ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 117 โรงงานเปิดกิจการ

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 117 โรงงานเปิดกิจการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 117 โรงงานเปิดกิจการ

ตอนที่ 117 โรงงานเปิดกิจการ

ทันทีที่เด็กทั้งสองกลับมาถึงบ้าน พวกเขาก็อ้าปากตะโกนเรียกท่านพ่อท่านแม่ เดิมทีเฉียวเยี่ยนอยากจะลุกไปรับพวกเขา แต่มู่ฉินเจินกลับกดนางลงบนเก้าอี้ แล้วลุกขึ้นออกไปรับเด็กทั้งสอง

อากาศในเดือนสิบเอ็ดกำลังหนาวจัด ข้างนอกมีหิมะโปรยปราย ลูกหมีสองตัวต่างสวมเสื้ออุ่นกับเสื้อกันหนาวตัวเล็ก ห่อตัวกลมดิ๊กเหมือนเพนกวินน้อยสองตัว ส่วนเท้าก็สวมรองเท้าบูทกันฝน และใส่ถุงเท้าผ้าฝ้ายหนาๆ อยู่ด้านใน

มู่ฉินเจินออกไปอุ้มเด็กทั้งสองขึ้นมาคนละข้างอย่างมั่นคง ก่อนจะเข้าไปในบ้าน และวางเด็กๆ ลงบนเก้าอี้ พร้อมถอดรองเท้าถอดเสื้อผ้าให้พวกเขาด้วยตัวเอง

ในห้องมีเครื่องทำความร้อนใต้พื้น ทำให้อากาศในห้องอุ่นมากจนไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าหนาๆ เขาบีบมือเล็กๆ ของพวกเขา เมื่อพบว่ามันอุ่นแล้วถึงได้เบาใจ

หลังจากถอดรองเท้ากันฝนคู่น้อยแล้ว ก็สวมรองเท้าแตะคู่น้อย เมื่อถอดเสื้อผ้าฝ้ายหนาๆ บนตัวออกแล้ว เพนกวินน้อยสองตัวก็หดขนาดลงในชั่วพริบตา

เมื่อได้กลิ่นหอมของอาหาร เด็กน้อยทั้งสองก็หิว วันนี้พวกเล่นสงครามหิมะอยู่ในสำนักศึกษา และเพราะอาจเล่นจนสนุกเกินไป เจ้าปลาอ้วนจึงเริ่มหิวตั้งแต่ตอนที่อยู่ในชั้นเรียน จากนั้นนางก็แอบกินขนมที่เสด็จย่ากับท่านยายเอายัดใส่ในกระเป๋าหนังสือน้อยของนาง

ซึ่งแน่นอนว่า ถูกอาจารย์จับได้อีกเช่นเคย

แต่ตอนนี้อาจารย์ไม่สนใจเด็กน้อยแล้ว เพราะพวกเขาพบว่าเด็กน้อยไม่สนใจตำราวิชาการกับกวีนิพนธ์ต่างๆ พอได้ฟังก็หลับในชั้นเรียน แต่พอเรียนศิลปะการต่อสู้กลับตั้งใจอย่างมาก และยังเข้าใจกลเม็ดบางอย่างได้ตั้งแต่อายุยังน้อย

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงปล่อยไป และสอนตำราศาสตร์ต่างๆ ของพวกเขาต่อไป ส่วนเด็กน้อยก็อ่านตำราพิชัยสงครามในชั้นเรียน เมื่อเจอคำศัพท์ที่ไม่รู้หรือประโยคที่ไม่เข้าใจ พวกเขาก็สามารถชี้แจงได้เล็กน้อย

แต่เข้าใจได้แค่ความหมายของคำเท่านั้น ส่วนกลเม็ดอะไรอย่างอื่น พวกเขาที่เป็นนักวิชาการก็ไม่เข้าใจแล้ว

ตอนนี้เจ้าปลาอ้วนได้เรียนกระบวนท่าต่างๆ มากมายเป็นแล้ว ระดับการจำคำศัพท์ก็เพิ่มขึ้น ตอนที่สอบก็ไม่เขียนอะไรลวกๆ อีก

หลังจากเฉียวเยี่ยนกินอิ่มดื่มพอแล้ว ก็มองลูกทั้งสองกินข้าวอย่างเชื่อฟังด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจมาก ลูกของนางนั้นดีที่สุดจริงๆ!

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เห็นมารดาจ้องตัวเองกับพี่ชายก็เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย และกุมแก้มที่กลมป่องของตัวเอง พลางยิ้มแหยออกมา

วันนี้ข้าต้องน่ารักมากแน่ๆ ท่านแม่ถึงได้มองอย่างตะลึงเพียงนั้น!

……

วันรุ่งขึ้น โรงงานเฉียวจี้ก็ได้เปิดเผยรายชื่อผ่านการคัดเลือกในยามเฉิน ทว่าหลายคนมารออยู่หน้ากระดานข่าวก่อนเวลาแล้ว เมื่อถึงยามเฉิน ผู้ดูแลงานที่รับผิดชอบเผยรายชื่อก็เปิดม่านปิดกระดานข่าวออก ฝูงชนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนมีเสียงฮือฮาขึ้นมาทันใด

ผู้ที่รู้ว่าตนอยู่ในรายชื่อต่างร่ำไห้ด้วยความยินดี ส่วนผู้ที่ไม่มีรายชื่อก็จากไปด้วยความเสียใจ

ครั้งนี้เฉียวเยี่ยนจ้างคนงานหญิงมาห้าสิบคน ซึ่งคัดเลือกมาอย่างดีที่สุดในแง่ของบุคลิก ลีลาการสนทนา และสมรรถภาพทางกาย

คนงานหญิงที่ถูกว่าจ้างห้าสิบคนได้รับแจ้งให้มารวมตัวกันที่โรงงานตอนเที่ยง ตอนนี้สามารถกลับบ้านไปเตรียมของใช้ในประจำวันได้

แต่ความจริงแล้วพวกนางไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรมาก เพราะเฉียวเยี่ยนได้สั่งให้คนเตรียมทุกอย่างในหอพักคนงานให้แล้ว

ห้องแต่ละหลังที่ลานหลังบ้านก่อนหน้านี้ก็ถูกรื้อผนังกั้นออกหมดแล้ว และแบ่งออกเป็นหอพักขนาดเล็กที่มีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก ห้องหนึ่งอยู่กันประมาณห้าหกคนเตียง เครื่องนอน และตู้เก็บของล้วนถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้ว แถมจัดชุดทำงานให้ปีละสองชุด ซึ่งเงื่อนไขนี้ดีกว่าบ้านใครหลายๆ คนแน่นอน

ประมาณตอนเที่ยง เฉียวเยี่ยนก็ไปที่โรงงานอีกครั้ง ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น นางจึงไม่พ้นต้องทำงานหนัก

หลังจากคนงานมารวมตัวกันแล้ว นางก็แบ่งให้ผู้ดูแลงานสองสามคนจัดสรรหอพักให้กับพวกคนงานหญิง

คนจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มแตกต่างกันตามตำแหน่งที่แตกต่างกัน จากนั้นก็จะจับสลากภายในกลุ่มนั้นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าแบ่งได้อย่างยุติธรรม

เมื่อคนงานหญิงมาถึงหอพัก พวกนางต่างก็ตกตะลึง และไม่อยากจะเชื่อเลยว่าที่นี่จะเป็นที่พักอาศัยในอนาคต เกรงว่านี่จะไม่ใช่การมาเพื่อทำงานของพวกนาง แต่มาเพื่อเสวยสุขต่างหาก

เฉียวเยี่ยนปฏิบัติกับทุกคนอย่างเป็นมิตร หลังจากคุยกับพวกคนงานหญิงอยู่ครู่หนึ่ง ความกังวลของพวกนางก็คลายลง และรู้สึกชื่นชมเฉียวเยี่ยนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ในใจ

ในฐานะที่เป็นสตรีเหมือนกัน นางกลับสร้างอุตสาหกรรมได้ใหญ่โตเช่นนี้ ซู่หวางเฟยถือได้ว่าเป็นคนแรกในราชวงศ์เทียนลี่เลย!

หลังจากคนงานหญิงนั่งลงดีๆ แล้ว เฉียวเยี่ยนก็ให้สผู้ดูแลงานสองสามคนแจกจ่ายชุดทำงานให้พวกนาง มี หมวก หน้ากาก และถุงมือซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และเวลาเข้างานจะต้องแต่งตัวเรียบร้อยมิดชิด เส้นผมต้องรวบอยู่ในหมวกทั้งหมด เพื่อป้องกันผมร่วงลงในสินค้า

พวกคนงานหญิงถือชุดทำงานสองชุดอย่างไม่วางมือ เนื้อผ้าทำมาจากผ้าฝ้ายเนื้อดี ในหมู่พวกนางมีหลายคนไม่เคยได้สวมเสื้อผ้าใหม่มาหลายปีแล้ว จึงกอดชุดสองชุดนั้นและร้องไห้ออกมาอย่างทนไม่ไหว

ครอบครัวยากจน เด็กๆ ก็สวมเสื้อผ้าใหม่ไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงผู้ใหญ่อย่างพวกเขา แต่ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า หนึ่งเดือนพวกเขาสามารถหาเงินได้สองตำลึง เรื่องกินกับที่พักก็ไม่ต้องจ่ายเงิน ขอแค่พวกเขาประหยัดหน่อย จากนี้ไปต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นแน่แนน

ในช่วงปีใหม่ ก็ยังสามารถซื้อเนื้อสัตว์มาประทังความอยากให้ลูกๆ ได้ ปีหนึ่งก็สามารถสวมเสื้อชุดใหม่ได้หนึ่งชุด

จวบจนคนงานหญิงเตรียมพร้อมกันเสร็จเล้ว เฉียวเยี่ยนก็รวบผู้ดูแลงานกับคนงานทั้งหมดเข้าด้วยกัน และจัดประชุมให้พวกเขา

ผู้ดูแลงานทั้งหมดมีอยู่ห้าคน แบ่งรับผิดชอบกันไปแต่ละแผนก ผู้ดูแลงานชายเพียงหนึ่งเดียวเป็นทหารปลดประจำการ มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านความปลอดภัยของโรงงาน ส่วนที่เหลือยังมีอีกสามแผนก แบ่งเป็นการผลิตแป้งมันเทศ การผลิตผักดอง และการควบคุมดูแลโรงอาหาร การผลิตแป้งมันเทศค่อนข้างยุ่งยาก จึงต้องใช้สายพานการผลิตค่อนข้างยาว โดยให้ผู้ดูแลงานสองคนรับผิดชอบ ส่วนการผลิตผักดองเป็นหน้าที่รับผิดชอบของตู้เยว่หง

ในโรงงานมีโรงอาหารสำหรับคนงาน ครั้งนี้จ้างคนงานมาแปดคนเพื่อรับผิดชอบในการทำอาหาร ซึ่งงานฝ่ายธุรการแนวหลังมีหน้าที่รับผิดชอบงานทางด้านสุขอนามัยตามปกติ

หลังจากพวกคนงานเข้าใจงานของตัวเองพอประมาณแล้ว ก็เริ่มทำงานได้

ในวันแรกที่เริ่มงาน เฉียวเยี่ยนให้ผู้ดูแลงานของภัตตาคารจัดส่งหมูครึ่งตัวมาให้โรงงานทางด้านนี้โดยเฉพาะ ส่วนเนื้อเป็ด เนื้อไก่ เนื้ออื่นๆ ก็นำมาไม่น้อย นอกจากพวกนี้แล้ว ยังมีผักสดอีกหลายตะกร้า ซึ่งทั้งหมดนี้เพิ่งเก็บมาจากเรือนกระจกในหมู่บ้านลวี่หลัวเมื่อวานนี้

คนงานในโรงอาหารทั้งหมดไปที่โรงอาหารเพื่อเตรียมอาหารสำหรับช่วงบ่าย พวกนางแปดคนรับผิดชอบทำอาหารผู้คนห้าหกสิบคน เวลาค่อนข้างสั้น แต่พวกนางต่างช่ำชอง ทำงานได้ดีหน้าเตา และมีระเบียบแบบแผน

หวางเฟยบอกว่าวันนี้เป็นวันแรกในการเริ่มงาน จึงให้ทุกคนได้รับประทานอาหารดีๆ มื้อหนึ่ง ไม่ต้องเสียดายน้ำมัน เสียดายเนื้อ ทำอย่างไหนอร่อยก้ทำอย่างนั้น

พวกนางมีชีวิตอยู่มาหลายปี กินข้าวมาแล้วครึ่งชีวิต นี่ก็ยังเป็นครั้งแรกที่เห็นน้ำมันมากขนาดนี้ น้ำมันหมูได้ผ่านการเจียวมาล่วงหน้าแล้วก่อนนำมาใส่ไว้ในขวดโหลขนาดใหญ่จนจับตัวเป็นไขสีขาวราวหิมะ นอกจากน้ำมันหมูแล้วก็ยังมีน้ำมันงาหลายกระป๋อง ซึ่งเจ้าน้ำมันงานี้มีราคาแพงมาก พวกนางที่ปกติทำอาหารแบบไม่ใช้น้ำมันจะรับประทานลงได้อย่างไร

แล้วก็ตะกร้าผักใบใหญ่สองสามตะกร้าอีก ตอนนี้หิมะตกแล้ว พวกนางยังสามารถรับประทานผักสดได้ เท่ากับชีวิตนี้ไม่ต้องไปแข่งกับเหล่าทวยเทพแล้ว

พวกคนงานในโรงอาหารยุ่งจนบรรยากาศคึกคักเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น พวกคนงานในโรงอาหารก็เริ่มทำงานแล้วเช่นกัน

วันนี้เป็นวันแรก จำต้องสอนคนงานถึงวิธีทำแป้งมันเทศ เพราะมันต้องใช้เวลาในการทำให้แป้งตกตะกอน ดังนั้น เฉียวเยี่ยนจึงใช้แป้งที่ทำมาก่อนหน้านี้สาธิตให้ทุกคนเห็นขั้นตอนการผสม การร่อน และการตากแดด ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไร ทุกคนดูแค่ครั้งเดียวก็เข้าใจว่าต้องทำอย่างไรแล้ว

หลังจากคุ้นเคยกับกระบวนการผลิตแล้ว คนงานในโรงผลิตแป้งมันเทศก็เริ่มปอกเปลือกมันเทศ ทำความสะอาด และบดให้ละเอียด จากนั้นนำเนื้อมันเทศที่บดใส่ลงในน้ำซาวให้สะอาด หลังจากซาวจนไม่มีแป้งแล้วก็หยุด แล้วนำน้ำแป้งมันเทศที่ล้างแล้วปล่อยค้างคืนไว้หนึ่งคืน วันต่อมารินน้ำชั้นบนออก และนำแป้งมันเทศที่ได้มาห่อด้วยผ้าขาวบาง สะเด็ดน้ำให้แห้ง แป้งมันเทศก็ทำเสร็จแล้ว

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

สวัสดิการโรงงานนี้ดี้ดีจังค่ะ แถมค่าแรงก็สมเหตุสมผล

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *