ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 118 เปิดตัวสินค้า ซื้อบ้าน

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 118 เปิดตัวสินค้า ซื้อบ้าน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 118 เปิดตัวสินค้า ซื้อบ้าน

ตอนที่ 118 เปิดตัวสินค้า ซื้อบ้าน

การทำแป้งมันเทศต้องใช้น้ำในปริมาณมาก จึงมีการนำน้ำที่เหลือทิ้งจากการล้างมันเทศกลับมาใช้ใหม่ ในตอนที่เฉียวเยี่ยนสร้างโรงงาน นางก็ให้คนไปขุดอ่างเก็บน้ำนอกโรงงาน แล้วตัดลำไผ่หลงจู๋ขนาดใหญ่มาต่อเป็นท่อส่งน้ำ

ท่อนี้เชื่อมต่อกับถังน้ำในโรงงาน นำน้ำเสียเข้าสู่อ่างเก็บน้ำ เหนืออ่างเก็บน้ำวางตัวกรองเอาไว้เพื่อกรองกากตะกอนขนาดใหญ่ ส่วนที่ก้นบ่อบรรจุถ่านดำไว้เพื่อดูดซับสิ่งตกค้าง หลังจากผ่านการบำบัดเช่นนี้แล้วก็ทำให้น้ำเสียกลับมาบริสุทธิ์ได้มากที่สุด

น้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วก็สามารถนำมาใช้รดผักได้ บ้านหลังนี้มีพื้นที่โล่งมากมาย สวนดอกไม้แต่เดิมล้วนถูกวัชพืชยึดครองไปนานแล้ว หลังจากกำจัดวัชพืชเสร็จ ก็จะเหลือเพียงพื้นที่ว่างเปล่า ซึ่งเฉียวเยี่ยนวางแผนว่าจะไถที่ผืนนี้ปลูกผักเมื่อถึงเวลาปลูกผักในฤดูใบไม้ผลิ

ขณะที่พวกคนงานในโรงผลิตแป้งมันเทศกำลังยุ่ง คนงานในโรงผลิตของหมักดองก็ไม่ได้ว่างเช่นกัน พวกเขากำลังคั่วฮั่วกัวตี่เลี่ยวอยู่

ฤดูหนาวมาถึงแล้ว และจะถึงฤดูกาลกินหม้อไฟอีกครั้ง เฉียวเยี่ยนจึงคิดจะเปิดตัวชุดฮั่วกัวตี่เลี่ยวสำเร็จรูปในตอนนี้ เพื่อให้ทุกคนสามารถทำหม้อไฟกินที่บ้านได้ ซึ่งยอดจำหน่ายสินค้าก็น่าจะไม่เลวเลย

พริกแห้งที่ใช้ในการทำฮั่วกัวตี่เลี่ยวเป็นพริกที่หมู่บ้านจิ่วหลีพัวกับหมู่บ้านม่ายเซียงเก็บมาตากแห้ง ซึ่งมีปริมาณมากพอที่จะคั่วออกมาได้หลายชุด

ในการทำเครื่องปรุงและผักดอง ร้านขายเครื่องเทศน้อยใหญ่ทั้งหมดในเมืองจึงถูกเฉียวเยี่ยนกวาดเหมาสินค้าจนหมดแล้ว มีทั้งฮวาเจียว (พริกเสฉวน) ซาเหริน(ลูกเร่วหอม) ไป๋โค่ว(ลูกกระวาน) เซียงเย่(ใบกระวาน)และอบเชยพร้อมทุกอย่าง นอกจากร้านขายเครื่องเทศแล้ว เครื่องเทศหลายอย่างในนั้นล้วนซื้อมาจากร้านขายยา

ไขมันแกะที่นำมาใช้ทำฮั่วกัวตี่เลี่ยวนั้นนางซื้อมาจากคนขายเนื้อ โชคดีที่ช่วงนี้อากาศหนาวจัด ไขมันแกะที่นางซื้อมาจึงถูกแช่แข็งอยู่ในหิมะ ผ่านเป็นสิบวันหรือครึ่งเดือนก็ไม่มีทางเน่าเสีย

อุ่นไขมันแกะลงไปในหม้อให้ละลายเป็นน้ำมัน แล้วใส่เครื่องเทศลงไปผัดจนหอม ไม่นานกลิ่นก็ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งโรงงาน ทำให้พวกคนงานในโรงผลิตแป้งมันเทศข้างๆ ต่างหิวจนจะร้องไห้แล้ว

เทฮั่วกัวตี่เลี่ยวที่คั่วเสร็จแล้วลงในจานเครื่องเคลือบสี่เหลี่ยมผืนผ้า รอให้เย็นลงก็สามารถตัดเป็นชิ้นๆ ห่อบรรจุได้ กระดาษห่อที่นำมาใช้คือกระดาษคราฟท์ หลังจากปิดผนึกแล้วก็ประทับตราเฉียวจี้ลงไป และยังแปะข้อมูลสินค้าด้วย

การพิมพ์โดยใช้แม่พิมพ์เคลื่อนย้ายตัวอักษรได้รับความนิยมในราชวงศ์เทียนลี่แล้ว เฉียวเยี่ยนเขียนข้อมูลสินค้าพื้นฐานหลายฉบับ และส่งไปยังร้านหนังสือเพื่อจัดพิมพ์

ข้อมูลสินค้าประกอบด้วยข้อมูลพื้นฐานที่สุด เช่น ชื่อสินค้า วิธีรับประทาน และวันที่ผลิต ข้อมูลจะพิมพ์บนกระดาษขนาดเท่าฝ่ามือ หลังจากบรรจุสินค้าเสร็จแล้ว ก็สามารถแปะลงบนบรรจุภัณฑ์สินค้าได้เลย

……

เฉียวเยี่ยนติดตามงานมาสองสามวัน ก็พบว่าโรงงานเฉียวจี้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ดูแลงานทั้งห้าคนควบคุมดูแลได้เป็นอย่างดี งานทั้งหมดล้วนเป็นระเบียบเรียบร้อย

แป้งมันเทศกับฮั่วกัวตี่เลี่ยวชุดแรกพร้อมจำหน่ายแล้ว แป้งมันเทศแห้งถูกตัดเป็นความยาวเท่าๆ กัน และบรรจุลงในหลอดที่พับด้วยกระดาษ ซึ่งคล้ายกับบรรจุภัณฑ์บะหมี่แห้งของสมัยใหม่เล็กน้อย และยังมีบางส่วนมัดด้วยเชือกรวมกันเป็นมัดๆ โดยมีป้ายข้อมูลสินค้าติดอยู่ด้านบน

เฉียวเยี่ยนส่งแป้งมันเทศกับฮั่วกัวตี่เลี่ยวชุดแรกไปขายในภัตตาคาร และแบ่งส่วนหนึ่งของชั้นวางของตรงหน้าต่างขายผักมาใช้สำหรับจัดเก็บ

พวกคนงานที่รับผิดชอบการขายผักแนะนำแป้งมันเทศอย่างเต็มที่ และทางภัตตาคารยังเปิดตัวอาหารที่ใช้แป้งมันเทศเป็นส่วนประกอบด้วย

ใส่วุ้นเส้นหนึ่งกำมือลงในหม้อตุ๋นตงเป่ย ทั้งอร่อยทั้งอิ่ม อีกทั้งยังสามารถนำวุ้นเส้นลงไปต้มในหม้อน้ำแกงได้ วุ้นเส้นที่ต้มสุกแล้วจะดูดซับน้ำแกง และให้รสสัมผัสเหนียวนุ่มหนึบหนับ

หลายคนที่มาซื้อผักต่างหวั่นไหว เจ้าสิ่งที่เรียกว่าแป้งมันเทศนั้นมีกลิ่นหอมมาก และที่สำคัญคือมีราคาไม่แพง หนึ่งมัดราคาแค่ไม่กี่อีแปะเท่านั้น

แป้งมันเทศถูกขายหมดภายในวันแรกที่วางจำหน่าย ฮั่วกัวตี่เลี่ยวเองก็ขายดีเช่นกัน ลูกค้าประจำหลายคนได้ยินว่ามีฮั่วกัวตี่เลี่ยวแบบห่อที่ซื้อกลับบ้านได้ ต่างก็ซื้อกลับบ้านชิ้นหนึ่งอย่างตื่นเต้น

ในวันที่อากาศหนาวจัดเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องออกนอกบ้านก็กินหม้อไฟได้แล้ว เพียงวางโต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กๆ ไว้บนเตียง คลุมผ้าห่มกิน คิดดูแล้วก็รู้สึกเยี่ยมยอดไม่น้อย

เพียงแต่กลิ่นของหม้อไฟนั้นแรงเกินไป หากรับประทานเสร็จก็เกรงว่าคงนำเครื่องนอนมาใช้ต่อไม่ได้แล้ว

เฉียวเยี่ยนก็เอาวุ้นเส้นกลับไปที่บ้านเล็กน้อยเช่นกัน และปรุงอาหารให้ครอบครัวกิน และให้คนส่งไปทางพระราชวังไม่น้อย ให้ฮ่องเต้กับฮองเฮาได้ลองอะไรใหม่ๆ

วิธีกินวุ้นเส้นมีหลายวิธีมาก เช่น วุ้นเส้นเปรี้ยวเผ็ด วุ้นเส้นหมูตุ๋น วุ้นเส้นผัดซีอิ๊วและอื่นๆ และวันนี้เฉียวเยี่ยนก็วางแผนจะทำวุ้นเส้นผัดซีอิ๊ว

แช่แป้งมันเทศในน้ำร้อนเพื่อให้มันนิ่ม จากนั้นก็เตรียมเครื่องเคียง ถั่วงอก เห็ดหูหนู หน่อกระเทียม กุยช่าย และหัวผักกาดเหลือง ซึ่งผักพวกนี้นำมาใช้ได้หมดเลย

หั่นกุยช่ายเป็นท่อนเล็กๆ แล้วนำหัวผักกาดเหลืองกับเห็ดหูหนูมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำถั่วงอกไปลวกน้ำร้อนแล้วเอาออกมาพักไว้ก่อน เสร็จแล้วตีไข่สองฟองลงไปผัดให้สุกแล้วนำออกมาพักไว้เช่นกัน

หลังจากใส่น้ำมันลงในหม้อรอให้ร้อนแล้วจึงใส่หอม ขิง กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม ใส่เนื้อที่บดเสร็จแล้วลงไปผัดให้สุก จากนั้นตักโต้วป้านเจี้ยงใส่หนึ่งช้อนเพื่อเพิ่มรสชาติ เสร็จแล้วใส่เครื่องเคียงที่เตรียมไว้ทั้งหมดลงไปผัดคลุกเคล้าในหม้อ หลังจากผัดจนผักทั้งหมดสุกแล้วก็ใส่วุ้นเส้นที่นิ่มแล้วลงไปได้ เติมน้ำลงไปเล็กน้อยเพื่อผัดวุ้นเส้นให้สุก สุดท้ายปรุงรสให้มีรสชาติดีแล้วก็ตักออกจากหม้อได้

เมื่อผัดวุ้นเส้นถูกยกเข้ามาวางบนโต๊ะ มันก็กลายเป็นที่ชื่นชอบของทั้งครอบครัว ลูกทั้งสองไม่แม้แต่จะกินข้าว หลังจากกินผัดวุ้นเส้นไปสองชามก็อิ่มแล้ว

……

เมื่อเข้าสู่เดือนสิบสอง สภาพอากาศยิ่งหนาวเย็นขึ้นทวีคูณ เฉียวเยี่ยนจึงวางแผนจะซื้อบ้านที่เหมาะกับพี่ชายและมารดาหลังหนึ่ง หลังจากค้นหามานาน ในที่สุดก็หาบ้านที่เหมาะสมพบ

มีจวนคหบดีหลังหนึ่งอยู่ตรงใจกลางเขตพื้นที่เมืองหลวง ซึ่งจวนคหบดีแห่งนั้นทรุดโทรมหมดแล้ว จำเป็นต้องขายเพื่อหาเงินอย่างเร่งด่วน อีกทั้งบ้านแถบบริเวณนั้นไม่มีราคาถูกแล้วด้วย และบ้านหลังนั้นก็ครอบคลุมพื้นที่ห้าถึงหกหมู่ พื้นที่ถือว่าพอใช้ได้ และตั้งราคาขายอยู่ที่สามหมื่นตำลึง

เหล่าผู้ดีมีเงินที่สนใจบ้านหลังนี้ก็มีไม่น้อย แต่การจ่ายเงินสามหมื่นตำลึงในคราวเดียวนั้นค่อนข้างเจ็บปวดใจเกินไป จึงได้แต่จับตาคอยดูว่าราคาจะลดลงหรือไม่

เฉียวเยี่ยนได้รับข่าวนี้แล้วจึงพาเฉียวจิ่นกับซูเนี่ยนหว่านไปดูบ้านด้วยตัวเอง หากพวกเขาชอบก็จะซื้อเลย หากไม่ชอบก็ค่อยหาหลังใหม่

เมื่อซูเนี่ยนหว่านได้ยินว่าบ้านหลังนี้มีราคาสามหมื่นตำลึง ไม่ว่าเฉียวเยี่ยนจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรนางก็ไม่ยอมไป นางไม่จำเป็นต้องอยู่ในบ้านหลังใหญ่นัก แค่นางได้ออกจากกรงขังนั้น ต่อให้ต้องกัดก้อนเกลือกินนางก็พอใจแล้ว

อีกอย่างนางไม่ต้องการให้ลูกสาวใช้จ่ายเกินตัวเพื่อนาง ลูกสาวมีความกตัญญูนับเป็นเรื่องที่ดี แต่หากนางยังคิดไม่ได้และเกาะลูกสาวเหมือนปลิงดูดเลือด นั่นก็เป็นนางเองที่ผิดแล้ว

เฉียวจิ่นกับมารดามีความคิดแบบเดียวกัน ตอนนี้เขายังมีเงินเหลืออยู่ ซื้อบ้านเล็กๆ อยู่นอกชานเมืองก็น่าจะพอ เพียงแต่เขายังหาบ้านที่เหมาะสมไม่เจอ

เฉียวเยี่ยนจนปัญญากับคนทั้งสองที่ดื้อเหมือนลา จึงทำได้เพียงส่งลูกทั้งสองออกไป ให้พวกเขาไปออดอ้อนแสร้งทำเป็นน่าสงสาร ถึงได้เกลี้ยกล่อมให้พวกเขาไปดูบ้านได้

วันที่ห้าต้นเดือนสิบสอง เฉียวเยี่ยนพาพี่ชายกับมารดาไปจวนคหบดีอู๋ที่กลางเมือง ตอนที่ไปถึง คหบดีอู๋ก็มารออยู่ที่หน้าประตูจวนแล้ว

คหบดีอู๋เป็นชายวัยกลางคนในวัยสี่สิบกว่าปี แต่มีใบหน้าซีดเซียว จอนผมมีหงอกสีขาวขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเห็นได้ว่าช่วงนี้เขากำลังเดือดเนื้อร้อนใจยิ่ง

เมื่อเขาเห็นเฉียวเยี่ยน เขาก็คำนับด้วยความเคารพ และไม่ได้แสดงความดูถูกใดๆ ต่อเฉียวจิ่นกับซูเนี่ยนหว่าน เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เป็นความประทับใจแรกที่ถือว่าไม่เลวเลย

เมื่อเข้าไปในจวน คหบดีอู๋ก็พาพวกเขาเดินดูรอบๆ และแนะนำสถานการณ์ในจวนให้พวกเขาฟัง ครั้นเฉียวเยี่ยนเห็นสวนดอกไม้ในจวนเขาเป็นที่ดินว่างเปล่าไม่มีอะไรก็อดสงสัยขึ้นมาไม่ได้

คหบดีอู๋เห็นเช่นนี้ก็รีบอธิบาย เขาได้ยินมาว่าท่านอ๋อง พวกตระกูลสูงศักดิ์ และเหล่าขุนนางต่างไถที่ในจวนตัวเองเพื่อปลูกผักแล้วก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจ จึงไถที่ในจวนตัวเองเพื่อปลูกผัก ตอนนี้เข้าสู่ฤดูหนาวและมีหิมะตก แปลงผักย่อมว่างเปล่าเป็นผืนกว้าง

เฉียวเยี่ยนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกขบขันอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าคหบดีอู๋ผู้นี้จะไม่ใช่คนหัวโบราณคร่ำครึ

บางทีอาจเป็นเพราะทั้งคู่ทำกิจการเหมือนกัน จึงมีหัวข้อสนทนากันมากมาย หลังจากพูดคุยกันมาสักพัก หัวข้อสนทนาก็มาถึงวิกฤตกิจการของเขา

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

วางระบบโรงงานไว้ดีมากเลย มีทั้งบ่อบำบัดน้ำเสีย มีทั้งการนำน้ำกลับมาใช้ไม่ให้เสียเปล่า

แม่กับพี่ชายจะได้มีบ้านอยู่แล้ว

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *