ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 104 โรคปอดเรื้อรัง

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 104 โรคปอดเรื้อรัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 104 โรคปอดเรื้อรัง

ตอนที่ 104 โรคปอดเรื้อรัง

เขาปลาบปลื้มใจกับการเปลี่ยนแปลงของน้องสาว นางเติบโตแล้ว มีความสามารถแล้ว เขาก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่านางจะถูกรังแกอีก ทว่าอีกใจกลับรู้สึกหดหู่ น้องสาวคงไม่ต้องการเขาอีกต่อไปแล้ว และความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็น่าจะห่างไกลมากขึ้นเรื่อยๆ

เฉียวเยี่ยนจูงเด็กทั้งสองเดินไปหาเฉียวเยี่ยน และทักทายอย่างผ่อนคลายด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่ ท่านมาแล้วเหตุใดไม่ไปหาข้าล่ะ”

เฉียวจิ่นทำอะไรไม่ถูก เขาไม่คิดเลยว่าเมื่อน้องสาวเห็นเขาไม่เพียงแต่ไม่โกรธเท่านั้น แถมยังเริ่มคุยกับเขาก่อน มือเขาสั่นเทาเล็กน้อย ริมฝีปากขยับขมุบขมิบอยู่นาน สุดท้ายก็เอ่ยเพียงชื่อนางออกมา “เสี่ยวเยี่ยน…”

ครั้นเฉียวเยี่ยนได้ยินเสียงเรียกที่ทั้งแปลกและคุ้นเคย ก็รู้สึกขมขื่นอย่างมาก พี่ชายโง่เขลาคนนี้กลัวนางโกรธปานใดกัน

นางฝืนยิ้มออกมา กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหล และแสร้งทำเป็นดึงเด็กน้อยทั้งสองมาด้วยท่าทางผ่อนคลายพลางแนะนำให้เขา

“เด็กๆ นี่คือท่านลุงของพวกเจ้า พี่ชายของแม่ มา รีบเรียกท่านลุงเร็ว”

เด็กน้อยทั้งสองเชื่อฟังมาก และเรียกท่านลุงด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว พลางเงยหน้ามองสำรวจชายที่มีหน้าตาเหมือนมารดาเล็กน้อย

เฉียวจิ่นกับเฉียวเยี่ยนมีหน้าตาที่คล้ายกัน เขามีนิสัยอ่อนโยน หน้าตาดูนุ่มนวลกว่าบุรุษทั่วไป แต่ไม่ขี้ขลาดเหมือนเหล่าบัณฑิตหน้าหยก ติดเพียงว่าเขาผอมเกินไป แก้มซูบผอมจนเห็นสันกรามชัดเจน ร่างกายก็อ่อนแอบอบบาง

เฉียวจิ่นได้ยินเด็กทั้งสองเรียกจนทำอะไรไม่ถูก รีบยกมือคลำบริเวณอกครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่พบอะไรเหมาะสมที่จะนำมาเป็นของขวัญยามเจอหน้ากันเลย

เขาเอ่ยอย่างอับอาย “วันนี้ลุงไม่ได้พกของดีๆ ออกมาจากบ้านด้วย รอวันหน้าลุงจะนำของขวัญเจอหน้ากันให้พวกเจ้าทีหลังนะ”

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ดูออกว่าท่านลุงหมาดๆ ผู้นี้กำลังประหม่า จึงยื่นมือน้อยไปจับมือเขาไว้ และปลอบด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว “ท่านลุง อย่ากลัวไปเลยเจ้าค่ะ พวกเราเป็นเด็กดีมาก ไม่เอาของขวัญแล้ว ”

มือน้อยที่อ่อนนุ่มนั้นจับนิ้วของเขาอยู่ จนเฉียวจิ่นรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะลอย ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่ารักมากจริงๆ น่ารักเหมือนน้องสาวตอนเด็กเลย

เขาลูบดวงหน้าอวบอ้วนของเด็กน้อยอย่างรักใคร่ เผยรอยยิ้มที่มุมปากและเอ่ยเสียงเบา “ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ ”

หลังจากลูบเจ้าปลาอ้วนอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ลูบศีรษะของเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ เสี่ยวฉวนเอ๋อร์มีหน้าตาเหมือนท่านอ๋องซู่มาก แม้แต่นิสัยเย็นชานิ่งเงียบนั้นก็เหมือนมาก

เฉียวเยี่ยนพาเฉียวจิ่นเข้าไปในห้องของนาง และให้ฮุ่ยเซียงไปสั่งอาหารมาสักเล็กน้อย ทั้งสองไม่ได้เจอกันมานาน มีเรื่องที่ยังคุยไม่จบต้องคุย

เด็กน้อยทั้งสองกำลังป้อนอาหารให้แมวน้อย ในห้องครัวหลังของหอฮวาอวิ๋นมีนมแพะ เฉียวเยี่ยนจึงให้ฮุ่ยเซียงไปนำมาเล็กน้อย

แมวน้อยสีส้มที่ยังไม่ลืมตาเต็มที่ ได้กลิ่นหอมของนมก็แทบจะเอาศีรษะจุ่มเข้าไปในถ้วยอย่างทนไม่ไหว ดื่มจนบนหน้าบนหัวล้วนมีแต่คราบน้ำนม

ลูกทั้งสองถือผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กเช็ดคราบนมบนหัวของลูกแมว และป้อนมันอย่างระมัดระวัง เจ้าปลาอ้วนยังสอนให้มันไม่ให้รีบดื่มนม เหมือนที่เฉียวเยี่ยนดุนางทุกวัน

เฉียวเยี่ยนคุยกับเฉียวจิ่นไปด้วย และขบขันกับการกระทำของเด็กทั้งสองไปด้วย

“ช่วงนี้ท่านแม่สบายดีหรือไม่เจ้าคะ?”

“สบายดีมาก”

เฉียวจิ่นตอบอย่างไม่ลังเล แต่เฉียวเยี่ยนรู้ว่าคำตอบส่วนมากเป็นการหลอกนาง สตรีที่ไม่ถูกโปรดปรานอาศัยอยู่ในส่วนลึกของจวนจะมีชีวิตดีแค่ไหนกัน บางครั้งแม้แต่จะมีชีวิตอยู่ต่อยังลำบากเลย

แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ค่อยหาเวลาไปเยี่ยมดูบ้างดีกว่า

หลังจากป้อนนมให้แมวน้อยแล้ว เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็อุ้มเจ้าแมวน้อยกล่อมมันหลับ จากนั้นตัวเองก็ไปซุกอยู่ในอ้อมกอดของท่านลุงคนใหม่

เฉียวจิ่นกอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน พลางหลุบตามองนางกล่อมลูกแมวน้อยที่อายุน้อยกว่านาง ภาพนี้ทำให้หัวใจของเขาอ่อนระทวย

ไม่นาน พวกเสี่ยวเอ้อร์ก็ยกอาหารเข้ามา หลังจากฮุ่ยเซียงออกไปจากห้อง ก็ไปหาที่กินอยู่ในห้องครัวหลัง ไม่รบกวนสองพี่น้องพูดคุยกัน

เฉียวเยี่ยนรู้ว่าเฉียวจิ่นร่างกายไม่ค่อยดี จึงตั้งใจสั่งอาหารอ่อนและของบำรุงสองสามอย่างมาให้เขา

นางถือช้อนตักน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมให้เขาหนึ่งถ้วย สีน้ำแกงเป็นสีเหลืองทองดูดีมาก ไขมันที่ลอยอยู่บนนั้นถูกขจัดออกไปแล้ว มันจึงไม่เลี่ยน

อีกอย่างรสชาติของไก่เลี้ยงปล่อยก็สดอร่อยกว่าไก่ธรรมดา และเหมาะแก่การนำมาทำน้ำแกงมากที่สุด

“ท่านพี่ ท่านลองชิมแกงนี้ดู ไก่นี้เป็นไก่เลี้ยงปล่อยที่ข้าให้คนในสวนป่าท้อเลี้ยงแบบปล่อย รสชาติไม่เลวเลย”

เฉียวจินรับมา หลังจากเอ่ยขอบคุณแล้วก็ชิมไปหนึ่งคำ รสชาติเหมือนอย่างที่นางกล่าวไว้จริงๆ อร่อยมาก ไม่คาวและก็ไม่เลี่ยน รสชาติสมุนไพรที่อยู่ในนั้นไม่ได้กลบความสดอร่อยเดิมของซุปไก่เลย

นอกจากน้ำแกงไก่แล้วก็ยังมีเนื้อบดนึ่งกับซานเย่า* ซึ่งบำรุงกระเพาะอาหารได้ค่อนข้างดี เหมาะให้เฉียวจิ่นรับประทานมาก

*山药 หรือฮ่วยซัวในภาษาแต้จิ๋ว เป็นพืชในตระกูลกลอย(Dioscorea) เป็นส่วนผสมสำคัญในเครื่องยาจีน

เด็กน้อยทั้งสองเป็นสัตว์กินเนื้อ หากไม่มีเนื้อก็ไม่อยากอาหาร เฉียวเยี่ยนจึงสั่งไก่อบกับต้นหอมเน้นๆ มาหนึ่งจาน แล้วบิดน่องไก่ทั้งสองข้างให้พวกเขา

ไก่อบกับต้นหอมสดนุ่มฉ่ำน้ำ เนื้อนุ่มเนียน แล้วยังมีกลิ่นหอมแรงของต้นหอม เด็กน้อยทั้งสองชอบกินอาหารนี้เป็นพิเศษ แทะน่องไก่จนใบหน้าเปรอะไปด้วยน้ำมัน

วิธีทำไก่อบกับต้นหอมนี้ก็ง่ายมาก เพียงหมักไก่ทั้งตัวเสร็จ ก็ใส่ขิงฝานและต้นหอมที่ลงไปในหม้อตุ๋น แล้วก็นำไก่ใส่ลงไป จากนั้นราดน้ำหมักไก่ลงไป ตุ๋นที่ไฟอ่อนและค่อยๆ เพิ่มให้ร้อน เมื่อไก่สุกแล้วก็เทน้ำมันร้อนลงไป ให้กลิ่นหอมของต้นหอมกระจายออกมา

เฉียวจิ่นมีความอยากอาหารน้อยมาก หลังจากดื่มน้ำแกงไปหนึ่งถ้วย กินข้าวไปหนึ่งชามก็อิ่มแล้ว เฉียวเยี่ยนมองจนคิ้วขมวดมุ่น ดูเหมือนร่างกายของเขาจะแย่กว่าที่นางคิดไว้

“ระบบ มีวิธีตรวจสอบร่างกายของพี่ชายข้าหรือไม่?”

ท่านหมอบอกว่าเขาเป็นโรคปอดและไม่มีทางรักษาได้ แต่เฉียวเยี่ยนยังมีความหวังอยู่ในใจ นางมีลูกนอกสายเลือดอย่างระบบอยู่ ไม่แน่ว่าอาจจะรักษาเขาได้

ระบบตัวน้อยดูอุปกรณ์ครู่หนึ่ง ก่อนจะหาฟังก์ชั่นตรวจร่างกายเชิงลึกเจอ ทว่าต้องใช้คะแนนหนึ่งหมื่นคะแนนมาเปิดใช้งาน

เมื่อเฉียวเยี่ยนได้ยินคะแนนหมื่นคะแนน น้ำแกงในปากก็แทบจะพุ่งออกมา

หนึ่งหมื่นคะแนน เงินสองหมื่นตำลึง! ไม่ไปปล้นเอาเลยล่ะ!

แต่เมื่อนึกถึงร่างกายของพี่ชายแท้ๆ นางก็กัดฟันทุ่มสุดตัว ถึงอย่างไรตอนนี้ภัตตาคารก็มีรายได้ทุกวัน เงินสองหมื่นตำลึงก็เป็นเรื่องแค่เดือนสองเดือนก็เท่านั้น ก็แค่รู้สึกปวดใจเล็กน้อยเอง!

หลังจากระบบตัวน้อยเริ่มใช้งานอุปกรณ์ตรวจสุขภาพ ไม่นานสภาพร่างกายของเฉียวจิ่นก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

โรคโลหิตจาง ร่างกายอ่อนแรง ผอมอย่างมาก…

มีแต่ปัญหาเล็กใหญ่มากมาย กล่าวได้ว่าร่างกายนั้นของเขาไม่สมบูรณ์แบบเลย ทว่าอาการป่วยที่หนักที่สุดในนั้นคือโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอดเรื้อรัง ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ร่างกายของเขาทรุดโทรมมานานหลายปี

แม้แต่ในยุคปัจจุบัน โรคลิ่มเลือดอุดตันในปอดเรื้อรังก็เป็นโรคร้ายแรงเช่นกัน ซึ่งเกิดจากลิ่มเลือดหลุดไปอุดกั้นหลอดเลือดปอด ทำให้การไหลเวียนของเลือดถูกอุดตัน จึงทำให้คนมีอาการเวียนหัว อ่อนเพลีย หายใจลำบาก ร้ายแรงสุดอาจทำให้เสียชีวิตกะทันหันได้

เมื่อเฉียวเยี่ยนเห็นผลลัพธ์นี้ ก็รู้สึกเสียใจอยู่ภายในใจครู่หนึ่ง เขาเป็นแค่ชายหนุ่มที่มีอายุยี่สิบห้าปีก็เท่านั้น กลับต้องทุกข์ทรมานกับโรคนี้มาหลายปี

ระบบตัวน้อยก็หาวิธีรักษาโรคนี้ครู่หนึ่ง ซึ่งโรคนี้สามารถรักษาได้ ทว่าขั้นตอนการรักษานั้นช้ามากๆ อาจจะต้องใช้เวลาหลายปี

มีวิธีการรักษาอยู่สองอย่างคือรักษาด้วยการกินยากับรักษาด้วยการผ่าตัด แต่ด้วยเงื่อนไขในตอนนี้ การรักษาด้วยการผ่าตัดจึงเป็นไปไม่ได้เลย จึงทำได้เพียงซื้อยาต้านการแข็งตัวของเลือดมากินเท่านั้น

ครั้นได้ยินว่ารักษาได้ เฉียวเยี่ยนก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย รักษาได้ก็ดีแล้ว เรื่องของระยะเวลาไม่ใช่ปัญหาอะไร

การรักษาโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอดเรื้อรังต้องกินยาต้านการแข็งตัวของเลือดควบคู่กับยาละลายลิ่มเลือด ในยุคปัจจุบันยาเหล่านี้ล้วนนำเข้ามา ซึ่งมีราคาแพงมาก ยาเม็ดเล็กๆ เพียงแค่ห้าเหาเค่อ(มิลลิกรัม) แต่ราคากลับอยู่ที่เม็ดละประมาณยี่สิบหยวน ตอนนี้ต้องใช้คะแนนซื้อมา ก็ยิ่งแพงมากขึ้น

เฉียวเยี่ยนอยู่เป็นเพื่อนเฉียวจิ่นในห้องตลอดทั้งบ่าย เมื่อถึงยามเซินถึงได้พาเด็กๆ จากไป เด็กทั้งสองชอบท่านลุงมากๆ ในตอนที่จากลากันก็โบกมือน้อยให้ลุงอย่างอาลัยอาวรณ์ แถมยังให้เขามาเล่นกับพวกเขาในวันพรุ่งนี้อีก

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

อาการพี่ชายดูหนักมากเลยนะเนี่ย มีระบบช่วยแล้วจะรักษาหายภายในกี่ปีกันนะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *