ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]บทที่ 414: ดินแดนที่ไม่รู้จัก (4)

Now you are reading ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] Chapter บทที่ 414: ดินแดนที่ไม่รู้จัก (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 414: ดินแดน​ที่​ไม่รู้จัก​ (4)

ซ่ากก​กก​– อย่างไรก็ตาม​ สิ่งที่​น่า​ตกตะลึง​ที่สุด​สำหรับ​ฉิน​เย่​ก็​คือ​การ​ที่​ราชา​อสูร​วิญญาณ​ไม่มีเลือด​ไหล​ออกมา​เลย​แม้แต่​หยด​เดียว​แม้ว่า​มัน​จะถูก​หั่น​ร่าง​เป็น​ชิ้น​ ๆ กลับกัน​เหมือน​จะมีเพียง​เสียง​กรีดร้อง​บีบ​หัวใจ​ที่​ไร้​ที่​สิ้นสุด​

“บ้า​ไป​แล้ว​…มัน​ยัง​ไม่ตาย​อีก​อย่างนั้น​หรือ​?!” ฉิน​เย่​ตกใจ​กับ​ทั้ง​การแสดง​พลัง​ที่​น่า​เหลือเชื่อ​ของ​อาร์​ทิส​และ​เจตจำนง​ที่จะ​มีชีวิตรอด​ของ​ราชา​อสูร​วิญญาณ​ เขา​ลอบ​กลืนน้ำลาย​อย่าง​หวั่น​สะพรึง​ ใน​เสี้ยว​วินาที​ ชิ้นส่วน​ของ​ราชา​อสูร​วิญญาณ​ที่อยู่​บน​พื้น​ก็​พุ่ง​กลับ​ลง​ไป​ใน​เหว​ไร้​ก้นบึ้ง​อย่าง​รวดเร็ว​

มัน​กำลัง​กลัว​…

มัน​กำลัง​หวาดกลัว​อาร์​ทิส​อย่าง​แท้จริง​ มัน​ไม่คิด​เลย​ว่า​จะได้​เผชิญหน้า​กับ​คู่ต่อสู้​ที่​ทรงพลัง​แบบนี้​ ใจสู้และ​ความกล้า​ที่​เคย​มีไม่เหลืออยู่​อีกต่อไป​

ฟึ่บ.​..สายลม​สีดำ​สนิท​พัดผ่าน​ศีรษะ​ของ​ฉิน​เย่​ และ​เศษส่วน​เล็กน้อย​ของ​ร่าง​ก็​พุ่ง​ออก​ไป​พร้อมกัน​ราวกับ​ฝูงกา​ ทิ้ง​ไว้​เพียง​ชัยชนะ​ใน​การต่อสู้​

ท่าน​รากษส​ยังคง​นั่ง​อยู่​ที่​จุดสูงสุด​ของ​แท่น​ดอกบัว​ 18 ชั้น​

ฉิน​เย่​กระแอม​ออกมา​แห้ง​ๆและ​รวบรวม​ความกล้า​ทั้งหมด​ของ​ตัวเอง​ก่อน​จะเดิน​เข้าไป​ใกล้​แท่น​ดอกบัว​อย่าง​ระมัดระวัง​ “Hello? อาร์​ตี้​อยู่​ไหม​? บอก​ให้​นาง​ช่วย​ข้า​ควบคุม​ลอร์ด​แอรอน​–…” [1]

ทว่า​ก่อนที่​เขา​จะเอ่ย​จบ​ แทน​ดอกบัว​ก็​ลุกโชน​ด้วย​เปลวเพลิง​อีกครั้ง​ ก่อนที่​มัน​จะสลาย​หาย​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​เช่นเดียวกับ​ตอนที่​มัน​ปรากฏ​ขึ้น​มา เหลือ​ไว้​เพียง​ร่าง​ปกติ​ของ​อาร์​ทิส​ซึ่งตกลง​มาจาก​กลางอากาศ​ โดยสัญชาตญาณ​ ฉิน​เย่​เอื้อมมือ​ออก​ไป​รับ​ร่าง​ของ​อีก​ฝ่าย​ทันที​

“เจ้ารู้สึก​เป็น​อย่างไรบ้าง​?” ฉิน​เย่​เอ่ยปาก​ถามอย่าง​ตกใจ​ เขา​สัมผัส​ได้​ว่า​ร่าง​ของ​อาร์​ทิส​นั้น​เย็นยะเยือก​และ​ยัง​ถูก​ปกคลุม​ด้วย​เกล็ด​น้ำแข็ง​ เด็กหนุ่ม​รีบ​เอา​น้ำแข็ง​ทั้งหมด​ออกจาก​ร่าง​นั้น​ทันที​

แต่​ขณะที่​เขา​กำลัง​พยายาม​ปัด​มัน​ออก​เป็น​รอบ​ที่สาม​ อาร์​ทิส​ก็​คว้า​มือ​ของ​เขา​เอาไว้​และ​พึมพำ​ด้วย​เสียง​ที่​สั่นเทา​ “เรา​จะต้อง​ไป​เดี๋ยวนี้​…”

ฉิน​เย่​กระพริบตา​มอง​ปริบๆ​

นี่​…ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​เจ้าทำ​ก่อนหน้านี้​เป็น​เพียง​การ​แสดงละคร​อย่างนั้น​หรือ​?

“ท่าน​จะไป​รู้​อะไร​?!” แม้ว่า​ร่างกาย​จะยัง​อ่อนแอ​ แต่​นาง​ก็​รวบ​รวมกำลัง​ที่​เหลืออยู่​ทั้งหมด​ของ​ตัวเอง​และ​ตะโกน​ใส่ฉิน​เย่​ “ใช่ ข้า​สามารถ​กำราบ​มัน​ได้​ แต่​ข้า​ไม่มีทาง​สามารถ​ทำลาย​มัน​ได้​ ท่าน​คิด​ว่า​อสูร​วิญญาณ​ขั้น​ตุลาการ​นรก​ระดับสูง​นั้น​สามารถ​ฆ่าได้​ง่ายๆ​อย่างนั้น​หรือ​? นอกจากนี้​…”

“แค่​ก​ แค่​ก​ แค่​ก.​..” นาง​ไอ​ออกมา​หลาย​หน​ก่อน​จะหอบ​หายใจ​อย่าง​อ่อนแรง​ “มัน​…ไม่ได้​ถอย​หนี​เพราะ​หวาดกลัว​ข้า​…”

“ข้า​คือ​ผู้​ที่​ได้​สู้กับ​มัน​ ดังนั้น​ข้า​ย่อม​รู้ดี​ว่า​มัน​ยังมี​ไพ่ตาย​ซ่อน​อยู่​และ​ยัง​ไม่ได้​ถูก​นำมาใช้​ แต่​ถึงกระนั้น​…มัน​ก็​ยัง​เลือก​ที่จะ​ไม่ใช้มัน​และ​เลือก​ที่จะ​หนี​แทน​ มัน​ไม่ได้​กลัว​ข้า​… มัน​กลับ​มีอย่าง​อื่น​… และ​ไม่ว่า​สิ่งนั้น​จะเป็น​อะไร​… ข้า​เกรง​ว่า​… มัน​อาจจะ​มาที่นี่​ใน​อีกไม่ช้า​นี้​…”

“พวกเรา​จะต้อง​ไป​จาก​ที่นี่​…เดี๋ยวนี้​! การ​ล่มสลาย​ของ​ยมโลก​ได้​ทำให้เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ครั้ง​ใหญ่​กับ​สภาพแวดล้อม​โดยรอบ​ ไม่มีผู้ใด​รู้​ว่า​เรา​จะต้อง​เจอ​กับ​อะไร​ต่อไป​…”

แต่​แล้ว​ ฉิน​เย่​ก็​เหลือบมอง​ไป​ยัง​ท้องฟ้า​อย่าง​ครุ่นคิด​ “ข้า​คิด​ว่า​…สิ่งที่​มัน​กลัว​…ได้​อยู่​ที่นี่​แล้ว​”

เปรี้ยง​!

ทันใดนั้น​เอง​ ท้องฟ้า​ก็​มืด​ลง​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​สายฟ้า​ก็​ผ่า​ลงมา​พร้อมกับ​เสียง​ที่​ดังสนั่น​

สายฟ้า​เส้น​ดังกล่าว​สามารถ​มองเห็น​ได้​ด้วย​ตาเปล่า​ นอกจากนี้​ มัน​ยัง​เป็น​สีแดง​เลือด​อีกด้วย​

สายฟ้า​เส้น​แรก​ที่​ผ่า​ลงมา​อยู่​ห่าง​จาก​พวกเขา​ไป​ประมาณ​หนึ่ง​กิโลเมตร​ แต่​มัน​กลับ​ส่งคลื่น​กระแทก​ที่​ทรงพลัง​ที่​กระเพื่อม​ไป​รอบ​ๆจน​สามารถ​เห็น​ผลกระทบ​ของ​มัน​ได้​ด้วย​ตาเปล่า​ อาร์​ทิส​และ​ฉิน​เย่​อ้าปากค้าง​ออกมา​พร้อมกัน​

สิ่งที่​ราชา​แมงมุมหวาดกลัว​ก็​คือ​ธรรมชาติ​

ครื้น​!

ท้องฟ้า​ถูก​ปกคลุม​ด้วย​กลุ่ม​เมฆดำ​ที่เกิด​ฟ้าแลบ​เป็นระยะๆ​ หา​กลอง​ตั้งใจฟัง​ดู​ดี ๆ​ พวกเขา​ก็​อาจจะ​ได้ยิน​เสียงหัวเราะ​ของ​ทารก​ที่​ดัง​เล็ดลอด​มาจาก​เสียง​ของ​ฟ้าร้อง​อีกด้วย​

“ฮ่า ๆ ๆ… ฮ่า ๆ ๆ…” นี่​มัน​น่ากลัว​เกินไป​แล้ว​!

ทันใดนั้น​ เปลวไฟ​บางอย่าง​ก็​พุ่ง​ขึ้นไป​บน​ฟ้าและ​ระเบิด​ออก​ราวกับ​ดอกไม้ไฟ​

มัน​คือ​สัญญาณจาก​หยาง​เหยียน​เจา

“พวกเขา​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ประมาณ​สิบ​กิโลเมตร​แล้ว​ และ​ก็​น่าจะ​เหน็ดเหนื่อย​กัน​แล้ว​เช่นกัน​” ฉิน​เย่​หรี่ตา​มอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ที่​พลุ​ถูกจุด​ขึ้น​ขณะที่​เขา​แบ​กร่าง​ของ​อาร์​ทิส​ไว้​บน​หลัง​และ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ทิศทาง​ดังกล่าว​

ครื้น​…เสียง​ฟ้าร้อง​ดัง​ขึ้น​เรื่อยๆ​ราวกับว่า​มัน​เป็น​สัญญาณบ่งบอกถึง​การ​มาถึงของ​พายุ​ลูก​ใหญ่​ สายฟ้า​สีแดง​ผ่า​ลงมา​ทุกๆ​ 2-3 นาที​ ระเบิด​รู​ขนาดใหญ่​บน​ฟื้น​และ​ส่งคลื่น​กระแทก​ที่​รุนแรง​ออก​มาจาก​จุด​ของ​การ​กระทบ​ ฉิน​เย่​หวาดกลัว​จน​แทบ​เสียสติ​ ให้​ตาย​เถอะ​!! นี่​มัน​เรียก​ว่า​สายฟ้า​ได้​อย่างไร​?! นี่​มัน​อาวุธ​นิวเคลียร์​ชัด​ๆไม่ใช่หรือ​?! เวลานี้​ไม่มีผู้ใด​รู้​ได้​เลย​ว่า​จะขั้น​ตุลาการ​นรก​จะสามารถ​รอดชีวิต​ไป​ได้​หรือไม่​หาก​ถูก​ผ่า​ด้วย​สายฟ้า​ที่​ทรงพลัง​เช่นนี้​!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​…เขา​เหลือบตา​ไป​มอง​ท้องฟ้า​ที่​น่าหวาดกลัว​ด้านหลัง​ สั่นสะท้าน​กับ​ความคิด​ที่ว่า​เมื่อใด​พายุฝน​ฟ้าคะนอง​นั้น​จะเริ่มต้น​ขึ้น​อย่าง​แท้จริง​ อย่างไรก็ตาม​ เขา​รีบ​สะลัด​ความคิด​เหล่านั้น​ออก​ไป​และ​ให้ความสนใจ​ไป​กับ​เรื่อง​ที่อยู่​ตรงหน้า​ – เขา​หวัง​ว่า​หยาง​เหยียน​เจาจะตั้งค่าย​เรียบร้อย​แล้ว​ใน​ตอนที่​จุด​พลุ​สัญญาณขึ้น​มา เพราะ​หาก​เขา​ยัง​ไม่ทำ​…ผล​ที่​ตามมา​จะต้อง​เลวร้าย​อย่าง​คาดไม่ถึง​แน่​ ๆ !

ฉิน​เย่​ไม่ต้องการ​ใช้ร่างกาย​ขั้น​ตุลาการ​นรก​ของ​เขา​ใน​การ​ทดสอบ​ความรุนแรง​ของ​สายฟ้า​สีแดงเข้ม​เลย​สักนิด​!

เด็กหนุ่ม​พยายาม​ข่ม​ความวิตกกังวล​ภายในใจ​และ​รีบ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ตำแหน่ง​ที่​พลุ​สัญญาณถูกจุด​ขึ้น​ด้วย​ความเร็ว​สูงสุด​ ในขณะเดียวกัน​ กลุ่มก้อน​เมฆที่​ปกคลุม​เหนือ​ท้องฟ้า​ก็​ยังคง​ก่อตัว​หนา​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ จนกระทั่ง​มัน​อิ่มตัว​และ​เริ่ม​เท​สายฝน​ลงมา​ และ​จากนั้น​ พวกเขา​ก็ตาม​กองทัพ​ทัน​ในที่สุด​

ตอนนี้​พวกเขา​กำลัง​หยุดพัก​อยู่​ที่​เทือกเขา​แห่ง​หนึ่ง​

และ​ฉิน​เย่​ก็​ไม่ต้อง​กังวล​อะไร​เลย​แม้แต่น้อย​ หยาง​เหยียน​เจานั้น​เหมาะสม​กับ​ที่​เป็นหนึ่ง​ใน​แม่ทัพ​ที่​มีชื่อเสียง​มาก​ที่สุด​ของ​ตระกูล​หยาง​อย่าง​แท้จริง​ จุด​พัก​ของ​พวกเขา​ตอนนี้​คือ​จุด​ตั้ง​แคมป์​ที่​ดี​ที่สุด​ ไม่ว่า​จะเป็น​ใน​องค์ประกอบ​ใด​ ๆ ก็ตาม​ ตัว​เทือกเขา​ทอด​ยาว​ออก​ไป​หลาย​กิโลเมตร​ และ​มัน​ก็​เต็มไปด้วย​รู​และ​รอยแยก​ที่​นำไปสู่​ถ้ำลึก​ ทันทีที่​ฉิน​เย่​ไป​ถึง เขา​ก็​พบ​ว่า​กองกำลัง​ทั้งหมด​ได้​ปีน​เข้าไป​อยู่​ช่อง​ต่าง ๆ​ ที่​กระจาย​อยู่​รอบ​ๆเป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​ มัน​เป็นที่​ซ่อนชั้นเยี่ยม​สำหรับ​พายุฝน​ฟ้าคะนอง​ที่​กำลังจะ​มาถึง หยาง​เหยียน​เจาและ​โน​บู​ทา​ดะ​กำลัง​รอ​พวกเขา​อยู่​ที่​หน้า​เทือกเขา​

“เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ท่า​นอ​รากษส​หรือ​พ่ะย่ะค่ะ​?” เมื่อ​หยาง​เหยียน​เจาสังเกตเห็น​ว่า​ฉิน​เย่​แบก​อาร์​ทิ​สมาบน​หลัง​ก็​รีบ​ถามทันที​ “อย่างไรก็ตาม​ รีบ​เสด็จ​เข้าไป​ใน​ที่​กำบัง​ก่อน​เถิด​พ่ะย่ะค่ะ​! พายุฝน​ฟ้าคะนอง​กำลังจะ​มาถึงแล้ว​!”

ไม่จำเป็นต้อง​เอ่ย​อะไร​ออกมา​ ฉิน​เย่​รีบ​เดินตาม​อีก​ฝ่าย​เข้าไป​ใน​ถ้ำทันที​ และ​เขา​ก็​พบ​ว่า​แม่ทัพ​คนอื่น​ ๆ เอง​ก็​อยู่​ที่นั่น​ด้วย​ ทุกคน​ต่าง​รอคอย​การ​มาถึงของ​เขา​

“ฝ่าบาท​” ทันทีที่​เขา​เข้าไป​ แม่ทัพ​ทั้งหมด​ก็​ลุก​ยืน​ขึ้น​และ​ถวาย​ความเคารพ​ทันที​ หลังจาก​ระงับ​ความหงุดหงิด​ภายในใจ​ ฉิน​เย่​ก็​โบกมือ​ให้​คน​ทั้งหมด​นั่งลง​ตามเดิม​ คน​ทั้งหมด​เข้า​ใจถึงความหงุดหงิด​ของ​ฉิน​เย่​เป็น​อย่าง​ดี​ ดังนั้น​พวกเขา​จึงเพียง​นั่ง​อยู่​เงียบ ๆ​ ขณะที่​มองออก​ไป​ยัง​ท้องฟ้า​ที่​ดำมืด​ด้านนอก​แทน​

ไม่มีใคร​ในที่นี้​มีความสามารถ​ที่จะ​กล้า​ออก​ไป​ออกคำสั่ง​กับ​เหล่า​ทหาร​วิญญาณ​ที่อยู่​โดยรอบ​แม้แต่​คนเดียว​ พวกเขา​ไม่ต้อง​การพา​ตัวเอง​เข้าไป​เสี่ยง​กับ​การ​ถูก​ฟ้าผ่า​เลย​แม้แต่น้อย​

เกิด​ความ​เงียบ​ที่​น่าอึดอัด​ขึ้น​ภายใน​ถ้ำ ในขณะที่​ด้านนอก​ ท้องฟ้า​สีดำ​ก้อน​ใหญ่​อิ่มตัว​โดย​สมบูรณ์​ มัน​เกิด​ความ​เงียบ​ขึ้น​ครู่หนึ่ง​ก่อนที่​ฝน​จะตก​ลก​มาอย่าง​หนัก​ สายฟ้า​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ผ่า​ลงมา​บน​พื้น​ราวกับว่า​พวก​มัน​คือ​หยาดฝน​

ฉิน​เย่​จ้องมอง​ภาพ​ที่​น่า​เหลือเชื่อ​ด้วย​นอก​และ​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความรู้สึก​มากมาย​

เขา​เคย​เห็น​พายุฝน​ฟ้าคะนอง​มาก่อน​ แต่​สิ่งที่​เขา​เห็น​ใน​ยาม​นั้น​กลับ​ไม่สามารถ​เทียบ​กับ​สิ่งที่​เกิดขึ้น​ตรงหน้า​ตอนนี้​ได้​เลย​แม้แต่น้อย​

สายฟ้า​ผ่า​ลงมา​ทั่ว​ทั้ง​ดินแดน​ราวกับ​การ​ระบาย​ความโกรธ​ของ​เทพเจ้า​สายฟ้า​ ฉิน​เย่​เคย​ได้ยิน​เกี่ยวกับ​ม่าน​ฝน​มาก่อน​ แต่​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​ได้​เห็น​สิ่งที่​น่า​ตกตะลึง​อย่าง​ม่าน​สายฟ้า​ นอกจากนี้​ สายฟ้า​พวก​นี้​ยัง​ดู​แตกต่าง​ไป​จาก​สายฟ้า​ใน​แดน​มนุษย์​อีกด้วย​ และ​ความแตกต่าง​ที่​ชัดเจน​ที่สุด​ของ​พวก​มัน​ก็​คือ​สี สายฟ้า​แต่ละ​เส้น​ดูเหมือน​จะมีพลัง​มากกว่า​สายฟ้า​ธรรม​ตา​ทั่วไป​ แรง​ระเบิด​ของ​พวก​มัน​แต่ละ​เส้น​ทำให้​ฝุ่นตลบ​ไป​ทั่ว​ แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​มีใคร​บางคน​กำลัง​ไถดิน​ด้วย​คันไถ​อยู่​

ท้องฟ้า​ถูก​ปกคลุม​ไป​ด้วย​สายฟ้า​สีแดง​ ในขณะที่​พื้นดิน​ถูก​ปกคลุม​ด้วย​เศษกลุ่ม​ควัน​และ​เศษดิน​ที่​กระจัดกระจาย​จาก​การระเบิด​ มัน​เป็น​ภาพ​ที่​ชวน​ใจหาย​อย่าง​ไม่น่าเชื่อ​ และ​มัน​ก็​กินเวลา​นาน​พอสมควร​ก่อนที่​พายุฝน​ฟ้าคะนอง​ดังกล่าว​จะสงบ​ลง​และ​หาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​

อย่างไรก็ตาม​ พายุฝน​ฟ้าคะนอง​ดังกล่าว​ได้​ทิ้งร่องรอย​ที่​ชัดเจน​ไว้​บน​ผืนดิน​ หยาง​เหยียน​เจากำลังจะ​ลุกขึ้น​เพื่อ​เดิน​ไป​สั่งให้​ทหาร​วิญญาณ​ทั้งหมด​เพื่อ​สั่งให้​ตั้ง​แคมป์​ขึ้น​ แต่​แล้ว​เขา​ก็​ถูก​ใคร​บางคน​คว้า​ข้อมือ​เอาไว้​เสีย​ก่อน​

“ฝ่าบาท​?” หยาง​เหยียน​เจาหันกลับ​ไป​มอง​ด้วย​แววตา​สงสัย​ แต่​ก็​ยอมให้​ฉิน​เย่​เดิน​นำ​ตน​ออก​ไปนอก​ถ้ำเงียบ ๆ​

ไม่กี่​วินาที​ต่อมา​ ฉิน​เย่​ก็​ละสายตา​และ​เอ่ย​กับ​อีก​ฝ่าย​ “ใจเย็น​ๆ ดูก่อน​เถิด​ว่า​อ​รากษส​เป็น​อย่างไรบ้าง​…”

“ข้า​ไม่เป็นไร​” เสียง​หนึ่ง​ตอบ​ขึ้น​จาก​ด้านหลัง​ของ​ฉิน​เย่​ “แต่​เหตุใด​ท่าน​จึงบอ​กว่า​เรา​ไม่จำเป็นต้อง​รีบ​กัน​? ถึงแม้ว่า​ข้า​จจะไม่ค่อย​รู้​อะไร​นัก​ แต่​ข้า​ก็​รู้ดี​ว่า​ทุก​การตัดสินใจ​ที่​ท่าน​ได้​ทำ​ลง​ไป​ในขณะที่​อยู่​ใน​โหมด​จริงจัง​นั้น​ไม่เคย​ผิดพลาด​เลย​สักครั้ง​”

ฉิน​เย่​ที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ยืน​เอา​หลัง​พิง​กับ​ผนัง​บริเวณ​ทางเข้า​ของ​ถ้ำ “มัน​ผ่าน​มาร้อย​ปี​แล้ว​นับตั้งแต่​การ​ล่มสลาย​ของ​ยมโลก​แห่ง​เก่า​ใช่หรือไม่​?”

จากนั้น​ก็​เอ่ย​ต่อ​ “พายุฝน​ฟ้าคะนอง​อย่าง​เมื่อครู่นี้​เกิดขึ้น​บ่อย​แค่​ไหน​? ทุกๆ​ร้อย​ปี​? มัน​เพียงแค่​เรื่อง​บังเอิญ​อย่างนั้น​หรือ​?”

อาร์​ทิส​ขมวดคิ้ว​ นาง​ไม่เข้าใจ​ว่า​ฉิน​เย่​กำลัง​ต้องการ​จะสื่อ​อะไร​ และ​ตอนนี้​นาง​ก็​ยัง​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​นั้น​อ่อนแอ​เป็นอย่างมาก​

ในขณะที่​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ ดวงตา​ของ​หยาง​เหยียน​เจาเป็นประกาย​ขึ้น​ “กระหม่อม​เข้าใจ​แล้ว​พ่ะย่ะค่ะ​ว่า​พระองค์​ทรง​หมายถึง​สิ่งใด​”

“หืม?”​ ฉิน​เย่​ตอบกลับ​ด้วย​น้ำเสียง​สนใจ​

“พายุฝน​ฟ้าคะนอง​นั้น​เป็น​ปรากฏการณ์ธรรมชาติ​ เหมือน​ดั่ง​เช่น​สายฝน​ที่​ตก​กระหน่ำ​ใน​แดน​มนุษย์​ มัน​เป็น​สิ่งที่​เกิดขึ้น​ทั่ว​ทุกที่​” หยาง​เหยียน​เจาเดิน​ไป​ที่​ด้านหน้า​ของ​ถ้ำและ​มองออก​ไป​ยัง​พื้นดิน​ด้านล่าง​ ดวงตา​ของ​เขา​หรี่​เล็ก​ลง​ขณะที่​อธิบาย​ต่อ​ “แต่​พายุฝน​ฟ้าคะนอง​ที่​รุนแรง​เช่นนี้​นั้น​ไม่เคย​เกิดขึ้น​มาก่อน​ หาก​พูด​กัน​ตาม​ความจริง​ มัน​รุนแรง​จน​เปลี่ยน​ภูมิประเทศ​โดยรอบ​ทั้งหมด​ไป​ ท่าน​ลองดู​สิ่งที่​หลง​เหลืออยู่​หลังจาก​พายุฝน​ฟ้าคะนอง​ที่​เกิดขึ้น​นี่​สิ หาก​มัน​เป็น​ปรากฏการณ์​ที่​เกิดขึ้น​ทั่วไป​อย่าง​พายุฝน​ฟ้าคะนอง​อื่นๆ​จริง​ เหตุใด​เรา​จึงไม่เห็น​ร่องรอย​ของ​มัน​ตั้งแต่​ที่​เรา​ก้าว​ออก​มาจาก​ยมโลก​กัน​?”

“ใช่แล้ว​…” โน​บู​นา​งะลูบ​คาง​ของ​ตัวเอง​และ​เอ่ย​ออกมา​ “หาก​มัน​เป็น​เช่นนั้น​จริง ๆ​ ดินแดน​แถว​นี้​ก็​คงจะ​พังทลาย​ไป​หมด​แล้ว​ แต่​…มัน​กลับ​ไป​เป็น​เช่นนั้น​”

หยาง​เหยียน​เจาสูด​หายใจเข้า​ช้า ๆ และ​กวักมือ​เรียก​คน​ทั้งหมด​พร้อมกับ​ทำ​ท่าทาง​บอก​ให้​ทุกคน​อยู่​เงียบ ๆ​ “มัน​เป็น​เพราะ​สิ่งนี้​…”

คน​ทั้งหมด​เดิน​มารวม​กันที่​ปาก​ถ้ำ ก่อน​จะชะโงก​หน้า​มอง​ลง​ไป​ และ​พวกเขา​ก็​ต้อง​อ้าปากค้าง​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​

บน​พื้น​เด็ม​ไป​ด้วย​รอยแตก​มากมาย​

แต่​สิ่งที่​น่า​ตกตะลึง​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​มีร่าง​มากมาย​นั่ง​อยู่​ข้าง ๆ​ รอยแตก​พวก​นั้น​!

ร่าง​ดังกล่าว​ไม่ใช่มนุษย์​ กลับกัน​ มัน​คือ​โครงกระดูก​ที่​ไว้​ผม​ยาว​ แต่งกาย​ด้วย​ชุด​ของ​สตรี​ใน​ยุค​สมัยโบราณ​ พร้อมกับ​เข็ม​และ​ด้าย​อยู่​ใน​มือ​ขณะที่​ค่อยๆ​เย็บ​ผืนดิน​ทั้งหมด​ให้​กลับ​เป็นปกติ​อีกครั้ง​!

นอกจากนี้​ พวกเขา​ยัง​เห็น​อี​กว่า​รอยแยก​บน​พื้น​นั้น​เผย​ให้​เห็น​เนื้อ​สีชมพู​แดง​ที่อยู่​ด้านใน​ แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​มัน​คือ​รอย​ฉีก​บน​ผิวหนัง​ของ​สิ่งมีชีวิต​ที่​เผย​ให้​เห็น​เนื้อเยื่อ​ที่อยู่​ข้างใต้​! นอกจากนี้​…พวกเขา​ยัง​พบ​ว่า​มัน​ยังมี​ดวงตา​สีทอง​จำนวน​นับไม่ถ้วน​จ้อง​มองออก​มาจาก​รอยแยก​นั้น​!

ในขณะเดียวกัน​ ร่าง​โครงกระดูก​ทั้งหมด​ก็​พยายาม​อย่าง​เต็มที่​ใน​การ​ที่จะ​เย็บ​ผืนดิน​ที่​ขาด​ออก​ให้​กลับเป็น​เหมือนเดิม​ด้วย​เข็ม​กับ​ด้าย​ใน​มือ​ พื้นดิน​ทั้งหมด​เต็มไปด้วย​รอยแยก​ และ​จำนวน​ของ​เหล่า​ผู้ช่วย​โครงกระดูก​ที่​ปรากฏตัว​ขึ้น​เอง​ก็​มาก​ไม่แพ้​กัน​ มัน​เป็น​ภาพ​ที่​น่าอัศจรรย์​เป็นอย่างมาก​ เมื่อ​เข็ม​และ​ด้าย​ถูก​เย็บ​ผ่าน​จุด​ใด​ รอยแยก​บริเวณ​นั้น​ก็​จะหาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​ และ​เมื่อ​รอยแยก​ดังกล่าว​ถูก​ปิดผนึก​แล้ว​ ผู้ช่วย​โครงกระดูก​เอง​ก็​หาย​ไป​จาก​ธาร​สายตา​และ​กลายเป็น​ดอกไม้​ป่า​หรือไม่​ก็​กอหญ้า​แทน​ ในขณะเดียวกัน​ ผืนดิน​ที่​พวก​นาง​เย็บ​ก็​ถูก​ปก​ผนึก​อย่าง​แนบเนียน​จน​ไม่มีร่องรอย​ของ​ความเสียหาย​เลย​แม้แต่น้อย​!

มัน​น่า​เหลือเชื่อ​มาก​ นี่​เป็น​ภาพ​ที่อยู่​เหนือ​จิต​นา​การ​ของ​ทุกคน​ พวกเขา​มองดู​มัน​ด้วย​ลมหายใจ​ที่​ขาด​ห้วง​ขณะที่​ผืนดิน​ได้รับ​การซ่อมแซม​อย่าง​ช้าๆ ไม่กี่​วินาที​ต่อมา​ หยาง​เหยียน​เจาก​็ละสายตา​จาก​ภาพ​ดังกล่าว​และ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “นี่​มัน​น่า​เหลือเชื่อ​มาก​…กระหม่อม​ไม่เคย​เห็น​อะไร​เช่นนี้​มาก่อน​ และ​ท่าน​พ่อ​เอง​ก็​ไม่เคย​เล่าเรื่อง​พวก​นี้​ให้​ฟังด้วย​เช่นกัน​ หาก​พูด​กัน​ตาม​ความจริง​ กระหม่อม​กล้า​พูด​ด้วยซ้ำ​ว่า​นี่​คือ​สิ่งที่​ไม่เคย​ถูก​บันทึก​ไว้​ใน​พงศาวดาร​ของ​ยมโลก​มาก่อน​!”

“เป็นจริง​ดังนั้น​” อาร์​ทิส​ที่​เดิน​มาที่​ปาก​ทางเข้า​ของ​ถ้ำด้วย​ความยากลำบาก​เอ่ย​ออกมา​ “แม้แต่​ข้า​เอง​ก็​ไม่กล้า​คาดเดา​ว่า​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ทั้งหมด​ที่​ข้า​สามารถ​พูด​ได้​ก็​คือ​ดินแดน​แห่ง​นี้​ดำรงอยู่​ด้วย​กฎ​ ข้อบังคับ​ และ​หลักการ​ของ​ตัว​มัน​เอง​ หาก​เรา​วิเคราะห์​พายุฝน​ฟ้าคะนอง​ที่​เกิดขึ้น​เมื่อครู่นี้​ผ่าน​มุมมอง​ความรู้​ของ​ยมโลก​แห่ง​เก่า​ เรา​ก็​คงจะ​สรุป​ว่า​มัน​เป็น​ดินแดน​ร้าง​ที่​ไม่มีสิ่งมีชีวิต​อยู่เลย​ แต่​ ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​มัน​ยังมี​เหล่า​โครงกระดูก​ที่​สามารถ​สลาย​ผลกระทบ​ของ​พายุฝน​ฟ้าคะนอง​ที่​น่าสะพรึงกลัว​เมื่อ​ครู่​ได้​นั้น​ยัง​คงอยู่​…”

“อีกนัยหนึ่ง​ก็​คือ​ ความรู้​ที่​เรา​ได้​รู้​มาจาก​พงศาวดาร​นรก​นั้น​ไม่สามารถ​เชื่อถือได้​อีกต่อไป​ พวกเรา​จะต้อง​จดบันทึก​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ขึ้น​มาใหม่​ แม่ทัพ​หยาง​ เจ้าได้​พา​อาลักษณ์​มาพร้อมกับ​เจ้าอย่าง​ที่​ข้า​ได้​บอก​ไป​ก่อนหน้านี้​หรือไม่​?”

“พ่ะย่ะค่ะ​ พวกเขา​ทั้งหมด​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ถ้ำที่อยู่​ติดกัน​นี้​เอง​ แต่ละคน​ล้วน​เป็น​ผู้เชี่ยวชาญ​ใน​ด้าน​การบรรยาย​และ​วาดภาพ​ทั้งสิ้น​” หยาง​เหยียน​เจาพยักหน้า​

หลังจากนั้น​ก็​ไม่มีใคร​เอ่ย​อะไร​ข้ึนมาอีก​ พวกเขา​ต่าง​จมอยู่กับ​ความคิด​ของ​ตัวเอง​

พวกเขา​เพิ่ง​ตระหนัก​ได้​ถึงความหมาย​ที่​แท้จริง​ของ​การเปลี่ยนแปลง​ทาง​นิเวศวิทยา​ของ​ที่นี่​

ความรู้​ทั้งหมด​ใน​อดีต​ไม่สามารถ​นำมา​ประยุกต์​ใช้ได้​อีกต่อไป​ และ​สิ่งที่​พวกเขา​ต้อง​พึ่งพา​เพื่อ​เอาตัวรอด​ใน​การ​เดินทาง​หลังจากนี้​ก็​คือ​ประสาทสัมผัส​ ประสบการณ์​ และ​สัญชาตญาณ​ของ​ตัวเอง​

ในที่สุด​ทุกคน​ก็​เริ่ม​เข้าใจ​แล้ว​ว่าการ​เดินทาง​สำรวจ​ดินแดน​ทาง​ตะวันออก​ใน​ครั้งนี้​นั้น​อันตราย​และ​ยาก​มาก​เพียงใด​

มัน​เป็น​เหมือนกับ​เรือ​ลำ​แรก​ที่​แล่น​ออก​สู่โลก​กว้าง​ ไม่มีผู้ใด​รู้​ว่า​สิ่งที่​กำลัง​รอ​พวกเขา​อยู่​คือ​อะไร​ – ไม่ว่า​จะเป็น​พายุ​รุนแรง​ที่​พร้อม​จะกลืน​กิน​พวกเขา​ไป​ใน​ทะเล​ หรือ​ทวีป​ใหม่​ที่​มีสมบัติ​รอ​พวกเขา​อยู่​

นี่​คือ​ความเสี่ยง​และ​ผลตอบแทน​มากมาย​มหาศาล​ซึ่งมาพร้อมกับ​การบุกเบิก​ดินแดน​ มัน​น่า​ดึงดูด​เป็นอย่างมาก​ และ​วันนี้​พวกเขา​ก็​เริ่ม​การ​เดินทาง​เพื่อ​เปลี่ยนแปลง​โลก​ภายนอก​อย่าง​เป็นทางการ​

“แม่ทัพ​หยาง​ ช่วย​ข้า​ส่งข้อความ​ไป​ให้​ทหาร​ทุก​นาย​ บอก​ให้​พวกเขา​พัก​จนกว่า​โครงกระดูก​ด้านล่าง​จะเย็บ​ผืนดิน​เสร็จ​ นอกจากนั้น​…” ฉิน​เย่​เดิน​กลับ​เข้ามา​ใน​ถ้ำ “เรียก​รวม​แม่ทัพ​และ​ผู้บัญชาการ​ทั้งหมด​ พวกเขา​จะจัด​การประชุม​ครั้งแรก​เกี่ยวกับ​การ​เดิน​ทางใน​ครั้งนี้​”

หยาง​เหยียน​เจาทำ​ทุกอย่าง​ตามที่​เขา​บอก​ และ​เมื่อ​เขา​กลับมา​อีกครั้ง​ ทุกคน​ที่​ถูก​เรียก​ก็​มาถึงที่​ถ้ำกัน​หมด​แล้ว​ ด้านใน​ถ้ำไม่ได้​เล็ก​มาก​นัก​ แต่​มัน​ก็​ไม่ได้​กว้างใหญ่​เช่นกัน​ ทุกคน​ที่​ถูก​เรียกตัว​มาที่นี่​ล้วน​เป็น​ผู้บังคับบัญชา​ของ​ทหาร​วิญญาณ​อย่าง​น้อย​หมื่น​นาย​ เมื่อ​รวม​กับ​หยาง​เหยียน​เจาและ​แม่ทัพ​คนอื่นๆ​ของ​ตระกูล​หยาง​ และ​ผู้บัญชาการ​ของ​ฝั่งฉิน​เย่​ ตอนนี้​พวกเขา​ก็​มีกัน​อยู่​ทั้งสิ้น​ประมาณ​ 20 คน​

ฉิน​เย่​พยักหน้า​ทันทีที่​เขา​เห็น​หยาง​เหยียน​เจาเดิน​เข้ามา​ใน​ห้อง​ “สาเหตุ​ที่​ข้า​ไม่ได้​ร่วม​ประชุม​ก่อน​ออกเดินทาง​นั้น​มีอยู่​สอง​ประการ​ – ประการ​แรก​ ข้า​ไม่มีเวลา​ และ​ประการ​ที่สอง​ มัน​ไม่จำเป็น​ นั่น​คือ​เหตุผล​ว่า​เหตุใด​ข้า​จึงวางใจ​ที่จะ​ให้​พวก​เจ้าทั้งหมด​จัด​การประชุม​ขึ้น​โดยที่​ข้า​ไม่ได้​เข้าร่วม​ และ​เมื่อ​ข้า​กลับ​มายัง​ยมโลก​หลังจากที่​ติดตั้ง​ตะเกียง​หวน​หยาง​เรียบร้อย​แล้ว​ และ​ข้า​ก็​เลือก​ที่จะ​ไม่จัด​การประชุม​ขึ้น​อีก​เนื่องจาก​การ​เดินทาง​ไป​ยัง​เมือง​หวู่​หยาง​นั้น​เป็นการ​เดินทาง​ที่​ยาวนาน​ ดังนั้น​เรา​สามารถ​จัด​การประชุม​ขึ้น​ได้​ทุกเมื่อ​ที่​มีเวลา​ แต่​ตอนนี้​…”

เขา​หยุด​พูด​ไป​และ​วาด​มือขึ้น​ กลุ่มก้อน​พลัง​หยิน​ก่อตัว​เป็น​หน้าจอ​ขนาดใหญ่​ที่​ปรากฏ​ขึ้น​ตรงหน้า​ของ​ทุกคน​

มัน​คือ​แผนที่​จาก​เมือง​เป่า​อัน​ไป​ยัง​เมือง​หวู่​หยาง​

แผนที่​ดังกล่าว​แสดง​รายละเอียด​ทั้งหมด​อย่าง​ชัดเจน​ ไม่ว่า​จะเป็น​หมู่บ้าน​หรือ​เขต​ที่อยู่​ระหว่างทาง​ รวมถึง​ภูมิประเทศ​ของ​พื้นที่​ซึ่งรวมทั้ง​แม่น้ำ​ ภูเขา​ และ​อื่นๆ​

“น่าเสียดาย​ที่​การประชุม​ที่ว่า​นั้น​มีความจำเป็น​เสียแล้ว​”

“และ​ปัญหา​แรก​ที่​เรา​จะต้อง​พูดถึง​ก็​คือ​ – เรา​จะไป​ให้​ถึงที่หมาย​ได้​อย่างไร​?”

เขา​ไล่​นิ้วมือ​ไป​ตาม​ผิวหน้า​ของ​แผนที่​ ตาม​เส้นทาง​ไป​สู่นคร​ชฺวี​ฟู่ ก่อน​จะเคาะ​นิ้ว​ที่​จุดหมาย​ “หาก​เรา​ไม่รีบ​วางแผน​ให้​ดี​ตั้งแต่​ตอนนี้​ ข้า​เกรง​ว่า​…เรา​อาจจะ​เรา​อาจจะ​ไป​ไม่ถึงที่นั่น​โดย​ครบ​ 32 ด้วยซ้ำ​!”

[1] อ้างอิง​จาก​เกม​ warcraft, WOW

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด