ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน 121 การประมูลจบสิ้น

Now you are reading ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน Chapter 121 การประมูลจบสิ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 121 การประมูลจบสิ้น

หลินยวนกล่าว “ไม่เคย”

ไม่เคยจริงๆ หรือนี่? หลัวคังอันตกใจ “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้? ในหลิงซานมีคนจงใจแกล้งนายเหรอ?”

หลินยวนตอบกลับมา “คะแนนไม่ดี ไม่เหมาะที่จะให้ทดสอบ”

“…..” หลัวคังอันพูดไม่ออกไปทันที พลันเข้าใจขึ้นมา คิดๆ ไปแล้วก็ใช่ คนที่เรียนมาสามร้อยปีแล้วยังเรียนไม่จบ คะแนนต้องแย่แค่ไหน เพียงแค่คิดดูก็พอจะรู้ได้ ใครมันจะไปกล้าให้คนแบบนี้ทำการทดสอบง่ายๆ ล่ะ?

แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ามันก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าคนผู้นี้ปิดบังความสามารถเอาไว้ ไม่อย่างนั้นด้วยความสามารถเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่จบจากหลิงซาน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาจึงอดถามหยั่งเชิงออกไปไม่ได้ “น้องหลิน ทำไมนายถึงต้องปิดบังความสามารถของตัวเองด้วยล่ะ?”

หลินยวนเหลียวหน้ากลับมา จ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “นับแต่วันนี้เป็นต้นไป จำเอาไว้ เรื่องที่ไม่ควรถามก็อย่าได้ถาม”

“….” หลัวคังอันพูดไม่ออกอีกครั้ง เอาล่ะ คนผู้นี้ลงมือโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก หักกระดูกเขาได้อย่างง่ายๆ ไม่พูดแล้วละกัน

หลังรอคอยไปครู่หนึ่ง แผ่นน้ำแข็งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสลายตัวไป

ในตอนที่หลัวคังอันเริ่มหาวออกมา จู่ๆ ใต้พื้นดินพลันมีเสียงครืนๆ ดังขึ้นมา

ทั้งสองคนยังไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เบื้องล่างแผ่นน้ำแข็งพลันเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา วัตถุสีดำขนาดมหึมาอย่างหนึ่งได้ทะลวงผ่านพื้นดินออกมา ทลายแผ่นน้ำแข็งหนาๆ จนพลิกเปิด

ท่ามกลางเศษน้ำแข็งที่กระจัดกระจายเต็มท้องฟ้า สัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ตัวหนึ่งได้คลานออกมาจากด้านล่าง ร่างกายห่อหุ้มไว้ด้วยหินและดิน ส่ายศีรษะสะบัดหางไปมา ดวงตาสาดแสงสีเหลือง เปล่งเสียงคำราม ‘ก๊าสสสส’ จนสั่นสะเทือนไปทั่วท้องฟ้า เศษดินที่อยู่บนร่างฟุ้งกระจาย นั่นคือสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่ก่อตัวขึ้นมาจากหินและดิน

เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้าของมันดูคล้ายถั่วลิสงอย่างไรอย่างนั้น

ลมหายใจที่พ่นออกมาของมันคือพายุทรายที่คลุ้มคลั่ง มันก้มลงมองดูเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินที่เล็กจ้อย จู่ๆ พลันส่งเสียงคำรามดัง ‘ก๊าสสสส’ ออกมาอีกครั้ง พายุทรายถูกพ่นออกมาอย่างต่อเนื่อง โจมตีเข้าใส่เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินที่ยืนอยู่ภายในพายุทรายอย่างรุนแรง

การกัดกร่อนอย่างต่อเนื่องจากพายุทรายนั้นทำให้อักขระที่ปรากฏขึ้นมาบนร่างเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินเปล่งแสงสว่างออกมา แล้วก็ทำให้หลินยวนเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยด้วย

ทันใดนั้นเอง เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินพลันพุ่งตัวเฉียงๆ ขึ้นไป

“ก๊าสส…” สัตวประหลาดยักษ์คล้ายเปล่งเสียงร้องที่เศร้าสร้อยออกมา

เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินพุ่งฝ่าพายุทรายเข้าไปในปากของมัน ทะลวงศีรษะของมันออกไปราวลูกธนูอันแหลมคม เศษดินเศษหินบนศีรษะระเบิดออก

สัตว์ประหลาดที่ส่งเสียงร้อยโหยหวนสะบัดหางและศีรษะอย่างแรง เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าหมุนตัวกลับมา สะบัดทวนหมายจะพุ่งลงมาอีกครั้งหนึ่ง

“น้องหลิน ฆ่าไม่ตายหรอก ต่อให้ฆ่ายังไงมันก็เกิดขึ้นมาใหม่ได้อยู่ดี พายุทรายที่มันสร้างขึ้นมาก็เป็นการทดสอบพลังป้องกันของเทพมหาวิญญาณ ทนๆ ไปเถอะ…” หลัวคังอันที่นั่งอยู่ในที่นั่งผู้ช่วยรีบเอ่ยเตือนขึ้นมา

แต่เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินก็ยังหยุดโจมตี พุ่งลงไปด้านล่างเหมือนดาวตก

ตู้ม! โจมตีเข้าใส่อย่างรุนแรง คอของสัตว์ประหลาดระเบิดออก คอถูกโจมตีจนขาดสะบั้น ศีรษะขนาดใหญ่ร่วงตกลงไปที่พื้น แตกกระจายกลายเป็นเศษดินและเศษหินในพริบตา

เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินเองก็ลงมายืนที่พื้น ทวนพาดเฉียงๆ ลงเบื้องล่าง แหงนหน้ามองขึ้นไปด้านบน

สัตว์ประหลาดยักษ์ใหญ่ที่เสียศีรษะไปกลับไม่ล้มลง หากแต่เกิดแรงดึงดูดที่แปลกประหลาดขึ้นมาสายหนึ่ง

เศษดินและเศษหินที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น แล้วก็เศษดินและเศษหินที่อยู่รอบๆ ไหลขึ้นมาอย่างรวดเร็วราวกระแสน้ำ ถูกดูดเข้าไปยังร่างของสัตว์ประหลาดอย่างรวดเร็ว

สัตว์ประหลาดยักษ์สะบัดหาง ขยับร่างกายไปมา ตรงตำแหน่งที่คอขาดมีลำคองอกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็มีศีรษะขนาดใหญ่งอกขึ้นมาใหม่อีกศีรษะหนึ่ง

ในตอนที่ดวงตาทั้งสองข้างลืมขึ้นมา ในตอนที่แสงสีเหลืองเปล่งประกายขึ้นมาอีกครั้ง มันก้มหน้าพร้อมเปล่งเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวอีกครั้ง พ่นพายุทรายออกมาอีกครั้ง

ครั้งนี้ เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินยืนอยู่เฉยๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ปล่อยให้อักขระป้องกันที่เปล่งแสงอยู่บนร่างกายรับการโจมตีจากพายุทรายไป

เสียงเสียดสีของเม็ดทรายและเศษดินเศษหินดังสนั่น แสบแก้วหูเป็นอย่างมาก

หลังทนรับการโจมตีไปครู่หนึ่ง หลินยวนก็พบว่าการโจมตีของพายุทรายนี้แม้จะดูเหมือนเรียบง่าย แต่หากปล่อยให้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มันกลับทำให้เทพมหาวิญญาณสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมากทีเดียว

โชคดีที่เพื่อการประมูลครั้งนี้แล้ว หอการค้าตระกูลฉินได้เก็บสำรองหินวิญญาณพลังงานเอาไว้ในเทพมหาวิญญาณเป็นจำนวนมากพอ

ในตอนที่ทำการทดสอบด่าน ‘หล่อหลอมกายา’ ก่อนหน้านี้ หินวิญญาณพลังงานที่ถูกใช้ไปจนหมดได้ถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดไปครั้งหนึ่งแล้ว

พายุทรายกระหน่ำโจมตีอยู่เป็นเวลานาน ในตอนที่หลินยวนไม่รู้ว่ายังต้องอดทนต่อไปอีกนานเท่าไร เขาพบว่าสัตว์ประหลาดดินหินได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา สีสันบนตัวของมันค่อยๆ เปลี่ยนไป ค่อยมีประกายโลหะปรากฏขึ้นมา

เมื่อสังเกตดูดีๆ หลินยวนถึงได้พบว่ามีสิ่งที่ดูเหมือนโลหะกำลังแยกตัวออกมาจากในดินและหินไม่หยุด ถูกดึงออกมาจากในพื้นดิน ทยอยถูกดูดเข้าไปในร่างของสัตว์ประหลาดยักษ์

นี่คือการแทนที่อย่างค่อยเป็นค่อยไป หินและดินค่อยๆ ถูกขับออกไป จนสุดท้ายสัตว์ประหลาดดินหินได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดโลหะขนาดใหญ่ยักษ์ตัวหนึ่ง

พายุทรายที่พ่นออกมาจากในปากของสัตว์ประหลาดก็กลายเป็นพายุโลหะ

อานุภาพการโจมตีของพายุโลหะที่ยังคงดำเนินอยู่นี้รุนแรงกว่าพายุทรายก่อนหน้านี้มากนัก การเสียดสีที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่จะทำให้เทพมหาวิญญาณสูญเสียพลังงานไปมากกว่า แต่เสียงเสียดสีที่แสบแก้วหูของโลหะก็ยังรุนแรงเป็นอย่างมากด้วย กระทั่งคนที่อยู่ภายในห้องควบคุมก็ยังรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านขึ้นมาเมื่อฟังนานเข้า

หลินยวนเชื่อหลัวคังอัน ทนรับการโจมตีไปเรื่อยๆ

เมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป สัตว์ประหลาดโลหะคล้ายจะยิ่งหงุดหงิดขึ้น จู่ๆ มันพลันหยุดพ่นพายุโลหะออกมา เท้าทั้งสองข้างกระทืบลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง

พื้นดินสั่นสะเทือนขึ้นมาเหมือนผิวกลอง เกิดเสียงตึงๆ ดังสนั่น เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินที่ยืนอยู่บนพื้นถูกกระแทกจนสั่วไหวขึ้นมา

ทันใดนั้นเอง พื้นดินที่แตกร้าวพลันพังถล่ม เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินกับสัตว์ประหลาดร่วงตกลงไปด้านล่าง คล้ายตกลงไปในหุบเหวลึก

ที่เบื้องล่างหุบเหว เปลวเพลิงที่แสบตากำลังเผาไหม้อย่างคลุ้มคลั่ง นั่นคือทะเลสาบลาวาขนาดใหญ่ คลื่นความร้อนตลบอบอวล มีฟองลาวาที่ปูดนูนขึ้นมาแตกออกเป็นระยะ

ตู้ม! มังกรลาวาขนาดใหญ่ยักษ์ตนหนึ่งโบยบินออกมา รัดสัตว์ประหลาดโลหะที่ร่วงตกลงมาเอาไว้

สัตว์ประหลาดที่พยายามดิ้นรนค่อยๆ หลอมละลายกลายเป็นโลหะเหลวด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ร่างกายที่ละลายกลายเป็นโลหะเหลวอันร้อนระอุไหลหยด อวัยวะที่แยกหลุดออกตกลงไปในทะเลสาบลาวาที่อยู่เบื้องล่าง

เมื่อได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้านี้ หลินยวนถึงกับลอบรู้สึกตกใจกับการจัดการของทางสถาเซียน เพียงแค่พลังงานที่ต้องใช้ในข่ายพลังนี้ จะเห็นได้เลยว่าทางสภาเซียนทุ่มเงินลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว

พลังงานที่มหาศาลขนาดนี้เพียงพอให้สร้างข่ายพลังสังหารที่ใหญ่โตอย่างมากออกมาได้เลยทีเดียว

แต่แน่นอน ด้วยทรัพยากรทางการเงินของทางสภาเซียนแล้ว ค่าใช้จ่ายเพียงเท่านี้ไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่น้อย

เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินลงมายืนบนเกาะแห่งหนึ่งที่อยู่ในทะเลสาบลาวา โลหะเหลวที่หลอมละลายหลุดออกมาจากร่างของสัตว์ประหลาดที่อยู่ด้านบนยังคงร่วงหยดลงมา

มังกรลาวาที่แหวกว่ายอยู่ในอากาศอ้าปากกางเล็บ พุ่งลงมายังเบื้องล่าง

เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินเหวี่ยงทวนป้องกันด้วยมือข้างเดียว ตู้ม! ป้องกันการโจมตีอันรุนแรงของมังกรเพลิงเอาไว้ได้ ภายในหุบเหวสั่นสะเทือนขึ้นมา ทะเลสาบลาวาถูกสั่นสะเทือนจนเกิดเป็นคลื่นกระเพื่อม

เพียงพริบตา มังกรยักษ์พังทลาย ไหลทะลักลงมาด้านล่าง ห่อหุ้มเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินเอาไว้ ลาวาที่หลอมละลายเดือนพล่านอยู่บนร่าง

เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินที่อยู่ในลาวาอันร้อนระอุไม่ได้ทำการขัดขืนใดๆ หลินยวนฟังคำเตือนของหลัวคังอัน ใช้พลังงานในการป้องกันของเทพมหาวิญญาณเผชิญหน้ากับการทดสอบอันร้อนระอุนี้

…..

ภายในฉากแสงมีภาพสะท้อนจากในข่ายพลังปรากฏขึ้นมา สำหรับคนทั่วๆ ไปในโลกด้านนอกแล้ว ภาพเหตุการณ์นี้น่าตกตะลึง พวกเขารู้สึกเพียงแค่ว่ามันอันตรายเป็นอย่างมาก

แต่สำหรับคนที่รู้เรื่องกลับรู้ว่านี่เป็นด่านทดสอบที่ง่ายที่สุดในบรรดาด่านทดสอบทั้งสามแล้ว เพราะว่าข่ายพลังหมื่นฤทธานี้คล้ายว่าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำการทดสอบเท่านั้น มิได้สร้างขึ้นมาเพื่อสังหาร

ข่ายพลังหมื่นฤทธาทำการทดสอบด่านแล้วด่านเล่า ในตอนที่เจ้าแคว้นหนานหรูเดินออกมาจากในตำหนักด้านหลังมานั่งลงยังบัลลังก์บนแท่นอีกครั้ง เลขาธิการกลางซุนฉีซั่งก็ได้เป็นตัวแทนหนานหรูที่มีอำนาจในการตัดสิน ใช้พลังป่าวประกาศว่า “การประมูลจบสิ้นลงแล้ว”

ภายในลานประมูลตกอยู่ในความเงียบ สีหน้าของประธานหอการค้าจำนวนมากดูแย่

เทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินที่อยู่ในฉากแสงก็เดินออกมาจากในข่ายพลังหมื่นฤทธาแล้ว

เมื่อเห็นเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินผ่านการทดสอบด่านแล้วด่านเล่ามาได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งได้ยินเสียงประกาศว่าการประมูลได้จบสิ้นลงแล้ว ฉินอี๋เรียกได้ว่าแทบจะควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ สองมือกำแน่นแล้วชูขึ้นมาอย่างสะใจ บนใบหน้าเปล่งประกายด้วยรอยยิ้มที่เบิกบานเหมือนดอกไม้ ฟันขบริมฝีปาก เท้าทั้งสองข้างกระทืบพื้นไม่หยุดเพื่อระบายความรู้สึกตื่นเต้นภายในใจ

หนานชีหรูอันที่เพิ่งจะเหลียวหน้ากลับมาเพื่อแสดงความยินดีกับเธอตกตะลึง จ้องมองดูท่าทีและรอยยิ้มของเธออย่างเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นฉินอี๋เผยสีหน้าท่าทางยินดีเหมือนเด็กผู้หญิงตัวน้อยเช่นนี้ ประกอบกับบุคลิกของฉินอี๋แล้ว เรียกได้ว่าให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

“คุณชาย” ฉิงชุ่ยที่เหลือบมองซ้ายมองขวาผลักแขนของหนานชีหรูอันด้วยความรู้สึกหึงหวงเล็กน้อย

หนานชีหรูอันได้สติกลับมาทันที ยิ้มพลางกล่าวกับฉินอี๋ว่า “ประธานฉิน ยินดีด้วยครับ”

ฉินอี๋ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกยินดีหันหน้ากลับมา สะกดอารมณ์ความรู้สึกที่ปลดปล่อยออกมาเอาไว้อย่างรวดเร็ว กลับไปเป็นประธานฉินที่สุขุมเยือกเย็นคนเดิม พยักหน้าเล็กน้อย

…..

หลังเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินออกมาจากข่ายพลังหมื่นฤทธา เขาก็ถูกคนพาไปยังสถานที่ที่กำหนดเอาไว้ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

ภายในตัวเทพมหาวิญญาณ หลินยวนได้ออกมาจากตำแหน่งผู้ควบคุมหลักแล้ว เดินเข้าไปหาหลัวคังอัน

หลัวคังอันเองก็ลุกออกมาจากที่นั่งผู้ช่วย โบกไม้โบกมืออย่างตื่นเต้น “น้องหลิน ขอเพียงประธานฉินไม่กลับคำพูด พวกเราก็ได้พันล้านมุกมาอยู่ในมือแล้ว”

หมัดหนึ่งปล่อยออกไป หลินยวนลงมือโดยไม่มีลางบอกเหตุใดๆ ต่อยไปที่บั้นเอวของเขา

“อ้ากก!” หลัวคังอันที่ไม่มีการป้องกันใดๆ ร้องโหยหวน ร่างของเขากระเด็นออกไป กระแทกเข้ากับกำแพง ร่วงตกลงมาที่พื้น เจ็บปวดจนแยกเขี้ยวออกมา

หมัดนี้ไม่ถือว่ารุนแรงมากนัก แต่ตำแหน่งที่ต่อยลงไปคือตำแหน่งกระดูกตรงบั้นเอวที่หักไปแล้วของเขา

กระดูกที่หลายวันนี้ใช้พลังรักษาจนดีขึ้นมาเล็กน้อยหักลงอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นยังหักได้รุนแรงเสียยิ่งกว่าครั้งแรก ทำเอาลูกตาของเขาเกือบจะถลนออกมา

“นายบ้าไปแล้วเหรอ?” หลัวคังอันเอามือกุมกระดูกเอาไว้พร้อมสูดปาก พยายามกระเสือกกระสนลุกขึ้นมาพร้อมส่งเสียงตะโกน

หลินยวนยกเท้าขึ้นมา เหยียบไปบนหัวไหล่ของเขา เหยียบเขาที่กำลังจะลุกขึ้นมาให้กลับลงไปที่พื้นใหม่อีกครั้ง จากนั้นยกฝีเท้า ย้ายมาเหยียบตรงตำแหน่งกระดูกที่หักของเขา ก้มลงมองพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นายกับเสวี่ยหลานคนนั้นทำอะไรกัน?”

ทำไมเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินถึงแขนขาดไปข้างหนึ่ง เขาไม่อยากจะซักไซ้ไล่ถามในเรื่องนี้ สิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ในตอนนี้คืออีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือหลัวคังอันถูกเสวี่ยหลานเกลี้ยกล่อมให้หักหลังไปแล้วหรือไม่?

หากหลัวคังอันรู้เรื่องนี้ก่อนล่วงหน้า อีกทั้งย้ายไปอยู่กับฝั่งศัตรูของหอการค้าตระกูลฉินแต่แรกแล้ว อย่างนั้นเขาก็ได้แต่ต้องใช้อีกวิธีหนึ่ง เขาไม่มีทางปล่อยให้ความลับที่ว่าตัวเองเป็นคนควบคุมเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินเล็ดรอดออกไปได้

พูดอีกอย่างก็คือเขาไม่มีทางปล่อยให้หลัวคังอันเดินออกไปจากที่นี่อย่างมีสติได้

ตอนที่เขายังไม่ได้ควบคุมเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินเข้าร่วมการประมูล เรื่องบางเรื่องเขาสามารถแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ แต่ในเมื่อเขาลงมือแล้ว เรื่องบางเรื่องก็จำเป็นต้องทำให้กระจ่างชัด

หลัวคังอันเจ็บปวดจนทนไม่ไหว หน้าผากมีเหงื่อไหลซึมออกมา มือทั้งสองข้างยกข้อเท้าเขาเอาไว้ หลังใช้พลังขัดขืนเล็กน้อย เหงื่อเยียบเย็นก็ยิ่งผุดออกมามากขึ้นกว่าเดิม

การปะทะกันในครั้งนี้ยิ่งทำให้เขาแน่ใจ สภาวะขั้นปัญญากระจ่างบ้านมันสิ นี่มันแอบซ่อนความสามารถเอาไว้ชัดๆ สภาวะของอีกฝ่ายเหนือกว่าเขา ทำเอาเขาไม่สามารถตอบโต้กลับได้เลย

สายตาที่ฉายแววตกใจระคนสงสัยปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจนในดวงตาเขา เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายปิดบังสภาวะของตัวเองจากการตรวจสอบของหลิงซานและผู้พิทักษ์เมืองของเมืองปู๋เชวี่ยได้อย่างไร นี่มันคืออิทธิฤทธิ์อะไรกัน?

แล้วก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องเสวี่ยหลานขึ้นมาทำไม แต่ตัวเขาก็ดิ้นรนเก่งอย่างมากเช่นกัน “โอ้ย จะตายเอาได้นะ เบาหน่อยๆ เสวี่ยหลานอะไร? ฉันไม่เข้าใจว่านายพูดเรื่องอะไร?”

“ไม่เข้าใจ?” หลินยวนยกเท้าออก กระทั่งหลัวคังอันค่อยๆ ลุกขึ้นมาอย่างหวาดกลัว จู่ๆ เขาพลันลงมืออีกครั้ง ตะปบเข้าไปที่ลำคอของหลัวคังอัน ผลักอีกฝ่ายไปชนกำแพงแล้วยกขึ้นไป นิ้วทั้งห้าพลันออกแรง ทำเอากระดูกลำคอของหลัวคังอันส่งเสียงครึกๆ ขึ้นมา

หลัวคังอันเบิกตาโต รู้สึกว่าไม่สามารถหายใจได้ ที่อันตรายยิ่งกว่านั้นก็คือคออาจจะถูกหักได้ทุกเมื่อ เขาพยายามดิ้นรนตะเกียกตะกายอยู่กลางอากาศ ความรู้สึกหวาดกลัวต่อความตายฉายแววออกมาอย่างชัดเจนในดวงตาของเขา

…………………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *