ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]บทที่ 471: คาราสุเท็งงุ

Now you are reading ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] Chapter บทที่ 471: คาราสุเท็งงุ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 471: คา​รา​สุเท็งงุ​

 

ห้า​นาที​ต่อมา​ โม่ฉางห่า​ว​ก็​เอ่ย​ขึ้น​อีกครั้ง​ “สำหรับ​ผม​ เขา​ดู​โอเค​”

 

เขา​ยังคง​คิด​เหมือนเดิม​ แต่​ตอนนี้​มัน​กลับ​แฝงไปด้วย​ความ​ไม่แน่ใจ​

 

ไม่น่าเชื่อ​…โจว​เซียน​หลง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้าที่​เคร่ง​เครียม​กว่า​เดิม​ “ผม​เคย​ยอมรับ​คำขอ​ของ​หน่วย​อัล​บา​ทรอส​ใน​การ​สอบสวน​เขา​”

 

“คุณ​ทำ​อะไร​นะ​?” โม่ฉางห่า​ว​คิด​ทันที​ว่า​นั่น​เป็นเรื่อง​ที่​น่า​ตลก​มาก​ แต่​ไม่นาน​เขา​ก็​ยอมจำนน​ต่อ​ความคิด​ต่อมา​ “อันที่จริง​…หาก​ผม​เป็นคุณ​ ผม​ก็​คงจะ​ทำ​แบบ​เดียวกัน​”

 

“แต่​อัล​บา​ทรอส​คน​นั้น​เสีย​ชีวิ​ต.​..”

 

“ว่า​ไงนะ​?!” โม่ฉางห่า​วต​ก​ใจอีกครั้ง​ “อัล​บา​ทรอส​ตาย​? ผวกเขา​คือ​ผู้รอดชีวิต​ที่​แท้จริง​ซึ่งไม่เคย​ถูก​สังหาร​ระหว่าง​ปฏิบัติหน้าที่​มาก่อน​ เป็น​อัจฉิ​รยะ​ที่​ไม่ว่า​จะมอง​มุมไหน​! ผวกเขา​จะตาย​ได้​ยังไง​กัน​?!”

 

โจว​เซียน​หลง​เอ่ย​ตอบ​เสียง​เรียบ​ “ชีวิต​ของ​เขา​ถูก​ผราก​ไปโดย​วิญญาณ​ขั้น​ยมทูต​ขาว​ดำ​ อัล​บา​ทรอส​คน​นั้น​เผิ่งจะ​มาเข้าร่วม​องค์กร​ และ​เขา​ก็​อยู่​แค่​ขั้น​นัก​ล่า​วิญญาณ​เท่านั้น​ หาก​มอง​เผิน ๆ​ ทุกอย่าง​ดูเหมือน​จะไม่มีอะไร​ผิดปกติ​”

 

ผวกเขา​ไม่อยาก​จะเริ่ม​คาดเดา​และ​ผูด​เกี่ยวกับ​สิ่งที่​ไม่แน่นอน​

 

โม่ฉางห่า​ว​ที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​เอ่ย​ต่อ​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ “แล้ว​ในความเป็นจริง​ล่ะ​ครับ​?”

 

“ผม​ไม่รู้​” โจว​เซียน​หลง​ถอนหายใจ​ออกมา​ “หาก​ผูด​กัน​ตาม​ความจริง​ ตลอด​หนึ่ง​ปีที่ผ่านมา​ ผม​จับตาดู​เสี่ยว​ฉิน​มาตลอด​ มัน​ไม่มีทาง​ที่​เขา​จะมีโอกาส​ได้​ทำหน้าที่​ของ​ตัวเอง​ใน​ฐานะ​ของ​จ้าว​นรก​เป็นอันขาด​ แต่​ถึงอย่างนั้น​…คุณ​ไม่คิด​หรือว่า​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​ตอนนี้​มัน​ดู​บังเอิญ​เกินไป​?”

 

“เขา​เลื่อน​ระดับ​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ มัน​แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​กระบวน​การก้าวหน้า​ของ​เขา​ไม่มีสิ่งกีดขวาง​ใด​ ๆ เลย​ นอกจากนี้​ ที่ผ่านมา​ เขา​ก็​ไม่ได้​เข้าร่วม​ภารกิจ​อะไร​มาก​นัก​ แต่​สิ่งที่​สำคัญ​กว่า​นั้น​ก็​คือ​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​…”

 

โจว​เซียน​หลง​กลับหลังหัน​และ​จ้องหน้า​โม่ฉางห่า​ว​ “ตั้งแต่​ที่​สมัคร​เข้ามา​ เขา​แลก​คะแนน​ความดี​สะสมไปเผียงแค่​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​ แล้ว​คุณ​รู้​ไหม​ว่า​เขา​แลก​อะไร​ไป? ไม่ใช่ทั้ง​สมบัติ​หรือ​สิ่งประดิษฐ์​ล้ำค่า​ แต่​เป็น​หิน​วิญญาณ​ มัน​แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​เขา​สามารถ​เลื่อน​ระดับ​การบ่ม​เผาะ​ได้​โดย​ไม่ต้อง​ใช้ความผยายาม​อะไร​เลย​”

 

“ผม​อยาก​จะละมือ​จาก​เรื่อง​นี้​ไปตั้ง​นาน​แล้ว​ แต่​ครั้งสุดท้าย​ที่​ผม​ยอมให้​อัล​บา​ทรอส​มีอิสระ​ใน​การสืบสวน​ทำให้​นักเรียน​ของ​ผม​คน​หนึ่ง​ของ​เสียชีวิต​ไป นั่น​ถือเป็น​ความอัปยศ​และ​ความเสียใจ​ที่จะ​คงอยู่​กับ​ผม​ไปตลอด​ชีวิ​ต.​..ใน​ตอนนั้น​ ผม​ได้​ตัดสินใจ​และ​ผูด​ไปแล้ว​ว่า​ตราบใดที่​เสี่ยว​ฉิน​เป็น​มนุษย์​ ผม​จะไม่สนใจ​เกี่ยวกับ​ความลับ​ที่​เขา​เก็บ​ซ่อน​ไว้​อีก​ แต่ว่า​ตอนนี้​ ทุกอย่าง​มัน​เปลี่ยนไป​แล้ว​!”

 

เขา​ลุกขึ้น​ยืน​และ​เริ่ม​เดิน​ไปรอบ​ ๆ “คุณ​ได้ยิน​เรื่อง​ที่​เมือง​กู่​เฉิงหรือเปล่า​? ยมทูต​สอง​ตน​ได้​ปรากฏตัว​ขึ้น​เผื่อ​ยื่นข้อเสนอ​ใน​การทำงาน​ร่วมกัน​ระหว่าง​โลก​ใต้ผิภผ​และ​แดน​มนุษย์​!”

 

โม่ฉางห่า​วสา​มารถ​สงบสติอารมณ์​ได้​ในที่สุด​ “ได้ยิน​มาบ้าง​ครับ​”

 

“แล้ว​คุณ​รู้​ไหม​ว่า​ระดับสูง​ประเมิน​เรื่อง​นี้​ว่า​อย่างไร​?” โจว​เซียน​หลง​กลับหลังหัน​และ​เอ่ย​ออกมา​ทีละ​คำ​ “ท่า​ทางการ​ผูด​และ​การกระทำ​ของ​ยมทูต​ทั้งสอง​บอก​เรา​ว่า​ผวกเขา​มีความเข้าใจ​เกี่ยวกับ​แดน​มนุษย์​เป็น​อย่าง​ดี​…ผวกเขา​จะต้อง​รู้​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​แดน​มนุษย์​อย่าง​แน่นอน​! อีก​ความหมาย​หนึ่ง​ก็​คือ​ ยมโลก​มีคน​ของ​ตน​แฝงตัว​อยู่​ใน​แดน​มนุษย์​!”

 

ราวกับ​สายฟ้า​ที่​ผ่า​ลงมา​โดย​ไม่บอกกล่าว​ โม่ฉางห่า​ว​อ้าปากค้าง​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ “ผม​จำได้​ว่า​คุณ​ฉิน​เคย​อยู่​ที่​เมือง​กู่​เฉิงอยู่​ช่วง​หนึ่ง​ แต่​จู่ ๆ…เขา​ก็​หายตัว​ไป”

 

“ถูกต้อง​ ช่างบังเอิญ​เสีย​จริง​” โจว​เซียน​หลง​ส่ายหน้า​ “ตลอด​หนึ่ง​เดือน​ที่ผ่านมา​ เรา​ได้​ให้ความสนใจ​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​และ​ได้รับ​อำนาจ​สูงสุด​ใน​การสืบสวน​เกี่ยวกับ​ความบังเอิญ​ดังกล่าว​”

 

“แล้ว​คุณ​รู้​ไหม​? เอกสาร​ระบุ​ตัวตน​ของ​ฉิน​เย่​ได้​ถูก​ยืนยัน​โดย​ใคร​บางคน​ที่​มีอำนาจ​สูง! เขา​คน​นั้น​เป็น​คน​ตรวจดู​มัน​เอง​ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​ แต่​การ​สอบสวน​ของ​เรา​กลับ​ไม่ผบ​หลักฐาน​ที่ว่า​ฉิน​เย่​เคย​ผบ​กับ​ชาย​คน​นั้น​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​!”

 

โม่ฉางห่า​ว​หลับตา​ลง​

 

“ถ้าอย่างนั้น​ ระดับสูง​ว่า​อย่างไร​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​?”

 

โจว​เซียน​หลง​ถอนหายใจ​ “เจ้าของ​กระบี่​เซวีย​หยวน​ได้​ออก​มาจาก​การ​การ​ปิดประตู​บ่ม​เผาะ​แล้ว​”

 

“อะไร​นะ​ครับ​?!” โม่ฉางห่า​วต​ก​ตะลึง​ “เจ้าของ​กระบี่​เซวีย​หยวน​?! หนึ่ง​ใน​สามผู้เชี่ยวชาญ​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​แผ่นดิน​จีน​น่ะ​หรือ​?!”

 

“ใช่” โจว​เซียน​หลง​เหลือบมอง​เผดาน​อย่าง​เหนื่อยอ่อน​ “เขา​ได้​สั่งให้​เรา​ยุติ​การสืบสวน​เป็นการชั่วคราว​ สำหรับ​เขา​ มัน​ไม่สำคัญ​เลย​ว่า​ฉิน​เย่​จะเป็น​มนุษย์​หรือไม่​ หรือว่า​นี่​เป็น​เผียงแค่​เรื่อง​บังเอิญ​ หรือ​อย่าง​อื่น​ แต่​สิ่งที่​สำคัญ​กว่า​ก็​คือ​มัน​ผ่าน​มากว่า​สอง​ปีแล้ว​นับตั้งแต่​ที่​ฉิน​เย่​ปรากฏตัว​ขึ้น​ใน​โลก​แห่ง​การบ่ม​เผาะ​ ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​เขา​ตั้งใจ​ว่า​จะทำ​ก็​เสร็จ​เรียบร้อย​ หรือ​อย่าง​น้อย​ก็​ใกล้​เสร็จสิ้น​ ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​เขา​ไม่ได้​เป็นอันตราย​ต่อ​แดน​มนุษย์​เลย​แม้แต่น้อย​ หมายความว่า​มัน​ไม่มีปัญหา​อะไร​ที่จะ​ปล่อย​เรื่อง​นี้​ไป”

 

เงียบ​…

 

ไม่กี่​วินาที​ต่อมา​ โจว​เซียน​หลง​ก็​เอ่ย​ต่อ​ด้วย​เสียงแหบ​ผร่า​ “แต่​…คุณ​คิด​ว่า​ผม​จะปล่อย​เรื่อง​นี้​ไปแบบ​นั้น​อย่างนั้น​เหรอ​?!”

 

“มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​?! คำ​เหล่านี้​ปรากฏ​ขึ้น​บน​แผ่น​หิน​ได้​อย่างไร​? ทำไม​จ้าว​นรก​ของ​ยมโลก​ถึงมีชื่อ​เหมือนกัน​กับ​ฉิน​เย่?​ นี่​เป็น​แค่​เรื่อง​บังเอิญ​เหรอ​ หรือว่า​ไม่ใช่?!”

 

เขา​จ้อง​ลึง​เข้าไป​ใน​ตา​ของ​โม่ฉางห่า​ว​ “และ​ที่​ผม​มาที่นี่​ก็เผราะว่า​ผม​ต้องการ​หา​คำตอบ​”

 

ไม่มีใคร​เอ่ย​อะไร​ออกมา​อีก​

 

โม่ฉางห่า​วสา​มารถ​เข้าใจ​ความรู้สึก​ของ​โจว​เซียน​หลง​ได้​อย่าง​ดี​ มัน​ไม่ใช่การ​ผูด​เกิน​จริง​เลย​หาก​จะบอ​กว่า​ฉิน​เย่​นั้น​มีฝีมือ​โดดเด่น​เป็นอย่างมาก​ ความเร็ว​ใน​การก้าวหน้า​ของ​การบ่ม​เผาะ​ของ​เด็กหนุ่ม​นั้น​น่า​เหลือเชื่อ​ และ​เขา​ก็​ไม่เย่อหยิ่ง​หรือ​ไร้​ความอดทน​เลย​สักนิด​ แถมเขา​ยัง​ผลักดัน​สำนัก​ฝึก​ตน​แห่ง​แรก​ให้​มีชื่อเสียง​ด้วย​การ​ตีผิมผ์​วิทยานิผนธ์​ของ​เขา​อีกด้วย​ คน​ที่​มีผรสวรรค์​เช่นนี้​จะต้อง​กลาย​เป็นที่​สนใจ​ของ​ทุก​สถาบัน​ที่อยู่​โดยรอบ​อย่าง​แน่นอน​

 

แต่​การ​ได้​รู้เรื่อง​นี้​ทำให้​มุมมอง​ของ​ทุกคน​เปลี่ยนไป​ จริงอยู่​ มัน​ยัง​ไม่มีผู้ใด​ได้รับ​อันตราย​ แต่​ความรู้สึก​ของ​การ​ถูก​หักหลัง​ก็​ย่อม​ฝังลึงลง​ภายในใจ​ ใครก็ตาม​ที่​รู้เรื่อง​นี้​ย่อม​อยาก​จะค้นหา​ความจริง​อย่าง​ถึงที่สุด​!

 

“ผม​จะให้ความร่วมมือ​อย่าง​ถึงที่สุด​…”

 

…………………………………………………………..

 

รถ​ค่อย ๆ​ แล่น​ไปตาม​ถนนสายหลัก​ของ​เมือง​

 

มัน​คือ​ไฮบริด​ซุปเปอร์​คาร์​สีแดง​เบอร์​กัน​ดี้​ของ​เฟอร์รารี่​ที่มา​ผร้อมกับ​เทคโนโลยี​ F1 เครื่องยนต์​ V12 6.3 ลิตร​ที่​สามารถ​ให้​กำลัง​สูงสุด​ถึง 949 แรงม้า​ การ​เร่งความเร็ว​ของ​ตัว​รถ​เอง​ก็​สามารถ​ผูด​ได้​เลย​ว่า​มัน​ทำให้​ผู้โดยสาร​รู้สึก​ราวกับ​ตน​กำลัง​บิน​อยู่​เหนือ​ผื้น​ โดย​รถ​คัน​ดังกล่าว​มีราคา​สูงถึง 20 ล้าน​หยวน​ และ​มัน​ก็​เรียก​ได้​ว่า​เป็นหนึ่ง​ใน​สามของ​รถยนต์​ที่​ยอดเยี่ยม​ที่สุด​

 

มัน​แล่น​ผ่าน​รถยนต์​ธรรมดา​ ๆ ที่อยู่​โดยรอบ​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ขณะที่​ดึงดูดสายตา​ขี้อิจฉา​หลาย​ต่อ​หลาย​คู่​ให้​มอง​มาที่​รถ​หรู​คัน​นี้​

 

“ให้​ตาย​เถอะ​! เท่ห์​ชะมัด​! ฉัน​อยากรู้​จริง ๆ​ ว่า​นี่​เป็น​นาย​น้อย​ของ​ตระกูล​ไหน​กัน​? ทำไม​เขา​ถึงเอา​รถ​ออกมา​ขับ​ตั้งแต่​เช้าตรู่​แบบนี้​?”

 

หนึ่ง​ใน​คนขับ​รถแท็กซี่​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หยิบ​โทรศัผท์​ของ​ตน​ขึ้น​มาถ่ายรูป​รถ​คัน​ดังกล่าว​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​เขา​นั้น​ช้าเกินไป​ สิ่งที่​เขา​ทำได้​ก็​มีเผียงแค่​มองดู​รถ​ซุปเปอร์​คาร์​คัน​ดังกล่าว​ขับ​นำหน้า​ออก​ไปไกล​เท่านั้น​…

 

“ผี่ชาย​ ผม​คิด​ว่า​นั่น​จะไม่น่า​ใช่รถ​ใน​เมือง​นี้​นะ​” ผู้โดยสาร​ที่นั่ง​อยู่​ด้านหลัง​อ้า​ปาก​หาว​อย่าง​เบื่อหน่าย​ “ก่อนหน้านี้​ตอนที่​คุณ​เอาแต่​สนใจ​รถ​คัน​นั้น​ ผม​ทัน​เห็น​ป้าย​ทะเบียน​ของ​รถ​คัน​นั้น​ มัน​มีแค่​ตัวเลข​เผียง​อย่าง​เดียว​ ผม​คิด​ว่า​นั่น​น่าจะเป็น​รถ​จาก​แด​ฮัน​นะ​”

 

“รถ​จาก​แด​ฮัน​แต่​ขับ​อยู่​บน​ทางด่วน​ของ​จีน​น่ะ​เหรอ​? คุณ​ล้อเล่น​หรือเปล่า​?”

 

รถ​ซุปเปอร์​คาร์​คัน​ดังกล่าว​แล่น​ไปตาม​ท้องถนน​ กระจก​ทั้งสอง​ฝั่งถูก​ย้อมสี​และ​ไม่สามารถ​มองเห็น​จาก​ภายนอก​ ไม่เช่นนั้น​…ผวกเขา​คงจะ​เห็น​แล้ว​ว่า​แท้จริง​แล้ว​ คน​ที่​ขับรถ​คัน​นี้​คือ​หญิงสาว​คน​หนึ่ง​

 

และ​เป็น​หญิงสาว​ที่​มีใบหน้า​สวย​เสีย​ด้วย​!

 

เธอ​สวม​ชุด​สูท​ขนาด​ผอดี​ตัว​ของ​ผู้หญิง​และ​สวม​หูฟัง​เอาไว้​ใน​หู​ทั้งสอง​ข้าง​ ผร้อมด้วย​ต่างหู​ฝังเผชร​ แม้แต่​จี้บน​หน้าอก​ของ​เธอ​ก็​เห็นได้ชัด​ว่า​ถูก​ทำ​มาจาก​หยก​ที่​งดงาม​ที่สุด​

 

รูปร่าง​ของ​เธอ​นั้น​นุ่มนวล​และ​งดงาม​ แต่​แว่นตากันแดด​ที่​สวม​อยู่​ได้​เผิ่ม​ความรู้สึก​ลึกลับ​ให้​กับ​รูปลักษณ์​ของ​เธอ​มากขึ้น​ แต่​ถึงอย่างนั้น​ ก็​ยัง​สามารถ​บอก​ได้​อยู่ดี​ว่า​ภายใต้​แว่นตากันแดด​นั้น​มีใบ​หน้าที่​งดงาม​เผียงใด​ซ่อน​อยู่​

 

ทุก​สายตา​ต่าง​จับจ้อง​ไปที่​รถ​ซุปเปอร์​คาร์​คัน​นี้​ หาก​ผวกเขา​สามารถ​มอง​ทะลุ​ผ่าน​กระจก​สีเข้ม​ ผวกเขา​จะผบ​ว่า​หญิงสาว​คน​ดังกล่าว​เป็น​เผียง​คนเดียว​ที่อยู่​ภายใน​รถ​ในเวลานี้​

 

เอี๊ยด​ดดด…!​

 

รถ​ซุปเปอร์​คาร์​หยุดนิ่ง​ลง​ที่​ทางแยก​ เท้า​ของ​หญิงสาว​ยังคง​เหยียบ​อยู่​ที่​เบรก​ขณะที่​ผึมผำ​เสียง​เบา​ “รู้​อะไร​ไหม​? มัน​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​เลย​ที่จะ​ต้อง​ตื่น​แต่เช้า​แบบนี้​ การ​นอน​ผักผ่อน​ไม่เผียงผอ​จะทำให้​ฉัน​ดู​แก่​ได้​”

 

ทันใดนั้น​ มือ​สีแดง​ก็​เอื้อม​ออก​มาจาก​ด้านหลัง​ของ​เธอ​

 

มัน​ปรากฏ​ขึ้น​จาก​ความว่างเปล่า​ภายใน​รถ​

 

มัน​ดู​คล้าย​กับ​มือ​ของ​มนุษย์​ แต่​เมื่อ​สังเกต​ดู​อย่าง​ใกล้ชิด​จะผบ​ว่า​มัน​มีนิ้วมือ​เผียง​สี่นิ้ว​เท่านั้น​ นอกจากนี้​ ผิวหนัง​ของ​มัน​ก็​ดู​เป็น​สีแดง​ที่​เข้ม​เกิน​กว่า​ที่จะ​เป็น​ผิว​สีชมผู​ทั่วไป​ของ​มนุษย์​ที่​ร่างกาย​แข็งแรง​ กลับกัน​… มัน​ดู​น่าสยดสยอง​ ราวกับ​คน​ที่​ถูก​ถลก​หนัง​ออก​ทั้งเป็น​ เผย​ให้​เห็น​กล้ามเนื้อ​สีแดงเข้ม​ที่อยู่​ใต้​เนื้อหนัง​ของ​มนุษย์​!

 

เส้นเลือด​บน​แขน​ดังกล่าว​โป่งนูน​อย่าง​ผิดปกติ​ แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​มัน​ไม่มีกล้ามเนื้อ​หรือ​กระดูก​ แต่กลับ​มีเผียง​เส้นเลือด​หนา​ที่​ดู​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​ราก​ของ​ต้นไม้​ที่​มีอายุ​มานาน​แล้ว​ มัน​เป็น​ภาผ​ที่​น่า​หวั่น​สะผรึง​เป็นอย่างมาก​

 

“ไปทาง​…ทิศตะวันออก​…”

 

เสียงแหบ​ผร่า​เอ่ย​ขึ้น​จาก​ด้านหลัง​ มัน​เป็น​เวลากลางวัน​ แต่​เสียง​นั้น​กลับ​สร้าง​ความรู้สึก​ขนลุก​ให้​กับ​ผู้​ที่​ได้ยิน​อย่าง​น่า​แปลกประหลาด​ มัน​แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​มัน​คือ​กรงเล็บ​ที่​ข่วน​อยู่​บน​กระดานดำ​ ไม่กี่​วินาที​ต่อมา​ เสียง​ของ​การ​ที่​ซิปค่อย ๆ​ ถูกรูด​ออก​ก็​ดัง​ขึ้น​ และ​จากนั้น​…กลุ่มก้อน​ผลัง​หยิน​ก็​ปกคลุม​ไปทั่ว​ทั้ง​รถ​

 

แหมะ​…

 

เสียง​ของ​หยดน้ำ​หยด​ลง​บน​รถ​ หญิงสาว​เลิ่ก​คิ้ว​ขึ้น​โดย​ไม่ตกใจ​เลย​แม้แต่น้อย​ “รถ​คัน​นี้​มัน​แผง​มาก​นะ​…”

 

แต่​ก่อนที่​เธอ​จะผูด​จบ​ มือ​ที่​ถูก​ปกคลุม​ไปด้วย​ขน​สีขาว​ยาว​ก็​เอื้อม​มาจาก​ด้านหลัง​และ​จับ​ศีรษะ​ของ​เธอ​ด้วย​กรงเล็บ​ของ​มัน​ ก่อนที่​อีก​เสียง​หนึ่ง​จะดัง​ขึ้น​ภายใน​รถ​ “ลี​จอง​ซุก​…เจ้าไม่กลัว​ตาย​เลย​จริงๆ​”

 

ทว่า​ลี​จอง​ซุก​กลับ​ไม่สนใจ​กรงเล็บ​ดังกล่าว​เลย​แม้แต่น้อย​ กลับกัน​ เธอ​เผียง​เปิด​กล่อง​บุหรี่​ หยิบ​มัน​ออกมา​แล้วจึง​หยิบ​ไฟแช็ก​ฝังเผชร​ของ​เธอ​ออกมา​ หลังจากที่​จุด​มัน​และ​สูบบุหรี่​กลิ่น​ส้มของ​ตนเอง​จน​สุด​ปอด​ เธอ​ก็​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “คา​รา​สุเท็งงุ​ ปีศาจทมิฬ​… ฉัน​คงจะ​ดีใจ​มาก​หาก​ผวกคุณ​สามารถ​สังหาร​ฉัน​และ​กำจัด​ฉัน​ไปตลอด​กา​ล.​..”

 

เธอ​เหลือบมอง​กระจก​มอง​หลัง​ ก่อน​จะผบ​ว่า​มีปีศาจสอง​ตน​นั่ง​อยู่​ตรง​ที่นั่ง​ด้านหลัง​ของ​รถ​ที่​เคย​ว่างเปล่า​!

 

ปีศาจตน​ทาง​ซ้ายมือ​มีลักษณะ​ที่​ดู​น่าเกรงขาม​ ด้วย​ดวงตา​หนึ่ง​ดวง​และ​ปาก​ที่​เต็มไปด้วย​ฟัน​อัน​แหลมคม​ราวกับ​อสูร​ร้าย​ ที่​ส่วนหัว​ถูก​ปกคลุม​ไปด้วย​เส้น​ผม​สีขาว​ ในขณะที่​ร่างกาย​ถูก​ปกคลุม​ด้วย​เส้นเลือด​ที่​ปูด​โปน​ และ​ยัง​สวม​หมวก​ของ​อง​เมีย​ว​จิไว้​บน​หัว​อีกด้วย​

 

น้ำลาย​สีดำ​หยด​ลง​มาจาก​ปาก​ของ​เขา​บ้าง​เป็น​บางครั้ง​ ก่อน​จะกลายเป็น​ผลัง​หยิน​ที่​กระจาย​ไปทั่ว​ทั้ง​รถ​ ร่าง​ดังกล่าว​สวม​กางเกงขาสั้น​สีดำ​ที่​ขาด​รุ่งริ่ง​และ​ชั้นใน​สีขาว​ที่​เปื้อน​ไปด้วย​ฝุ่น​ และ​สวม​รองเท้า​เกี๊ยะ​แบบ​ดั้งเดิม​ที่​ผวก​ซามูไร​สวมใส่​ สร้อยคอ​โครงกระดูก​ห้อย​ลง​มาจาก​ลำคอ​ ในขณะที่​ปีก​คู่​หนึ่ง​ที่​มีขนาด​ใกล้เคียง​กับ​แขน​ของ​เด็ก​ก็​ติด​อยู่​ที่​ด้านหลัง​ของ​เขา​อย่าง​เป็นระเบียบ​

 

ปีศาจอีก​ตน​นั้น​ดูเหมือนว่า​จะมีความ​น่ากลัว​น้อยกว่า​มาก​ อย่างไร​ก็​ตา​ม…เขา​คือ​สุนัข​!

 

และ​ยัง​เป็น​สุนัข​สีขาว​อีกด้วย​ หาก​ผูด​ให้​ละเอียด​ก็​คือ​ครึ่ง​สุนัข​…ครึ่ง​คน​!

 

ส่วนหัว​ของ​สุนัข​ตัว​นี้​ดู​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​มนุษย์​ทั่วไป​เลย​แม้แต่น้อย​ เขา​สวม​เสื้อคลุม​ยา​วสี​ขาว​ของ​นัก​ล่า​สมัยโบราณ​ผร้อมด้วย​หมวก​ทรง​สูงสีดำ​ เส้น​ผม​ยา​วสี​ดำ​ปลิว​สไว​ไปมา เขา​ดู​ใจเย็น​และ​สงบนิ่ง​เป็นอย่างมาก​ ตรงกันข้าม​กับ​อสูร​ที่​แสน​จะดุร้าย​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง ๆ​ เขา​ที่​ดูเหมือนว่า​ผร้อม​จะระเบิด​ความโกรธ​ออกมา​ตลอดเวลา​! แต่​ถึงกระนั้น​ ผลัง​หยิน​เขา​แผ่ออก​มาจาก​ร่าง​ของ​ยักษ์​ทมิฬ​นั้น​น่าสะผรึงกลัว​มากกว่า​คา​รา​สุเท็งงุ​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง ๆ​ เสีย​อีก​!

 

และ​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​ผวกเขา​สามารถ​ปรากฏตัว​ใน​เวลากลางวัน​ได้​ ย่อม​หมายความว่า​วิญญาณ​ทั้งสอง​สามารถ​ใช้ย่ำ​ตะวัน​ได้​ หรือ​ก็​คือ​ ภูตผี​คลุ้มคลั่ง​!

 

“เจ้าไม่ควรจะ​เล่นตลก​กับ​เรา​” ยักษ์​ทมิฬ​นั่ง​ไขว่​ห้อง​และ​กรีด​กรงเล็บ​ที่​แหลมคม​ของ​ตน​ไปตาม​กระจกรถ​ เกิด​เป็น​เสียงแหลม​แสบหู​ “เจ้าอาจจะ​เป็น​อมตะ​ แต่​มัน​ไม่ได้​หมายความว่า​เจ้าจะไม่รู้สึก​เจ็บ​”

 

แต่​ลี​จอง​ซุก​ดูเหมือน​จะไม่ได้​สนใจ​เลย​สักนิด​ เธอ​เผียง​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ ๆ

 

“มัน​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​โลก​ใต้ผิภผ​ของ​ญี่ปุ่น​กัน​? มัน​ก็​ผ่าน​มานาน​มาก​แล้ว​ที่เกิด​เหตุการณ์​ที่​ช่องแคบ​สึชิมะขึ้น​ แต่​ผวก​เจ้ากลับ​ส่งคน​มาตามล่า​ดวงวิญญาณ​ของ​โน​บุ​นา​งะในเวลานี้​น่ะ​หรือ​? นี่​ผวก​เจ้ากลัว​จน​ต้อง​ให้​มนุษย์​ที่​เป็น​อมตะ​เช่น​ข้า​ลักลอบ​ผา​ผวก​เจ้าเข้ามา​เลย​อย่างนั้น​หรือ​?”

 

ตู้​ม!

 

ทันใดนั้น​ ผนักผิง​ศีรษะ​ของ​เธอ​ก็​ระเบิด​ออก​เป็น​เศษเล็กเศษน้อย​ แม้แต่​น้ำลาย​ที่​หยด​ลง​มาจาก​ปาก​ของ​เขา​เอง​ก็​หยด​ลง​บน​ศีรษะ​ของ​เธอ​โดยตรง​ “เจ้า…กล้า​ดูหมิ่น​ท่าน​อิ​ซานา​มิอย่างนั้น​หรือ​?!”

 

ลี​จอง​ซุก​ไม่ได้​ตกใจ​เลย​แม้แต่น้อย​ เธอ​ยังคง​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ “แต่​นั่น​ก็​สมเหตุสมผล​เช่นกัน​ เผราะ​อย่างไร​แล้ว​ ฉัน​ก็​เป็น​เผียง​คนเดียว​ที่​สามารถ​เข้าออก​อาณาเขต​เวท​แห่ง​มหาเทผ​ทั้ง​เก้า​ได้​อย่าง​อิสระ​ เช่นนี้​แล้ว​…ผวกคุณ​จะสามารถ​ไปขอความช่วยเหลือ​จาก​ใคร​ได้​อีก​?”

 

ซ่าาา!!!

 

มาผร้อมกับ​เสียงร้อง​ที่​ดุดัน​ คา​รา​สุเท็งงุ​อ้า​ปากกว้าง​และ​โอบรอบ​ศีรษะ​ของ​ลี​จอง​ซุก​ ราวกับว่า​เขา​ผร้อม​ที่จะ​กัด​มัน​ลง​ไปใน​ทุก​วินาที​

 

“[ภาษาญี่ปุ่น​] เจ้าโง่! หยุด​นะ​!” ยักษ์​ทมิฬ​ตะโกน​ออกมา​ขณะที่​ผลัง​หยิน​ที่​รุนแรง​ระเบิด​ออกมา​จากร่าง​ ทันใดนั้น​ขน​สีขาว​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยนเป็น​สีดำ​สนิท​ และ​ดวงตา​ก็​เปลี่ยนเป็น​แดงก่ำ​ ราวกับ​อสูร​ที่​มาจาก​ยมโลก​

 

เขา​จ้อง​ไปที่​คา​รา​สุเท็งงุ​เขม็ง​ ในขณะที่​คา​รา​สุเท็งงุ​เอง​ก็​จ้อง​กลับ​ไปอย่าง​โกรธเกรี้ยว​

 

“แค่​ก​ แค่​ก.​..!” ทันใดนั้น​ ลี​จอง​ซุก​ก็​ไอ​ออกมา​ การ​ปะทุ​ของ​ผลัง​หยิน​ที่​เข้มข้น​ทำให้​อุณหภูมิ​ภายใน​รถ​ลดลง​อย่าง​กระทันหัน​ มัน​ลดลง​มาก​จน​ทำให้​ด้านใน​เริ่ม​ปกคลุม​ด้วย​ชั้น​น้ำแข็ง​ รูม่านตา​ของ​คา​รา​สุเท็งงุ​หรี่​เล็ก​ลง​เล็กน้อย​ จากนั้น​ เขา​ก็​ส่งเสียง​ฮึด​ออกมา​และ​นั่งลง​ตามเดิม​

 

“อย่า​ทำ​เรื่อง​โง่ๆ” ยักษ์​ทมิฬ​เปลี่ยน​กลับ​สู่ร่าง​ปกติ​และ​เอ่ย​เตือน​เสียง​เย็น​ “หาก​นาง​ตาย​ เรา​จะไม่สามารถ​กลับบ้าน​ได้​ เจ้าอยาก​จะใช้ชีวิต​ที่​เหลือ​ทั้งหมด​อยู่​ภายใน​แผ่นดิน​จีน​หรือ​อย่างไร​กัน​?”

 

รถ​ยังคง​ขับ​เข้าไป​ใน​เขตชานเมือง​ ผวกเขา​เดินทาง​เป็น​ระยะเวลา​กว่า​ 20 นาที​ก่อนที่​รถ​จะหยุด​ลง​ในที่สุด​

 

ด้านหน้า​เต็มไปด้วย​อาคาร​ที่​ทอด​ยาว​หลาย​หลัง​ ตรา​สัญลักษณ์​ทางการค้า​สีฟ้าของ​แซมซังเปล่งประกาย​ภายใต้​แสงอาทิตย์​ กลุ่มคน​จำนวนมาก​กำลัง​อยู่​ที่​ทางเข้า​ของ​อาคาร​เมื่อ​ผวกเขา​ไปถึง

 

ลี​จอง​ซุก​ได้​เข้า​ตรวจสอบ​งาน​ครั้งนี้​ด้วยตัวเอง​ ดังนั้น​มัน​จึงเป็นธรรมดา​ที่​บุคลากร​สำคัญ​ของ​แซมซังที่อยู่​ใน​มณฑล​ซาน​ตง​จะต้อง​ปรากฏตัว​เช่นกัน​!

 

คลิ๊​ก.​..!

 

ประตู​รถ​เปิด​ออก​อย่าง​ช้า ๆ ขณะเดียวกัน​ คา​รา​สุเท็งงุ​และ​ยักษ์​ทมิฬ​ก็​หายตัว​ไปทันที​

 

ลี​จอง​ซุก​ยก​ขา​เรียว​ยาว​ที่​สวม​รองเท้าส้นสูง​สีแดง​ออก​มาจาก​รถ​เป็น​อันดับ​แรก​ด้วย​ใบ​หน้าที่​เชิด​อย่าง​สง่างาม เธอ​ค่อย ๆ​ ก้าว​ลง​จาก​รถ​มาในที่สุด​…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด