ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 114 จูบครั้งแรก
ตอนที่ 114 จูบครั้งแรก
ตอนที่ 114 จูบครั้งแรก
ในตอนเย็นจะมีเหล่าสหายของเด็กทั้งสองมาเป็นแขกรับเชิญ นอกจากขนมเค้กแล้ว เฉียวเยี่ยนยังทำอาหารที่เด็ก ๆ ชอบกินอีกหลายอย่าง
ฝานมันเทศเป็นชิ้นบาง ๆ แช่น้ำสะอาดเพื่อล้างแป้งออก พักให้สะเด็ดน้ำ ทอดเป็นมันทอดกรอบ ๆ ก่อนโรยเครื่องปรุงรสลงไปคลุกเคล้า อร่อยกรอบจนอดใจไม่ไหวขณะทอดไปชิมไป
หลังจากทำมันเทศทอดเสร็จแล้ว นางก็ใช้น้ำมันที่เหลือทอดน่องไก่จำนวนหนึ่ง นำน่องไก่หมักกับเครื่องปรุงแล้วชุบแป้งหนาๆ แล้วลงทอดในน้ำมัน รสชาติไม่ด้อยไปกว่าไก่ทอดจากร้านสมัยใหม่เลย
ด้วยความกังวลว่าเด็กๆ จะเป็นร้อนในหลังกินอาหารพลังงานสูงมากเกินไป เฉียวเยี่ยนจึงหั่นผลไม้เพิ่มอีกถาดใหญ่
ในฤดูกาลนี้มีผลไม้น้อยมาก นี่คือของบรรณาการของฮ่องเต้ชรา พวกมันถูกส่งมาจากดินแดนทางตอนใต้ และใช้เวลาหลายวันกว่าจะมาถึงเมืองหลวง
หลังจากเตรียมของส่วนใหญ่เสร็จแล้ว เฉียวเยี่ยนก็ให้มู่ฉินเจินตีวิปปิ้งครีมเหลวให้ขึ้นรูปเป็นครีมแข็งเช่นเดียวกับการตีครีมไข่ขาว ซึ่งท่านอ๋องที่ตีไข่ขาวจนชำนาญแล้วก็ลงมือทำด้วยความคุ้นเคย
จากนั้นปาดวิปปิ้งครีมลงบนเค้กก้อนกลม เกลี่ยให้เรียบด้วยไม้พาย ก่อนทาแยมสตรอเบอร์รี่ลงไป ซึ่งเฉียวเยี่ยนเป็นคนกวนแยมสตรอเบอร์รี่เอง โดยหั่นสตรอเบอร์รี่เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในหม้อ กวนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสุก ใส่น้ำตาลกรวด รอจนเนื้อข้นเหนียวและเนื้อผลไม้นิ่มเปื่อยแล้วจึงหรี่ไฟลงแล้วเติมน้ำมะนาวเล็กน้อยเพื่อตัดรส
เฉียวเยี่ยนไม่เคยลงมือทำเค้กมาก่อน แต่อาศัยการดูวิดีโอแล้วทำตาม ในตอนแรกพบว่ามันทำยากนิดหน่อย แต่หลังจากลองทำสองสามครั้งก็เริ่มเชี่ยวชาญมากขึ้น
สุดท้ายคือตกแต่งผลไม้บนเค้กที่ทำเสร็จแล้ว แม้ว่าจะไม่ประณีตเหมือนอย่างที่ร้านเค้กทำ แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้
หลังปาดหน้าเค้กแล้วก็ยังมีครีมเหลืออยู่บ้าง เฉียวเยี่ยนจึงใช้ตะเกียบจุ่มลงไปแล้วนำขึ้นมาชิม ก็พบว่ามีรสหวานล้ำและหอมกลิ่นนมเนยอบอวล นางใช้ครีมที่มาจากไขมันพืช จึงไม่เลี่ยนเท่าครีมที่มาจากไขมันสัตว์
ครั้นชิมไปคำเดียวแล้วยังไม่ถูกใจ นางจึงจุ่มครีมอีกก้อนใหญ่แล้วยัดเข้าปากจนมุมปากเปื้อนคราบขาว ก่อนเลียริมฝีปากแล้วพูดกับมู่ฉินเจินว่า “ท่านอยากลองไหม? มันอร่อยทีเดียวเลยนะ”
มู่ฉินเจินมองนางด้วยสายตาลึกล้ำ นางเชิดหน้างดงามและคลี่ยิ้มให้เขา ก่อนตวัดปลายลิ้นสีแดงเลียครีมตรงมุมปากเข้าไป ทันใดนั้นเขาถึงกับหายใจติดขัด ในอกราวกับมีเปลวไฟลุกโชนแผดเผา
ลูกกระเดือกของเขาสะท้อนขึ้นลง ก่อนเดินไปหานางแล้วโน้มใบหน้าลงมาและจุมพิตนางแผ่วเบา ฉับพลันนั้นความรู้สึกของทั้งสองก็ระเบิดโชติช่วงราวกับดอกไม้ไฟ ร่างกายไร้ความรู้สึกไปชั่วขณะ เหลือไว้เพียงสัมผัสเบาบางที่ริมฝีปาก
เฉียวเยี่ยนเงยหน้าขึ้นอย่างว่างเปล่า สมองไร้ความคิดไปชั่วขณะ นางจ้องไปที่ใบหน้าของมู่ฉินเจินอย่างโง่เขลา และกำอกเสื้อของเขาไว้โดยไม่รู้ตัว
มู่ฉินเจินรู้สึกประหม่าจนหัวใจเต้นรัวเหมือนตีกลองราวกับสาวน้อยผู้ได้นั่งเกี้ยวเป็นครั้งแรก แต่เมื่อเห็นว่าเฉียวเยี่ยนประหม่ายิ่งกว่าเขา เขาก็สงบลงมาก ยกมือขึ้นประคองแผ่นหลังของเฉียวเยี่ยน ก่อนผละริมฝีปากออกจากกัน
“เฮ้ อย่าตื่นเต้นสิ”
เขาพูดด้วยเสียงทุ้มพร่า ก่อนจุมพิตริมฝีปากนางอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ดูกระตือรือร้นกว่าครั้งแรกมาก
เฉียวเยี่ยนค่อยๆ ผ่อนคลาย คล้องแขนโอบรอบลำคอของเขา แล้วทั้งสองก็กอดจูบกันกลางห้องครัวอย่างแนบชิดไม่ห่าง
ระบบตัวน้อยที่กำลังเข้าห้องน้ำอยู่รู้สึกตกใจมากจนไม่กล้าหายใจ หลังออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นคนทั้งคู่จูบกันแบบนี้
พระเจ้า! นางพลาดอะไรไป! เหตุใดทั้งสองถึงจูบกัน!
เด็กน้อยที่ได้ดูหนังสดเป็นครั้งแรกเงยหน้าขึ้น จ้องมองปากของผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ว้าว…กลายเป็นว่าการจูบมันเป็นแบบนี้นี่เอง!
โฮสต์ของนางหน้าแดงมาก ไม่ใช่ว่านางหายใจไม่ออกไปแล้วนะ?
ครั้นนางนึกอยากจะดูเพิ่มเติม เฉียวเยี่ยนก็ตัดขาดการติดต่อกับนางทันที หน้าจอดำมืดจนนางมองไม่เห็นอะไรเลยเกี่ยวกับโลกภายนอก
หน่านี้…?
โฮสต์ถึงกับตัดการติดต่อกับนาง ไม่ยอมแสดงอะไรดีๆ ให้นางดูเลยเรอะ!
ด้วยความโกรธ ระบบตัวน้อยจึงคว้าน่องไก่ทอดมางับคำใหญ่เพื่อปลอบประโลมหัวใจดวงน้อยอันบอบช้ำของนาง
เฉียวเยี่ยนรู้สึกวิงเวียนจากการถูกจูบ จึงตัดการติดต่อกับระบบตัวน้อยด้วยสติที่เหลืออยู่เสี้ยวสุดท้าย มิฉะนั้นมันคงเป็นเรื่องน่าอายหากการกระทำแบบนี้เป็นครั้งแรกถูกเด็กน้อยคนหนึ่งจ้องมอง
……
ในที่สุดเมื่อเฉียวเยี่ยนกำลังจะหายใจไม่ออก มู่ฉินเจินก็ปล่อยนาง นางหน้าแดงราวกับกุ้งต้มสุก แข้งขาอ่อนแรงจนไม่สามารถทรงตัวยืนได้
มู่ฉินเจินหอบเล็กน้อย ริมฝีปากบางของเขาชื้นและแดงผิดปกติ เขายื่นมือออกไปประคองเฉียวเยี่ยน ครั้นเห็นว่านางยังคงตกตะลึง เขาก็หัวเราะเบาๆ
เจ้าท่อนไม้นี่ช่างน่ารักเสียจริง
เฉียวเยี่ยนยังคงมึนงงมาจนถึงตอนนี้ นางไม่คิดเลยว่ากับแค่เรื่องกินวิปปิ้งครีม เหตุใดท่านอ๋องถึงอยากกลืนกินนางเหมือนเสือหิวปานนี้
นางเงยหน้าขึ้นจ้องมองมู่ฉินเจิน ดวงตามีหยาดน้ำเอ่อคลอ ส่งสายตาที่ดูราวกับจะมองค้อนปะหลับปะเหลือก
“พูดมา! ท่านจูบข้าทำไม?”
ท่าทางดุร้ายของเฉียวเยี่ยนกลับดูน่ารักมากในสายตาของมู่ฉินเจิน เขาคลี่ยิ้มบาง ยกมือขึ้นลูบศีรษะของนางและเอ่ยถามอย่างรักใคร่ “เจ้าโกรธหรือ?”
เฉียวเยี่ยนรู้สึกอายกับการกระทำของเขา นางไม่โกรธ แต่นางอาย ทั้งคู่เคยจับมือ กอด และหอมแก้มมาก่อน แต่ตอนนี้จู่ๆ พวกเขาก็จูบกัน และมันก็รู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย
จนตอนนี้นางก็ยังตกตะลึงไม่หาย ยังคงบื้อใบ้อยู่อย่างนั้น จูบแรกของนางช่างอ่อนหัดนัก ช่างน่าอายเหลือเกิน นางที่เป็นสาวยุคใหม่แต่กลับถูกคนโบราณจูบจนหายใจไม่ออกแบบนี้ รู้ถึงไหนคงได้อายถึงนั่น
มู่ฉินเจินรับรู้ถึงอารมณ์ของนาง จึงเอ่ยปลอบนางอย่างนุ่มนวลและรักใคร “ข้าขอโทษ ครั้งนี้มันกะทันหันเกินไป คราวหลังข้าจะแจ้งให้เจ้าทราบก่อนที่จะจูบเจ้า เพื่อให้เจ้าได้เตรียมพร้อม”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฉียวเยี่ยนก็กระตุกมุมปากของนางด้วยความอับอาย รายงานล่วงหน้าก่อนรังแกนางอย่างนั้นหรือ สมกับเป็นการกระทำของท่านอ๋องผู้ชั่วช้าของนางจริงๆ
……
เมื่อพระอาทิตย์ตกดินในยามสายัณห์ สหายทั้งหมดที่ได้รับเทียบเชิญจากลูกทั้งสองก็มาถึง เป็นเพราะในเทียบเชิญระบุเพียงชื่อของเด็กๆ ดังนั้นผู้ใหญ่จากแต่ละบ้านจึงไม่มา มีเพียงคนรับใช้และสาวใช้เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้นำเด็กๆ ไปร่วมรับประทานอาหารเย็น
เจ้าภาพงานวันเกิดตัวน้อยทั้งสองล้วนสวมเสื้อผ้าใหม่ เสี่ยวฉวนเอ๋อร์สวมชุดสีเขียวไผ่ปักด้วยลายต้นไผ่ และมีเข็มขัดคาดเอว แม้จะมีอายุเพียงสี่ขวบ แต่ท่าทางของเขากลับดูเหมือนชายหนุ่มผู้สง่างามคนหนึ่ง
ส่วนเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์สวมกระโปรงเจ้าหญิงที่เฉียวเยี่ยนซื้อให้นาง มันเป็นกระโปรงเจ้าหญิงสีชมพูยาวถึงข้อเท้ามีผ้าระบายเป็นชั้นๆ ช่วงบนประดับด้วยดอกไม้ที่ทำจากผ้าลูกไม้และผ้าระบาย ช่วงเอวยกสูงจนปิดพุงป่องน้อยๆ ของเจ้าปลาอ้วนพอดี
นางยังสวมเลกกิ้งสีขาวใต้ชุดกระโปรงฟูฟ่อง สวมถุงเท้าลูกไม้รับกับรองเท้าหนังคู่เล็กๆ ทำให้เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ในตอนนี้ดูราวกับเทพธิดาตัวน้อยท่ามกลางทุ่งดอกไม้ ทั้งขาวทั้งน่ารัก
เฉียวเยี่ยนเกล้ามวยเจ้าหญิงให้กับลูกสาวและประดับมวยผมด้วยมงกุฏอันเล็ก ๆ ทำให้นางดูงดงามยิ่งขึ้น
เจ้าปลาอ้วนตัวเหม็นในชุดเจ้าหญิงวิ่งฉวัดเฉวียนไปมาต่อหน้าผู้คน คอยฟังคำชมของคนอื่นจนยิ้มตาหยี
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เป็นเพื่อนเล่นกับนางต่างอิจฉาเมื่อเห็นชุดสวย ๆ ที่นางใส่ ก่อนร้องงอแงจะให้ช่างปักและคนอื่น ๆ เย็บให้เมื่อกลับถึงบ้าน
ส่วนเด็กชายผู้น่ารักคนอื่นๆ ต่างอ้าปากกว้างอย่างตกตะลึงในความงามของเจ้าปลาอ้วน พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าลูกพี่อวี๋ของพวกเขาจะมีมุมที่งดงามเช่นนี้
พวกเขาจำสิ่งที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวบอกพวกเขาได้ ว่าต้องทำให้จวิ้นจู่น้อยมีความสุขจนยอมมาเป็นว่าที่ภรรยาในอนาคตให้ได้
พวกเขาล้วนไม่กล้า นอกจากอายุที่ยังน้อยแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าภรรยาคืออะไร ลูกพี่อวี๋มีพละกำลังมหาศาลปานนั้น หากนางมาเป็นภรรยาในอนาคตของพวกเขาจริง ก็เกรงว่าพวกเขาคงต้องถูกนางทุบตีทุกวันจนหมอบกระแตแน่
แต่เมื่อเห็นนางในวันนี้ ก็ดูเหมือนว่าลูกพี่อวี๋ผู้ทรงพลังดูไม่น่ากลัวอีกต่อไป นางช่างงดงามมากราวกับนางฟ้าตัวน้อย
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ว้ายยย ท่านอ๋องช่างกล้า เสี่ยวเยี่ยนอย่าไปยอมค่ะ แสดงพลังแห่งสาวยุค 5G ออกมา อย่าไปแพ้คนยุคโบราณพรรค์นี้เลยค่ะ
แน่ใจเหรอว่าจะแต่งน้องปลาอ้วนไปเป็นว่าที่สะใภ้ น้องแข็งแกร่งมากนะ
ไหหม่า(海馬)
Comments