ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก 410 แค่คุณบอกว่าให้ตัดใจ แปลว่าผมต้องทำได้เหรอ
ตอนที่ 410 แค่คุณบอกว่าให้ตัดใจ แปลว่าผมต้องทำได้เหรอ
ตอนที่ 410 แค่คุณบอกว่าให้ตัดใจ แปลว่าผมต้องทำได้เหรอ
หนึ่งวันก่อนที่คน 3,000 ชีวิตจากฉางจิงจะมาถึงเถาหยาง สัตวแพทย์ที่ยืมตัวมาจากเวินม่านก็มาถึงไล่เลี่ยกัน
เธอรีบไปพาตัวเขาเข้ามาที่ห้อง เปิดประตูห้องของล่าเจียวแล้วอุ้มตัวมันออกมา โดยที่เฮยจือหม่าเดินตามหลังมาและส่งเสียงเงี้ยวง้าวไม่หยุด
เมื่อล่าเจียวเห็นคนแปลกหน้าเข้ามา มันก็แสดงท่าทีต่อต้านและเริ่มมีอาการคลุ้มคลั่งทำร้ายคนแปลกหน้า
คราวนี้การปลอบโยนของซูเถาก็ไม่ได้ผล จึงทำได้เพียงกดตัวมันเอาไว้ และพูดอย่างเป็นห่วง
“หมอคะ ช่วยฉันดูที่ท้องของมันหน่อย เหมือนว่าท้องมันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ มันคงไม่ได้เป็นโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในแมวใช่ไหม”
“ช่างเป็นลูกแมวที่ดุร้าย ช่วยพลิกท้องของมันขึ้นดูหน่อย” สัตวแพทย์บ่นอุบ
ซูเถาทำตามที่หมอบอก จับล่าเจียวหงายให้หมอดู เผยให้เห็นหน้าท้องที่มีรอยช้ำของมัน
สัตวแพทย์ขมวดคิ้ว พร้อมกับมองไปที่ซูเถาเพราะว่าเขาพบสิ่งผิดปกติ
“ฉันไม่ได้ทำให้มันได้รับบาดเจ็บนะคะ มันเป็นอยู่แล้ว” ซูเถาชี้แจงอย่างร้อนรน
สัตวแพทย์พยักหน้า แล้วเริ่มทำการตรวจสอบ จากการตรวจอาการล่าเจียวอย่างระมัดระวังแล้ว หมอก็ยิ้มและพูดว่า
“ดูเหมือนว่ามันจะตั้งครรภ์ แนะนำให้ไปอัลตราซาวด์ดูจะดีกว่า”
“ท้องเหรอ?” ซูเถาเบิกตากว้าง
เธอมองไปที่ล่าเจียว จากนั้นมองไปที่หั่วเยี่ยนที่กำลังข่วนกระจกในห้องแมว และในที่สุดสายตาของเธอก็จับจ้องไปที่เฮยจือหม่าที่กำลังกรีดร้อง
ไม่นะ ไม่นะ
หลังจากคลอดหั่วเยี่ยน นี่ก็เพิ่งผ่านมาสามสี่เดือนเอง มันตั้งท้องอีกแล้วเหรอ และน่าจะตั้งท้องลูกของเฮยจือหม่า
สุดท้ายนอกจากเฮยจือหม่าแล้ว เถาหยางก็ไม่มีแมวตัวผู้ตัวอื่นเลย
สัตวแพทย์พยักหน้า
“ถ้าไม่ทำหมัน แมวตัวเมียจะติดสัดเร็วและตั้งท้องได้ ควรทำหมันหลังคลอดจะดีกว่า มันไม่ดีสำหรับแม่แมวที่มีลูกมากเกินไป อย่างไรก็ตามหมอเห็นว่าคุณมีแมว 2 ตัวแล้ว หมอพอจะมีเวลาพอดี ให้หมอช่วยจัดการเลยดีไหม”
ซูเถารู้สึกว่าสิ่งที่หมอพูดก็มีเหตุผล
ดังนั้นเมื่อเฮยจือหม่าตื่นขึ้น ก็จะพบว่าอัณฑะของมันได้หายไปแล้ว
ส่วนไป๋จือหม่าไม่ได้สังเกตอะไร หลังจากยาชาหมดฤทธิ์มันก็กินอาหารได้เหมือนเดิม
ซูเถานำตัวล่าเจียวไปหาเสิ่นเวิ่นเฉิงที่ฐานทดลอง เพราะว่าเขามีเครื่องอัลตราซาวด์ หลังจากตรวจสอบพบว่าล่าเจียวมีลูกถึง 7 ตัวอยู่ในท้อง
ซูเถาไม่อยากจะเชื่อ เธอนับแล้วนับอีก และดูเหมือนว่ามี 7 ตัวจริง ๆ แต่อายุครรภ์ยังน้อย เธอจึงยังไม่กล้าสรุป
ซูเถาส่งไปบอกเวินม่านที่กำลังเข้าร่วมงานแต่งงานที่บ้านตระกูลเซียว ว่าล่าเจียวกำลังจะมีลูก
เวินม่านที่กำลังกัดฟันและพูดคุยกับกลุ่มสตรีมีฐานะคนอื่น ๆ ก็ร้อง “ว้าว” ขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อได้รับข่าว
เธอผละตัวออกมาจากกลุ่มสตรีมีฐานะ จากนั้นก็ถกกระโปรงขึ้นและเดินปลีกตัวออกไปคุยโทรศัพท์กับซูเถา
“จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้น…คราวนี้ฉันขอเอากลับไปเลี้ยงสักตัวได้ไหม” เธอมีความสุขมากและเอ่ยถามอย่างระแวดระวัง
“รอให้มันคลอดก่อนแล้วคุณค่อยมาที่เถาหยาง ถ้าล่าเจียวไม่ข่วน คุณก็สามารถขโมยไปได้อย่างเงียบ ๆ มันคงไม่ได้นับหรอกมั้ง คงไม่ทันรู้ว่าลูกหายไป” ซูเถากล่าวเคล้ารอยยิ้ม
แน่นอนว่าทัศนคติของล่าเจียวที่มีต่อเวินม่านดีขึ้นมากแล้ว อีกอย่างมันก็ไม่ข่วนเธออีกแล้วด้วย อย่างมากก็แค่ขู่ครั้งสองครั้ง เป็นไปไม่ได้ที่ซูเถาจะเลี้ยงลูกแมวจำนวนมากด้วยตัวเอง ดังนั้นการให้ม่านม่านดูแลลูกแมวน่าจะดีกว่า
เวินม่านพยักหน้ารัว ๆ การแสดงออกของเธอนั้นเต็มไปด้วยความเริงร่า
บรรดาสตรีมีฐานะที่อยู่อีกด้านหนึ่งมองหญิงสาวที่กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ จากนั้นก็เริ่มซุบซิบกันว่าคุณเวินน่าจะมีความสุขมากกับบางสิ่ง
……
ล่าเจียวได้รับการดูแลอย่างดี และซูเถาก็ยังได้เรียนรู้จากสัตวแพทย์ด้วยว่าควรเตรียมห้องคลอดและชุดทำคลอดสำหรับล่าเจียว
สัตวแพทย์ยังบอกอีกว่าให้รอจนกว่าล่าเจียวจะคลอดลูก เขาค่อยเดินทางกลับ
ซูเถาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่เช่นนั้นเธอคงกังวลใจไม่น้อย เพราะหากมันคลอดยาก เธอที่เป็นมือใหม่ก็คงทำอะไรไม่ถูก หากมีอะไรเกิดขึ้นอาจสูญเสียทั้งแปดชีวิต
ในเวลานี้เครื่องสื่อสารก็ดังขึ้น และทันทีที่ซูเถาเชื่อมต่อ เสียงชายที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากปลายสาย
“คุณโทรมาหาผมตั้งหลายครั้งมีเรื่องอะไรเหรอ เรากำลังเดินทางและมันก็ไม่มีสัญญาณจนกระทั่งเรามาถึงโส่วอัน”
เป็นเหลยสิงที่โทรกลับมา
ซูเถานึกถึงภาพในการทำนาย และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว
“คุณสบายดีไหม?”
โชคดีที่ฮว่าผีถูกจับได้ก่อนที่เธอจะพบกับเหลยสิง และเธอก็ถูกขังอยู่ที่เถาหยาง
ถ้ามันเป็นตามคำทำนาย เป็นไปได้มากว่าเหลยสิงในเวลานี้น่าจะตกเป็นเป้าหมายของฮว่าผี ไม่ว่าเหลยสิงจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถสู้กับซอมบี้กลายพันธุ์ที่สามารถทำลายเมืองได้
ทว่าครั้งนี้ได้เจียงถงเป็นผู้เสียสละตัวเองเพื่อให้จับตัวฮว่าผีได้
เหลยสิงนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
นับตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉู่หมิงในการประชุมสุดยอดพันธมิตร เขาก็ไม่ได้ติดต่อเธออีกเลย
ในแง่หนึ่งเขารู้สึกละอายใจ ในทางกลับกันเขาเริ่มกลับมาทบทวนตัวเอง
ก่อนหน้านั้นเขารบกวนเธอครั้งแล้วครั้งเล่า และถูกเธอปฏิเสธ แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้และทำให้เธอลำบากใจ ทำให้เธอถูกคนอื่นเข้าใจผิด จนฉู่หมิงเคียดแค้นและเกือบทำให้เธอแปดเปื้อน…
สิ่งเหล่านี้ยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเขา ทำให้เขาละอายใจที่จะเผชิญหน้ากับเธอ
แม้ว่าในภายหลังเขาจะบุกไปตระกูลฉู่เพื่อเอาความและทำลายความคิดทั้งหมดของฉู่หมิง แต่เขาก็ไม่มีความกล้าหาญที่จะโทรไปพูดอะไรสักคำกับซูเถา
เขามัวแต่คิดแบบนี้ จนเป็นซูเถาเองที่ริเริ่มจะโทรหาเขาก่อน
สุดท้ายเขาก็ไม่ได้รับสายเพราะอยู่ในระหว่างเดินทาง
เมื่อเขาเห็นสายที่ไม่ได้รับจำนวนมาก ปฏิกิริยาแรกของเขาคือมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับซูเถาและหากหั่วเสอและคนอื่น ๆ ไม่ห้ามเขา เขาคงรีบกลับไปที่เถาหยางและทิ้งทีมของเขาไว้ที่นี่
สุดท้ายต้าจุ่ยก็เป็นคนบอกให้เขาสงบลง และให้รีบโทรกลับก่อน มันคงยังไม่สายเกินไปที่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะรีบกลับไป
“ผมจะมีเรื่องอะไรได้? แล้วคุณล่ะ สบายดีไหม? ผมตกใจแทบตายที่เห็นสายโทรเข้ามากมายขนาดนี้”
“ฉันโทรหาหลายครั้งเพราะฉันกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับคุณหรือเปล่า คุณสบายดีก็โอเคแล้ว ส่วนฉันทางนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร” ซูเถากล่าว
นี่เธอเป็นห่วงเขาเหรอ!
เหลยสิงดีใจมากจนหางของเขาสะบัดไปมา “เถาจื่อ?”
“ฉันแค่กลัวว่าคุณจะตาย แค่นั้น” ซูเถารีบพูด
ไม่ต้องกังวล เธอเสริมว่า
“เราเป็นเพื่อนกันฉันก็กลัวคุณตายสิ ถ้าเสวี่ยเตาตายฉันก็เสียใจเหมือนกัน นับประสาอะไรกับมนุษย์ที่มีชีวิตอย่างคุณ”
เหลยสิงรู้สึกเหี่ยวเฉาทันที
ซูเถาลดเสียงของเธอลง
“เหลยสิง คุณไม่คิดว่านี่เป็นการผูกมัดตัวเองเหรอ คุณเป็นคนที่รักในอิสระและไม่ชอบถูกควบคุม แต่ทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้ล่ะ”
“คุณก็พูดได้นิ ผมรักคุณ รู้สึกดีกับคุณ แค่คุณบอกว่าให้ตัดใจก็แปลว่าผมต้องทำได้เหรอ คุณบอกให้ปล่อย ผมก็จะปล่อยไปได้ง่าย ๆ งั้นเหรอ?” เหลยสิงพูดเสียงอู้อี้
ซูเถาหลับตาและยอมพูดทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย
“ก็ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ได้รักคุณ คุณบอกให้ฉันเปลี่ยนใจฉันจะเปลี่ยนได้เหรอ ถึงคุณจะมาก้มหัวขอให้ฉันรับรัก มันก็ไม่ได้ผล คุณต้องรู้จักตัดใจและเดินหน้าต่อไปให้เร็วที่สุด”
“คุณโหดร้ายจริง ๆ คำพูดเหล่านี้เหมือนกับต้องการจะแทงผมให้ตาย” เหลยสิงแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมา
ซูเถามีความมุ่งมั่นที่จะลำลายความคิดของเขา
“ฉันขอโทษ แต่มันก็ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เมื่อคุณตัดใจได้ เราก็กลับมาเป็นเพื่อนกันได้นะ”
เหลยสิงเงียบลง
แบบนี้มันก็หมายความว่า หากเขายังตัดใจจากเธอไม่ได้ แม้กระทั่งคำว่าเพื่อน…เขาก็จะไม่ได้เป็น
Comments