ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]บทที่ 480: 18 วัน

Now you are reading ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] Chapter บทที่ 480: 18 วัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 480: 18 วัน​

 

จางเจ้อก​วง​ระงับ​ความดีใจ​ของ​ตัวเอง​และ​บังคับ​ตัวเอง​ให้​อ่าน​เนื้อหา​ทั้งหมด​อย่าง​ละเอียด​

 

หลาย​นาที​ต่อมา​ เขา​วาง​เอกสาร​ทั้งหมด​ลง​และ​เอ่ย​ออกมา​เสียงดัง​ “หมายความว่า​มัน​ยังมี​วิญญาณ​อีก​จำนวนมาก​ที่​ยัง​เร่ร่อน​อยู่​ที่​แดน​มนุษย์​ และ​พวกเขา​ก็​มักจะ​ถูก​ดึงดูด​โดย​เหล่า​ผู้มาเยือน​จาก​ยมโลก​ที่​เดินทาง​กลับ​ไปยัง​แดน​มนุษย์​สินะ​…”

 

“แต่​นั่น​ยัง​ไม่ใช่ภัย​คุกคาม​สูงสุด​ อันตราย​สูงสุด​อยู่​ที่​เขต​ไล่ล่า​และ​เขต​นัก​ล่า​ และ​วิญญาณ​ร้าย​ที่​ไม่ได้​อยู่​ภายใต้​การตรวจจับ​ สัญชาตญาณ​บอก​พวกเขา​ว่า​วิธี​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​การ​เลื่อนขั้น​ก็​คือ​กลืน​กิน​ซึ่งกันและกัน​ และ​บังเอิญ​การ​กลับ​ไปยัง​แดน​มนุษย์​ของ​วิญญาณ​ที่​มีร่องรอย​พลัง​หยิน​ของ​ยมโลก​ก็​ถูก​จัด​ว่า​เป็นหนึ่ง​ใน​แหล่ง​อาหาร​ชั้นยอด​ที่​พวกเขา​จะสามารถ​หา​ได้​ นี่​คือ​เหตุผล​ว่า​ทำไม​วิญญาณ​ที่​เดินทาง​ไปยัง​แดน​มนุษย์​ถึงจำเป็น​จะต้อง​มีผู้คุ้มกัน​ติดตาม​ไปด้วย​ระหว่างทาง​”

 

“สุดท้าย​แต่​ไม่ท้ายสุด​ มัน​ยังมี​องค์กร​และ​ผู้ฝึก​ตน​เดี่ยว​ที่​มักจะ​กำจัด​วิญญาณ​ทันทีที่​เห็น​อีกด้วย​ ข้า​ไม่เพียง​ต้อง​หลีกเลี่ยง​เส้นทาง​ของ​พวกเขา​เท่านั้น​ แต่​ข้า​ยัง​ต้อง​คอย​สังเกต​สิ่งประดิษฐ์​เวทย์​และ​กับดัก​ของ​พวกเขา​อีกด้วย​ ยกตัวอย่างเช่น​ เหรียญทองแดง​ที่​ดูเหมือน​จะไม่เป็น​ภัย​สามารถ​สั่งสมพลัง​หยาง​ได้​ใน​ปริมาณมาก​จน​ขนาดที่​ทำให้​ดวงวิญญาณ​ของ​ข้า​สลาย​ไปได้​…”

 

“แต่​ถึงกระนั้น​ ความเสี่ยง​พวก​นี้​ก็​จะลดลง​อย่าง​มาก​เมื่อ​มีเหล่า​ทหาร​ของ​ยมโลก​เดินทาง​ไปด้วย​” เขา​ส่ายหน้า​ไปมาและ​อ่าน​ต่อ​

 

เนื้อหา​ส่วนที่เหลือ​ของ​เอกสาร​นั้น​เกี่ยวข้อง​กับ​จรรยาบรรณ​ที่​เขา​จะต้อง​ปฏิบัติตาม​

 

“ประการ​ที่​ 1 ท่าน​สามารถ​เปิดเผย​ถึงการ​มีอยู่​อย่าง​ยมโลก​ได้​ แต่​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่อยู่​นอกเหนือ​จากนั้น​จะต้อง​เป็นความลับ​สุดยอด​ ซึ่งนี่​รวมถึง​รายละเอียด​ที่​เกี่ยวกับ​บุคลากร​ใน​ยมโลก​ ตำแหน่ง​และ​ข้อมูล​ หรือ​แม้แต่​โครงสร้าง​ภายใน​ของ​ยมโลก​”

 

“ประการ​ที่​ 2 ท่าน​ห้าม​ติดต่อ​กับ​มนุษย์​คนใด​นอกจาก​คน​ที่​ท่าน​ตั้งใจ​กลับ​ไปหา​ นี่​มัน​สมเหตุสมผล​ตรงไหน​กัน​? อ๋อ​ เข้าใจ​แล้ว​…วิญญาณ​ทุก​ตน​ที่​เดินทาง​กลับ​ไปยังคง​ถือว่า​เป็น​วิญญาณ​ มัน​อาจจะ​ไม่เป็นอะไร​ที่จะ​ติดต่อ​กับ​บุคคล​อันเป็น​ที่รัก​หรือ​ญาติ​ของ​ตนเอง​ แต่​มนุษย์​คนอื่น​ย่อม​ได้รับ​ผลกระทบ​จาก​วิญญาณ​ตน​ดังกล่าว​ และ​กระตุ้น​ให้​เกิด​เหตุการณ์​เหนือธรรมชาติ​ขึ้น​”

 

“ประการ​ที่​ 3 ท่าน​ห้าม​อยู่​ใน​แดน​มนุษย์​เกินกำหนด​”

 

“ประการ​ที่​ 4 ท่าน​ไม่สามารถ​นำ​สิ่งของ​ใด​ ๆ จาก​แดน​มนุษย์​กลับมา​ที่​ยมโลก​เป็นอันขาด​ ทุกสิ่งทุกอย่าง​จะต้อง​ถูก​ส่งมาโดย​ผ่าน​การ​เผา​เท่านั้น​”

 

เลขา​โจว​ยืน​รอ​อยู่​ด้าน​ข้าง​อย่าง​อดทน​ขณะที่​จางเจ้อก​วง​อ่าน​เนื้อหา​ทั้งหมด​ใน​เอกสาร​เป็นเวลา​กว่า​ครึ่ง​ชั่วโมง​ เมื่อ​จางเจ้อก​วง​อ่าน​เสร็จ​ เขา​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​และ​ถอนหายใจ​ออกมา​

 

“ขอโทษ​ด้วย​ที่​ทำให้​เจ้าต้อง​รอ​นาน​” จางเจ้อก​วง​แย้มยิ้ม​และ​พยักหน้า​ให้​กับ​เลขา​โจว​

 

“ไม่มีปัญหา​แต่อย่างใด​ รัฐมนตรี​เจียง​ ท่าน​ตัดสินใจ​ได้​แล้ว​หรือยัง​? หาก​ท่าน​ตัดสินใจ​แล้ว​ ข้า​จะนำ​คำตอบ​ของ​ท่าน​ไปบอก​ท่าน​ฉิน​ทันที​ วัน​เดินทาง​นี้​จะถือ​เป็นที่​สิ้นสุด​และ​ไม่สามารถ​เปลี่ยนแปลง​ได้​อีก​เมื่อ​เรา​ระบุ​แล้ว​”

 

“ข้า​ตัดสินใจ​ได้​แล้ว​” จางเจ้อก​วง​ยืน​เอกสาร​ให้​กับ​เลขา​โจว​ “เจ้าช่วย​บอก​ให้​ท่าน​จ้าว​ฉิน​ช่วย​เตรียมการ​สำหรับ​การ​เดินทาง​กลับ​ไปยัง​แดน​มนุษย์​ของ​ข้า​ใน​คืน​พรุ่งนี้​ที​ได้​หรือไม่​?”

 

เลขา​โจว​พยักหน้า​และ​เดิน​จากไป​ทันที​ จางเจ้อก​วง​อาศัย​อยู่​ค่อนข้าง​ใกล้​กับ​อาคาร​บริหาร​ใน​เมือง​ชั้นใน​ของ​พระราชวัง​แห่ง​การ​สะท้อน​เงา ดังนั้น​มัน​จึงใช้เวลา​ไม่นาน​ก่อนที่​เลขา​โจว​จะเดินทาง​กลับ​ไปถึงที่​ห้องทำงาน​ของ​ฉิน​เย่​

 

เขา​เคาะ​ประตู​ จากนั้น​ก็​เข้าไป​ทันทีที่​ได้รับอนุญาต​ให้​เข้าไป​ เขา​โค้ง​คำนับ​ แต่​ขณะที่​เขา​กำลังจะ​เอ่ย​รายงาน​ เขา​ก็​เงียบ​เอาไว้​และ​รอ​อยู่​ที่​ด้าน​ข้าง​อย่าง​ใจเย็น​พร้อมกับ​รอยยิ้ม​บาง​ ๆ ที่​ประดับ​อยู่​บน​ใบหน้า​

 

นายทหาร​ผู้​หนึ่ง​ที่​แต่งกาย​ด้วย​ชุด​เกราะ​โบราณ​กำลัง​นั่ง​อยู่​ที่​ตรงหน้า​ของ​ฉิน​เย่​ หลังจากที่​ได้​เป็น​เลขานุการ​ของ​ฉิน​เย่​มาเป็น​ระยะเวลา​หนึ่ง​ เขา​รู้ดี​ว่า​ผู้ใด​ก็​ตามที่​สามารถ​นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​ฉิน​เย่​และ​พูดคุย​กับ​เด็กหนุ่ม​ได้​นั้น​ย่อม​มีความสำคัญ​ ดังนั้น​เขา​จึงรู้ดี​ว่า​ตัวเอง​ไม่ควร​เอ่ย​แทรก​

 

“เจ้าจะเดินทาง​กลับ​ไปที่​เมือง​เป่าอัน​?” ฉิน​เย่​พยักหน้า​เบา​ ๆ ให้​กับ​นายทหาร​ตรงหน้า​ “มีเรื่อง​เร่งด่วน​อย่างนั้น​หรือ​?”

 

“พอดี​กระหม่อม​เพิ่ง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​อาทิตย์​หน้า​ก็​จะถึงวันเกิด​ของ​ท่าน​พ่อ​แล้ว​ และ​มัน​ก็​จะเป็น​วันเกิด​แรก​ของ​ท่าน​นับตั้งแต่​ที่​สวามิภักดิ์​ต่อ​ยมโลก​ ใน​ฐานะ​ของ​ลูกชาย​ มัน​เป็น​หน้าที่​ของ​กระหม่อม​ใน​การ​เดินทาง​กลับ​ไปแสดง​ความเคารพ​ต่อ​ท่าน​” นายทหาร​หนุ่ม​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​

 

“เข้าใจ​แล้ว​…” ฉิน​เย่​เคาะ​นิ้ว​บน​โต๊ะ​เบา​ ๆ ก่อน​จะเอ่ย​อนุญาต​ “เช่นนั้น​ก็​รีบ​ไปและ​รีบ​กลับมา​ ตอนนี้​เหล่า​แม่ทัพ​ตระกูล​หยาง​ได้​เดินทาง​กลับ​ไปที่​ฟิลิปิ​นัส​หมด​แล้ว​ ข้า​หวัง​ว่า​จะฝาก​เรื่อง​เกี่ยวกับ​การทหาร​ทั้งหมด​ให้​เจ้าเป็น​ผู้รับผิดชอบ​ เพราะ​อย่างไร​แล้ว​ การต่อสู้​ทั้งหมด​ก็​จะเกิดขึ้น​โดย​ปราศจาก​อาวุธ​ปืน​ และ​เจ้าก็​คือ​ผู้​ที่​มีประสบการณ์​ใน​ด้าน​นี้​มาก​ที่สุด​ แม่ทัพ​คนอื่น​ ๆ ที่​ยอมจำนน​ต่อ​ยมโลก​ยังคง​มีสิ่งอื่น​ให้​ต้อง​ทำ​”

 

“รับทราบ​” ทหาร​วิญญาณ​นาย​นั้น​ลุกขึ้น​ยืน​และ​โค้ง​คำนับ​ “ท่าน​ฉิน​ กระหม่อม​อยาก​จะออกเดินทาง​ใน​วันพรุ่งนี้​ ท่าน​พ่อ​ชื่นชอบ​ชาจีน​เป็นอย่างมาก​ใน​ตอนที่​ท่าน​ยัง​มีชีวิต​ หาก​ท่าน​อนุญาต​ กระหม่อม​อยาก​จะขอ​นำ​ชาไปให้​ท่าน​ด้วย​”

 

ฉิน​เย่​พยักหน้า​เบา​ ๆ และ​โบกมือ​ลา​อีก​ฝ่าย​ หลังจากที่​นายทหาร​หนุ่ม​เดิน​ออก​ไป ฉิน​เย่​ก็​หัน​ไปหา​เลขา​โจว​และ​เอ่ย​ถาม “เลขา​โจว​ ได้การ​ว่า​อย่างไรบ้าง​?”

 

มัน​เป็น​เพียง​คำถาม​ง่ายๆ​

 

ฉิน​เย่​รู้สึก​ว่า​มัน​คือ​สิ่งที่​เขา​ควรจะ​ทำ​ เพราะ​อย่างไร​แล้ว​ มัน​ก็​สืบ​เนื่องมาจาก​คำสั่ง​ของ​เขา​ก่อนหน้านี้​…

 

“ฝ่าบาท​ รัฐมนตรี​จางได้​ตัดสินใจ​แล้ว​พ่ะย่ะค่ะ​” เลขา​โจว​ตอบกลับ​พร้อมกับ​โค้ง​คำนับ​ “เขา​อยาก​จะเดินทาง​กลับ​ไปยัง​แดน​มนุษย์​ใน​คืน​วันพรุ่งนี้​พ่ะย่ะค่ะ​ แต่​ฝ่าบาท​…กระหม่อม​ขอ​ถามได้​หรือไม่​ว่า​ผู้ใด​จะรับหน้าที่​ใน​การ​คุ้มกัน​รัฐมนตรี​จางขณะ​เดินทาง​? ใน​ตอนนี้​ทาง​เรา​ยัง​ไม่มีหน่วยงาน​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ส่งคน​คุ้มกัน​นะ​พ่ะย่ะค่ะ​”

 

สิ่งนี้​เป็นปัญหา​อย่าง​แท้จริง​…

 

ฉิน​เย่​กุมขมับ​ เขา​มั่นใจ​ว่า​ 99% ของ​ทหาร​วิญญาณ​ภายใน​นคร​เผิง​ชิว​ไม่รู้​ถึงขั้น​ตอนที่​ถูกต้อง​ใน​การ​ทำ​ภารกิจ​คุ้มกัน​ ไม่มีผู้ใด​ที่​รู้​ถึงกระบวนการ​เหล่านี้​ได้ดี​เท่า​อาร์​ทิส​และ​ตัว​เขา​เอง​ แต่​เขา​จะต้อง​เดินทาง​ไปส่งอีก​ฝ่าย​ที่​แดน​มนุษย์​ด้วย​ตนเอง​อย่างนั้น​หรือ​?

 

จะต้อง​จัดตั้ง​แผนก​คุ้มกัน​ขึ้น​มาทันทีที่​มีเวลา​… เมื่อ​คิดได้​ดังนั้น​ เขา​ก็​เก็บ​ความคิด​เหล่านั้น​ไปและ​กลับมา​สนใจ​ปัญหา​ที่​มีอยู่​ใน​มือ​ แต่​ภายใน​ไม่กี่​วินาที​เขา​ก็​ต้อง​ขมวดคิ้ว​ยุ่ง​

 

เพราะ​มัน​ไม่มีใคร​ให้​ขอความช่วยเหลือ​อย่างไรเล่า​!

 

อันตราย​จาก​การ​ภารกิจ​คุ้มกัน​นั้น​อยู่​ที่​พวก​วิญญาณ​ร้าย​ที่อยู่​ใน​แดน​มนุษย์​ ในเวลานี้​ที่​แดน​มนุษย์​มีเขต​ไล่ล่า​อยู่​เต็มไปหมด​ และ​มัน​ก็​มีไม่น้อย​เลย​ที่จะ​มีวิญญาณ​ขั้น​นัก​ล่า​วิญญาณ​อาศัย​อยู่​ ทาง​ที่​ปลอดภัย​ที่สุด​ก็​คือ​ส่งผู้คุ้มกัน​ที่อยู่​ขั้น​นัก​ล่า​วิญญาณ​เหมือนกัน​ไปใน​ภารกิจ​นี้​ นี่​คือ​ครั้งแรก​ที่​บุคคล​ใน​ยมโลก​เดินทาง​กลับ​ไปยัง​แดน​มนุษย์​ และ​เขา​ก็​ไม่ต้องการ​ให้​มีเรื่อง​อะไร​ผิดพลาด​

 

เพราะ​อย่างไร​แล้ว​ นี่​ก็​เพื่อ​จะเป็น​แรงจูงใจ​ให้​กับ​วิญญาณ​ตน​อื่น​ตั้งใจ​ทำงาน​

 

แต่ทว่า​ช่างน่าเสียดาย​ ยมทูต​ส่วนใหญ่​ของ​เขา​ต่าง​กำลัง​ทำงาน​ใน​ฐานะ​ของ​ผู้ตรวจสอบ​อดีต​กรรม​อยู่​ที่​เมือง​เป่าอัน​…

 

จากนั้น​…หลังจากที่​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ฉิน​เย่​ก็​ตัดสินใจ​ “ข้า​อยาก​จะให้​เจ้าไปหา​ชาย​ที่​เพิ่ง​เดิน​ออก​ไปเมื่อครู่นี้​”

 

“พ่ะย่ะค่ะ​ กระหม่อม​ขอ​ทราบ​ได้​หรือไม่​ว่า​เขา​มีนาม​ว่า​อะไร​?”

 

“โอ​ดะ​ โน​บุ​ทา​ดะ​” ฉิน​เย่​เอ่ย​ตอบ​ “บอก​เขา​ให้​อยู่​คุ้มกัน​รัฐมนตรี​จางก่อนที่​เขา​จะเดินทาง​กลับ​ไปที่​เมือง​เป่าอัน​ มัน​อาจจะ​ทำ​ให้การ​เดินทาง​ของ​เขา​ล่าช้า​ลง​เล็กน้อย​ แต่​เรา​จะชดเชย​ให้​ จากนั้น​ให้​เจ้านำทาง​เขา​ไปหา​รัฐมนตรี​จางทันที​”

 

………………………………………………………

 

ภายใน​ที่พำนัก​เคลื่อนที่​ ณ ที่ใด​สัก​แห่ง​

 

เปลวไฟ​จาก​เทียน​ลุกโชน​อยู่​บน​เชิงเทียน​ที่​ตั้งอยู่​ทั้งสอง​ฝั่งของ​ห้อง​ ผ้าม่าน​สีเขียว​อ่อน​ซึ่งถูก​แขวน​ลง​มาจาก​คาน​ด้านบน​พริ้ว​ไหว​ไปมาตาม​สายลม​ที่​พัด​เข้ามา​ ร่าง​เงาของ​ชาย​ผู้​หนึ่ง​สามารถ​มองเห็น​ได้​จาก​ด้านหลัง​ของ​ม่าน​

 

สายลม​ที่​กวาด​ไปทั่ว​ห้อง​พัดพา​เสียงร้อง​อัน​โหยหวน​และ​คร่ำครวญ​อย่าง​น่าสะพรึงกลัว​ให้​ได้ยิน​เบา​ ๆ บรรยากาศ​โดยรอบ​เย็นยะเยือก​

 

ไร้​เงาหมอบ​อยู่​กับ​พื้น​โดยที่​ศีรษะ​ก้ม​ต่ำ​ที่สุด​เท่า​ที่จะ​สามารถ​ทำได้​ ถึงแม้ว่า​เขา​จะไม่กล้า​ขยับตัว​แม้แต่น้อย​ แต่​ร่างกาย​ของ​เขา​กลับ​สั่นเทา​อย่าง​รุนแรง​

 

เขา​ไม่แม้แต่​จะกล้า​เงยหน้า​ขึ้น​มามอง​ร่าง​เงาที่อยู่​ด้านหลัง​ม่าน​ พลัง​หยิน​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ที่​แผ่ออก​มาจาก​ร่าง​ดังกล่าว​นั้น​ราวกับ​ภูเขา​ขนาดใหญ่​และ​ท้องทะเล​อัน​ไร้​ขอบเขต​ มัน​น่ากลัว​จน​ผู้​ไร้​เงาอด​ไม่ได้​ที่จะ​ตัวสั่น​อย่าง​ยอมจำนน​

 

หลังจาก​เงียบ​อยู่​พักใหญ่​ ชาย​ที่อยู่​หลัง​ม่าน​ก็​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​เสียง​ที่​แหบ​พร่า​ “เจ้ากำลังจะ​บอ​กว่า​ยมทูต​ตน​นั้น​ได้​ขอให้​เจ้านำ​ข้อความ​มาให้​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​?” ผู้​ไร้​เงาพยักหน้า​ “ถูกต้อง​แล้ว​นาย​ท่าน​ เขา​บอ​กว่า​เขา​มาจาก​หมู่บ้าน​ซึนะ​งาคุ​เระ​ และ​มีนาม​ว่า​ซาโซริ​ ข้า​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ของ​เขา​เลย​สักนิด​”

 

“ซาโซริ​…แห่ง​หมู่บ้าน​ซึนะ​งาคุ​เระ?”​ ชาย​ที่อยู่​หลัง​ม่าน​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะแค่น​หัวเราะ​ออกมา​ “ไร้สาระ​ ข้า​ไม่เคย​ได้ยิน​ชื่อ​นั้น​มาก่อน​ แต่​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​ผู้​เลี้ยง​วิญญาณ​นั้น​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ของ​เขา​ก็​บ่งบอก​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​ว่า​เขา​คือ​ยมทูต​”

 

“นายท่า​น.​..” ผู้​ไร้​เงาลอบ​กลืนน้ำลาย​ “ขะ​ เขา​ยัง​บอก​อี​กว่า​…”

 

ชาย​หลัง​ม่าน​จ้อง​คน​ตรงหน้า​เขม็ง​ เขา​สามารถ​บอก​ได้​เลย​ว่า​แววตา​ของ​ไร้​เงากำลัง​สั่นเทา​อย่าง​รุนแรง​ และ​ไม่กี่​วินาที​ต่อมา​ ผู้​ไร้​เงาก็​ก้ม​ศีรษะ​จน​หน้าผาก​แนบ​ติดกับ​พื้น​และ​กัดฟัน​แน่น​ขณะที่​เอ่ย​ออกมา​จน​จบ​ประโยค​ “เขา​บอ​กว่า​…เขา​คือ​นาย​เก่า​ของ​ท่าน​”

 

“บังอาจ​!!” ชาย​คน​ดังกล่าว​ตะคอก​ออกมา​อย่าง​โกรธเกรี้ยว​ ส่งผล​ให้​ผ้าม่าน​ที่​กั้น​อยู่​ระหว่าง​กลาง​ของ​ทั้งสอง​กระพือ​อย่าง​รุนแรง​ เผย​ให้​เห็น​ชาย​ผู้​หนึ่ง​ที่นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​อัน​สง่างามพร้อมกับ​จุด​สีแดง​สอง​จุด​ใน​ส่วน​ที่​ควรจะเป็น​ดวงตา​

 

เช่นเดียวกัน​กับ​หลาย​จวิ่น​เฉิน​และ​ห​ลี่​หลิน​ฝู่ นี่​คือ​สัญญาณของ​ลูกไฟ​วิญญาณ​คน​ ๆ หนึ่ง​ที่​เหือดแห้ง​หลังจากที่​ถูก​ปราบปราม​โดย​อำนาจ​ของ​กงล้อ​แห่ง​สังสารวัฏ​มาเป็นเวลา​นาน​!

 

“ยมโลก​แห่ง​เก่า​ไม่มีอยู่​อีกต่อไป​แล้ว​” ชาย​ที่อยู่​หลัง​ม่าย​กัดฟัน​และ​เอ่ย​ออกมา​เสียง​เบา​ “นี่​คือ​สิ่งที่​หลิว​อวี้​ได้​บอก​ข้า​ด้วยตัวเอง​… หึหึ​… เรา​อาจจะ​ไม่ได้​มีความ​สัมผัส​อัน​ดี​ต่อกัน​ แต่​เขา​ไม่มีทาง​โกหก​เกี่ยวกับ​เรื่อง​แบบ​นั้น​เด็ดขาด​ นาย​เก่า​อย่างนั้น​หรือ​? หึหึ​…ถ้าคิด​ว่า​ข้า​จะมานั่ง​อยู่​ตรงนี้​หรือ​หาก​จ้าว​นรก​องค์​ที่สอง​ยังอยู่​แถว​นี้​? หรือ​บางที​…”

 

พรึ่บ​…

 

เสียง​อู้อี้​บางอย่าง​ดัง​ขึ้น​ติดต่อกัน​ และ​ทันใดนั้น​เปลวไฟ​ใน​ดวงตา​ของ​ไร้​เงาก็​ต้อง​ลุกโชน​อย่าง​รุนแรง​

 

ที่​เป็น​เช่นนี้​ก็เพราะว่า​มีมือ​จำนวนมาก​ยื่น​ออก​มาจาก​เสื้อผ้า​ ผม​ และ​หลัง​ของ​เขา​! และ​จำนวน​ของ​มัน​ก็​ยังคง​เพิ่มมากขึ้น​เรื่อยๆ​!

 

มัน​คือ​มือ​ของ​ทารก​!

 

แต่​ถึงกระนั้น​ พวก​มัน​กลับ​ปกคลุม​ไปด้วย​รอย​จ้ำสีคล้ำ​ของ​ศพ​…จุด​ที่​บ่งบอกถึง​ความตาย​อย่าง​ชัดเจน​!

 

จากนั้น​ ด้วย​การ​ปะทุ​ของ​พลัง​หยิน​ มือ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ก็​จับ​ร่าง​ของ​ไร้​เงาเอาไว้​อย่าง​แน่นหนา​ แทง​นิ้ว​ของ​พวก​มัน​เข้าไป​ใน​ผิวหนัง​ ดวงตา​ และ​ริมฝีปาก​ของ​เขา​! ไร้​เงาส่งเสียง​กรีดร้อง​ออกมา​ทันที​ขณะที่​เขา​ดิ้นรน​ไปมากับ​พื้น​!

 

“นายท่า​น.​.. นายท่า​น!! เมตตา​!!! โปรด​เมตตา​!!” เสียงร้อง​ของ​เขา​ดังก้อง​ไปทั่ว​ทั้ง​ห้อง​ แต่​อีก​ฝ่าย​กลับ​เอ่ย​ด้วย​เสียง​ที่​เรียบ​นิ่ง​ดังเดิม​ แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​เขา​จะไม่ได้​สนใจ​เกี่ยวกับ​ชีวิต​ของ​ไร้​เงาเลย​สักนิด​ “หรือ​เจ้ากำลังจะ​บอก​ข้า​ว่า​ตอนนี้​…เจ้าได้​กลายเป็น​ข้า​รับใช้​ของ​ยมโลก​ไปแล้ว​?”

 

ความเจ็บปวด​ที่​มาก​เกิน​จะบรรยาย​ได้​ฉีก​กระชาก​ดวงวิญญาณ​ของ​ไร้​เงา

 

เขา​รู้สึก​ได้​ว่าการ​โจมตี​นี้​กำลัง​พุ่งตรง​ไปที่​ดวงวิญญาณ​ของ​เขา​ และ​พลัง​หยิน​จำนวนมาก​ก็​รั่วไหล​ออก​มาจาก​ร่าง​ราวกับ​ลูกโป่ง​ที่​ยุบตัว​เร็ว​อย่าง​รวดเร็ว​ เสียง​ของ​เขา​แหลม​สูงขึ้น​จาก​ความ​ตื่นตระหนก​ที่​มากเกินไป​ “ไม่…หยุด​เถิด​นาย​ท่าน​! หยุด​เถิด​! ข้า​เพียงแค่​ได้รับ​คำสั่ง​มาให้​ส่งสาร​เท่านั้น​! ข้า​ยัง​ไม่อยาก​ตาย​!”

 

นี่​คือ​อำนาจ​ของ​ขั้น​ฝู่จวิน​

 

มัน​คือ​ตัวตน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​รองลงมาจาก​ขั้น​พระ​ยม​ ตัวตน​ที่​สามารถ​ปกครอง​วิญญาณ​ครั้ง​มณฑล​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

 

“ข้า​ได้ยิน​เจ้า…เอ่ย​ชื่อ​ของ​ข้า​ที่​เมือง​หวู่​หยาง​” ขณะที่​ไร้​เงายังคง​กรีดร้อง​ออกมา​สุด​ปอด​ เขา​ก็​รู้สึก​ได้​ว่า​มีมือ​จำนวนมาก​โผล่​ออกมา​จากลำคอ​และ​ปาก​ของ​เขา​! มัน​แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​ใน​ร่าง​ของ​เขา​มีวิญญาณ​ร้าย​อาศัย​อยู่​ และ​มัน​ก็​พยายาม​อย่าง​สุดความสามารถ​เพื่อที่จะ​ทลาย​เปลือก​ที่อยู่​ด้านนอก​ออก​! มัน​เป็น​ภาพ​ที่​แปลกประหลาด​และ​น่าสะพรึงกลัว​อย่าง​มาก​!

 

“อึ​ก.​..อ่​อก.​..แค่​ก​ แค่​ก​ อั่กกก!!”​

 

ไร้​เงายังคง​ดิ้น​ไปมา ภายในใจ​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความกลัว​ และ​ร่าง​ของ​เขา​ก็​สั่นเทา​อย่าง​บ้าคลั่ง​ น่าเสียดาย​ที่​เขา​ไม่สามารถ​เปล่ง​คำพูด​อะไร​ออก​ไปได้​อีกแล้ว​เนื่องจาก​มือ​จำนวนมาก​ที่​ยื่น​ออก​มาจาก​ปาก​

 

“ข้า​เคย​บอก​เจ้าแล้ว​ว่า​ข้า​จะรู้​ได้​ทันที​หาก​มีผู้ใด​เอ่ย​ชื่อ​ของ​ข้า​ แต่​แม้ว่า​จะรู้​อย่างนั้น​…เจ้าก็​ยัง​เอ่ย​ชื่อ​ของ​ข้า​ออก​ไป?”

 

“ทำไม​?”

 

“และ​กับ​ผู้ใด​?”

 

“แถมเจ้ายัง​กล้า​กลับมา​ที่นี่​ทั้ง ๆ ที่​กระทำ​เช่นนั้น​ไปแล้ว​? ไร้​เงา…เจ้าคิด​จริง ๆ​ น่ะ​หรือว่า​ข้า​จะไม่กล้า​ทำ​อะไร​เจ้าเพียง​เพราะว่า​เจ้าคือ​ตุลาการ​นรก​?”

 

ทันใดนั้น​ ชาย​คน​ดังกล่าว​ก็​กรีดร้อง​ออกมา​สุดเสียง​ มือ​ขาวซีด​ที่​ทรมาน​ร่าง​ของ​ไร้​เงาอยู่​พลัน​สลาย​ไป และ​ลำแสง​สีทอง​ก็​ปะทุ​ออกมา​จากอก​ของ​ไร้​เงาพร้อมกับ​เสียง​ที่​ดังสนั่น​!

 

พรึ่บ​…

 

แสงสว่าง​สาดส่อง​ไปทั่ว​ทั้ง​ห้อง​ภายใน​ฉับพลัน​ สะท้อน​ให้​เห็น​ร่าง​ของ​ชาย​ที่อยู่​หลัง​ม่าน​เป็นครั้งแรก​

 

เขา​สวม​เสื้อคลุม​สีแดงเข้ม​ที่​ปัก​ด้วย​ลาย​ดอกไม้​สีขาว​และ​เข็มขัด​ที่​เข้าชุด​กัน​ ดาบ​หยก​ที่​ประดับ​ด้วย​พู่​ห้อย​อยู่​ข้าง​เอว​ ใบหน้า​ของ​เขา​ซีดเผือด​ ราวกับว่า​มัน​ไม่มีเลือด​ไหลผ่าน​เส้นเลือด​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ นอกจากนี้​ร่าง​ของ​เขา​ยัง​ผอมแห้ง​ราวกับ​กระดูก​ และ​มีเพียง​จุด​สีแดง​เล็ก​ ๆ สอง​จุด​อยู่​ที่​ดวงตา​เท่านั้น​

 

ใน​วินาที​นั้น​ ชาย​หลัง​ม่าน​ก็​อ้า​ปากกว้าง​และ​กรีดร้อง​ออกมา​อย่าง​โหยหวน​ขณะที่​พยายาม​หา​ที่​กำบัง​ตัวเอง​จาก​แสงประกาย​เจิดจ้า​ดังกล่าว​ “อ๊ากกกกก!!!!”​ โชคดี​ ที่​การ​ปะทุ​ของ​แสงนั้น​ผ่าน​ไปอย่าง​รวดเร็ว​ และ​ไม่กี่​เสี้ยว​วินาที​ถัดมา​ แสงทั้งหมด​จะถูก​ดึง​กลับ​ไปรวม​อยู่​ที่​กลาง​ห้อง​ ก่อน​จะก่อตัว​เป็น​เกล็ด​สีทอง​ที่​ยังคง​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​

 

“แฮ่ก.​..แฮ่ก.​..”

 

ม่าน​ที่​กระพือ​อย่าง​รุนแรง​กลับ​เป็นปกติ​อีกครั้ง​ ในขณะที่​เขา​กุม​เข้าที่​หน้าอก​ของ​ตัวเอง​ จ้องมอง​ไปยัง​เกล็ด​ที่​ยัง​ลอย​อยู่​บน​ฟ้าด้วย​ความ​ตกตะลึง​ หลังจาก​ผ่าน​ไปครู่ใหญ่​ เขา​ก็​กรีดร้อง​ออกมา​ “นี่​มัน​… ตะ​ ตี้ทิง​อย่างนั้น​หรือ​?!!!”

 

“เป็นไปได้​อย่างไร​?! เหตุใด​ตี้ทิง​ถึงยังอยู่​?! หาก​เขา​ยังอยู่​ เหตุใด​เขา​ถึงไม่ทำ​อะไร​สัก​อย่าง​เกี่ยวกับ​เขา​?! นี่​มัน​เป็นไปไม่ได้​!!”

 

เขา​กรีดร้อง​และ​พูด​กับ​ตัวเอง​ราวกับ​คน​เสียสติ​ ความหวาดกลัว​ที่​มีต่อ​ยมโลก​แห่ง​เก่า​ผุด​ขึ้น​มาจาก​ส่วนลึก​ของ​จิตใจ​ มัน​เป็น​ฝันร้าย​ที่​เขา​อยาก​จะทิ้ง​ไว้​ใน​อดีต​ และ​เขา​ก็​ไม่ต้องการ​ที่จะ​เผชิญหน้า​กับ​สิ่งที่​น่าสะพรึงกลัว​เช่นนั้น​อีก​!

 

ยมโลก​แห่ง​เก่า​มียมทูต​อยู่​มากมาย​ และ​ยัง​ประกอบ​ไปด้วย​ฝู่จวิน​ พระ​ยม​แห่ง​พระตำหนัก​ทั้ง​สิบ​ รวมถึง​ราชันย์​วิญญาณ​ทั้ง​หก​ที่​เดิน​เตร่​ไปทั่ว​ทั้ง​ดินแดน​ ตัวตน​เหล่านี้​ล้วน​สามารถ​ดึง​เขา​กลับ​ไปยัง​พื้นดิน​ที่​เขา​เคย​ถูก​ทรมาน​มาหลาย​ชั่วอายุคน​ได้​!

 

และ​นี่​…ก็​เป็น​เกล็ด​ของ​หนึ่ง​ใน​ตัวตน​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​ยมโลก​แห่ง​เก่า​ สัตว์เลี้ยง​ที่​น่ารัก​ของ​พระ​กษิ​ติ​ครรภ์​โพธิสัตว์​ ตี้ทิง​ อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

 

กึก​ กึก​ กึก​…

 

ฟัน​ของ​เขา​เริ่ม​กระทบ​กัน​ขณะที่​เขา​ยังคง​จับจ้อง​ไปที่​เกล็ด​ที่​ยัง​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ ร่าง​ของ​เขา​โค้ง​งอ​เล็กน้อย​ พร้อม​ที่จะ​ลงมือ​ทันทีที่​สังเกตเห็น​สิ่งผิดปกติ​ แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​เขา​คือ​เม่น​ที่​ได้​พบ​กับ​นัก​ล่า​ที่​ดุร้าย​ไม่มีผิด​

 

เขา​มีความคิด​ที่จะ​หนี​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​เช่นนั้น​ทำได้​ ดังนั้น​เขา​จึงทำได้​เพียง​จ้องมอง​มัน​ต่อไป​เป็น​ระยะเวลา​กว่า​สิบ​นาที​ จนกระทั่ง​พบ​ว่า​เกล็ด​ดังกล่าว​เพียงแค่​เปล่งแสง​สีทอง​ออกมา​ จากนั้น​ เขา​ก็​ผ่อนคลาย​ความเครียด​และ​นั่งลง​บน​บัลลังก์​ตามเดิม​

 

แกร็ก!​

 

แต่​ทันทีที่​เขา​ทำ​เช่นนั้น​ บริเวณ​อก​ช่วง​ล่าง​ของ​เขา​ก็​แยก​ออก​ เผย​ให้​เห็น​ช่องว่าง​ขนาดใหญ่​อยู่​ที่​กลา​งอก​

 

ร่าง​ของ​ทารก​ที่​เปียกโชก​ไปด้วย​น้ำ​ของ​ศพ​ได้​ยื่นหน้า​ออกมา​ ดวงตา​ของ​เขา​ลุกโชน​ด้วย​เปลวไฟ​นรก​สีแดง​ พร้อมกับ​เสียง​กรีดร้อง​ที่​แหลม​สูง เด็กทารก​เปิดปาก​ออก​ และ​ลิ้น​ของ​เขา​ก็​พุ่ง​ออก​ไปราวกับ​สายฟ้า​ พัน​รอบ​ลำคอ​ของ​ไร้​เงาและ​ดึง​ร่าง​ของ​อีก​ฝ่าย​เข้า​มาหา​ตัว​

 

“เขา​พูดว่า​อย่างไร​?!” ทารก​คน​นั้น​กัดฟัน​แน่น​ “บอก​ข้า​มาให้​ละเอียด​ อย่า​ปกปิด​แม้แต่​นิดเดียว​…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด