเล่นหรือไง ? สมบัติลึกลับนั่นคือส่วนหนึ่งของพลังของฉัน ทำไมฉันถึงจะไม่ใช้มันล่ะ ถ้านายมีแบบฉัน นายก็คงงัดมันออกมาใช้เช่นกันแหละน่า” เหยียนชงพูดเยาะเย้ย เหลยเป้าหน้าแดงพูดอะไรไม่ออก
“ท่านหัวหน้าเหยียน วันนี้ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนนะ จะหยุดก่อนไหม ?” สาวหม้ายคนสวยกล่าวโดนคนบีบบังคับโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ เธอรู้สึกไม่มีความสุข
“ฉันกำลังคิดถึงอนาคตของวังมังกรเพลิงนะ!!” เหยียนชงตะโกนออกมา
หญิงหม้ายคนสวยพูดเสียดสี “เมื่อกี้ฉันรักษาน้ำใจแล้วนะ ก็ได้ฉันจะพูดตรง ๆ เลยก็แล้วกัน หากนายจะเป็นเจ้าแห่งวังจริง ๆ ฉันในฐานะหัวหน้ากลุ่มจิ้งจอกเพลิงขอตอบว่า ไม่เห็นด้วย!”
สายตาเหยียนชงปล่อยความรู้สึกเย็นยะเยือกออกมา เหลยเป้าเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ หญิงหม้ายคนสวย พร้อมพูดจาเหน็บแนม
“เหยียนชง ฉันไม่รู้หรอกนะว่าไอ้สมบัติลึกลับของแกจะช่วยให้แกชนะพวกเราสองคนได้หรือเปล่า?”
เหยียนชงหน้าอกสั่นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ อย่างแรง จากที่เขาคิดว่าจะครอบครองวังมังกรเพลิงโดยสมบูรณ์ ตอนนี้ดูท่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
เขายิ้มออกมาด้วยท่าทางแบบแปลก ๆ “พวกนายตั้งใจจะท้าทายฉันสินะ”
หญิงหม้ายคนสวยพูดออกมา “เหยียนชง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายต้องการอะไร นายน่ะต้องการจะควบคุมวังมังกรเพลิงถืออำนาจสูงสุด ซึ่งพวกเราไม่เห็นด้วย”
“เหยียนชง แกมันคนทะเยอทะยาน อย่าคิดว่าพวกเราโง่จนไม่รู้ว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่” เหลยเป้ากล่าว
เหยียนชงกลับไปไตร่ตรองอย่างใจเย็น เขามองเหลยเป้าและหญิงหม้ายคนสวย ส่วนนักรบเสือก็ยังโดนเมิน พลางพูดออกมาว่า “ในเมื่อพวกนายไม่ต้องการ งั้นฉันจะทำลายกลุ่มวายุอัสนีและกลุ่มจิ้งจอกเพลิงทิ้งซะ”
“อย่างแกน่ะนะ ?” เหลยเป้าพูดสบประมาท สมบัติลึกลับแข็งแกร่งก็จริง แต่ถ้าหากเขาร่วมมือกันกับหญิงหม้ายขึ้นมา ถึงเหยียนชงจะมีสมบัติลึกลับนั้น เขาจะไม่มีชนะได้เลย
“ฉันรู้ว่าพลังการฝึกฝนของนายสูงมาก และแน่นอนว่าฉันคงจะไม่พึ่งพาสมบัติลึกลับแค่ชิ้นเดียวหรอก ถ้าเตรียมใจมาขนาดนี้” เหยียนชงยิ้มแฉ่งออกมา
“พี่จั่ว พี่ซ่ง ออกมาซะ”
พรึบ พรึบ!
เงาสองคนโผล่ออกมาไวเหมือนสายฟ้าฟาด พริบตาเดียวก็อยู่ข้าง ๆ เหยียนชง สองคนนี้ดูท่าทางจะเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง ท่าทางหยิ่งผยอง ทั้งคู่พกดาบยาว ท่าทางกำยำ สองคนนี้คือจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับหนึ่ง
เหลยเป้าและหญิงหม้ายเชิดหน้าขึ้น
“ขอแนะนำนะ” เหยียนชงยิ้มแล้วมองไปที่ชายที่ถือดาบ “คนนี้มาจากสำนักดาบพิฆาต ชื่อว่าจั๋วจื่อชิว” พอพูดจบก็ไปแนะนำตัวอีกคน “คนนี้มาจากสำนักดาบพิฆาตเช่นกัน ซ่งติง”
“เหยียนชง แกคบค้าสมาคมกับพวกสำนักดาบพิฆาตงั้นเหรอ ?” เหลยเป้าพูดสบถออกมา
เหยียนชงผงบหัวรับ “พี่เหลยเข้าใจผิดแล้วนะ พวกเราร่วมงานกัน เพื่อจะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่างหาก”
“น้องเหยียน พวกเราไม่มีเวลามานั่งฟังเรื่องเวิ่นเว้อนะ” ซ่งติงพูดออกมาชัดเจน
สายตาเหยียนชงโกรธที่ได้ยินแบบนี้ แต่เขาก็ปกปิดมันได้ดี เขามองไปที่เหลยเป้าและสาวหม้าย “ขอให้ทั้งสองกลับไปคิดใหม่ให้ดี โลกเปลี่ยนไปแล้วโอกาสมันก็มีอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ร่วมกันทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กับฉันล่ะ”
หญิงหม้ายยิ้มเจื่อน “ตอบง่ายนิดเดียว พวกเราร่วมกับทางรัฐบาลเพื่อปราบสัตว์ร้าย คอยปกป้องชีวิตประชาชนนี่ไงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ จะให้พวกเรามาเลี้ยงไอ้พวกสำนักดาบพิฆาตเหมือนหมา คงทำไม่ได้หรอกนะ!”
“ตัวฉันเหลยเป้าคนนี้ ก็รู้ดีว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ”
ชัวะ!
เหลยเป้าไม่ยอมอ่อนข้อ ทันใดนั้นก็มีประกายวิบวับจากดาบส่องมาหาเขา เป็นซ่งติงที่ชักดาบออกมา
เหลยเป้าโกรธจัด รอบตัวเกิดประจุสายฟ้าขึ้นวนไฟรอบตัว เขาปล่อยหมัดออกมา สายฟ้าฟาดลงไปที่ด้ามดาบจนเกิดระเบิดขึ้น
“ไอ้พวกคนชั่วไร้ยางอาย!” เหลยเป้าโกรธมาก ก่อนหน้านี้เขาบาดเจ็บจากการที่เหยียนชงใช้กระจกทองแดงโจมตีเขา ก่อนจะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายนี้เพียงครู่เดียว ทำให้บาดแผลยังมีผลอยู่ เลือดไหลซิกออกจากปาก หลังจากโจมตีไปหนึ่งครั้ง
“น้องเหยียน พวกเขาอยากจะเป็นนักบุญ ก็ให้ฉันฟันคอเขาเถอะ ให้เขาได้เข้าใจว่าตัวเองยังเอาไม่รอด จะเอาปัญญาอะไรไปช่วยประชาชน” ซ่งติงพูดอย่างถมึงทึงเหมือนกับประกายดาบ
เหยียนชงหัวเราะลั่น ทำท่าคารวะแบบจอมยุทธ์จีน “งั้นรบกวนหน่อยนะพี่ซ่ง”
เก๊ง!
เสียงดาบออกมาจากฝัก ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่าน ประกายจากดาบฟาดไปมา มันมีเสียงฟ่อ ๆ ราวกับเสียงงูพิษส่งเสียงขู่
“แกคือเหลยเป้า สินะตอนนี้ก็เป็นแค่ลูกพลับแห้งที่ใครหล่นเท่านั้นละ!”
เหลยเป้าเร่งพลังลมปราณในตัวให้พลุ่งพล่านไปมา หมัดสองข้างตั้งการ์ดรอ
ปัง!
พลังระเบิดที่รุนแรง ชนเข้ากับคมดาบ ซ่งติงเข้าสู้อย่างดุเดือด ยกดาบแกว่งไปมา ประกายดาบดูมีเลห์มีกล ร้ายกาจและดูมีพิษภัย มันเคลื่อนไหวล้อมรอบตัวเหลยเป้าเอาไว้
เหลยเป้าร้องคำรามออกมาหลายต่อหลายครั้ง กำปั้นเหล็กห่อหุ้มไปด้วยลมปราณกลายเป็นพายุสายฟ้า ทั้งสองเริ่มเปิดฉากปะทะกัน
จั๋วจื่อชิวมองไปยังเรือนร่างของสาวหม้ายคนสวยด้วยสายตาที่วิปริตแล้วมองที่เหยียนชง พร้อมบอกว่า “เธอคนนี้ฉันขอ”
เหยียนชงเข้าใจแจ่มแจ้งว่าตัวจั๋วจื่อชิวคิดอะไรอยู่ เขาทำท่าทางผ่อนคายสนุกสนานขณะพยักหน้ารับ
จั๋วจื่อชิวเขี่ยเท้าเบา ๆ เคลื่อนไหวไหลลื่น แสดงถึงวิชาตัวเบาที่ล้ำลึก เขามุ่งเข้าใส่สาวหม้ายคนสวย ขณะยกมือขึ้นแล้วจับไหล่สาวหม้าย
หญิงหม้ายรูปงามนี้ทำเสียงเยือกเย็น จั๋วจื่อชิวประมาทเกินไป เขาไม่ชักดาบออกมา แต่ในวินาทีที่จั๋วจื่อชิวคว้าไหลของเธอก็เกิดบางอย่างขึ้น
ตู้ม!
เปลวเพลิงสีแดงอันรุ่มร้อนลุกรอบตัวหญิงหม้าย เธอยกมือขึ้น ปรากฏเป็นมังกรเปลวไฟสีแดงพุ่งเข้าใส่อกของจั๋วจื่อชิว
จั๋วจื่อชิวตกใจกลัว รีบเก็บมือ แต่ก็สายไปแล้ว ท้องน้อยของเขาโดนมังกรไฟโจมตี ตัวไถลถอยไกลเป็นร้อยเมตร เสื้อคลุ่มสีขาวโดนเผาจนเปลี่ยนเป็นสีดำ ทำให้เขาช็อกตาค้าง
“แล้วเธอจะเสียใจ” จั๋วจื่อชิวพูดใส่หญิงหม้าย
“แกตั้งหากที่จะเสียใจ! ฉันจะควักลูกตาแกออกมา” หญิงหม้ายกล่าว ก่อนหน้านี้จั๋วจื่อชิวมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยตัณหาและความสกปรก ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงมากจนอยากควักลูกตาอีกฝ่ายออกมา
ตู้ม!
รอบตัวหญิงหม้ายรายล้อมด้วยเปลวเพลิง อากาศรอบ ๆ โดนแผดเผามีเสียงอะไรสักอย่างแตกออกมา แล้วมันก็พุ่งตรงมาที่จั๋วจื่อชิว
จั๋วจื่อชิวรีบดึงดาบออกจากฝัก พร้อมใช้เพลงดาบที่ดุดันร้ายกาจออกมา ความหนาวเหน็บลอยทั่วอากาศ คมดาบที่ร้ายกาจนี้แทงใส่หญิงหม้ายเข้า
เต๊ง!
หญิงหม้ายทุบดาบด้วยฝ่ามือ ไฟลุกโชนออกมา แล้วปล่อยคลืนพลังที่น่ากลัวสวนกลับ
เต๊ง เต๊ง……!
สองคนเปิดฉากปะทะกัน เปลวไฟสีแดงของหญิงหม้ายดูทรงอิทธิฤทธิ์มาก ฝ่ามือเปล่า ๆ สองข้างสู้กันกับเพลงดาบของจั๋วจื่อชิวได้แบบไม่เป็นรองเลยแม้แต่น้อย
จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิเมื่อปะทะกัน ทุกอย่างก็ดูน่ากลัว รอบข้างพวกเขาเต็มไปด้วยทรายและหินที่ระเบิดไม่หยุดหย่อน
ปัง!
เหลยเป้ากระเด็นออกมา เลือดกระเด็นเต็มบนฟ้า ที่หน้าอกมีรอยดาบฟันยาวสิบสองเซนติเมตรพร้อมเลือดสด ๆ ไหลทะลัก
เขาบาดเจ็บจากก่อนหน้านี้แล้ว หากหลบไม่ทัน เขาคงโดนซ่งติงเอาดาบฟันยาวไปถึงลำไส้ หญิงหม้ายท่าทางเร่งรีบไปช่วย เปลวไฟรอบ ๆ ตัวร้อนแรง ฝ่ามือสองข้างผายออก ยิงลูกไฟอย่างต่อเนื่อง
เต๊ง!
ดาบของจั๋วจื่อชิวปรากฏรอยแตก สาวหม้ายฟาดฝ่ามือลงไปที่ไหล่ของเขา
จั๋วจื่อชิวร้องออกมา เสื้อผ้าตรงส่วนไหล่โดนเผาเป็นสีเทา ผิวหนังตรงช่วงไหล่เป็นสีดำ แรงจากเผาไหม้ลึกเข้าไปถึงเส้นเลือดดำ
พอซ่งติงเห็นเข้า เขาก็รีบปล่อยเหลยเป้าไป พุ่งตัวไปหาหญิงหม้าย ดาบฟันมาจากทิศตะวันออก พลังดาบปล่อยทั้งแนวตั้งและแนวนอน สาวหม้ายไม่รู้สึกหวาดกลัว เธอยกฝ่ามือผายออกสู้อย่างไม่มีความเกรงกลัว
เต๊ง เต๊ง……..!
รอบข้างระเบิดต่อเหนื่องไม่หยุดไม่หย่อน ซ่งติงเองก็โดนหญิงหม้ายปล่อยระเบิดใส่จนต้องถอยร่นไป
บู้ม!
สาวหม้ายจุดไฟสีแดงที่มือแล้วฟาดลงไปที่ดาบ ดาบยาวของซ่งติงโดนเผาจนกลายเป็นสีแดง หากว่าดาบนี้ตีจากเหล็กธรรมดา คงโดนหลอมละลาย ไปแล้ว
แต่อยู่ดี ๆ ในเวลานั้นก็มีมังกรเข้ามาทางข้างหลังของสาวหม้าย
ปัง!
มังกรเงาสีทองตัวหนึ่งชนเข้ากับสาวหม้าย ปล่อยประกายสีทองออกมา หญิงหม้ายกระอักเลือดออกมากองใหญ่ตัวปลิวกระเด็นไปไกลหลายร้อยเมตร
“แค่ก ๆ เหยียนชง ไอ้ชั่วหน้าไม่อาย!!” เหลยเป้าด่าพลางกระอักเลือดออกมา เหยียนชงอาศัยจังหวะชุลมุนที่ต่อสู้กันโจมตีหญิงหม้าย เขาใช้กระจกทองแดงแปดเหลี่ยมโจมตีเธอ
เหยียนชงพูดเยาะเย้ย “แล้วทำไมวะ ตอนนี้แกน่ะเอาตัวเองให้รอดก่อน”
ซ่งติงแสยะยิ้มออกมา หรี้เข้าไปหาเหลยเป้า คว้าดาบยาวขึ้นแทงไปที่หัวใจเหลยเป้า
เหลยเป้าโมโหเดือดดาล แต่เขาก็บาดเจ็บหนัก ตัวอาบไปด้วยเลือด ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังออกมา จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเพียงเสียง
“ปิ้ว” กลางอากาศ พร้อมเสียงตะโกนดังออกมาจากเหยียนชง
“รีบถอยไป!” เหยียนชงตะโกนลั่น
พอซ่งติงได้ยินเข้าก็รู้สึกใจคอไม่ดี จึงรีบล่าถอยไปดั่งสายฟ้าฟาด
ชัวะ!
ประกายสีเงินลอยมาแทงข้างหลังเขา พวกเขาได้ยินเพียงเสียง “ตู้มม” เกิดเป็นไฟลุกโชนอย่างดุเดือด ลมจากแรงระเบิดแพร่กระจายออกไป พื้นดินสั่นไหว เหล่าตึกรามบ้านช่องในระยะร้อยเมตรกลายเป็นเพียงฝุ่นผง
ทุกคนในพื้นที่รอบข้างนั้นหนังหัวด้านชา มือเท้าเย็นวาบ โดยเฉพาะซ่งติงที่หน้าผากชุ่มเหงื่อ หัวใจสั่นระรัว ทุกคนมองไปที่นักรบเสือ
พวกเขามองตามไปทันที เขาไม่เคยคิดว่าปืนนั้นว่ามันจะน่ากลัวได้ขนาดนี้ มันสามารถฆ่าจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับหนึ่งได้เลย!!
“แกรนหาที่ตายเองนะ!” จั๋วจื่อชิวระเบิดพลังออกมาจากตัว เขาอยู่ใกล้กับนักรบเสือที่สุด เขาจับดาบแน่น พลังลมปราณจากดาบก็ระเบิดออกมา
ตู้ม!
กระบอกปืนแตกกระจุยกระจาย นักรบเสือกระอักเลือดกองใหญ่ ตัวปลิวกระเด็นไปไกล
“ไอ้มดปลวกนี่กล้าดียังไงมายิงฉัน !?” ซ่งติงเกรี้ยวกราด เขาพุ่งไปหานักรบเสือ ส่วนเหยียนชงเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า เขาเองก็เป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ ถ้าโดนยิงเข้าไปคงตัวระเบิดกลายเป็นหมอกเลือดไปแล้ว เพราะงั้นเขาจำเป็นต้องฆ่านักรบเสือทิ้งเพื่อระบายความโกรธแค้น!
เหลยเป้าคำรามออกมา ฮึดขึ้นตามซ่งติงไปหวังว่าจะหยุดเขา ช่วยชีวิตนักรบเสือ เขาดูถูกดูแคลนมดตัวเล็ก ๆ แบบนักรบเสือ แต่ตอนนี้กลับกังวลนักรบเสือที่มาช่วยชีวิตเขาไว้ เขาทนเห็นนักรบเสือตายในเงื้อมมือของซ่งติงไม่ได้!!
แต่ทว่าเขาบาดเจ็บหนักจนพ่นเลือดออกไปไกลกว่าสิบเมตร เดินกะเผลกจนแทบจะล้มลง นักรบเสือโกรธจัด เขามองดูซ่งติงที่หมายจะเข้ามาฆ่าเขา เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิจะมาฆ่าฉัน ? แล้วฉันจะหนีได้ยังไง ?
ซ่งติงหน้าตาดุร้าย ฟันออกมาหลายดาบใส่นักรบเสือ ที่จริงแล้วฟันเพียงดาบเดียวก็สับให้นักรบเสือกลายเป็นเศษเนื้อไปแล้ว นับว่าซ่งติงโหดเหี้ยมมาก ดาบตั้งตระหง่าน แฝงด้วยพลังลมปราณ ทำให้นักรบเสือตัวเย็นวาบ
“ตาย!!” ดาบยาวนี้ปล่อยลมปราณอำมหิตออกมาตัดฉับลงไป สายตาของซ่งติงดูดุร้ายเลือดเย็น
ฟิ่ว!
แล้วทันใดนั้นเอง คมดาบนับพันก็กระหน่ำลงมา ส่องประกายสีเงินทั่วทั้งท้องฟ้า ซ่งติงตกใจแกว่งดาบไปมาเพื่อป้องกันตัวเอง
เต๊ง!
คมดาบนับพันนั้นแท้จริงแล้วคือ ปลายกระบอกปืนที่แตกไปก่อนหน้านี้ มีคนใช้ด้ามปืนฟาดลงมาที่ดาบ เกิดเป็นประกายไฟ เมื่อปะทะกันดาบยาวของซ่งติงก็ระเบิดแตกกระจุย!
ปืนยาวราวกับมังกร มันทำลายดาบโดยที่ไม่มีอะไรสามารถหยุดมันได้เลย
ฟู่ว!
เลือดสาดกระเซ็น ปืนสีเงินจ่ออยู่ที่คอของซ่งติง ทำตัวเขาปลิวกระเด็นไปไกลนับพันเมตร!
“ตู้มมมมม!” เป็นเสียงเดียวที่ดังออกมา ซ่งติงตายสภาพโดนตรึงเข้ากับกำแพงหิน จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับหนึ่ง ตายโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายยังไงด้วยซ้ำ!!
Comments